แชร์

บทที่ 691

ผู้เขียน: นายกัวผู้เล่าเรื่อง
“ฉันมองเห็นยมโลกแล้ว ฉันไม่อยากตาย ฉันผิดไปแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่ไหวแล้ว”

เสี่ยวหวู่พูดด้วยเสียงแหบพร่า รู้สึกตึงเครียดถึงขีดสุด

“รู้สึกถึงลมหายใจแห่งความตายแล้วงั้นเหรอ?”

หลี่โม่ถามด้วยรอยยิ้มบาง

เสี่ยวหวู่มองรอยยิ้มของหลี่โม่ด้วยความงุนงง รู้สึกว่าหลี่โม่น่าพรั่นพรึงราวกับราชาปีศาจแห่งขุมนรก

เสี่ยวหวู่สั่นงกไปทั้งร่างด้วยความตึงเครียด กล้ามเนื้อหูรูดไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป ปัสสาวะไหลลงมาอาบขาทั้งสองข้างของเสี่ยวหวู่เป็นสาย

“ระ-รู้สึกแล้ว ฉันรู้สึกถึงลมหายใจแห่งความตายแล้ว”

เสี่ยวหวู่พูดด้วยเสียงสะอื้นไห้ ในใจของเขาเต็มไปด้วยความสำนึกเสียใจ

หลี่โม่เหวี่ยงเสี่ยวหวู่ไปข้างรถ แล้วเอ่ยอย่างดูแคลน "เห็นสภาพนายแบบนี้แล้ว ถ้าไม่มีปัญญาก็อย่ามาทำจองหอง”

“ฉันผิดไปแล้ว ไม่กล้าแล้ว ต่อไปฉันไม่กล้าอวดดีอีกแล้ว”

เสี่ยวหวู่ยกมือซ้ายกุมลำคอ นอนขดตัวอยู่กับพื้นแล้วพูดออกมา

เหล่าฮู๋ยิ้มอย่างเงียบ ๆ แม้ว่าเขาจะไม่เห็นสภาพของเสี่ยวหวู่ที่นอนอยู่ข้างรถ แต่เหล่าฮู๋ก็จินตนาการออก

หลี่โม่เตะเสี่ยวหวู่ “อย่ามัวเสียเวลา รีบไปขับรถสิ”

“มือของฉัน มือขวาของฉันหักไปแล้ว ฉันขับรถไม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 692

    รอแล้วรอเล่า ฉินจี้เย่รอจนรู้สึกกระวนกระวาย แต่เขาก็ยังแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง ในสถานการณ์แบบนี้จะร้อนรนไม่ได้ เขาต้องวางท่าทางให้สุขุมเข้าไว้ ฉินจี้เย่นึกถึงความสงบนิ่งในสมรภูมิแห่งแม่น้ำเฝยของเซี่ยจิ้นและพยายามสงบความกระวนกระวายภายในใจ ในที่สุดก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น หลี่โม่หิ้วเหล่าฮู๋เดินตามเสี่ยวหวู่เข้ามาในโรงงานร้าง เสี่ยวหวู่ก้มหน้าลง มือซ้ายกุมข้อมือขวาเอาไว้ และเดินไปยังเบื้องหน้าฉินจี้เย่ด้วยสีหน้าหม่นหมอง “ทำไมแกถึงไม่รับโทรศัพท์วะ” บอดี้การ์ดตะโกนใส่เสี่ยวหวู่ “ผม ผมไปล่วงเกินคุณหลี่ ก็เลยถูกคุณหลี่สั่งสอนเล็กน้อย มือขวาของผมหัก ผมขับรถด้วยมือซ้ายมา ผมขับช้ามาก แล้วก็รับโทรศัพท์ไม่ได้ด้วยครับ” เมื่อเสี่ยวหวู่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ด้วยใบหน้าเศร้าหมอง ฉินจี้เย่และบอดี้การ์ดที่ได้ฟังต่างก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นมาในใจ ไอ้หมอนี่มันยังเป็นคนอยู่รึเปล่า? ให้คนที่มือขวาหักขับรถเนี่ยนะ ช่างกล้าหาญอะไรขนาดนั้น! หลี่โม่โยนเหล่าฮู๋ไปแทบเท้าฉินจี้เย่ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มบาง “ลูกน้องของคุณไม่รู้จักธรรมเนียมเอาซะเลย ผมเลยช่วยอบรมสั่งสอนพวกเขาให้น่ะ” “แกเป็นใครไม่ทราบ ค

