ถ้าความบังเอิญเจอกันสามครั้งคือพรหมลิขิต พระเจ้าคงขีดเส้นพรหมลิขิตผิด ให้เธอมาเจอผู้ชายที่ไม่คู่ควรกับรอยยิ้มที่สดใสของเธอ
วายุตื่นขึ้นมาแต่เช้าด้วยความสดชื่น เพราะต้องเริ่มงานอาทิตย์หน้าวายุจึงหาอะไรทำฆ่าเวลาไปก่อน อย่างตอนนี้ที่ร่างสูงกำลังขุดดินเพื่อเตรียมเอาต้นมะลิที่ซื้อมาลงปลูก เขาชอบต้นมะลิมาก กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกมะลิทำให้รู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ได้สูดกลิ่น และที่สำคัญต้นมะลิคือตัวแทนของมารดาเขา
ริโกะ แปลว่า ดอกมะลิ อย่างไรล่ะ
ทุกครั้งที่คิดถึงโอก้าซังวายุมักจะมองไปที่ต้นมะลิเสมอ อบอุ่นทุกครั้งที่ได้มอง เพราะมันทำให้เขารู้สึกว่าแม่ยังคงอยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลาไม่ได้จากไปไหน
แม่จะคงอยู่ในใจของเขาตลอดไป
ครืด ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้วายุที่กำลังทานมื้อเที่ยงอยู่รีบกดรับสายทันที ปลายสายที่โทรเข้ามาคือเพื่อนใหม่ที่เขาเจออยู่ที่ผับ คุยกันถูกคอ ชอบอะไรเหมือน ๆ และก็ชวนกันไปแข่งรถบ่อย ๆ อย่างวันนี้ก็เช่นกันพวกเขามีนัดแข่งรถตอนช่วงเย็น
“ว่าไงเค” วายุทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงสดใสก่อนที่เคจะตอบกลับมา
(ไม่ว่าอย่างไรหรอกเพื่อน แค่โทรมาถามว่าวันนี้พร้อมไหม เงินเดิมพันโคตรสูงเลยนะ) เคตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี การมีเพื่อนใหม่อย่างว่ายุก็เป็นการเปิดประสบการณ์ชีวิตให้เขาไม่น้อย เพราะเพื่อนใหม่คนนี้ทั้งนิสัยดีและมีความจริงใจมากถึงจะรู้จักกันไม่นานก็เถอะ
“พร้อมอยู่แล้วไม่ต้องห่วง แล้วเจอกัน”
บอกปลายสายด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มก่อนที่จะกดวางสายแล้วทานข้าวคนเดียวด้วยความเหงา แต่ก่อนเพลิงคือเพื่อนที่คอยอยู่เคียงเขาตลอดเวลาไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ แต่ครั้งนี้เขาหนีพี่ชายมาอยู่ที่นี่คนเดียวทำให้ชีวิตที่เคยมีสีสันกลับเงียบเหงาลง
แต่ไม่เป็นไร อย่างไรอาทิตย์หน้าเขาก็ได้เริ่มงานแล้วงานคงทำให้เขามีความสุขและสนุกไม่น้อยกับงานที่รัก มันอาจจะทำให้เขาลืมเลือนความเจ็บปวดที่ฝังรากลึกอยู่ในใจไปเลยก็ได้ใครจะรู้
โรงพยาบาล N
กฤษฎิ์นั่งมองหมอหนุ่มรุ่นลูกที่นั่งทำหน้ากวน ๆ อยู่ตรงข้ามอย่างไม่สบอารมณ์ หน้าตาหล่อร้ายแถมยังยียวนกวนสุด ๆ นั่นทำเอาเขารู้สึกตีนกระตุกยิบ ๆ นี่มันมาสมัครเป็นหมอหรือมาสมัครเป็นนักเลงทวงหนี้กันแน่วะหน้าตาพร้อมมีเรื่องฉิบหายเด็กเวร!!
แถมดูท่าจะเป็นฝาแฝดกับหมอวายุแน่นอน หน้าตาเหมือนกันราวกับแกะยกเว้นรอยสักที่โผล่พ้นแขนเสื้อมาเล็กน้อยเท่านั้นแหละมั้งที่บ่งบอกว่าผู้ชายตรงหน้าคือหมอเพลิงกัลป์ไม่ใช่หมอวายุ น้องชายทั้งสุภาพอ่อนโยนส่วนพี่ชายสุดแสนจะกวน อยากจะฟาดหน้ามันสักทีจริง ๆ เลยหมอเวร!!
