ชูจงเทียนโทรศัพท์อีกรอบ ถามพวกมาเฟียเจ้าถิ่นแต่ละพื้นที่ของกรุงโซล ในที่สุดก็ได้ข่าวมาเล็กน้อยแล้ว“พวกโจรจากต่างถิ่นที่ขับรถดัมพ์ฆ่าคนโดยเฉพาะเหรอ? รถดัมพ์? ไม่ดีแล้ว!”ชูจงเทียนกังวลใจ ถ้าเป็นพวกโจรอย่างที่ได้ข่าวมาจริง ๆ เกรงว่าหลังจากที่พวกมันรู้ว่าหลี่โม่จอดรถอยู่ข้างทางแล้วจะลงมือขับไปชนทันทีนั่นมันรถดัมพ์นะ! รถเก๋งถูกรถดัมพ์ชน ย่อมจะไม่รอดอยู่แล้วนึกถึงถ้าหากหลี่โม่ถูกรถชนตายในถิ่นของตัวเอง แค่คิดเหงื่อเย็น ๆ ที่หลังของชูจงเทียนก็ซึมออกมาแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้น เกรงว่าตนเองก็คงได้ตามไปกับหลี่โม่ด้วยแน่“ทุกคนรีบไปให้เร็ว! เร่งความเร็วให้เร็วที่สุดเลย เจอไฟแดงก็ฝ่าไป ถ้ามีรถขวางทางก็ชนมันให้กระเด็น!”ชูจงเทียนตัดสินใจแล้วว่าต่อให้จะเจออุปสรรคใหญ่แค่ไหน วันนี้ก็ต้องมีชีวิตรอดไปปกป้องหลี่โม่ให้ได้“ครับ ท่านเทียนอย่าได้กังวล พวกเราอยู่ใกล้ถนนปินเจียงมาก ไม่ต้องเป็นห่วงครับ”ลูกน้องเห็นชูจงเทียนกังวลมาก จึงอดปลอบใจไว้ได้ชูจงเทียนไม่สนใจลูกน้อง เขาเหลือบมองรถรอบ ๆ คิดครู่หนึ่งแล้วพูด “บอกให้ทุกคนระวังรถดัมพ์ ขอแค่เห็นรถดัมพ์อยู่บนถนนก็ให้ทุกคนขวางมันให้หยุดไว้ให้ได้”“ท่านเท
“ครับ”ลูกน้องดำเนินการตามนั้น ส่งเลขทะเบียนของรถดัมพ์ทั้งสามคันไปในกลุ่ม แล้วให้ทุกคนคอยจับตาดูให้ดี......กู้หยุนหลานเห็นหลี่โม่ที่เบาะหลังดูไม่ดีมาก ๆ เธอลงจากรถแล้วไปเปิดประตูข้างหลัง เข้าไปนั่งในรถประคองหัวของหลี่โม่ไว้ให้หลี่โม่มาหนุนตักตัวเองค่อย ๆ เช็ดเหงื่อบนหน้าของหลี่โม่ มองสีหน้าที่ซีดเผือดนั้นแล้วกู้หยุนหลานก็รู้สึกปวดใจมาก“หลี่โม่ คุณเป็นยังไงบ้าง คุณอย่าเป็นอะไรไปเด็ดขาดเลยนะ ฉันกับซีซีขาดคุณไปไม่ได้”หลี่โม่ยื่นมือออกมา กู้หยุนหลานจึงรีบยื่นมือที่ขาวราวกับหยกของเธอออกไปจับมือหลี่โม่เอาไว้“อย่าขยับมาก คุณเป็นแบบนี้ก็นอนพักดี ๆ เถอะ ไม่งั้นให้ฉันโทรเรียกกู้ภัยดีกว่า ให้เขาเอารถพยาบาลมาที่นี่ บนรถมีแพทย์ฉุกเฉินอยู่”“ไม่ต้อง ฉันนอนแบบนี้อีกสักพักก็ดีขึ้นแล้ว”หลี่โม่หลับตา หัวที่อยู่บนตักของกู้หยุนหลานขยับเล็กน้อยตอนนี้สภาพร่างกายของหลี่โม่จะว่าเป็นเบาก็ไม่เบา จะว่าเป็นหนักก็ไม่หนัก เพียงแค่เพราะดื่มเหล้ามากเกินไปเท่านั้นหลี่โม่พยายามให้ทำให้ร่างกายสร่างเมา เรื่องนี้ต้องการเวลาสักหน่อยแต่ทว่าตอนนี้กลับเป็นเวลาให้ศัตรูตัวฉกาจของหลี่โม่กู้หยุนหลานเม้มปาก
