ในขณะนี้หรงปินเดินออกจากอาคารของหรงคังกรุ๊ป มีรถ Bentley สีดำคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูพร้อมกับการ์ดชุดดำท่าทีจริงจังหลายสิบคนอยู่ข้าง ๆ ถ้าคนอื่นเห็นต้องตื่นตระหนกแน่นอน!หรงปินประธานหรงคังกรุ๊ปออกมาแล้ว!มีกี่คนที่ร้องขอให้พบกับประธานหรงหรงคังกรุ๊ปแห่งเมืองฮั่น แต่พวกเขาถูกปฏิเสธตอนนี้เขาออกไปด้วยตัวเองจริง ๆ“พ่อ?”หรงฉางเวยตกตะลึง ทันทีที่ได้ยินเสียงในโทรศัพท์ เป็นเสียงพ่อของเขาไม่มีผิดแน่สถานการณ์คืออะไร?“ฉางเวย เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีโทรศัพท์มือถือของคุณหลี่?” อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ หรงปินก็ตัวสั่นและเสียงของเขาก็สูงขึ้น“ไอ้เด็กนี่มันทำร้ายผม ผมจะฆ่ามัน!” หรงฉางเวยเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าของเขามองดูหลี่โม่อย่างไม่แยแส ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ'มันต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่ ๆ พ่อของฉันรู้จักไอ้ตัวแสบแบบนั้นได้ยังไงกัน'ยิ่งกว่านั้น ยังมีความนับถือด้วย!เป็นไปไม่ได้!“สามหาว! ใครจะกล้าให้แกไม่เคารพคุณหลี่? ส่งมือถือให้คุณหลี่เดี๋ยวนี้!” หรงปินตะโกนอย่างโกรธจัด ทันได้นั้นเขาก็ใจหาย นี่ลูกชายเขายั่วโมโหคุณหลี่หรือเปล่า?หรงปินตระหนักดีถึงธรรมชาติของลูกชายของเขาเอง เขาไม่เรี
หลี่โม่มองไปที่หรงปินอย่างสงบและพูดอย่างเย็นชาว่า “ประธานหรง ผมทำแบบนี้คุณคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”ตอนนี้หรงปินไม่กล้าพูด เขาเหลือบมองลูกชายที่โอดโอยอยู่บนพื้นแล้วพูดว่า “ลูกชายผมสมควรได้รับการลงโทษแล้ว คุณหลี่ลงโทษเขา แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ผมต้องการ”ลูกชายของเขาพิการไปแล้ว แต่พ่อกลับบอกว่ามันเป็นสิ่งที่เขาต้องการชูจงเทียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้ว่าตัวตนของคุณหลี่นั้นไม่ธรรมดา แต่เขาก็ยังประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่พลิกผันนี้!หรงปินประธานหรงคังกรุ๊ป ตาของเขาคือหรงชางเหอ!ความสัมพันธ์และสถานะของเขาสูงกว่าตัวของเขาเอง!คนที่มีความสูงส่วเช่นนี้ แค่เพียวคำพูดคำเดียวกผ้สามารถทำให้ชูจงเทียนตกลงจากก้อนเมฆสู่ฝุ่นมรณะได้ไม่เห็นถานเค่อหมิงยืนอยู่ข้างหลังเขาด้วยความเคารพเหรอ?ดูหรงฉางเวยที่กำลังนอนอยู่บนพื้นในขณะนี้ กำเป้า มองพ่อด้วยความเจ็บปวดและบ่นพึมพำ “พ่อ… แก้แค้นให้ผมด้วย”ใบหน้าของหรงปินโกรธจัดและดวงตาของเขาก็เย็นชา เขาเชื่อว่าที่หลี่โม่ไว้ชีวิตลูกชายของเขานั้นก็เป็นการผ่อนปรนมากแล้ว!“พานายน้อยออกไป”หรงปินพูดอย่างเย็นชา "ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วให้ส่งเขากลับไปที่เมืองหลวง ห้ามไม่ให้
