'ฉันไม่ยอมให้ชาร์ล็อตรอดจากเรื่องนี้ไปแน่!' “ป้องป้องเธองั้นเหรอ?” เขาพูดผ่านริมฝีปากอันเรียวบางของเขา “เธอพยายามจะบีบคอพี่ แล้วจะให้พี่ป้องป้องเธอเนี่ยนะ?” มิแรนด้าตกตะลึง “แซค ฉันเป็นคนครอบครัวนะ พี่คงจะไม่โกรธฉันเพียงเพราะฉันทำร้ายพี่โดยไม่ได้ตั้งใจหรอกใช่ไหม แล้วเราจะมีความแค้นต่อกันได้ยังไง?” แซคคารีเลิกคิ้ว “ชาร์ล็อตก็เป็นคนในครอบครัวเหมือนกัน เธอเป็นภรรยาของพี่ ทำไมพี่ต้องทำร้ายเธอด้วย?” มิแรนด้าถึงกับพูดไม่ออก จากนั้นแซคคารีก็ตบไหล่มิแรนด้าเบา ๆ “จำไว้นะมิมี่ เธอทั้งคู่มีความสำคัญกับพี่เท่ากัน ถ้าเธอทะเลาะกันแบบนี้อีก พี่จะไม่ช่วยทั้งคู่” 'อะไรนะ?' 'ชายที่น่าเกรงขามคนนี้ตาบอดหรือไงกัน? เขาไม่เห็นหรือไงว่าชาร์ล็อตไม่คู่ควรที่จะมาสู้กับเธอ? ถ้าเขาปฏิเสธที่จะช่วย นั่นก็หมายความว่า เขาแค่จะยืนดูคนชั้นต่ำทุบตีฉันสินะ!' มิแรนด้าเริ่มทบทวนชีวิตของเธอ แซคคารีเดินไปถึงประตูทางเข้า เมื่อเธอฟื้นคืนสติได้ หัวใจของเธอก็จมดิ่งลง มุมริมฝีปากของเธอเปียกโชกไปด้วยน้ำตา และมันโค้งเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน “หยุดล้อเล่นสักทีเถอะ แซค อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ว่าพี่มีเหตุผลอะไรถึงแต่งงานกับช
ชาร์ล็อตขมวดคิ้วอย่างดูถูกเหยียดหยาม “เธอไม่ได้มีความสุขมากขึ้น ที่ได้เห็นแซคคารีโหดร้ายกับโครอลไลน์งั้นเหรอ?” “คาร์ลี่ ฉันกำลังแสดงความเป็นห่วงนะ ทำไมเธอต้องประชดประชันด้วย?” ทิฟฟานี่กัดริมฝีปากล่างด้วยความเศร้า ดวงตากลมโตของเธอเริ่มเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา โดยปกติ การได้รับความเห็นอกเห็นใจด้วยวิธีนี้จะมีความเสี่ยงอย่างมาก หากเคลื่อนไหวผิดปกติเพียงครั้งเดียว อาจทำให้มันย้อนกลับไปหาเธอและฝ่ายตรงข้ามจะมองว่าเธอเสแสร้ง และมีปฏิกิริยาตอบโต้ที่แย่ได้ แต่ทิฟฟานี่แตกต่างออกไป เธอเป็นภรรยาที่น่ารักและละเอียดอ่อนพร้อมกับร่างกายที่อ่อนแอ การได้รับความเห็นอกเห็นใจคือจุดแข็งของเธอ และเธอได้รับผลประโยชน์มากมายด้วยวิธีนี้ การกระทำที่เปราะบางและน่าสมเพชของเธอ ได้รับความเห็นใจอย่างล้นเหลือมาโดยตลอด รอยยิ้มของชาร์ล็อตยิ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งการถากถางและดูถูกมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเธอเห็นสีหน้าของทิฟฟานี่ “ขอโทษนะ หัวใจของฉันมันเย็นชาและโหดร้ายน่ะ รูปลักษณ์นกน้อยที่บาดเจ็บและน่าสงสารมันไม่ได้ผลกับฉัน อันที่จริงมันทำให้ฉันสะอิดสะเอียนด้วยซ้ำ” เธอเปิดประตูรถ และพยายามจะเข้าไปในรถ “ทิฟฟ์ได้รับความเ
