"คุณเจ็บท้องเป็นอะไร" ได้ยินปลายสายบอกว่าเจ็บท้องมากเขาก็ถามกลับไปด้วยความเป็นห่วง
"เดียไม่รู้ค่ะอยู่ดีๆ ก็เจ็บขึ้นมา เจ็บมากเลยค่ะ" เสียงนาเดียที่พูดตามสายมาเหมือนกับเจ็บทรมานมาก "คุณหายใจเข้าลึกๆ นะ ที่บ้านมีใครอยู่บ้าง" "คุณพ่อบอกว่าจะออกไปงาน..เออ.. ส่วนคุณแม่ออกไปไหนไม่รู้ค่ะยังไม่กลับเข้ามาเลย โอ๊ยย" นาเดียร้องโอดโอยออกมาแล้วสายก็ตัดไป "เดีย!?" ด้านในโรงแรม.. ที่ใช้จัดงานแต่ง "คุณแม่" หญิงสาวที่มองอยู่ว่าใครเปิดประตูเข้ามา เพราะมันใกล้ได้ฤกษ์รับตัวเจ้าสาวเข้างานแล้ว "คุณแม่มาได้ยังไงคะ" "งานแต่งลูกสาวแม่ทั้งที ทำไมแม่จะไม่มาล่ะ" "แล้วคุณพ่อล่ะคะ" หญิงสาวมองไปดูหน้าประตูก็ไม่เห็นพ่อ "พ่ออยู่กับลุงของเรา" "คิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ" "ไม่เอานะลูกไม่ร้อง" อิงนภาตำหนิลูกเมื่อเห็นว่าน้ำตาคลอออกมา "มันไม่เป็นมงคลรู้ไหม" "ก็อิงคิดถึงแม่นี่คะ" "แม่ก็คิดถึงหนู หนูทำดีมากเลยนะลูกที่ดูแลคุณลุงแทนแม่" ขณะที่แม่กับลูกกำลังกอดกัน ประตูห้องก็ได้เปิดเข้ามาอีกครั้ง "เป็นยังไงบ้างเจ้าสาวสุดสวยของพ่อ" "คุณพ่อ" หญิงสาวปล่อยกอดจากแม่แล้วเข้าไปกอดพ่ออีกคน "ลูกของพ่อสวยจังเลย" "สวยเหมือนใครคะ" อิงนภาแกล้งถามสามี "จะสวยเหมือนใครล่ะ ถ้าไม่เหมือนแม่" น้ำอิงได้แต่มองพ่อกับแม่คุยกัน ความหวานของพวกท่านมีเติมให้กันทุกวัน ถึงว่าแม่ตัดสินใจหนีตามพ่อไปตายเอาดาบหน้า เพราะพ่อเป็นคนอบอุ่นมาก ไม่เคยทำร้ายจิตใจแม่เลยแม้แต่ครั้งเดียว "ออกไปกันได้หรือยังสุดสวยทั้งสอง" ความหวานและความละมุนนั้นมีเผื่อแผ่มาถึงลูกสาว ถึงแม้ว่าฐานะของพ่อจะเรียกว่ายากจนเลยก็ได้ แต่ท่านก็ไม่เคยให้ลูกกับเมียต้องอด "ค่ะ" น้ำอิงอยากจะถามพ่อกับแม่ว่าตอนนี้เจ้าบ่าวมางานหรือยัง แต่ก็ไม่กล้าที่จะถามอีกนั่นแหละ เอาเป็นว่าออกไปดูเองเลยแล้วกัน หญิงสาวควงแขนของพ่อเดินออกมา "สวัสดีค่ะคุณลุง" มาถึงหน้างานก็เห็นลุงนั่งรถเข็นรออยู่ประตูทางเข้า "เรียกพ่อได้แล้ว" ทัตเทพที่นั่งอยู่รถเข็นเอ่ยพูดกับลูกสะใภ้ อิงนภาก็แอบเขินอยู่มากที่จะให้ลูกสาวเรียกพี่ชายว่าพ่อ แต่มันอาจจะเป็นพรหมลิขิตของพวกเขาทั้งสองคนก็ได้ "เรียกพ่อสิลูก" ผู้เป็นแม่พูดให้ลูกสาวคลายกังวล เมื่อเห็นว่าลูกไม่กล้าเรียก "คุณพ่อ" มันอาจจะเป็นโชคดีอย่างหนึ่งที่เธอไม่ได้เติบโตที่บ้านหลังนี้ เพราะถ้าเจอหน้ากันตั้งแต่เล็ก แล้วมาเรียกว่าพ่อนี้คงจะอายกว่านี้แน่เลย "เราเข้าไปในงานกันเถอะลูก" เอนกจับมือลูกสาวมาควงแขนตัวเองอีกครั้ง แล้วพาเดินเข้าไป หญิงสาวไม่กล้ามองดูข้างหน้าเลยด้วยซ้ำว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นไหม เพราะกลัวว่างานแต่งจะไม่มีเจ้าบ่าว "พ่อฝากดูแลน้องด้วยนะ จากนี้ไปพ่อยกน้องให้กับเรา" ได้ยินคำพูดของพ่อ น้ำอิงถึงกล้าเงยหน้าขึ้นมอง จังหวะนั้นเขาก็ยื่นมือมารับตัวเธอพอดี "ครับ" ชายหนุ่มรับปากแล้วก็พาเธอเดินขึ้นไปบนเวที วันนี้มีทั้งนักข่าว นักธุรกิจ รวมไปถึงนักการเมือง เพราะคุณลุงของเธอเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคม จนงานแต่งล่วงเลยมาถึงช่วงสุดท้าย "ลุงได้ยินว่าเดียเจ็บท้องไม่ใช่เหรอ" พงษ์พิบูลย์จะไม่มาร่วมงานนี้ก็ไม่ได้ จำเป็นต้องได้นั่งปั้นหน้าอยู่ในงานจนจบ และหาโอกาสที่จะมาคุยกับเจ้าบ่าวเพื่อให้เขาสำนึกผิด ที่แต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นทั้งๆ ที่ยังคบกับลูกสาวตนเองอยู่ "ผมให้คนขับรถไปดูเธอที่บ้านแล้วครับ ป่านนี้คงพาไปหาหมอแล้ว" พอสายของนาเดียตัดไป เขาก็มองเห็นคนขับรถของพ่ออยู่รถพอดี ชายหนุ่มก็เลยถือโอกาสใช้ "เหอะ ให้คนรถไปงั้นเหรอ!" พงษ์พิบูลย์พูดออกมาแบบไม่พอใจ "ว่าแต่..