“ยังพูดถึงลูกชายของคุณอีก คุณเพิ่งพูดว่าไล่เจียงหยางออกจากบ้านแล้วไม่ให้เหรอ เมื่อกี้พูดยังไง ตอนนี้ก็ทำอย่างนั้น อย่าพูดอย่างทำอย่าง ไม่อย่างนั้น… อะแฮ่ม ผมคิดว่านายน้อยแห่งแดนมังกรผู้นี้โหดเหี้ยมใช้ได้เลยนะ” ประธานจางยิ้มอย่างเย็นชา เจียงเฉิงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เหลือบมองไปที่เจียงหยางซึ่งนอนสลบอยู่บนพื้น จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วส่งข้อความหาครอบครัวของเขาเพื่อขอให้จัดการกับการไล่เจียงหยาง ไม่เพียงแต่จะไล่เจียงหยางออกจากตระกูลเจียงเท่านั้น แต่จะส่งเจียงหยางไปยังสถานที่ห่างไกลอีกด้วย จะให้เจียงหยางมาขวางตานายน้อยไม่ได้ ในบิลเลียนท์ฮอลล์ ประธานหวงวิ่งเหยาะ ๆ ไปหาหลี่โม่ และช่วยหลี่โม่ลากเก้าอี้ที่นั่งหลักอย่างหน้าระรื่น “นายน้อย เชิญนั่งครับ” ใบหน้าประธานหวงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และมีอัธยาศัยดี "อืม ขอบคุณครับ" หลี่โม่นั่งลงพร้อมกล่าว ในใจประธานหวงเต็มไปด้วยความสุขเปี่ยมล้น “นายน้อยเชิญพักผ่อนสักครู่ เหล่าจาง พวกคุณดูแลนายน้อยดี ๆ” ประธานหวงขยิบตาให้ประธานจาง จากนั้นเขาก็จัดเสื้อผ้าเรียบร้อย แล้วเดินออกจากห้องโถง เหล่าคนดัง และเศรษฐีที่อยู่นอกห้องโถงต่างล
“ขออภัยครับนายน้อย” หวงฝูชิ่งกล่าวเสียงดัง บรรดาเซเลปเศรษฐีต่างรีบก้มหัวโค้งคำนับ และพูดพร้อมเพรียงกันว่า “เราผิดไปแล้ว และเราขออภัยอย่างจริงใจต่อนายน้อย” หลี่โม่นั่งที่นั่งหลัก มองดูกลุ่มคนโค้งคำนับและขอโทษอย่างสุภาพ ทำให้เขารู้สึกเดจาวู ภาพตรงหน้าราวกับเหล่าข้าราชบริพารถวายความเคารพเข้าเฝ้าราชวงศ์ “เอาเถอะ หยุดเรื่องไร้สาระพวกนี้ได้แล้ว เรามาเริ่มงานเลี้ยงอาหารค่ำกันเถอะ” หลี่โม่พูดอย่างใจกว้าง “ขอบคุณนายน้อย” หลังจากที่บรรดาเซเลปลูกเศรษฐีพูดขอบคุณ ในใจพวกเขาก็รู้สึกซาบซึ้งเล็กน้อยกับมหาเศรษฐีหนุ่มลึกลับที่สวมหน้ากาก ความรู้สึกเหมือนได้รับการอภัยหลังจากทำผิดพลาด หวงฝูชิ่งโบกมือ และบรรดาเซเลปเศรษฐีก็กระจัดกระจายไปรอบ ๆ มองหาที่นั่งและนั่งลง วงดนตรีก้าวขึ้นไปบนเวที เสียงเพลงไพเราะถูกบรรเลง บริกรเดินเข้ามา ในมือนำอาหารและเครื่องดื่มชั้นเลิศที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ ๆ งานเลี้ยงอาหารค่ำก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ หัวหน้าเชฟของภัตตาคารอาคารไห่เยี่ยนสวมเครื่องแบบพิเศษที่เขาไม่ได้สวมใส่มาเป็นเวลานาน ได้นำกลุ่มศิษย์ฝึกหัดแล้วเดินไปที่โต๊ะของหลี่โม่พร้อมกับปีกนกนางแอ่นที่ปรุงสดใหม่