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 693

    การรักษาความลับไม่ใช่ปัญหาสำหรับหลี่โม่เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าฉินจี้เย่ทำเหมือนลึกลับเสียขนาดนั้น ยิ่งทำให้หลี่โม่อยากรู้ว่าธุรกิจใหญ่ที่ว่านั่นคืออะไร “จะดีที่สุดถ้าคุณเก็บเป็นความลับได้ แต่ถึงคุณจะเก็บเป็นความลับไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะคงจะไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่คุณพูดหรอก” ฉินจี้เย่นั่งตัวตรง สีหน้าดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย “คุณรู้จักแดนมังกรไหม?” หลี่โม่อึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย “ผมเคยได้ยินตำนานมาบ้าง เหมือนว่าประตูมังกรจะมีพลังอำนาจยิ่งใหญ่อย่างไม่มีใครเทียมเลยทีเดียว” “มันเป็นพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่มากจริง ๆ แต่ก็เป็นเพียงหนึ่งในพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่มากเท่านั้น เบื้องหลังตระกูลฉินของเราก็พึ่งพิงพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่มากอยู่เช่นกัน แต่ผมจะไม่พูดถึงเรื่องพวกนี้กับคุณมากนัก” ฉินจี้เย่ไม่ได้อธิบายถึงอำนาจที่อยู่เบื้องหลังตระกูลของตน แต่เว้นให้หลี่โม่จินตนาการเอาเอง นี่เป็นทักษะการพูดที่ฉินจี้เย่มักจะใช้บ่อย ๆ เหลือพื้นที่ให้จินตนาการถึง ปล่อยให้คนอื่นคิดตามคำพูดกันไปเอง และผลสุดท้ายที่ได้นั้นมักจะดีกว่าการบอกอีกฝ่ายไปตรง ๆ เสียอีก มุมปากของหลี่โม่หยักยิ้มเล็

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 694

    หลี่โม่เอ่ยอย่างเรียบเฉย “เรื่องนั้นคงจะไม่ได้ ผมเองก็ยังไม่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับท่านปามาเหมือนกัน ในการวางแผนพรุ่งนี้ถึงจะได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องมา” ฉินจี้เย่กังวลว่าหลี่โม่จะกลับคำจึงอธิบายขึ้นมาอีกว่า “ผมแค่รับผิดชอบในการติดต่อกำลังคนเท่านั้น ไม่ได้รับหน้าที่เรื่องการสั่งการเคลื่อนไหว แต่มีบุคคลลึกลับคนหนึ่งมาเป็นคนสั่งการ ว่ากันว่าเขาเคยเป็นราชาทหาร หลังจากเกษียณเขาก็ได้ตั้งทีมทหารรับจ้างขึ้นมา ในวันพรุ่งนี้ทีมทหารรับจ้างจะเป็นคนจัดการเรื่องการโจมตีหลัก คุณกับพวกนักฆ่าเหล่านั้นแค่รับหน้าที่คอยสนับสนุนเท่านั้น” “ราชาทหารงั้นเหรอ? สมัยนี้มีราชาทหารไม่น้อยเลย แทบจะเป็นคำขนานนามที่มาตรฐานต่ำไปแล้ว” หลี่โม่ส่ายหัวพลางเอ่ยขึ้น ราชาทหาร จอมทัพอะไรพวกนั้น ตำนวนเล่าขานต่าง ๆ นานาเต็มไปหมด ตอนนี้ไม่ว่าในกองทัพไหน ถ้าไม่มีคนที่ได้ฉายาว่าราชาทหารสักคนสองคนก็คงจะอายจนไม่กล้าออกมาทักทายใครแล้ว ในมุมมองของหลี่โม่ ราชาทหารในปัจจุบันนี้ก็เป็นเพียงผู้ที่แข็งแกร่งในกองทัพเท่านั้น ความจริงจะเก่งกาจเพียงใดก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ “ว่ากันว่าคนผู้นี้ฝีมือไม่ได้ต่ำชั้นเลย เขาเคยผ่านสนามรบมาจริง ๆ ต่อ

