“นายเป็นคนที่มีอุดมการณ์ที่ดี คุณคอนเนอร์ ตอนนี้ความจริงก็เปิดเผยแล้ว โคร่าบริสุทธิ์ ฉันมั่นใจว่านานจะไม่ทำร้ายเธออีกแล้ว ใช่ไหม คุณคอนเนอร์?” ชาร์ล็อตกล่าวอย่างสงบ ถอนหายใจอย่างโล่งอกเธอยอมเสี่ยงตบมิแรนด้าถ้าเธอสามารถยั่วมิแรนด้าได้มากพอจนเธอเสียสติไป ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามแผนที่เธอวางไว้ถ้ามิแรนด้าฉลาดกว่านี้อีกหน่อยและยังคงนิ่งแม้จะถูกตบและสาดน้ำมะนาวใส่ ไม่ใช่แค่แผนของชาร์ล็อตจะล้มเหลว แต่แซคคารีจะทำโทษเธอเป็นสองเท่าอีกด้วย ท้ายที่สุด เธอก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ…ชาร์ล็อตเชื่อว่าแผนของเธอมีโอกาสสำเร็จสูง ขณะที่เธอเชื่อว่ายัยบ้าเอาแต่ใจอย่างมิแรนด้าคงจะทนกับอุปสรรคเช่นนี้ไม่ได้“ฉันไม่ทำ” แซคคารีกล่าว“อื้ม” ชาร์ล็อตพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ฉันเชื่อว่านายอยากจะคุยกับน้องสาวของนายส่วนตัวนะ คุณคอนเนอร์ งั้นฉันจะปล่อยเป็นเรื่องของนายนะ” เธอกล่าวก่อนที่จะเดินออกจากประตูแซคคารียังคงเงียบ แต่คิ้วอันคมเข้มของเขาขมวดมากว่าเดิมไม่มีใครในรอธเซย์ นอกจากญาติพี่น้องของเขามีความกล้าที่จะเรียกของด้วยชื่อต้น อย่างไรก็ตาม ชาร์ล็อตก็กล้าเรียกเขาว่า “แซคคารี” ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาพบกัน เขาไม่เคย
'ฉันไม่ยอมให้ชาร์ล็อตรอดจากเรื่องนี้ไปแน่!' “ป้องป้องเธองั้นเหรอ?” เขาพูดผ่านริมฝีปากอันเรียวบางของเขา “เธอพยายามจะบีบคอพี่ แล้วจะให้พี่ป้องป้องเธอเนี่ยนะ?” มิแรนด้าตกตะลึง “แซค ฉันเป็นคนครอบครัวนะ พี่คงจะไม่โกรธฉันเพียงเพราะฉันทำร้ายพี่โดยไม่ได้ตั้งใจหรอกใช่ไหม แล้วเราจะมีความแค้นต่อกันได้ยังไง?” แซคคารีเลิกคิ้ว “ชาร์ล็อตก็เป็นคนในครอบครัวเหมือนกัน เธอเป็นภรรยาของพี่ ทำไมพี่ต้องทำร้ายเธอด้วย?” มิแรนด้าถึงกับพูดไม่ออก จากนั้นแซคคารีก็ตบไหล่มิแรนด้าเบา ๆ “จำไว้นะมิมี่ เธอทั้งคู่มีความสำคัญกับพี่เท่ากัน ถ้าเธอทะเลาะกันแบบนี้อีก พี่จะไม่ช่วยทั้งคู่” 'อะไรนะ?' 'ชายที่น่าเกรงขามคนนี้ตาบอดหรือไงกัน? เขาไม่เห็นหรือไงว่าชาร์ล็อตไม่คู่ควรที่จะมาสู้กับเธอ? ถ้าเขาปฏิเสธที่จะช่วย นั่นก็หมายความว่า เขาแค่จะยืนดูคนชั้นต่ำทุบตีฉันสินะ!' มิแรนด้าเริ่มทบทวนชีวิตของเธอ แซคคารีเดินไปถึงประตูทางเข้า เมื่อเธอฟื้นคืนสติได้ หัวใจของเธอก็จมดิ่งลง มุมริมฝีปากของเธอเปียกโชกไปด้วยน้ำตา และมันโค้งเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน “หยุดล้อเล่นสักทีเถอะ แซค อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ว่าพี่มีเหตุผลอะไรถึงแต่งงานกับช
