ณ ห้องพักในโรงแรมห้อง 6603 ชายคนหนึ่งกำลังอุ้มทิฟฟานี่ไว้ในอ้อมแขนของเขาแน่น “ทิฟฟ์ ไม่ใช่แค่ตำรวจกำลังตามหาผมในตอนนี้ แต่เจอราลด์ คาร์สันยังตั้งค่าหัวผมไว้ 7,000,000 ดอลลาร์อีกด้วย ไม่มีทางที่ผมจะหนีรอดได้ ดังนั้น นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน” "ไม่! เอ็ด คุณคือคนเดียวที่ฉันรักจริง ๆ ถ้าไม่มีคุณ ต่อให้ฉันมีทุกอย่าง ฉันก็จะอยู่คนเดียว ฉันไม่อยากให้คุณตาย ฉันอยากให้คุณมีชีวิตที่ดีและอยู่กับฉันแบบนี้ไปตลอดชีวิต” ทิฟฟานี่แนบชิดกับชายคนนั้น เธอลูบไล้กล้ามหน้าอกของเขาด้วยนิ้วอันบอบบางของเธอ น้ำตาของเธอไหลอาบแก้มเหมือนสร้อยข้อมือลูกปัดที่ถูกกรีดเชือกขาด “ทิฟฟ์… โอ้ ทิฟฟานี่ที่รัก!” เอ็ดดี้รู้สึกราวกับว่ามีใครบางคนกำลังแทงหัวใจของเขา เมื่อเขาเห็นทิฟฟานี่กำลังร้องไห้ เขาและทิฟฟานี่ตัวติดกันเหมือนปลาท่องโก๋ ก่อนที่ทิฟฟานี่จะได้พบกับไบรสัน ทั้งคู่ได้ให้คำมั่นว่าจะรักกัน และทิฟฟานี่ก็ทำแท้งลูกเพื่อเขาถึงสองครั้ง ทิฟฟานี่บอกเขาว่าเธอถูกบังคับให้อยู่กับไบรสัน และเขาเป็นคนที่เธอรักอย่างแท้จริง เขาเชื่อทุกอย่างที่เธอพูด แม้ว่าทิฟฟานี่และไบรสันจะเป็นคู่สามีภรรยากัน แต่ก็เ
ทิฟฟานี่เบิกบานใจอย่างท่วมท้น เธอไม่ได้รักเอ็ดดี้เลย และเธอก็ไม่ได้ตั้งท้องลูกของเขาด้วย 'เอ็ดดี้ แอดเลอร์แกนี่โง่จริง ๆ จัดการง่ายอะไรขนาดนี้ ทั้งหมดที่ฉันทำก็แค่คุยกับเขา และเขาก็เต็มใจที่จะฆ่าชาร์ล็อตต์กับไมเคิลเพื่อฉัน ตอนนี้เขายอมเสียสละตัวเองเพื่อฉันด้วยซ้ำ!’ เอ็ดดี้รู้เรื่องอื้อฉาวที่ไม่เหมาะสมของเธอมากเกินไป เธออยากจะกำจัดเขา ดังนั้น เธอจึงโล่งใจที่เขาเต็มใจจะฆ่าตัวตาย ท้องฟ้ามืดครึ้มด้วยเมฆดำ และฝนก็ตกเป็นครั้งคราวในวันงานศพของไมเคิล ดูเหมือนท้องฟ้ายังร้องไห้ให้กับการตายของไมเคิล หลังจากสูญเสียพ่อและแม่ไปในอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน ไมเคิลเป็นสมาชิกในครอบครัวเพียงคนเดียวที่ไบรสันเหลืออยู่ ไบรสันเป็นปวดร้าวไปถึงทรวง ทิฟฟานี่ที่มางานศพของไมเคิลพร้อมไบรสัน เธอร้องไห้หนักมากจนเป็นลมหน้าหลุมศพของไมเคิล ทำให้นักข่าวที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดเห็นจิตใจที่ดีงามของเธอ ทิฟฟานี่เป็นคนดังที่โด่งดังในตอนนี้ และแฟน ๆ ของเธอจะต้องประทับใจเธอมากหลังจากวิดีโอนี้ถูกส่งออกไป เมื่อชาร์ล็อตเห็นการกระทำของทิฟฟานี่ พระเจ้ารู้ว่าเธออยากจะบีบคอหล่อนจนตาย และถีบเธอเข้าไปในโลงศพของไมเคิลเพื่อ
