ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นรัวห้านัดติดโดยที่คนยิงไม่ได้วอกแวกเลยแม้แต่น้อย ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่เป้ากระดาษด้วยความตั้งใจก่อนที่จะลั่นไก ลูกกระสุนพุ่งไปข้างหน้าเข้าเป้าไม่มีพลาดแม้แต่นัดเดียวจนกระดาษพรุนไปหมด
แปะ แปะ แปะ
“ไม่พลาดเลยน้า” เก้าทัพที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ปรบมือพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้พี่สาวคนสวยด้วยความชื่นชม ส่วนกฤษฎิ์ที่นั่งดื่มกาแฟอยู่ไม่ไกลยิ้มออกมาเล็กน้อย รู้สึกภาคภูมิใจในตัวลูกสาวคนโตมาก
แก้มใสจับปืนตั้งแต่อายุ 15 ปี เพราะรอบตัวมีแต่อันตรายเขาจึงสอนให้ลูกสาวฝึกยิงปืนจนชำนาญ รวมถึงให้ชินกับเรียวสอนการต่อสู้ทุกแขนงให้แก้มใสเอาไว้ป้องกันตัวเองจากศัตรูในที่มืดที่ไม่มีทางรู้เลยว่าจะโผล่มาตอนไหน ถึงเขาจะถอนตัวออกจากวงการมาเฟียแล้ว แต่ใช่ว่าเขาจะไม่มีศัตรูนี่
“พ่อขาแก้มใสเก่งไหมคะ”
สาวน้อยแก้มใสในวัย 20 ปีเดินเขามาหากฤษฎิ์ก่อนที่จะนั่งลงข้าง ๆ และกอดแขนพ่อขาเอาไว้อย่างออดอ้อน จะกี่ปีผ่านไปแก้มใสก็ยังคงเป็นเด็กน้อยตัวเล็ก ๆ ในสายตาของกฤษฎิ์เสมอ ถึงแม้ตอนนี้จะโตเป็นสาวสวยสะพรั่งแล้วก็ตาม ทำเอาเขาชักหวงลูกสาวเสียแล้วสิ
“เก่งมาก ๆ เลยค่ะ” กฤษฎิ์ยกมือใหญ่ขึ้นมาลูบหัวลูกสาวด้วยความเอ็นดูก่อนที่แก้มใสจะยิ้มร่าแล้วแล้วแบมือไปตรงหน้า กฤษฎิ์ถึงกับหุบยิ้มทันที เพราะรู้ว่าลูกสาวจะขออะไรจากตนเอง
“ไม่ให้” ตอบกลับลูกสาวทันควัน แก้มใสถึงกับบึนปากด้วยความงอนพ่อขาทันที ก่อนหน้านี้แก้มใสขับรถสปอร์ตที่เขาซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดไปประสบอุบัติเหตุ ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก แต่ใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่ไหนเลยจะทนเห็นลูกเป็นอะไรไปได้
กฤษฎิ์เลยยื่นคำขาดไม่ให้แก้มใสจับรถ เพราะเป็นห่วงลูกสาวตัวน้อย แต่หารู้ไม่ว่าเวลาไปมหา'ลัยแก้มใสมักจะแอบเอารถของกายมาขับเสมอหลังจากที่โดนยึดกุญแจรถ
“พ่อขาให้แก้มใสเถอะค่ะ แก้มใสต้องไปรับไอโกะที่สนามบินแล้วเนี่ย แก้มใสสัญญาเลยค่ะว่าต่อไปนี้แก้มใสจะขับรถช้า ๆ ไม่ซิ่งอีกแล้ว นะคะพ่อขา”
ใบหน้าสวยถูไถไปมากับแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของบิดา สายตามองไปที่พ่อขาอย่างออดอ้อนเธอทนไม่ไหวแล้ว 1 เดือนที่ต้องแอบไปเอารถพี่กายมาขับแบบหลบ ๆ ซ่อนเธอทนต่อไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ
“พ่อครับสงสารพี่แก้มเถอะนะครับ นะครับพ่อ เชื่อใจพี่แก้มสักครั้ง”
เก้าทัพที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ ๆ เดินมาอ้อนกฤษฎิ์ช่วยแก้มใสอีกคน คนเป็นพ่อถอนหายใจด้วยความอ่อนใจและใจอ่อน เขารักลูกสาวมากเลยไม่อยากให้เป็นอะไรไปอีก แต่ก็สงสารลูกสาวไม่น้อยที่เวลาจะไปไหนมาไหนต้องให้เรียวคอยขับรถไปรับไปส่งทุกครั้ง
“สัญญากับพ่อนะคะเด็กดีว่าต่อจากนี้จะไม่ขับรถเร็ว และจะขับด้วยความระมัดระวัง ใจของคนเป็นพ่อไม่อยากเห็นหนูต้องเป็นอะไรไปอีกแล้ว”