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 695

    หลี่โม่กลับมาถึงบ้าน กู้เจี้ยนหมินกับหวังฟางตื่นขึ้นมาจากการหมดสติแล้ว กู้หยุนหลานได้ทำอาหารเย็นเอาไว้และทั้งสามคนก็กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร สีหน้าของกู้เจี้ยนหมินกับหวังฟางยังนับว่าปกติดี หลี่โม่เหลือบมองเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกวางใจได้อย่างสมบูรณ์ หวังฟางมองหลี่โม่อย่างไม่ค่อยพอใจ “แกไปไหนมาอีกแล้ว? แกบอกว่าตัวเองเป็นกุ๊ยไม่มีงานทำไม่ใช่หรือไง แล้วแกไปทำอะไรอยู่ได้ทั้งวัน” “มีธุระต้องออกไปทำนิดหน่อยน่ะครับ” หลี่โม่อธิบายอย่างสบาย ๆ สายตาของเขามองไปทางกู้หยุนหลาน กู้หยุนหลานพยักหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณบอกหลี่โม่ว่าไม่เป็นอะไรแล้ว “แกจะไปมีธุรงธุระอะไรได้ กลัวจะออกไปเที่ยวเล่นไปวัน ๆ สิไม่ว่า วัน ๆ หยุนหลานยุ่งแค่ไหนรู้บ้างไหม ไม่รู้จักแบ่งเบาให้หยุนหลานเสียบ้างเลย” “แม่คะ อย่าว่าหลี่โม่เลย หลี่โม่เขาออกไปช่วยทำธุระให้หนูน่ะค่ะ อย่าไปดุเขาเลย” หวังฟางค้อนมองกู้หยุนหลานเล็กน้อยและไม่ได้พูดอะไรต่อไปอีก กู้หยุนหลานทานกับข้าวสองอย่างด้วยความเร่งรีบสองสามคำ แล้วตามหลี่โม่กลับไปที่ห้อง “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม วันนี้ฉันเป็นห่วงแทบตายอยู่แล้ว” กู้หยุนหลานกอดหลี่โม่และซบหน้าผากล

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 696

    “ได้เข็มขัดทองด้วยจริง ๆ เหรอ?” “จริงแน่นอนอยู่แล้วสิครับ ผมมีรูปอยู่นะ แล้วก็มีวิดีโอของเขาตอนไปแข่งที่ต่างประเทศด้วย ลองดูสิครับ” กู้ซิ่งเหว่ยเปิดภาพให้กู้เจี้ยนกั๋วดู จากนั้นก็เปิดเล่นวิดีโอให้ดูอีกที เมื่อเห็นฉากต่อสู้อันดุเดือดรวมทั้งฉากน็อกเอาท์คู่ต่อสู้ในตอนสุดท้าย เลือดของกู้เจี้ยนกั๋วก็เดือดพล่านไปทั่วร่างกาย “ดูไม่เลวเลยจริง ๆ งั้นก็ลองจ้างมาดู คืนนี้กู้หยุนหลานทำงานล่วงเวลาอยู่ที่บริษัท ส่วนไอ้หลี่โม่เองก็คงจะอยู่เป็นเพื่อนด้วย เป็นโอกาสที่ดีเลย” “จ้างมาน่ะก็ได้อยู่หรอก แต่เงินที่ต้องใช้มันเยอะไปหน่อย หนึ่งล้านเลยนะครับ” กู้เจี้ยนกั๋วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตบโต๊ะและพูดว่า “เอาสิ ขอแค่สามารถสั่งสอนไอ้ขยะหลี่โม่นั่นได้ หนึ่งล้านก็หนึ่งล้าน" กู้ซิ่งเหว่ยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างตื่นเต้นและเริ่มทำการติดต่อไปทันที หลังจากนั้นไม่นานกู้ซิ่งเหว่ยก็วางโทรศัพท์ลงและพูดว่า “พ่อ ผมจะไปเจอกับเขานะ อธิบายสถานการณ์สักหน่อย คืนนี้รอดูการแสดงสนุก ๆ ได้เลย” “รีบไปสิ ฉันจะรอข่าวดี” กู้ซิ่งเหว่ยรีบออกไปอย่างกระตือรือร้นแล้วขับรถไปที่ค่ายมวยที่อยู่ไม่ไกล เมื่อเข้ามาในค่ายม

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 697

    กู้ซิ่งเหว่ยเดินเข้าไปในอาคารบริษัทพร้อมกับพี่ซานและนักมวยลูกน้องของเขาอย่างว่องไว “พี่ชาน เดี๋ยวจบงานแล้วผมเลี้ยงมื้อดึกเอง พวกเรามาสนุกไปกับซีฟู้ดบาร์บีคิวกันเถอะ" กู้ซิ่งเหว่ยกล่าวอย่างตื่นเต้น ตราบใดที่สามารถจัดการหลี่โม่และบดขยี้ไอ้ไร้ประโยชน์นั่นลงกับพื้นได้ ก็ย่อมคุ้มค่าที่จะดื่มฉลองกันทั้งคืน เพื่อปลดปล่อยความอัดอั้นตันใจในช่วงนี้ออกมาให้เต็มที่ หลังจากถูกบีบให้พ่ายแพ้อยู่ในกำมือของหลี่โม่มาหลายต่อหลายครั้ง ก็ทำให้กู้ซิ่งเหว่ยรู้สึกอัดอั้นตันใจอย่างมาก จนแม้ในฝันก็ยังฝันว่าได้เหยียบหลี่โม่ไว้ใต้เท้า “ได้เลย นายสบายใจได้ ฉันจะอัดมันจนลุกขึ้นมาไม่ได้อีกแน่นอน ฉันจะทำให้มันเดินไม่ได้อีก ได้แต่นอนอยู่บนเตียงเหมือนซากหมาตายไปเลย” พี่ซานเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามต่อหลี่โม่ คิดว่าอย่างมากที่สุดก็คงเป็นแค่ไอ้กุ๊ยที่พอจะต่อสู้ได้ และอย่างดีที่สุดก็เป็นคนที่เคยฝึกวิชามาท่าดีทีเหลวเท่านั้น กู้ซิ่งเหว่ยพาพี่ซานและพรรคพวกมาถึงประตูห้องทำงานของกู้หยุนหลาน แล้วเอ่ยเสียงเบา “พี่ซาน ที่นี่แหละครับ ผมไม่ขอออกหน้า ขอรออยู่ข้าง ๆ ก่อนนะครับ” หลังจากพูดจบกู้ซิ่งเหว่ยก็แอบอยู่ที่ห