คุณอารู้ด้วยเหรอครับว่าเธอเจ็บท้อง" ที่เขาถามหมายถึงว่า ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าลูกสาวเจ็บท้อง คนเป็นพ่อทำไมยังอยู่ในงานนี้ "เออ.. ผมก็รู้เมื่อไม่นานนี้เอง" พงษ์พิบูลย์ถึงกับพูดไม่ออก เพราะไม่รู้ว่าลูกสาวพูดโกหกเขาไว้ยังไงบ้าง และอดที่จะแอบสังเกตไม่ได้ว่าท่าที่ของแทนคุณทำไมถึงดูแข็งกร้าว "ผมขอตัวนะครับ ต้องได้ไปช่วยคุณพ่อส่งแขก" "พอจบงานแล้ว เราจะไปไหนต่อเหรอ" พงษ์พิบูลย์ยังคงถามต่อ "จบงานแต่ง ก็ต้องเข้าห้องหอสิครับ" "แล้วนาเดียล่ะ เราจะทิ้งลูกสาวของอาเหรอ" "เรื่องนั้นไว้คุยกันวันหลังดีกว่าไหมครับ" "คุณแทนคะ คุณลุงให้มาตามค่ะ" คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าสาวต้องแบกหน้าเดินเข้ามาเรียกเจ้าบ่าว ที่กำลังคุยอยู่กับพ่อของหญิงคนรัก ..เธอไม่รู้หรอกว่าทั้งสองคุยอะไรกัน แต่คิดว่าคงนัดแนะ หรือไม่ก็ให้คำมั่นสัญญากับพ่อคนรัก ว่าแค่แต่งงานตามใจผู้ใหญ่ "ผมขอตัวนะครับ" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินนำหน้าเธอไป แต่ก็ก้าวขาไม่ยาวเท่าไร พอให้เธอเดินตามได้ทัน ส่งแขกเสร็จ เจ้าของงานก็กลับมาที่บ้าน เพราะใช้ที่นี่เป็นเรือนหอ "พ่อขอฝากน้องอีกครั้งนะ มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากัน" "ครับ" ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เก้าอี้ในห้องหอ ได้แค่ตอบรับคำฝากฝังของพ่อและแม่เธอ ซึ่งเธอก็รู้ดีว่าเขาคงตอบรับไปพอเป็นมารยาท แต่ก็ดีแล้ว ดีกว่าที่เขาจะทำเสียมารยาทต่อหน้าพ่อกับแม่ "หนูก็เหมือนกันนะลูก ผู้หญิงเราต้องเป็นแม่ศรีเรือนให้กับสามี" อิงนภากล่าวพูดกับลูกสาวบ้าง พอผู้ใหญ่ส่งตัวเข้าหอเสร็จก็ออกจากห้องทิ้งไว้แค่คู่บ่าวสาวอยู่กันตามลำพัง "พรุ่งนี้คุณพ่อกับคุณแม่ถึงจะกลับบ้าน คืนนี้คุณอยู่ที่ห้องนี้ทั้งคืนได้ไหม" เพราะถ้าเขาออกจากห้องหอไป พ่อกับแม่ต้องเห็นแน่ หญิงสาวก็เลยกลั้นใจขอร้อง ..แต่อีกฝ่ายยังไม่ได้ตอบเลยด้วยซ้ำเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น จนเธอหันไปมองแบบอัตโนมัติ เพราะอยู่ดีๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดัง แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคำตอบของเขาคืออะไร เพราะสายที่โทรเข้ามาคือผู้หญิงคนนั้น หญิงสาวก็เลยลุกขึ้นเดินไปหน้ากระจก เพื่อถอดเครื่องประดับที่อยู่บนร่างกายออก "??" น้ำอิงแปลกใจทำไมเขาถึงไม่รับสาย เพราะตอนนี้แทนคุณหยิบเอาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป โดยทิ้งให้โทรศัพท์ดังจนสายตัดไปเอง เขาใช้เวลาอาบน้ำอยู่เพียงไม่นานก็ออกมา พอเห็นว่าเขามีแค่ผ้าเช็ดตัวพันรอบท่อนล่างเธอก็เลยรีบหันหลังให้ "ทำอะไรของเธอ" ออกมาก็ยังเห็นว่าเธออยู่ในท่าเดิม "ปะ..เปล่า" ตอบว่าเปล่าแต่มือก็ยังคงมัววุ่นอยู่กับการแกะกระดุมเสื้อด้านหลังที่ยาวเหยียด ..ทำไมเขาไม่ทำแบบซิป เพราะกว่าจะแกะได้แต่ละเม็ด ชายหนุ่มก็เลยเดินมาทิ้งตัวลงนอนที่เตียง ..ที่จริงเขาก็รู้แหละว่าเธอทำอะไร แต่ในเมื่อเธอไม่ขอความช่วยเหลือ นั่นแสดงว่าเธอคงจะจัดการกับมันได้ "ทำไมคุณไม่หาเสื้อผ้ามาใส่ก่อน" หญิงสาวมองผ่านกระจกมา แต่มือก็ยังคงพยายามแกะกระดุมอยู่ "ใส่ทำไม เดี๋ยวลำบากเวลาถอดอีก" "??" จากมือที่กำลังพยายามแกะกระดุมออก น้ำอิงก็เลยหยุด ถ้าเขาจะพูดแบบนี้ เธอขอนอนมันทั้งชุดแต่งงานนี่แหละ เพราะยังไงมันก็ถอดออกไม่ได้อยู่แล้ว"อย่าบอกนะว่าเธอจะนอนทั้งชุดนี้" ชายหนุ่มขยับตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียง เพื่อมองดูเธอให้ถนัดตา