แชร์

บทที่ 18

ในขณะนี้หรงปินเดินออกจากอาคารของหรงคังกรุ๊ป มีรถ Bentley สีดำคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูพร้อมกับการ์ดชุดดำท่าทีจริงจังหลายสิบคนอยู่ข้าง ๆ

ถ้าคนอื่นเห็นต้องตื่นตระหนกแน่นอน!

หรงปินประธานหรงคังกรุ๊ปออกมาแล้ว!

มีกี่คนที่ร้องขอให้พบกับประธานหรงหรงคังกรุ๊ปแห่งเมืองฮั่น แต่พวกเขาถูกปฏิเสธ

ตอนนี้เขาออกไปด้วยตัวเองจริง ๆ

“พ่อ?”

หรงฉางเวยตกตะลึง ทันทีที่ได้ยินเสียงในโทรศัพท์ เป็นเสียงพ่อของเขาไม่มีผิดแน่

สถานการณ์คืออะไร?

“ฉางเวย เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีโทรศัพท์มือถือของคุณหลี่?” อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ หรงปินก็ตัวสั่นและเสียงของเขาก็สูงขึ้น

“ไอ้เด็กนี่มันทำร้ายผม ผมจะฆ่ามัน!” หรงฉางเวยเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าของเขามองดูหลี่โม่อย่างไม่แยแส ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ

'มันต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่ ๆ พ่อของฉันรู้จักไอ้ตัวแสบแบบนั้นได้ยังไงกัน'

ยิ่งกว่านั้น ยังมีความนับถือด้วย!

เป็นไปไม่ได้!

“สามหาว! ใครจะกล้าให้แกไม่เคารพคุณหลี่? ส่งมือถือให้คุณหลี่เดี๋ยวนี้!” หรงปินตะโกนอย่างโกรธจัด ทันได้นั้นเขาก็ใจหาย นี่ลูกชายเขายั่วโมโหคุณหลี่หรือเปล่า?

หรงปินตระหนักดีถึงธรรมชาติของลูกชายของเขาเอง เขาไม่เรียนรู้และไร้ความชำนาญ เขาชีวิตเสเพลและหาเรื่องใส่ตัวตลอด!

หากเขายั่วโมโหคุณหลี่ ตระกูลหรงก็จะจบสิ้น!

“พ่อ...” หรงฉางเวยงงงวยแต่เขาก็โยนโทรศัพท์ให้หลี่โม่อย่างเชื่อฟัง และพูดอย่างเย็นชาว่า “ไอ้หนุ่ม ไม่นึกเลยว่าแกจะมีเบอร์โทรศัพท์ของพ่อฉันได้ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เปลี่ยนแปลงอะไรหรอกนะ!”

หลี่โม่ไม่พูด เขาค่อย ๆ วางกู้หยุนหลานลงอย่างนุ่มนวลแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดวงตาของเขาดูเฉยเมย “หรงปิน? ผมไม่มีเวลาพูดเรื่องไร้สาระกับคุณหรอกนะ ลูกชายของคุณไม่ยอมปล่อยผมไป ผมจะให้โอกาสคุณเพียงครั้งเดียว!”

น้ำเสียงเย็นชาและอาฆาต

หรงปินไม่ใช่คนโง่ เขารับรู้ได้อย่างรวดเร็วและถ่อมตน “ได้ครับ ๆ คุณหลี่มันต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่ รบกวนคุณเอาโทรศัพท์ให้เขา ผมจะบอกเขาเอง”

หลี่โม่พยักหน้าและโยนโทรศัพท์ให้หรงฉางเวย

หรงฉางเวยโกรธมาก เขาตบโต๊ะและตะโกนว่า “บ้าเอ๊ย แกกล้าขู่ฉันเหรอ? โอกาสมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ชีวิตหมา ๆ ของแกไม่เหลือแล้วตอนนี้ โหวหยวนหย่ง จัดการมันให้ฉัน!”