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 698

    “อ๊าก!” นักมวยร้องโหยหวนอย่างน่าสังเวช ถูกต่อยจนล้มหงายหลังลงไปกับพื้น เมื่อเห็นสภาพอันน่าเวทนาของนักมวยที่ล้มลงไปแล้ว คนที่เหลือก็ใจสั่นสะท้าน รู้ว่าคราวนี้คงเจอตอเข้าอย่างจัง จะประมาทไม่ได้เด็ดขาด “เจ้าหมอนี่ลงมือโหดเหี้ยมมาก ทุกคนระวังตัวด้วย” นักมวยคนหนึ่งตะโกนขึ้น ฝีเท้าของเขาเริ่มถอยร่นไปข้างหลัง มือทั้งสองข้างตั้งท่าป้องกันไว้ข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ข้าง ๆ นั้นมีนักมวยอารมณ์ร้อนคนหนึ่ง หลังจากส่งเสียงตะโกนแล้วจึงพุ่งเข้าหาหลี่โม่จากนั้นหมุนตัวตวัดเท้าถีบไปที่ลำคอของหลี่โม่ ด้วยความเร็วสูงและพละกำลังมหาศาล ลูกเตะนี้จึงทำให้เกิดเสียงระเบิดราวกับหวดแส้ขึ้นในอากาศ เปรี้ยง! หลี่โม่ยกมือขวาขึ้นสกัดลูกเตะทะยานมา จากนั้นจึงพลิกฝ่ามือเป็นอุ้งมือและจับน่องที่นักมวยเตะมาเอาไว้แน่น นักมวยพลันตกใจ เขาพยายามดึงขากลับอย่างสุดแรง ทว่ามันก็สายเกินไปเสียแล้ว หลี่โม่ออกแรงที่ข้อมือ จับน่องของนักมวยและเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศราวกับไม้สวิงแล้วเหวี่ยงร่างของนักมวยคนนั้นใส่นักมวยคนอื่น ๆ นักมวยที่เหลือเห็นดังนั้นก็ต่างขวัญหนีดีฝ่อและเปลี่ยนมุมมองของพวกเขาที่มีต่อหลี่โม่ไปโดยสิ้นเชิง

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 699

    กู้ซิ่งเหว่ยที่อยู่ในห้องทำงานข้าง ๆ ได้ยินเสียงข้างนอกฟังดูผิดปกติจึงแอบโผล่หัวออกไปดู เห็นกลุ่มนักมวยยืนอย่างกระอักกระอ่วนอยู่หน้าประตูห้องทำงานของกู้หยุนหลานก็พลันตกอยู่ในความงงงัน นักมวยอาชีพพวกนี้เองก็ไม่ได้เรื่องเหมือนกันเหรอ? แต่ละคนแพ้ให้กับหลี่โม่เสียแล้วเหรอ? ยังดีที่พี่ซานไม่ได้ออกมาด้วย บางทีพี่ซานอาจจะสามารถจัดการเจ้าหลี่โม่ได้ก็ได้ เขาเป็นถึงยอดฝีมือที่จ้างมาเป็นล้านเชียวนะ หวังว่าจะใช้การได้บ้างแหละ กู้ซิ่งเหว่ยกำลังภาวนาอยู่ในใจ เมื่อเขาได้ยินเสียงคำรามของพี่ซาน เขาก็อยากจะเข้าไปดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดความอยากรู้อยากเห็นก็มีมากกว่า กู้ซิ่งเหว่ยแอบย่องออกจากห้องทำงาน เขายืนอยู่ข้างหลังนักมวยร่างกำยำแล้วยื่นหัวมองเข้าไปในห้องทำงานของกู้หยุนหลาน พี่ซานชกหมัดซ้ายไปที่แก้มของหลี่โม่ หลี่โม่เบี่ยงตัวหลบไปด้านข้าง กู้ซิ่งเหว่ยกำมือทั้งสองข้างแน่น ในใจอดรู้สึกเสียดายแทนพี่ซานไม่ได้ ถ้าหมัดเมื่อครู่ต่อยโดนหลี่โม่ น่ากลัวว่าสมองสุนัขของหลี่โม่คงถูกซัดกระเด็นออกมาแน่ แต่การโจมตีต่อเนื่องอย่างรวดเร็วของพี่ซานสร้างความมั่นใจให้กู้ซ

