หลี่โม่หยิบกระเป๋าถือขึ้นมา ค่อย ๆ เดินไปหากู้ชิงหลินและยื่นมันให้เธอเมื่อเห็นสภาพของหลี่โม่แล้ว กลุ่มเพื่อนสนิทก็หัวเราะเยาะกันยกใหญ่“ฮ่าฮ่าฮ่า ขยะจริง ๆ ไม่สู้เลย โชคดีนะเนี่ยที่นายยังมีความเป็นผู้ชายอยู่บ้าง ไม่งั้นฉันคงสงสัยว่านายได้ปลูกไอ้นั่นไว้หรือเปล่า”“ฉันเดาว่ากู้หยุนหลานคงจะมองไอ้เด็กไม่มีลูกบอลสองข้างนี่เป็นแค่เด็กรับส่งเท่านั้นแหละ ไม่อย่างนั้นทำไมผู้หญิงสวย ๆ แบบนั้นถึงมาอยู่กับขยะอย่างนี้ล่ะ”“ก็จริงนะ แล้วถึงเขาจะโดนสวมเขา แต่เขาก็ยังได้นอนกับกู้หยุนหลานด้วยนะ โชคดีอะไรอย่างนี้”ถ้าต่อว่าหลี่โม่แค่สองสามคำ หลี่โม่ก็ยังอดทนได้ แต่นี่คนเหล่านี้พูดถึงกู้หยุนหลานในทางลบ หลี่โม่จึงทนไม่ได้เมื่อมองดูความโกรธในดวงตาของหลี่โม่แล้ว กู้ชิงหลินก็ยิ้มอย่างเหยียดหยามและพูดว่า “นายไม่พอใจเหรอ? โอ้~ ฉันเข้าใจแล้วล่ะ นายไม่พอใจที่เราพูดถึงกู้หยุนหลานล่ะสิ”“เหอะ ๆ สิ่งที่เพื่อนฉันพูดก็ไม่มีอะไรผิดนะ กู้หยุนหลานทำกับนายเหมือนเด็กรับส่ง สัญญาร่วมมือที่เธอได้มานั่นก็เอาตัวเข้าแลกไม่ใช่เหรอ ภรรยาของนายขายตัวอยู่นอกบ้านเพื่อค่าคอม นายก็เลยเอาบ้างสินะ เป็นเด็กอาซ้อแลกกับเสื้อแบรนด
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของหวงฝูชิ่ง หลี่โม่ก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าหวงฝูชิ่งจะไล่ตามออกมาแบบนี้กู้ชิงหลินยังคงอยู่ข้าง ๆ หากการตะโกนเรียกหวงฝูชิ่ง สิ่งต่าง ๆ ก็จะยุ่งยากขึ้นพอหันศีรษะ หลี่โม่ก็มองไปที่หวงฝูชิ่งอย่างรวดเร็ว จากนั้นดวงตาของเขาก็มองไปทางกู้ชิงหลินหวงฝูชิ่งรู้สึกตกใจเล็ก ๆ ทันใดนั้นก็เข้าใจแล้วว่าเขาทำอะไรผิด เห็นได้ชัดว่านายน้อยเพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่เสียงตะโกนของเขาก็ยังไม่ได้เปิดเผยตัวตนของนายน้อยส่วนพวกผู้หญิงสองสามคนที่อยู่ข้าง ๆ ก็ดูเหมือนว่ามีกู้ชิงหลินที่เพิ่งถูกนายน้อยทำให้อับอายขายหน้า คาดว่านายน้อยกำลังสังเกตปฏิกิริยาของกู้ชิงหลิน หลังจากที่ทำให้ถูกขายหน้า ดังนั้นเขาจึงเดินออกมาคนเดียว...หวงฝูชิ่งถึงกับต้องแต่งฉากแย่ ๆ ขึ้นมา ทว่าก็ยังมีคนจำนวนมากที่มีรสนิยมแย่อยู่ ทั้งในแวดวงคนรวยและคนรุ่นใหม่ หวงฝูชิ่งยังเคยได้ยินเรื่องงานอดิเรกแปลก ๆ มามากมายอีกด้วยแม้ว่าหวงฝูชิ่งจะคิดอะไรมากมาย แต่เขาก็มีวิธีแก้ไขในพริบตา“คุณเห็นนายน้อยไหมครับ? พวกคุณเห็นนายน้อยที่สวมเสื้อผ้าธรรมดา เขาสวมหมวกไบเล่สีดำด้ว