เมื่อเห็นว่าเธอเดินมานั่งลงอีกฝั่งหนึ่งของเตียงเดียวกัน โดยที่ยังอยู่ในชุดแต่งงาน"จะใส่ชุดไหนนอนมันก็เรื่องของฉันสิ" "แล้วจะไม่อาบน้ำหรือไง""ไม่อาบ""ถ้างั้นก็เอาที่เธอสบายใจเลยแล้วกัน แต่ฉันคงนอนด้วยไม่ได้หรอกนะ คนอะไรจะไม่อาบน้ำนอน" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลุกขึ้นทำเหมือนว่าไม่ได้ขู่ "เดี๋ยวก่อนสิคุณ" ที่เธอต้องเรียกไว้เพราะไม่อยากให้เขาออกจากห้องไป กลัวว่าพ่อกับแม่จะยังไม่เข้านอน "ก็ฉันถอดชุดไม่ได้นี่" หญิงสาวรีบหาข้ออ้างเมื่อเห็นเขาไม่คิดจะฟัง"แล้วทำไมไม่ขอความช่วยเหลือ""ถ้าฉันขอ แล้วคุณจะช่วยหรือไง" "ทำไมฉันจะไม่ช่วย" "จะรู้เหรอก็เห็นเก๊กท่าอยู่ได้" ประโยคนี้เธอพูดออกมาเพียงแค่เบาๆ ไม่หวังให้เขาได้ยินด้วย แต่อ่านแค่ปากก็รู้แล้ว"เธอรู้ไหม..ถอดชุดผู้หญิงนี่ฉันถนัดนัก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินกลับมาหาเธอที่ยังนั่งอยู่บนเตียง จนหญิงสาวต้องรีบขยับกายเข้าไปชิดหัวเตียง "ฉะ..ฉันทำเองก็ได้" น้ำอิงรีบกระโดดลงเตียงอีกฝั่ง แต่เธอใส่ชุดที่รุ่มร่ามก็เลยเหยียบชายกระโปรงเข้าอึบ!"โอ๊ยย" "เป็นอะไรไหมนั่น"
"อืมมม" น้ำอิงโน้มตัวเขาลงมายังไม่ถึงริมฝีปากเธอเลยด้วยซ้ำ แต่แทนคุณกลับแนบจูบลงมาก่อนจนเธอตกใจ ทีแรกคิดว่าเขาจะผลักออกเสียอีก ..ที่คิดแบบนั้นเพราะคนรักของเขากำลังจะเปิดประตูเข้ามา ถ้าคนนั้นเห็นต้องเป็นเรื่องแน่ แกร็ก! แอดดดด.. "คุณแทน!!" เปิดประตูเข้ามาก็เห็นภาพนั้นเลย ไม่ใช่แค่นาเดียที่เห็น เครือวัลย์เลขาหน้าห้องของเขาก็เห็นเช่นกันจังหวะนั้นน้ำอิงกำลังจะผลักเขาออก เพราะคนที่เธอตั้งใจให้เห็นก็ได้เห็นแล้ว แต่เขากลับไม่ยอมปล่อย แถมยังดูดปากเธอแรงกว่าเดิม หญิงสาวจะปฏิเสธก็ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวคนของเขาจะเห็นว่าเธอไม่เต็มใจให้จูบ ทั้งสองก็เลยยืนจูบกันอยู่แบบนั้น จนนาเดียยอมถอยออกมาเพราะความอาย "ขะ.. คุณนาเดียจะกลับแล้วเหรอคะ" เครือวัลย์รีบเดินตามหลังนาเดียไป ทุกคนรู้ดีว่านาเดียคือลูกสาวของพงษ์พิบูลย์ แถมยังเป็นหญิงคนรักของแทนคุณ และเรื่องแต่งงานเมื่อวานนี้ทั่วทั้งบริษัทก็ได้รับรู้กันแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาและเธอจะสงสัยอยู่มากแต่ก็ไม่มีใครกล้าถาม ได้แค่แอบนินทากันลับหลังแบบสนุกปาก"ฉันจะอยู่ทำไม" นาเดียไม่กล้าหันไปมองเลขาของเขาเลยด้วยซ้ำ และตอนนี้ก็พยายามหายใจเข้าลึกๆ ไม่ให้ตัวเองวีนออกมาได
ยังไม่ได้ยินคำตอบจากเขาเลยด้วยซ้ำ..ว่าจะตอบผู้หญิงคนนั้นยังไงเรื่องที่ขอไปค้างด้วยที่สระบุรี แต่ประตูลิฟต์ก็ได้เปิดออกเสียก่อน ถ้ายังอยู่ตรงนั้นคงน่าสมเพชตัวเองมาก น้ำอิงก็เลยเดินออกมาปล่อยให้พวกเขาคุยกันต่อ เพราะถ้าเธออยู่ตรงนั้นเขาคงไม่กล้าคุยกับคนรักใกล้บ่ายโมงของวันเดียวกัน..หญิงสาวทานข้าวเสร็จก็กลับเข้าบริษัท เธอไม่ได้ทานข้าวในโรงอาหาร เพราะไม่อยากเป็นเป้าสายตาของคนอื่นกลับมาถึงน้ำอิงก็ตรงขึ้นไปที่ห้องทำงาน เพราะเธอไม่มีเพื่อนที่ไหนที่จะแวะคุยด้วย เข้าไปถึงก็เห็นเอกสารวางอยู่บนโต๊ะทำงานพอเปิดดูก็รู้ว่ามันคือโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่เขาให้เธอทำเมื่อเช้านี้ ..คงไม่อยากให้เราเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโครงการนั้นมากเลยสินะ ถึงได้เอางานนี้กลับมาให้เราทำแต่มีเหรอที่คนแบบน้ำอิงจะหยุด เพราะโครงการนั้นมันเป็นโครงการเดียวที่สามารถทำให้เขาตาสว่างได้ ว่าคนที่เขารักนักรักหนา กำลังทำอะไรอยู่ หญิงสาวยอมทำโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัท เพื่อตบตาเขาและก็นายพันธุ์พิทบลูนั่น เธอได้เก็บรายละเอียดเท่าที่จะเก็บได้ ของโครงการสระบุรีไว้บ้างแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะมาแย่งเอาเอกสารไป มันอาจจะเหนื่อย