ชาร์ล็อตขะยะแขยงการแสดงละครของทิฟฟานี่มากจนท้องไส้ปั่นป่วน หลังจากแสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม ชาร์ล็อตพูดว่า “เดี๋ยวก่อน ทิฟฟานี่ มิลเลอร์ ฉันจะทำ-" “พอแล้วชาร์ล็อต!” เสียงทุ้มดังขึ้นขัดจังหวะก่อนที่ชาร์ล็อตจะพูดจบประโยค นั่นคือไบรสันซึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เขาดึงทิฟฟานี่ไว้ข้างหลังขณะที่จ้องมองชาร์ล็อตด้วยดวงตาแดงก่ำ “วันนี้เป็นงานศพของไมเคิล ฉันไม่อยากทะเลาะกับเธอ แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอดูถูกทิฟฟ์แบบนี้ หากเธอมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหลงเหลืออยู่บ้าง อยู่ให้ห่างจากทิฟฟ์และอยู่ให้ห่างจากหลุมศพของไมเคิล ขอให้เขาไปสงบสุขเถอะ” ในตอนแรก เขายังทนคุยกับชาร์ล็อตได้ แต่พอเธอทำเกินไปและเริ่มกล่าวหาทิฟฟานี่อย่างไร้เหตุผลว่าเป็นคนฆ่าไมเคิล เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาเลยก้าวเข้ามา ทิฟฟานี่เศร้ายิ่งกว่าเขาตอนที่ไมเคิลเสียชีวิต เธอร้องไห้เสียใจทั้งวันเพราะการตายของเขา… “เหอะ!” ชาร์ล็อตเย้ยหยันในอดีต เมื่อใดก็ตามที่ชาร์ล็อตเห็นไบรสันอยู่ข้างทิฟฟานี่และปกป้องเธอเหมือนแก้วตาดวงใจของเขา เธอรูสึกอิจฉา แต่พอเกิดเหตุการณ์เดิมขึ้นต่อหน้าต่อตาเธออีกครั้ง เธออยากจะหัวเราะออกมาเท่านั้น “ทุกคน
“โอเค” แซคคารีตอบเรียบ ๆ จากนั้นเขาก็เอื้อมมือออกไปหาใบหน้าของชาร์ล็อต เธอไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร เธอตกใจแต่ไม่ได้หันหลังกลับ และก็ไม่ได้ก้มหน้าเช่นกัน เธอจ้องตรงไปที่แซคคารีขณะที่เขาใช้นิ้วชี้เช็ดน้ำตาบริเวณใต้ตาให้กับเธอ นิ้วของเขาเย็นเล็กน้อย แต่เธอรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาจากผิวหนังที่เขาปาดและความร้อนแผ่ไปทั่วร่างกายของเธอ มันทำให้หัวใจที่เยือกแข็งของเธอเต็มไปด้วยความอบอุ่นและค่อย ๆ ละลายหายไป “ถ้าอยากร้องไห้ ก็ร้องไห้ในอ้อมแขนของฉัน” แซคคารีพูดขณะกางแขนออก ไม่มีการแสดงออกบนใบหน้าที่แกะสลักอย่างไร้ที่ติของเขา มีแต่อารมณ์ที่ละเอียดอ่อนไหลวนอยู่เบื้องหลังดวงตาที่เยือกเย็น “ฉันไม่เป็นไร…” ชาร์ล็อตเม้มริมฝีปากของเธออย่างแข็งขืน “แต่ก็ขอบคุณสำหรับข้อเสนอของนายนะ” จากนั้นเธอก็ก้าวถอยหลัง เหตุผลที่แซคคารีปลอบโยนเธอเป็นเพราะความรับผิดชอบของเขาในฐานะสามีของเธอก็เท่านั้น และเธอมั่นใจว่าเขาจะทำเช่นเดียวกันกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เป็นภรรยาของเขาด้วย เธอไม่ต้องการความรักที่มอบให้เหมือนกับทำทาน! มุมปากที่โค้งอย่างสมบูรณ์ของแซคคารีกระตุกเล็กน้อย แต่เขาไม่สามารถคายคำพูดที่ติดอยู่ที่ป
