“จริงสิ เผลอไปข่วนมันเข้าน่ะ ไม่ต้องใส่ใจหรอกน่า เลิกถามได้แล้ว”กู้หยุนหลานบังคับหลี่โม่ กลบเลื่อนอารมณ์โกรธอย่างต่อเนื่องและพูดว่า “หลี่โม่ คุณยังไม่เชื่อฉันอีกเหรอ?”ประโยคนี้ ทำเอาหลี่โม่ตกใจเขาเห็นว่ากู้หยุนหลานไม่อยากพูดถึงมัน รวมทั้งสถานะของอีกฝ่ายอาจทำให้เธอกลัวก็ได้แต่เธอเป็นผู้หญิงของหลี่โม่เชียวนะ นายหญิงแห่งแดนมังกร!ในโลกนี้ ใครหน้าไหนก็อย่ามาแหยม!ใครรังแกเธอล่ะก็ จะต้องอัดให้จมดินสถานเดียว!เขาหายใจเข้าลึก ๆ หลี่โม่เอื้อมมือไปปาดแก้มอันบอบบางของเธอ แล้วถามอย่างอ่อนโยนและกังวลใจว่า “เจ็บไหม?”ดวงตาของกู้หยุนหลานเป็นประกาย เธอส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก เจ็บนิดหน่อยเอง ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรเลย คราวหน้านายอย่าโกรธแบบนี้ได้ไหม มันน่ากลัว ฉันคิดว่าตอนนี้…”เมื่อสักครู่กู้หยุนหลานรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า หลี่โม่โกรธเหมือนสิงโตและไร้เหตุผลมากทีเดียว ความโกรธที่พลุ่งพล่านของเขานั้น ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าเขาสามารถฉีกโลกทั้งใบออกจากกันได้ภายในพริบตาน่าสะพรึงกลัว!นี่ใช่หลี่โม่ที่อยู่กับเธอมาตลอดสี่ปีหรือเปล่านะ?หลี่โม่พยักหน้า แม้ในใจจะรับไม่ได้ทว่า เนื่องจา
เฉียนเสี่ยวเหวินชะงัก และเช็ดปากเล็ก ๆ ของเธอด้วยสีหน้าที่หงิกงอ ในที่สุดก็พยักหน้าตอบกลับว่า“ฉันบอกคุณก็ได้ แต่คุณห้ามบอกว่าฉันเป็นคนพูด พี่หยุนหลานถูกนักลงทุนจากบริษัทของเราตบตี หล่อนชื่อหวังเมิ่งเหยาเป็นแฟนสาวของกู้ซิ่งเหว่ย” “ตีกู้หยุนหลานทำไม?” “ก็หวังเมิ่งเหยาเป็นแฟนสาวของผู้จัดการกู้นี่นา คงอยากออกหน้าจัดการเพื่อผู้จัดการกู้ ในที่สุดตอนนี้พี่หยุนหลานเป็นรองประธานซึ่งแย่งรับตำแหน่งที่เดิมควรเป็นของผู้จัดการกู้” “ทะเลาะกันที่ไหน?” “ที่ตึกสำนักงาน ตบตีกันต่อหน้าเพื่อนร่วมงานทั้งหมด ตบหน้าสองครั้ง ฉันรู้สึกโกรธแทนพี่หยุนหลานจริง ๆ หวังเมิ่งเหยาคนนั้นก็บ้าอำนาจเกินไปแล้ว เธอใช้อำนาจในฐานะเป็นนักลงทุนและประธานคณะกรรมการก็สนับสนุน เธอไม่ได้เห็นพี่หยุนหลานอยู่ในสายตาเลย เพิ่งมาเมื่อวานก็ทำให้หลายคนขุ่นเคืองไม่น้อยแล้ว ช่างเป็นมารจริง ๆ” เฉียนเสี่ยวเหวินพูดอย่างโกรธเคือง หลังจากนั้น ก็ดูเหมือนเธอจะคิดอะไรบางอย่างออก และถามอย่างตาโตว่า “หลี่โม่ คุณคงไม่ไปสั่งสอนหวังเมิ่งเหยาแทนพี่หยุนหลานหรอกใช่ไหม?” หลี่โม่ไร้ประโยชน์ขนาดนี้ กล้าทำเช่นนี้จริงหรือ?เขาอยู่ในครอบครัวกู้ แต่ไ