"เอาไงดีเรา" นิ้วเรียวยกขึ้นมานับเสี่ยงดวงว่ามันจะตก..ขอให้เขาช่วยหรือไม่ขอดี "ขอ ไม่ขอ ขอ ไม่ขอ ..??" ยังนับไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ เขาก็เปิดประตูห้องน้ำออกมา ..ผู้ชายร่างสมส่วนซิกแพคเรียงกันเป็นชั้นๆ ตามเนื้อตัวยังมีน้ำเกาะอยู่เล็กน้อย"ทำอะไร" ขณะที่ถามสายตาคมก็มองดูนิ้วที่เธอกำลังนับอยู่"ปะ..เปล่า" หญิงสาวรีบเอามือลง เมื่อสักครู่นับถึงตรงไหนแล้วเรา"อาบน้ำแล้วใช่ไหม" ผ้าเช็ดตัวอีกผืนเขาใช้มันซับผมให้แห้ง แล้วก็ทิ้งไปพร้อมกับเดินก้าวเข้ามา"อะ..อาบแล้ว" เกี่ยวอะไรกับอาบน้ำ? หญิงสาวหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็ค่อยๆ เดินหลบ "..ฉันอยากขอให้คุณช่วย""ก็กำลังจะช่วยอยู่นี่ไง นอนลงสิ""ทำไมต้องนอนด้วย""ชอบท่ายืนเหรอ"ไอ้คนลามก ว่าแล้วมันไม่ได้คิดเรื่องเดียวกับเรา "คุณอย่าพูดเล่นได้ไหม ฉันอยากคุยเรื่องงาน ..คุณช่วยหาข้อมูลให้ฉันหน่อยสิ""หือ?? เธอเข้ามาหาฉันดึกๆ เพื่ออยากจะคุยเรื่องงานเนี่ยนะ" "ใช่แล้วค่ะ คุณอย่าเพิ่งว่าฉันนะถ้าฉันจะพูดอะไร""ก็ว่ามาสิ""ก่อนอื่นคุณขยับออกไปก่อนได้ไหม" หญิงสาวผลักคนร่างหนาให้ขยับออกห่าง เพราะตอนนี้เธอไม่มีที่จะหลบแล้ว เขาไม่ขยับออกแถมยังค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมา น้ำอิง
อะไรกัน? ถุงยางอนามัยก็มีพกติดบ้านไว้เหรอ มันไม่ใช่ยาสามัญประจำบ้านสักหน่อย ..หญิงสาวทำได้แค่คิดอยู่ในใจ อุตส่าห์หาทางรอดแล้วน้ำอิงถึงกับหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าเขาหยิบถุงยางอนามัยออกมาจากลิ้นชักหัวเตียงจริงๆ ด้วย"จะใส่ให้หรือให้ผมใส่เอง" ชายหนุ่มยกมันขึ้นเล็กน้อยบ้าไปแล้วใครจะไปกล้าใส่ถุงยางให้กับผู้ชาย เธอยังคงนอนอยู่ในท่าเดิม ถึงยังไงก็พลาดท่าไปแล้ว ปล่อยให้มันเลยตามเลยไปแล้วกันชายหนุ่มฉีกถุงยางนั้นออกแล้วก็สวมใส่เข้าไปกับท่อนเอ็นที่มันแข็งตัวเต็มที่ เขาเป็นผู้ชายเรื่องพวกนี้ปกติมาก ซื้อกินยังเคยซื้อมาแล้ว ทำไมถึงจะทำเรื่องอย่างว่ากับเธอไม่ได้"ขะ.. คุณไปปิดไฟก่อนสิ" จังหวะที่เขาพยายามจะถอดกางเกงเธอออกอีกครั้ง หญิงสาวดึงมันไว้"ปิดก็มองไม่เห็นน่ะสิ""ฉันไม่ชอบไฟสว่าง ถ้าคุณไม่ปิด.." กำลังจะขู่ว่าถ้าเขาไม่ปิดงั้นเธอไม่ให้ แต่ยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำคนร่างสูงที่คร่อมตัวเธออยู่ก็รีบลุกขึ้นเดินไปที่ปลั๊กไฟแต๊บ! พอไฟปิดลงในห้องก็มืดสนิท เพราะไม่ได้เปิดผ้าม่านทิ้งไว้ ไฟด้านนอกก็เลยไม่ได้ส่องเข้ามา คนร่างหนาเดินตรงกลับมาที่เตียง ด้วยความชำนาญ เพราะถึงแม้มันจะมืดเขาก็รู้ว่าเตียงอยู่ตรงไห
จากรีสอร์ทมาถึงไซต์งานก่อสร้างนั่งรถไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงแล้วออฟฟิศที่นี่ถูกปลูกสร้างขึ้นมาให้รองรับกับบุคลากร เพราะกว่าจะจบโครงการ และที่นี่ก็มีห้องประชุมแยกเป็นสัดส่วน จากห้องทำงานของคนที่รับผิดชอบแต่ละงาน ส่วนที่พักเที่ยงของคนงานก่อสร้างก็แยกออกไปอีก แต่ก็ไม่ได้หรูหราอะไรเพราะไม่มีห้องแอร์ให้อยู่น้ำอิงเดินตามแทนคุณเข้ามาในออฟฟิศ เธอมองไปรอบๆ ดูว่าในหน่วยงานนี้เป็นยังไงบ้าง"คุณนอร์เวย์" สายตางามไปหยุดอยู่ที่โต๊ะทำงานของสถาปนิก"อ้าวสวัสดีครับ คุณมาประชุมงานด้วยหรือครับ""ใช่ค่ะ" ขณะที่เธอคุยกับนอร์เวย์อยู่ แทนคุณก็ไม่ได้รอ เขาเดินเข้าไปในห้องประชุมก่อน เพราะตอนนี้หลายคนเข้าไปแล้ว"คุณก็จะเข้าห้องประชุมใช่ไหมคะ""ใช่ครับ""ถ้างั้นฉันเข้าไปด้วยค่ะ" ทั้งสองเดินเข้ามาพร้อมกัน แทนคุณนั่งอยู่หัวมุมโต๊ะ น้ำอิงก็เลยเดินไปนั่งข้างนอร์เวย์ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง"ผมให้ไปเช็ควัสดุที่สั่งมาไปถึงไหนแล้ว""ทางโรงงานที่เราสั่งของไป ก็ยังคงยืนยันคำเดิมครับ ว่าทางไซต์งานของเราสั่งไปแบบนั้นจริงๆ""ผมไม่แน่ใจว่าตอนที่สั่งของ..เขียนรายละเอียดชัดไหม ความผิดอาจจะตกอยู่ที่ผมก็ได้ครับ" นิกรรีบแก้ต่างให้กับตัวเ