เมื่อมองไปที่สายตาของกู้ชิงหลิน mujเอาแต่มองไปที่มหาเศรษฐีลึกลับซึ่งนั่งอยู่ที่นั่งหลัก หลายคนที่เชิญกู้ชิงหลินต่างก็รู้ตัวและถอยกลับ กู้ชิงหลินกำลังสังเกตหลี่โม่ที่สวมหน้ากาก และเมื่อเธอเห็นคนดังหลายคนที่ไปเชิญเขาต่างก็กินแห้วกลับมา กู้ชิงหลินก็รู้สึกกดดันมาก “หรือว่าเขาไม่สนใจผู้หญิง? ฉันแทบจะไม่อยากเชื่อ” เมื่อเห็นว่างานเลี้ยงอาหารค่ำใกล้จะสิ้นสุดแล้ว กู้ชิงหลินก็ลุกขึ้นและเดินไปหาหลี่โม่ เธอตัดสินใจลองดูสักตั้ง คงน่าเสียดายที่พลาดโอกาสนี้ไป เข้าไปยืนอยู่ข้าง ๆ หลี่โม่ที่สวมหน้ากาก กู้ชิงหลินส่ายร่างกายที่มีเสน่ห์นี้เบา ๆ หวงฝูชิ่งและคนอื่น ๆ ต่างก็รู้สึกเลือดร้อนพลุ่งพล่านเล็กน้อย “นายน้อย ฉันอยากชวนคุณไปเต้นรำด้วยกัน” กู้ชิงหลินพูดอย่างนุ่มนวล น้ำเสียงหวานคูณสาม หลี่โม่ไม่เคยเห็นกู้ชิงหลินเป็นแบบนี้มาก่อน และยิ่งไม่เคยได้ยินเสียงที่นุ่มนวลของกู้ชิงหลิน ในอดีตกู้ชิงหลินดูเหมือนผู้หญิงที่ชั่วร้ายต่อหน้าหลี่โม่ เขามองไปที่กู้ชิงหลินด้วยสายตาที่ขี้เล่น หลี่โม่ก็พูดอย่างสนุกสนานว่า “เธอคิดว่า เธอคู่ควรไหม...” กู้ชิงหลินตกตะลึงชั่วครู่ รู้สึกอับอายขายหน้าในใจ! ก่อนหน
หวงต้าเผิงเหลือบมองไปที่กู้ชิงหลิน ในใจคิดว่าเขาควรพูดความจริงในเวลานี้ อย่างไรก็ตามกู้ชิงหลินก็ไม่เคยเห็นหัวตนซึ่งเป็นสมาชิกของตระก^ลหวงอยู่ในสายตา “คุณกู้ชิงหลินเป็นที่รู้สักกันดีใยแวดวงสังคม เท่าที่ผมทราบ เธอเคยออกเดตกับเศรษฐีเจ็ดแปดคน ผมไม่รู้อะไรมากไปกว่านี้ เธอและเพื่อนสนิทของเธอพึ่งพาความงามเพื่อให้เศรษฐีเลี้ยงดูตัวเอง” คำพูดของหวงต้าเผิงราวกับสายฟ้าที่ระเบิดในใจของกู้ชิงหลิน ในตอนนี้กู้ชิงหลินรู้สึกเหมือนกับโดนจับแก้ผ้าไปประจานต่อหน้าผู้คน ‘แนะนำคนอื่นแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?’ ‘แกกำลังแนะนำชีวิตของฉันเหรอ?’ ‘แกควรบอกว่าฉันโดดเด่น และมีเสน่ห์แค่ไหนสิ!’ กู้ชิงหลินตัวสั่นด้วยความโกรธ และน้ำตาแห่งความอับอายก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ โตมาขนาดนี้แล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้องเผชิญกับจุดจบ “หวงต้าเผิง! นายเกลียดฉัน! เพราะฉันเคยปฏิเสธนาย นายก็เลยแก้แค้นฉัน นายกำลังใส่ร้ายฉัน!” กู้ชิงหลินนิ้วชี้ไปที่หวงต้าเผิง พยายามปกป้องชื่อเสียงของตัวเอง “ชู่ว!” หวงต้าเผิงพูดอย่างดูถูกว่า “เธอแทบจะไม่ต่างอะไรกับจักรยานสาธารณะด้วยซ้ำ นี่เธอคิดว่าตัวเองเป็นนางฟ้านางธิดาจริง ๆ เหรอ? อย่างเธอย
