"คนยากจนอย่างแก จะไปเรียกคนแบบไหนมาได้ ประเภทที่คนยากจนรู้จักได้คงจะเป็นคนยากไร้ไม่ก็คนไร้ประโยชน์ แกเรียกมาเลย ฉันจะคอยดูซิว่า แกจะเรียกคนโง่เง่าเต่าตุ่นแบบไหนมากัน" คำพูดของหวังหยงเต็มไปด้วยการดูถูกหลี่โม่ ตามสามัญสำนึกแล้ว คนยาจกไม่มีวันรู้จักกับคนที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน “ฮัลโหล ผู้อำนวยการหลิวซินหมินใช่ไหมครับ? ผมหลี่โม่” หลี่โม่ตอบกลับอย่างเฉยชา “นายน้อย สวัสดีครับ ผมหลิวซินหมิน คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ? ถ้าหากว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการรักษา คุณไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผู้เชี่ยวชาญได้ปรึกษาหารือกันแล้ว และได้กำหนดแผนการวินิจฉัยและการรักษาแล้วครับ” หลิวซินหมินโค้งตัวและกล่าวด้วยความเคารพอย่างมาก หลิวหมินซินนั้นรู้ดีอย่างแจ่มแจ้งชัดเจนในเรื่องตัวตนและเบื้องหลังของหลี่โม่ นั่นคือนักลงทุนที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลเชียวนะ ว่าตามความอาวุโส เขาเป็นระดับปู่เลยแหละ! “หัวหน้าแผนกหวังกับผมมีเรื่องกันนิดหน่อย คุณแวะมาดูหน่อยสิ เราอยู่ตรงประตูห้องพักผู้ป่วยของซีซี” หลี่โม่เลิกคิ้วและเหลือบมองหวังหยงที่อยู่ตรงข้ามและกำลังเผชิญกับเลือดกำเดาไหล “หวังหยงเจ้านั่น! นายน้อยรอสักครู่ครับ ผมจะไ
หวังหยงเหล่มองหลี่โม่ เมื่อเห็นท่าทีที่สงบของหลี่โม่ ก็ทำให้ในใจของหวังหยงกระตุก เป็นไปได้ไหมว่าผู้อำนวยการหลิวถูกคนยาจกนี่เรียกมา? หวังหลิงที่ยืนอยู่ข้างหวังหยงก็พูดเสียงเบา ๆ ว่า “พี่คะ มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน” “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ คอยดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยว่ากัน” หวังหยงหันกลับแล้วเดินไปหาหลิวซินหมิน พูดด้วยใบหน้าที่ร้องไห้คร่ำครวญว่า "ผู้อำนวยการหลิวมาทันเวลาพอดีเลยครับคุณมองดูหน้าผมซิครับ ผมถูกอันธพาลนี่ต่อย คุณต้องขอความเป็นธรรมให้ผมด้วยนะครับ" หลิวซินหมินมองดูใบหน้าของหวังหยง แล้วพูดอย่างโหดร้ายว่า "สมควรแล้ว!" "อะไรนะครับ?" หวังหยงมองหลิวซินหมินอย่างเหม่อลอย คิดไม่ถึงเลยว่าหลิวซินหมินจะพูดคำแบบนี้ออกมา “ผู้อำนวยการหลิว นี่คุณหมายความว่าอย่างไรครับ? ผมหวังหยงไม่มีคุณงามความดีแต่ก็ทำงานหนักมาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ผมถูกคนจนนี้ทุบต่อย แต่คุณกลับบอกว่าสมควร?” “หรือไม่สมควรล่ะ! แกลองคิดดูว่าแกทำอะไรลงไป แกได้ตรวจสอบความจริงแล้วหรือยัง? พวกเขาไม่ได้โกรธสุดขีด ลงมือทุบต่อยแก? แกทบทวนถึงสิ่งที่แกทำลงไป!” หลิวซินหมินดุเสียงดัง หวังหยงห
