กู้หยุนหลานเย็บวาบขึ้นมาในใจ เธอเข้าใจเจตนาของซีเหมินจือเผิงแล้ว เขาจะใช้การเจรจาความร่วมมือนี้เป็นเครื่องมือเพื่อทำให้หลี่โม่อับอายต่อหน้าทุกคน “วันนี้หลี่โม่ไม่สบาย ต้องพักฟื้นอยู่ที่บ้าน มาไม่ได้หรอก” กู้หยุนหลานหาข้ออ้างมาพูด “ไอ้ขยะของเธอเป็นผู้ดีขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ถึงกับต้องพักฟื้นอยู่บ้าน ฉันไม่มีเวลาจะพักด้วยซ้ำ แล้วมันจะพักฟื้นบ้าบออะไร!” “ไอ้ขยะของเธอต่อให้คลานก็ต้องคลานมาให้ได้ ถ้าทำให้การเจรจากับคุณซีเหมินต้องหยุดชะงัก พวกแกทั้งครอบครัวก็ไม่มีปัญญารับผิดชอบไหว!” “เธอจะเรียกไม่เรียก ถ้าเธอไม่เรียกไอ้ขยะของพวกเธอมา พวกเราจะโทรไปเรียกมันเอง เชื่อสิ ถ้าไอ้ขยะของเธอได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ มันจะต้องรีบวิ่งมาเร็วยิ่งกว่าหมาแน่” สมาชิกตระกูลกู้ต่างพูดอย่างถากถางดูถูก โดยไม่ไว้หน้ากู้หยุนหลานเลยแม้แต่น้อย กู้หยุนหลานรู้ว่ากำลังแขนไม่อาจบิดงอต้นขา ต่อให้ตนไม่โทรหาหลี่โม่ คนอื่น ๆ ก็คงหาข้ออ้างหลอกให้หลี่โม่มาหาอยู่ดี กู้หยุนหลานหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างไม่มีทางเลี่ยง เธอต่อสายหาหลี่โม่ “ซีเหมินจือเผิงจะมาเจรจราความร่วมมือที่บริษัท และชี้เจาะจงให้เรียกคุณมา
"อำนาจในมือของคุณชายหลี่นั้นทรงพลังมาก ฉันเดาว่าครั้งนี้เป็นการทดสอบความจริงใจของพวกเราในการที่จะขอโทษ พวกเราต้องทำทุกอย่างให้ออกสวยงามที่สุด พวกเราต้องหาบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเวชภัณฑ์ระดับนานาชาติมาร่วมมือกับตระกูลกู้"นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจินไห่พูดคุยกัน และพวกเขามีแผนในเบื้องต้นกันแล้วเหอลี่หัวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมองไปที่ลู่เจี้ยนปิน "ท่านลู่ ผมรู้ว่าท่านมีเครือข่ายกว้างขวาง เมื่อก่อนลูกหลานของเราเคยดูถูกท่าน เพียงแค่ต้องการให้ท่านอดทน ครั้งนี้เรามีปัญหา ท่านต้องช่วยเราเอาชนะให้ได้ ต่อไปร้อยละ 10 ของหุ้นบริษัทของเราจะมอบให้ท่าน”10% ของส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย แม้ว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ล้วนเป็นองค์กรท้องถิ่นในจินไห่ แต่สินทรัพย์ของแต่ละบริษัทคาดว่าจะมีมูลค่าหลายพันล้าน"ผมไม่ต้องการส่วนได้ส่วนเสีย เว้นแต่พวกคุณขอโทษคุณชายหลี่ด้วยความจริงใจ หากผมยอมรับส่วนแบ่งจากพวกคุณ คุณชายหลี่จะเข้าใจผมผิดได้"ลู่เจี้ยนปินพูดด้วยรอยยิ้มเหอลี่หัวและคนอื่น ๆ ตกตะลึงไปชั่วขณะ พวกเขาไม่คาดคิดว่าลู่เจี้ยนปินจะไม่ต้องการ ต่อให้จะส่งส่