“คุณเป็นพี่ชายของหมอวายุ?” กฤษฎิ์ถามผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบแต่แฝงไปด้วยความน่ายำเกรง แต่คนแบบเพลิงกัลป์กลับไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านเลยสักนิด
“นี่ท่านประธานมาสัมภาษณ์รับผมเข้าทำงานหรือมาสอบประวัติครอบครัวผมกันแน่ครับ”
เพลิงกัลป์ถามกลับกฤษฎิ์แบบกวน ๆ พร้อมกระตุกยิ้มมุมปากอย่างไม่ได้นึกกลัวผู้ชายที่นั่งแผ่รังสีอำมหิตอยู่ตรงหน้าเลยสักนิด เขาแค่อยากมาทำงานที่เดียวกับน้องชายก็เท่านั้น ถ้าท่านประธานสุดหล่อที่นั่งอยู่ตรงหน้าไม่รับเข้าทำงาน เขาก็แค่ไปสมัครงานที่อื่นไม่ก็เปิดคลินิกเองก็ได้ หรือให้สร้างโรงพยาบาลมาแข่งกับท่านประธานยังได้เลย
บ้านเขารวยเรื่องแค่นี้จิ๊บ ๆ
“นี่เลี้ยงหมาไว้ในปากเหรอครับหมอเพลิง” พยายามระงับสติอารมณ์ก่อนที่จะถามเพลิงกัลป์กลับไปเสียงนิ่ง ๆ อย่างกวนตีนไม่แพ้กัน
แม่ง เด็กมันหาเรื่องผมครับทุกคนเดี๋ยวพ่อปั๊ดเข้าให้เลยนี่เด็กเวร!!
ตั้งแต่มานั่งสัมภาษณ์เพลิงกัลป์ กฤษฎิ์นั่งด่าไอ้เด็กเวรในใจรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ เขาไม่อาจนับได้ เพราะถามอะไรไปดูเพลิงกัลป์จะกวนเขาจนอารมณ์ขุ่นมัวไปหมด
“ไม่ได้เลี้ยงครับ แต่มันโตอยู่ในปากตั้งนานแล้ว”
เอากับมันสิครับทุกคน โอ๊ย!! ยุบหนอพองหนอ แก่แล้วหนอ ไม่เอาหนอ ไม่ฟาดคนหนอ ระวังความดันขึ้นหนอ พยายามระงับอารมณ์ที่เดือดปุด ๆ ให้เย็นลงก่อนที่จะตั้งคำถามกับเพลิงใหม่อีกครั้งซึ่งเป็นคำถามเดียวกันกับที่เขาใช้ถามหมอวายุ
“อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ผมต้องรับคุณเข้าทำงานที่นี่” กฤษฎิ์ถามเพลิงกัลป์ด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบเช่นเคย เพลิงกัลป์เงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนที่จะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและเป็นการเป็นงานที่สุดตั้งแต่ที่เขาสัมภาษณ์เพลิงมา
“เพราะหมอแบบผมจะทำทุกวิถีทาง เพื่อช่วยให้คนไข้ได้มีชีวิตที่ดีต่อไปครับ”
ตอบคำถามของกฤษฎิ์ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความจริงใจทำเอากฤษฎิ์กระตุกยิ้มมุมปากด้วยความถูกใจ ถึงมันจะกวนตีนเก่งไปหน่อย แต่ทัศนคติเรื่องการทำงานมันได้ว่ะ เอาวะไอ้ลูกหมาฉันจะรับแกเข้าทำงานก็แล้วกัน คนเก่ง ๆ แบบแกนี่แหละที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยชีวิตคนไข้ของเขาให้มีชีวิตที่ดีต่อไป
“ตกลงผมรับคุณเข้าทำงานครับ แต่มีเงื่อนไขแค่หนึ่งข้อที่อยากให้คุณปฏิบัติตาม ลดความกวนตีนลงหน่อยก็ดีนะครับ ผมกลัวคนไข้จะหัวใจวายตายก่อนจะได้ตื่นขึ้นมามีชีวิตที่ดีต่อไปแบบที่คุณว่ามา หึหึ”