ชาร์ล็อตขมวดคิ้วอย่างดูถูกเหยียดหยาม “เธอไม่ได้มีความสุขมากขึ้น ที่ได้เห็นแซคคารีโหดร้ายกับโครอลไลน์งั้นเหรอ?” “คาร์ลี่ ฉันกำลังแสดงความเป็นห่วงนะ ทำไมเธอต้องประชดประชันด้วย?” ทิฟฟานี่กัดริมฝีปากล่างด้วยความเศร้า ดวงตากลมโตของเธอเริ่มเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา โดยปกติ การได้รับความเห็นอกเห็นใจด้วยวิธีนี้จะมีความเสี่ยงอย่างมาก หากเคลื่อนไหวผิดปกติเพียงครั้งเดียว อาจทำให้มันย้อนกลับไปหาเธอและฝ่ายตรงข้ามจะมองว่าเธอเสแสร้ง และมีปฏิกิริยาตอบโต้ที่แย่ได้ แต่ทิฟฟานี่แตกต่างออกไป เธอเป็นภรรยาที่น่ารักและละเอียดอ่อนพร้อมกับร่างกายที่อ่อนแอ การได้รับความเห็นอกเห็นใจคือจุดแข็งของเธอ และเธอได้รับผลประโยชน์มากมายด้วยวิธีนี้ การกระทำที่เปราะบางและน่าสมเพชของเธอ ได้รับความเห็นใจอย่างล้นเหลือมาโดยตลอด รอยยิ้มของชาร์ล็อตยิ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งการถากถางและดูถูกมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเธอเห็นสีหน้าของทิฟฟานี่ “ขอโทษนะ หัวใจของฉันมันเย็นชาและโหดร้ายน่ะ รูปลักษณ์นกน้อยที่บาดเจ็บและน่าสงสารมันไม่ได้ผลกับฉัน อันที่จริงมันทำให้ฉันสะอิดสะเอียนด้วยซ้ำ” เธอเปิดประตูรถ และพยายามจะเข้าไปในรถ “ทิฟฟ์ได้รับความเ
มือของทิฟฟานี่แข็งทื่อขณะที่เธอกำลังจะแตะมือของชาร์ล็อต การแสดงออกของไบรสันดูขุ่นมัวและมืดครึ้ม สายตาของเขากลายเป็นน้ำแข็ง ในขณะที่เขาจ้องไปที่ชาร์ล็อต แต่ถึงอย่างนั้น ชาร์ล็อตก็ไม่ได้สนใจ สายตาของเธอไม่เคยหยุดนิ่งบนใบหน้าของไบรสันเลย “เธอกำลังขวางทางฉันอยู่ ฉันต้องขึ้นรถ ช่วยหลบหน่อย” เธอพูดเรียบ ๆ ทิฟฟานี่ถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่ไบรสันยังคงยืนอยู่ตรงหน้ารถ เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชาและลึกล้ำ “ฉันได้ยินเรื่องของเธอกับแซคคารี” ชาร์ล็อตยิ้มเยาะ “มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉันไม่ใช่เรื่องของคุณ ฉันจะพูดอีกครั้งนะ คุณขวางทางฉันอยู่ หลีกทางด้วย!" ไบรสันตอบว่า “ทุกคนในแวดวงนี้รู้ดีว่า แซคคารี คอนเนอร์เย็นชาและไร้ความปราณีแค่ไหน” จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำกว่าเดิม “เขาเป็นปีศาจที่ถูกปลุกขึ้นมา ถ้าเธอทำให้เขาขุ่นเคือง เธอจะเหมือนตายทั้งเป็น” “ฮะ!” เขาไปแตะต้องกับแผลที่เจ็บแสบที่สุดเข้าให้แล้ว ในตอนแรก ชาร์ล็อตหัวเราะเยาะเย้ย จากนั้นเธอก็หันไปทางไบรสันและพูดสวนกลับไป “ไบรสัน ตอนที่ฉันเพิ่งคลอดลูก ฉันไปที่บ้านของคุณและรอคุณจนเกือบจะแข็งตาย แล้วคุณทำอะไรเมื่อคุณมาถึง ฉั