มือของทิฟฟานี่แข็งทื่อขณะที่เธอกำลังจะแตะมือของชาร์ล็อต การแสดงออกของไบรสันดูขุ่นมัวและมืดครึ้ม สายตาของเขากลายเป็นน้ำแข็ง ในขณะที่เขาจ้องไปที่ชาร์ล็อต แต่ถึงอย่างนั้น ชาร์ล็อตก็ไม่ได้สนใจ สายตาของเธอไม่เคยหยุดนิ่งบนใบหน้าของไบรสันเลย “เธอกำลังขวางทางฉันอยู่ ฉันต้องขึ้นรถ ช่วยหลบหน่อย” เธอพูดเรียบ ๆ ทิฟฟานี่ถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่ไบรสันยังคงยืนอยู่ตรงหน้ารถ เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชาและลึกล้ำ “ฉันได้ยินเรื่องของเธอกับแซคคารี” ชาร์ล็อตยิ้มเยาะ “มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉันไม่ใช่เรื่องของคุณ ฉันจะพูดอีกครั้งนะ คุณขวางทางฉันอยู่ หลีกทางด้วย!" ไบรสันตอบว่า “ทุกคนในแวดวงนี้รู้ดีว่า แซคคารี คอนเนอร์เย็นชาและไร้ความปราณีแค่ไหน” จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำกว่าเดิม “เขาเป็นปีศาจที่ถูกปลุกขึ้นมา ถ้าเธอทำให้เขาขุ่นเคือง เธอจะเหมือนตายทั้งเป็น” “ฮะ!” เขาไปแตะต้องกับแผลที่เจ็บแสบที่สุดเข้าให้แล้ว ในตอนแรก ชาร์ล็อตหัวเราะเยาะเย้ย จากนั้นเธอก็หันไปทางไบรสันและพูดสวนกลับไป “ไบรสัน ตอนที่ฉันเพิ่งคลอดลูก ฉันไปที่บ้านของคุณและรอคุณจนเกือบจะแข็งตาย แล้วคุณทำอะไรเมื่อคุณมาถึง ฉั
แซคคารีจ้องไปที่ไบรสันด้วยสายตาเย็นชา ราวกับว่าเขากำลังแทงจิตวิญญาณของไบรสันด้วยมีด ขณะที่เขากำลังนึกถึงภาพที่สมบูรณ์แบบของเขากับชาร์ล็อตที่ยืนเคียงข้างกัน รอยร้าวปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ครบเครื่องของเขา “นายช่วยชีวิตภรรยาของฉันไว้ นั่นเป็นเหตุผลเดียวที่มือของนายยังไม่บุบสลาย หลังจากที่นายใช้มันสัมผัสเธอ” ชาร์ล็อตตกใจมาก มีไม่กี่คนที่รู้ว่าไว้ในอดีตไบรสันเคยช่วยชีวิตเธอไว้ แต่แซคคารีรู้เรื่องนี้! “ครั้งนี้ฉันจะปล่อยไป แต่ถ้านายกล้าเข้าใกล้เธอด้วยมือสกปรก ๆ นั่นอีกล่ะก็ นายจะไม่ได้ใช้มันอีก” คำเตือนฟังดูมืดมนและน่าสะพรึงกลัว แซคคารีขึ้นรถหลังจากพูดไปแบบนั้น ทิฟฟานี่ยืนอยู่ตรงที่เธออยู่กับไบรสันซึ่งเต็มไปด้วยเลือด และเธอกำลังช่วยเขา ในขณะเดียวกัน ชาร์ล็อตก็จ้องมองพวกเขาและเลิกคิ้วอย่างอวดดี “ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามาขวางประตูรถของฉัน? ฉันหวังว่านี่จะเป็นบทเรียนที่ดีนะ” ไบรสันโกรธมากจนใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ชาร์ล็อตละสายตาจากใบหน้าของทั้งคู่อย่างเย่อหยิ่ง และขึ้นรถอย่างสง่างามราวกับแมวเหมียว รถสปอร์ตสุดหรูขับออกไป โดยปล่อยให้ไบรสันและทิฟฟานี่ยืนดมกลิ่นท่อรถที่มีกลิ่นฉุนอยู่ตรงน
ชาร์ล็อตอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง แซคคารีพูดเสริมว่า “หากคน ๆ หนึ่งปฏิบัติต่อศัตรูเหมือนคนทั่วไป มันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็นคนที่มีเกียรติ แต่มันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาหน้าซื่อใจคด ในทางกลับกัน หากคน ๆ หนึ่งปฏิบัติต่อศัตรูอย่างไม่ดี มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะนิสัยไม่ดีเสมอไป เขาอาจจะเป็นคนดีที่บอกได้ว่าอะไรคือสิ่งเขารัก อะไรคือสิ่งที่เขาเกลียด” 'อะไรเนี่ย?! เขาชมฉันงั้นเหรอ? เขากำลังบอกว่าฉันเป็นคนที่ตรงไปตรงมาว่าฉันเกลียดอะไรหรือรักอะไรงั้นเหรอ?’ จู่ ๆ ชาร์ล็อตต์ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในหัวใจ “ฉันต่อยไบรสัน” แซคคารีพูดอย่างเย็นชา “ก็ใช่น่ะสิ” ชาร์ล็อตตอบรับทันทีโดยไม่สะท้าน ในเวลาเดียวกัน เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าอันงดงามของเขาครู่หนึ่ง เธอพยายามเดาเจตนาของเขาจากการแสดงออกของเขา จากนั้นชาร์ล็อตก็ตระหนักว่าเธอโง่มากที่ทำแบบนั้น เพราะแซคคารีคงจะแสดงสีหน้าที่เป็นอัมพาตของเขาไม่ได้! นอกจากนี้ เขายังเอนหลังและขับรถด้วยท่าทางที่แข็งทื่อราวกับรูปปั้น เขาไม่เคยมองเธอตั้งแต่ต้นจนจบการเดินทาง ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาคิดอะไรอยู่ ชาร์ล็อตทำได้แค่คาดเดาอย่างคร่าว ๆ และคิดว่าบางทีแซคคารีอาจต้
เมื่อเขาได้ยินชื่อไบรสัน คิ้วสีเข้มของแซคคารีก็ย่นลงเล็กน้อย “ฉันถือว่าเขาเป็นแค่คนรู้จัก เธอถามทำไม?” ชาร์ล็อตอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากจะถามลึกลงไป “แล้วนายได้ไปงานแต่งงานของเขาเมื่อ 10 เดือนก่อนไหม? คืนวันแต่งงานของเรา นายอยู่ที่ไหน?” “เขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเชิญฉันไปงานแต่งงานของเขาหรอก…” แซคคารีหรี่ตาลง เหตุผลที่เขาจำวันงานได้ เพราะวันที่ชาร์ล็อตกับไบรสันแต่งงานกัน เขาถูกวางยาในวันเดียวกันนั้น “คืนนั้นฉันอยู่ที่โรงแรม” ริมฝีปากสีแดงเข้มของชาร์ล็อตเปิดออก แต่เธอไม่สามารถพูดอะไรได้ ไม่มีใครควรตั้งความหวังไว้สูงสำหรับเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้หรอก ไม่เช่นนั้นความจริงจะทำให้พวกเขาผิดหวังมากขึ้นไปอีก ลึก ๆ เธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาก ถ้าคนแปลกหน้าในคืนนั้นกลายเป็นแซคคารี... แต่ถึงยังไง นี่เป็นเพียงความคิดที่ปรารถนาเท่านั้น และมันก็สูญเปล่า หลังจากผิดหวัง ชาร์ล็อตกำลังจะกลับไปที่ห้องนอนของเธอ “ตามหมอมาให้ฉันที” น้ำเสียงของแซคคารีเย็นชาและแผ่วเบาดังมาจากด้านหลังเธอ ชาร์ล็อตหันไปหาเขา “เกิดอะไรขึ้น?” แซคคารีวางมือขวาไว้ที่หน้าอกด้านซ้าย สายตาของเขาดูมืดมน ราวกับว่ามีชั้นของห
สายตาของชาร์ล็อตดึงดูดเขาอีกครั้ง “เธอมองหาฉันเหรอ?” เสียงบาริโทนที่เยือกเย็นและไพเราะหลุดออกมาจากริมฝีปากที่เรียวบางของแซคคารี ชาร์ล็อตรีบละสายตาออกไปด้วยความรู้สึกเขิน “ฮี่ฮี่… ไม่มีอะไรหรอก ฉันเห็นว่าผิวพรรณของนายดูดีขึ้นกว่าเมื่อคืนนี้มาก หายจากการหึงหวงแล้วเหรอ?” เธอรู้สึกแย่ทันทีที่พูดไปแบบนั้น เธออยากจะหาเศษผ้ายัดเข้าไปในปากของเธอ มันเป็นเพราะเธอประหม่า เมื่อแซคคารีเหลือบมอง เธอประหม่ามากจนพูดอะไรไม่ทันคิด แซคคารีขมวดคิ้วเล็กน้อย และตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่กระตือรือร้นตามปกติของเขาว่า “ใช่ ฉันหายดีแล้ว” ชาร์ล็อตประหลาดใจและรู้สึกโชคดีที่แซคคารีไม่อารมณ์เสีย เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกแบบลับ ๆ “อันที่จริงฉันกำลังมองหานายอยู่ นายจำได้ไหมว่านายขังฉันไว้ในคฤหาสน์ ก่อนที่นายจะไปประเทศเอ็ม? ถึงเมื่อวานจะไม่ได้ถูกขัง แต่นายก็ขังฉันไว้ 26 วันติดต่อกันแล้ว ตอนนี้ นายคืนอิสระภาพให้ฉันหรือยัง...” "ได้สิ" ก่อนที่ชาร์ล็อตจะตอบคำถามของเธอจบ แซคคารีก็ตอบกลับอย่างแผ่วเบา ชาร์ล็อตรู้สึกปลาบปลื้มใจ เธอจ้องไปที่แซคคารีเป็นเวลา 2 วินาทีเห็นจะได้ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ขอบคุณนะ...” จากนั้นเธอก็ยิ
“เขาพูดอะไรอีกไหม?” น้ำเสียงของชาร์ล็อตสั่นอย่างเห็นได้ชัด “นายท่านรองดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเมื่อคืนนี้ เขาเลยไม่ได้พูดอะไรเยอะครับ” ดวงตาของลูคัสเป็นประกาย "ฮ่า! พอพูดถึงเรื่องอารมณ์ไม่ดีของนายท่านรอง แดเนียล สจ๊วตโทรหาผมเมื่อคืนนี้ และบอกผมว่านายท่านรองหึงหวงมากจนคิดว่าเขาป่วย เรามาเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นวามลับระหว่างเราสองคนกันเถอะนะ คุณทำให้นายท่านรองหึงหวงคุณได้ยังไงครับ?” "ฉันเนี่ยนะ?" มุมปากของชาร์ล็อตกระตุกไม่หยุด “ลุค หยุดเล่นตลกกับฉันได้แล้ว ฉันไม่ได้เก่งอย่างที่นายคิดหรอก” แซคคารี! เขายังคงเป็นแซคคารีคนเดิมที่ดูหมิ่นเธอ เขาแต่งงานกับเธอและพาเธอกลับบ้าน เพื่อเป็นการเพิ่มชีวิตที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้วของเขา เมื่อคืนที่ผ่านมา มันไม่มีอะไรมากไปกว่าอุบัติเหตุ! ท้ายที่สุด เธอกับแซคคารียังคงเป็นคนแปลกหน้าสองคนที่ถูกเรียกว่าเป็นสามีภรรยากัน เขาจะหึงหวงเธอทำไม? “โอ้ แสดงว่าคุณไม่รู้เรื่องนี้สินะ จริง ๆ นายท่านรอง... ฮ่าฮ่า...” ลูคัสยิ้มอย่างมีเลศนัยและหยุดพูด แม้ว่านายท่านรองจะเย็นชาและเก็บตัวอยู่ตลอดเวลาอยู่ที่ข้างนอก แต่เมื่อพูดถึงชีวิตรักของเขา เขาเป็นคนที่ดุร้ายและรุ่
"บาดแผลทางอารมณ์ของนายท่านรองในวันนี้ค่อนข้างแย่ การดื่มน้ำอุ่นเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะบรรเทาอาการของเขาได้ เขาต้องการความสงบและเงียบ"ชาร์ล็อตดูเหมือนจะคิดได้ในทันที "ฉันไม่คิดว่าเขาจะเจ็บปวดขนาดนั้น เพียงเพราะเขาได้เจอกับแกริสันในวันนี้และทำให้นึกถึงลอร์เรน วันนี้เขาได้เจอกับลอร์เรนแล้วหรือยัง?""ลอร์เรน? ฮ่า!" ลูคัสยิ้มอย่างมีเลศนัย"นายหญิง ถ้าคุณสนุกกับการแต่งเติมความคิดแบบนี้ ทำไมไม่ลองขยายจินตนาการของคุณดูล่ะ?"ชาร์ล็อตเกือบจะสติหลุด"นายกำลังพูดอะไร?"ลูคัสหันกลับมา ส่งยิ้ม และขยิบตาให้เธอ "เอาล่ะ มีหลายคนเคยได้ยินข่าวลือว่านายท่านรองเป็นเกย์จริง ๆ ทำไมคุณไม่พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่แกริสันจะมีความรักที่แท้จริงกับนายท่านรองล่ะ? บางทีบาดแผลของเขาอาจจะถูกรบกวนอย่างมากเพราะเขารู้ว่าแกริสันหลงใหลในตัวคุณแค่ไหน?""นั่น... เป็นไปได้ยังไงกัน!?" ดวงตาของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความตกใจลูคัสยิ้มอย่างลึกลับ "ผมไม่รู้ คุณสามารถถามนายท่านรองได้เสมอ บางทีเขาอาจจะให้คำตอบกับคุณได้... โอ้!"เขาตะโกนขณะที่ชาร์ล็อตตบเข้าที่หัวของเขาเวลาไม่นานนัก ชาร์ล็อตก็กลับมาถึงเขตวิหารศักดิ์