ในขณะที่หรงฉางเวยคำราม โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโซฟาก็ดังขึ้นด้วยเสียงโวยวาย “หรงฉางเวย! แกมันจองหอง! ฉันควบคุมแกไม่ได้แล้วสินะ!”

พ่อ… โกรธ

หรงฉางเวยตากระตุก เขาตัวสั่นด้วยความกลัว หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วพูดว่า "พ่อ เป็นอะไรไป…”

หรงฉางเวยไม่เคยเห็นพ่อของเขาเดือดขนาดนี้ เขาตื่นตระหนกเล็กน้อย และความเย็นยะเยือกก็พุ่งออกมาจากกระดูก

“มันจะอะไรอีก? แกรู้ไหมว่าแกทำให้ใครขุ่นเคือง รีบขอโทษคุณหลี่เดี๋ยวนี้! ถ้าไม่สามารถทำให้คุณหลี่ยกโทษให้แกได้ ฉันจะฆ่าแก!” หหรงปินที่ปลายอีกด้านของโทรศัพท์ขัดจังหวะคำพูดของหรงฉางเวยด้วยความโกรธ ทำให้เขาโกรธจนแทบบ้า!

ด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่สั่งการนั้น หรงฉางเวยไม่สามารถคัดค้านได้เลย!

พ่อโกรธมาก!

“พ่อ... เขาเป็นแค่ไอ้หน้าตัวเมียที่ขอเงินเมียใช้ เขาก็ตีหัวผม พ่อขอให้ผมขอโทษไอ้ขยะแบบนี้เหรอ?” หรงชางเว่ยรู้สึกไม่เต็มใจอย่างยิ่ง แล้วพ่อของเขาเป็นอะไรไปล่ะ?

ฮึ่ม!

ด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก หรงปินรีบเข้าไปในรถ Bentley และตะโกนว่า “นี่แกยังกล้าหยาบคายอยู่อีกเหรอ?! ถ้าคุณหลี่เป็นขยะในสายตาแก ตระกูลหรงของฉันก็ยิ่งกว่าขยะเปียกแล้ว ตอนนี้แกคุกเข่าแล้วให้คุณหลี่ยกโทษให้ซะ ไม่อย่างนั้นไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพ่อ!”

หรงฉางเวยตกตะลึงงัน เขาไม่กล้าหายใจด้วยซ้ำ ดวงตาที่สั่นเทาของเขาเหลือบมองไปที่หลี่โม่ซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าเขาสองสามครั้ง

นี่พ่อจริงจังใช่ไหม?!

มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

ไอ้เด็กเวรนี่ใคร?

ทำไมถึงโน้มน้าวให้พ่อพูดแบบนั้นได้?!

หรงฉางเวยเงยหน้าขึ้น เหงื่อเย็น ๆ บนหน้าผากทำให้แสบแผลบนหัว เขามีสติขึ้นมาทันที

เขาตื่นตระหนกและรีบไปที่หลี่โม่ โค้งคำนับและขอโทษ “ผมขอโทษ คุณหลี่ ผมผิดไปแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ผมขอโทษที่ผมประมาทเลินเลินเล่อเอง!”

หรงฉางเวยที่ก่อนหน้านี้คลั่งอย่างเดือดดาล ตอนนี้กลับหลายมาขอโทษหลี่โม่อย่างถ่อมตน ทุกคนต่างก็ตกตะลึง!

เขาเป็นนายน้อยของหรงคังกรุ๊ป เขามีสถานะพิเศษและมีครอบครัวที่มั่งคั่ง ทำไมเขาต้องขอโทษคนธรรมดาอย่างหลี่โม่ด้วยล่ะ?

โหวหยวนหย่งนั้นมึนงง ไป่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ตะลึงเช่นกัน!

แล้วจากการสนทนาเมื่อกี้นี้ เห็น ๆ กันอยู่ว่าเป็นหรงปินประธานหรงคังกรุ๊ปที่โทรมาด้วยตัวเอง!