กู้หยุนหลานสูดหายใจ แล้วกลืนความน้อยใจทั้งหมดลงในท้อง และตอบกลับว่า “ประธานหวังพูดถูก ฉันจะไปบริษัทหรงคังเดี๋ยวนี้ และคิดแผนโครงการโดยเร็วที่สุด” พูดจบกู้หยุนหลานก็หันกลับมาหยิบกระเป๋า และกำลังจะจากไป อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าหวังเมิ่งเหยาไม่ปล่อยให้กู้หยุนหลานไปแบบนี้ เธอตรงเข้าไปดึงกระเป๋าในมือของกู้หยุนหลานและทิ้งลงบนพื้นอย่างแรง จากนั้นก็ผลักกู้หยุนหลานอย่างไม่แยแส ด่าว่า “กู้หยุนหลาน ฉันเตือนเธอไว้ อย่ามาแสแสร้งทำเป็นน่าสงสารและน้อยเนื้อต่ำใจต่อหน้าฉัน ผู้หญิงแอ๊บใสแบบเธอ ฉันเจอมาเยอะแล้ว! ถ้าเธอรู้จักกาลเทศะหล่ะก็ลาออกจากตำแหน่งรองประธานเองเลย แล้วสละตำแหน่งของเธอให้กู้ซิ่งเหว่ย ไม่อย่างนั้น ฉันทำให้เธอตายได้!” กู้หยุนหลานเหลือบมองสิ่งที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยน้ำตา และในที่สุดก็ไม่สามารถทนความน้อยเนื้อต่ำใจได้ ตอบกลับว่า “ประธานหวัง ฉันไม่เคยผิดใจกับคุณ ทำไมคุณถึงพุ่งเป้ามาที่ฉันแบบนี้?!" หวังเมิ่งเหยาตอบกลับอย่างเยาะเย้ยว่า “พุ่งเป้าที่เธอ? กู้หยุนหลาน เธอมองตัวเองสูงเกินไป เธอเป็นผู้หญิงชั้นต่ำ ฉันเจอมานับไม่ถ้วนแล้ว ตอนกลางวันแกล้งทำเป็นผู้หญิงบริสุท
เดือดแล้ว! มังกรมีเกร็ดย้อน ใครกล้าแตะต้องตาย! หลี่โม่รีบพุ่งไปข้างหน้า คว้ามือของหวังเมิ่งเหยาที่กำลังจะตบอีกฝ่าย แล้วผลักเธอออกไป! เขามองไปที่กู้หยุนหลานที่กำลังสั่นสะท้านไปทั้งตัว รอยฝ่ามือสีแดงสดบนใบหน้าเธอทำให้ตาทั้งคู่ของเขาลุกเป็นไฟ! เจตนาฆ่าที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ปะทุออกมาจากหลี่โม่อย่างสมบูรณ์ในเวลานี้! “หยุนหลาน ผมขอโทษ ผมมาช้าไป” หลี่โม่พูดเบา ๆ แล้วดึงเสื้อหนังกันลมจากบนโซฟามาคลุมร่างที่อ่อนแอของกู้หยุนหลาน เมื่อกู้หยุนหลานเห็นหลี่โม่มาถึง น้ำตาในดวงตาเธอก็ไหลไม่หยุด เขาปรากฏตัวแล้ว คือหลี่โม่ที่ปรากฏตัวในช่วงเวลาที่เธอรู้สึกท้อแท้ หมดหนทาง และสิ้นหวังที่สุด เธอร้องไห้คร่ำครวญเสียงดัง โผเข้าอ้อมกอดของหลี่โม่ “หลี่โม่...พาฉันกลับบ้าน พาฉันกลับบ้านที...” เสียงร้องอันเจ็บปวดนี้ทำให้หัวใจของหลี่โม่แหลกสลายเป็นชิ้นๆ กู้หยุนหลานร้องไห้ ทำให้โลกทั้งใบของหลี่โม่จะแตกสลาย! ในโลกใบนี้ไม่มีใครรังแกกู้หยุนหลานได้! ไม่มี! ไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าภูมิหลังของเธอจะเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าจะเป็นราชาแห่งสวรรค์ หลี่โม่ก็จะลงมือถึงตาย ลงมือถึงตายด้วยตัวเขาเอง! หลี่โม่สูดหายใจ
