วันนี้เป็นวันเกิดของกู้เจี้ยนหมิน พ่อตาของหลี่โม่บ้านลูกชายคนรองของตระกูลกู้ ที่กำลังเริ่มเฉลิมฉลองด้วยดนตรีในตอนเช้าที่บ้านญาติมิตรมากันเยอะ บรรยากาศเริ่มคึกคักมากขึ้นพอใกล้เที่ยง รถ BMW X6 ก็ค่อย ๆ หยุดที่ประตูบ้านของกู้เจี้ยนหมินฮั๋วเจี้ยนเฟิงผลักประตูและลงจากรถ และทำท่าจัดแต่งชุดแบรนด์จีวองชี่ที่เขาสวมอยู่ให้เรียบร้อยนี่คือดีไซน์ล่าสุดของจีวองชี่ที่เปิดตัวในต่างประเทศ เป็นรุ่นที่เรียบง่ายของรุ่นลิมิเต็ดที่เปิดตัวในงานแฟชั่นโชว์ที่มิลาน ชุดนี้เพียงชุดเดียวมีราคาสูงถึงเกือบล้านบาทต่างประเทศ หากคุณซื้อในประเทศ ราคาจะเพิ่มยิ่งกว่าสองเท่าเขาเขย่าแขนเสื้อ พร้อมกับยกข้อมือขึ้น และมองดูนาฬิกา Rolex สีทองที่เขาใส่อยู่ จากนั้นฮั่วเจี้ยนเฟิงก็แสดงรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาทันทีแม้ว่า Rolex จะไม่ใช่นาฬิกาชั้นยอด แต่คนใหญ่คนโตในประเทศได้รับอิทธิพลจากแถบเซียงเจียง พวกเขาชอบนาฬิกา Rolex สีทองมาก เพราะบางทีแม้จะไม่รู้จักนาฬิกา Patek Philippe แต่พวกเขาจะต้องรู้จักนาฬิกา Rolex สีทองอย่างแน่นอนฮั่วเจี้ยนเฟิงที่กลับบ้านเกิดแล้ว ได้เตรียมตัวมาอย่างดีสำหรับวันนี้ แม้กระทั่งพิจารณาถึงรายละเอีย
กู้หยุนหลานนึกออกแล้วว่าฮั๋วเจี้ยนเฟิงคือใคร จากนั้นเธอก็ยิ้มและเปิดประตูให้ฮั๋วเจี้ยนเฟิงเข้ามาหวังฟางมองฮั๋วเจี้ยนเฟิงที่กำลังเข้าประตูมา ทำให้เธอรู้สึกอยากมีลูกเขยคนใหม่ทันทีในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ฮั๋วเจี้ยนเฟิงได้มอบของขวัญมากมายให้กับหวังฟาง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางต่างประเทศทุกชนิด เสื้อผ้าชื่อดังระดับนานาชาติ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ให้ด้วยใจทั้งสิ้นหวังฟางไม่ได้อาจเอาหลี่โม่ไปเปรียบเทียบกับฮั๋วเจี้ยนเฟิง เพราะเธอรู้สึกว่าหลี่โม่เป็นเพียงคนไร้ค่าคนหนึ่งลูกเขยไร้ค่าคนนี้ไม่ได้ให้อะไรกับหวังฟางมาหลายปีแล้ว“คุณป้าครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากใจของผม โปรดรับไว้ด้วยนะครับ”ฮั๋วเจี้ยนเฟิงถือของขวัญและมอบให้หวังฟาง จากนั้นเขาก็กะพริบตาให้กับหวังฟางปากแห่งความสุขของหวังฟางแทบหุบไม่อยู่ เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจี้ยนเฟิง เธอมาสักทีนะ แถมยังหอบของฝากมามากมาย คราวหลังไม่ต้องทำตัวสุภาพมากขนาดนี้ก็ได้จ้ะ”“เรื่องเล็กน้อยมากเลยครับ ราคาไม่ได้มากมายอะไรหรอกครับ พอดีผมได้ยินมาว่า วันนี้เป็นวันเกิดของคุณลุง ผมก็เลยถือโอกาสมาเยี่ยมสักหน่อยน่ะครับ จะได้ฉลองวันเกิดของคุณลุงด้วยเลย ผมจองภั
