แชร์

บทที่ 12

เสียงเรียกเข้าที่น่าขนลุกดังขึ้นในเวลานี้ ทำให้บรรยากาศภายในห้องทำงานเงียบลงทันที!

หรงปินแสดงสีหน้าไม่พอใจ ภายในใจนึกสงสัย ใครกันที่โทรหาเขา?

ทันทีที่เขารับสาย เขาได้ยินเสียงคำรามของหรงชางมาจากปลายสายของโทรศัพท์ เขาตะโกนอย่างโกรธเคืองว่า “หรงปิน แกรู้ไหมว่าแกทำเรื่องโง่อะไรลงไป!”

“คุณลุง เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?” หรงบินตกตะลึง ตัวแข็งทื่อไปหมด

ลุงของเขา ผู้ก่อตั้งบริษัทหรงคัง ในเวลานี้กำลังโกรธจัด!

เขาไม่เคยเห็นมาก่อน!

“ยังจะถามว่าเป็นอะไร ฉันจะถามแกว่าตอนนี้คุณหลี่อยู่ข้างหน้าแกไหม” หรงชางเหอตะโกนถาม

หรงปินใจสั่น คุณหลี่เหรอ?

เขาเลิกคิ้วขึ้นมองไปที่หลี่โม่ซึ่งดูสงบและเอามือไขว้หลังไว้ เขาเหรอ?

“ใช่ครับ อยู่ครับ” หรงปินตอบอย่างรวดเร็ว

หรงชางเหอกล่าวตำหนิ “แกขอโทษคุณหลี่เดี๋ยวนี้ นอกจากนั้นเรื่องความร่วมมือของบริษัทสาขาเมืองฮั่นขึ้นอยู่กับคุณหลี่ ใครก็ตามที่เขาขอให้แกร่วมมือด้วยแกก็ต้องร่วมมือ เข้าใจไหม?!”

ภายในใจหรงปินตื่นตระหนก ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

จู่ ๆ ก็ปลุกให้ลุงมาสั่งเองได้!

“คุณลุง อะไรกันครับเนี่ย? หลี่โม่เขาเป็นเพียงลูกเขยไร้ประโยชน์จากตระกูลกู้ในเมืองฮั่น เขามีดีอะไรที่ทำให้ลุงตัดสินใจแบบนี้?” หรงปินถามด้วยความไม่เข้าใจ ในขณะเดียวกันสายตาของเขาจ้องไปที่ร่างของหลี่โม่ที่เดินไปมา

คนคนนี้ เป็นใครกันแน่?

“บังอาจนักนะ! ลูกเขยไร้ประโยชน์อะไรกัน! ฉันจะบอกแกนะหรงปิน แกอย่าล่วงเกินคุณหลี่อย่างเด็ดขาด! ถ้าแกหาเรื่องคุณหลี่ คำว่าล้มละลายคงอยู่ไม่ไกลจากหรงคังแน่!” หรงชางเหอตะโกน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หรงปินก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงราวกับถูกฟ้าผ่า เขาตะลึงไปชั่วขณะ!

เนื่องจากลุงพูดอย่างนั้น แสดงว่าหลี่โม่คนนี้ไม่ได้เป็นแบบที่เขาได้ยินมา

ในขณะนี้ ความรู้สึกหนาวพุ่งขึ้นฝ่าเท้าของหรงปินไปจนถึงหัว!

เหงื่อบนหน้าผากของเขาค่อย ๆ ไหลออกมา

ในขณะที่หลี่โม่กล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “ประธานหรง คุณคิดออกหรือยัง?”