จบแล้ว จบแห่แล้ว! เกรงว่าพี่หยุนหลานจะอยู่ในบริษัทต่อไปไม่ได้อีกแล้ว แม้แต่หลี่โม่เองก็จบแห่แน่! แต่ว่า วินาทีถัดมา เสียงหัวเราะเยาะเย้ยที่มุมปากของหลี่โม่ก็ดังขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้าช้า ๆ เดินถึงด้านหน้าหวังเมิ่งเหยา แล้วจับผมหยักศกยาวของเธอ และดึงเธอขึ้นจากพื้น ตามมาด้วย เพี๊ยะ! เสียงตบหน้ารุนแรงได้กระทบบนใบหน้าของหวังเมิ่งเหยา ใบหน้าเย่อหยิ่งของหวังเมิ่งเหยาหันไปอีกด้าน แก้มของเธอปวดแสบปวดร้อนเหมือนโดนไฟ! ในเวลานี้หวังเมิ่งเหยาเบิกตากว้าง และจ้องไปยังชายที่อยู่ข้างหน้าเธออย่างไม่เชื่อ หลังจากการตอบสนองกลับมา เธอก็โวยวายอย่างบ้าคลั่งว่า “หลี่โม่ ไอ้สารเลว แกกล้าดียังไงมาตีฉัน แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?! " “เหอะ ๆ ฉันหลี่โม่ไม่จำเป็นต้องรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายเวลาตีคน” เพี๊ยะ! หลี่โม่เข้าไปตบหน้าอีกครั้งอย่างแรง เพี๊ยะ! เพี๊ยะ เพี๊ยะ! เขาตบหวังเมิ่งเหยาล้มลงไปกองกับพื้นทุกครั้งที่ตบ จากนั้นดึงขึ้นมา และตบอีกครั้ง! หวังเมิ่งเหยาถูกตบจนมึน แล้วยังต้องการโต้กลับ ดังนั้นจึงถูกหลี่โม่ใช้เท้าเตะออกไปอีกครั้ง แล้วเตะเธออย่างดุเดือด จนเธอกลิ้งลงกับพื้น! ตอนนี้ใบหน้าขอ
อวดดี! หลี่โม่เขาเป็นเพียงลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของตระกูลกู้ เขามีคุณสมบัติอะไรถึงจะพูดเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ได้ มันน่าหัวเราะ! ใบหน้าหวังเมิ่งเหยาเต็มไปด้วยความรังเกียจ เธอได้ตัดสินใจแล้วว่าวันนี้หลี่โม่ต้องชดใช้ และยิ่งกว่านั้นคือต้องขับไล่กู้หยุนหลานออกจากบริษัทนี้! บริษัทนี้ต้องเป็นของพี่ซิ่งเหว่ยเท่านั้น หวังเมิ่งเหยาไม่ยอมให้ผู้หญิงต่ำต้อยเช่นนี้รับแย่งตำแหน่งรองประธานของกู้ซิ่งเหว่ย ในขณะนี้เฉียนเสี่ยวเหวินยืนอยู่ข้างกู้หยุนหลาน เธอมองไปที่แววตาของหลี่โม่ที่สะท้อนเต็มไปด้วยเสน่ห์! เท่เกินไปแล้ว! คำพูดและการกระทำของหลี่โม่เมื่อกี้นั้นได้ระเบิดพลังออร่าของแฟนหนุ่มออกมา! ตอนแรกคิดว่าเขาเป็นคนอ่อนแอที่ไม่รู้อะไรเลย คิดไม่ถึงเลยว่าเพื่อพี่หยุนหลานแล้วเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้! อย่างไรก็ตามหลี่โม่นั้นก็ไร้สมองเกินไปแล้ว เขาถึงกับกล้าที่จะตบหวังเมิ่งเหยา นั่นคือลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลหวังในกรุงโซลเชียวนะ และพี่ชายของเธอคือหวังฮั่นเชาที่มีชื่อเสียงในกรุงโซล! ซึ่งเป็นคนที่พัวพันกับเฉียวเย่ และเฉียวเย่ก็ชื่นชมเขาไม่น้อย เฉียวเย่คือใครเหรอ? ก็คือเฉียวเจิ้งหลงแห่งกรุง