ชาร์ล็อตตกตะลึง "ไม่ใช่ว่าฉันจะมีพลังวิเศษนะ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกสี่ปีข้างหน้า?" เธอและแกริสันมีสัญญาสิบปีระหว่างกัน ตอนนี้ก็หกปีแล้ว สัญญาจะครบกำหนดในอีกสี่ปี เธอจะแต่งงานกับเขาอย่างที่เธอพูดไว้หรือเปล่า?" แซคคารีถามด้วยสีหน้าจริงจังมาก"เฮอะ!" ชาร์ล็อตหัวเราะออกมาราวกับว่าเธอได้ยินเรื่องที่ตลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก"ถ้านายกำลังจะพยายามเล่นตลก ก็ไม่จำเป็นต้องดูจริงจังขนาดนั้นก็ได้ จริง ๆ แล้วนายดูดีมากเลยนะเวลายิ้ม มาเถอะ ยิ้มหน่อย!"แซคคารีดูบูดบึ้งยิ่งกว่าที่เคย รูม่านตาน้ำแข็งของเขาที่จ้องมาที่เธอดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมชาร์ล็อตเข้าใจทันทีว่าแซคคารีไม่ได้พูดเล่น ๆ กับเธอเลย!'พอได้แล้ว! เราแต่งงานกันมาเกือบสามเดือนแล้ว และฉันไม่เคยได้ยินแซคคารีพูดเรื่องตลกมาก่อน ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าก้อนน้ำแข็งที่อยู่ในร่างกายของเขาเริ่มหลอมละลายตอนไหนกัน!'เธอส่ายศีรษะอย่างงุ่มง่าม"ถึงแม้ว่าแกริสันจะโง่เขลาพอที่จะรออยู่ที่สะพานนั้นเป็นเวลาสิบปี ฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับเขา ฉันบอกเรื่องนี้กับเขานับครั้งไม่ถ้วนตลอดหกปีที่ผ่านมา รวมทั้งวันนี้ด้วย แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะฟัง มันเป็นเรื่อ
เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่แซคคารีไม่เคยพบหรือติดต่อกับเขาเลย เขาคิดว่าความเย่อหยิ่งและถือตัวของแซคคารีนั้น จะทำให้แซคคารีไม่มีวันที่จะติดต่อกับเขาอีกเว้นแต่เขาจะเป็นคนเริ่มทำเช่นนั้นเอง มันทำให้เขาประหลาดใจที่แซคคารีเป็นคนทำลายกำแพงระหว่างพวกเขาเพราะเห็นแก่ชาร์ล็อต!แซคคารีช่วยพยุงแกริสันออกจากสะพานชาร์ล็อตรู้ดีถึงความสัมพันธ์ของแกริสันและแซคคารี ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจที่พวกเขารู้จักกัน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจนั้นก็คือ ในช่วงห้านาทีที่ผ่านมาตั้งแต่ที่แซคคารีช่วยพยุงแกริสันลงมาจากสะพานแล้วเดินไปยังรถของเจมส์สัน พวกเขาไม่พูดอะไรกันเลย แท้ที่จริงแล้วพวกเขาไม่แม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ...ดังนั้นพวกเขาจริงเดินไปด้วยกันด้วยใบหน้าที่เย็นชาในลักษณะที่แปลกประหลาดไปตลอดทาง ราวกับภูเขาน้ำแข็งสองลูกที่มาบรรจบกันที่ด้านหนึ่งชาร์ล็อตที่ยืนอยู่ข้างพวกเขา รู้สึกราวกับว่าเธอเสี่ยงที่จะถูกแช่แข็งตายเพราะพวกเขา ดังนั้น เมื่อพวกเขาลงมาจากสะพานแล้ว เธอจึงไม่เดินไปกับพวกเขาต่อ เธอหันหลังและมุ่งหน้าไปที่รถจองแซคคารีแทน"อ่า! คุณคอนเนอร์ ผมคิดว่าคุณจะไม่มาเจอคุณลาร์สันอีกแล้ว ช่างน่าประหลาดใจเสียนี่กระไร..." เ