แซคคารีจ้องไปที่ไบรสันด้วยสายตาเย็นชา ราวกับว่าเขากำลังแทงจิตวิญญาณของไบรสันด้วยมีด ขณะที่เขากำลังนึกถึงภาพที่สมบูรณ์แบบของเขากับชาร์ล็อตที่ยืนเคียงข้างกัน รอยร้าวปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ครบเครื่องของเขา “นายช่วยชีวิตภรรยาของฉันไว้ นั่นเป็นเหตุผลเดียวที่มือของนายยังไม่บุบสลาย หลังจากที่นายใช้มันสัมผัสเธอ” ชาร์ล็อตตกใจมาก มีไม่กี่คนที่รู้ว่าไว้ในอดีตไบรสันเคยช่วยชีวิตเธอไว้ แต่แซคคารีรู้เรื่องนี้! “ครั้งนี้ฉันจะปล่อยไป แต่ถ้านายกล้าเข้าใกล้เธอด้วยมือสกปรก ๆ นั่นอีกล่ะก็ นายจะไม่ได้ใช้มันอีก” คำเตือนฟังดูมืดมนและน่าสะพรึงกลัว แซคคารีขึ้นรถหลังจากพูดไปแบบนั้น ทิฟฟานี่ยืนอยู่ตรงที่เธออยู่กับไบรสันซึ่งเต็มไปด้วยเลือด และเธอกำลังช่วยเขา ในขณะเดียวกัน ชาร์ล็อตก็จ้องมองพวกเขาและเลิกคิ้วอย่างอวดดี “ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามาขวางประตูรถของฉัน? ฉันหวังว่านี่จะเป็นบทเรียนที่ดีนะ” ไบรสันโกรธมากจนใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ชาร์ล็อตละสายตาจากใบหน้าของทั้งคู่อย่างเย่อหยิ่ง และขึ้นรถอย่างสง่างามราวกับแมวเหมียว รถสปอร์ตสุดหรูขับออกไป โดยปล่อยให้ไบรสันและทิฟฟานี่ยืนดมกลิ่นท่อรถที่มีกลิ่นฉุนอยู่ตรงน
ชาร์ล็อตอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง แซคคารีพูดเสริมว่า “หากคน ๆ หนึ่งปฏิบัติต่อศัตรูเหมือนคนทั่วไป มันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็นคนที่มีเกียรติ แต่มันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาหน้าซื่อใจคด ในทางกลับกัน หากคน ๆ หนึ่งปฏิบัติต่อศัตรูอย่างไม่ดี มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะนิสัยไม่ดีเสมอไป เขาอาจจะเป็นคนดีที่บอกได้ว่าอะไรคือสิ่งเขารัก อะไรคือสิ่งที่เขาเกลียด” 'อะไรเนี่ย?! เขาชมฉันงั้นเหรอ? เขากำลังบอกว่าฉันเป็นคนที่ตรงไปตรงมาว่าฉันเกลียดอะไรหรือรักอะไรงั้นเหรอ?’ จู่ ๆ ชาร์ล็อตต์ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในหัวใจ “ฉันต่อยไบรสัน” แซคคารีพูดอย่างเย็นชา “ก็ใช่น่ะสิ” ชาร์ล็อตตอบรับทันทีโดยไม่สะท้าน ในเวลาเดียวกัน เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าอันงดงามของเขาครู่หนึ่ง เธอพยายามเดาเจตนาของเขาจากการแสดงออกของเขา จากนั้นชาร์ล็อตก็ตระหนักว่าเธอโง่มากที่ทำแบบนั้น เพราะแซคคารีคงจะแสดงสีหน้าที่เป็นอัมพาตของเขาไม่ได้! นอกจากนี้ เขายังเอนหลังและขับรถด้วยท่าทางที่แข็งทื่อราวกับรูปปั้น เขาไม่เคยมองเธอตั้งแต่ต้นจนจบการเดินทาง ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาคิดอะไรอยู่ ชาร์ล็อตทำได้แค่คาดเดาอย่างคร่าว ๆ และคิดว่าบางทีแซคคารีอาจต้