กู้ชิงหลินเชิดหน้าขึ้นและเดินไปหาหลี่โม่ ส่วนกลุ่มเพื่อนสาวก็หัวเราะคิกคักคุยกันอยู่ข้าง ๆ กู้ชิงหลิน“ชิงหลิน รสนิยมของเธอไม่เหมือนใคร ดูเหมือนจะชอบเล่นเป็นเหยื่อนะ เธอชอบเป็นฝ่ายถูกกระทำไหม? ”“เหอะ ๆ ก็ขึ้นอยู่กับว่าถูกใครกระทำน่ะสิ ถ้าฉันโดนนายน้อยกระทำได้ ฉันจะพรีกายถวายตัวเลยค่ะ แต่ว่าโชคไม่ดีที่ฉันไม่มีโอกาสถูกนายกระทำด้วยซ้ำ”“ใช่เลย เมื่อดูมารยาทของหวงฝูชิ่งที่มีต่อนายน้อยแล้ว ถ้าเธอติดตามนายน้อยไปได้นะ เธอก็จะผงาดเป็นนางหงส์นางพญา ไม่ว่าจะถูกทำร้ายสักกี่ครั้ง ก็จะไม่มีวันตาย”เมื่อฟังคำพูดของเพื่อน ๆ กู้ชิงหลินอดไม่ได้ที่จะภูมิใจ ดูเหมือนว่ามันไม่ได้ถูกทำให้อับอาย แต่เป็นความบันเทิงอีกแบบหนึ่งต่างหากหลี่โม่เห็นว่ากู้ชิงหลินและเพื่อน ๆ ไม่ได้สงสัยแปลกใจอะไร พวกเธอถูกการแสดงที่ยอดเยี่ยมของหวงฝูชิ่งหลอกได้อย่างแนบเนียน ดังนั้นเขาจึงหันหลังกลับและเดินจากไป“หยุด! หลี่โม่เจ้าคนไร้ประโยชน์ มานี่ซิ”เสียงที่แหลมคมของกู้ชิงหลิน กระทบแก้วหูของหลี่โม่เท้าที่ก้าวอยู่หยุดทันที หลี่โม่พูดอย่างไม่อดทน “เดินแยกกันไปดี ๆ ไม่ได้หรือไง ทำไมต้องตามฉันไปทุกที่เลย?”“หืม ถนนนี้ก็ไม่ใช่
วันนี้เป็นวันเกิดของกู้เจี้ยนหมิน พ่อตาของหลี่โม่บ้านลูกชายคนรองของตระกูลกู้ ที่กำลังเริ่มเฉลิมฉลองด้วยดนตรีในตอนเช้าที่บ้านญาติมิตรมากันเยอะ บรรยากาศเริ่มคึกคักมากขึ้นพอใกล้เที่ยง รถ BMW X6 ก็ค่อย ๆ หยุดที่ประตูบ้านของกู้เจี้ยนหมินฮั๋วเจี้ยนเฟิงผลักประตูและลงจากรถ และทำท่าจัดแต่งชุดแบรนด์จีวองชี่ที่เขาสวมอยู่ให้เรียบร้อยนี่คือดีไซน์ล่าสุดของจีวองชี่ที่เปิดตัวในต่างประเทศ เป็นรุ่นที่เรียบง่ายของรุ่นลิมิเต็ดที่เปิดตัวในงานแฟชั่นโชว์ที่มิลาน ชุดนี้เพียงชุดเดียวมีราคาสูงถึงเกือบล้านบาทต่างประเทศ หากคุณซื้อในประเทศ ราคาจะเพิ่มยิ่งกว่าสองเท่าเขาเขย่าแขนเสื้อ พร้อมกับยกข้อมือขึ้น และมองดูนาฬิกา Rolex สีทองที่เขาใส่อยู่ จากนั้นฮั่วเจี้ยนเฟิงก็แสดงรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาทันทีแม้ว่า Rolex จะไม่ใช่นาฬิกาชั้นยอด แต่คนใหญ่คนโตในประเทศได้รับอิทธิพลจากแถบเซียงเจียง พวกเขาชอบนาฬิกา Rolex สีทองมาก เพราะบางทีแม้จะไม่รู้จักนาฬิกา Patek Philippe แต่พวกเขาจะต้องรู้จักนาฬิกา Rolex สีทองอย่างแน่นอนฮั่วเจี้ยนเฟิงที่กลับบ้านเกิดแล้ว ได้เตรียมตัวมาอย่างดีสำหรับวันนี้ แม้กระทั่งพิจารณาถึงรายละเอีย