ซีเหมินจือเผิงเดินเข้าไปในห้องประชุมของบริษัทพร้อมด้วยการคุ้มกันของบอดี้การ์ด กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆ ยืนอยู่ที่ประตูห้องประชุมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเพื่อทักทายเขา"ยินดีต้อนรับการมาเยือนของท่านประธานซีเหมินครับ" กู้เจี้ยนกั๋วพูดด้วยสีหน้าประจบสอพลอซีเหมินจือเผิงไม่สนใจกู้เจี้ยนกั๋ว แต่มองหากู้หยุนหลานและหลี่โม่ท่ามกลางสมาชิกในตระกูลกู้เมื่อเห็นกู้หยุนหลานและหลี่โม่ยืนอยู่ที่ปลายแถว ซีเหมินจือเผิงก็แสดงรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา“เข้าไปคุยเรื่องงานให้เป็นเรื่องเป็นราวเถอะ” ซีเหมินจือเผิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชากู้เจี้ยนกั๋วไม่กล้าที่จะประมาท และยินดีต้อนรับซีเหมินจือเผิงเข้ามาในห้องประชุมจากนั้นพูดกับกู้หยุนหลานว่า "หยุนหลานรีบรินชาให้ประธานซีเหมินสิ"กู้เจี้ยนกั๋วซึ่งคาดเดาความตั้งใจของซีเหมินจือเผิงได้จึงผลักกู้หยุนหลานออกไปโดยไม่ลังเลแม้ว่ากู้หยุนหลานจะไม่เต็มใจ แต่เธอก็ทนได้ เธอเดินไปยังตู้ที่มุมห้องประชุม จัดชุดน้ำชาออกมาและเริ่มชงซีเหมินจือเผิงและกู้เจี้ยนกั๋วนั่งหันหน้าเข้าหากัน ทุกคนในตระกูลกู้และลูกน้องของซีเหมินจือเผิงก็นั่งลงเช่นกัน ส่วนหลี่โม่ก็นั่งอยู่ตรงมุมห้องกู้หยุ
กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆ มองหน้ากันแล้วมองไปที่หลี่โม่พร้อมกัน“ไอ้ขยะ แกไม่ได้ยินที่ท่านประธานซีเหมินพูดเหรอ รีบคุกเข่าลงต่อหน้าท่านประธานซีเหมินซะ!” กู้ซิ่งเหว่ยตะโกนใส่หลี่โม่"หลี่โม่ เพื่อความอยู่รอดของตระกูล แกเพียงแค่ทำตามคำสั่งของท่านประธานซีเหมิน ต้องทำให้ท่านประธานซีเหมินพอใจสิ" กู้เจี้ยนเจียงกล่าวอย่างเฉยเมยกู้หยุนหลานจ้องมองที่ซีเหมินจือเผิง และพูดด้วยเสียงที่ต่ำว่า "นี่คุณจะมากเกินไปแล้วนะ ที่ใช้วิธีที่น่ารังเกียจแบบนี้"“ไม่ใช่ว่าผมใจร้าย ผมแค่อยากให้คุณเห็นธาตุแท้ของไอ้ขยะนี่ หยุดหลอกตัวเองและคนอื่น ๆ ได้แล้ว กู้หยุนหลาน สามีของคุณเป็นแค่ไอ้ขยะจริง ๆ” ซีเหมินจือเผิงยิ้มอย่างร้ายกาจเมื่อเห็นว่าหลี่โม่ไม่ขยับ กู้ชิงหลินจึงยืนขึ้นและพูดว่า "ทำไมแกยังนั่งนิ่งอยู่อีก ไอ้สารเลว? แกอยากตายใช่ไหม ถ้าแกไม่คุกเข่าต่อหน้าท่านประธานซีเหมิน พวกเราจะไม่เกรงใจแกแล้วนะ”หลี่โม่ยิ้มจาง ๆ ส่ายหัวและพูดว่า "เขาไม่คู่ควรให้ฉันต้องคุกเข่า แต่เขาสมควรจะคุกเข่าให้ฉันมากกว่า" ปึง!กู้เจี้ยนกั๋วตบโต๊ะด้วยความโกรธ จ้องมองที่หลี่โม่และตะโกนว่า "แกกำลังพูดถึงเรื่องบ้าอะไร! กล้าทำตัวไม่สุ