กฤษฎิ์ขอร้องลูกสาวด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตาที่มองไปยังลูกสาวเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย แก้มใสที่เห็นแบบนั้นรีบพยักหน้ารับคำผู้เป็นพ่อโดยไวด้วยความดีใจที่พ่อขาของเธอยอมใจอ่อนเสียที
“พ่อขา แก้มใสสัญญาว่าจะไม่ทำให้เป็นห่วงอีกแล้วนะคะ” ก้มตัวลงมากอดเอวของพ่อขาเอาไว้ก่อนที่กฤษฎิ์จะพยักหน้าให้เรียวไปเอากุญแจรถมาให้ลูกสาวสุดที่รัก
“งั้นแก้มใสไปรับไอโกะก่อนนะคะ เดี๋ยวจะสาย รถจะติด รักพ่อขานะคะ”
เมื่อได้กุญแจรถสมใจแล้วแก้มใสก็บอกลาพ่อขาเพื่อไปรับเพื่อนสาวคนสนิทที่ไปเยี่ยมครอบครัวที่ญี่ปุ่นแล้วบินกลับมาวันนี้พอดี ร่างเล็กยื่นหน้าไปหอมแก้มของบิดาหนึ่งทีก่อนจะวิ่งออกจากห้องซ้อมยิงปืนไปด้วยรอยยิ้มสดใสร่าเริงทำเอากฤษฎิ์อดยิ้มตามลูกสาวไม่ได้
รอยยิ้มของลูกสาวเขาคือรอยยิ้มที่สวยที่สุด เขาจะไม่มีวันให้ใครมาทำลายรอยยิ้มของลูกสาวเขาเป็นอันขาด
ประเทศไทย
สนามบิน
เครื่องบินจากประเทศญี่ปุ่นแล่นลงจอดที่สนามบินอย่างปลอดภัย เมื่อผ่านด่านตรวจต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วร่างสูงโปร่งสมส่วนที่สวมแว่นตาดำปกปิดใบหน้าหล่อเหลาก็เดินออกมาเพื่อรอรับกระเป๋า ในขณะที่กำลังจะเดินไปรับกระเป๋าอยู่นั้น ร่างบางของใครบางคนก็วิ่งมาด้วยความเร็วชนไหล่ของเขาเล็กน้อย คน ๆ นั้นหันกลับมาขอโทษเป็นภาษาอังกฤษแล้ววิ่งจากไปทันทีโดยไม่หันมามองเขาสักนิด
วายุถึงกับส่ายหัวยิ้ม ๆ ให้กับความเร่งรีบของสาวน้อย กลิ่นน้ำหอมยังคงลอยฟุ้งอยู่ใกล้ ๆ แม้ร่างเล็กจะวิ่งจากไปแล้วก็ตาม กลิ่นหอมละมุนนี้ช่างชวนให้รู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่สูดลมหายใจเข้าปอดจริง ๆ
“ไอโกะ คิดถึงจังเลย”
แก้มใสร้องเรียกเพื่อนสาวคนสนิทด้วยความคิดถึงก่อนที่สองสาวจะโผเข้ากอดกันแน่นราวกับไม่ได้เจอกันมานานนับ 10 ปี ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วไอโกะเพิ่งเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวที่ญี่ปุ่นแค่สัปดาห์เดียวเอง
“ไม่เจอกันอาทิตย์เดียวอ้วนขึ้นหรือเปล่าพี่แก้ม” ไอโกะแซวเพื่อนสาวยิ้ม ๆ ในขณะที่แก้มใสยิ้มสวยโชว์ลักยิ้มอย่างน่ารัก มือบางตีลงไปที่แขนเพื่อนสาวดังเพียะอย่างแรงจนไอโกะถึงกับแอบซี้ดปากด้วยความเจ็บ แก้มใสมือหนักชะมัด
“แซวแรงนะเรา ไม่อ้วนจ้ะ เท่าเดิมสวยเหมือนเดิม น่ารักเหมือนเดิม”
ตอบเล่นลิ้นกับเพื่อนก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมาพร้อม ๆ กัน แล้วจับจูงมือกันเดินออกมาจากสนามบินเพื่อเดินทางไปยังคอนโดของไอโกะ วันนี้เธอจะแอบหนีพ่อขาไปเที่ยวด้วยล่ะ อิอิ ได้รถมาแล้วมันต้องซิ่งไปตี้สักหน่อย
โรงพยาบาล N
“ทำไมผมต้องรับคุณเข้าทำงานที่นี่”
กฤษฎิ์ตั้งคำถามก่อนจะมองไปยังชายหนุ่มรุ่นลูกที่หน้าตาดีมาก ใบหน้าหล่อเหลาสะอาดสะอ้าน สายตาอ่อนโยนที่ทอดมองมายามพูดคุยกับเขาทำให้เขารู้สึกถูกชะตาไม่น้อย ประวัติการศึกษาดี ประวัติการทำงานเรียกได้ว่าโคตรจะดี
“เพราะหมอแบบผมจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตคนไข้ ให้ลืมตาตื่นขึ้นมาอยู่กับคนที่รักต่อไปครับ”
วายุตอบด้วยรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนก่อนที่กฤษฎิ์จะพลิกแผ่นกระดาษหน้าประวัติของวายุดูอีกครั้งเพื่ออ่านให้ละเอียดถี่ถ้วน จนมาสะดุดกับสถานะ โสด คิ้วด้านขวาของกฤษฎิ์ก็กระตุกขึ้นมาถี่ยิบแบบไม่มีสาเหตุ รู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง อย่างไรก็ไม่รู้
“ตกลง ผมรับคุณเข้าทำงานครับคุณศัลยแพทย์วายุ ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ” กฤษฎิ์ปิดแฟ้มประวัติของวายุลงพร้อมกับยื่นมือไปตรงหน้าหมอหนุ่มที่มองมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะยื่นมือใหญ่มาจับมือกับกฤษฎิ์อย่างยินดีที่กฤษฎิ์ให้โอกาสเขาได้มาเป็นหมอรักษาคนไข้ในโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างโรงพยาบาล N ที่มีสาขามากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“ผมจะตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถครับ” วายุบอกกล่าวอย่างมาดมั่นกับท่านประธานโรงพยาบาลที่ถึงแม้อายุจะปาไป 50 กว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงความหล่อเหลาชัดเจน
“แล้วคุณหมอมีที่พักหรือยัง”
กฤษฎิ์ถามวายุด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ ก่อนที่อีกฝ่ายจะส่ายหน้า
ช้า ๆ หลังจากลงเครื่องมาเขาก็รีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลทันทีไม่ทันได้จัดการเรื่องอื่น ๆ เพราะกลัวท่านประธานจะรอนาน ก่อนหน้าที่จะเดินทางมาที่นี่ไม่นาน เขาได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลว่าท่านประธานจะเป็นคนสัมภาษณ์เขาด้วยตัวเอง
เขากะว่าสัมภาษณ์เสร็จแล้วจะไปหาดูคอนโดที่อยู่ใกล้ ๆ โรงพยาบาลสักหน่อย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะหาได้ทันเวลาหรือเปล่า เพราะการสัมภาษณ์กินเวลาไปไม่น้อย ตอนนี้จึงเป็นเวลาบ่ายคล้อยเข้าไปแล้ว
“ยังเลยครับ ตั้งแต่ลงจากเครื่องผมก็มาที่นี่เลยครับ ยังไม่ทันได้แวะไปที่ไหน” วายุตอบไปตามความจริงก่อนที่กฤษฎิ์จะเสนอทางเลือกให้เขาไปพักที่บ้านพักแพทย์ของโรงพยาบาล
“โรงพยาบาลเรามีบ้านพักสำหรับแพทย์นะครับ ถ้าคุณสนใจผมจะให้คนของผมพาคุณไปดู และถ้าเกิดว่าคุณชอบก็สามารถเข้าพักได้เลย ไม่ต้องห่วงอะไร ผมให้คนดูแลจัดการทำความสะอาดอย่างดีทุกอาทิตย์”
กฤษฎิ์บอกข้อเสนอให้กับหมอหนุ่มที่นั่งนิ่งอยู่ตรงหน้า เพราะข้างตัวของวายุมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่วางอยู่ กฤษฎิ์จึงเดาได้ว่าเจ้าหนุ่มคนนี้น่าจะยังคงไม่มีที่พักเป็นแน่
“ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องขอรบกวนท่านประธานแล้วครับ” วายุบอกกฤษฎิ์ด้วยความนอบน้อมก่อนที่กฤษฎิ์จะโทรเรียกชินให้มาพาคุณหมอไปดูบ้านพักแพทย์ที่เขาสร้างไว้สำหรับแพทย์ที่ต้องการพักอยู่ใกล้ ๆ กับโรงพยาบาล