“หลี่โม่ อย่ามาล้อเล่นนะ!”กู้หยุนหลานตกตะลึง แล้วก็รู้สึกโกรธมากในตอนนี้หลี่โม่ยังคงคิดจะมาล้อเล่นอีกเหรอ?เขาไม่รู้ความหมายของสัญญานี้ในครั้งนี้เหรอ?หลี่โม่ต้องการอธิบายบางอย่าง แต่กู้หยุนหลานก็นอนลงหันหลังให้เขาหลี่โม่จึงไม่มีทางเลือก นอกจากอยู่เงียบ ๆ‘กู้หยุนหลาน คุณต้องแบกรับทุกสิ่งที่คุณต้องทนมาแทนคุณเอง’‘คืนพรุ่งนี้ในงานเลี้ยงของตระกูลกู้ คุณถูกกำหนดให้กลายเป็นคนที่น่าอิจฉาของทุกคน!’‘ตราบใดที่มันเป็นสิ่งที่คุณต้องการ ผม หลี่โม่ จะเตรียมมันให้คุณเอง!’ในตอนเย็นของวันต่อมา ตระกูลกู้ได้จองห้องพักข้างในของโรงแรมสี่ดาวในเมืองฮั่นและจัดงานเลี้ยงกลางปีที่ประตูโรงแรม มีเรือนร่างสวยงามรอเป็นเวลานานด้วยความกระวนกระวายและความโกรธกู้หยุนหลานมาถึงนานแล้ว เฝ้าดูนาฬิกาที่ข้อมือของเธออย่างใจจดใจจ่อเพื่อรอหลี่โม่ทำไมเขาถึงยังไม่มา?วันนี้เขาแต่งตัวค่อนข้างดีเลย เขาจะไม่มาเหรอ? คงไม่หายหัวไปตอนช่วงเวลาสำคัญ ๆ แบบนี้หรอกนะทุกคนต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงกลางปีของตระกูลกู้ ทุกครั้งที่หลี่โม่เป็นเป้าหมายของการเยาะเย้ยของทุกคน เขาทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากอยู่ที่งานเป็นตัวตลกให้ความบันเท
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่โม่ กู้ซิ่งเหว่ยก็หัวเราะเยาะขึ้นมาทันที "ได้เซ็นสัญญาแล้วงั้นเหรอ? หลี่โม่ แกพูดอะไรของแก?"“ได้เซ็นสัญญาแล้วงั้นเหรอ? มันจะเป็นไปได้ยังไง! นอกจากความสวยแล้ว กู้หยุนหลานจะไปมีความสามารถอะไรอีกล่ะ ถ้าเธอได้เซ็นสัญญากับหรงคังกรุ๊ป ฉันยอมถูกรถชนตายเลย!”“ไร้สาระ! ไอ้คนไร้ประโยชน์อยากจะยืนหยัดเพื่อภรรยา มันไม่รู้หรือว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง? กล้าดีนักที่พูดออกมาแบบนั้น?!”“ฉันคิดว่า เราควรจะไล่หลี่โม่ออกไปซะ แล้วก็ให้กู้หยุนหลานรีบลาออกเดี๋ยวนี้!”กลุ่มญาติของตระกูลกู้ และผู้บริหารของบริษัทต่างระเบิดหัวเราะ และล้อเลียนหลี่โม่กับกู้หยุนหลานอย่างไม่เก็บอาการเลยกู้หยุนหลานก็โกรธมากเช่นกัน เธอสะบัดมือของหลี่โม่ออก และลุกขึ้นตบหน้าเขาด้วยน้ำตา แล้วตะโกนว่า "หลี่โม่ คุณจะทำอะไร! ใครให้คุณพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้?!"กู้หยุนหลานโกรธมาก!ตอนนี้ หลี่โม่พูดออกไปแบบนั้นมันไม่เท่ากับการขุดหลุมฝังศพตัวเองหรอกเหรอ?หรือจะเป็นเพราะว่า เขากับกู้ซิ่งเหว่ยไม่ลงรอยกันมานาน...หลี่โม่รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยจากการตบของกู้หยุนหลาน เมื่อเห็นใบหน้าที่โกรธ และไม่พอใจของเธอ เขาก็โกรธ
