ภัตตาคารซินคงไห่อันเป็นภัตตาคารฟิวชั่นที่มีชื่อเสียงในเมืองฮั่น มีราคาสูงและสไตล์ย้อนยุคที่ออกแบบมาอย่างดีทำให้ภัตตาคารซินคงไห่อันเป็นหนึ่งในภัตตาคารที่ชื่นชอบของบรรดาเศรษฐีในเมืองฮั่น ณ ขณะนี้ "คุณชายซู คุณชายเหอ ผมบอกพวกคุณเลยว่า ถึงแม้ว่าภัตตาคารซินคงไห่อันแห่งนี้จะไม่ใช่สถานที่ที่มีค่าใช้จ่ายแพงที่สุดแต่ก็มีสภาพแวดล้อมที่คลาสสิก ในนี้มีผู้หญิงสวยมากมาย ถ้าคุณทั้งสองคนปิ๊งเข้ากับผู้หญิงคนไหน กู้ซิ่งเหว่ยจะจัดการให้ทั้งหมด” ใบหน้ากู้ซิ่งเหว่ยปรากฏความเอาใจ และมองดูคุณชายหนุ่มที่ร่ำรวยสองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ทั้งคุณชายซูและคุณชายเหอต่างเป็นคุณชายพี่น้องจากเมืองหลวงของฉู่โจว และตระกูลที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาล้วนเป็นตระกูลธุรกิจที่มีชื่อเสียงในฉู่โจว ครั้งนี้กู้ซิ่งเหว่ยพยายามอย่างมากเพื่อต้อนรับคุณชายสองพี่น้องนี้ ก็เพื่อต้องการขยายเครือข่ายและทำธุรกิจบางอย่าง คุณชายซูเหล่มองกู้ซิ่งเหว่ย เขาไม่ได้เห็นกู้ซิ่งเหว่ยอยู่ในสายตาเลย คนแบบกู้ซิ่งเหว่ยที่ต้องการเป็นสุนัขรับใช้ประจบประแจงเขา คุณชายซูพบเจอมามากมายแล้วตั้งแต่เด็ก และกู้ซิ่งเหว่ยก็ไม่ต่าง ยิ่งมีลักษณะท่าทางต่ำมากเท่
“คุณชายซูโปรดรอสักครู่ครับ ผมจะเจรจากับพวกเขาก่อน และจะจัดการให้เรียบร้อยอย่างเร็ว” หลังจากกู้ซิ่งเหว่ยพูดจบก็รีบเดินตรงไปที่ประตู พนักงานต้อนรับต้องการที่จะรั้งกู้ซิ่งเหว่ยไว้ แต่กลับถูกกู้ซิ่งเหว่ยผลักออกไป “เรียกผู้จัดการของพวกคุณออกมา ฉันพาแขกผู้ทรงเกียรติมาที่ภัตตาคารของพวกคุณ แต่ภัตตาคารของพวกคุณกลับทำแบบนี้! มีสิทธิอะไรไม่ให้เราทานอาหารล่ะ วันนี้ฉันจะไม่ยอมพวกคุณแน่!” “คุณผู้ชายครับ คุณช่วยมีเหตุผลด้วยครับ แขกท่านอื่นเหมาจองสถานที่แล้ว พวกเราไม่สามารถต้อนรับคุณได้จริง ๆ ครับ” ผู้จัดการภัตตาคารรีบเดินเข้าและกล่าว “ฉันไม่สน อย่ามาบอกฉันเรื่องเหมาจองสถานที่หรือไม่ ฉันก็สามารถเหมาจองสถานที่ได้เช่นกัน คุณบอกมาเถอะว่า ราคาเหมาจองสถานที่เท่าไหร่!” "ค่าใช้จ่ายเฉพาะเหมาจองสถานที่คือห้าล้านบาทครับ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม และค่าบริการพิเศษคิดเพิ่มต่างหาก" ผู้จัดการคนนั้นตอบกล่าว กู้ซิ่งเหว่ยตกตะลึงครู่หนึ่ง ค่าใช้จ่ายเฉพาะเหมาจองสถานที่คือ ห้าล้านบาท นั้นมากเกินไปสำหรับกู้ซิ่งเหว่ย สำหรับเรื่องเหมาจองสถานที่นั้น แม้ว่ากู้ซิ่งเหว่ยจะขายไตของเขาได้แต่ก็ไม่มีปัญญาจะเหมาจองสถานที่ “