“หวังหยง นี่คือทัศนคติของคุณในการขอขมา? ตามกฏระเบียบของโรงพยาบาล สิ่งที่คุณทำลงไปทั้งหมดในตอนนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะถูกไล่ออก หากคำขอโทษของคุณไม่ทำให้คุณชายหลี่พอใจ ถ้าอย่างนั้นคุณก็เตรียมเก็บของแล้วไสหัวไปได้เลย” หลิวซินหมินไม่กล้าปกป้องหวังหยง หากหลี่โม่เข้าใจผิด หลิวซินหมินก็จะถูกเด้งจากตำแหน่งผู้อำนวยการในไม่กี่นาที ในใจหวังหยงตกใจมาก คิดไม่ถึงว่าหลิวซินหมินถึงกับช่วยหลี่โม่พูดแบบนี้ เมื่อคิดไตร่ตรองถึงตำแหน่งหัวหน้าแผนก นึกถึงค่าคอมมิชชันยา นึกถึงทุกอย่างที่เภสัชยาเต็มใจอุทิศให้ หวังหยงก็ตัดสินใจกัดฟันและก้มหน้าลง “ผมตระหนักถึงความผิดของตัวเองอย่างสุดซึ้ง ผมไม่ควรปกป้องญาติโดยไม่คำนึงถึงครอบครัว ผมหุนหันพลันแล่นและทำผิดพลาดครั้งใหญ่ ทำให้ภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลของเราเสื่อมเสีย ต่อไปนี้ผมจะชดใช้ให้อย่างแน่นอน ขอให้คุณชายหลี่ยกโทษให้ผมด้วย ให้โอกาสผมได้ปรับปรุงตัวใหม่ด้วยครับ” หลังจากที่หวังหยงพูดจบเขาก็มองไปที่หวังหลิงและในแววตาของเขาก็ปรากฏความวิงวอน หากหวังหลิงยังคงสร้างปัญหาต่อไป หวังหยงย่อมไม่มีผลดีอย่างแน่นอน หวังหลิงรู้สึกกลัวเล็กน้อย สาเหตุหลักมาจากการที่ผู้อำนวยกา
กู้หยุนหลานมองไปที่หลี่โม่และซีซีอย่างเงียบ ๆ จากนั้นใบหน้าเธอก็ปรากฏรอยยิ้มอย่างมีความสุข กู้หยุนหลานซึ่งอยู่ในอารมณ์ที่ผ่อนคลาย รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ผ่อนคลายและมีความสุขอย่างนี้มานานแล้ว หลี่โม่อุ้มซีซีแล้วเดินไปข้างกู้หยุนหลาน "ซีซี หนูดูซิคุณแม่สวยไหม?" “คุณแม่สวย คนที่สวยที่สุดในโลกก็คือคุณแม่ เดี๋ยวหนูโตแล้วจะสวยเหมือนคุณแม่” ซีซีพิงบนไหล่ของกู้หยุนหลาน แขนทั้งสองข้างของเธอโอบไว้รอบคอของกู้หยุนหลาน และมองกู้หยุนหลานอย่างร่าเริง กู้หยุนหลานแตะจมูกของซีซีเล็กน้อย "ลูกนี่ฉลาดเจ้าเล่ห์จริง ๆ เลย ช่างรู้จักพูดจา" “คุณแม่คะ หนูอยากกินของอร่อย อยากกินไอศกรีมค่ะ” ซีซีพูดอ้อน กู้หยุนหลานหัวเราะแล้วยื่นมือออกมา จากนั้นก็อุ้มซีซีจากอ้อมแขนของหลี่โม่ "ไปกันเถอะ แม่จะพาลูกไปกินของอร่อย ๆ นะ" “ถ้าอย่างนั้นพวกคุณไปก่อนเลย ผมจะไปพบผู้อำนวยการหลิวเพื่อจัดการเรื่องการรักษาของแพทย์ประจำตัวคนใหม่ เจรจาสักครู่หนึ่ง” “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ คุณต้องสุภาพกับคุณหมอหน่อยนะคะ” กู้หยุนหลานเตือนสติ ตอนแรกเธออยากถามว่าเรื่องเมื่อสักครู่นี้เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร แต่ถูกหลี่โม่ขัดจังหวะและลืมไ