เมื่อเขาได้ยินชื่อไบรสัน คิ้วสีเข้มของแซคคารีก็ย่นลงเล็กน้อย “ฉันถือว่าเขาเป็นแค่คนรู้จัก เธอถามทำไม?” ชาร์ล็อตอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากจะถามลึกลงไป “แล้วนายได้ไปงานแต่งงานของเขาเมื่อ 10 เดือนก่อนไหม? คืนวันแต่งงานของเรา นายอยู่ที่ไหน?” “เขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเชิญฉันไปงานแต่งงานของเขาหรอก…” แซคคารีหรี่ตาลง เหตุผลที่เขาจำวันงานได้ เพราะวันที่ชาร์ล็อตกับไบรสันแต่งงานกัน เขาถูกวางยาในวันเดียวกันนั้น “คืนนั้นฉันอยู่ที่โรงแรม” ริมฝีปากสีแดงเข้มของชาร์ล็อตเปิดออก แต่เธอไม่สามารถพูดอะไรได้ ไม่มีใครควรตั้งความหวังไว้สูงสำหรับเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้หรอก ไม่เช่นนั้นความจริงจะทำให้พวกเขาผิดหวังมากขึ้นไปอีก ลึก ๆ เธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาก ถ้าคนแปลกหน้าในคืนนั้นกลายเป็นแซคคารี... แต่ถึงยังไง นี่เป็นเพียงความคิดที่ปรารถนาเท่านั้น และมันก็สูญเปล่า หลังจากผิดหวัง ชาร์ล็อตกำลังจะกลับไปที่ห้องนอนของเธอ “ตามหมอมาให้ฉันที” น้ำเสียงของแซคคารีเย็นชาและแผ่วเบาดังมาจากด้านหลังเธอ ชาร์ล็อตหันไปหาเขา “เกิดอะไรขึ้น?” แซคคารีวางมือขวาไว้ที่หน้าอกด้านซ้าย สายตาของเขาดูมืดมน ราวกับว่ามีชั้นของห
สายตาของชาร์ล็อตดึงดูดเขาอีกครั้ง “เธอมองหาฉันเหรอ?” เสียงบาริโทนที่เยือกเย็นและไพเราะหลุดออกมาจากริมฝีปากที่เรียวบางของแซคคารี ชาร์ล็อตรีบละสายตาออกไปด้วยความรู้สึกเขิน “ฮี่ฮี่… ไม่มีอะไรหรอก ฉันเห็นว่าผิวพรรณของนายดูดีขึ้นกว่าเมื่อคืนนี้มาก หายจากการหึงหวงแล้วเหรอ?” เธอรู้สึกแย่ทันทีที่พูดไปแบบนั้น เธออยากจะหาเศษผ้ายัดเข้าไปในปากของเธอ มันเป็นเพราะเธอประหม่า เมื่อแซคคารีเหลือบมอง เธอประหม่ามากจนพูดอะไรไม่ทันคิด แซคคารีขมวดคิ้วเล็กน้อย และตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่กระตือรือร้นตามปกติของเขาว่า “ใช่ ฉันหายดีแล้ว” ชาร์ล็อตประหลาดใจและรู้สึกโชคดีที่แซคคารีไม่อารมณ์เสีย เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกแบบลับ ๆ “อันที่จริงฉันกำลังมองหานายอยู่ นายจำได้ไหมว่านายขังฉันไว้ในคฤหาสน์ ก่อนที่นายจะไปประเทศเอ็ม? ถึงเมื่อวานจะไม่ได้ถูกขัง แต่นายก็ขังฉันไว้ 26 วันติดต่อกันแล้ว ตอนนี้ นายคืนอิสระภาพให้ฉันหรือยัง...” "ได้สิ" ก่อนที่ชาร์ล็อตจะตอบคำถามของเธอจบ แซคคารีก็ตอบกลับอย่างแผ่วเบา ชาร์ล็อตรู้สึกปลาบปลื้มใจ เธอจ้องไปที่แซคคารีเป็นเวลา 2 วินาทีเห็นจะได้ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ขอบคุณนะ...” จากนั้นเธอก็ยิ