ชูจงเทียนจ้องรถดัมพ์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างละเอียด จากนั้นก็พูดเสียงเย็นชา “สั่งการไป บอกให้รถข้างหลังเร่งความเร็วไปขวางไว้ ถ้าขวางไม่ได้ก็ให้ชนไปเลย! ถ้าชนคันเดียวไม่จอดก็ชนสองคัน!”“ครับ”ลูกน้องประกาศออกไปทันทีชูจงเทียนมองไปข้างหน้า เห็นรถของกู้หยุนหลานจอดอยู่ข้างทาง ส่วนรถดัมพ์ที่ขับอยู่ข้างหน้าสุดได้หักทิศทางแล้ว เพื่อจะชนกับรถของกู้หยุนหลานที่อยู่เลนตรงข้ามชูจงเทียนสบถคำหยาบ จากนั้นก็ตะโกนอย่างโกรธ ๆ “เร่งความเร็วเข้าไป! ขวางรถดัมพ์คันนั้นให้ได้!”“ฮะ?”คนขับรถอึ้ง ไม่เข้าใจว่าชูจงเทียนจะให้ตัวเองเข้าไปชน หรือว่าให้รถคันข้างหลังเข้าไปชน“ฮะบ้าอะไร! รีบเร่งความเร็ว เหยียบคันเร่งให้มิด!”ลูกตาของชูจงเทียนเป็นสีแดง ตะโกนกับคนขับอย่างบ้าคลั่ง“ท่านเทียนใจเย็นนะครับ ร่างกายของคุณเป็นเงินเป็นทอง จะมาทำเรื่องเสี่ยงอันตรายแบบนี้ได้ยังไงกัน ให้รถคันข้างหลังเข้าไปขวางเถอะครับ”ลูกน้องพูดเตือนด้วยใบหน้าขมขื่น ถ้าชนรถดัมพ์ขึ้นมาจริง ๆ ด้านที่เขานั่งอยู่จะเป็นทิศทางที่ได้รับแรงกระแทกจากการชนรุนแรงที่สุด“ใจเย็นบ้าอะไร! ร่างกายฉันเป็นเงินเป็นทอง! แต่ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับคุณหลี่ อย่าว่า
หลี่โม่ยื่นมือไปเปิดประตูรถ ออกแรงผลักกู้หยุนหลานออกไปข้างนอกอันตรายมาถึงตัวขนาดนี้แล้ว หลี่โม่จึงตั้งสติได้มาก แม้ว่าจะยังดูอ่อนแรงอยู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีที่ดูเจ็บป่วยแล้วกู้หยุนหลานรีบลงจากรถ หันกลับไปพยุงหลี่โม่ ช่วยหลี่โม่ลงจากรถภายในรถเบนซ์ คนขับกับลูกน้องมีเลือดออกที่หัวสลบไปแล้ว ชูจงเทียนรู้สึกว่าในหัวของเขามีเสียงวิ๊ง ๆ อยู่ รู้สึกว่าวิญญาณจะออกจากร่างไปแล้วเขาพยายามอดกลั้นความรู้สึกมึนหัวนี้ ชูจงเทียนหยิบมือถือที่ลูกน้องถือไว้แน่นออกมา เปิดการโทรด้วยเสียงแล้วตะโกน “ขวางรถดัมพ์ไว้ ต่อให้ตายก็ขวางเอาไว้!”“รับทราบครับท่านเทียน พวกเราจะขวางไว้ด้วยชีวิต”เห็นชูจงเทียนสู้ถึงขนาดนี้แล้วเหล่าลูกน้องก็ตาแดง แม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมชูจงเทียนจะต้องเสียสละชีวิตขนาดนี้ แต่ในเมื่อเจ้านายทำตัวอย่างไว้แบบนั้น พวกลูกน้องก็ไม่มีอะไรต้องถาม แค่ทำตามเจ้านายไปเท่านั้นพวกลูกน้องที่เดิมทีสงสัยก็ไม่สงสัยแล้ว แต่ละคันต่างเหยียบคันเร่งพุ่งเข้าไปชนกับรถดัมพ์ภายในรถดัมพ์หลังจากถูกชน ความเจ็บปวดทำให้โจรหน้านิ่วคิ้วขมวด โจรที่มึนงงอยู่พยายามจะขยับเท้า อยากจะเหยียบคันเร่งต่อ แต่ความเจ็บป
