เพียะ เพียะ เพียะเสียงที่ชัดเจนและคมชัดดังขึ้น หวังจงฉวนตบแก้มตัวเองอย่างรุนแรง จนกว่าหลี่โม่จะมองมาที่เขาถึงจะหยุด"ท่านประธานหลี่ ผมผิดไปแล้ว ตระกูลหวังของเราผิดไปแล้ว ผมขอให้ท่านประธานหลี่ให้โอกาสเราได้แก้ไขข้อผิดพลาดของเรา ต่อไปเราจะไม่ทำผิดอีกแน่นอน" หวังจงฉวนคำนับและกล่าว"เป็นการแสดงออกที่ดี นายจะเริ่มงานได้อีกในสองวัน ส่วนเงินล่วงหน้าจะจัดการให้วันพรุ่งนี้ ต้องใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ถ้ามีปัญหาอะไร นายอย่าหาว่าฉันไม่เตือน"หลี่โม่ไม่ต้องการทำอะไรกับหวังจงฉวนในขณะนี้ หวังจงฉวนมีทัศนคติที่ดีในการยอมรับความผิดพลาดของเขา ดังนั้นหลี่โม่จึงปล่อยหวังจงฉวนไป เพราะเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของกู้หยุนหลาน ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเอาถึงตายหวังจงฉวนพยักหน้าอย่างหนักแน่นและพูดอย่างจริงจัง "ท่านประธานหลี่ไม่ต้องกังวลครับ รอดูฝีมือของผมได้เลยครับ""ถ้าออกจากประตูนี้ไปแล้ว ฉันหวังว่านายจะลืมทุกสิ่งที่นายเห็นในห้องนี้ และอย่าออกไปพูดเรื่องไร้สาระกับคนอื่น"หลี่โม่มองไปที่หวังจงฉวนด้วยสายตาที่เย็นชาหวังจงฉวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นชูนิ้วขึ้นเพื่อสาบานกับท้องฟ้า "ผมสาบาน ถ้าผมเปิดเผยตัวตนของคุ
หวังจงเฉิงดึงหวังจงเหิงและจากไปพร้อมกับหวังจงฉวนทั้งสามคนออกจากอาคารสำนักงานและเข้าไปในรถ หวังจงเหิงพูดอย่างบูดบึ้งว่า "พี่ใหญ่ วันนี้พี่ตบผมเพราะไอ้หลี่โม่คนขยะนั่น พี่ต้องอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ผมฟัง""สมองของแกเต็มไปด้วยโคลนใช่ไหม! ผู้ทรงเกียรติทั้งสี่ทิศในกรุงโซลไปงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ และเฉียนฝูมาที่นั่นเพื่อรับหลี่โม่ แกตาบอดหรือแกมองไม่เห็น!" หวังจงฉวนกล่าวอย่างชั่วร้ายเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หวังจงฉวนรู้สึกหนาวสั่นในใจ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยจริงจังกับเรื่องนี้เลย แต่ตอนนี้เขาคิดเกี่ยวกับมันอย่างรอบคอบ"ทั้งหมดไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกเหรอ! แค่คนไม่เอาไหนคนเดียวจะสามารถหยุดผู้มีอิทธิพลหลายคนได้ยังไง? หากมันมีความสามารถขนาดนั้นจริง ๆ มันคงไม่ใช่แค่ไอ้ขยะแล้ว!" หวังจงเหิงก็โต้เถียงด้วย"แต่พวกเขาทั้งหมดไปที่นั่นก็เพื่อหลี่โม่ ใช่ไหม!""ก็ใช่"หวังจงเหิงกล่าวโดยก้มหน้าลง ทั้งหมดนี้เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้"เฉียนฝูคือใคร ถึงแกจะรู้จักเฉียนฝู แต่แกจะสามารถขอให้เฉียนฝูช่วยจัดการทุกอย่างและออกตัวแทนแกได้เหรอ? ใช้สมองของแกคิดดูสิ หลี่โม่สามารถสั่งเฉียนฝูได้ นั่นแปลว่าในใจ