บทล่าสุด

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 945

    คังหย่งอันกดหมายเลขของคังหย่งเฉียน แล้วพูดเสียงเข้ม "หย่งเฉียน ฉันได้ยินมาว่า แกกับเหวินซินมีปัญหากันเรื่องวิลล่าบนยอดเขาเหรอ?" “พี่ใหญ่ มีปัญหากันน่ะสิ ศิษย์พี่เกิ่งยังถูกทำร้ายจนเข่าหักแล้ว! ศิษย์พี่เกิ่งติดต่อกับอาจารย์โอวหยางไปแล้ว เรื่องนี้อภัยให้ไม่ได้แน่นอน!” คังหย่งเฉียนโกรธแค้นคังเหวินซิน ถ้าไม่ใช่เพราะคังเหวินซินพาหลี่โม่ไปที่นั่น เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น แต่ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คังหย่งเฉียนเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทำได้เพียงเอาความโมโหไปลงที่คังเหวินซินเท่านั้น “หย่งเฉียน ไม่ว่ายังไงก็ตาม แกต้องรับรองความปลอดภัยของเหวินซิน ฉันไม่สนว่า อาจารย์โอวหยางพวกเขาจะทำอะไรกับเพื่อนของเหวินซิน แต่พวกเขาจะทำร้ายเหวินซินไม่ได้เด็ดขาด!” “พี่ใหญ่ ฉันไม่กล้ารับประกันหรอก รับประกันได้แค่ลูกชายของพี่จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงตายเท่านั้น ถ้าอาจารย์โอวหยางต้องการลงโทษลูกชายของพี่จริง ๆ ฉันจะไปขวางได้ยังไง ฉันขวางไม่ได้หรอก ไม่กล้าขวางด้วย!" คังหย่งอันขมวดคิ้วแน่น หากคังหย่งเฉียนอยู่ต่อหน้าคังหย่งอันในตอนนี้ คังหย่งอันจะต้องตบเขาให้ตายคามือแน่นอน “หย่งเฉียน! แกเป็นอาข

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 944

    “ไอ้บัดซบเอ๊ย! ใครกล้ามาต่อกรกับฉันโอวหยางจื้อ มันผู้นั้นจะต้องตาย!” โอวหยางจื้อพึมพำอย่างด้วยความอาฆาตแค้น แล้วสั่งให้ลูกศิษย์ไปจองตั๋วเครื่องบิน ...... คังเหวินซินมาส่งหลี่โม่และคนอื่น ๆ ที่บ้าน หลังจากมองดูทั้งสามเดินเข้าไปข้างในแล้ว จึงสตาร์ทรถและขับออกไปอย่างช้า ๆ “อาเล็กถูกจัดการจนหมดท่าแล้ว ต้องบอกพ่อสักคำไหมนะ อาเล็กจะได้ไปตีไข่ใส่สีอีก” หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง คังเหวินซินก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดหมายเลขพ่อของเขาคังหย่งอัน “ฮัลโหล พ่อครับ ผมเพิ่งจะขายวิลล่าบนยอดเขาที่สวนหนานชุ่ยให้เพื่อผมไป ขายราคาต้นทุนน่ะครับ” คังหย่งอันขมวดคิ้ว "นั่นเป็นวิลล่าที่อาเล็กของแกจะเอาไม่ใช่เหรอ แกเอาไปให้เพื่อนได้ยังไง? ผู้จัดการฝ่ายขายว่ายังไงบ้าง?" คังเหวินซินอึ้งครู่หนึ่ง รู้สึกถึงความผิดปกติในคำพูดของคังหย่งอัน "พ่อ พ่อรู้ได้ยังไงว่าอาเล็กอยากได้วิลล่านั่น?” “อาเล็กของแกเคยบอกพ่อว่า วิลล่าหลังนั้นเป็นของขวัญที่เขาจะเก็บไว้ให้กับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในต่างประเทศโอวหยางจื้อ แกคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโอวหยางจื้อมาบ้างใช่ไหม? เขาเคยรับหน้าที่เป็นผู้กำกับฉากแอ็คชั่นให้กับภาพย