ห้องประชุมเงียบลงทันทีและซีเหมินจือเผิงขมวดคิ้วแน่น โดยไม่คาดคิดว่าศัตรูเก่าของเขาจะตามเขามาถึงที่นี่ แถมยังต้องการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือกับตระกูลกู้การปรากฏตัวของศัตรูเก่าทำให้ซีเหมินจือเผิงได้กลิ่นทะแม่ง ๆ และดูเหมือนว่าปัญหาใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นกู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆ ตกตะลึงอย่างพูดไม่ออก พวกเขากำลังพูดคุยกับซีเหมินจือเผิงที่นี่ จะมีบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติอีกแห่งเพื่อมาหารือความร่วมมืออีกได้อย่างไร เป็นไปได้ไหมว่าพระเจ้าจะประทานความสำเร็จให้กับเหล่าตระกูลกู้?กู้เจี้ยนกั๋วซึ่งมีความฝันอันแสนหวานอยู่ในใจเกือบจะยิ้มออกหน้าออกตา"นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายคนจากจินไห่มาพร้อมกัน โดยบอกว่าพวกเขาต้องการขอโทษคุณชายหลี่"ประโยคนี้ของเลขาทำให้ความฝันของกู้เจี้ยนกั๋งพังทลายเมื่อได้ยินคำว่าขอโทษต่อคุณชายหลี่ เงามัจจุราชก็ปรากฏขึ้นในใจของกู้เจี้ยนกั๋วไม่นานมานี้ นายใหญ่แห่งตระกูลซูในเมืองหลวงของจังหวัดก็มาขอโทษไอ้หลี่โม่ และความคิดนี้ก็ปรากฏขึ้นในหัวของกู้เจี้ยนกั๋วจะมีคนมาขอโทษไอ้หลี่โม่อีกได้อย่างไรกัน คนไม่เอาไหนอย่างไอ้หลี่โม่จะมีคนมาคำนับได้อย่างไร เรื่องนี้แบบนี้
คนนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน หลี่โม่ต้องมีสถานะและภูมิหลังที่ยอดเยี่ยม ไม่ได้ยินที่ครัฟต์พูดเหรอว่ามีซินแสแนะนำเขาให้มาที่นี่!กู้หยุนหลานจ้องมองที่หลี่โม่อย่างว่างเปล่า รู้สึกมึนงงเล็กน้อย ไม่สามารถเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างหลี่โม่และซินแสที่ครัฟต์พูดถึงได้หลี่โม่พยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบสนองต่อครัฟต์ลู่เจี้ยนปินเป็นคนแรกที่รู้สึกตัว เขาก้าวไปข้างหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม "คุณชายหลี่ เหล่าเหอขอร้องจนผมไม่มีทางเลือก ดังนั้นผมจึงพาพวกเขามาที่นี่เพื่อชดใช้ความผิดต่อคุณชายหลี่ คุณชายหลี่โปรดยกโทษให้ด้วยนะครับ"“พวกเราเลี้ยงลูกไม่ดีเองครับ ตามใจพวกเขาเกินไป แถมยังต้องการช่วยพวกเขาล้างแค้นอีก ทุกอย่างเป็นความผิดของเรา โปรดยกโทษให้เราด้วยคุณชายหลี่” เหอลี่หัวคำนับหลี่โม่พร้อมกับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คนอื่น ๆยิ่งซีเหมินจือเผิงเฝ้าดูมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้นที่หลี่โม่จัดฉากตบหน้าเขา"ตระกูลกู้ของคุณกำลังปรึกษาหารือความร่วมมือกันอยู่ใช่หรือเปล่า? ยังต้องการความร่วมมืออยู่อีกไหม?!"กู้เจี้ยนกั๋วลังเลและพูดกับเหอลี่หัวและคนอื่น ๆ ด้วยสีหน้าที่ลำบากใจ "ทุกคน เชิญออกไปก่อน อย่ารบกว