ระดับความเคารพในน้ำเสียงที่มีต่อหลี่โม่นั้นค่อนข้างชัดเจน!

โอ้พระเจ้า!

หลี่โม่นี่ใครกัน?

มันเป็นไปได้เหรอที่คนจองหองอย่างหรงฉางเวยจะยกมือแสดงท่าทีราวกับเป็นผู้น้อยแบบนี้

เวลานี้จิตใจของโหวหยวนหย่งพังทลายลง ชายหนุ่มที่เขาพึ่งพาอย่างคุณหรงได้ขอโทษเด็กหนุ่มด้วยท่าทางที่จริงใจและหวาดกลัว

เขาจะไม่กลัวหรือตื่นตระหนกในใจได้อย่างไรกันล่ะ?

โหวหยวนหย่งตัวสั่น หลังของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น!

แค่นั้นแหละ!

เขาคิดได้แล้วว่าเขาได้ไปยั่วยุใครบางคนที่ไม่อาจจินตนาการถึงได้!!

ชูจงเทียนและฉินรั่วรั่วได้เป็นอิสระแล้วในขณะนี้ ยืนอยู่ทั้งสองข้างของหลี่โม่ด้วยความเคารพ จ้องมองไปที่โหวหยวนหย่งอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “โหวหยวนหย่ง ฉันบอกแกแล้วว่าคุณหลี่ไม่ใช่คนที่แกจะมายั่วยุได้!”

ฟึ่บ!

โหวหยวนหย่งคุกเข่าต่อหน้าหลี่โม่โดยไม่ลังเล!

นี่เป็นหนึ่งในราชามาเฟียใต้ดินที่ยิ่งใหญ่ในเมืองฮั่น!

แล้วก็ยังเป็นเจ้าแห่งวงการใต้ดินด้วย!

เวลานี้เขาเพียงแค่คุกเข่าลงต่อหน้าหลี่โม่และก้มหัวแนบพื้น “คุณหลี่ ผมไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะครับ! ผมมันไอ้สารเลว ขอให้คุณหลี่ให้ความอนุเคราะห์ผ่อนปรนด้วย!”

หลี่โม่ดูเย็นชาและพูดกับฉินรั่วรั่วว่า “ช่วยพาภรรยาของผมไปโรงพยาบาลก่อน”

“ได้ค่ะ” ฉินรั่วรั่วตอบแล้วหันหลังเดินออกไปพร้อมกับผู้ติดตาม

ในขณะเดียวกัน ชูจงเทียนก็ได้โทรศัพท์ไปแล้ว ไม่นานต่อมา ชายชุดดำประมาณสี่สิบถึงห้าสิบคนก็บุกเข้ามาในคลับเบลล์และล้อมรอบสถานที่ไว้ทั้งหมด!

จากภายนอกมีรถ Mercedes-Benz สีดำหลายสิบคันจอดอยู่ที่ทางเข้าของเบลล์คลับ ที่ทางเข้าและทางออกยังมีอันธพาลใส่สูทดำยืนอยู่ด้วย

ในคลับ คนของโหวหยวนหย่งทุกคนหมอบลงและเอามือกุมหัวไว้

หลี่โม่มองอย่างเย็นชาไปที่โหวหยวนหย่งและไป่เสวี่ยเอ๋อร์ซึ่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเขาและพูดกับชูจงเทียนอย่างเย็นชาว่า “ผมไม่อยากเห็นสองคนนี้ในเมืองฮั่นอีก”

ชูจงเทียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นและพูดว่า “เข้าใจแล้วครับ”

เนื่องจากเขาเป็นผู้ที่มีเส้นสายกับพวกใต้ดิน เขาจึงรู้วิธีจัดการเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว

ลูกน้องสองสามคนก็ลากโหวหยวนหย่งและไป่เสวี่ยเอ๋อร์ออกไป ใบหน้าพวกเขาซีดเซียว!

