เมื่อได้ยินคำตอบของโอวหยางจงเฉิง คุณท่านกู้และคนอื่น ๆ ก็ขมวดคิ้วและสงสัยว่าคุณหลี่ที่ว่านั้นคือใคร ชื่อแรกที่ทุกคนนึกได้ก็คือหลี่โม่ และชื่อแรกที่ทุกคนคิดว่าไม่มีทางใช่ก็คือหลี่โม่เช่นกัน เพราะทั้งครอบครัวตระกูลต่างก็เห็นว่าหลี่โม่เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ แม้ว่าเมื่อวานหลี่โม่จะบอกว่า เขาสามารถจัดการกับเรื่องของโอวหยางจงเฉิงได้ แต่นั่นเป็นแค่เรื่องตลกในสายตาของทุกคนในตระกูลกู้ ถ้าหลี่โม่สามารถทำให้โอวหยางจงเฉิงยอมจำนนได้ คนตระกูลกู้คงไม่มีทางกล้าดูถูกเขาเหมือนที่ผ่านมาอย่างแน่นอน แต่ถ้าไม่ใช่หลี่โม่ แล้วคุณหลี่ที่ว่านั่นเป็นใครกันแน่? คุณท่านกู้และคนอื่น ๆ ต่างก็นึกถึงเพื่อนที่มีนามสกุลหลี่ แต่คนนามสกุลหลี่ที่พวกเขารู้จักนั้นไม่มีใครสามารถจัดการกับโอวหยางจงเฉิงได้อยู่หมัดอย่างแน่นอน เมื่อเห็นท่าทีของโอวหยางจงเฉิงที่เป็นเหมือนสุนัขพันธุ์ปั๊ก พวกเขาก็รู้ว่านั่นไม่ใช่แค่การจัดการโอวหยางจงเฉิงได้อยู่หมัดเท่านั้น แต่เป็นการบดขยี้ความเป็นคนของเขาไปแล้ว ดังนั้นโอวหยางจงเฉิงจึงไม่สนใจศักดิ์ศรีของตนเองอีก ไม่เพียงแต่คนในตระกูลกู้ที่ไม่รู้จักคุณหลี่ แม้แต่ตัวของกู้หยุนหลานเองก็ไม่รู้จ
เมื่อนึกถึงหลี่โม่ที่มีความสามารถขนาดนี้ การที่ใช้เงินสองหมื่นล้านเพื่อสร้างความประทับใจให้กับกู้หยุนหลานนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขาเลย แต่คุณท่านกู้ไม่ได้คิดเช่นนี้ คุณท่านกู้เหมือนได้เห็นโอกาสทองอยู่ตรงหน้า ถ้าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ขอเพียงกู้หยุนหลานทำให้คุณชายหลี่มีความสุข ตระกูลกู้ของเขาทั้งตระกูลก็จะมีโอกาสได้ดีไปด้วย มีเพียงกู้หยุนหลานเท่านั้นที่ยังสับสนและสงสัยอยู่ว่าคุณชายหลี่คนนี้คือใคร? อะไรคือหยุนจงหลานกรุ๊ป? เธอไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำ กู้ซิ่งเหว่ยเหลือบมองไปที่กู้หยุนหลานด้วยสายตารังเกียจแล้วพูดอย่างไม่พอใจ “ที่แท้ก็แลกมาด้วยเรื่องบนเตียงสินะ ถึงได้พูดจาแข็งกร้าวขนาดนี้ คงจะพึ่งพาถูกคนแล้ว ตอนเรียกเขาว่าพ่อคงมีความสุขน่าดูเลยสินะ” “เหอะ ๆ ก็เพราะสามีไม่เอาไหนยังไงล่ะ คงเติมเต็มความสุขให้เธอไม่ได้ เธอถึงได้ออกล่าเหยื่อนอกบ้านแบบนี้ แต่กู้หยุนหลานเธอก็เก่งใช่ย่อยเลยนะ ถึงทำให้คนอย่างคุณชายหลี่ชอบเธอได้ ว่าง ๆ พามาแนะนำให้พวกเราได้รู้จักบ้างสิ” ดวงตาของกู้ชิงหลินเปล่งประกายและมีความคิดแง่ลบมากมายเกิดขึ้นในใจเธอ ถ้าหากเธอสามารถแย่งคุณชายหลี่จากมือของกู้หยุนหลานได้ เธ