หรงปินไม่กล้าที่จะยืดยาด เขารีบพูดอย่างเคารพต่อหลี่โม่ “คุณหลี่ ผมคิดออกแล้วครับ ทุกอย่างทำตามคำสั่งของคุณ หรงคังของเราจะร่วมมือกับบริษัทหลุนเซิงเภสัชกรรมของคุณกู้หยุนหลานอย่างแน่นอนครับ”

ขณะที่คำพูดของเขาจบลง การ์ดก็วิ่งเข้ามาที่ประตูและตะโกนอย่างโกรธเคือง “ท่านประธาน ไอ้หนุ่มนี่มาสร้างปัญหาใช่ไหมครับ? แกเป็นใคร กล้าดียังไงมาสร้างปัญหาที่หรงคัง อยากตายหรือไง?!”

การ์ดรูปร่างสูงใหญ่สี่ถึงห้าคนำร้อมกระบองในมือ ทำท่าทำทางขู่ใส่หลี่โม่!

หรงปินที่เห็นฉากนี้ หน้าผากของเขาก็เหงื่อแตกพลั่ก!

ไอ้โง่พวกนี้ เพิ่งมาอะไรเอาตอนนี้!

ผลัวะ!!!

หรงปินตบหัวหน้าการ์ดที่เดินไปทางหลี่โม่อย่างโกรธจัด และตะโกนอย่างโมโหว่า “อวดดี! ใครใช้ให้แกหยาบคายกับคุณหลี่! ออกไปซะ!”

หัวหน้าการ์ดตกตะลึง กุมแก้มร้อนผ่าวของตนและไม่โต้ตอบใด ๆ

สถานการณ์นี้มันอย่างไรกันแน่?

“ท่านประธาน คุณให้เรา...” หัวหน้าการ์ดยังคงต้องการอธิบาย

หรงปินเหลือกตาไปมองเขาพักหนึ่ง จากนั้นยิ้มอย่างนอบน้อมให้กับหลี่โม่ และพูดว่า “คุณหลี่ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ คนพวกนี้ไม่มีสมอง เรื่องของคุณผมจะจัดการให้ และจะให้คนแจ้งให้คุณทราบในวันพรุ่งนี้เลยครับ”

หลี่โม่พยักหน้า “งั้นฝากประธานหรงด้วย แต่ผมหวังว่าประธานหรงจะจัดการเรื่องนี้แบบเงียบ ๆ นะครับ”

“ครับ ผมเข้าใจครับ”

หรงปินพยักหน้าตอบอย่างรวดเร็ว

พูดจบแล้วหลี่โม่ก็เดินออกไป หรงปินยังคงจ้องมองด้านหลังของเขาที่เดินจากไป

จนกระทั่งหลังจากที่หลี่โม่กลับไปแล้ว เขาถึงหายใจออก และปาดเหงื่อเย็น ๆ บนหน้าผากของเขา สถานกาณ์เมื่อคู่มันกดดันเกินไป!

ชายหนุ่มที่ทำให้ลุงของเขาปฏิบัติต่ออย่างจริงจังได้ถึงเพียงนี้ เขาต้องไม่ประมาท!

“เข้าใจแล้วใช่ไหม? รีบไปจัดการให้เรียบร้อย จำไว้ว่า จัดการเงียบ ๆ ถ้าใครกล้าพูดออกไปแม้แต่คำเดียว ฉันหรงปิน จะไม่ปล่อยมันไว้แน่!” หรงปินพูดกับผู้ช่วยที่อยู่ข้าง ๆ เขา และเตือนการ์ดไปพร้อม ๆ กัน

ทุกคนเงียบและพยักหน้าอย่างจริงจัง

อีกฝั่งหนึ่ง เมื่อหลี่โม่กลับมาถึงบ้านก็เที่ยงคืนแล้ว

เขาค่อย ๆ นอนลงบนพื้น จ้องมองไปทางด้านหลังที่สง่างามของกู้หยุนหลานที่นอนอยู่บนเตียง

ผู้หญิงของเขา หลี่โม่ จะต้องไม่เสียใจอีกแล้ว

สัญญานี้เพื่อเธอ

เมื่อรู้สึกตัวว่าหลี่โม่กลับมาแล้ว กู้หยุนหลานหันไปมองหลี่โม่และถามว่า “คุณไปไหนมา?”