ชาร์ล็อตหันกลับมาและเห็นแกริสันนั่งคุกเข่าบนสะพานโดยมีมือทั้งสองข้างของเขาพยุงตัวเองไว้กับพื้น ใบหน้าของเขาซีดเผือดและหน้าผากเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แขนและขาของเขากำลังสั่น"ดูฉันตอนนี้สิ แค่เจ็บป่วยเล็กน้อยยังทำให้ฉันดูไร้ประโยชน์ขนาดนี้เลย ฉันยังเดินตรงไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าช่วยฉันนะ ฉันลุกขึ้นเองได้"เขาบังคับตัวเองให้ยืนขึ้น แต่เพราะเขาเจ็บป่วยและอ่อนแอมาก เขาจึงไม่สามารถยืนขึ้นได้เลยชาร์ล็อตเม้มริมฝีปากของเธอแกริสันคือความภาคภูมิใจของโรงเรียนมัธยมของพวกเขาในอดีต ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นนักปราชญ์ที่ไม่มีใครกล้าแตะต้องเท่านั้น แต่เขายังเป็นความภาคภูมิใจและความสุขของคุณครูสอนพละอีกด้วย และเขาเคยทำลายสถิติการวิ่งระยะไกลอีกสองสามรายงานไม่น่าแปลกใจเลยที่เจมส์สันมาขอร้องเธอให้ช่วยพูดกับเขา แกริสัน แชมป์นักวิ่งที่ตอนนี้ป่วยจนแทบจะเดินไม่ได้!"หยุดฝืนตัวเองได้แล้ว มาเถอะ"ชาร์ล็อตเดิยมาอยู่เคียงข้างเขาและยื่นมือออกมาหาเขาแกริสันประหลาดใจกับการแสดงความรู้สึกที่กระทันหันจนน่าสับสนนี้ จากนั้นเขาก็คว้ามือของชาร์ล็อตไว้อย่างรวดเร็ว"ขอบคุณ!"แกริสันที่สุขภาพดีและแข็งแรงในตอนนี้ดูเหมือนชายชรา
เนื่องจากเขาไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากแซคคารี ลูคัสจึงดึงโทรศัพท์ออกมา เปิดข้อมูลมี่เขาพบ และยื่นให้แซคคารีดู"ฟังนะครับ แกริสันมอบช่อดอกไม้ให้นายหญิงคอนเนอร์ 237 ช่อ เขียนจดหมายรัก 698 ฉบับ และสารภาพความรักที่เขามีต่อเธอ 1,966 ครั้งในช่วงหนึ่งภาคการศึกษา และอาจจะมากกว่านั้นหากเราพิจารณาถึงช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้หรือช่วงเวลาที่ไม่สามารถติดตามได้"แซคคารียังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด ดวงตาของเขามืดลงจนน่ากลัวลูคัสทำได้เพียงพยายามปลอบเขา"แต่ถึงอย่างนั้น นายหญิงคอนเนอร์ก็ยังไม่ไปไหน เธอเคยล้อเล่นกับเขาด้วย... โดยการขอให้เขารอเธออยู่ที่สะพาน นั่นหมายความว่าแกริสันเป็นเพียงของเล่นที่ขาดไม่ได้สำหรับเธอ" "นายพูดอะไร?" ในที่สุดแซคคารีก็พูดขึ้นลูคัสจดจ่ออยู่กับข้อมูลในโทรศัพท์ของเขาอย่างเต็มที่ เขาไม่ได้สังเกตว่าการจ้องมองของแซคคารีนั้นลดลงกลายเป็นแสงสะท้อนสันทรายที่เยือกเย็น เขายังคงอธิบายต่อไป "เอ่อ พูดตามตรงนะครับ สำหรับนายหญิงคอนเนอร์แล้ว แกริสันเป็นเหมือนพี่ชายที่คอยดูแลเธอที่มีสถานะเดียวกับทิฟฟานี่ มิลเลอร์นายหญิงคอนเนอร์ไม่สนใจเขาเลยจริง ๆ เมื่อเธอเล่นกับเขาเสร็จแล้ว เธอจะ... แอ๊ะ!"