กฤษฎิ์ตกลงรับเพลิงกัลป์เข้าทำงานก่อนที่จะแอบเหน็บแนมเพลิงน้อย ๆ ส่วนเพลิงยักไหล่เบา ๆ อย่างไม่แยแส ทำเอากฤษฎิ์แอบขบกรามแน่นด้วยความหัวร้อน
เอาอีกแล้วนะ กวนอีกแล้วนะไอ้หมอหมาเอ๊ย!! แอบด่าหมอเพลิงกัลป์ในใจก่อนที่จะพูดคุยตกลงรายละเอียดกันให้เรียบร้อย เมื่อไม่มีอะไรแล้วเพลิงกัลป์จึงเดินออกไปจากห้องทำงานของกฤษฎิ์
แต่ก่อนไปชายหนุ่มไม่ลืมที่จะก้มหัวทำความเคารพกฤษฎิ์ ถึงเขาจะกวนตีนคนเก่ง แต่กฤษฎิ์คือผู้สูงอายุที่เขาต้องเคารพ!!!! เขาจะลืมข้อสำคัญข้อนี้ได้อย่างไร
สนามแข่งรถ
บรื้น บรื้น บรื้น
เสียงรถซุปเปอร์คาร์คันหรูที่ขับเข้ามาจอดในสนามแข่งรถทำเอา
สาว ๆ ถึงกับนั่งไม่ติด เพราะความตื่นเต้นที่จะได้เจอพี่หมอวายุสุดหล่อที่เพิ่งเข้ามาแข่งที่สนามได้เพียงแค่ 3 ครั้ง แต่ฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา สามารถเอาชนะคู่แข่งทุกคนได้อย่างง่ายดาย
ร่างสูงโปร่งในชุดลำลองก้าวลงมาจากรถก่อนที่จะถอดแว่นตาดำที่สวมอยู่ออก แค่นั้นเสียงกรี๊ดจากสาว ๆ ก็ดังกระหึ่มขึ้นทั่วทั้งสนามทันทีก่อนที่วายุจะยิ้มให้สาว ๆ ที่นั่งมองมาตาละห้อยด้วยความคลั่งไคล้ในตัวพี่หมอวายุ
“เพิ่งมาเปิดตัวแค่ 3 ครั้งแต่เสน่ห์แรงไม่เบาเลยนะเพื่อน” เควินเดินเข้ามาหาวายุก่อนที่จะเอ่ยแซวเพื่อนเล็กน้อย วายุได้แต่ยิ้มรับน้อย ๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะช่วยกันเช็กรถเพื่อเตรียมการแข่งขันสำหรับวันนี้ที่เงินเดิมพันสูงถึง 5 ล้านบาทพร้อมกับรถของคู่แข่งที่พ่ายแพ้
“เคฉันฝากนายเช็กต่อหน่อยนะ ขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดี๋ยวมา” เมื่อเช็กความพร้อมใกล้เสร็จแล้ววายุจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ โดยยกหน้าที่ในการตรวจสภาพรถต่อให้เควิน ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำเพื่อนเป็นอันตกลง
อีกด้านหนึ่ง
“เก้า เขาอยากกินไอศกรีมอะ” เมื่อมาถึงสนามแข่งรถแก้มใสก็งอแงอยากกินไอศกรีม มือบางฉุดแขนน้องชายไปที่รถขายไอศกรีมแบบไม่รอให้เก้าทัพได้ตอบรับหรือปฏิเสธเลยสักนิด ตอนนี้เธออยากกินอะไรหวาน ๆ เย็น ๆ
“พี่แก้มไหนบ่นว่าอ้วนแล้วกินทำไม”
เก้าทัพถามพี่สาวอย่างไม่เข้าใจก่อนจะส่ายหน้าด้วยความเอือมระอาพี่สาวเล็กน้อย พี่แก้มใสชอบบ่นว่าตัวเองอ้วนทั้ง ๆ ที่ผอมมากขนาดนี้ คงมีแต่นมกับก้นมั้งที่ใหญ่นอกนั้นผอมไปหมด แม้พี่แก้มใสของเขาก็ชอบกินของหวานมาก แต่นิสัยไม่ได้หวานเลยสักนิด กลับเปรี้ยวจนเข็ดฟันเลยล่ะครับ