“หนูไม่รู้จักเขา และเขาก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับหนูด้วย!” กู้หยุนหลานพูดอย่างลนลาน คุณท่านกู้มองกู้หยุนหลานด้วยความดูถูก เขารู้สึกว่ากู้หยุนหลานจะแสร้งจนเกินจริงไปหน่อยแล้ว เรื่องมันเห็นชัดขนาดนี้เธอยังจะเสแสร้งอะไรอีก แต่เมื่อนึกถึงคำขอโทษของโอวหยางจงเฉิงและนึกถึงเงินสองหมื่นล้านบาทในการก่อตั้งหยุนจงหลานกรุ๊ป คุณท่านกู้ก็เก็บอารมณ์แล้วพูดกับกู้หยุนหลานด้วยความอดทน “หลี่โม่ก็แค่เกาะเธอกิน เขาให้อนาคตที่ดีกับเธอไม่ได้หรอก ในเมื่อเธอมีความสัมพันธ์กับคุณชายเศรษฐีตระกูลหลี่แล้ว เธอต้องฉกฉวยโอกาสนี้ให้ได้ ขอแค่น้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคุณชายหลี่ผู้ร่ำรวย เธอก็อยู่อย่างสบายแล้ว มิหนำซ้ำตระกูลกู้ของเราก็พลอยได้ดีไปด้วย” คุณท่านกู้พูดอย่างไม่สนใจความรู้สึกของกู้หยุนหลาน กู้เจี้ยนกั๋วพยักหน้าหลายครั้ง และคิดว่าคุณท่านเป็นคนที่ฉลาดอย่างมาก ในขณะนี้ความคิดของทุกคนสอดคล้องกันหมด นั่นก็คือการให้กู้หยุนหลานเกาะคุณชายร่ำรวยของตระกูลหลี่ไว้ให้แน่น ๆ ถึงจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด “หยุนหลานเอ๋ย เธออย่าไปใส่ใจหลี่โม่ให้มากนัก ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอก เธอต้องมีเงินเท่านั้นถึงจะมีศักดิ์ศรี ถ้า
“รถของเป้าหมายขับออกจากบริษัทแล้วครับ ผมกำลังติดตามเธออยู่” คนขับรถสีเงินพูดกับวิทยุสื่อสารบนรถ “จับตาดูให้ดี จากการสำรวจของเรา สถานที่ที่เป้าหมายจะไปคือบ้าน บริษัท โรงงานและโรงพยาบาล ทิศทางทั้งสี่แห่งนี้แตกต่างกันมาก นายต้องจับทิศทางของเป้าหมายให้ได้” “รับทราบครับ” จากนั้นคนขับรถสีเงินก็วางวิทยุสื่อสารลงแล้วขับตามรถของกู้หยุนหลานอย่างไม่คลาดสายตา กู้หยุนหลานไม่รู้ว่าเธอกำลังตกเป็นเป้าหมายของคนอื่นแล้ว เมื่อขับไปจนถึงโรงพยาบาล กู้หยุนหลานก็จอดรถไว้ที่ลานจอดรถ หลังลงจากรถแล้วเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็มีชายสองคนเดินสวนเข้ามาใกล้เธอ กู้หยุนหลานไม่ได้ตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นและกำลังจะเดินสวนชายสองคนนั้น แต่ทันใดนั้นชายคนหนึ่งก็ยกมือขึ้นแล้วใช้ผ้าเปียกที่ชุบยาสลบมาปิดปากของกู้หยุนหลานไว้ นั่นเป็นผ้าเปียกที่พ่นยาสลบลงไปเรียบร้อยแล้ว แค่สูดเข้าไปในจมูกเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้คนหมดสติได้ทันที กู้หยุนหลานพยายามดิ้นรนอยู่สักพัก แต่ไม่นานหลังจากนั้นดวงตาของเธอก็พร่ามัวและในที่สุดเธอก็หมดสติไป “เหอะ ๆ ผู้หญิงคนนี้ดูดีจริง ๆ ไม่แปลกเลยที่คุณชายซูจะชอบเธอ ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปอ