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 943

    ในแผนกดูแลพิเศษของโรงพยาบาล คังหย่งเฉียนและคนอื่น ๆ นั่งล้อมรอบเตียง มองดูพี่เกิ่งค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ เข่าที่หักของพี่เกิ่งได้รับการผ่าตัดแล้ว แต่หลังการผ่าตัด พี่เกิ่งจะได้แต่นั่งอยู่บนรถเข็นเท่านั้น “ซี๊ด ขากับเข่าฉันเป็นยังไงบ้าง?” พี่เกิ่งถามอย่างร้อนใจ “ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวล ผ่าตัดเสร็จแล้ว เพียงแต่ระดับการรักษาของที่นี่ยังต่ำไปหน่อย หลังจากฟื้นตัวแล้วพี่ต้องนั่งรถเข็น” คังหย่งเฉียนพูดเสียงเบาหวิว “ไอ้บัดซบ! ฉันไม่อยากนั่งรถเข็น! ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!” พี่เกิ่งคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว รู้สึกเลวร้ายไปทั้งร่างกาย ชีวิตบนรถเข็น ไม่ใช่ชีวิตที่พี่เกิ่งต้องการเลย ถ้าต้องนั่งรถเข็นแล้ว ต่อไปจะฝึกศิลปะการต่อสู้ หรือออกไปรังแกคนอื่นอย่างไร แล้วจะไปจีบสาว ๆ ได้อย่างไร! “ฉันจะย้ายโรงพยาบาล ฉันจะไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด!” “พี่เกิ่งอย่าเพิ่งตื่นตูม หมอบอกว่า รอพี่ฟื้นตัวดีแล้ว ก็สามารถทำการผ่าตัดครั้งที่สองในโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้เพื่อเปลี่ยนข้อต่อเทียมได้” คังหย่งเฉียนปลอบใจพี่เกิ่งไปพลางก็ขยิบตาให้กับพวกพี่น้องคนอื่น ๆ ส่งสัญญาณให้พวกเขารีบมาช่วยกันโน้มน้าว ศิษย์พี่ห

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 942

    พี่เกิ่งร้องโหยหวนออกมา รู้สึกว่าขาซ้ายพลิกกลับไปด้านหลัง พลันสูญเสียการทรงตัวและล้มหงายไปข้างหลังทันที พลั่ก พี่เกิ่งล้มหงายลงกับพื้น ปากก็ร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา คังหย่งเฉียนถูกกระตุ้นด้วยเสียงร้องของพี่เกิ่งจนตัวสั่นไปทั้งตัว เสียงวิ้ง ๆ ที่ดังอยู่ในหัวยิ่งชัดเจนขึ้นมาทันใด คังหย่งเฉียนกุมใบหน้าที่บวมแดงไปครึ่งหนึ่งมองไปทางศิษย์พี่เกิ่ง ดวงตาของคังหย่งเฉียนก็แทบจะหลุดออกจากเบ้า ศิษย์พี่เกิ่งที่คังหย่งเฉียนเคยคิดว่า แข็งแกร่งไร้เทียมทานนั้น ตอนนี้กำลังร้องคร่ำครวญราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะตาย เมื่อมองขาขวาของพี่เกิ่งหักงอในองศาที่ผิดธรรมชาติ คังหย่งเฉียนก็รู้สึกว่า เลือดทั่วร่างกายเย็นเฉียบขึ้นมา นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์สามารถทำได้อย่างนั้นเหรอ? นี่เป็นผลลัพธ์ที่สามารถใช้กำปั้นทำได้เหรอ? นี่มันซูเปอร์ไซย่าในตำนานหรืออย่างไรกัน?! พวกศิษย์น้องของพี่เกิ่งหลายคนต่างหวาดกลัวกับความเผด็จการของหลี่โม่ ทั้งกลุ่มพลันหมดความโอหังไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาลากพี่เกิ่งขึ้นมาจากพื้นแล้ววิ่งตะบึงออกไปข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่คำพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้คือศิษย์