“ก็หิวอะ เขาไปยืนรอเก้าตั้งนานยังไม่มีขนมตกถึงท้องเลย” แก้มใสยกมือขึ้นมาลูบท้องน้อยอย่างอ้อน ๆ น้องชายก่อนที่จะยื่นมือไปรับไอศกรีมแท่งรสสตรอว์เบอร์รีจากคุณลุงคนขาย
“อะ ชิมไหมอร่อยน้า” เมื่อได้ไอศกรีมมาแล้วแก้มใสก็ยื่นไปให้น้องชายชิมแต่เก้าทัพกลับส่ายหน้า เขาไม่ชอบกินอะไรที่หวาน ๆ มันเลี่ยนไปเขาไม่ชอบ
“นิดหนึ่งน้า นะ ๆ” แก้มใสยื่นไอศกรีมไปจ่อที่ปากของน้องชายก่อนที่เก้าทัพจะยอมอ้าปากรับไอศกรีม เพราะถ้าไม่กินแก้มใสคงงอแงให้เขากินไม่เลิกแน่ ๆ ตอนเด็กพ่อมักจะสอนว่ามีอะไรให้แบ่งกันเล่นแบ่งกันกิน นับตั้งแต่นั้นมาตุ๊กตาก็ซื้อมาสองตัวทั้ง ๆ ที่มันเป็นตุ๊กตาผู้หญิง
ของชอบของตัวเองก็ชอบป้อนเขาด้วยทุกครั้งจนโตมาก็ยังไม่ยอมเลิกป้อนสักที ยังดีหน่อยที่คิดได้ว่ามีน้องเป็นผู้ชายเขาเลยไม่เคยได้รับตุ๊กตาของเล่นผู้หญิงจากพี่สาวเขาอีกเลยตั้งแต่อายุ 15
“น่ารักจังเลยน้องพี่” แก้มใสยื่นปากมาจุ๊บแก้มเก้าทัพเหมือนที่เธอชอบทำมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก่อนจะกัดไอศกรีมกินอย่างมีความสุข วันนี้มีแต่เรื่องสนุก ๆ ทั้งนั้นเลย
พลั่ก
“อะ ไอศกรีมของแก้มใส” เพราะมัวแต่เดินกินไอศกรีมไม่ได้ดูทางเดินทำให้แก้มใสถูกชนจากผู้ชายคนหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วเข้าอย่างแรงจนเกือบล้ม ดีที่มีมือใหญ่ของใครบางคนจับแขนของเธอเอาไว้
ก่อนที่จะดึงร่างบางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด กลิ่นกายหอมของบุรุษเพศ หอมเสียจนเธอเผลอสูดหายใจเข้าไปเต็มปอด ฮ่า สดชื่นจังเลย ผู้ชายอะไรตัวหอมจังกลิ่นเซ็กซี่ชะมัดขอกอดหน่อยน้า อิอิ
“ขอโทษครับ”
ผู้ชายที่วิ่งชนเธอรีบหันกลับมาก้มหัวขอโทษขอโพยก่อนที่จะรีบวิ่งจากไปเมื่อเห็นว่าแก้มใสไม่ได้เป็นอะไรมาก ส่วนเก้าทัพได้แต่อ้าปากค้างเมื่อพี่สาวสุดที่รักกำลังถูกใครบางคนกอดไว้ แถมพี่สาวเขายังกอดเอวผู้ชายคนนั้นอย่างแนบแน่นอีกต่างหาก เนียนไปอีกนะเรื่องเต๊าะผู้ชายเนี่ย พี่แก้มโว้ยปล่อยพี่เขาสักทีเซ่
ส่วนวายุได้แต่ทำหน้างง ๆ เมื่อสาวน้อยคนนั้นที่บังเอิญเจอกันครั้งนี้เป็นครั้งที่สามกำลังทำหน้าเคลิ้มพร้อมกับแนบแก้มนุ่ม ๆ ลงมาซบที่แผงอกแน่นที่เต็มไปด้วยซิกซ์แพ็กของเขา พอได้เห็นหน้ากันโดยที่ไม่มีอะไรมาเป็นอุปสรรควายุก็แย้มยิ้มออกมาน้อย ๆ ด้วยความอ่อนโยน
สาวน้อยคนที่กำลังซบหน้าอยู่ที่อกเขาน่ารักมาก แก้มเนียนใสแดงระเรื่อเต็มไปด้วยเลือดฝาด ริมฝีปากจิ้มลิ้มน่าจูบ ขนตาเรียงเป็นแพงอนยาวยามที่หลับตาพริ้ม ช่างเป็นความสวยและน่ารักที่ลงตัวจนทำเอาเขาเผลอใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำ จนเขาต้องรีบดึงสติกลับมาคืนก่อนที่จะถามสาวน้อยในอ้อมแขน