ในห้องประชุมของตระกูลกู้กู้เจี้ยนกั๋วและครัฟต์นั่งอยู่บนหัวโต๊ะด้วยกัน ขณะที่กู้เจี้ยนเจียง กู้ซิ่งเหว่ย กู้หยุนหลาน และผู้ติดตามของครัฟต์นั่งอยู่ที่ทั้งสองฝั่งครัฟต์พูดด้วยรอยยิ้ม "เพื่อความร่วมมือที่ดีของเรา ยังมีรายละเอียดอีกมากที่ต้องเจรจา ขออนุญาตให้ผู้ช่วยของผมบอกคุณเกี่ยวกับข้อตกลงของเราด้วยนะครับ"ผู้ช่วยของครัฟต์ยืนขึ้นพร้อมกับถือเอกสาร "ก่อนอื่น เราต้องการเน้นย้ำว่าความร่วมมือทั้งหมดมีคุณกู้หยุนหลานเป็นแกนหลัก ทันทีที่คุณกู้หยุนหลานไม่ใช่แกนหลักของโครงการนี้ ความร่วมมือของเราจะถูกยุติลงโดยอัตโนมัติ"ใบหน้าของกู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆ กลายเป็นดูไม่ได้ในทันที เดิมทีกู้เจี้ยนกั๋วคิดที่จะให้ลูกชายของตนมาแทนที่ หลังจากที่โครงการเริ่มต้นขึ้น แต่เขาไม่คิดว่าครัฟต์จะยื่นข้อตกลงโดยให้กู้หยุนหลานเป็นแกนกลางกู้หยุนหลานให้พวกต่างชาตินี้กินยาอะไรเข้าไปกัน?!กู้ซิ่งเหว่ยคิดขุ่นเคืองอยู่ในใจ จ้องมองที่กู้หยุนหลานอย่างดุเดือดกู้หยุนหลานงงงวยมาก คิดไม่ออกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไปอีก“ทำไมต้องเป็นฉันด้วย”"คนสวย ๆ อย่างคุณกู้หยุนหลาน เราได้ทำการประเมินสมาชิกหลักทั้งหมดของตระกูลกู้แล้
กู้เจี้ยนกั๋วพูดด้วยใบหน้าเย็นชาหลี่โม่พยักหน้าและไม่พูดอะไร เขาพิงพนักเก้าอี้อยู่ในท่าทางของการหลับตาและพักผ่อนจิตใจกู้เจี้ยนกั๋วมองไปที่ครัฟต์ ยิ้มและพูดว่า "คุณครัฟต์ เชิญต่อได้เลยครับ"ครัฟต์แสดงท่าทางและให้ผู้ช่วยอ่านต่อไป "เราได้จัดตั้งผู้ผลิตวัตถุดิบและผู้ผลิตเครื่องมือมาแล้ว และคุณต้องยอมรับพวกเขาโดยไม่มีเงื่อนไข แน่นอนว่าราคาจะไม่สูงกว่าราคาต้นทุนเฉลี่ยของโรงงานอุตสาหกรรม..."รายละเอียดของความร่วมมือถูกอ่านจนจบ แม้ว่ากู้เจี้ยนกั๋วจะสอบถามบางอย่าง แต่เขาก็ถูกครัฟต์ขู่ว่าจะยุติความร่วมมือ ในที่สุดเงื่อนไขทั้งหมดก็เป็นไปตามแผนของครัฟต์หลี่โม่ฟังข้อตกที่ครัฟต์ประกาศโดยละเอียด และไตร่ตรองทีละข้อในใจ ข้อตกลงเหล่านั้นดูเหมือนจะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติทางธุรกิจหากไม่ไตร่ตรองสิ่งเหล่านี้อย่างถี่ถ้วน แต่ถ้าคิดอย่างรอบคอบจะพบว่ามีกับดักอยู่ข้างหลัง และผู้ดำเนินการหลักและผู้ที่ต้องรับผิดชอบความร่วมมือนี้คือ กู้หยุนหลาน ในท้ายที่สุดหากครัฟต์ร่างข้อตกลงมาเป็นกับดัก กู้หยุนหลานจะเป็นผู้รับผิดชอบความร่วมมือกับครัฟต์ดูเหมือนจะเป็นบ่อทองที่สวยงาม แต่แท้จริงแล้วมันเป็นกับดักยาพิษแต่ทำไ