ปัง ปัง ปังเสียงปืนดังขึ้นรัว ๆ ลูกน้องของชูจงเทียนต่างร้องอย่างน่าสงสารแล้วล้มลงพื้นติด ๆ กัน หลี่โม่ดึงกู้หยุนหลานไปหลบหลังประตูรถเบนซ์ แล้วดึงประตูให้คุ้มกันกู้หยุนหลานมากที่สุดหลังจากพวกลูกน้องของชูจงเทียนทยอยหลบไปที่รถแล้ว ก็มองไปรอบ ๆ อย่างตกใจพวกลูกน้องเอามาแค่กระบองเท่านั้น ไม่มีทางสู้กับปืนได้เลย ตอนนี้ได้ยินเสียงปืนก็ต่างมึนงงกัน ไม่รู้เลยว่าควรจะทำอย่างไร“มีปืนได้ยังไงกัน นี่มันกล้าเกินไปแล้ว กลางวันแสก ๆ แบบนี้ ไม่สนใจกฎของราชาเลยหรือไง? พวกเราเป็นแก๊งกันอยู่ที่นี่ก็ใช้แค่กระบอกเท่านั้นเอง”“ล้มไปแล้วหกคน ทางนั้นก็ยิงไปแค่หกนัด ไอ้นี่มันนักแม่นปืนนี่ ต้าเหยี่ยนแกอย่าโผล่หัวออกไปเชียวนะ! ระวังจะถูกปืน…”ปัง!คนที่ชื่อต้าเหยี่ยนโผล่หัวออกไปมองข้างนอกแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นก็ถูกปืนยิงเข้าที่หัวระเบิดแล้วเห็นหัวของต้าเหยี่ยนกระจุยแบบนั้น คนอื่น ๆ ก็ตกใจจนตัวสั่น ชั่วพริบตาก็รู้สึกว่าชีวิตไม่มีหวังเสียแล้ว“หลบกันให้ดีนะ! อย่าได้โผล่หัวออกมา ทางนั้นมันต้องเป็นนักแม่นปืนแน่ ๆ ไม่ใช่คนที่พวกเราจะจัดการได้!”“รีบโทรแจ้งตำรวจเร็ว มีเรื่องอะไรให้โทรแจ้งตำรวจ!”พวกลูกน้อ
อารมณ์ของจางเต๋ออู่บ้าคลั่งราวกับคนป่วยจิตผู้คุ้มกันเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่แน่ใจเท่าไหร่ รู้สึกเหมือนว่าหน่วยลับเองก็จะมีปัญหาเข้าแล้ว“ผมจะไปสั่งการที่เกิดเหตุเอง” ผู้คุ้มกันก้มหน้าพูด“แก? พวกแกไปแล้วใครจะคุ้มกันฉัน!” จางเต๋ออู่ตะโกนอย่างโมโห“ผมคนเดียวครับ พวกเขาอีกสามคนยังอยู่”จางเต๋ออู่เงียบไปครู่หนึ่ง รู้สึกว่าข้อเสนอของผู้คุ้มกันก็ไม่เลว ถ้าหน่วยลับมีปัญหาก็ยังมีผู้คุ้มกันที่คอยดูอยู่“ดี งั้นแกไป ทำอะไรให้มันเรียบร้อยนะ ถ้ายังติด ๆ ขัด ๆ แบบนี้ แกก็ไปสู้กับไอ้พวกบ้าที่ยุโรปเลย”ผู้คุ้มกันยิ้มขมขื่นและพูดอย่างจริงจัง “ผมจะพยายามเต็มที่ครับ”จางเต๋ออู่โบกมือ ผู้คุ้นกันจึงหันหลังออกจากห้องทำงานไป“หน่วยลับ กุ่ยอีครับผม”ผู้คุ้มกันออกจากห้องทำงานแล้วหยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาติดต่อหน่วยลับ“ผมคือหน่วยลับ เชิญกุ่ยอีเข้ามา”“ผมมารับช่วงต่ออำนาจสั่งการของพวกคุณ ตอนนี้เชื่อมต่อโดรนให้พวกคุณเรียบร้อย เป้าหมายอยู่ตรงรถเบนซ์ที่อยู่จุดกึ่งกลาง รอบนอกยังมีอันธพาลเจ้าถิ่นของกรุงโซลอีกเกือบร้อย ตอนนี้เจาะยางรถในที่เกิดเหตุได้เลย ป้องกันไม่ให้พวกมันขับรถฝ่าทะลุวงออกมา“รับทราบ”หล
