Share

ตอนที่3.

ตอนที่3.

“ไปทางนี้ แพงต้องเกาะหลังพี่ไว้ พี่จะพาว่ายน้ำข้ามฝั่งไปหา บุญยอด เราจะหลบอยู่ที่นั่นก่อนป้าจันไม่กล้าตอแยแม่บุญเยี่ยมหรอก”

พิมพ์ภัสสรจูงมือผอมๆ ของน้องสาวเดินลัดเลาะกำแพงมาอีกด้านซึ่งไกลพอสมควรจนมาถึงคลองเล็กๆ หลังหมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้ที่สายน้ำขุ่นทั้งดำสกปรก แต่พวกเธอไม่มีทางเลือก ถ้ากลับไปที่ถนนพวกเธอถูกจับตัวกลับไปได้แน่นอนแต่ถ้าไปทางนี้ พวกเธออาจจะรอด

เด็กหญิงทั้งสองเงยหน้ามองฟ้าที่เริ่มมืดครึ้มและลมก็กรรโชกแรงขึ้น สายฟ้าแลบแปลบปลาบอยู่บนผืนฟ้าทะมึนเป็นสัญญาณว่าอีกไม่นานพายุฝนก็จะเทกระหน่ำลงมา ทั้งสองเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นมือเล็กๆ ถือไม้อันยาวก็ฟาดถางทางให้ตนเองกับน้องจนถึงลำคลองเด็กหญิงก็ถอนใจด้วยความโล่งอกและเหนื่อยอ่อนก่อนจะหันไปมองกำแพงบ้านของตนเป็นครั้งสุดท้าย บ้านที่เคยสวยงามอบอุ่นเพียบพร้อมจะไม่มีอีกแล้ว...

“เพื่อน แพงกลัว ฮือๆๆ”

“ไม่ต้องกลัวนะแพง เพื่อนจะดูแลแพงเอง น้องพี่อย่ากลัว”

ผู้ซึ่งเกิดก่อนไม่กี่นาทีเฝ้าปลอบโยน ใบหน้าเล็กๆ ก็ซีดลงอีกคราเมื่อได้ยินเสียงเดินและเสียงก่นด่าของสองแม่ลูกมหาภัยกำลังตรงมายังทิศทางที่พวกเธออยู่ สองแม่ลูกนี้ช่างเหมือนสุนัขล่าเนื้อที่กัดไม่ปล่อยจริงๆ และในไม่ช้าลุงของเธอก็มาสมทบกับลูกเมียของเขาแน่นอน

“คราวนี้ถ้าจับอีเด็กสองคนนั่นได้ แม่ขายมันไปเลยนะ ฉันไม่อยากให้พวกมันมาลอยหน้าลอยตาในบ้านเราอีกแล้ว” ด้านสองแม่ลูกเดินตามเด็กทั้งสองจนมาสุดกำแพงบ้านและกำลังคิดว่าเด็กแฝดจะต้องมาที่นี่แน่ๆ

“นั่นล่ะคือสิ่งที่แม่คิดไว้ ไอ้ศักดิ์มันมองอีแพงตาเป็นมัน มันคงอยากจะได้นังเด็กนั่นมาก ไอ้นี่มันโรคจิตชอบเอาเด็ก หึหึ” นางจันพูดด้วยน้ำเสียงสะใจหยาบคาย

“ต๊าย จริงเหรอแม่ ดีจริงๆ อีแพงต้องตายคา... น้าศักดิ์แน่ๆ ฮ่าๆ ฉันล่ะอยากให้พวกมันตายทั้งเป็นนักถึงว่าสิน้าศักดิ์ชอบมาบ้านเราแล้วก็ชอบไปวอแวกับอีแพง มันเป็นแบบนี้นี่เองสะใจจริงๆ เลยหากมันโดนน้าศักดิ์... ฮิๆๆ” เด็กหญิงวัยเพียงสิบขวบเท่านั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสะใจเต็มไปด้วยจริตมารยาเกินเด็กเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยจริตนั้นทำให้เจนจิราดูแก่เกินวัย ผู้เป็นแม่กลับยิ้มด้วยความชื่นชม

“ใช่แล้วลูก ความหายนะของพวกมันคือความสุขของเรา ฮ่าๆๆ” สองแม่ลูกหัวเราะด้วยความสะใจขณะยืนรอผู้เป็นสามีซึ่งสิ่งที่ทั้งสองคุยกันทำให้เด็กหญิงซึ่งหมอบหลบอยู่ภายใต้ต้นกกที่ขึ้นหนาทึบบริเวณชายคลองน้ำตาไหลด้วยความอดสูและเจ็บปวด โดยเฉพาะพิมพ์ภัสสรนั้นกัดกรามกรอดด้วยความเคียดแค้นชิงชังสองแม่ลูกยิ่งนัก

“แพงไม่ต้องกลัวนะ ต่อไปนี้จะไม่มีใครทำร้ายแพงได้ พี่จะปกป้องแพงเอง เท่าชีวิต” เด็กหญิงกระซิบให้สัญญาต่อแฝดผู้น้องเสมือนว่าตนเองเป็นผู้ใหญ่เสียนักหนาทั้งที่ความจริงพวกเธอเป็นเพียงเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบเศษเท่านั้น

“พอพวกนั้นหันหลังเราจะคลานลงน้ำว่ายข้ามไปฝั่งโน้น” พิมพ์บงกชก็พยักหน้าอย่างเหนื่อยล้าใบหน้าขาวซีดริมฝีปากเขียวคล้ำสั่นระริกเพราะความหวาดกลัวแต่เต็มไปด้วยความหวังเรืองรอง...

