แน่นอนว่าไม่เชื่อ! หวังฟางไม่เชื่อเต็มร้อย เธอรู้ดีว่าลูกเขยของเธอนั้นช่างไร้ประโยชน์ อย่างที่เขาพูด แล้วทำไมเธอต้องมาอดทนกับความเฉยเมยและความอัปยศอดสูจากเขาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วย? หลี่โม่ก็รู้ว่าพวกเขาไม่เชื่อ ดังนั้นเขาจึงจงใจพูดเช่นนี้ บางครั้งก็ไม่มีใครเชื่อความจริง หวังฟางหยุดพูด และไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั่งว่า “พอแล้ว ฉันรู้แล้ว แกไปโรงพยาบาลเถอะ จริงสิ วันมะรืนนี้เป็นวันเกิดพ่อแก เมื่อถึงตอนนั้น แกก็ไม่ต้องไปหรอก อยู่บ้านคนเดียวเถอะ” หวังฟางไม่อยากให้ลูกเขยไร้ประโยชน์นี้ทำให้เสียหน้าในวันเกิดของกู้เจี้ยนหมิน อย่างไรก็ตาม ผู้คนที่ไปร่วมงานล้วนเป็นเพื่อนของตระกูลกู้ และยังมีเพื่อนของหวังฟางอีกด้วย หลี่โม่หัวเราะขึ้นมาเหอะ ๆ พยักหน้าและกล่าวว่า “ผมทราบแล้วครับ” พูดจบเขาก็หันหลังจากไป เขายืนสูบบุหรี่หนึ่งม้วนอยู่ตรงหน้าประตู และเต็มไปด้วยความคิดมากมาย ข้างหน้าเขา ก็มีสาวเจ้าของบ้านข้าง ๆ ขับรถเก๋งคันเล็กกลับมาพร้อมกับลูกสาวสองคนและสามีด้วยความรัก หลี่โม่รู้สึกชื่นชมภาพที่เห็น แล้วเขาก็คิดได้ว่า เขาควรซื้อรถให้กู้หยุนหลาน
หลี่โม่ส่ายหัว เหลือบมองรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในโชว์รูมแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ พวกเขาไม่ต้อนรับพวกเรา” “ไม่ต้อนรับ?” ฉินรั่วรั่วพูดด้วยความประหลาดใจ เมื่อพิจารณาจากทัศนคติที่เอาแต่ใจของพนักงานสาวแล้ว ก็พอจะเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น “สวัสดีค่ะ ฉันนัดมาดูรถวันนี้ ช่วยติดต่อผู้จัดการของพวกคุณให้ทีค่ะ” ฉินรั่วรั่วพูดอย่างไม่พอใจ และพยายามระงับอารมณ์ของเขา “นัดอะไรเหรอ? วันนี้ไม่มีนัดเลย รีบเดินออกไปเถอะ ทั้งสองเล่นละครได้ดีนะคะ และไหนจะคุณชายหลี่ พวกคุณทึ่มหรือเปล่า?” หวังม่านม่านด่าอย่างจริตสตรี เป็นเพราะวันนี้ เธอถูกลูกค้ารายใหญ่เท ตกลงกันว่าจะซื้อรถหลังจากหลับนอนด้วยกันหนึ่งคืน แต่กลับกลายเป็นว่า หลังจากที่หวังม่านม่านได้หลับนอนกับลูกค้าคนนั้นแล้ว เขาก็เปลี่ยนใจไม่ซื้อแล้ว! “คุณ!” ฉินรั่วรั่วใจร้อน หลี่โม่คว้าแขนของเธอแล้วพูดว่า “ช่างเถอะ เราไปโชว์รูมข้าง ๆ ดีกว่า” ฉินรั่วรั่วกระทืบเท้าด้วยความโกรธ ทั้งสองหันหลังและเตรียมจะจากไป แต่หวังม่านม่านยังคงไม่ปล่อยพวกเขาไป และพูดอย่างประชดประชันว่า “ฮิฮิ มาซื้อรถแต่ไม่มีเงิน ช่างขี้แพ้จริง ๆ ” “นั่นสิ แค่เดินเข้ามาจากหน้าปร