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 941

    คังเหวินซินรออยู่สามวินาที แต่ละวินาทีราวกับยาวนานเป็นปี รออยู่นานฝ่ามือของพี่เกิ่งก็ยังไม่ตบลงมาสักที คังเหวินซินจึงลืมตาขึ้น เมื่อเอียงหน้ามองเห็นฝ่ามือของพี่เกิ่งอยู่ห่างจากหน้าตนแค่เฉียดฉิว หัวใจของคังเหวินซินแทบจะกระโดดออกมาจากปาก หลังจากที่เห็นข้อมือของพี่เกิ่งถูกหลี่โม่คว้าไว้ คังเหวินซินถึงได้รู้สึกว่า หัวใจของตัวเองกลับเข้าที่ได้แล้ว คังเหวินซินที่สงบลงแล้ว รีบถอยไปหลบด้านหลังหลี่โม่ แล้วร้องตะโกนด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง "อาจารย์!" “นายอย่าร้องไห้น่าสมเพชนักสิ มันทำฉันขายหน้านะ” หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม คังเหวินซินตะลีตะลานเช็ดเบ้าตา ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้ออกมา พี่เกิ่งจ้องมองหลี่โม่อย่างโมโห แอบพยายามดึงข้อมือของตัวเองกลับมาอย่างลับ ๆ แต่ไม่ว่าพี่เกิ่งจะพยายามออกแรงแค่ไหน มือของหลี่โม่ก็ราวกับคีมปากเสือหนีบข้อมือของพี่เกิ่งเอาไว้แน่น จนข้อมือของพี่เกิ่งไม่มีทางสลัดหลุดได้เลย “ปล่อยมือฉัน!” พี่เกิ่งตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว “แกบอกให้ปล่อยก็ต้องปล่อยเหรอ? แกน่าจะอธิบายเรื่องที่จะลงไม้ลงมือกับลูกศิษย์ฉันเมื่อกี้นี้มาสักหน่อยไหม?” หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา คังเหวินซินส

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 940

    กู้หยุนหลานมองไปยังหลี่โม่อย่างประหลาดใจ เมื่อเห็นหลี่โม่ขยิบตาให้ เธอจึงไม่พูดอะไรและเก็บความสงสัยไว้ในใจ ผู้จัดการหวังโบกมือให้พนักงานขายสาว พนักงานสาวที่ถือสัญญาอยู่แล้วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ผู้จัดการหวัง นี่เป็นสัญญาของวิลล่ายอดเขาค่ะ แต่ราคานี้มัน…” สีหน้าของพนักงานสาวดูบูดเบี้ยวเล็กน้อย ถ้าขายวิลล่านี้ออกไปในราคาต้นทุน เธอคงไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นเลยสักแดง! ที่ผ่านมาเศรษฐีในเมืองฮั่นจำนวนมากต่างก็ถูกใจวิลล่าแห่งนี้ แต่เพราะมีการปิดกั้นการซื้อขาย เลยไม่ได้ขายอย่างเป็นทางการ เดิมทีพวกพนักงานสาวนั้นเตรียมพร้อมที่จะทำกำไรมหาศาลด้วยการขายวิลล่าหลังนี้หลังจากที่เปิดการขายแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ความฝันของพวกเธอกำลังจะมลายหายไปซะแล้ว “พวกเธอมีสิทธิ์พูดงั้นเหรอ? นี่คือการตัดสินใจของคุณชายใหญ่!” ผู้จัดการหวังตำหนิพนักงานขายสาว พนักงานสาวหดคอและปิดปากเงียบไม่กล้าพูดอีก ผู้จัดการหวังเปิดสัญญาตรวจดู หลังจากยืนยันความถูกต้องแล้ว เขาก็ถือสัญญาเดินไปหาหลี่โม่ “อ่านสัญญาดูก่อนนะครับ หากไม่มีปัญหาอะไร เราจะไปเซ็นสัญญาที่สำนักงานของผมกัน ผมไม่สามารถนำตราประทับอะไรพวกนั้นพกติดต

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 939

    “คุณชาย อย่ามาขู่ผมเลยครับ ผมไม่กลัวหรอกนะ สิ่งที่ผมพูดไปเมื่อครู่ล้วนมีเหตุมีผล หากไม่เชื่อก็ถามซินแสที่มาดูฮวงจุ้ยให้ได้เลยครับ คำพูดพวกนี้เขาเป็นคนพูดเองกับปากทั้งนั้น” ผู้จัดการหวังแข็งขืน ไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย หลี่โม่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม "เหวินซิน อย่าหุนหันพลันแล่น ผู้จัดการหวังพูดถูกแล้ว คนที่โชคชะตาบารมีไม่ถึง ไม่มีทางข่มพลังฮวงจุ้ยอันยอดเยี่ยมได้แน่นอน” คังเหวินซินพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "อาจารย์พูดถูกแล้วครับ แต่ด้วยบารมีของอาจารย์ จะต้องสามารถข่มมันได้อย่างแน่นอน พวกเรามาดูกันดีกว่า ที่นี่ล้วนได้รับการตกแต่งอย่างดี คุณหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย เหลือแค่ดูว่าวิลล่าหลังนี้ถูกใจคุณหรือเปล่าก็พอครับ” เมื่อเห็นคังเหวินซินพยายามเอาอกเอาใจหลี่โม่ ผู้จัดการหวังก็เกิดความสงสัยเล็กน้อย หรือว่าตนจะมองผิดไป? ผู้ชายที่สวมเสื้อผ้าแผงลอยทั้งตัวคนนี้ เป็นคุณชายเศรษฐีที่มาลองสัมผัสประสบการณ์ชีวิตงั้นเหรอ? ไม่อย่างนั้นทำไมคุณชายของตนถึงได้ไปประจบเอาใจเขาขนาดนี้กัน? “คุณชาย ท่านนี้คืออาจารย์ของคุณเหรอครับ?” ผู้จัดการหวังถามอย่างสงสัย “นี่คืออาจารย์ของฉันหลี่โม่ นายสุภาพกับอาจารย์ของฉัน