ที่ดินอุตสาหกรรมเป็นของหลี่โม่ แต่กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆ ไม่คิดเช่นนั้น พวกเขาทั้งหมดคิดว่าที่ดินควรเป็นของตระกูลกู้ อย่างไรก็ตามหลี่โม่ก็เป็นลูกเขยของตระกูลกู้ ดังนั้นทุกอย่างที่เกี่ยวกับหลี่โม่ควรเป็นของตระกูลกู้กู้เจี้ยนกั๋วหยิบบุหรี่ออกมาจุดไฟ พ่นควันแล้วพูดว่า "หยุนหลาน หลี่โม่ ฉันหวังว่าพวกแกจะพิจารณาเรื่องของที่ดินอย่างรอบคอบ นี่เป็นเหตุผลสำคัญสำหรับการพัฒนาของตระกูลเรา ถ้าพวกแกทำผลงานได้ดี ตระกูลกู้ของเราจะไม่มีวันลืมเรื่องพวกนี้เลย"หลี่โม่ยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม และเคาะนิ้วเบา ๆ บนโต๊ะ "ที่ดินเป็นของเราโดยส่วนตัว ไม่ใช่ของส่วนร่วม แต่ถ้าต้องการจะใช้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ แต่คงไม่ใช่ใช้แบบฟรี ๆ หรอกนะ เอาเงินมาซื้อที่จากผมสิ ใช้เงินของคุณซื้อที่ดิน หรือให้ทุนแก่เราในการก่อตั้งบริษัทขึ้นใหม่”“แกไอ้ขยะนี่ วัน ๆ คิดแต่เรื่องเงิน! เงินทั้งหมดที่แกกิน แกดื่ม และใช้จ่ายไม่ใช่ของตระกูลของเราทั้งหมดเหรอ ข้าวของเครื่องใช้ของแกก็เป็นของตระกูลเรา! ที่ดินของแกคืออะไร แกไม่มีอะไรเลยนอกจากไร้สาระไปวัน ๆ !” กู้เซิ่งเหว่ยตะคอกด้วยความโกรธกู้เจี้ยนกั๋วตบริมฝีปากของเขาสองครั้งและพูดช้า ๆ "
จู่ ๆ กู้หยุนหลานก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก ราวกับว่าหลี่โม่กลายเป็นที่พึ่งพิงที่ดีที่สุดของกู้หยุนหลานจริง ๆหลี่โม่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและส่งข้อความถึงเฉียนฝู ขอให้เฉียนฝูจัดทนายความเพื่อทำสัญญากับดักนี้หลี่โม่ไม่ต้องการจะให้เอกสารที่ดินทุกอย่างแก่ตระกูลกู้ แต่จะขอให้ตระกูลกู้ลงนามในข้อตกลงการโอน ก็เพียงพอแล้วที่จะเพิ่มประโยคกับดักที่ซ่อนอยู่ในข้อตกลงเฉียนฝูส่งข้อความตอบกลับอย่างรวดเร็วเพื่อสอบถามความต้องการของหลี่โม่โดยละเอียด แต่หลี่โม่ตอบกลับเพียงสั่น ๆ นั่นคือการติดตั้งกับดักยาพิษในสัญญาหลังจากอ่านคำตอบที่หลี่โม่ส่งมา เฉียนฝูก็ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง และติดต่อทนายความชั้นนำทั้งในและต่างประเทศเพื่อหารือและจัดทำสัญญาทันทีหลังจากการดำเนินการอย่างรวดเร็ว เงื่อนไขของสัญญาถูกส่งไปยังกล่องจดหมายถึงหลี่โม่หลี่โม่ชำเลืองมองเงื่อนไขของสัญญา และลงจากรถไปที่ร้านถ่ายเอกสารซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขาเพื่อปริ้นท์สัญญาหลังจากเซ็นสัญญาแล้ว หลี่โม่ก็โทรหาเฉียนฝู "ไม่นานมานี้ ราชินีแดนมังกรได้ทำอะไรบ้าง""ราชินีแดนมังกรเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนมาพบ และดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเตรียมการบางอ
กู้เจี้ยนหมินเงียบ แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับสิ่งที่หลี่โม่พูด แต่กู้เจี้ยนหมินไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่หลี่โม่พูดได้เมื่อเห็นว่ากู้เจี้ยนหมินเงียบไป หวังฟางก็ลังเลและพูดว่า "หลี่โม่ แล้วแกคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้? ฉันอยากจะบอกว่าที่ดินเป็นของครอบครัวของเรา ทำไมเราต้องส่งให้พวกเขาโดยเปล่าประโยชน์? เราก็จะเสียประโยชน์ แบบนี้จะยิ่งไม่ได้อะไร""นี่คุณ" กู้เจี้ยนหมินมองไปที่หวังฟางอย่างไม่พอใจกับสิ่งที่หวังฟางพูด"ฉันทำไม ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเรา" หวังฟางกล่าวอย่างมั่นใจ“นี่เป็นที่ดินที่มีประโยชน์ของครอบครัว ถ้าเราเก็บมันไว้และไม่ให้มัน เราก็อาจจะถูกแทงข้างหลังก็ได้นะ” กู้เจี้ยนหมินพูดอย่างรำคาญของแบบนี้พูดยาก ถ้ากู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆ คิดจะกุเรื่องขึ้นมา หน้าตาของตระกูลที่กู้เจี้ยนหมินสะสมมาก็หมดกันเพื่อเห็นแก่หน้าตาของตนเอง กู้เจี้ยนหมินอยากจะมอบที่ดินให้กับตระกูลของเขา โดยไม่มีอะไรมากไปกว่าแบกรับความอับอายที่ลบล้างไม่ออกหวังฟางตะคอกอย่างเย็นชา "หึ! ไม่มีอะไรจะเสียแล้วตอนนี้ ตอนนี้ฆ่าได้หยามไม่ได้ ถ้าที่ดินนี้ถูกมอบให้กับตระกูลไป ครอบครัวของเราจะเหมือนหมา ไม่ส
ครัฟต์ขับรถไปที่ชานเมืองโซลและหยุดอยู่ข้างลำธารเล็ก ๆที่โค้งของลำห้วย มีชายคนหนึ่งกำลังนั่งตกปลาอยู่ริมแม่น้ำร่างของชายผู้นั้นดูค่อนข้างผอม มีผมสีขาวครึ่งหัวมัดมวยไว้บนศีรษะ นั่งนิ่งอยู่ริมแม่น้ำราวกับภูเขาเมื่อมองไปที่แผ่นหลังบาง ๆ ครัฟต์กลืนน้ำลายลงคอ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัวแม้ว่าครัฟต์จะเป็น CEO ของกลุ่มที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับชายชราร่างผอมบางคนนี้ที่สามารถควบคุมชีวิตและความตายของตัวเองได้ ครัฟต์ก็เต็มไปด้วยความกลัวที่ไม่สิ้นสุดครัฟต์ไม่รู้จักชายชราร่างผอม เขารู้เพียงว่าชายชราร่างผอมเป็นเจ้านายของหัวหน้าเจ้านายของเขาอีกทีเดิมทีครัฟต์ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะพบกับชายชราผอมแห้งคนนี้ แต่เนื่องจากครัฟต์มีหน้าที่รับผิดชอบในการร่วมมือกับตระกูลกู้ เขาจึงสามารถทลายกำแพงของชนชั้นและเข้าพบกับบุคคลนี้ซึ่งมีสถานะสูงกว่าเขาหลายลำดับได้หลังจากจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้ว ครัฟต์ก็เดินไปหาชายชราร่างผอมด้วยอารมณ์เหมือนแสวงบุญครัฟต์หยุดด้านหลังชายชราร่างผอมครึ่งเมตรแล้วโค้งคำนับพร้อมกับพูดว่า "สวัสดีครับท่าน ผมชื่อครัฟต์ครับ""อืม" คุณท่านปาทำเสียงในโพรงจ