“ได้ งั้นผมจะรอคุณสิบห้านาที ผมอยากจะดูว่าเจ้านายของเราจะมาไหม” ผู้จัดการซ่งพูดอย่างหัวเราะเยาะ ไม่นาน ผ่านไปกว่าสิบนาที ผู้จัดการซ่งเหลือบมองนาฬิกาของเขา พร้อมกับเย้ยหยันที่มุมปากของเขาและพูดว่า "สิบสองนาทีผ่านไปแล้ว เจ้านายของเราอยู่ไหนนะ?" หลี่โม่ไม่พูดอะไร สีหน้าของเขาดูเฉยเมย “รปภ. ไล่สองคนนนี้ออกไปซะ!” ผู้จัดการซ่งขี้เกียจที่จะรอแล้ว เขาจึงเรียกรปภ.มา รปภ. หลายคนเดินเข้ามาหาหลี่โม่ด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ ทันใดนั้น! ก็มีเสียงคร่ำครวญที่ประตู! "หยุดนะ!" ทุกคนต่างหันไปมองทางเสียง มองเห็นชายวัยกลางคนในชุดสูทสีเทารีบวิ่งเข้ามาจากหน้าประตู “เจ้านาย คุณมาทำอะไรครับ?” ผู้จัดการซ่งวิ่งเข้าไปประจบสอพลอทันที ผู้ที่มาเยือนก็คือ เจ้าของโชว์รูมแห่งนี้ เฉินเจิ้งผิง เขามีทรัพย์สินมูลค่ากว่าสองพันล้านบาท ซึ่งเปิดโชว์รูมระดับโฟร์เอสสามแห่ง แต่ว่า เฉิงเจิ้งผิงไม่ได้มองดูใบหน้ายินดีของผู้จัดการซ่งที่เดินเข้ามาเลย เขาผลักผู้จัดการออกไป แล้ววิ่งตรงเข้าไปหาหลี่โม่ด้วยรอยยิ้มประจบสอพลอ และถามว่า “คุณคือหลี่โม่ คุณชายหลี่ใช่ไหมครับ?” หลี่โม่พยักหน้า "สวัสดีครับ ยินดีต้อน
ทางด้านนี้ หลังจากที่หลี่โม่ออกจากโชว์รูมรถ ก็ตรงกลับไปที่โรงพยาบาล ทันใดนั้น เสียงมืดมนของผู้ชายก็ดังมาจากด้านหน้าหลี่โม่ “นี่ นายชื่อหลี่โม่หรือเปล่า?” ชายร่างใหญ่สี่ห้าคนที่มีรอยสัก สวมเสื้อกล้ามเดินเข้ามาหาเขา แต่ละคนสูบบุหรี่ ดูหยาบคายและอวดดีสุด ๆ หลี่โม่กำลังสูบบุหรี่พอดี มองไปที่ชายสี่ห้าคนที่กำลังเดินมา พยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉันเอง มีอะไร?” ชายผู้เป็นหัวหน้าสวมเสื้อกล้ามสีเขียวขว้างบุหรี่ครึ่งหนึ่งลงบนพื้น ใช้เท้าขยี้สองสามครั้ง แล้วพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “นายนี่โชคดีนะ มีคนซื้อขาสองข้างของนาย ที่นี่คือโรงพยาบาลพอดีเลย หลังจากทำให่นายพิการแล้ว นายจะได้เข้าไปเลยไง”คนพูดชื่อจ้าวหู่ ผู้คนต่างเรียกเขาว่าพี่หู่ เขาค่อนข้างมีอิทธิพลและมีเครือข่ายที่แข็งแกร่ง มีคนรู้จักและเพื่อนฝูงมากมาย หนทางของการเป็นลูกผู้ชายนั้นรุนแรง เขาไม่ทำงานเล็ก หลี่โม่ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดนั้นแล้วทำท่าทางป้องกัน และถามว่า “ใครกันที่อยากจะกำจัดฉัน?” จากนั้นจ้าวหู่ก็ยิ้มเยาะเย้ยและพูดว่า “อย่าถามเลยว่าใคร นายไปยั่วยุใครที่ไม่ควรยั่วยุล่ะ ก็ควรได้รับบทเรียน!” พูดจบเขาก็หยิบกริชยาวที่ซ่อนอยู