"ครับ ครับ ผมทราบแล้ว" แม้ว่าหวงฝูชิ่งจะไม่เข้าใจ แต่เขาก็ยังแสร้งทำเป็นเข้าใจและสงสัยว่า เขาจะเชิญกู้ชิงหลินในครั้งต่อไปดีไหม ดูเหมือนว่านายน้อยจะชอบกู้ชิงหลินเพื่อความสนุกสนาน ตอนชำระหนี้แค้นถือว่าสนุก แต่หลังจากนั้นกลับว่างเปล่าเล็กน้อย หลี่โม่มองดูงานเลี้ยงอาหารค่ำอันยิ่งใหญ่ และพูดอย่างหมดความสนใจว่า “ผมเริ่มเหนื่อยนิดหน่อยแล้ว เหล่าหวง คุณช่วยเตรียมชุดให้ผมหน่อย” “ได้ครับ ผมจะไปเตรียมให้เดี๋ยวนี้” หวงฝูชิ่งหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาอย่างรวดเร็วและออกคำสั่งกับเลขานุการสองสามคำ จากนั้นก็ยืนขึ้นด้วยความเคารพ ก้าวถอยหลังหลี่โม่ครึ่งก้าว และนำทางหลี่โม่ หลี่โม่ถอดหน้ากากออก และสวมจีวองชี่รุ่นลิมิเต็ดอิดิชันจากเลขาฯในห้องพัก ออร่าของตัวเขาเปลี่ยนไปอย่างมากในชั่วพริบตา เขาเปลี่ยนจากภาพลักษณ์ระดับรากหญ้าเป็นหนุ่มเศรษฐี ใบหน้าของหวงฝูชิ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความชื่นชมว่า “นายน้อยช่างมีราศีสง่างามยิ่ง หลังจากสวมชุดนี้แล้ว ดูเหมือนนายน้อยโดยสมบูรณ์แบบ จากนี้ไปนายน้อยจะโบยบินขึ้นไปบนท้องฟ้า และเป็นผู้นำแดนมังกรเหมือนดวงอาทิตย์" “คุณช่างเป็นคนรู้จักพูด ไปบอกลางานเลี้ยงอาหา
หลี่โม่ได้ยินเสียงดุของกู้ชิงหลิน ปฏิกิริยาแรกของเขาดูเหมือนว่ายังโชคดีอยู่บ้าง เขามีไหวพริบที่ดี นอกจากนี้หวงฝูชิ่งก็ยังมีชุดเสื้อผ้าที่จะสับเปลี่ยนไม่อย่างนั้น หากยังใส่ชุดเมื่อกี้อยู่ เกรงว่าจะอธิบายได้ยากหลี่โม่หันหน้าไปมอง เขาเห็นกู้ชิงหลินที่กังวลและหงุดหงิด กำลังเดินไปพร้อมกับเพื่อนสาวสองสามคนด้วยความโกรธ“นายมาทำอะไรที่นี่?”กู้ชิงหลินกำลังหงุดหงิด ภายในใจของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ เธอกังวลว่าเธอไม่มีที่ให้ระบายความโกรธนี้!“ทำไมฉันจะอยู่ตรงนี้ไม่ได้ ก็บนถนนเขาไม่ให้คนไปยืนหนิ” หลี่โม่กล่าวอย่างใจเย็น“บนถนนเหรอ? นี่คือทางเข้าภัตตาคารไห่เยี่ยนนะ มันใช่ที่ของคนไร้ประโยชน์อย่างนายเหรอ? นายไม่สมควรอยู่ที่นี่! นายรู้สถานะคนที่เข้าออกสถานที่นี่หรือเปล่าเถอะ!”กู้ชิงหลินเต็มไปด้วยความโกรธ การเห็นหลี่โม่ ก็เหมือนกับเห็นที่สูบลม เธอพร้อมที่จะระบายความโกรธของเธอทั้งหมดออกไป“แค่ยืนอยู่บนถนน ฉันต้องสนใจสถานะใคร ๆ ด้วยเหรอ? นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ฉันไม่ได้เข้าไปในอาคารไห่เยี่ยนนั่น แต่ยังต้องมาใส่ใจอะไรมากขนาดนั้น”หลี่โม่ขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาเย็นชาเล็กน้อย พร้อมกับโต้กลับไปเห