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หลี่โม่ในขณะนี้ กู้ซิ่งเหว่ยก้าวออกมาทันที ชี้ไปที่หลี่โม่ และพูดว่า “พี่เชา คนนี้ไง” หวังฮั่นเชาหันหน้าไปมอง สายตาทั้งคู่มองอย่างเย็นชาที่ชายธรรมดาที่อยู่ข้างหน้าเขา “เป็นแกเองที่ตบน้องสาวฉัน เยี่ยม คุกเข่าขอโทษน้องสาวฉันเดี๋ยวนี้!” หวังฮั่นเชาพูดด้วยท่าทีดุดัน กล้าลงมือกับน้องสาวเขา รนหาที่ตาย! อย่างไรก็ตาม สีหน้าหลี่โม่นั้นเงียบสงบ และพูดว่า "คุณไม่ถามผมเหรอว่าทำไมผมถึงตบน้องสาวคุณ?" “ทำไมฉันต้องถามด้วย ตอนนี้ฉันรู้แค่ว่าแกตบน้องสาวฉัน แกต้องขอโทษน้องสาวฉัน!” หวังฮั่นเชาตระโกนด้วยความโกรธ ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังเขาก็ก้าวไปข้างหน้าด้วยความดุดัน กู้ซิ่งเหว่ยหัวเราะอย่างเย็นชาที่มุมปากของเขา หลี่โม่คนนี้เป็นคนงี่เง่าจริง ๆ เขายังต้องการเหตุผล? หวังเมิ่งเหยากอดอก และมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาแล้วตะโกนว่า “พี่ชาย เลิกพูดไร้สาระกับเขา ลงมือให้เขาตาย และแก้แค้นแทนน้อง!” กู้หยุนหลานรู้สึกกังวลในตอนนี้ และอยากออกมาอธิบาย แต่หลี่โม่ขัดเธอไว้ เขามองไปที่หวังฮั่นเชาด้วยสายตาที่แผดเผา และพูดว่า “น้องสาวของคุณจงใจสร้างปัญหาให้ภรรยาของผม คนที่เริ่มลงมือก่อน ท
เฉียว...เฉียวเย่?! ในเวลานี้ทุกคนต่างตกตะลึง! เฉียวเย่มาแล้ว! พวกเขาทั้งหมดหลีกทางโดยอัตโนมัติ และเฉียวเจิ้งหลงก็เดินเข้ามาพร้อมกับคนของเขา หวางฮั่นเฉาก็ตกตะลึงในขณะนั้น เขาหันไปที่มองบุคคลนั้น เป็นเฉียวเย่จริง ๆ เขารีบเข้าไปทักทายด้วยรอยยิ้มชื่นบาน แล้วโค้งคำนับด้วยความเคารพ และพูดว่า "เฉียวเย่ ท่านมาที่นี่ได้ไง?" เพี๊ยะ! กลับกลายเป็นว่าเฉียวเจิ้งหลงเข้าไปตบหน้าหวังฮั่นเชา และจ้องมองเขาด้วยความโกรธ ตะโกนว่า "แกกำลังทำอะไร!" ตบนี้ทำให้หวังฮั่นเชามึนไป ซี๊ด ซี๊ด! ทุกคนต่างก็สูดหายใจเข้า เฉียวเย่ก็คือเฉียวเย่ แรงกดดัน และการลงมือที่โหดเหี้ยมนี้ทำให้ทุกคนสั่นสะท้านในใจ นี่คือหนึ่งในสี่ราชามาเฟียในกรุงโซล เฉียวเย่ เฉียวเจิ้งหลง ออร่านี้ไม่ถูกปกปิดจริง ๆ อย่างไรก็ตามหวังฮั่นเชาไม่กล้าบ่น และตอบด้วยความเคารพว่า “เฉียวเย่ คนผู้นี้รังแกน้องสาวผม ผมพาคนมาสั่งสอนเขาสักหน่อย” หวังฮั่นเชาไม่เข้าใจว่าทำไมเฉียวเย่ถึงมาที่นี่ ยิ่งกว่านั้นคือเข้ามาตบตัวเขา หรือว่าตัวเขาได้ทำอะไรขัดใจเฉียวเย่เข้า? ก็ไม่น่าเป็นไปได้นี่ “สั่งสอน? แกหวังฮั่นเชามีชื่อเสียงมากในตอนนี้กล้าท