ไม่ว่าพวกเขาจะโอดครวญและร้องขอความเมตตามากแค่ไหน มันก็ไร้ประโยชน์

หลังจากนั้น

หลี่โม่จ้องไปที่หรงฉางเวยที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาด้วยสายตาที่เย็นชาและพูดว่า “ตอนนี้ถึงตานายแล้ว”

ขาของหรงชางเว่ยสั่นระริก แต่การเลี้ยงดูอย่างตามใจทำให้เขานิสัยเสีย เขาพยายามฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “คุณหลี่ ไม่ว่ายังไงพ่อของผมก็คือหรงปินแล้วคุณก็รู้จักเขา ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมจะขอโทษภรรยาของคุณ ผมจะไม่โผล่หน้ามาให้คุณเห็นในเมืองฮั่นอีก ว่ายังไงครับ?” หรงฉางเวยพยายามเจรจา

หรงฉางเวยก็กลัวเช่นกัน

ไม่เห็นเหรอว่าโหวหยวนหย่งถูกลากออกไปแบบนั้น!

“ปล่อยไป?”

หลี่โม่หัวเราะอย่างเย็นชา “ฉันเคยสาบานว่าจะไม่มีใครในโลกนี้รังแกเธอได้ แม้ว่าจะเป็นราชาแห่งแดนมังกร ฉันก็จะให้เขาชดใช้!”

เมื่อหรงฉางเวยได้ยินเช่นนี้สีหน้าของเขาก็พลันซีด รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หุบหายไปอย่างรวดเร็ว เขาถามด้วยน้ำเสียงต่ำว่า “แล้วคุณต้องการอะไร ปล่อยผมหรือจะฆ่าผม”

หลี่โม่ยกมือขึ้นและดีดนิ้ว

ชูจงเทียนโค้งคำนับข้าง ๆ หลี่โม่ทันทีและพูดกับคนด้านหลังว่า “ไปเตรียมเงินมาห้าสิบล้าน”

โดยไม่ลังเลชูจงเทียนหันหลังเดินออกจากคลับทันที เขาหยิบกระเป๋าหนังสีดำสองใบมีเงินจำนวนห้าสิบล้านบาทแล้วโยนลงตรงหน้านิ้วเท้าของหรงฉางเวย

ห้าสิบล้าน!

ฝ่ามือของหรงฉางเวยเต็มไปด้วยเหงื่อและมุมปากของเขาก็กระตุก “คุณหลี่ คุณกำลังทำอะไร?”

เขาต้องการชดเชยความสูญเสียทางจิตใจแค่นั้นเอง?

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่กล้าทำอะไรรุนแรง

หรงฉางเวยคิดเกี่ยวกับมัน เขาอยากจะนั่งลง แต่ก็ต้องตกใจกับประโยคถัดไปของหลี่โม่!

“เงินจำนวนนี้ ซื้อขาที่สามของแกได้!” หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา

ทันทีที่เขาพูดจบ คนของชูจงเทียนก็ก้าวไปข้างหน้าและกดหรงฉางเวยลงไปที่พื้น ถอดกางเกงชั้นนอกของเขาออกและเหลือแต่กางเกงในไว้และปล่อยให้เขาดิ้นรน!

ทันใดนั้นหรงฉางเวยก็หน้าซีด จ้องมองหลี่โม่อย่างหวาดกลัวและตะโกนว่า “คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้! ผมคือหรงฉางเวย พ่อของผมคือหรงปิน ผมปู่ของฉันคือหรงชางเหอนะ!”

เขาคำราม แต่ใบหน้าของหลี่โม่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ชูจงเทียนเข้าใจ เขาคว้าไม้เบสบอลจากด้านข้างแล้วฟาดมันลงไปที่หรงฉางเวยอย่างแรง!

“อ๊าก!”