หลี่โม่ยิ้มและพูดว่า “ออกไปข้างนอกมาน่ะ คุณนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องไปหาซีซีที่โรงพยาบาลอีกนะ”

ใบหน้าของกู้หยุนหลานกลัดกลุ้ม เธอเม้มปากและพูดว่า “ฉันนอนไม่หลับ คุณอยู่คุยกับฉันก่อนนะ”

“ได้สิ” หลี่โม่ตอบ

อย่างไรก็ตาม ภายในห้องกลับเงียบงัน ดูเหมือนว่ากู้หยุนหลานไม่มีอะไรจะพูด

หลังจากนั้นไม่กี่นาทีกู้หยุนหลานก็พูดว่า “ช่างเถอะ นอนได้แล้ว”

จากนั้นเธอก็พลิกตัวกลับหันหลังให้กับหลี่โม่ ดวงตากลมโตที่เป็นประกายมีน้ำตาที่หางตา มองดูพระจันทร์เสี้ยวสีขาว และดวงดาวนอกหน้าต่าง

หลี่โม่มองไปที่แผ่นหลังของกู้หยุนหลาน และคิดในใจว่า ‘หยุนหลาน ผมหลี่โม่ขอสัญญาด้วยชีวิตว่าจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้!’

‘คุณและซีซีจะต้องภูมิใจในตัวผมอย่างแน่นอน!’

‘สักวันทุกคนจะได้รู้ว่าหลี่โม่สามีของคุณไม่ใช่คนไร้ประโยชน์!’

หนึ่งคืนผ่านไปด้วยความเงียบงัน

เช้าวันรุ่งขึ้นกู้หยุนหลานไปที่บริษัท

หลี่โม่อยู่บ้านทำงานในครัวอยู่พักหนึ่ง เขาทำอาหารเช้าให้แม่ยาย และพ่อตาของเขา

หวังฟางที่เพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาลเมื่อคืน เธอเหนื่อยมาก ในขณะที่ออกมาจากห้องนอน เธอก็บ่นว่า “ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้เมื่อวานฉันคงไม่ไปที่โรงพยาบาลหรอก วุ่นวายมาก”

หลี่โม่อออกจากครัวพร้อมอาหารเช้า และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แม่ครับ ผมทำอาหารเช้าให้คุณแม่ รีบทานตอนที่มันยังร้อนเถอะครับ”

หวังฟางจ้องไปที่หลี่โม่และพูดด้วยอารมณ์ที่ไม่ดี “ขยะสังคม วัน ๆ อยู่แต่ในบ้าน ดูผู้ชายข้างนอกซิ มีใครเหมือนแกบ้าง ไร้ค่าจริง ๆ !”

หลี่โม่หัวเราะในลำคอ เขาเคยชินกับมันแล้ว เขาจึงหันหลังกลับ และเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อเก็บของ

เช้านี้เขาต้องกลับไปที่บ้านแม่ของเขา

หวังฟางเห็นหลี่โม่ไม่สนใจตนเอง จึงบ่นเขาไปสองสามคำ

“แม่ครับ ผมจะกลับไปที่บ้านแม่ของผมก่อนแล้วค่อยไปโรงพยาบาลต่อ” หลี่โม่พูดกับหวังฟางที่โต๊ะอาหารจากนั้นจึงออกไป

หวังฟางยังคงสาปแช่งตามหลัง “กลับไปหาแม่ที่ป่วยใกล้ตายของแกอีกแล้วล่ะสิ กลับไปแล้วไม่ต้องกลับมาล่ะ ไอ้คนไร้ประโยชน์!”