กู้หยุนหลานไม่ต้องการให้ฮั๋วเจี้ยนเฟิงพบหลี่โม่เอาเสียเลย แต่มีญาติและเพื่อน ๆ มากมายที่หลี่โม่ยังต้องออกมาพบกู้หยุนหลานกังวลจนหลับตาลง เกลียดชังความไร้ความสามารถของหลี่โม่อยู่ในใจ!แอ๊ดประตูห้องนอนเปิดออก และหลี่โม่ก็ออกมา พร้อมกับแต่งตัวอย่างเรียบร้อยฮั๋วเจี้ยนเฟิงมองดูเสื้อผ้าของหลี่โม่ ก็รู้สึกประหลาดใจ!นี้คือแฟชั่นลิมิเต็ดอิดิชั่นล่าสุดของจีวองชี่!ชุดนี้ของจิวองชี่มีแค่ 5 เซต มาอยู่บนตัวเขาเองเสียแล้ว!กู้หยุนหลานก็ตะลึง เมื่อเห็นหลี่โม่ เพราะเธอไม่เคยเห็นหลี่โม่ในด้านที่มีชีวิตชีวาแบบนี้มาก่อน หลี่โม่ไม่เคยแต่งตัวแบบนี้มาก่อน แถมเขายังไม่มีเสื้อผ้าที่เหมาะสมในการแต่งตัวอีกด้วยว้าว ว้าว ว้าวสายตาของบรรดาญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ต่างมองมาที่หลี่โม่ จากนั้นพวกเขาก็แปลกใจเล็กน้อยเมื่อมองไปที่หลี่โม่แม้แต่กู้เจี้ยนหมินและหวังฟาง หัวใจแทบจะออกมาเต้นข้างนอก ในที่สุดหลี่โม่ก็ยังพอไว้หน้าพวกเขาบ้าง“ฮ่าฮ่าฮ่า”เสียงหัวเราะของกู้ชิงหลิน ทำลายบรรยากาศที่เงียบสงบทันทีเสียงหัวเราะดึงทุกคนกลับมา และทุกคนก็มองไปที่กู้ชิงหลินพร้อมกันกู้ชิงหลินแสดงท่าทางเหมือนเคย เธอมองหลี่โม่อย
“คนไร้ค่าก็เป็นไร้ค่าอยู่วันยังค่ำ แถมยังใส่ของปลอมอีก คงจะน่าเสียดายแทนครอบครัวกู้นะโดยเฉพาะบ้านลูกชายคนรอง คงน่าเสียดายมากทีเดียว”ญาติ ๆ ของตระกูลกู้พากันพูดพึมพำ และทุกคนก็มองหลี่โม่อย่างดูถูกกู้หยุนหลานมองหลี่โม่อย่างช่วยไม่ได้ เธอเป็นคนกลาง ในขณะนั้นก็รู้สึกกังวลใจมากทีเดียวแม้จะเข้าใจว่าหลี่โม่ทำแบบนี้ก็เพื่อเธอ แต่เขาดันถูกเปิดโปงเสียแล้ว ทำให้กู้หยุนหลานโดนเยาะเย้ยและรู้สึกเศร้ามาก“หยุนหลาน เสื้อผ้าของผมเป็นของจริงนะ ไม่ใช่ของปลอม”หลี่โม่มองไปที่กู้หยุนหลานอย่างไม่สบายใจ ในใจของเขาตึงเครียดมาก ดังนั้นเขาจึงรีบจับมือของกู้หยุนหลานเอาไว้ พร้อมที่จะอธิบายให้กู้หยุนหลานได้รับฟัง“เหอะ ๆ คนไร้ค่าถูกเปิดโปงซะแล้วสิ นึกไม่ถึงว่าจะไม่กล้ายอมรับอีก ชุดนี้ราคาแพงแค่ไหน ใคร ๆ ก็รู้ คนจนแบบนายจ่ายไม่ไหวหรอก”“พี่ฮั๋วบอกว่าถ้าชุดนี้เป็นของแท้ ไม่เพียงแต่ต้องมีเงิน แต่ยังต้องมีสถานะด้วย แล้วเจ้าคนไร้ค่านี้มีสถานะอะไรกัน?”“หลี่โม่ นายอยู่ในรายชื่อคนรวย หรือนายอำนาจล้นฟ้างั้นเหรอ? หรูสุด นายก็เป็นได้แค่ผู้นำดูดส้วมเท่านั้นแหละ!”ภายใต้การนำของกู้ชิงหลิน บรรดาญาติ ๆ ของตระกูลกู้ก