เมื่อวายุออกจากห้องไปเรียบร้อยแล้วกฤษฎิ์ก็หยิบแฟ้มประวัติของวายุขึ้นมาดูอีกครั้ง ใบหน้าที่หล่อเหลาของวายุช่างเหมือนกับใครบางคนที่เขาเคยรู้จักเหลือเกิน แต่เขาคิดว่าคงไม่น่าจะใช่ เพราะคนที่เขานึกถึงตอนนี้คงกำลังต่อสู้อยู่ในวงการมาเฟียที่ญี่ปุ่นเป็นแน่
บ้านพักแพทย์โรงพยาบาล
“ขอบคุณนะครับที่เป็นธุระพาผมมาดูบ้านพัก”
วายุก้มหัวลงให้ชินอย่างขอบคุณก่อนที่ชินจะพยักหน้ารับเล็กน้อยแล้วเดินจากไปทันที บ้านพักแพทย์ถูกแยกไว้เป็นหลัง ๆ มีรั้วรอบขอบชิด บ้านขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่มากจนเกินไป เป็นบ้านชั้นเดียวมีสองห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัวที่แยกไว้เป็นสัดส่วน และสวนดอกไม้ด้านนอกที่ถูกดูแลอย่างดี มองแล้วชวนร่มรื่นน่าอยู่ไม่น้อย
วายุลงมือจัดการเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้เสื้อผ้าให้เรียบร้อย เขามีแค่เสื้อผ้ามาไม่กี่ชุดส่วนของที่เหลือไว้เขาค่อยไปซื้อมาเพิ่มเติมแล้วกัน จัดของได้สักพักก็มีเสียงรถแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านสร้างความแปลกใจให้กับวายุไม่น้อย ร่างสูงเดินออกมาหน้าบ้านก็พบกับรถซุปเปอร์คาร์คันหรูที่จอดขวางประตูรั้วอยู่
เขาค่อย ๆ เดินไปที่รถช้า ๆ มีโน้ตใบหนึ่งเสียบไว้ที่กระจกหน้ารถ มือใหญ่หยิบแผ่นกระดาษออกมาดูก็พบว่ารถคันนี้พ่อของเขาเป็นคนเตรียมเอาไว้ให้นั่นเอง วายุยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะเปิดประตูรถและขับเข้าบ้านไป
Pub
หลังจากที่จัดของและซื้อของใช้บางส่วนเข้าบ้านพักแล้ว วายุก็ขับรถมาเรื่อย ๆ จนมาเจอกับผับที่บรรยากาศดีแห่งหนึ่งจึงแวะเข้ามานั่งดื่มคนเดียวเงียบ ๆ ผับที่นี่ดูดีและมีระดับมาก แบ่งโซนไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนตัวเขาตอนนี้กำลังนั่งดื่มเงียบ ๆ คนเดียวปล่อยความคิดและความรู้สึกไปกับเสียงเพลง
“ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ” ขณะที่กำลังนั่งดื่มเงียบ ๆ ก็มีสาวสวยคนหนึ่งเดินมานั่งลงที่โซฟาตรงกันข้ามก่อนที่วายุจะยิ้มให้เล็กน้อยแล้วปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
“ขอโทษนะครับ แต่ผมชอบนั่งคนเดียวเงียบ ๆ มากกว่า”
ปฏิเสธพร้อมทั้งเอ่ยคำขอโทษก่อนที่สาวสวยฝั่งตรงข้ามจะหุบยิ้มทันทีแล้วลุกพรวดพราดเดินจากไป วายุนั่งควงแก้วเหล้าเล่นไปมา ก่อนเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์จะดึงความสนใจของเขา บนหน้าจอปรากฏชื่อ ‘ริว’ วายุทำเพียงแค่เหลือบไปมอง ไม่มีท่าทีที่จะกดรับแต่อย่างใด
มีสาว ๆ หลายคนที่แวะเวียนมาขอนั่งดื่มกับวายุ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธอย่างสุภาพนุ่มนวลไปเสียทุกราย บางคนก็หน้ามึนนั่งมองวายุเงียบ ๆ ซึ่งพอไม่ได้รับความสนใจก็ลุกเดินจากไปเอง เพราะเจ้าของโต๊ะไม่สนใจเธอเลยสักนิด