“ไม่เป็นไรนะครับ”
เสียงหล่อเซ็กซี่ถามแก้มใสด้วยความเป็นห่วง เพราะเมื่อครู่แก้มใสโดนกระแทกจนเกือบล้ม ดีว่าเขาที่กำลังเดินสวนมาคว้าแขนไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นสาวน้อยคนนี้ได้หกล้มลงไปจับกบเป็นแน่ แถมกระโปรงยังสั้นเสียด้วยสิ หึหึ คิดภาพออกเลยว่าจะเป็นอย่างไร
“อะ เอ่อ”
หน้าสวยเบิกตากว้างน้อย ๆ อย่างตกตะลึงหัวใจดวงน้อยพลันเต้นกระหน่ำอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากับผู้ชายที่กอดเอวเธอไว้แน่น ความหล่อ ละมุน น่ารัก ฉายชัดบนใบหน้าผู้ชายคนนี้ มีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมด
งื้อออ ชอบอะ ชอบ ขอจีบได้ไหมคะพี่จ๋า
“น้องครับ ไม่เป็นไรนะครับ” วายุยิ้มน้อย ๆ ถามสาวน้อยที่กำลังเบิกตากว้างอ้าปากน้อย ๆ เหมือนกำลังตกใจซ้ำอีกครั้งหนึ่งก่อนที่เก้าทัพจะเดินมากระชากแขนพี่สาวออกจากอ้อมแขนไอ้หน้าหล่อที่กำลังยิ้มกระชากใจให้พี่สาวของเขาอยู่
“พี่สาวผมสบายดีครับไม่เป็นอะไรมาก แค่อาจจะตกใจในความหล่อของพี่มากไปแค่นั้นเอง”
เก้าทัพบอกผู้ชายตัวสูงที่อยู่ตรงหน้าก่อนที่จับมือแก้มใสที่เอาแต่มองหน้าผู้ชายคนนั้นไม่ยอมหยุด น้องชายตัวโตรีบลากแขนพี่สาวออกมาทันที พี่จะมาตกหลุมรักผู้ชายที่นี่ไม่ได้นะเว้ยพี่แก้ม ส่วนวายุถึงกับยิ้มขำให้กับความหวงพี่สาวของหนุ่มน้อยที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะเดินจากไปเงียบ ๆ
“เก้า หล่ออะเขาชอบ กลับไปขอเบอร์ก่อนได้ไหม”
เมื่อโดนน้องชายลากแขนมาสักพักแก้มใสก็เหมือนเพิ่งได้สติรีบหันกลับไปก่อนจะพบว่าผู้ชายคนนั้นหายไปแล้ว
“พี่แก้ม ไหนว่าพาเก้ามาดูเขาแข่งรถไง ทำไมถึงโดนผู้ชายตกไปได้ล่ะเนี่ย”
เก้าทัพเกาหัวด้วยความงง ปกติพี่สาวเขาชอบผู้ชายยากมากเพื่อนที่คณะก็มีแต่ผู้ชายหล่อ ๆ แถมมีคนแอบชอบพี่แก้มตั้งหลายคน ไม่รู้ทำไมถึงได้มาโดนผู้ชายที่ช่วยตัวเองไว้ตกได้ง่าย ๆ ล่ะเนี่ยไม่เข้าใจจริง ๆ แต่เขาก็ยอมรับนะว่าผู้ชายคนเมื่อกี้หน้าตาดีมากจริง ๆ คนอะไรทั้งหล่อและน่ารักได้ในเวลาเดียวกัน
“แล้วจะได้เจอกันอีกไหมเนี่ย” หน้าสวยเศร้าลงเล็กน้อย พยายามมองหาผู้ชายคนเมื่อกี้ แต่ก็ไร้วี่แวว ถ้าเธอหันกลับไปมองสักนิดเธอกับเขาคงไม่มีทางจากกันมาทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ทำความรู้จักกันแน่นอน
“ปะ ไปเถอะจะเริ่มแข่งแล้วเนี่ย” เก้าทัพบอกพี่สาวก่อนจะจูงแขนแก้มใสเดินไปนั่งบนอัฒจันทร์เพื่อรอชมการแข่งขันรถ ที่พวกเขาชอบมาที่นี่เพราะแก้มใสชอบความเร็วและชอบดูการแข่งรถมาตั้งแต่เด็ก