"เขาอยู่นี่เองเหรอ?""ใครครับ" ถึงแม้เธอจะพูดออกมาเพียงแค่เบาๆ แต่นอร์เวย์ก็ได้ยิน ..พอมองไปตามสายตาของเธอแล้วก็เจอเข้ากับ.. "นั่นคุณแทนกับคุณไชยานี่ครับ เราเข้าไปนั่งกับพวกเขากันดีไหม""ไม่ต้องหรอกค่ะ เขากำลังดื่มกันอยู่""ถ้างั้นเรานั่งโต๊ะนี้กันดีไหม" นอร์เวย์เลือกโต๊ะที่อยู่ใกล้"ออกไปนั่งข้างนอกดีกว่าค่ะ" นั่งข้างในเดี๋ยวเขาก็เห็น เธอก็เลยชวนนอร์เวย์ออกไปนั่งโต๊ะของร้านค้าที่จัดไว้ด้านนอก"ได้ยินป้าบอกว่าคุณเป็นเจ้าของโครงการที่นี่เหรอคะ" อุบลหลานสาวของป้าเจ้าของร้านนำกับแกล้มมาเพิ่มให้โต๊ะของแทนคุณก็เลยถือโอกาสคุยด้วย"ไม่ได้เป็นเจ้าของโครงการหรอกครับ แค่พอมีหุ้นส่วนอยู่บ้างเท่านั้นเอง""คุณแทนนี่ถ่อมตัวจังเลยนะครับ เป็นถึงลูกชายเจ้าของบริษัทแท้ๆ""คุณแทนเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทเลยหรือคะ" ยิ่งได้ยินไชยาพูดอุบลถึงกับตาลุกวาว จากที่ยืนคุยอยู่อุบลก็ค่อยๆ นั่งลงข้างๆ แทนคุณ แถมไม่ได้นั่งเปล่ายังชงเครื่องดื่มให้ส่วนคนที่นั่งทานข้าวอยู่ด้านนอก ก็พอจะได้ยินคนด้านในคุยกันอยู่บ้าง"ไม่อร่อยเหรอครับ" นอร์เวย์เห็นว่าน้ำอิงเขี่ยอาหารเล่นไปมา"อร่อยค่ะแต่ยังไม่หิวเท่าไร ฉันขอตัวกลับก่อนดีกว่
คลั่งรักเมียแต่ง EP24🔞"ฉันไม่ใช่แม่นาเดียคนรักของคุณนะ คุณพยายามลืมตาดูหน่อยสิ!" น้ำอิงยังคงคิดว่าเขาเห็นเธอเป็นนาเดีย คงเมามากจนมองหน้าเราเป็นหน้าหญิงคนรัก "อืมม" กำลังจะอ้าปากว่าให้อีก แต่จังหวะนั้นเขาก็ได้โน้มลงมาปิดปากเธอด้วยจูบ จะดิ้นแรงก็ไม่ได้เพราะกลัวผ้าหลุด แถมมือยังถูกล็อคไว้อีกหญิงสาวพยายามขัดขืน ถ้าปล่อยไปมีหวังไม่รอดแน่ แต่ด้วยแรงแค่นี้หรือจะสู้เขาได้ ถ้าไม่จัดการจุดสำคัญ ใช่แล้วต้องจัดการจุดสำคัญของเขา ผู้ชายมีอยู่ที่เดียวเท่านั้น น้ำอิงไม่ใช้เวลาคิดนาน เธอยกเข่าขึ้นมาหวังจะพิชิตป้อมปราการของอีกฝ่ายถึงแม้จะเมาแต่เขาก็เตรียมการไว้แล้ว แทนคุณปล่อยให้เธอทำให้เจ็บได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ พอขาคนตัวเล็กยกขึ้นมา มือหนาอีกข้างก็รีบช้อนรับขานั้นไว้"กรี๊ดดดด" หญิงสาวตกใจ จังหวะที่เขาจับขาเธอขึ้นมาผ้ากำลังจะหลุด แต่เป็นเจตนาของเขาอยู่แล้ว มือข้างที่ว่างน้ำอิงกำลังจะคว้าผ้าขนหนูผืนนั้น แต่ถูกมือของเขาจับรวบมันเข้าไว้ด้วยกัน "ปล่อยฉันนะ!"ร่างหนาเบียดตัวเธอเข้ากับผนังห้องเพื่อไม่ให้ดิ้นได้ แล้วเขาก็กระชากผ้าของตัวเองที่พันอยู่รอบเอวออก"คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ ฉันยังไม่พ
พลาดรัก | CHAIYA ตอนพิเศษ 18+"อื้อ คุณจะพาฉันกลับไปอยู่ไร่จริงเหรอคะ""จริงสิ" ขณะที่พูดใบหน้าคมยังคงมัววุ่นวายอยู่กับช่วงล่างลำตัวของอีกฝ่าย"คุณพูดเหมือนง่ายเลย เรายังไม่ได้ทำเรื่อง อื้ออ อ " ก็อยากจะปล่อยให้เขาทำให้เสร็จก่อนอยู่หรอก แต่มันคาใจ"คุณขวัญตาครับ ตอนนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่ คุณช่วยให้ความสำคัญกับสิ่งที่ผมกำลังทำหน่อยสิ""กว่าคุณจะทำเสร็จ คุยกันก่อนไม่ได้หรือไงคะ""ขอครั้งหนึ่งก่อน" ว่าแล้วคนร่างหนาก็ขยับขึ้นมาพร้อมกับส่งความเป็นชายเข้าไป.."