หลี่โม่ยิ้มอ่อน ๆ ที่มุมปาก พร้อมกับกำลังจะพูดอะไรบางอย่างทันใดนั้น กู้หยุนหลานก็ขัดจังหวะเขา“หลี่โม่ คุณกำลังทำอะไรอยู่? คุณรอหย่ากับฉันหรือไง!”กู้หยุนหลานมองหลี่โม่อย่างโกรธจัด กู้หยุนหลานเข้าใจความหมายของหวังฟาง แต่กู้หยุนหลานไม่คิดหวังว่าหลี่โม่จะเห็นด้วยกับเงื่อนไขนั้นถ้าไปที่เคาน์เตอร์เพื่อยืนยันความถูกต้องล่ะก็ การที่หวังฟางเปิดเงื่อนไขให้หลี่โม่หย่าร้าง หลี่โม่ทำได้เพียงลงนามในข้อตกลงเท่านั้น!กู้หยุนหลานที่โกรธจัด จนรีบยกมือของเธอขึ้นและตบไปที่ใบหน้าของหลี่โม่ทันทีหลี่โม่มองดูการเคลื่อนไหวของกู้หยุนหลาน และค่อย ๆ หลับตาลง โดยคิดว่าเขาเป็นทุกอย่างให้กู้หยุนหลานได้ แต่ทำไมถึงได้จบลงแบบนี้หยุนหลานทำหน้าหงิกหน้างอ แต่นั่นกลับทำให้หยุนหลานถูกเยาะเย้ยไปพร้อมกันมือของหลี่โม่กำแน่น แม้ว่าความโกรธเกิดขึ้นในใจของเขา แต่การแสดงออกของหลี่โม่ก็ช่างสงบมาก สงบราวกับเป็นพระอย่างไรอย่างนั้นลมพัดกลิ่นหอมมาที่ใบหน้า และฝ่ามือของกู้หยุนหลาน ก็ประทับลงบนใบหน้าของหลี่โม่ในวินาทีสุดท้าย กู้หยุนหลานก็พยายามยั้งมือเอาไว้ แต่เธอไม่สามารถควบคุมเอาไว้ได้ ทำให้ยังตบไปโดนหน้าหลี่โม่อยู่ด
ฮั๋วเจี้ยนเฟิงเหลือบมองหลี่โม่ที่กำลังอับอาย พร้อมแอบเยาะเย้ย จากนั้นเปิดประตู BMW X6 และเชิญกู้เจี้ยนหมิน และภรรยาของหลี่โม่ขึ้นรถอย่างกระตือรือร้น“หยุนหลาน ดูซิว่าฮั๋วเจี้ยนเฟิงหล่อแค่ไหน เขากลับมาแล้ว เขาเคยทำงานต่างประเทศด้วยนะ ตอนนี้เขาเป็นเจ้านายของบริษัทการลงทุน ลูกเขยที่รักช่างดีอะไรอย่างนี้ ฟังแม่นะ แกหย่ากับเจ้าคนไร้ค่านั่นเถอะ อย่ามัวชักช้าต่อไปเลย”หวังฟางเกลี้ยกล่อมกู้หยุนหลานอย่างสุภาพ“แม่คะ อย่าพูดอีกเลยค่ะ พวกเราแต่งงานกันมาสี่ปีแล้ว แล้วเขาเป็นพ่อของซีซี”กู้หยุนหลานเม้มริมฝีปากและมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นร่างของหลี่โม่ “หลี่โม่ล่ะ?”เมื่อกี้เขายังอยู่ตรงนี้อยู่เลย ไปไหนแล้วล่ะ“ทำไมแกถึงดื้อแบบนี้ ยังจะนึกถึงมันอยู่อีก ลืมสิ่งที่แม่เพิ่งพูดไปแล้วเหรอ?!”หวังฟางกระทืบเท้าอย่างกังวล“หนูจะไปหาหลี่โม่ พวกแม่ไปก่อนเถอะ”กู้หยุนหลานหันหลังและเดินกลับ โดยไม่สนใจเสียงตะโกนของหวังฟางแม้แต่น้อยฮั๋วเจี้ยนเฟิงพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “คุณลุงกับคุณป้าขึ้นรถก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมจะไปส่งที่นั่นก่อน แล้วจะกลับมารับหยุนหลาน ปล่อยให้พวกเราคุยกันเป็นการส่วนตัวดีกว่าครับ”“พวกวั