พอโตมาก็มาหัดขับรถที่สนามบ้าง แต่ยังไม่เคยลงแข่งสักที ส่วนตัวเขาก็ชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้วทั้งความเร็วและความแรงมันดูท้าทายดี เพราะโดนพี่กายปลูกฝังหรือเสี้ยมหรือเปล่าก็ไม่รู้ตามที่พ่อของเขาชอบว่าให้พี่กายบ่อย ๆ
“หายไปเสียนานเชียว ไปโดนสาวที่ไหนตกมาหรือเปล่าเนี่ยวายุ”
เควินที่เห็นวายุหายไปนานเอ่ยถามยิ้ม ๆ วายุจะอมยิ้มน้อย ๆ เมื่อคิดไปถึงใบหน้าสวยเนียนใสของใครบางคนที่เขาเพิ่งจากมา สวย น่ารัก แต่ก็แอบห้าวตีนในคน ๆ เดียวกัน ภาพที่สาวน้อยคนนี้เอาขวดเหล้าฟาดหัวผู้ชายที่ผับเขายังคงจำไม่ลืม
“ไม่มีอะไรหรอกแค่เดินชนคนน่ะ” บอกเพื่อนยิ้ม ๆ ก่อนที่จะเปิดประตูรถขึ้นเข้าไปนั่งแล้วขับไประจำที่จุดสตาร์ททันที ทิ้งให้เควินส่ายหน้ายิ้ม ๆ ตามหลังเพื่อนไป ยิ้มทั้งปากทั้งตาแบบนี้แปลว่าต้องมีเรื่องที่ทำให้วายุอารมณ์ดีมีความสุขมาแน่นอน
ปัง!!
เสียงสัญญาณดังขึ้นก่อนที่รถทั้งสองคันจะเริ่มออกตัวด้วยความเร็ว เก้าทัพนั่งมองการแข่งขันรถด้วยความตื่นเต้นพอ ๆ กับแก้มใสที่หันกลับมาสนใจการแข่งขันที่อยู่ตรงหน้า รถคันสีดำแต่งโคตรสวยมันสะดุดตาเธอมาก หญิงสาวรู้สึกชอบอย่างบอกไม่ถูกก่อนที่สุดท้ายแล้วรถคันสีดำที่เธอชอบจะวิ่งผ่านหน้าเธอเข้าเส้นชัยไป เธอกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจทันที เพราะทักษะการขับรถของคนที่อยู่ในรถดีมากเสียจนต้องบอกว่าเก่งกาจเชียวล่ะ แถมยังทิ้งห่างคู่แข่งจนแทบไม่เห็นฝุ่น
ประตูรถด้านคนขับเปิดออกมาปรากฏร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาวกับกางเกงสแล็กส์สีเดียวกันตัดกับผิวขาว ๆ ก่อนที่ใบหน้าหล่อจะหันมาทางแก้มใสที่กำลังนั่งจ้องอยู่ สาวน้อยเบิกตากว้างด้วยความตกใจผู้ชายคนที่เธอตามหาอยู่ตรงนี้นี่เอง ดวงตาคมกริบเสมองมาทางที่แก้มใสกำลังนั่งอยู่ คุณหมอนักแข่งส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนมาให้หญิงสาวเพียงครู่แล้วหันกลับไปคุยกับคู่แข่งที่เพิ่งขับรถตามเข้ามาจอด
ส่วนแก้มใสนั้นหัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะแค่เพียงได้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาและรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนของเขาอีกครั้ง ใจของเธอก็สั่นไหวอย่างรุนแรงความรู้สึกนี่มันอะไรกัน มันคืออะไรกันนะ
“หรือเธอจะหลงรักรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนนั่นเข้าให้แล้วนะแก้มใส”