กู้ซิ่งเหว่ยสามารถทนยอมรับต่อการเสียหน้าต่อหน้าคุณชายซูและเหอปินได้ เพราะอย่างไรพวกเขาก็เป็นคนที่กู้ซิ่งเหว่ยเลียแข้งเลียขา แต่หากว่าหลี่โม่ได้เห็นสภาพที่เขาเสียหน้าเข้า นั่นยอมไม่ได้ หลี่โม่เดินจับมือกู้หยุนหลานเข้ามา กู้หยุนหลานเหลือบมองกู้ซิ่งเหว่ยด้วยความสงสัยบางอย่าง แล้วมองไปที่คุณชายซูและเหอปินที่อยู่ด้านข้าง ทั้งคุณชายและเหอปินต่างจ้องมองที่กู้หยุนหลาน ทั้งคู่ต่างถูกความสวยของกู้หยุนหลานดึงดูดให้หลงใหล อย่างไรก็ตาม เหอปินก็เรียกสติคืนอย่างรวดเร็ว หลังจากสังเกตการแสดงออกของคุณชายซูแล้ว เหอปินก็ละสายตาอย่างรวดเร็ว เหอปินรู้ดีว่า คุณชายซูสนใจกู้หยุนหลานเข้าแล้ว ดังนั้นจึงรีบระงับความรู้สึกจากกู้หยุนหลานทันที หลี่โม่เหลือบมองคุณชายซูที่กำลังหลงใหลกู้หยุนหลานอยู่ เขาก็เดินตรงไปยังด้านข้างของกู้ซิ่งเหว่ยด้วยใบหน้าเย็นชา กู้ซิ่งเหว่ยตัวตรงแล้วปิดกั้นทางเดินของหลี่โม่ไว้ “คนไร้ประโยชน์อย่างแก ก็ช่างไม่ดูเลยว่านี่มันเป็นสถานที่แบบไหน! ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่แมงดาเกาะผู้หญิงกินอย่างแกจะมาได้!” "ถอยไป" หลี่โม่พูดอย่างเฉยชา “ถอยบ้านแกสิ ดูสารรูปคนไร้ค่าอย่างแกเถอะ ที่นี่
“ใช่ครับ คุณชายหลี่เป็นคนเหมาภัตตาคารของเราในคืนนี้ อาหารทุกจานถูกคัดสรรจากวัตถุดิบที่ดีที่สุดและสดใหม่ ใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงในการเก็บเกี่ยวและทำให้น็อก ไปจนถึงการขนส่ง” คำพูดประโยคหลังที่พนักงานเสิร์ฟพูด กู้ซิ่งเหว่ยไม่ได้ฟังเข้าสมองเลย เขารู้สึกทึ่งที่หลี่โม่ทำการเหมาจองภัตตาคารซินคงไห่อัน “เป็นไปได้ยังไง? นี่มันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นแค่คนไร้ค่า จะไปมีความสามารถเหมาจองภัตตาคารซิงคงไห่อันได้ยังไง นั่นมีค่าใช้จ่ายถึงห้าล้านเชียวนะ! พวกคุณจำผิดคนหรือเปล่า คุณชายหลี่อะไรกัน… มั่วรึเปล่า!” เมื่อเห็นใบหน้าอันน่าหวาดกลัวของกู้ซิ่งเหว่ย เหล่าพนักงานเสิร์ฟต่างก็ถอยกลับไปสองก้าวด้วยความกลัว “คุณผู้ชาย อย่าตื่นเต้นเลย เป็นคุณชายหลี่คนนี้ที่ทำการจองแน่นอน ไม่มีอะไรผิดพลาด” “โธ่เว้ย! เสียสติกันทั้งครอบครัว! เป็นไปได้ยังไง หลี่โม่เป็นแค่คนจนเท่านั้น เป็นคนไร้ประโยชน์ที่เกาะผู้หญิงกินเท่านั้น คุณบอกฉันทีว่าพวกนั้นมันจ่ายเงินห้าล้านได้ยังไง มันเป็นแค่แมงดา คุณรีบตามรปภ.ไปจับมันไว้ ไปจับมันสิ!” พนักงานเสิร์ฟส่ายหัว แล้วหยิบบิลออกมาวางบนโต๊ะ "เงินจ่ายไปแล้ว คุณคิดมากเกินไป" กู้ซิ่งเหว่ย