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 938

    “ไอ้สารเลวคนไหนไม่ดูตาม้าตาเรือ กล้ามาแย่งวิลล่าของอาจารย์ พวกแกยังมัวแต่กินอะไรกันอีก ไปดูด้วยกัน จัดการไอ้พวกสารเลวนั่นซะ” “ศิษย์พี่เกิ่งพูดถูก พวกเราทุกคนต้องไปดูด้วยกัน บ้านของอาจารย์ต้องดีที่สุดเท่านั้น จะผิดพลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว” ศิษย์พี่เกิ่งและคนอื่น ๆ พากันลุกขึ้นทีละคน เมื่อเห็นเช่นนี้คังหย่งเฉียนก็เรียกให้พนักงานคิดเงินทันที แล้วจึงพาพวกของศิษย์พี่เกิ่งมุ่งตรงไปยังสวนหนานชุ่ย ... รถเมอร์เซเดสเบนซ์ขับเข้าไปในสวนหนานชุ่ย และขับตรงไปตามทางขึ้นยอดเขา ใกล้กับยอดเขาของเขาหนานชุ่ยนั้นมีที่ราบอยู่บริเวณหนึ่ง ที่ราบนี้ถูกนำมาใช้สร้างวิลล่า พร้อมทั้งปลูกต้นไม้พืชพรรณเขียวชอุ่มรอบ ๆ วิลล่าอีกด้วย ด้านหน้าวิลล่ายังมีลำธารที่ไหลมาจากยอดเขา ทำให้ฮวงจุ้ยของวิลล่านี้ยอดเยี่ยมมากไร้ที่ติ หน้าน้ำหลังเขา ตำแหน่งปากมังกรจัดวางฮวงจุ้ยอย่างดี ทำให้วิลล่าบนยอดเขาหลังนี้เลิศล้ำไม่มีใครเทียม รถเมอร์เซเดสเบนซ์จอดสนิทหน้าประตูวิลล่ายอดเขา ผู้จัดการหวังและพนักงานขายสาวสองคนยืนรอที่ประตูวิลล่าอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นรถเบนซ์จอดนิ่ง ผู้จัดการหวังก็รีบวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปช่วยเปิดประตูรถ

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 937

    ผู้จัดการหวังหยิบบุหรี่ออกมาคาบที่มุมปาก เตรียมจะสูบบุหรี่เพื่อสงบสติอารมณ์ คำขอของคังเหวินซินทำให้ผู้จัดการหวังตั้งตัวไม่ติด การจะดูบ้านมันไม่มีปัญหาหรอก แต่ถ้าอีกฝ่ายถูกใจขึ้นมาจริง ๆ จะทำอย่างไรล่ะ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องราคาต้นทุนหรือเปล่า ถ้าคังหย่งเฉียนเข้ามาครอบครองวิลล่าหลังนี้ เขาก็คงไม่ได้เงินเลยสักแดงเดียว พอนึกถึงคังหย่งเฉียนขึ้นมาผู้จัดการหวังรู้สึกปวดจี๊ด ๆ ขึ้นมา เจ้านั่นเป็นปีศาจเจ้าสำราญแห่งตระกูลคัง วัน ๆ เอาแต่เกียจคร้าน กินดื่มเที่ยวเล่น ยิ่งกว่านั้นยังคบค้ากับพวกอันธพาล ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสตระกูลคังก็ยังถูกคังหย่งเฉียนยั่วโมโหจนเส้นเลือดในสมองตีบ แทบทุกคนในตระกูลคังล้วนทำเป็นไม่สนใจคังหย่งเฉียน ตราบใดที่คังหย่งเฉียนไม่ได้ก่อปัญหา ก็ไม่มีใครสนใจว่า คังหย่งเฉียนจะทำอะไร ถ้าหากยกวิลล่าให้เพื่อนของคังเหวินซินจริง ๆ คังหย่งเฉียนคงจะพาคนมาสับเขาเป็นชิ้น ๆ ถึงที่แน่ หลังจากสูบบุหรี่หมดมวน ผู้จัดการหวังก็ขยี้ก้นบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ รู้สึกว่ายังไงก็ควรแจ้งให้คังหย่งเฉียนรู้สักหน่อย ส่วนคังหย่งเฉียนจะต่อสู้กับคังเหวินซินอย่างไรนั้นก็เป็นเรื่องระหว่างพวกเขา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status