ดังที่กล่าวไว้ ไม่ว่าชาร์ล็อตจะปฏิเสธแกริสันอย่างโหดร้ายสักกี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยยอมแพ้และยังคงไล่ตามเธอด้วยความมุ่งมั่นเมื่อหกปีที่แล้ว โรงเรียนของพวกเขาได้จัดทัศนศึกษามาที่ "สะพานสายรุ้ง" แกริสันได้สารภาพและมอบจดมายรักให้กับชาร์ล็อตที่สะพานสายรุ้งแห่งนี้ต่อหน้านักเรียนจำนวนมากเนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น ชาร์ล็อตจึงชี้ไปที่ "สะพานสายรุ้ง" และพูดว่า "เอาล่ะ แกริสัน คุณบอกว่าคุณจะไม่ยอมแพ้ใช่ไหม? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะต้องมาที่สะพานแห่งนี้ทุกวันและรอฉันสองชั่วโมง ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดออก ถ้าคุณสามารถรักษามันไว้ได้เป็นเวลาสิบปีโดยที่ไม่ล้มเหลว หลังจากผ่านไปสิบปี ฉันจะแต่งงานกับคุณและเป็นภรรยาของคุณ"ชาร์ล็อตเดินจากไปทันทีหลังจากนั้น และเธอก็โยนจดหมายรักที่แกริสันมอบให้เธอลงไปในแม่น้ำด้วยชาร์ล็อตรู้สึกโล่งอกที่แกริสันจะต้องยอมแพ้เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูดไป เพียงเพราะว่าเธอไม่เคยคาดหวังตั้งแต่แรก แต่แกริสันโดดเรียนทุกวันและมารอเธอที่สะพานสายรุ้ง โดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศ เขาทำแบบนี้มาหกปีแล้ว..."ที่นี่อากาศหนาวและชื้น และเธอค่อนข้างอ่อนแอ แค๊ก... ดังนั้นเธอควรกลับไปเดี๋ยวนี้" เสียงท
ลูคัสตัวสั่นเทาด้วยความกลัวต่อเสียงอันเคร่งขรึมของแซคคารี จากนั้นลูคัสก็สงบสติอารมณ์และยิ้มกว้างให้เขา "เอาล่ะ เอาล่ะ เพื่อความปลอดภัย ได้โปรดจิบน้ำอุ่นในแก้วนี้ไปก่อน นายท่านรอง"น้ำอุ่นหนึ่งแก้วถูกยื่นให้กับแซคคารี แต่เขาปัดมันออกไปอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาดูลุ่มลึกราวกับว่าเขาสามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ในขณะที่เขาคำราม "นายรีบขับรถบ้านี่ไปเดี๋ยวนี้!""ครับ!" ลูคัสตะโกนตอบรับดังลั่น'ดูเถอะ! แม้แต่ชายผู้สูงศักดิ์และมีการศึกษามากที่สุดในรอธเซย์ยังสบถหยาบคาย ทั้งคุณ นายหญิงคอนเนอร์ และคุณแกริสัน ลาร์สัน อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลยนะ!""สะพานสายรุ้ง" เป็นสะพานคู่ขนานสองเส้นเหตุผลที่ "สะพานสายรุ้ง" เป็นที่รู้จักในชื่อสะพานสายรุ้งก็เพราะมีหมอกหนาเป็นชั้น ๆ ตลอดเวลาในพื้นกว้างระยะสองเมตรระหว่างสะพานทั้งสองที่สร้างขนานกันเหนือน้ำ เมื่ออากาศไม่ดี คนบนสะพานด้านหนึ่งจะมองไม่เห็นคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสะพาน เพราะฉะนั้นช่วงที่อากาศแจ่มใสและดวงอาทิตย์ขึ้นสูงเท่านั้นที่คนบนสะพานทั้งสองฝั่งจะมองเห็นกัน ในช่วงเวลานั้น รุ้งกินน้ำจะเกิดขึ้นระหว่างสะพานสองเส้นนี้ และคู่รักที่ยืนอยู่บนสะพานทั้ง