"แกเป็นอะไร! หุบปากไป แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?"ทันใดนั้น หวังฟางรีบวิ่งไปด้วยความโกรธ เธอชี้หน้าด่าหลี่โม่ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจไอ้ไร้ประโยชน์ มันต้องการจะพูดอะไรอีก แค่นี้ยังอับอายไม่พอใช่ไหม?คุณท่านกู้ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป เขาจึงพูดว่า “เอาล่ะ ตอนนี้เราก็ได้สัญญามาแล้ว พวกเธอจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้งานนี้สำเร็จ นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับตระกูลกู้ของเราที่จะได้ไปสู่ระดับบนของเมืองฮั่น พวกเธอต้องทำงานอย่างหนัก และอย่าละเลยหน้าที่ เข้าใจไหม?”กู้ซิ่งเหว่ยพูดว่า "ครับ คุณปู่ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน"กู้ชิงหลินก็พยักหน้าเช่นกัน“หยุนหลาน แล้วแกล่ะ?” คุณท่านกู้หันไปถาม สีหน้าของเขาดูค่อนข้างไม่พอใจ“เข้าใจแล้วค่ะ คุณปู่” กู้หยุนหลานตอบจากนั้นคุณท่านกู้ก็พยักหน้า หลังจากพูดคุยกับทุกคนไม่กี่คำ เขาก็เดินออกไปภายในห้องโถง ทุกคนดูมีชีวิตชีวามากเพราะตระกูลกู้ได้เซ็นความร่วมมือกับหรงคังกรุ๊ปแต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงใครบางคนดังขึ้นมาทำลายบรรยากาศ“คุณปู่ครับ ถ้าผมจำไม่ผิด หยุนหลานกับกู้ซิ่งเหว่ยพนันกันว่า ถ้าเธอได้สัญญา ตำแหน่งรองประธานบริษัทจะตกเป็
ไม่ได้ มันยังไม่ถึงเวลาหลี่โม่ยิ้มและพูดว่า “ผมก็แค่พูดเพื่อให้กำลังใจคุณ แต่ผมคิดว่าคงเป็นเพราะคุณชายหรง”คุณชายหรง?เมื่อได้ยินชื่อนี้ หวังฟางก็เลิกคิ้วขึ้น และถามอย่างตื่นเต้น “ลูกสาวสุดที่รัก แกไปกับคุณชายหรงคนนั้นจริง ๆ เหรอ?”กู้หยุนหลานเหลือบมองหวังฟางทันที และพูดอย่างเย็นชา “ไม่ใช่ หยุดคิดเรื่องนั้นไปเลย หนูไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา!”หลังจากนั้น เธอก็จ้องไปที่หลี่โม่ด้วยความโกรธ และลากเขาเข้าไปในห้องนอน ปิดประตูแล้วถามเขาด้วยใบหน้าที่เย็นชาว่า “เมื่อกี้คุณหมายความว่ายังไง? คุณก็สงสัยฉันเหมือนกันเหรอ?!”กู้หยุนหลานโกรธมาก ใบหน้าของเธอแดง และน้ำตาของเธอก็เริ่มสั่นคลอนเธอไม่เคยสงสัยในตัวหลี่โม่เลย แต่ตอนนี้เขากลับกำลังสงสัยในเธอ!นี่เขาประชดประชันเธอ เพื่อดูถูกตัวเองเหรอ?“หลี่โม่ คุณไม่ใช่ลูกผู้ชาย ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ!” กู้หยุนหลานอาละวาด และทุบที่หน้าอกของหลี่โม่ด้วยหมัดเล็ก ๆ ของเธอหลี่โม่รีบกอดกู้หยุนหลาน และพูดว่า "หยุนหลาน คุณกำลังเข้าใจผิดแล้ว ผมหมายถึงครั้งที่แล้ว คุณชายหรงอาจกลัวที่คุณโทรแจ้งตำรวจว่า หรงคังกรุ๊ปเปิดบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่เพื่อบังหน้า ถ้า