กู้หยุนหลานนึกออกแล้วว่าฮั๋วเจี้ยนเฟิงคือใคร จากนั้นเธอก็ยิ้มและเปิดประตูให้ฮั๋วเจี้ยนเฟิงเข้ามาหวังฟางมองฮั๋วเจี้ยนเฟิงที่กำลังเข้าประตูมา ทำให้เธอรู้สึกอยากมีลูกเขยคนใหม่ทันทีในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ฮั๋วเจี้ยนเฟิงได้มอบของขวัญมากมายให้กับหวังฟาง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางต่างประเทศทุกชนิด เสื้อผ้าชื่อดังระดับนานาชาติ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ให้ด้วยใจทั้งสิ้นหวังฟางไม่ได้อาจเอาหลี่โม่ไปเปรียบเทียบกับฮั๋วเจี้ยนเฟิง เพราะเธอรู้สึกว่าหลี่โม่เป็นเพียงคนไร้ค่าคนหนึ่งลูกเขยไร้ค่าคนนี้ไม่ได้ให้อะไรกับหวังฟางมาหลายปีแล้ว“คุณป้าครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากใจของผม โปรดรับไว้ด้วยนะครับ”ฮั๋วเจี้ยนเฟิงถือของขวัญและมอบให้หวังฟาง จากนั้นเขาก็กะพริบตาให้กับหวังฟางปากแห่งความสุขของหวังฟางแทบหุบไม่อยู่ เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจี้ยนเฟิง เธอมาสักทีนะ แถมยังหอบของฝากมามากมาย คราวหลังไม่ต้องทำตัวสุภาพมากขนาดนี้ก็ได้จ้ะ”“เรื่องเล็กน้อยมากเลยครับ ราคาไม่ได้มากมายอะไรหรอกครับ พอดีผมได้ยินมาว่า วันนี้เป็นวันเกิดของคุณลุง ผมก็เลยถือโอกาสมาเยี่ยมสักหน่อยน่ะครับ จะได้ฉลองวันเกิดของคุณลุงด้วยเลย ผมจองภั
กู้หยุนหลานไม่ต้องการให้ฮั๋วเจี้ยนเฟิงพบหลี่โม่เอาเสียเลย แต่มีญาติและเพื่อน ๆ มากมายที่หลี่โม่ยังต้องออกมาพบกู้หยุนหลานกังวลจนหลับตาลง เกลียดชังความไร้ความสามารถของหลี่โม่อยู่ในใจ!แอ๊ดประตูห้องนอนเปิดออก และหลี่โม่ก็ออกมา พร้อมกับแต่งตัวอย่างเรียบร้อยฮั๋วเจี้ยนเฟิงมองดูเสื้อผ้าของหลี่โม่ ก็รู้สึกประหลาดใจ!นี้คือแฟชั่นลิมิเต็ดอิดิชั่นล่าสุดของจีวองชี่!ชุดนี้ของจิวองชี่มีแค่ 5 เซต มาอยู่บนตัวเขาเองเสียแล้ว!กู้หยุนหลานก็ตะลึง เมื่อเห็นหลี่โม่ เพราะเธอไม่เคยเห็นหลี่โม่ในด้านที่มีชีวิตชีวาแบบนี้มาก่อน หลี่โม่ไม่เคยแต่งตัวแบบนี้มาก่อน แถมเขายังไม่มีเสื้อผ้าที่เหมาะสมในการแต่งตัวอีกด้วยว้าว ว้าว ว้าวสายตาของบรรดาญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ต่างมองมาที่หลี่โม่ จากนั้นพวกเขาก็แปลกใจเล็กน้อยเมื่อมองไปที่หลี่โม่แม้แต่กู้เจี้ยนหมินและหวังฟาง หัวใจแทบจะออกมาเต้นข้างนอก ในที่สุดหลี่โม่ก็ยังพอไว้หน้าพวกเขาบ้าง“ฮ่าฮ่าฮ่า”เสียงหัวเราะของกู้ชิงหลิน ทำลายบรรยากาศที่เงียบสงบทันทีเสียงหัวเราะดึงทุกคนกลับมา และทุกคนก็มองไปที่กู้ชิงหลินพร้อมกันกู้ชิงหลินแสดงท่าทางเหมือนเคย เธอมองหลี่โม่อย