เมื่อได้ฟังคำพูดของญาติพี่น้องตระกูลกู้ ฮั๋วเจี้ยนเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะอวดดีขึ้นมา จนอยากจะตะโกนดัง ๆ ออกมาว่า นี่คือห้องVIPที่ตนจองมาได้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตนก็เป็นคนจ่าย!ถึงแม้จะอิงจากรายรับของฮั๋วเจี้ยนเฟิง ค่าใช้จ่ายต่ำสุดขอห้องVIPชั้นบนสุด ก็ยังสูงถึงสิบล้าน ถือว่าเจ็บปวดใจไม่น้อยแต่เพื่อที่จะได้อุ้มสาวงามกลับไปเชยชม ฮั๋วเจี้ยนเฟิงก็ยอมเทหมดหน้าตัก ฮั๋วเจี้ยนเฟิงซึ่งเรียนทางด้านการเงินมานั้น เข้าใจดีว่า มีเพียงการลงทุนที่สูงเท่านั้นถึงจะได้ผลตอบแทนที่สูงเช่นกันกู้ชิงหลินมองดูความหล่อเหลาภายนอกของฮั๋วเจี้ยนเฟิง แล้วหันมองห้องVIPที่ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำสุดสิบล้าน ก็รู้สึกปวดใจจนพูดไม่ออกหากไม่เกิดเรื่องที่ภัตตาคารอาหารไห่เยี่ยนขึ้น กู้ชิงหลินเองก็ยังไม่ชอบหน้าฮั๋วเจี้ยนเฟิงนักทว่าช่วงนี้ทายาทเศรษฐีพวกนั้นล้วนไม่มีใครสนใจกู้ชิงหลิน ทำให้กู้ชิงหลินรู้สึกไร้ซึ่งชีวิตที่หรูหราเมื่อชายตามองฮั๋วเจี้ยนเฟิงที่จบการศึกษาจากต่างประเทศกลับมาอย่างโดดเด่น อีกทั้งยังไม่รังเกียจกู้หยุนหลานที่แต่งงานมีลูกแล้ว ยังคอยตามจีบไม่หยุด กู้ชิงหลินจึงเกิดความหดหู่ใจขึ้นมาหากคืนนั้นที่ภัตตาคารอาหารไห่เ
กู้ซิ่งเหว่ยคิดอยากซื้อกระเป๋าหนังจระเข้สยามสักใบมาตลอด แต่เมื่อเห็นว่ามีมูลค่าหลายแสน เขาก็ได้แต่หวังแต่กลับไม่กล้าซื้อ“คุณลุงกู้ ผมมาอย่างเร่งรีบ ไม่เตรียมของขวัญชิ้นพิเศษอะไรมา ก็เลยทำได้เพียงเตรียมของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ขอให้คุณลุงกู้อภัยด้วยครับ”ฮั๋วเจี้ยนเฟิงเอ่ยอย่างสุภาพจบ จากนั้นจึงนำกล่องสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินเข้มขนาดไม่ใหญ่นัก วางลงที่ด้านหน้าของกู้เจี้ยนหมินกล่องสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินเข้มดูเรียบง่าย และไม่มีความหรูหราเลยแม้แต่น้อยพวกของกู้ชิงหลินมองไปที่กล่องใบนั้น ต่างรู้สึกสงสัยเล็กน้อย รู้สึกว่าแม้แต่เงินสิบล้าน ฮั๋วเจี้ยนเฟิงก็ยอมควักออกมาแล้ว แต่ทำไมพอถึงช่วงเวลาสำคัญที่จะมอบของขวัญให้กู้เจี้ยนหมิน กลับคาดไม่ถึงว่าจะหยิบเพียงกล่องเรียบ ๆ กล่องหนึ่งออกมา ช่างไม่สอดคล้องกับบรรยากาศในตอนนี้เลยหวังฟางขมวดคิ้ว แล้วหันกลับไปมองฮั๋วเจี้ยนเฟิงที่มีสีหน้ายิ้มแย้มฮั๋วเจี้ยนเฟิงหัวเราะพลางพูดว่า “คุณลุงกู้ลองเปิดดูสักหน่อยสิครับว่าพอใจไหม”กู้เจี้ยนหมินพยักหน้าเล็กน้อย ในใจคิดว่า ฮั๋วเจี้ยนเฟิงสามารถจองห้องVIPชั้นหนึ่งของห้องอาหารกวานเหรินมาได้ ก็ทำให้ตนเองมีหน้ามีตาแล้ว ถึง