หลังจากที่เปิดอ่านข้อความ หลี่โม่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที จากนั้นก็กดเข้าไปดูคลิปวิดีโอที่อีกฝ่ายส่งมา เมื่อเปิดดูคลิปวิดีโอนั้น เขาก็เห็นกู้หยุนหลานถูกมัดติดกับเก้าอี้ด้วยสภาพที่หมดสติ กู้หยุนหลานถูกลักพาตัว! หลี่โม่โกรธขึ้นมาทันที จากนั้นเขากดไปที่เบอร์โทรศัพท์แล้วโทรกลับไปตามหมายเลขที่ส่งข้อความมา “ฮัลโหล ภรรยาฉันอยู่ไหน พวกแกต้องการเงินเท่าไหร่ ฉันจะให้พวกแก แต่พวกคุณแกห้ามทำร้ายภรรยาฉัน!” หลี่โม่พูดอย่างร้อนใจ “แหม ดูเหมือนจะเป็นห่วงเมียเสียจริง ๆ เลยนะ แต่เสียใจด้วย คุณชายของเราไม่ต้องการเงิน ถ้าแกไม่อยากให้เมียแกเป็นอะไรไป ก็รีบมาหาเธอที่โกงดัง 502 ที่เขตชานเมืองตะวันตกเดี๋ยวนี้ แต่จำไว้ด้วยว่า แกต้องมาคนเดียว ถ้าแกแอบพาคนมาด้วยล่ะก็ ฉันก็ไม่รับประกันความปลอดภัยของเมียแกล่ะนะ” “ได้ พวกแกรอฉัน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ แต่พวกแกห้ามแตะต้องเธอโดยเด็ดขาด!” หลี่โม่ตะโกนพูดอย่างประหม่า “อย่าพูดมาก ฉันจะให้เวลาแกยี่สิบนาที ถ้ายังมาไม่ถึง ฉันจะไม่เกรงใจกับเมียแกแล้ว!” ลูกน้องกดวางสายแล้วกลับไปรายงานคุณชายซูด้วยสีหน้ามั่นใจ “คุณชายซูครับ เรียบร้อยแล้วครับ เจ้าคนไร้ประโยชน์คนนั้นรับปา
หลี่โม่พูดอย่างกังวล “หลี่โม่” กู้หยุนหลานเม้มริมฝีปากของเธอและน้ำตาก็ไหลลงมาทันที เมื่อเห็นว่าหลี่โม่ที่เข้ามาช่วยเธอเพียงลำพัง กู้หยุนหลานก็รู้สึกว่าเขาช่างโง่เขลาเสียจริง ๆ แต่ความโง่เขลาของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงไม่มีใครทำตามคำขอของคุณชายซูเช่นนี้แน่นอน กู้หยุนหลานคิดว่า ในโลกนี้ไม่มีใครที่จะทำเหมือนหลี่โม่อีกแล้ว “ความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจริง ๆ จะบอกให้นะ พวกแกยิ่งรักกันมากเท่าไหร่ เกมของฉันก็ยิ่งดูน่าตื่นเต้นมากเท่านั้น” คุณชายซูรู้สึกเบื่อหน่ายกับความรักที่มีให้ซึ่งกันและกันของหลี่โม่กับกู้หยุนหลาน จากนั้นเขาหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วสอดปลายมีดเข้าไปในคอเสื้อของกู้หยุนหลาน “แกคิดจะทำอะไร! ฉันขอเตือนแกก่อนนะ แกอย่าคิดทำอะไรแย่ ๆ ! แกปล่อยหยุนหลานไป ฉันจะเป็นตัวประกันให้แกเอง!” หลี่โม่ตะโกนอย่างกระวนกระวาย ถ้ากู้หยุนหลานไม่ได้ถูกจับตัวไว้ หลี่โม่ก็จะสามารถสู้กับทุกคนในนี้ได้ แต่กู้หยุนหลานในขณะนี้อยู่ในกำมือของศัตรู หลี่โม่จึงทำอะไรไม่ได้จริง ๆ“เหอะ ๆ แค่นี้ก็กังวลซะแล้ว ดูเหมือนว่าสภาพจิตใจของแกช่างอ่อนไหวจริง ๆ เลยนะ ถ้าแทงมันเข้าไ