เสียงกรีดร้องอันน่ากลัวดังก้องไปทั่วคลับในทันที!

ใบหน้าของหรงฉางเวยเปลี่ยนเป็นสีตับหมูทันที เขาโค้งตัว กำเป้าเอาไว้เส้นเลือดปูดบนใบหน้า พูดอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด

ไร้สมรรถภาพไปแล้ว!

ในชีวิตนี้ เขาจะไม่สามารถทำอะไรกับผู้หญิงได้อีกแล้ว

นี่คือการลงโทษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเขา

ในเวลาเดียวกัน รถ Bentley ที่วิ่งเร็วตามมาด้วยรถ Audi A6L หลายคัน มาหยุดอยู่ที่ประตูเบลล์คลับ

หรงปินพร้อมด้วยผู้ติดตามรีบลงจากรถ ตามมาด้วยนายกเทศมนตรีเมืองฮั่น!!

สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่อย่างหรงบิน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมืองฮั่นนั้นได้ติดตามเขาอย่างใกล้ชิด!

เขาเป็นบุคคลสำคัญในการดึงดูดการลงทุน และถานเค่อหมิงก็ดูแลเขาอย่างดี เขารีบพาเลขาตามไปและพูดว่า “คุณหรงปิน ช้า ๆ หน่อยครับ”

ถานเค่อหมิงงงงวยมาก เกิดอะไรขึ้นสำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่อย่างหรงปินที่สามารถทำให้เขาตื่นตระหนกเช่นนี้ได้

ตอนนี้หรงปินรู้สึกกังวลมาก เขาไม่สามารถทำอะไรผิดพลาดได้อีก!

ที่ทางเข้าเบลล์คลับ อันธพาลนับสิบคนในชุดดำยืนอย่างเคร่งขรึม พวกเขาขวางทางหรงปินและถานเค่อหมิงไว้และพูดอย่างเย็นชาว่า “ขออภัยครับ คลับปิดแล้ว”

หร่งปินขมวดคิ้ว แต่ก่อนที่เขาจะพูดได้ถานเค่อหมิงที่ยืนข้างเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและตะโกนด้วยความโกรธว่า "นี่มันบ้าไปแล้ว! ใครกล้าปิดต่ออหน้าฉัน?!"

เมื่อคนเหล่านั้นเห็นก็ตัวสั่นด้วยความตกใจ “ท่านถาน… ท่านนายก”

โอ้พระเจ้า!

ถานเค่อหมิงมาที่นี่ได้อย่างไร?

เขาเป็นคนที่มีการพูดถึงมากที่สุดในเมืองฮั่น!

ใครคือคนข้าง ๆ เขาที่ทำให้ถานเค่อหมิงมากับเขาเป็นการส่วนตัว!

ในไม่ช้าคนเหล่านี้ก็แยกออกจากกัน พวกเขาก้มตัวพร้อมเชิญถานเค่อหมิงและหรงปินเข้าไปด้วยความเคารพ

หรงปินและคนอื่น ๆ รีบเดินเข้าไปในคลับและเห็นหรงฉางเวยโอดครวญอยู่บนพื้นไม่หยุด

อย่างไรก็ตาม หรงปินไม่ได้มอง เขาเดินตรงไปหาหลี่โม่ ก้มหัวและกล่าวอย่างสุภาพว่า “คุณหลี่ ผมต้องขออภัยด้วยนะครับ ผมดีใจที่คุณไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร” หรงปินพูดจากใจจริง

ถานเค่อหมิงที่ติดตามมาอย่างใกล้ชิด เห็นฉากนี้แล้วก็ถึงกับอึ้ง!

น่าตกตะลึง!

หรง… หรงปินก้มหัวขอโทษชายหนุ่ม!

ยิ่งกว่านั้น เขายังพอจำชายหนุ่มคนนี้ได้

นี่มันลูกเขยไร้ประโยชน์ของตระกูลกู้ไม่ใช่เหรอ…

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status