“ทิฟฟานี่ มิลเลอร์! พี่คาร์ลี่ พี่ต้องจำไว้นะ... ทิฟฟานี่ส่งคนมาฆ่าผม... พี่ต้องล้างแค้นให้ผม! พี่คาร์ลี่ แก้แค้นให้ผม!” “อย่าตายนะ ไมเคิล! ไมเคิล!" ชาร์ล็อตสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายของเธอ สายลมอุ่นพัดมากระทบใบหน้าของเธอเป็นสิ่งแรกที่เธอรู้สึก แล้วเธอก็แปลกใจที่สายลมอุ่น ๆ นั้นคือลมหายใจของแซคคารี… นั่นเป็นเพราะเธอนอนหงายอยู่บนเบาะรถ “หมอน” ที่เธอหนุนมันไม่ใช่หมอนเลย แต่เป็นตักของแซคคารี แจ็กเก็ตสูทสีดำของแซคคารีคลุมตัวเธอไว้ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตา ลมหายใจอันอบอุ่นของเขาราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิที่พัดมากระทบผมของเธอ 'โอ้พระเจ้า! ฉันเผลอหลับไปตอนไหนเนี่ย แล้วฉันมานอนบนตักเขาได้ยังไงกัน?' “เราถึงบ้านแล้วครับ” ลูคัสกล่าว ชาร์ล็อตยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก 'ฉันนอนบนตักของแซคคารีมาตลอดทางเลยเหรอเนี่ย?' เธอได้งีบหลับลึกมาก และอาจจะยังหลับอยู่ถ้าไม่ใช่เพราะฝันร้ายนั้น 'แล้วแซคคารียอมให้ฉันใช้เขาเป็นหมอนงั้นเหรอ? เขาไม่ขยับเลยรึไง? ขาของเขาไม่ชาไปแล้วเหรอ?’ “อืม” แซคคารีตอบอย่างใจเย็น ชาร์ล็อตไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้าแซคคารียังไง เธอจึงตัดสินใจหลับตาและแสร้งทำเป็นหลับ ทันใดนั้
เธอกลัวอย่างมากที่จะโดนจับได้ว่าเธอแกล้งหลับ… เธอไม่อยากจะนึกถึงผลที่จะตามมาเลย! ตอนนี้เธอผ่อนคลายได้แล้ว 'แซคคารีควรจะออกไปแล้วสิ เขาพาฉันเข้านอนแล้ว... แต่ทำไมฉันถึงไม่ได้ยินเสียงเขาออกไปเลย?' แต่เธอกลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่หนักอึ้งอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ แซคคารีกำลังนั่งอยู่ที่ข้างเตียง ณ จุดนี้ เธอรู้สึกได้ถึงเงาที่ปกคลุมตัวเธอ แม้จะหลับตาก็ตาม จากนั้น แซคคารีก็กดริมฝีปากเรียวบางของเขาลงที่หน้าผากของเธอ ริมฝีปากของเขาเย็นเล็กน้อย ชาร์ล็อตรู้สึกร้อนผ่าวทันที เธอรู้สึกราวกับลาวาหลอมเหลวร้อนกระจายไปทั่วผิวของเธอจากจุดที่ริมฝีปากของเขาทิ้งไว้ เธอได้ยินเสียงหัวใจเต้นกระทบหน้าอก ราวกับควบม้า... “ราตรีสวัสดิ์ สาวน้อย” เสียงของเขาดูเยือกเย็นและดึงดูดใจ ราวกับเสียงขลุ่ยจากธารน้ำแข็ง 'สาวน้อย! เขาเรียกฉันว่า "สาวน้อย" อีกแล้ว!' จิตใจของชาร์ล็อตว่างเปล่า ในที่สุด เมื่อได้ยินเสียงประตูปิดเธอก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งหลังจากหยุดไปนาน เธอลืมตาและจ้องเขม็งไปที่เพดานที่แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง เธอยกมือขวาขึ้นแตะหน้าผากของเธอ เธอเริ่มสงสัยว่าเธอไม่เคยตื่นเลย 'ฉันต้องฝันไปแน่ ๆ! ทำ