“ปล่อยเพื่อนกูเดี๋ยวนี้นะ” วายุที่กำลังจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มชะงักไปวูบหนึ่งเมื่อเสียงหวานใสของใครบางคนดังขึ้น ตามด้วยเสียงขวดแก้วแตกอย่างแรงจากฝีมือของสาวสวยที่เขามองเห็นหน้าไม่ชัด เนื่องด้วยความมืดสลัวของมุมที่เขานั่งอยู่
“กรี๊ดดดด มึงกล้าทำผัวกูเหรอ”
เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นทำเอาวายุแสบแก้วหูจนทนไม่ไหว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โต๊ะข้างหลังเขานี่เอง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อกลับบ้านพักไปพักผ่อน ด้วยหมดอารมณ์ที่จะนั่งดื่มต่อแล้ว
“เออ แล้วมึงจะทำไม”
เสียงหวานใสที่เขาได้ยินครั้งแรกร้องขึ้นก่อนที่ร่างบางของใครบางคนจะเซมาชนเขา กลิ่นหอมจากน้ำหอมที่คุ้นเคยปะทะจมูกของวายุเข้าอย่างจัง สาวน้อยในอ้อมแขนเขาหันมากล่าวขอโทษด้วยความรีบร้อนก่อนจะเดินไปหยิบขวดเหล้าที่อยู่ไม่ไกลมาถือไว้แล้วฟาดลงที่หัวของผู้ชายคนหนึ่งอย่างแรงจนเลือดอาบ
วายุได้แต่ส่ายหน้าให้กับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าก่อนที่ขายาว ๆ จะก้าวออกมาจากบริเวณนั้น กลิ่นน้ำหอมที่ติดจมูกเขาค่อนข้างมั่นใจว่าผู้หญิงที่เซมาชนเขาคือคนคนเดียวกับผู้หญิงที่วิ่งมาชนไหล่เขาที่สนามบิน กลิ่นน้ำหอมที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน แต่การพบกันทั้งสองครั้งเขากลับไม่เคยได้เห็นหน้าสาวเจ้าอย่างชัดเจนเลยสักครั้ง
วายุไม่เคยรู้เลยว่าผู้หญิงที่บังเอิญมาชนเขาถึงสองครั้งคือผู้หญิงที่นั่งหันหลังให้เขาห่างกันเพียงแค่โซฟากั้นไว้แค่นั้นเองหรือนี่จะเป็พรหมลิขิตที่ยังไม่ชัดเจนกันนะ
ถ้าความบังเอิญเจอกันสามครั้งคือพรหมลิขิต พระเจ้าคงขีดเส้นพรหมลิขิตผิด ให้เธอมาเจอผู้ชายที่ไม่คู่ควรกับรอยยิ้มที่สดใสของเธอวายุตื่นขึ้นมาแต่เช้าด้วยความสดชื่น เพราะต้องเริ่มงานอาทิตย์หน้าวายุจึงหาอะไรทำฆ่าเวลาไปก่อน อย่างตอนนี้ที่ร่างสูงกำลังขุดดินเพื่อเตรียมเอาต้นมะลิที่ซื้อมาลงปลูก เขาชอบต้นมะลิมาก กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกมะลิทำให้รู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ได้สูดกลิ่น และที่สำคัญต้นมะลิคือตัวแทนของมารดาเขาริโกะ แปลว่า ดอกมะลิ อย่างไรล่ะทุกครั้งที่คิดถึงโอก้าซังวายุมักจะมองไปที่ต้นมะลิเสมอ อบอุ่นทุกครั้งที่ได้มอง เพราะมันทำให้เขารู้สึกว่าแม่ยังคงอยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลาไม่ได้จากไปไหนแม่จะคงอยู่ในใจของเขาตลอดไปครืด ครืด ครืดเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้วายุที่กำลังทานมื้อเที่ยงอยู่รีบกดรับสายทันที ปลายสายที่โทรเข้ามาคือเพื่อนใหม่ที่เขาเจออยู่ที่ผับ คุยกันถูกคอ ชอบอะไรเหมือน ๆ และก็ชวนกันไปแข่งรถบ่อย ๆ อย่างวันนี้ก็เช่นกันพวกเขามีนัดแข่งรถตอนช่วงเย็น“ว่าไงเค” วายุทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงสดใสก่อนที่เคจะตอบกลับมา(ไม่ว่าอย่างไรหรอกเพื่อน แค่โทรมาถามว่าวันนี้พร้อมไหม เงินเดิมพันโคตรสูงเลย