หลี่โม่หยุดชะงักที่ประตู แต่สุดท้ายเขาก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วก็เดินออกไป

หลี่โม่ขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาจนถึงบ้านแม่ของเขา

เดิมทีตระกูลกู้เช่าบ้านหลังนี้ให้กับหลี่โม่ นับว่าเป็นสถานที่สำหรับอาศัยอยู่ในเมืองฮั่นของ

พวกเขา

มองไกล ๆ หลี่โม่เห็นแม่ของเขาที่กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อขายอาหารเช้า ใบหน้าของเธอซีด รูปร่างผอมแห้ง แต่เธอก็ยังไม่สามารถซ่อนเร้นลักษณะอันสูงส่งโดยกำเนิดของเธอได้

แต่ไหนแต่ไรเธอเป็นผู้หญิงที่เปล่งประกาย แต่เธอกลับต้องจบลงที่ตรงนี้

และทั้งหมดนี้ต้องโทษผู้หญิงคนนั้น

‘ราชินีมังกร ฉัน หลี่โม่ จะต้องทวงทุกสิ่งที่สูญเสียไปกลับคืนมา!’

หลี่โม่สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วรีบวิ่งไปพร้อมกับตะโกนว่า “คุณแม่ ผมมาแล้ว”

หญิงอายุสี่สิบกว่าปีเลิกคิ้วมองหลี่โม่ด้วยความรัก เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า “ทำไมลูกถึงกลับมาอีกล่ะ เดี๋ยวแม่ยายก็ว่าเอาอีกหรอก”

หลี่โม่หัวเราะในลำคอแล้วยิ้ม จากนั้นจึงช่วยแม่ตั้งเตา และพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอกครับ”

เขาเดินไปประคองแม่ของเขาไปอีกฝั่ง และให้เธอนั่งลง “คุณแม่พักสักครู่เถอะครับ เดี๋ยวผมทำเอง”

หญิงคนนั้นยิ้มและมองดูลูกชายของตนที่กำลังยุ่ง เธอรู้สึกโล่งใจ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเป็นทุกข์ด้วย

หากไม่ใช่เพราะเพื่อต้องดูแลตนเอง ลูกชายก็คงไม่ลำบากขนาดนี้ แล้วเขาก็จะไม่ต้องอยู่ภายใต้ชายคาคนอื่นอีกด้วย

“แล้วหยุนหลานกับซีซีล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง?” แม่ของหลี่โม่ที่กำลังห่อเกี๊ยวอยู่ อดไม่ได้ที่จะถามด้วยรอยยิ้ม

หลี่โม่ชะงักเขายิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “พวกเขาสบายดีครับ”

แม่ของหลี่โม่สะอื้นแล้วพูดว่า “เมื่อไหร่ลูกจะพาซีซีมาเยี่ยมแม่บ้าง?”

หลี่โม่หวาดหวั่น สีหน้าดูหมดหนทาง เขาพูดว่า “คุณแม่ครับ ผมเข้าใจแล้ว รออีกหน่อยนะ”

แม่ของหลี่โม่ปาดน้ำตาจากหางตาพร้อมกับพยักหน้า

เธอรู้ว่าลูกชายของเธอกำลังลำบาก หลาย ๆ ครั้งที่เธอไม่อยากจะรบกวนเขา

ในขณะนั้นเอง มีอันธพาลสองสามคนเข้ามาใกล้และเตะเตาที่เพิ่งจุดไว้!

ลูกค้าที่ทานอาหารเช้าอยู่ภายในร้านก็กระจัดกระจายอย่างรวดเร็ว

“โอ้ หลี่โม่ ไม่คิดว่าวันนี้แกจะอยู่ที่นี่”

ชายหนุ่มกล่าว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงดูหยิ่งผยองมาก

หลี่โม่รีบเดินออกไป เขาดึงแม่ให้มาหลบอยู่ข้างหลัง จ้องมองไปที่ชายคนนั้นด้วยท่าทางเย็นชาและกล่าวว่า “กู้ซิ่งเหว่ย แกจะทำอะไร!”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status