หัวหน้าหน่วยลับมองลูกทีมที่อยู่ไม่ไกลล้มลงไปสองคนก็ประหลาดใจเล็กน้อย“หลบให้ดี อีกฝ่ายมีนักแม่นปืน ทีมหนึ่ง ทีมสองเตรียมโจมตี!”“ทีมหนึ่งเตรียมพร้อม”“ทีมสองเตรียมพร้อม”ในหนึ่งหน่วยลับมีสิบสองคน ในนั้นจะแบ่งออกเป็นสี่ทีมต่อสู้เล็กทีมละสามคนทีมหนึ่งกับทีมสองกำลังเผชิญหน้าอยู่ตรงตำแหน่งของหลี่โม่ อีกทั้งสองทีมเล็กทำมุมเก้าสิบองศาด้วย ซึ่งเป็นมุมปิดล้อมที่ดีที่สุดพอดี“ไป!”ตึง ตึง ตึงเสียงฝีเท้ารัว ๆ ดังขึ้น ทั้งสองทีมพุ่งตรงไปยังทางที่หลี่โม่เพิ่งยิงไปเมื่อกี้หลี่โม่หลับตาเงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้า มือขวายกขึ้นอีกครั้งแล้วยิงไปในทิศทางนั้นทันทีปัง ปัง ปัง!“โอ๊ย!”เสียงร้องน่าสงสารดังขึ้นทีมเล็กทีมแรกมีสามคน มีสองคนถูกหลี่โม่ยิงหัวโดยไม่ได้มองตอนยิง ส่วนอีกคนหลบได้ กระสุนเฉียดไปทางใบหู โดนหูไปครึ่งหนึ่งคนที่กลายเป็นมีใบหูครึ่งหนึ่งนั้น ยกปืนขึ้นมากราดยิงไปที่ตำแหน่งของหลี่โม่ กระสุนพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วทำลายกระจกรถตู้ทั้งหมดไปหัวหน้าทีมเล็กทีมที่สองทำสัญญาณมือให้รีบไปข้างหน้า เตรียมตัวจะพุ่งเข้าไปต่อสู้กับหลี่โม่ในระยะประชิดพวกอันธพาลตกใจเสียงปืนจนกุมหัวหมอบลงไปหลังร
ผู้คุ้มกันที่กำลังรีบขับรถมา ได้ยินรายงานของหัวหน้าหน่วยลับแล้วก็เริ่มมีจิตสังหารเกิดขึ้นแล้ว“พวกคุณจะอยู่ให้มันเป็นขยะไปเฉย ๆ หรือไง!”“พวกเราพยายามเต็มที่แล้ว แต่อีกฝ่ายเก่งเกินไป”“กราดยิงไปซะ ใช้อาวุธหนักแล้วฆ่ามันไปเลย!”ผู้คุ้มกันพูดอย่างโกรธแค้นหัวหน้าหน่วยลับอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กัดฟันพูด “ครับ!” “เตรียมระเบิดให้พร้อม แล้วโจมตีเข้าไป”หัวหน้าหน่วยลับรับคำสั่งอย่างเย็นชาหน่วยลับเอาปืนยิงระเบิดออกจากระเป๋าอาวุธแล้วเอามาติดตั้งที่ปืน เตรียมพร้อมที่จะยิงระเบิดโจมตีหลี่โม่พุ่งตัวออกมาอย่างเร็วราวกับวิญญาณ ในตอนที่หน่อวยลับออกมาจากที่ซ่อน เตรียมจะยิงระเบิดโจมตี ปากกระบอกปืนของหลี่โม่ก็เล็งไปที่พวกเขาแล้ว“ศัตรูโจมตี! ยิงสิ รีบยิงเร็วเข้า! ”หางตาของหน่วยลับกระตุก ตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งนิ้วของหน่วยลับหลบออกมาจากปืนยิงระเบิดแล้ว แต่ตอนที่กำลังจะกลับไปลั่นไกปืนนั้น หลี่โม่ก็ลั่นไกปืนมารัว ๆ แล้วปัง ปัง ปังเสียงปืนดังรัว จากนั้นสมาชิกหน่วยลับที่เหลืออยู่สี่คนก็ค่อย ๆ ล้มลงหลี่โม่ไม่ได้ไปดูร่างของหน่วยลับที่ตาย กลับหันไปมองท้องฟ้าโดรนลำหนึ่งบินอยู่กลางอากาศ