จางลี่รีบไปโรงพยาบาลอย่างร้อนรน เมื่อเห็นรอยตบบนใบหน้าของหวังหลิงและรอยจมูกฟกช้ำและใบหน้าบวมเป่งของพี่ชายเธอ ทันใดนั้นไฟโทสะก็ลุกโชนขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดโทรออกหมายเลขโทรศัพท์ของหลิวซินหมิน จางลี่ตะโกนว่า "หลิวซินหมิน! นี่แกตาบอดไปแล้วใช่ไหม?" “ประธานจาง คุณหมายความว่าอย่างไร? ผมเหล่าหลิวทำอะไรผิด?” หลิวซินหมินถามด้วยความสงสัย “ให้ตายเถอะ! สุนัขแก่อย่างแกเสแสร้งได้เนียนมาก ภรรยาของฉันคือหวังหลิง พี่ชายใหญ่ของฉันคือหวังหยง และลูกชายของฉันคือจางเหิง! เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา แกไม่รู้เหรอ!” หลิวซินหมินสั่นสะท้านไปทั้งตัว ทันใดนั้นก็ร้องคร่ำครวญในใจอย่างขมขื่น คิดไม่ถึงว่าหวังหยงจะมีความสัมพันธ์เส้นสายที่ใหญ่แบบนี้ แค่ดูจากท่าทีโกรธจัดของจางลี่ เกรงว่าเรื่องคงจะไม่จบดีแล้ว! หลิวซินหมินร้อนรนอย่าสุดขีด ในขณะนั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ด้านหนึ่งคือนายน้อยแห่งแดนมังกร อีกด้านคือรองประธานสหพันธ์การแพทย์ที่ดูแลโรงพยาบาลของพวกเขา ทั้งสองคนต่างเป็นคนที่ไม่สามารถล่วงเกินได้ “ประธานจางใจเย็น ๆ ก่อน มันต้องมีความเข้าใจผิดบางอย่าง...” "เข้าใจผิดบ้านแกสิ! อันธพาลที่รังแก
เมื่อเห็นหลิวซินหมินและหลี่โม่พูดคุยกัน จางลี่ก็แหงนหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ผู้อำนวยการหลิว แกยังจะพูดไร้สาระอะไรกับมันอีก รีบให้คนมาจับมันไว้ เปลื้องเสื้อผ้ามันออกให้หมดแล้วมัดไว้ แล้วไปตามหาเมียกับลูกสาวมันมาให้ได้” “คนที่กล้าทำให้คนในครอบครัวจางลี่อับอาย ฉันจะทำให้มันไม่สามารถพลิกชีวิตได้อีก ให้พวกเขาแบกรับความอับอายไปตลอดชีวิต ฉันจะถ่ายรูปและบันทึกวิดีโอไว้ ให้พวกมันเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้!” จางลี่กล่าวว่าชั่วร้ายอย่างยิ่ง เมื่อหลิวซินหมินได้ยินอย่างนั้นก็หวาดหลัวทันใด เป็นไปตามที่คาดไว้ ภายในอุตสาหกรรมต่างกล่าวว่า จางลี่เป็นคนที่ไม่สามารถล่วงเกินได้ ผู้ชายคนนี้เลวทรามไม่มีใครเทียบจริง ๆ “คุณดูค่อนข้างเป็นคนสร้างสรรค์ดีนี่ ดูเหมือนว่าอีกเดี๋ยวคุณก็จะได้ลองประสบการณ์ดี ๆ แล้ว” หลี่โม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม จางลี่ขมวดคิ้วแน่นและรู้สึกว่าหลี่โม่กำลังเยาะเย้ยตัวเอง “แกยังจะไม่คุกเข่าลงแล้วเปลื้องผ้าตัวเอง อีกเดี๋ยวฉันเรียกคนมา ก็จะไม่สุภาพกับแกแบบนี้แล้ว ฉันจะนับถอยหลังสิบ “สิบ เก้า แปด...” สีหน้าชั่วร้ายของจางลี่กำลังนับเลขถอยหลัง หลี่โม่ยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาจางลี่ ใบหน