เพื่อนสนิทหลายคนของกู้ชิงหลินมองหลี่โม่อย่างดูถูกเหยียดหยาม “จ้าวหลง? โอ้โห! ถ้าอย่างนั้นหลี่โม่ขี้แพ้นี่ก็ซวยแล้ว! ชื่อเสียงของสองพี่น้องนี่ร้ายกาจมากนะ!” กู้ชิงหลินก็ขมวดคิ้ว แล้วแอบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปหลี่โม่ทันที ในขณะนี้หลี่โม่สะบัดมือด้วยใบหน้าที่เย็นชา นายน้อยแดนมังกรจะไร้ความสามารถได้อย่างไร ถึงแม้ว่าจะมีคนเหล่านี้อีกหลายร้อยคน ก็ไม่สามารถเข้าใกล้หลี่โม่ได้ในระยะหนึ่งเมตร! เดิมทีหลี่โม่ไม่ต้องการเปิดเผยทักษะของเขา แต่ตอนนี้เขาอยากระบายความโกรธ! กระจอกอย่างนี้ยังจะกล้ามาตัดขาเขาอีกเหรอ? หลี่โม่ไม่พูดมาก จากนั้นก็รีบวิ่งพุ่งเข้าไปหาจ้าวหู่ ยกเท้าใหญ่ขึ้น และกระทืบหน้าท้องส่วนล่างของจ้าวหู่อย่างดุเดือด จากนั้นยกกำปั้นขึ้นเสยคางของจ้าวหู่! ผลัวะ! ฟันบินกระเด็นออกมา และจ้าวหู่ก็พ่นเลือดออกมา “ไอ้เด็กเวรนี่! แกกล้าอัดฉัน แกมันรนหาที่ตายแล้ว!” ในขณะนี้ จ้าวหู่มองหลี่โม่ด้วยความหวาดหวั่นและพูดอย่างโกรธเคืองว่า “พี่ชายของฉันคือจ้าวหลง เป็นผู้จัดการการ์ดของคลับมูนเบย์! แล้วก็เป็นผู้จัดการการ์ดมากกว่าสิบแห่งในถนนสายนี้!" ผลัวะ! หลี่โม่ตรงขึ้นไปเตะอีกค
จ้าวหลงจ้องตาเขม็ง อีกฝ่ายไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย!สมควรตาย!เจ้าโง่นี่ดูถูกตัวเองอย่างนั้นหรือ?จ้าวหลงรู้สึกโกรธ เขาชี้ไปที่หลี่โม่ด้วยความโมโหแล้วพูดว่า “เจ้าหนู วันนี้แกอย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน ทั้งหมดนี่แกเป็นคนแส่หาเรื่องเอง ทุกคนลุย อัดไอ้หมอนี่ให้มันพิการไปซะ!”ขณะนี้ พวกอันธพาลที่จ้าวหลงพามาสิบกว่าคน เดินแสยะยิ้มเข้าไปหาหลี่โม่คนคนเดียว จะสู้กับพวกเขาสิบกว่าคนได้เหรอ?ช่างไม่เจียมตัวเสียเลย !ในฝูงชน มีคนไม่น้อยส่ายหัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้จบเห่ เจ้าหมอนี่จบเห่แน่ ๆเขาคือจ้าวหลง ผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม หากใครไปแหย่เขา ก็เหมือนไปแหย่หมาบ้า และจะถูกเขาจับตามองอยู่ตลอดเวลาอย่างไรก็ตาม หลี่โม่มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างเฉยเมย เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเงียบ ๆ ต่อสายไปที่หมายเลขหนึ่งแล้วพูดอย่างเย็นชา “ชูจงเทียน ผมอยู่ที่โรงพยาบาลในเมือง และถูกคนที่ชื่อจ้าวหลงขวางทางไว้”ในขณะเดียวกัน ชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำ ก็กำลังรีบวิ่งลงมาจากรถแลนด์โรเวอร์ ที่จอดอยู่ตรงปากทาง และพูดด้วยความตื่นตระหนกว่า “คุณหลี่ ผมกำล