“คนไร้ค่าก็เป็นไร้ค่าอยู่วันยังค่ำ แถมยังใส่ของปลอมอีก คงจะน่าเสียดายแทนครอบครัวกู้นะโดยเฉพาะบ้านลูกชายคนรอง คงน่าเสียดายมากทีเดียว”ญาติ ๆ ของตระกูลกู้พากันพูดพึมพำ และทุกคนก็มองหลี่โม่อย่างดูถูกกู้หยุนหลานมองหลี่โม่อย่างช่วยไม่ได้ เธอเป็นคนกลาง ในขณะนั้นก็รู้สึกกังวลใจมากทีเดียวแม้จะเข้าใจว่าหลี่โม่ทำแบบนี้ก็เพื่อเธอ แต่เขาดันถูกเปิดโปงเสียแล้ว ทำให้กู้หยุนหลานโดนเยาะเย้ยและรู้สึกเศร้ามาก“หยุนหลาน เสื้อผ้าของผมเป็นของจริงนะ ไม่ใช่ของปลอม”หลี่โม่มองไปที่กู้หยุนหลานอย่างไม่สบายใจ ในใจของเขาตึงเครียดมาก ดังนั้นเขาจึงรีบจับมือของกู้หยุนหลานเอาไว้ พร้อมที่จะอธิบายให้กู้หยุนหลานได้รับฟัง“เหอะ ๆ คนไร้ค่าถูกเปิดโปงซะแล้วสิ นึกไม่ถึงว่าจะไม่กล้ายอมรับอีก ชุดนี้ราคาแพงแค่ไหน ใคร ๆ ก็รู้ คนจนแบบนายจ่ายไม่ไหวหรอก”“พี่ฮั๋วบอกว่าถ้าชุดนี้เป็นของแท้ ไม่เพียงแต่ต้องมีเงิน แต่ยังต้องมีสถานะด้วย แล้วเจ้าคนไร้ค่านี้มีสถานะอะไรกัน?”“หลี่โม่ นายอยู่ในรายชื่อคนรวย หรือนายอำนาจล้นฟ้างั้นเหรอ? หรูสุด นายก็เป็นได้แค่ผู้นำดูดส้วมเท่านั้นแหละ!”ภายใต้การนำของกู้ชิงหลิน บรรดาญาติ ๆ ของตระกูลกู้ก
หลี่โม่ยิ้มอ่อน ๆ ที่มุมปาก พร้อมกับกำลังจะพูดอะไรบางอย่างทันใดนั้น กู้หยุนหลานก็ขัดจังหวะเขา“หลี่โม่ คุณกำลังทำอะไรอยู่? คุณรอหย่ากับฉันหรือไง!”กู้หยุนหลานมองหลี่โม่อย่างโกรธจัด กู้หยุนหลานเข้าใจความหมายของหวังฟาง แต่กู้หยุนหลานไม่คิดหวังว่าหลี่โม่จะเห็นด้วยกับเงื่อนไขนั้นถ้าไปที่เคาน์เตอร์เพื่อยืนยันความถูกต้องล่ะก็ การที่หวังฟางเปิดเงื่อนไขให้หลี่โม่หย่าร้าง หลี่โม่ทำได้เพียงลงนามในข้อตกลงเท่านั้น!กู้หยุนหลานที่โกรธจัด จนรีบยกมือของเธอขึ้นและตบไปที่ใบหน้าของหลี่โม่ทันทีหลี่โม่มองดูการเคลื่อนไหวของกู้หยุนหลาน และค่อย ๆ หลับตาลง โดยคิดว่าเขาเป็นทุกอย่างให้กู้หยุนหลานได้ แต่ทำไมถึงได้จบลงแบบนี้หยุนหลานทำหน้าหงิกหน้างอ แต่นั่นกลับทำให้หยุนหลานถูกเยาะเย้ยไปพร้อมกันมือของหลี่โม่กำแน่น แม้ว่าความโกรธเกิดขึ้นในใจของเขา แต่การแสดงออกของหลี่โม่ก็ช่างสงบมาก สงบราวกับเป็นพระอย่างไรอย่างนั้นลมพัดกลิ่นหอมมาที่ใบหน้า และฝ่ามือของกู้หยุนหลาน ก็ประทับลงบนใบหน้าของหลี่โม่ในวินาทีสุดท้าย กู้หยุนหลานก็พยายามยั้งมือเอาไว้ แต่เธอไม่สามารถควบคุมเอาไว้ได้ ทำให้ยังตบไปโดนหน้าหลี่โม่อยู่ด