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่โม่ คุณชายซู เหอปินและกู้ซิ่งเหว่ยต่างพากันหัวเราะออกมา ไม่มีใครเชื่อคำเตือนของหลี่โม่ ถึงแม้หลี่โม่จะเป็นชายหนุ่มฐานะดีแห่งเมืองฮั่น แต่ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของคุณชายซู อีกอย่างตอนนี้เมืองฮั่นก็เป็นแค่เมืองธรรมดาเมืองหนึ่ง ถึงคนในเมืองฮั่นจะยอดเยี่ยมขนาดไหน เมื่อไปที่เมืองหลวงฉู่โจวก็แค่คนระดับกลางเท่านั้น อีกทั้งตระกูลของคุณชายซูก็เป็นตระกูลฐานะดีแห่งเมืองหลวงฉู่โจว สามารถจัดการคนในเมืองฮั่นได้อย่างแน่นอน “ให้ตายเถอะ! แกนี่มันอวดเก่งจริง ๆ นะหลี่โม่ กล้าทำร้ายฉันยังไม่พอ ยังจะกล้าไม่ให้ความเคารพต่อคุณชายซูอีก แค่คุณชายซูเอ่ยปากก็สามารถทำให้แกตายได้แล้ว!” กู้ซิ่งเหว่ยคอยพูดใส่ไฟอยู่ข้าง ๆ เขาอยากให้คุณชายซูจัดการหลี่โม่จนแทบขาดใจ เขาจะได้มีโอกาสเหยียบย่ำหลี่โม่ด้วย เหอปินเอียงคอมองหลี่โม่ แล้วพูดอย่างดูถูกว่า “ฉันเพิ่งเคยเจอคนที่ไม่กลัวตายอย่างแกเป็นครั้งแรก เจอคุณชายซูแล้วยังกล้าต่อปากต่อคำอีก ถ้าเป็นลูกหลานของคนในเมืองหลวงฉู่โจว คงจะคุกเข่าให้คุณชายซูไปแล้ว” คุณชายซูแสยะยิ้มออกมา เขาไม่สนใจหลี่โม่ สายตาของเขามองไปที่กู้หยุนหลาน สำหรับคุณชายซูแล้ว
คุณชายซูรู้สึกเจ็บเหมือนกระดูกหักไปทั่วทั้งตัว “ฉันไม่เคยเจอเรื่องน่าอับอายอย่างนี้มาก่อน กล้าทำร้ายฉันแบบนี้ ฉันจะฆ่ามันทั้งครอบครัว!” แอ๊ด ประตูห้องอาหารถูกเปิดออก ผู้จัดการและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาดู เพราะได้ยินเสียงดังโหวกเหวก ผู้จัดการเห็นสภาพที่น่าเวทนาของคุณชายซู ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจกลัว “คุณหลี่ พวกคุณไม่ได้ถูกรบกวนอะไรใช่ไหมครับ?” ผู้จัดการมองไปที่หลี่โม่ แล้วโค้งตัวสอบถามด้วยความนอบน้อม “ผมถูกรบกวนแล้ว ช่วยโยนพวกเขาออกไปด้วย” หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ได้ครับคุณหลี่” ผู้จัดการไม่รีรอ เขากวักมือเรียกรปภ.กลุ่มหนึ่ง ให้เข้ามาจับทั้งสามคนเอาไว้ “บ้าเอ๊ย นี่แกไม่อยากเป็นผู้จัดการแล้วใช่ไหม แกรู้ไหมว่าพวกเราเป็นใคร เมื่อกี้คุณชายซูแห่งเมืองหลวงฉู่โจวโดนหลี่โม่ทำร้าย พวกแกควรจะไปจับหลี่โม่นู่น!” กู้ซิ่งเหว่ยตะโกนเสียงดัง “คุณชายซู คุณชายหลิวอะไรกัน พวกเราไม่รู้จักหรอก พวกเรารู้แค่ว่าคุณหลี่เป็นลูกค้าของเรา พวกเราต้องบริการเขาอย่างเต็มที่ จับพวกเขาโยนออกไป อย่าให้เข้ามาเหยียบในร้านอีก!” รปภ.รีบลากตัวทั้งสามคนออกไป คุณชายซูเจ็บจนหน้าแดงก่ำ เ