เสียงตะโกน ดังมาจากด้านหลังฝูงชนทุกคนหันไปมอง เห็นชายวัยกลางคน วิ่งมาด้วยความรีบร้อนจนเหงื่อแตกซ่ก พร้อมด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนกชูจงเทียน!“ท่านเทียน ท่านมาได้ยังไง? ขอให้ท่านวางใจ เรื่องทุกอย่างที่นี่ ผมจัดการได้อยู่แล้วครับ”จ้าวหลงจำได้ทันทีว่า เขาคือชูจงเทียนเขารีบพูดอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสนี่ชูจงเทียน!หนึ่งในราชาใต้ดินของเมืองฮั่นใครจะกล้าไม่ให้เกียรติ?!เมื่ออยู่ต่อหน้าชูจงเทียน จ้าวหลงก็เป็นแค่พวกหางแถว!ยิ่งไปกว่านั้น ถนนหลายซอยและสถานที่หลายสิบแห่งโดยรอบบริเวณนี้ ชูจงเทียนเป็นคนให้เขาคุ้มครองดูแลเอง“จบเห่ จบเห่แน่ ๆ ขนาดคุณเทียน ชูจงเทียนยังมาด้วยตัวเอง!”“ฮ่า ๆ ตอนนี้เจ้าหมอนั่นคงหนีไม่พ้นแล้วจริง ๆ ช่างโง่เง่าสิ้นดี!”“ใครใช้ให้ไอ้ยาจกนั่นหยิ่งผยองขนาดนั้น ดีล่ะ ตอนนี้คุณเทียนไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่นอน”จ้าวหู่ที่นอนกองอยู่บนพื้น ตอนนี้ถูกลูกน้องพยุงขึ้นมาแล้ว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด เขามองไปที่ชูจงเทียน เหมือนกับเจอพระเจ้าที่มาช่วยชีวิต เขาร้องไห้เสียงดังและพูดว่า “ท่านเทียน ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับผม หมอนี่มันทำร้ายผมจนเป็นแบบนี้ มันลงมือได้โหดเหี้ยมมาก
เมื่อจ้าวหลงได้ยิน เขาก็ตกตะลึงทันที!ชูจงเทียนกล้าทำเช่นนั้นจริง ๆ !ทันใดนั้น จ้าวหลงก็ตะโกนขึ้นมา “ท่านเทียน ท่านทำเช่นนี้ มีแต่จะทำร้ายจิตใจพี่น้องเท่านั้น อย่าลืมว่า ผมก็มีพี่น้องมากมาย! ถ้ามีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น คุณจะรับมือไหวหรือ?”จ้าวหลงเองก็เป็นคนโหดเหี้ยม เขาอาศัยว่าตนเองนั้นมีพวกพ้องจำนวนมาก ตอนนี้เขาลุกขึ้นจากพื้น แล้วลูบท้องตัวเองทันทีที่เขาพูดจบ ลูกน้องหลายสิบคนก็มายืนรวมตัวกันอยู่รอบ ๆ ซึ่งนั่นหมายถึงการรวมหัวกันบีบบังคับสีหน้าชูจงเทียนเคร่งขรึม เขาตะโกนใส่ลูกน้องของจ้าวหลง “พวกแกตาบอดแล้ว ไม่รู้จักฉันชูจงเทียนหรือไง?! วันนี้ถ้าใครกล้าขยับ ฉันจะทำให้ครอบครัวของมันต้องพังพินาศ! ”ขณะนี้ชูจงเทียนมีสีหน้าที่เย็นชา แววตาของเขาสั่นไหวด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธความเผด็จการในตัวเขา ได้ปะทุขึ้นอย่างฉับพลัน!ชูจงเทียนเป็นถึงหัวหน้าของราชาใต้ดินแห่งเมืองฮั่น!ใครกล้าไม่เคารพเขา?!เศษสวะพวกนี้ รนหาที่ตายชัด ๆ !เมื่อคนกลุ่มนี้เห็นท่าทางโกรธเกรี้ยวของชูจงเทียนแล้ว ก็รู้สึกกลัวอยู่บ้าง พวกเขาหันมองหน้ากันหลายครั้ง ไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าเพราะว่า ชื่อเสียงของชูจงเทียน