สายตาของชาร์ล็อตเย็นชา “ไม่ต้องเป็นห่วงนะ โคร่า!” ณ จุดนี้ ไบรสันไม่ได้เป็นอะไรกับเธอแล้ว ถ้าทิฟฟานี่เพิ่งทำลายความสัมพันธ์ของเธอกับไบรสันไป เธอก็คงจะเพียงแค่ส่งความปรารถนาดีของเธอไปให้ทิฟฟานี่กับไบรสัน ขอให้ไอ้ตัวซวยและดาราตัวน้อยมีความสุขตลอดไป เธอจะไม่หันหลังกลับหรือพยายามเข้าไปเกี่ยวข้องกับพวกเขาในทางใดทางหนึ่ง ทว่าครั้งนี้มันต่างออกไป ทิฟฟานี่ไม่เพียงแต่หลอกล่อไบรสันให้ทำร้ายเธอและพ่อของเธอเท่านั้น แต่เธอยังส่งลูกน้องไปที่สตูดิโอศิลปเพื่อฆ่าเธอเมื่อไม่นานมานี้อีก ตอนนี้เธอคงจะตายไปแล้วถ้าเซนิออสไม่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเธอ ยิ่งตอนนี้ทิฟฟานี่ได้ฆ่าไมเคิลไปแล้วด้วย! ชาร์ล็อตอาจไม่มีหลักฐาน แต่สัญชาตญาณที่แข็งแกร่งบอกเธอว่าทิฟฟานี่เป็นคนยุยงให้เด็กสาวพวกนั้น วางยาพิษเธอและทำให้วิกเตอร์จัดการเธอเช่นกัน ความเกลียดชังของเธอที่มีต่อทิฟฟานี่ถึงจุดเดือดแล้ว หล่อนต้องชดใช้! ชาร์ล็อตได้รับข้อความจากโครอลไลน์ “ท่าเรือฟลอเรนซ์ ไลรา” ใต้ชื่อนั้นคือที่อยู่ที่เต็ม ๆ ของทิฟฟานี่ ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ชาร์ล็อตเปลี่ยนชุดกีฬาที่เป็นระเบียบเรียบร้อย และเดินออกจากประตูไปอย่างรวดเร็ว “นา
เครื่องยนต์รถดับ ทุกอย่างเงียบลง เสียงที่ยั่วสวาทของทิฟฟานี่ เสียงเธอไม่ได้ดัง แต่ชาร์ล็อตต์ได้ยินเธอชัดเจนมาก ตลอดทางจากชั้นสาม “พอแล้ว เซนิออส บ้านของฉันอาจจะปลอดภัย และไม่มีใครเห็นเรา แต่—” "มาเถอะน่า!" ทิฟฟานี่และเซนิออสลากกันไปมาขณะที่พวกเขาเข้ามาในห้อง ชาร์ล็อตยังคงมึนงงอยู่ตรงนั้น มือขวาที่จับโทรศัพท์ของเธอสั่นเทา 'เซนิออส! ผู้ชายที่เป็นเหมือนน้องชายของฉันมาตลอด! คนที่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยฉัน! เขาทรยศฉันด้วยงั้นเหรอ? และเขาก็หมกมุ่นอยู่กับความสกปรกของทิฟฟานี่?’ “เซนิออส…” “หยุดนะ!” “เซนิออส คุณไม่ดีเอาซะมาก ๆ !” สิ่งเดียวที่ชาร์ล็อตรู้สึกในตอนนี้คืออาการปั่นป่วนในท้องของเธอ ฝีเท้าของพวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้นเมื่อพวกเขาเดินขึ้นบันได ชาร์ล็อตสูดหายใจเข้าลึก ๆ เธอออกจากห้องนอนของทิฟฟานี่และซ่อนตัวอยู่ที่ระเบียง ขณะที่เธอปิดประตูระเบียง ทิฟฟานี่และเซนิออสก็เข้าไปในห้องนอน กอดกันและล้มตัวลงนอน ชาร์ล็อตสามารถวาดโครงร่างจาง ๆ ของร่างทั้งสองร่างผ่านช่องว่างเล็ก ๆ ในผ้าม่านจากจุดซ่อนของเธอ “เซนิออส เราควรเปิดไฟหรือปิดไฟดี?” ทิฟฟานี่ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน “เ