ด้านนอกภัตตาคารซินคงไห่อัน กู้ซิ่งเหว่ยและเหอปินลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ทั้งสองช่วยกันประคองคนที่เจ็บจนแทบจะยืนไม่ไหวอย่างคุณชายซู เพราะความเจ็บปวดทำให้คุณชายซูไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ตัวของเขาอ่อนปวกเปียกไปหมด กู้ซิ่งเหว่ยกับเหอปินออกแรงอย่างมาก กว่าที่จะประคองคุณชายซูเข้ามาในรถได้ คุณชายซูนอนเอนตัวอยู่บนเบาะหลัง เขาหายใจรวยริน สภาพดูไม่ค่อยดีนัก “คุณชายซูเป็นยังไงบ้างครับ ส่งคุณไปตรวจที่โรงพยาบาลดีไหมครับ ดูเหมือนเมื่อครู่หลี่โม่เตะคุณค่อนข้างแรง” กู้ซิ่งเหว่ยถามด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้กู้ซิ่งเหว่ยปฏิบัติกับคุณชายซูเหมือนพ่อแท้ ๆ ของตัวเอง ถ้าสามารถเกาะแข้งเกาะขาของคุณชายซูได้ กู้ซิ่งเหว่ยก็ยินยอมที่จะเรียกคุณชายซูว่าพ่อจริง ๆ “ไปโรงพยาบาลทำไม แค่นี้ฉันทนได้ หาที่ให้ฉันพักสักหน่อย เดี๋ยวฉันจะโทรเรียกคนมาฆ่าเจ้าหมอนั่นเอง!” กู้ซิ่งเหว่ยหันมองเหอปิน การที่คุณชายซูไม่ยอมไปโรงพยาบาลทำให้กู้ซิ่งเหว่ยเป็นกังวลเล็กน้อย เหอปินพยักหน้าเบา ๆ “ทำตามที่คุณชายซูพูดเถอะ หาที่ที่ไม่ค่อยมีคน สภาพของคุณชายซูในตอนนี้ ใครมาเห็นเข้าจะดูไม่ดี” กู้ซิ่งเหว่ยรู้ทันทีว่าทำไมคุณชายซูถึงไม่ยอมไปโรงพยาบา
คุณชายซูตื่นเต้นมาก จินตนาการไปถึงฉากที่กู้หยุนหลานถูกเขานอนคร่อมอยู่ กู้ซิ่งเหว่ยได้ยินก็แอบรู้สึกหวาดกลัว คิดในใจว่ายังดีที่ประจบสอพลอคุณชายซู เพราะหากล่วงเกินคุณชายซูเข้าล่ะก็ เกรงว่าคงถูกทำลายครอบครัวจนย่อยยับและต้องเจ็บปวดไปชั่วชีวิต หลังจากคุณชายซูวางสาย เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อย มีซูเหวินปินคอยหนุนหลัง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว “หึ กล้าเป็นศัตรูกับฉัน จุดจบมีเพียงอย่างเดียวก็คือตายทั้งเป็น!” “คุณชายซูสุดยอดมากครับ ครั้งนี้เจ้าโง่หลี่โม่ต้องคิดไม่ถึงแน่ ๆ อย่าไปสนใจที่มันทำอวดเก่งเมื่อครู่ ขอแค่คุณชายซูลงมือ ก็สามารถจัดการกับมันได้ทันที” กู้ซิ่งเหว่ยพูดเยินยอ “ยัยตัวดีกู้หยุนหลาน ฉันก็จะไม่ปล่อยให้เธอสบายเหมือนกัน ก่อนหน้านี้นายบอกว่าเธอร่วมมือกับหรงคังกรุ๊ปใช่ไหม?” คุณชายซูหันหน้าไปถาม “ใช่ครับ ยัยตัวดีนั่นใช้การหลับนอนแลกกับการเซ็นสัญญากับหรงคังกรุ๊ป เธอไม่บริสุทธิ์อีกแล้ว ยังมาทำเสแสร้งต่อหน้าคุณชายซูอีก ช่างหน้าไม่อายจริง ๆ” คุณชายซูพยักหน้าเบา ๆ แล้วแสยะยิ้มออกมา “หลับนอนเพื่อแลกกับสัญญาอย่างนั้นเหรอ ฉันจะให้พวกเขายุติสัญญา ต่อไป ถ้ายัยตัวดีกู้หยุนหลานอยากได