กู้ซิ่งเหว่ยมองดูซีเหมินจือเผิงจากไปด้วยความอาลัย เขาคิดว่าเขาจะสามารถกอดต้นขาของซีเหมินจือเผิงและกลายเป็นลูกสุดที่รักของตระกูลกู้ได้ แต่ความเป็นจริงกู้ซิ่งเหว่ยนั้นถูกตบหน้าอย่างแรงหลังจากฟื้นคืนสติกู้ซิ่งเหว่ยก็เทความโกรธทั้งหมดไปที่หลี่โม่ ถ้าไม่ใช่เพราะหลี่โม่ ซีเหมินจือเผิงก็คงไม่กลับไปแบบนี้!กู้ซิ่งเหว่ยโกรธจัด เขาเดินกลับไปที่ห้องประชุมและจ้องไปที่หลี่โม่พร้อมตะคอก "แกคงสะใจมากใช่ไหม! แกให้คนพวกนี้มาเพื่อทำลายทุกสิ่ง! แกไม่ต้องการให้ตระกูลกู้ของเราพัฒนาใช่ไหม?!"หลี่โม่ยิ้มเบา ๆ ไม่สนใจกู้ซิ่งเหว่ย และชี้ให้กู้หยุนหลานนั่งลงข้าง ๆ เขาแม้ว่ากู้หยุนหลานจะไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอก็ยังเดินไปข้างหลี่โม่และนั่งลงหลี่โม่ชำเลืองมองที่ลู่เจี้ยนปิน ลู่เจี้ยนปินเข้าใจและพูดด้วยรอยยิ้ม "พวกเราและท่านครัฟต์ไม่ได้มาที่นี่เพื่อขัดขวางสถานการณ์ แต่เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือกับตระกูลกู้อย่างจริงใจ""คุณสามารถให้ข้อเสนออะไรกับเราได้บ้าง คุณรู้ไหมว่าข้อเสนอที่ซีเหมินจือเผิงมอบให้เรานั้นดีแค่ไหน!"กู้ซิ่งเหว่ยยังคงไม่สามารถสงบความโกรธในใจของเขาได้ผู้ช่วยของครัฟต์ก้าวไปข้างหน้า "ข้อเสนอ
กู้หยุนหลานอ้าปากค้างเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ และในที่สุดก็มองไปที่หลี่โม่กู้หยุนหลานเอนตัวไปใกล้ที่หูของหลี่โม่แล้วถามเบา ๆ ว่า "เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันคะเนี่ย?""ดูเหมือนว่านักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจินไห่จะเชิญพวกเขามานะ เพราะจางจงหยางน่าจะประสบอุบัติเหตุจนทำให้คนพวกนี้หวาดกลัว พวกเขาก็เลยพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อจะขอโทษและขอร้องพวกเรา"หลี่โม่อธิบายอย่างสบาย ๆ แต่เขาก็สับสนเล็กน้อย เขาจำได้ลาง ๆ ว่าเหิงฮุยเภสัชกรรมน่าจะอยู่ภายใต้ของกลุ่มแดนมังกร และน่าจะถูกควบคุมโดยราชินีแห่งแดนมังกรก่อนที่ท่านประธานบริหารของเหิงฮุยเภสัชกรรมจะมาส่งโชคถึงที่ ทำให้หลี่โม่รู้สึกมีบางอย่างที่ผิดปกติจากนั้นเขาก็ตรวจสอบกับข้อมูลที่เฉียนฝูส่งมาก่อนหน้านี้ จึงรู้ว่าราชินีแห่งแดนมังกรกำลังจะมาเยือนโซล ดังนั้นจึงแน่ใจว่าครัฟต์คนนี้ถูกควบคุมโดยราชินีแห่งแดนมังกรหลี่โม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และตัดสินใจที่จะไม่ทำให้งูตกใจในตอนนี้ แต่จะรอดูว่าครัฟต์จะทำอะไรกู้หยุนหลานมองไปที่เหอลี่หัวและคนอื่น ๆ เหอลี่หัวและคนอื่น ๆ ก็โค้งคำนับอย่างเรียบร้อยและยิ้มอย่างสำนึกผิด"ถ้าอย่างนั้น ตระกูลกู้พวกคุณพร้อมกั