เมื่อมีคำสั่งจากหลิวซินหมิน หัวหน้าถงก็นำบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพุ่งเข้าไปหาจางลี่และคนอื่น ๆ ราวกับเสือที่ดุร้าย จางลี่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนกดลงบนกำแพง รู้สึกเหมือนกับว่าสมองเขากำลังดังขึ้นวิ้ง ๆ คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าทำไมหลิวซินหมินถึงกล้าขนาดนี้ “ผู้อำนวยการหลิว คุณช่างกล้ามาก! น้องเขย นายรีบตำหนิเขาสิ แล้วให้รปภ.พวกนี้ปล่อยฉัน ฉันเจ็บหน้ามาก!” หวังหยงถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งกดที่ด้านหลังศีรษะของเขาและใบหน้าทั้งหน้าของเขาถูกกดเข้ากับผนังอย่างแน่น แก้มที่บวมช้ำที่ถูกหลี่โม่ต่อยก่อนหน้านี้ถูกแนบชิดกับกำแพงอย่างแน่น และมันถูกบีบจนเจ็บปวดมากขึ้น สภาพของหวังหลิงก็ไม่ค่อยดีนัก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนคว้าแขนของหวังหลิงแล้วบิดกลับ เจ็บจนหวังหลิงตะโกนโอ๊ย โอ๊ย “โอ๊ย มันเจ็บนะ พวกคนชั่วนี่รีบปล่อยฉันนะ สามีรีบมาช่วยฉันด้วย ช่วยฉันด้วย!” จางลี่จ้องหลิวซินหมินด้วยความโกรธ แล้วตะโกนว่า "หลิวซินหมิน แกนี่มันช่างใจกล้าบ้าบิ่นเกินไปแล้ว ถึงกับกล้าสั่งให้คนลงมือกับฉัน ฉันจะบอกอะไรให้นะ ฉันจะรื้อถอนโรงพยาบาลของแก!" “ประธานจาง ผมพูดกับคุณดี ๆ
ประธานหลี่เหลือบมองจางลี่ราวกับว่าเขามองอากาศธาตุ และไม่ได้สนใจจางลี่เลยสักนิด เมื่อเห็นประธานจางเดินผ่านตัวเองไปโดยไม่แม้แต่จะสนใจเลยสักนิด ในใจของจางลี่ก็จมลงสู่ก้นบึ้ง ประธานหลี่ไม่ได้มาเพื่อตัวเขาเองหรือ? เป็นไปได้ไหมว่ายาจกนี่เรียกประธานหลี่มา? เป็นไปได้ไหมว่า... จางลี่ไม่กล้าคิดเรื่องต่อไปจากนี้แล้ว จางลี่ที่ตื่นตระหนกก็ดิ้นรนเอื้อมมือทั้งสองออกมา แล้วคว้ากางเกงของประธานหลี่ไว้ ประธานหลี่ที่ถูกดึงกางเกงรั้งไว้ก็หยุดฝีเท้า แล้วหันไปมองจางลี่ด้วยสายตาที่มืดมิด “ปล่อย เร็วเข้า!” “ท่านประธานหลี่ ช่วยผมด้วยเถอะครับ จากนี้ไปผมจะร่วมมือทำงานกับท่านอย่างเต็มที่ และจะฟังท่านทุกอย่าง ขอเพียงแค่ท่านช่วยเราด้วย!” จางลี่อ้อนวอนอย่างขมขื่น “แกรนหาที่ตายด้วยตัวเองนี่ อย่ามากวนฉัน แกเป็นแค่รองประธานห่วย ๆ เท่านั้น แกต้องอ่อนน้อม! แกคิดว่าแกเป็นอันดับหนึ่งในเมืองฮั่นงั้นเหรอ? แม้แต่อันดับหนึ่งในเมืองฮั่นก็ลงจากตำแหน่งแล้ว เป็นคนต้องรู้จักถ่อมตน" ประธานหลี่รู้สึกรำคาญจางลี่สุด ๆ ล่วงเกินใครไม่ล่วงเกิน แต่กลับไปล่วงเกินคนที่มีอิทธิพลล้นฟ้าอย่างคุณชายหลี่ “นี่มันเกิดเรื่องอะไรข