เมื่อเห็นหลี่โม่ไม่ขยับไปไหน น้ำตาของกู้หยุนหลานก็ไหลลงมาเหมือนสายฝน น้ำตาที่ไหลรินทำให้ดวงตาของเธอพร่ามัวและมองไม่เห็นสีหน้าของหลี่โม่อีก แต่เมื่อรู้ว่าหลี่โม่ไม่ยอมไปไหน กู้หยุนหลานก็ยิ่งตะโกนดังขึ้น “นายคนไร้ประโยชน์ ยังไม่รีบไปให้พ้นอีก ฉันเกลียดคุณ ฉันอยากจะเลิกกับคุณตั้งนานแล้ว คุณไปให้พ้น ไปไกล ๆ เลย ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกแล้ว” คุณชายซูเฝ้าดูฉากนี้อย่างมีความสุข ราวกับว่าเขากำลังชมภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์โศกเศร้าอยู่ “ด่าได้ดีมาก นายคนไร้ประโยชน์ เมียแกสั่งให้แกไปให้พ้นแล้ว น้องหยุนหลานคงอยากอยู่กับฉันตามลำพังสินะ ถึงได้ไล่สามีไร้ค่าไปให้พ้น ฮ่า ๆ” แต่หลี่โม่ได้แต่จ้องไปที่กู้หยุนหลานด้วยความรัก กู้หยุนหลานร้องไห้หนักกว่าเดิม “คนโง่ ทำไมคุณถึงได้โง่ขนาดนี้” แปะ แปะ แปะ! คุณชายซูปรบมือและพี่ตาวปากับลูกน้องของเขาก็ปรบมือตาม “เป็นการแสดงความรักอันลึกซึ้งจริง ๆ ช่างโรแมนติกสุด ๆ ว่ากันว่าความสุขนั้นมักจะเกิดขึ้นบนความเศร้าโศกของผู้อื่นจริง ๆ ฉันรู้สึกชอบใจมาก ตาวปาไปหยิบเหล้าหลุยส์สิบสามของฉันมา เวลาแห่งความสุขแบบนี้จะขาดเหล้าได้ยังไง” “เจ้านายช่างเข้าใจความ
ตาวปายิ้มแล้วพูดว่า “คุณชายสุดยอดไปเลยครับ หาความสุขให้ตัวเองเก่งที่สุดเลย อีกสักแก้วไหมครับ?” “แน่นอนสิ เทให้เต็มแก้วเลยนะ” ตาวปาหยิบขวดเหล้าแล้วรินลงไปบนแก้วเหล้าในมือของคุณชายซูจนเต็มแก้ว “กู้หยุนหลาน ฉันเคยชวนเธอกินข้าวด้วยกันแต่เธอไม่ตกลง วันนี้ฉันอยากให้เธอดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อย เธอจะตกลงไหม? แต่ถ้าเธอไม่ตกลง สามีไร้ประโยชน์ของเธอก็คงต้องแย่หน่อยนะ ลองคิดดี ๆ ก่อนให้คำตอบฉันก็ได้” “คุณชายซู ฉันผิดเอง นายทำฉันเถอะ อย่าลำบากหยุนหลานเลย!” ดวงตาของหลี่โม่เริ่มแดงก่ำและมองไปที่คุณชายซูด้วยความโกรธ จากนั้นคุณชายซูหันไปแล้วขว้างแก้วเหล้าในมือใส่หลี่โม่ จนเหล้าในแก้วกระเด็นใส่หน้าและตัวของหลี่โม่ แต่แก้วเหล้าไม่ได้ขว้างอย่างแม่นยำ จึงตกลงไปที่พื้นแล้วแตกเป็นชิ้น ๆ อยู่ข้าง ๆ หลี่โม่ “ฉันสั่งให้แกพูดแล้วเหรอ? ไอ้กระจอกอย่างแกกล้าขึ้นเสียงกับฉัน แกไปเอาความกล้านี้มาจากไหน!” “ให้แกคุกเข่าคงเป็นการลงโทษที่ใจดีเกินไปใช่ไหม หรือว่าแกอยากท้าทายฉัน!” ตาวปาขมวดคิ้วแล้วหยิบมีดสั้นออกจากเอวแล้ว พลางอย่างเย็นชา “คุณชายครับ ให้ผมตัดแขนขามันทิ้งไหมครับ ให้มันกลายเป็นคนไร้ประโยชน์จร