อือ เบาๆ ก่อนสิคะมันเจ็บ""ทำไมเจ็บล่ะ" ขนาดของเขาไม่ได้ใหญ่ขึ้นสักหน่อย"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เจ็บหน่วงแบบนี้มา 2-3 วันแล้ว" นี่แหละเธอถึงไม่อยากให้เขามานอนในห้องด้วย เพราะตั้งแต่ครั้งสุดท้ายเธอก็เริ่มเจ็บแบบจุกๆ"อ้อนหรือเปล่าเนี่ย""ใครจะบ้าอ้อนบอกว่าตัวเองเจ็บล่ะคะ""เดี๋ยวโดนบ่อยๆ เข้า ก็หายเจ็บเอง อ้าา ซี๊ดด" มีเหรอที่เขาจะยอมหยุด ไม่กระแทกแรงก็ได้แต่ถ้าจะไม่ให้ได้เลยเดี๋ยวเสียชื่อไชยาคนตัวเล็กควานหาที่ยึดเหนี่ยวไว้เมื่อร่างของเธอสั่นสะเทือนไปด้วยแรงที่เขาโยกไชยาเห็นว่าเธอเกร็ง วันนี้เขาก็เลยไม่ได้เปลี่ยนท่าอะไรมาก และไม่ได้อด
"ขอบพระคุณมากเลยนะคะ""จะขอบคุณทำไมก็เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนี่ ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ของเราหรอกนะ ทางนี้เดี๋ยวแม่จะดูแลให้เอง"ในเมื่อจะทำงานแค่ไซต์งานนี้แล้วไชยาจะพาขวัญตากลับมาอยู่ไร่ เขาก็เลยถือโอกาสฝากแม่ของเธอไว้ที่นี่ ไม่ต้องไปฝากลุงของเธอแล้ว ซึ่งผู้ใหญ่ก็เห็นดีเห็นงามด้วย เด็กจะได้ไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง"ไปถึงแล้วขวัญจะโทรมาหานะคะแม่""เดินทางปลอดภัยนะลูก ฝากดูแลน้องด้วย""ครับ"พอร่ำลากันเสร็จไชยาก็พาเธอขับรถออกมา เพราะวันหยุดยาวใกล้จะหมดลงแล้วพวกเขาต้องกลับไปเตรียมพร้อมทำงาน"ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่าอยู่ที่นี่ มีแม่และก็ลุงผมคอยดูแลอยู่" เขาเห็นว่าเธอมองกระจกหลังแบบเป็นห่วง"ค่ะ" ทำไมเธอจะไม่ดีใจที่มีครอบครัวเพิ่มขึ้น และมีที่สำหรับฝากแม่ไว้ ใช้เวลาขับรถอยู่หลายชั่วโมงกว่าจะกลับมาถึงรีสอร์ทที่สระบุรี"อยากจะนอนกับเมีย""ไม่ได้ค่ะ คุณไปนอนห้องของคุณสิ""แล้วผมจะนอนหลับไหม""ห้องฉันรกฉันอยากจะเก็บห้องก่อน""ถ้างั้นคุณก็ไปนอนห้องผมสิ""ห้องคุณแตกต่างอะไรจากห้องฉันเนี่ย"ชายหนุ่มเดินหน้าบึ้งกลับมาห้องตัวเองเมื่อเธอไม่ให้ค้างคืนด้วย"ว่าไงครับคุณไชยา วันหยุดยาวได้ไปบ้านสาวสมใจไหม""
"ไหนบอกว่าจะขึ้นไปดูห้องไง" สามีเห็นว่าภรรยาพาแม่ของฝ่ายหญิงกลับลงมาอีก"ฉันคิดว่าทานข้าวก่อนแล้วค่อยขึ้นไปทีเดียวก็ได้ค่ะ..จริงไหมคะคุณ" ตอบสามีไปแบบตะกุกตะกัก"จะ..จริงค่ะ" อีกคนก็พูดไม่ต่างกัน"เป็นอะไรกันหรือเปล่า""ปะ..เปล่าค่ะ แล้วคุณจะถามทำไมเนี่ย" ว่าแล้วแม่ของไชยาก็ ชวนแม่ขวัญตาเข้าครัว แบบต่างคนต่างก็อายกันเย็นวันเดียวกันที่โต๊ะอาหาร.."เมียก็มีแล้ว ลุงว่ากลับมาช่วยงานในไร่ได้แล้วล่ะ" พ่อเลี้ยงไม่เคยบังคับให้ไชยาเรียกพ่อ ในเมื่อเขาให้สถานะเป็นลุง..พ่อเลี้ยงก็เลยเรียกตัวเองว่าลุงมาตลอด"ไม่เอาหรอกครับ ไม่เห็นสนุกตรงไหนเลย" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับตักอาหารวางใส่จานให้กับเธอ โดยมีสายตาหลายคู่มองตาม"ช่างลูกเถอะค่ะคุณ จะมาพูดอะไรตอนทานข้าวคะ เกรงใจคนอื่นเขาบ้าง""ก็ได้ถ้างั้นลุงให้โอกาสใช้ชีวิตข้างนอกอีกสองปี ค่อยกลับมาช่วยลุงดูงาน""ผมยังไม่รับปากนะครับ""แล้วหนูล่ะอยากมาอยู่ไร่ไหม" พ่อเลี้ยงของไชยาก็เลยเปลี่ยนทิศทางลมใหม่"ขวัญชอบทำไร่ค่ะ"เพล้ง! ช้อนในมือของน้องนิวางลงที่จานแบบไม่ชอบใจ"เจ้าลูกคนนี้ไม่รู้จักโตสักที" ผู้เป็นพ่อได้แต่บ่นตามลูกสาวที่วิ่งขึ้นบ้านไป ทุกคนรู้ดีว่าน้องน