“วินาทีที่ปากนุ่มหยุ่นประทับที่ริมฝีปากเย็นชืดของผม หัวใจที่ไม่เคยอ่อนไหวและเต้นแรงกับใครมาก่อนกลับสั่นไหวอย่างแรง เพียงเพราะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของผมคือเธอ คนที่พรหมลิขิตขีดเส้นให้เราได้มาเจอกัน”เมื่อถึงรอบสุดท้ายของการแข่งขันวายุรีบเหยียบคันเร่งจนมิด ถึงแม้ว่ารถของเขาจะทิ้งห่างคู่แข่งอยู่มากก็ตาม Lamboghini สีดำที่แต่งอย่างเท่แล่นเข้าเส้นชัยไปอย่างสวยงาม เสียงกรี๊ดด้วยความยินดีดังขึ้นทั่วทั้งสนาม รวมไปถึงแก้มใสด้วยที่กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเมื่อรถจอดสนิทวายุจัดการเปิดประตูรถลงมาท่ามกลางเสียงกรี๊ดที่ดังไม่หยุด ดวงตาคมกริบกวาดสายตามองไปรอบ ๆ สนามก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าเนียนสวยของใครบางคนที่กำลังมองมายังเขาพอดี ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ช่างน่าเอ็นดูเสียจริง ๆรอยยิ้มกว้างที่แสนอ่อนโยนถูกส่งไปให้แก้มใส แต่เมื่อรถของคู่แข่งขับตามหลังเข้ามาจอดวายุก็หันกลับไปคุยกับเอ็มคู่แข่งที่มาท้าดวลกับเขาวันนี้ อีกฝ่ายเปิดประตูรถลงมาด้วยรอยยิ้มของความเป็นมิตร“พี่เก่งมาก ๆ เลยครับ ตั้งแต่แข่งรถมาผมยังไม่เจอใครที่ทิ้งห่างคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่นเหมือนพี่เลย”เอ็มเดินเข้ามาหาวายุพร้อมกับกล่าวช
มหาวิทยาลัย A“ปะ ปล่อยผมไปเถอะนะครับ ผมกลัวแล้ว”ซีนยกมือไหว้กลุ่มรุ่นพี่ปีสามด้วยความหวาดกลัวเมื่อเขาโดนรุ่นพี่มาหาเรื่อง สาเหตุมาจากเมื่อคืนมีผู้หญิงคนหนึ่งมานั่งดื่มที่เคาน์เตอร์บาร์ผับที่เขาเป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ ดื่มจนเมาทำให้เขาต้องไปส่งเธอกลับคอนโดด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าจะเจอคนมาฉุดไปทำมิดีมิร้ายเข้า“ถ้ามึงกลัว มึงคงไม่มายุ่งกับเมียกูหรอกว่ะไอ้เหี้ยซีน” ไปป์ยกเท้าขึ้นมาพุ่งกระทืบเข้าไปที่ท้องของซีนเต็มแรง หนุ่มรุ่นน้องถึงกับยกมือขึ้นมากุมท้องไว้ด้วยความเจ็บปวด เจ็บจนจุกไปหมด“ผมไม่รู้จริง ๆ ครับพี่ไปป์ว่าพี่เกรซเป็นแฟนพี่ เมื่อคืนพี่เกรซเมามาก ผมเลยไปส่งพี่เขาที่คอนโดไม่ได้มีอะไรเกินเลยอย่างที่พี่เข้าใจเลยนะครับ”ซีนมองไปป์ด้วยแววตาที่ขอร้องและอ้อนวอน เขาไม่ได้จีบพี่เกรซจริง ๆ เมื่อคืนอยู่ ๆ พี่เกรซก็มานั่งที่เคาน์เตอร์แล้วก็สั่งเหล้าดื่ม เขาพยายามบอกว่าให้พอ แต่พี่เกรซก็ไม่ฟังดื่มจนเมาฟุบลงบนเคาน์เตอร์บาร์จนผับปิดก็ไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาด้วยความที่ห่วง เพราะเป็นผู้หญิงเขาเลยตัดสินใจไปส่งพี่เกรซกลับที่พัก แต่พี่ไปป์กลับเข้าใจไปเองว่าเขาไปต่อกับพี่เกรซซึ่งมันไม่ใช่เลยสักนิด“