“สองคนนั้นยืนตากแดดหรือตากฝนนานๆ ไม่ได้หรอก อดทนหน่อยนะถ้าเขาเห็นเราตอนนี้เราจะไม่มีทางรอดรอให้ฝนตกลงมาก่อนเถอะ”

“จ้ะ แพงจะอดทน” เหมือนสวรรค์ยังคงมีเมตตาอยู่บ้างเมื่อฝนเม็ดโตเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาสองแม่ลูกจึงวิ่งเข้าไปหลบฝนเด็กหญิงทั้งสองจึงฉวยโอกาสนั้นค่อยๆ ย่องเดินลงน้ำไปช้าๆ 

น้องแพงเกาะบ่าของแฝดผู้พี่แน่นแล้วสูดหายใจลึกๆ เข้าปอด ดวงตากลมโตที่ไร้แววสดใสมานานนับปีนั้นเรืองรองด้วยความหวังเมื่อร่างที่สูงใหญ่กว่าเล็กน้อยของพี่สาวค่อยๆ พาตนลงน้ำลึกลงเรื่อยๆ จากแค่เข่าถึงเอวจนลึกถึงลำคอ เด็กหญิงพิมพ์ภัสสรซึ่งเคยเรียนว่ายน้ำเมื่อสมัยที่บิดามารดายังอยู่แต่ก็ว่ายได้ไม่แข็งเท่าไหร่นัก แต่อาศัยว่าตนแอบมาเล่นน้ำคลองกับบุญยอดเพื่อนสนิทซึ่งเป็นเด็กริมคลองบ่อยๆ เธอจึงสามารถว่ายได้ดีขึ้นแต่ก็เก่งสู้บุญยอดไม่ได้ เด็กหญิงค่อยๆ แหวกว่ายไปอย่างเงอะงะพลางบอกให้น้องสาวช่วยตีขาในน้ำเพื่อช่วยส่งแรงแหวกว่าย

เม็ดฝนหนาขึ้นและลมเริ่มกรรโชกแรงทั้งสาบฟ้าก็ฟาดแปลบปลาบดังสะสนั่นไปทั้งโลก เงาร่างของเด็กหญิงที่ลอยอยู่กลางคลองน้ำสายเล็กนั้นปรากฏต่อสายตาของผู้ที่อยู่บนฝั่งซึ่งต่างมองเด็กทั้งสองด้วยความแปลกใจ บ้างก็นึกขัน บ้างก็นึกห่วงเพราะคลองสายนี้ก็ยังมีเรือยนต์สัญจรไปมาอยู่ บางคนก็นึกสมเพชเวทนา แต่บางคนเดือดดาลด้วยความชิงชัง

“แม่ ดูนั่น นังเพื่อนนังแพง...”

“ฮึ้ย อีพวกเด็กเหลือขอ ฉันจะทำยังไงกับพวกมันดีนะ” นางจันจวงพลุ่งพล่านด้วยความชิงชังและนึกอยากจะบีบคอเด็กทั้งสองให้ตายคามือเสียนัก

“แม่ หรือว่าเราจะจ้างเรือไปตามจับพวกมัน”

“เออนั่นสินะ แล้วพ่อแกล่ะ”

“ไม่รู้ บอกว่าจะตามมาแต่ยังไม่มา...”

“มาแล้วๆ ไหน อีเด็กสองคนนั่นไปไหน” นายพัฒน์วิ่งกระหืดกระหอบมากลางสายฝนกระหน่ำ สามคนพ่อแม่ลูกต่างยืนหันรีหันขวางหาทางไปจับตัวเด็กสองคนนั้นกลับมาลงโทษ

“ฉันว่าเราน่าจะจ้างเรือออกไปจับมันมานะพ่อ” เด็กหญิงเสนอความคิดอีกครั้ง

“แล้วมันจะทันเหรอพวกมันเกือบจะถึงฝั่งแล้ว”

“ถ้ามันขึ้นฝั่งได้ มันจะต้องไปที่ไหนนะ...” นางจันจวงครุ่นคิดแล้วดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา

“เรากลับกันเถอะ ฉันรู้แล้วว่ามันจะไปไหนกัน...” 

ทางด้านเด็กน้อยทั้งสองที่กำลังว่ายน้ำข้ามไปยังอีกฝั่งนั้นลอยคออยู่กลางลำคลองซึ่งสายน้ำค่อนข้างเชี่ยวเนื่องจากเป็นหน้าฝนปริมาณน้ำในคลองก็ทั้งสกปรกและไหลแรงช่วงกลางลำคลอง แต่เด็กหญิงทั้งสองก็พยายามประคับประคองพวกตนให้ผ่านมันไปได้ ชายฝั่งอยู่แค่เอื้อมเทานั้นเอง...

“เพื่อน... แพงตีน้ำไม่ไหวแล้ว เพื่อนปล่อยแพงเถอะ”

“ไม่เอา แพงห้ามปล่อยมือจากเพื่อนนะ เราจะถึงฝั่งแล้ว อีกนิดเดียว” แฝดผู้พี่บอกด้วยแรงหอบโยน และกำลังจะหมดแรงดวงตากลมโตของเด็กหญิงเริ่มพร่ามัว แขนขาก็เริ่มไร้แรงที่จะจ้วงโจนน้ำต่อไป แต่เธอจะไม่ยอมแพ้

“โธ่ เพื่อน...”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status