"คุณพาฉันกับแม่มาที่นี่ทำไมคะ" ขวัญตาถามอีกครั้งเมื่อรถวิ่งเข้ามาจอดในบ้านหลังหนึ่ง"ตามผมมาสิ เดี๋ยวคุณก็รู้" ลงรถได้ไชยาก็เปิดประตูให้กับแม่ของเธอก่อน แล้วค่อยเดินอ้อมไปเปิดให้กับเธอ"พี่ชาย"พอลงจากรถไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ไหนอยู่ดีๆ ก็วิ่งเข้ามากอดเขา และมันก็ทำให้ขวัญตาไม่พอใจเอามากๆ"พอก่อนพี่หายใจไม่ออกแล้ว""ไหนพี่บอกว่าไม่กลับบ้านไง""พี่บอกว่าให้ปล่อยก่อนไง" ว่าแล้วไชยาก็แกะมือของผู้หญิงคนที่วิ่งมากอดเขาออก "พ่อกับแม่เราล่ะ""แม่ พี่ชายมา""ใครมานะ" พอได้ยินเสียงตะโกนคนที่อยู่ด้านในก็รีบออกมา"เจ้าตัวดีนี่เอง""ไม่เจอกันตั้งนานคุณนายยังสวยอยู่เหมือนเดิมนะครับ" ว่าแล้วไชยาก็เดินเข้าไปโอบกอดคนที่เขาทัก และมันก็ทำให้ขวัญตากับแม่ยิ่งงงไปกันใหญ่ ในเมื่อเขาเรียกว่าคุณนายทำไมถึงกล้ากอด"ไหนบอกแม่ว่าไม่กลับไง""แม่?" ขวัญตาเอ่ยพูดออกมาเบาๆ"ทีแรกก็ว่าจะไม่กลับนั่นแหละครับ พอดีผมมีคนอยากมาแนะนำให้แม่รู้จัก" ว่าแล้วเขาก็หันไปมองเธอ..ขวัญตาก็เลยพนมมือขึ้นไหว้"ไหว้พระเถอะจ้า ใครเหรอลูก" พอรับไหว้เสร็จนางก็หันกลับมาถามลูกชาย"เมียผมเองครับ เธอชื่อขวัญตา""เมีย?!" ผู้หญิงที่วิ่งออกมารับเขาก่
"แม่รอนานหรือยังคะ" ขณะที่พูดกับแม่ สายตา เธอหันไปมองค้อนอีกคนที่เดินอ้อมไปฝั่งคนขับ"แม่ก็เพิ่งออกมาเหมือนกัน" นางออกมารอที่รถได้สักพักแล้ว เห็นว่าห้องของลูกปิดล็อกเงียบก็เลยไม่กล้ากวน "ทำไมไม่นั่งข้างหน้าเป็นเพื่อนแฟนเราล่ะ""อยากนั่งกับแม่มากกว่า" ว่าแล้วหญิงสาวก็มุดเข้าไปนั่งข้างๆ แม่คนที่ทำหน้าที่ขับรถหันมองกระจกเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ..และขณะที่เขาขับรถมาก็แอบมองกระจกหลังอยู่ตลอดเวลา จนคนที่ถูกมองรู้สึกอาย เพราะเธอนั่งอยู่ตรงนั้นพอดี"คุณหิวหรือยัง" นี่ก็ขับรถมาได้หลายชั่วโมงแล้ว ไชยากลัวว่าคนที่นั่งมาด้วยจะหิว"แม่หิวหรือยังคะ""ถ้าพวกเราหิวก็จอดเถอะ ถ้าพวกเรากินแม่ก็กินเหมือนกันนั่นแหละ""เดี๋ยวผมพาไปแวะร้านนี้ดีกว่าอาหารอร่อย""คุณพูดเหมือนเคยมา"ไชยาไม่ได้ตอบแค่เหลือบมองกระจกเล็กน้อย ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าไปในร้าน"จะรับอะไรดีคะ" เด็กเสิร์ฟของร้านเอาเมนูมาให้ดู"อาหารที่นี่อะไรอร่อยคะ" ขวัญตาไม่ได้ถามเด็กเสิร์ฟหรอก แต่ถามเขาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม"เมนูอยู่กับคุณไม่ใช่เหรอ" ไชยาเริ่มเสียวสันหลัง ไม่น่าบอกเธอเลยว่าร้านนี้อาหารอร่อย"ฉันเห็นว่าคุณน่าจะเคยมาทานที่นี่แล้ว""ขะ.
"อือ..คุณ.. คุณได้ยินเสียงอะไรไหม""ได้ยินสิ..ได้ยินเสียงครางของคุณ" ชายหนุ่มผงกใบหน้าขึ้นมาจากช่วงกลางหว่างขาของอีกฝ่ายเพื่อตอบ แล้วก็โน้มลงไปใหม่อีกครั้ง"คุณช่วยจริงจังอะไรสักเรื่องหน่อยได้ไหม..พอก่อน""จะพอได้ยังไงเครื่องกำลังติดเลย" ขณะที่พูดสองนิ้วแกร่งก็ได้คลี่กลีบที่มันแนบชิดออกจากกันเพื่อเปิดทางให้กับลิ้น"อ๊อย.. เสียงเหมือนแม่พูดอะไรอยู่ข้างนอก" หญิงสาวต้องรีบเข้าเรื่องก่อนที่มันจะเตลิด เพราะเธอได้ยินเสียงแว่วเข้ามา"แม่คงจะคุยกับป้าข้างบ้านมั้ง พวกนี้ชอบสอดรู้สอดเห็น" ถึงแม้ว่าจะคุยกับเธอแต่นิ้วก็ยังคงวนอยู่ตรงปุ่ม"อื้อ คุณปล่อยฉันก่อนสิ"ไชยาก็เลยตัดใจต้องได้ปล่อยเธอออกก่อน ทั้งสองรีบหาเสื้อผ้ามาสวมใส่แล้วออกไปดูข้างนอก"มันกลับมาอีกทำไมแม่" เป็นแบบที่ขวัญตาคิดไว้ เพราะคนที่แม่พูดด้วยก็คือพ่อเลี้ยง"เอาของของคุณออกไปให้หมด" แม่ของเธอจับกระเป๋าที่เก็บไว้ส่งให้ไป แต่ดูพ่อเลี้ยงไม่อยากจะไปจากที่นี่ ใครจะอยากไปตกระกำลำบากล่ะ อยู่นี่เมียก็หาเงินเลี้ยง..ไม่มีก็ได้จากลูกเลี้ยงอีกทาง"เราอยู่กินด้วยกันมาก็หลายปีแล้ว คุณไม่เคยเห็นความดีของผมเลยหรือไง""แกเคยมีความดีอะไรกับแม่ฉัน"