วายุตรวจร่างกายของซีนอย่างละเอียดโดยที่มีแก้มใสตามติดไม่ห่างก่อนที่เขาจะส่งซีนไปเอกซเรย์ตรวจเช็กภายในร่างกายว่ามีส่วนไหนแตกหักหรือเปล่า เพราะสภาพของเด็กหนุ่มค่อนข้างบอบช้ำทีเดียว“มือเรามีแผลนี่” หลังจากที่ตรวจซีนเสร็จแล้ววายุก็หันมาเห็นมือบอบบางของแก้มใสที่มีแผลเลือดแตกซิบ ๆ เล็กน้อย ส่วนแก้มใสเมื่อมองไปที่มือก็แค่ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ“ไม่เป็นไรค่ะ แก้มใสชินแล้วตีกับผู้ชายบ่อยแผลแค่นี้ไกลหัวใจ” บอกวายุด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อได้ยินแบบนั้นคิ้วเข้มถึงกับขมวดมุ่นด้วยความแปลกใจ ลูกสาวท่านประธานนี่ห้าวตีนไม่เบาแฮะ จากที่เจอกันวันนั้นที่สนามแข่งรถแล้วสู้เก่งไม่เบา ดูจากท่ากระทืบคนแล้วน่าจะมือหนักเท้าหนักไม่ใช่เล่น“แต่พี่หมอเป็นค่ะ” บอกสาวน้อยตรงหน้าด้วยสีหน้าที่จริงจัง ต่างกับแก้มใสที่พอได้ฟังประโยคนี้แล้วก็นึกไปถึงประโยคเดียวกันก่อนหน้านี้ที่พี่หมอวายุเคยพูดที่สนามแข่ง“เป็นอีกแล้ว อยากเป็นแฟนกับแก้มใสเหรอคะ” แซววายุด้วยสายตาที่แพรวพราวตามแบบฉบับของสาวขี้เล่นก่อนที่วายุจะก้มหน้าลงมาใกล้ ๆ จนชิดแก้มเนียนใสที่ขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เมื่อพี่หมอก้มหน้ามาจนชิดแก้มสีแดงเป็นลูกเ
บ้านพักวายุแกรก แอดเสียงเปิดประตูบ้านที่ดังขึ้นทำให้เพลิงที่นั่งดื่มไวน์อยู่ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ น้องชายสุดที่รักของเขากลับมาแล้วสินะ เมื่อประตูเปิดขึ้นวายุมองใครบางคนที่นั่งอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขกด้วยความแปลกใจมือใหญ่ค่อย ๆ หยิบปืนที่เหน็บอยู่ที่เอวออกมา แล้วเดินเข้าไปหาผู้ชายที่นั่งหันหลังให้ตัวเองช้า ๆ ศัตรูเขามีเยอะจนไม่รู้ว่าใครเป็นใครบ้าง เขาจึงต้องพกปืนติดตัวตลอดเวลาที่เดินทางไปทำงานและก็หลังเลิกงานเสมอกริ๊ก“ใครส่งมึงมา” น้ำเสียงแข็งกร้าวถามผู้ชายที่นั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน พร้อมกับเตรียมลั่นไกปืนก่อนที่เพลิงกัลป์จะหันมาช้า ๆ แล้วค่อย ๆ จับมือที่ถือปืนของน้องชายให้เล็งมาที่หัวใจของตัวเองส่วนวายุเมื่อเห็นหน้าของพี่ชายดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจราวกับเห็นผี ด้วยไม่คิดว่าพี่ชายเขาจะมานั่งจิบไวน์เซอร์ไพรส์เขาที่เมืองไทยแบบนี้“เรียวอิจิส่งฉันมา ทำไม จะยิงพี่ชายตัวเองเหรอเอาสิ” เพลิงกัลป์แสยะยิ้มร้ายให้น้องชายก่อนที่จะดึงปืนมาจ่อตรงหัวใจของตัวเอง ส่วนวายุรีบสะบัดมือที่ถูกพี่ชายจับเอาไว้ออกทันที พี่ชายเขาบ้าบิ่นเกินไปแล้ว“เล่นบ้าอะไรวะเนี่ย ปืนลั่นขึ้นมาจะทำอย่างไร” ว่าให้พี
มหาวิทยาลัย A“แก้มใสเร็ว ๆ อาจารย์มานั่นแล้ว” ไอโกะร้องเรียกเพื่อนสาวคนสนิทให้รีบวิ่งเมื่อมองไปเห็นอาจารย์ประจำวิชาที่กำลังเดินมาเพื่อที่จะเข้าสอนคาบเช้าพวกเธอ“มาแล้ว ๆ ขอโทษทีนอนเพลินไปหน่อย” เมื่อวิ่งมาถึงตัวเพื่อนสาวแก้มใสก็ยิ้มให้ไอโกะอย่างอ้อน ๆ เมื่อคืนเธอนอนฝันดีถึงพี่หมอวายุทั้งคืนทำให้วันนี้เธอตื่นสายมาเข้าเรียนแบบฉิวเฉียด ผู้ชายเป็นเหตุสังเกตได้ แหะ แหะ“เมื่อวานไปทำอีท่าไหนล่ะถึงได้โดดเรียนแบกผู้ชายไปหาหมออะ”เมื่อเข้ามาในห้องเรียนเรียบร้อยแล้วไอโกะก็ถามแก้มใสด้วยความสงสัย เพราะเมื่อวานเพื่อนสนิทของเธอส่งข้อความมาบอกเธอแค่ว่าพาคนเจ็บไปโรงพยาบาลโดยที่ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรกับเธอเลยสักนิด แล้วหลังจากนั้นก็เงียบหายไปทั้งวันเลย“ก็กำลังจะมารอเข้าเรียนช่วงบ่ายนี่แหละ แต่อยู่ ๆ ก็หลงเข้าไปตีกับพี่ปีสามแบบงง ๆ เห็นคนเจ็บแล้วอดสงสารไม่ได้อะ”แก้มใสบอกเพื่อนสาวเพียงหนึ่งเดียวของเธอยิ้ม ๆ ก่อนที่จะหยิบช็อกโกแลตของโปรดของเธอขึ้นมากินไปด้วยฟังอาจารย์สอนไปด้วย กินของหวานทีไรอารมณ์ดีทุกทีเลย ยิ่งคิดถึงพี่หมอฮอร์โมนเอ็นโดรฟินก็ยิ่งหลั่ง ทำไมวันนี้แก้มใสมีความสุขจังเลย“ของหวานอย่ากินเย
ศูนย์อาหารโรงพยาบาล Nเมื่อสองหนุ่มสาวเดินเข้ามาในศูนย์อาหารบรรดาคุณหมอและพยาบาลต่างพากันหันมามองด้วยความสนใจ เพราะพวกเขาต่างรู้ดีว่าแก้มใสคือลูกสาวของท่านประธานโรงพยาบาลแต่วันนี้แก้มใสกลับเดินเคียงคู่มากับคุณหมอคนใหม่สุดฮอตของโรงพยาบาลอย่างหมอวายุ ทำเอาทุกคนต่างให้ความสนใจและพากันแปลกใจไม่น้อยที่เห็นทั้งคู่มาด้วยกัน“พี่หมอทานอะไรดีคะ” เมื่อเดินมาหยุดหน้าร้านอาหารที่มีทั้งอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว หรือจะเป็นข้าวราดแกง แก้มใสก็เอียงคอถามพี่หมอพร้อมกับยิ้มหวานให้ภาพนั้นทำเอาพยาบาลสาวที่พักเที่ยงพากันมองมาด้วยความอิจฉาคุณหมอวายุต่างเป็นที่หมายปองของสาว ๆ เกือบทั้งโรงพยาบาลไม่ว่าจะเป็นคุณหมอสาว หรือพยาบาลสาวโสด ที่แวะเวียนพากันมาขายขนมจีบให้คุณหมอแต่ก็ไม่เห็นว่าคุณหมอวายุจะเล่นด้วยกับสาว ๆ คนไหนเลย ยกเว้นสาวน้อยตรงหน้าที่คุณหมอยิ้มกว้างให้แบบโลกสว่างสดใสจนแสบตากระแทกใจพวกเธอไปหมด“วันนี้พี่หมอขอเป็นข้าวราดแกงแล้วกันครับ” ตอบสาวน้อยแก้มใสเสียงนุ่มก่อนที่จะสาวเท้ายาว ๆ เดินไปที่ร้านอาหารข้าวราดแกงโดยที่มีแก้มใสเดินตามมาติด ๆ ไม่ห่าง“สวัสดีค่ะคุณหมอวายุ วันนี้รับอะไรดีคะ”คุณป้ามาลัยเจ้าขอ
“น่าสนุกตรงไหนกันเพลิง” วายุแย้งพี่ชายเสียงเบาพร้อมกับมองหน้าฝาแฝดด้วยความหมั่นไส้ ทำหน้ากวนเบื้องล่างเสียจริง แต่ถึงอย่างนั้นสาว ๆ ก็พากันกรี๊ดพี่ชายเขามากกว่าเขาเสียอีก ก็เพราะว่าพี่ชายของเขาหล่อร้ายออกแนวแบดบอยส่วนเขาจะออกแนวสุภาพอ่อนโยนเสียมากกว่า“ไม่น่าสนุกตรงไหน ลูกสาวท่านประธานมาชอบนายเชียวน้า” แซวน้องชายยิ้ม ๆ ก่อนที่จะเท้าคางมองหน้าวายุจนคนเป็นน้องรู้สึกอยากจะยื่นมือไปชกหน้าหล่อ ๆ กวน ๆ นั้นให้ปากแตกสักทีสองทีจะได้เลิกกวนเขาสักที“เราสองคนมีความรักได้ด้วยเหรอเพลิง หึ” วายุถามพี่ชายขึ้นมาเสียงเบาก่อนที่จะนิ่งเงียบไป ทำเอาเพลิงที่ยิ้มล้อเลียนน้องชายอยู่ถึงกับชะงักไปทันทีที่น้องชายพูดขึ้นมาแบบนั้น ความรักเหรอ แล้วทำไมคนแบบน้องชายเขาถึงจะมีความรักไม่ได้ล่ะ“ทำไมจะไม่ได้ล่ะเร็น พ่อแม่เรายังรักกันจนมีเราสองคนได้เลย”เพลิงบอกน้องชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ดวงตาคมกริบมองหน้าน้องชายสุดที่รักเพียงคนเดียวของเขาด้วยแววตาที่รักและพร้อมจะปกป้องน้องชายเสมอ คนที่ไม่สมควรมีความรักเลยคือเขา ริว ซาโต้อิชิบะ หัวหน้าแก๊งมาเฟียแบบเขาต่างหากเล่า“เฮ้อ ไม่พูดกับนายดีกว่าไปทำงานล่ะ” วายุบอกพี่ชายก่อนที