หลี่โม่หยิบกระเป๋าถือขึ้นมา ค่อย ๆ เดินไปหากู้ชิงหลินและยื่นมันให้เธอเมื่อเห็นสภาพของหลี่โม่แล้ว กลุ่มเพื่อนสนิทก็หัวเราะเยาะกันยกใหญ่“ฮ่าฮ่าฮ่า ขยะจริง ๆ ไม่สู้เลย โชคดีนะเนี่ยที่นายยังมีความเป็นผู้ชายอยู่บ้าง ไม่งั้นฉันคงสงสัยว่านายได้ปลูกไอ้นั่นไว้หรือเปล่า”“ฉันเดาว่ากู้หยุนหลานคงจะมองไอ้เด็กไม่มีลูกบอลสองข้างนี่เป็นแค่เด็กรับส่งเท่านั้นแหละ ไม่อย่างนั้นทำไมผู้หญิงสวย ๆ แบบนั้นถึงมาอยู่กับขยะอย่างนี้ล่ะ”“ก็จริงนะ แล้วถึงเขาจะโดนสวมเขา แต่เขาก็ยังได้นอนกับกู้หยุนหลานด้วยนะ โชคดีอะไรอย่างนี้”ถ้าต่อว่าหลี่โม่แค่สองสามคำ หลี่โม่ก็ยังอดทนได้ แต่นี่คนเหล่านี้พูดถึงกู้หยุนหลานในทางลบ หลี่โม่จึงทนไม่ได้เมื่อมองดูความโกรธในดวงตาของหลี่โม่แล้ว กู้ชิงหลินก็ยิ้มอย่างเหยียดหยามและพูดว่า “นายไม่พอใจเหรอ? โอ้~ ฉันเข้าใจแล้วล่ะ นายไม่พอใจที่เราพูดถึงกู้หยุนหลานล่ะสิ”“เหอะ ๆ สิ่งที่เพื่อนฉันพูดก็ไม่มีอะไรผิดนะ กู้หยุนหลานทำกับนายเหมือนเด็กรับส่ง สัญญาร่วมมือที่เธอได้มานั่นก็เอาตัวเข้าแลกไม่ใช่เหรอ ภรรยาของนายขายตัวอยู่นอกบ้านเพื่อค่าคอม นายก็เลยเอาบ้างสินะ เป็นเด็กอาซ้อแลกกับเสื้อแบรนด
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของหวงฝูชิ่ง หลี่โม่ก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าหวงฝูชิ่งจะไล่ตามออกมาแบบนี้กู้ชิงหลินยังคงอยู่ข้าง ๆ หากการตะโกนเรียกหวงฝูชิ่ง สิ่งต่าง ๆ ก็จะยุ่งยากขึ้นพอหันศีรษะ หลี่โม่ก็มองไปที่หวงฝูชิ่งอย่างรวดเร็ว จากนั้นดวงตาของเขาก็มองไปทางกู้ชิงหลินหวงฝูชิ่งรู้สึกตกใจเล็ก ๆ ทันใดนั้นก็เข้าใจแล้วว่าเขาทำอะไรผิด เห็นได้ชัดว่านายน้อยเพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่เสียงตะโกนของเขาก็ยังไม่ได้เปิดเผยตัวตนของนายน้อยส่วนพวกผู้หญิงสองสามคนที่อยู่ข้าง ๆ ก็ดูเหมือนว่ามีกู้ชิงหลินที่เพิ่งถูกนายน้อยทำให้อับอายขายหน้า คาดว่านายน้อยกำลังสังเกตปฏิกิริยาของกู้ชิงหลิน หลังจากที่ทำให้ถูกขายหน้า ดังนั้นเขาจึงเดินออกมาคนเดียว...หวงฝูชิ่งถึงกับต้องแต่งฉากแย่ ๆ ขึ้นมา ทว่าก็ยังมีคนจำนวนมากที่มีรสนิยมแย่อยู่ ทั้งในแวดวงคนรวยและคนรุ่นใหม่ หวงฝูชิ่งยังเคยได้ยินเรื่องงานอดิเรกแปลก ๆ มามากมายอีกด้วยแม้ว่าหวงฝูชิ่งจะคิดอะไรมากมาย แต่เขาก็มีวิธีแก้ไขในพริบตา“คุณเห็นนายน้อยไหมครับ? พวกคุณเห็นนายน้อยที่สวมเสื้อผ้าธรรมดา เขาสวมหมวกไบเล่สีดำด้ว