เช้าวันต่อมา.."ฉันจะไปอาบน้ำ" หญิงสาวที่ร่างกายบอบช้ำเพราะเรื่องบนเตียง พยายามขยับตัวออกจากวงแขนของอีกฝ่ายไชยายอมปล่อยแบบว่าง่าย แล้วก็นอนหันหลังให้กว่าคนตัวเล็กจะพยุงตัวเองลุกขึ้นมานั่งได้ เธอหันกลับไปมองผู้ชายที่ได้ครอบครองร่างกายของเธอ เขาจะเห็นค่ามันไหม ที่คิดแบบนี้เพราะเธอยอมเขาง่ายไป เป็นแฟนกันก็ไม่ใช่หลายคนอาจจะคิดว่าผู้หญิงที่ทำงานเป็นเซฟตี้ได้ต้องแข็งแกร่ง แต่ไม่ใช่เลยเธอก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง แค่พยายามทำตัวให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองเข้มแข็งเท่านั้นพออาบน้ำเสร็จออกมาเขาก็ยังคงนอนอยู่ในท่าเดิม"คุณตื่นได้แล้ว" มือเรียวเอื้อมไปเขย่าร่างคนที่นอนหันหลังให้เบาๆ"อืม.. ขอนอนต่ออีกหน่อย" เขาไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเลย ..แล้วเธอจะว่าอะไรได้ล่ะหญิงสาวก็เลยออกมาจากห้องคนเดียว เพราะจะไปดูว่าแม่กลับมาหรือยัง"ทำไมป่านนี้แม่ฉันถึงยังไม่กลับ""แม่หนูกลับมาแล้ว บอกว่าเพลียมากนอนอยู่ในห้อง""กลับมาแล้วเหรอ?" ถ้าแม่กลับมาทำไมไม่เรียกเราล่ะ ถึงแม้จะสงสัยอยู่มากแต่ความเป็นห่วงแม่ก็มีมากกว่า ขวัญตาก็เลยรีบเดินไปที่ห้องนอน"แม่คะ?" พอเธอเข้ามาในห้องประตูก็ถูกปิดแล้วล็อกไว้อย่างเร็ว "แกจะทำอะไร" แค่นี้ก
นิ้วเรียวหยิกลงที่หลังมือของอีกฝ่ายเพื่อให้เอามันออกมา แต่ไชยาก็ไม่ได้สะทกสะท้าน นิ้วแกร่งแทรกเข้าไปในร่องแล้วชักเข้าชักออกเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่าย"อื้อ อื้อ อ" ถึงแม้จะเสียวแต่เธอก็ยังคงพยายามห้ามเขาอยู่"ไม่ชอบนิ้วใช่ไหม เดี๋ยวจัดลิ้นให้" ในเมื่อใช้นิ้วแล้วยังไม่ได้ผลร่างหนาก็เลยขยับต่ำลงไป"ไม่" ขาเรียวชิดเข้าหากันแต่ก็ไม่ทัน เพราะใบหน้าของเขาอยู่ตรงกลางระหว่างขาแล้วจ๊วบบ เสียงนี้ดังขึ้นคนตัวเล็กดิ้นพล่านบิดสะโพกขยับหนี แต่ทำไมร่างกายกับความคิดมันถึงสวนทางกันจากที่ทำแค่ดูดตอนนี้ลิ้นหนาได้แทรกเข้าไปแทนนิ้ว"อ่ะ อ่ะ" ขวัญตาไม่คิดว่าเขาจะทำถึงขนาดนี้ จากทีแรกที่ขัดแย้งกันในตัวเอง ตอนนี้มันทรยศคล้อยตามกันไปเป็นที่เรียบร้อย "อื้ออ" มือที่เคยผลักเขาออก เกิดกลับใจจับศีรษะเขากดลงเพื่อขอให้เขาลงลิ้นแรงมากกว่านี้"ซี๊ด ด ด" ชายหนุ่มยกใบหน้าขึ้นมาเล็กน้อย เพราะถ้าขืนยังอยู่ตรงนั้นได้ขาดอากาศหายใจตายแน่ ขณะที่ขึ้นมาหายใจเขาก็ไม่ได้อยู่ว่าง สองนิ้วคลี่กลีบที่แนบชิดกันให้แยกออกเพื่อจะลงลิ้นได้ถนัด"อื้อ ""ชอบแบบนี้ก็ไม่บอก เดี๋ยวผัวจัดหนักให้" พอลิ้นลงไปแตะเท่านั้นแหละสะโพกงามก็เด้งรับ จ
ก๊อก.. ก๊อก.. เสียงเคาะประตูแผ่วเบา เพราะคนเคาะยังชั่งใจอยู่ว่า มันจะดีไหม มันจะดีหรือเปล่าแกร็ก~พอประตูเปิดออกทั้งสองคนก็มองสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง"ในเมื่อคุณไม่ได้กลับบ้าน ไปเที่ยวบ้านฉันก็แล้วกัน" เขาจะรู้ไหมว่าเธอใช้เขาเป็นไม้กันหมา หรือเขาจะคิดว่าเธอร่านให้ท่าอะไรแบบนี้ แต่ก็ช่างเถอะจะคิดยังไงก็เรื่องของเขา พอจบไซต์นี้แล้วเธอไม่คิดจะเจอหน้าเขาอีกอยู่แล้ว เพราะจะขอย้ายไปอยู่ให้ไกลที่สุดไชยาไม่ได้พูดอะไรแค่เดินกลับเข้าไปหยิบกระเป๋า ที่ตัวเองเตรียมไว้แล้ว ออกมาล็อกประตูห้องแล้วเดินตามเธอไปที่รถ.."เดี๋ยวผมขับรถให้""ฉันขับเองได้""แล้วคุณจะมีผู้ชายติดไปด้วยทำไมล่ะ นั่งให้สบายเถอะ"หญิงสาวก็เลยปล่อยให้เขาเป็นคนขับ ..นอกจากบอกตำแหน่งบ้านที่แม่อาศัยอยู่แล้วเธอก็ไม่ได้คุยอะไรกับเขาเลย อีกฝ่ายก็ไม่ได้ชวนคุยเพราะคิดว่าเธอคงจะต้องการความเงียบขับรถมาสามชั่วโมงได้ก็ถึงหมู่บ้าน.. และตอนนี้ก็ค่ำมืดมากแล้วไชยาจอดรถที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านปูนชั้นเดียวเนื้อที่มีจำกัดมาก"จอดรถไว้หน้าบ้านนี้แหละ ลงมาสิ"ชายหนุ่มลงจากรถแล้วเดินไปเอากระเป๋าที่กระโปรงหลัง"พ่อว่าแล้วต้องเป็น...??.... มันเป็นใ