แซคคารีเลื่อนกระจกลงชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเร่งรีบ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวล "สวัสดี คุณคอนเนอร์...""ฉันเลิกยุ่งกับเธอแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย" แซคคารีพูดตัดบทชายคนนั้นให้สั้นลง ดวงตาที่เยือกเย็นของเขานั้นไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากความแน่วแน่นและไม่แยแส"จำสิ่งที่ฉันจะพูดไว้ มิสเตอร์ฟอสเตอร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอในอนาคต อย่ามาหาฉันอีก""เกี่ยวกับเรื่องนั้น..." มิสเตอร์ฟอสเตอร์พูดอย่างเชื่องช้า "ผมไม่ได้มาหาคุณ คุณคอนเนอร์ ผมมาหาคุณซิมม่อนส์ต่างหาก!"ใบหน้าที่ปราณีตของแซคคารีมีความประหลาดใจเล็กน้อยลูคัสหันหน้าจากที่นั่งคนขับเพื่อมองชาร์ล็อตมิสเตอร์ฟอสเตอร์เป็นพ่อบ้านของครอบครัวลาร์สัน ในช่วงเวลาที่แซคคารียังคงอยู่กับลอร์เรน มิสเตอร์ฟอสเตอร์มักจะตามลอร์เรนไปด้วยเสมอ'เป็นไปได้ไหมว่าแม่ของแซคคารีและมิสเตอร์ฟอสเตอร์จะเป็นเพื่อนกัน?'ชาร์ล็อตมุ่ยปากอย่างกังวลและพูดว่า "คุณต้องการอะไรจากฉัน?""เป็นเพราะคุณลาร์สัน" มิสเตอร์ฟอสเตอร์ถอนหายใจขณะที่จ้องมองใบหน้าอันบอบบางของชาร์ล็อต "คุณซิมมอนส์ คุณควรรู้ว่าคุณลาร์สันเป็นคนหัวแข็งและหยิ่งเหมือ
เสียงของแซคคารีดังขึ้นที่ข้างหูของชาร์ล็อต เมื่อเธอจ้องมองไปที่ขี้เถ้าในถังโลหะอย่างเลื่อนลอยรอยยิ้มว่างเปล่าเหยียดตรงริมฝีปากของเธอขณะที่เธอพูดว่า "ไม่ ต่อให้นายไม่ได้เป็นคนเผารูปพวกนี้ให้ฉัน สุดท้ายฉันก็จะเผามันเอง..."บางทีเธออาจจะมีความรู้สึกผิดหรือเหตุผลอื่นที่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นเธอจึงปกปิดมันไว้และพูดเสริมว่า "ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้โกหกนาย ฉันกำลังพูดจากก้นบึ้งหัวใจของฉันเลย... อ๊ะ!"ช่วงครึ่งหลังประโยคของเธอถูกตัดขาดด้วยเสียงร้องของเธอเอง เมื่อแซคคารีใช้แขนของเขาโอบรอบเอวเล็ก ๆ ของเธอราวกับเป็นเครื่องหนีบเหล็ก แล้วดึงเธอเข้าไปกอด บีบรัดร่างที่บอบบางและอ่อนนุ่มกับหน้าอกที่แข็งแกร่งเหมือนแผ่นเหล็กของเขาเมื่อลมหายใจที่เยือกเย็นและเย้ายวนของเขาห้อมล้อมเธอไปทั้งตัว สมองของเธอก็ว่างเปล่า"จำไว้นะ ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าพูดถึงข้อตกลงก่อนสมรส ว่าฉันต้องการไล่เธอออกไปจากบ้าน ฉันห้ามไม่ให้เธอพูดอีกถ้าฉันไม่ได้พูดถึงมัน"น้ำเสียงที่เยือกเย็นและมีเสน่ห์ของเขาแว่วเข้ามาในหูของเธอราวกับท่วงทำนองที่มาจากยอดของภูเขาหิมะชาร์ล็อตใช้เวลานา