Share

ตอนที่4.

ตอนที่4.

“ถ้าแพงปล่อยมือจากเพื่อนไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร เพื่อนจะไม่ให้อภัยแพงเลย” พิมพ์ภัสสรพูดราวผู้ใหญ่ น้ำเสียงของเธอหนักแน่นแม้อ่อนแรงก่อนที่เธอจะรู้สึกหนักอึ้งหูอื้อตาลายและขาเล็กๆ นั้นเริ่มจะตีน้ำไม่ไหวมันทั้งหนักอึ้ง ทั้งปวดแปลบราวใครเอาเข็มนับพันเล่มมาทิ่มแทงลงขาทั้งสองข้างของเธอ...

“เพื่อน เพื่อนเป็นอะไร เพื่อน ไม่นะกรี๊ดดด” เด็กหญิงตัวเล็กกรีดร้องอย่างตกใจเมื่อพี่สาวของตนจมดิ่งลงไปในน้ำทำให้เธอต้องตะเกียกตะกายอย่างไร้ที่ยึดเหนี่ยวทั้งสำลักน้ำเข้าไปหลายอึก แขนเล็กๆ วาดตีน้ำอย่างตกใจจนน้ำแตกกระจายรอบกายเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจกลัวของเธอกลับไม่มีใครได้ยิน เด็กหญิงตาเหลือกลานเริ่มหายใจไม่ออก ความมืดค่อยๆ เข้าปกคลุมในหน่วยตาก่อนสติสุดท้ายจะดับวูบลงไปในความเย็นยะเยือกของสายน้ำ

พวกเธอไม่สามารถไปถึงฝั่งทั้งที่มันอยู่แค่เอื้อมหรือไร ไยสวรรค์ช่างโหดร้ายกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เช่นพวกเธอเช่นนี้หนอ

18 ปีผ่านไป...

ร่างระหงปราดเปรียวในชุดเดรสสั้นรัดรูปสีส้มทองก้าวเดินฉับๆ เข้าไปยังสำนักงานเล็กๆ ทว่าสะอาดเอี่ยมแวดล้อมด้วยต้นไม้ดอกไม้บานสะพรั่งงดงามและยังเป็นสำนักงานต้นสังกัดของ พริตตี้ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยด้วย พิมพ์ภัสสร เร่งฝีเท้ายิ่งขึ้นเมื่อมองเวลาจากนาฬิกาเรือนเล็กบนข้อมือบางพบว่ามันเลยเวลานัดของตนมาร่วมชั่วโมงแล้ว

จากเด็กหญิงที่เกือบจะจมน้ำหายไปจากโลกนี้เมื่อสิบแปดปีก่อน บัดนี้เธอคือหญิงสาววัยยี่สิบห้าเจ้าของใบหน้าพริ้มเพราประกอบด้วยรูปหน้าเรียวไข่ประดับด้วยดวงตากลมโตสีน้ำตาลสกาวสุกใสพราวระยับเป็นประกายเหมือนเจ้าของดวงตากำลังเชื้อเชิญให้เข้ามาหา อย่างที่เรียวกว่าตาหวานเซ็กซี่ จมูกโด่งเรียวเล็กน่ารักโดยไม่ได้ผ่านมีดหมอและริมฝีปากอวบอิ่มเต็มตึงแดงระเรื่อด้วยวัยสาว เมื่อยามยิ้มแย้มจะเผยให้เห็นไรฟันขาวสะอาดราวไข่มุกและรอยยิ้มของเธอก็เป็นที่ประทับใจของผู้พบเห็นเสมอ แม้ว่าเธอจะอายุมากกว่าบรรดาพริตตี้ทุกคนในบริษัทแต่ความสวยความแซบเซ็กซี่ของเธอก็ทำให้พิมพ์ภัสสรยังเป็น พริตตี้ สวยเซ็กซี่ที่สุด มีงานอีเวนต์และมีผู้ต้องการจ้างเธอมากที่สุดในสังกัดของ เจ๊หวาน อดีตหนุ่มใหญ่ใจสาวซึ่งบัดนี้ก็เป็นหญิงทั้งร่างกายและจิตใจและตอนนี้กำลังยืนเท้าสะเอวจ้องลูกรักในสังกัดตาเขียวปัด...

“ต๊าย นี่กี่โมงแล้วยะน้องเพื่อนขา แม่หวานรอจนเหงือกแห้งจนจะกรอบแล้วค่ะ ตอนนี้ลูกค้าเราก็หงุดหงิดมาก” เจ๊หวานหวานแผดเสียงใส่คนที่เรียกได้ว่าเป็นลูกรักอย่างอารมณ์ร้อนจัด

“เพื่อนขอโทษค่ะแม่หวาน วันนี้เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะเลยมาสาย...”

“ไหนเป็นอะไร หล่อนก็ปกติดีนี่ยะ”

“รถเพื่อนถูกชนค่ะ ตอนนี้อยู่ที่อู่แต่เพื่อนไม่เป็นอะไรมาก แต่หากไม่คาดเข็มขัดนิรภัยอาจจะเป็นวิญญาณเพื่อนนะคะที่มายืนคุยกับแม่หวานอยู่ตอนนี้ แต่ก็ถูกกระจกบาดนิดหน่อยค่ะที่ต้นแขนนี่ไงคะ” พิมพ์ภัสสรหันข้างที่แขนถูกกระจกบาดเป็นรอยแดงมีเลือดซึมน้อยๆ ให้เจ๊หวานดูซึ่งเมื่อเจ๊หวานเห็นต้นแขนเรียวมีตำหนิก็หน้าซีดตกใจ