กู้หยุนหลานตกตะลึง มีหยดน้ำตาสองสามหยดไหลออกมาจากหางตาของเธอ เธอหันกลับไป และปิดประตูห้องอย่างแรง เธอซ่อนตัวอยู่ในห้องคนเดียว และร้องไห้‘หลี่โม่ ฉันยังเชื่อใจคุณได้อีกไหม?’ในห้องนั่งเล่น หวังฟางเมื่อเห็นแบบนี้ก็ด่า และโทษหลี่โม่อย่างหนักมากหลี่โม่ทำได้เพียงแค่มองดู เขาหันกลับไป และเดินไปที่ห้องครัวในวันที่ 23 เหตุการณ์ที่ซีซาร์พาเลซเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงเวลานี้ของทุกปี ตระกูลกู้จะเตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อฉลองวันเกิดของหลานสาวแม้ว่าในช่วงเวลานี้ของทุกปี กู้หยุนหลานและหลี่โม่จะถูกเยาะเย้ย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความรักของตระกูลกู้ที่มีต่อหลานสาวแม้จะมีบางเรื่องที่ตระกูลกู้จงใจทำ แต่ในหมู่พวกเขากู้ซิ่งเหว่ยก็ค่อนข้างมีบทบาทสำคัญแต่คราวนี้กลับต่างออกไป ตระกูลกู้เงียบอย่างน่าประหลาดใจ และไม่มีวี่แววของการเตรียมตัวสำหรับวันเกิดของหลานสาว มีข่าวลือว่า คุณท่านกู้นั้นสูญเสียความรักที่มีต่อหลานสาว สาเหตุหลักที่ใหญ่ที่สุดก็คือหลี่โม่เป็นคนไม่เอาไหน และเปล่าประโยชน์ ซึ่งเขาสร้างความขัดแย้งกับชายชราซ้ำแล้วซ้ำเล่ายิ่งไปกว่านั้น เหตุการณ์คราวนี้ก็เกิดขึ้นที่ซีซาร์พาเลซอีกครั้ง แ
“ฉัน ฉันก็ไม่รู้...” ใบหน้าเล็ก ๆ ของจินช่านน่าก็เต็มไปด้วยความตกใจมันเป็นไปได้อย่างไร?ไอ้บ้าหลี่โม่เตรียมเซอร์ไพรส์ไว้ที่ซีซาร์พาเลซ!ไม่จริง วันนี้ซีซาร์พาเลซถูกจองไว้อย่างชัดเจนแล้ว แล้วเขาจะเตรียมเซอร์ไพรส์ที่นี่ได้อย่างไร?บูม!ทันใดนั้น ก็มีความคิดปรากฏขึ้นในหัวของจินช่านน่า มันทำให้เธอรู้สึกมึนงงในทันทีเป็นไปได้ไหมว่า… หลี่โม่คือเศรษฐีลึกลับที่จัดงานเลี้ยงในซีซาร์พาเลซ?นี่ มันจะเป็นไปได้อย่างไร!ลิฟต์ขึ้นไปจนสุดทาง ท่ามกลางความตื่นเต้นของฝูงชน เมื่อเห็นว่าลิฟต์ขึ้นไปถึงด้านบนสุด ซึ่งมีคริสตัลดอกกุหลาบขาวเบ่งบานและมีขนาดใหญ่ที่ทุกคนในเมืองสามารถมองเห็นได้ทั้งบริสุทธิ์ และมีความสุขในตอนนี้ ผู้หญิงในฝูงชนด้านล่างกำลังหลั่งน้ำตาสวยงามมาก และมีความสุขมากในหัวของกู้หยุนหลานยังคงมึนงงเล็กน้อย เธอยืนอยู่ที่ประตูลิฟต์ด้วยความสับสน“นาน่า เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเธอถึงพาฉันมาที่นี่? หลี่โม่ขอให้เธอทำแบบนี้ใช่ไหม?” กู้หยุนหลานไม่ได้โง่ เธอนึกถึงบางสิ่งขึ้นได้ในทันทีแต่ว่าที่นี่คือ ซีซาร์พาเลซ และมันถูกจองโดยเศรษฐีลึกลับเมื่อหลายวันก่อนในขณะนั้นเอง จินช่านน่าก็มีปฏิกิริยา