“ต๊าย ตายแล้ว ไปๆ ทำแผลก่อนเดี๋ยวเป็นแผลเป็นขายไม่ออกกันล่ะงานนี้ ว่าแต่ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ หึ” แล้วคำถามมากมายก็ตามมา แต่พิมพ์ภัสสรก็ได้แต่ยิ้มให้ผู้เป็นเสมือนมารดาคนที่สองของเธอด้วยความซาบซึ้ง เจ๊หวาน หรือที่เธอมักเรียกว่า แม่หวาน นั้นแม้เป็นคนปากร้ายและค่อนข้างออกตัวแรงในทุกเรื่องแต่ความจริงแล้วเจ๊หวานนั้นเป็นคนจิตใจดีมาก และแม่หวานคนนี้ก็ดีกับเธอมาตลอดยี่สิบปีที่เธออยู่กับเจ๊หวานมาในฐานะ ลูกบุญธรรม...

พิมพ์ภัสสรเดินตามเจ๊หวานไปโดยไม่อิดออดเพราะรู้ดีว่าตนเองนั้นมาสายกว่าเวลานัดเป็นชั่วโมงแต่แล้วร่างบางสมส่วนหยุดกึกแทบจะหัวคะมำเมื่อเจ๊หวานหยุดเดินกะทันหันโดยไม่บอกไม่กล่าว...

“มีอะไรคะแม่หวาน”

“ที่แม่หวานจะพูดนี่ แม่อยากให้เพื่อนคิดดีๆ และตัดสินใจเองในทุกๆ เรื่อง”

“เรื่องอะไรคะ...”

“ตอนนี้น้องแพงอาการไม่ดี หมอบอกว่าน้องแพงอาจจะอยู่กับเราได้อีกไม่นาน... แม่หวานกลัวว่าเพื่อนจะคิดสั้นๆ ยอมเป็นเมียเก็บไอ้เสี่ยนั่น” ใบหน้าที่มีรอยยิ้มยู่เสมอหมองลงไป

“ค่ะเพื่อนเข้าใจ เพื่อนจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาแพงค่ะ แต่ไม่ยอมเป็นเมียน้อยหรือเด็กเสี่ยคนไหนแน่นอน” พิมพ์ภัสสรกล่าวออกมาอย่างหนักแน่นเมื่อนึกถึงน้องสาวฝาแฝดที่กำลังป่วยหนักอยู่ตอนนี้ น้องแพง น้องสาวฝาแฝดผู้อาภัพไม่แตกต่างจากเธอ เพียงแต่เธอโชคดีกว่านิดเดียวที่รอดพ้นเหตุร้ายๆ นั้นมาได้อย่างเฉียดฉิวเท่านั้นเอง พิมพ์ภัสสรสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วเดินต่อไปด้วยฝีเท้าที่มั่นคง

ร่างสูงสง่าในชุดนักแข่งรถสีดำคาดเทาก้าวยาวๆ เข้าไปในห้องโถงของคฤหาสน์หลังงามของตนอย่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่วันนี้เขาไม่อาจจะลงแข่งขันได้เพราะมารดากับน้องสาวตัวดีเข้าไปขัดขวางและอาละวาดจนงานแข่งขันรถยนต์สนามล่าสุดที่เขากับเพื่อนสนิทจัดขึ้นล้มไม่เป็นท่า

“นี่ตาธาม หยุดนะอย่าเดินหนีแม่แบบนี้ ธามแม่บอกให้หยุด...”

คุณธิติมา ร้องเรียกบุตรชายคนโตอย่างฉุนเฉียว ร่างอวบอิ่มในวัยห้าสิบปลายเดินมาขวางหน้าร่างสูงใหญ่ของ ธาม สุวลักษณ์ ธอมป์สันชายหนุ่มวัยสามสิบเอ็ดปีเลือดผสมไทย จีน อังกฤษ ไว้ก่อนที่เขาจะเดินหนีหน้าไป ชายหนุ่มหยุดเดินแล้วหันมามองมารดาด้วยแววตาเรียบเฉย

ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้ายาวได้เหลี่ยมได้รูปนั้นคมเข้มประกอบด้วยดวงตาใหญ่สีดำสนิทแววหวานชวนฝันภายใต้คิ้วยาวหนา จมูกโด่งเป็นสันตรงรับกับริมฝีปากหยักสวยสีชมพูเข้ม กรามแกร่งมีไรเคราเขียวครึ้มเสริมให้ใบหน้าของเขาดูหล่อเหลาตรึงใจ ยิ่งยามที่เขายิ้มให้สาวๆ ดวงตาคมจะพราวด้วยประกายฉ่ำหวานจนคนมองแทบละลายไปกับแววตาของเขาเลยทีเดียว ฟันขาวสะอาดเรียงตัวสวยส่งให้เขาดูน่าหลงใหลมากขึ้นซึ่งมันทำให้สาวน้อยสาวใหญ่พร้อมจะทอดกายให้เขาเชยชมและขอให้ได้เป็นคู่ควงของเขาสักวันหรือสักคืนพวกเธอก็แสนจะยินดี เพราะมันจะทำให้พวกเธอเป็นที่สนใจของบรรดาเหยี่ยวข่าวและอาจจะเป็นบันได้ไปสู่การเป็นนักแสดงหากมีคนสนใจพวกเจ้าหล่อนเยอะๆ แต่ที่สำคัญ ธามจ่ายงามมากเมื่อพวกเธอพ้นจากเตียงของเขา แต่ทว่าตอนนี้ดวงตาพราวหวานของธามไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย

“คุณแม่ต้องการอะไรอีกครับ...”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status