“แก พี่หมอวายุชนะอีกแล้วเหรอ โคตรเท่อะ ฉันล่ะอย่างชอบ หล่อ โสด โคตรรวย แถมยังไม่มีแฟนอีก ทำอย่างไรถึงจะได้มีโอกาสไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถของพี่เขาอะ”
เสียงผู้หญิงข้าง ๆ คุยกันเสียงดังจนแก้มใสได้ยิน คนที่ชนะชื่อพี่หมอวายุเหรอ ชื่อน่ารักจัง แถมยังยิ้มน่ารักอีกด้วย
งื้อ เธอชอบเขาเข้าแล้วทำอย่างไรดี
“พี่หมอวายุเหรอ” แก้มใสพึมพำเสียงเบาก่อนหันมองไปข้างหน้าอีกครั้งก็พบว่าคุณหมอวายุที่ผู้หญิงเมื่อกี้พูดถึงหายไปแล้ว หน้าสวยเศร้าลงเล็กน้อยก่อนที่เก้าทัพจะชวนพี่สาวกลับบ้าน เพราะถ้าหากว่ากลับช้าไม้เรียวของแม่ที่รักได้ฟาดจนขาลายแน่ ๆ
“เฮ้อ ถ้ามีโอกาสเราคงได้พบกันนะคะ” แก้มใสมองไปรอบ ๆ ด้วยความรู้สึกที่วูบโหวงในใจเล็กน้อยก่อนที่จะเดินจูงมือกันกับเก้าทัพเพื่อไปขึ้นรถกลับบ้าน บ้านที่มีแม่ขากับพ่อขารออยู่
หวังว่าสักวันเราจะได้เจอกันนะคะพี่วายุ แก้มใสภาวนาขอให้มีวันนั้น ถ้าเจอกันอีกครั้งแก้มใสจะไม่ปล่อยให้พี่หายไปจากสายตาแบบนี้อีกเด็ดขาด
“รอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนของพี่หมอ แก้มใสต้องเป็นเจ้าของให้ได้”
“วินาทีที่ปากนุ่มหยุ่นประทับที่ริมฝีปากเย็นชืดของผม หัวใจที่ไม่เคยอ่อนไหวและเต้นแรงกับใครมาก่อนกลับสั่นไหวอย่างแรง เพียงเพราะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของผมคือเธอ คนที่พรหมลิขิตขีดเส้นให้เราได้มาเจอกัน”เมื่อถึงรอบสุดท้ายของการแข่งขันวายุรีบเหยียบคันเร่งจนมิด ถึงแม้ว่ารถของเขาจะทิ้งห่างคู่แข่งอยู่มากก็ตาม Lamboghini สีดำที่แต่งอย่างเท่แล่นเข้าเส้นชัยไปอย่างสวยงาม เสียงกรี๊ดด้วยความยินดีดังขึ้นทั่วทั้งสนาม รวมไปถึงแก้มใสด้วยที่กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเมื่อรถจอดสนิทวายุจัดการเปิดประตูรถลงมาท่ามกลางเสียงกรี๊ดที่ดังไม่หยุด ดวงตาคมกริบกวาดสายตามองไปรอบ ๆ สนามก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าเนียนสวยของใครบางคนที่กำลังมองมายังเขาพอดี ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ช่างน่าเอ็นดูเสียจริง ๆรอยยิ้มกว้างที่แสนอ่อนโยนถูกส่งไปให้แก้มใส แต่เมื่อรถของคู่แข่งขับตามหลังเข้ามาจอดวายุก็หันกลับไปคุยกับเอ็มคู่แข่งที่มาท้าดวลกับเขาวันนี้ อีกฝ่ายเปิดประตูรถลงมาด้วยรอยยิ้มของความเป็นมิตร“พี่เก่งมาก ๆ เลยครับ ตั้งแต่แข่งรถมาผมยังไม่เจอใครที่ทิ้งห่างคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่นเหมือนพี่เลย”เอ็มเดินเข้ามาหาวายุพร้อมกับกล่าวช
มหาวิทยาลัย A“ปะ ปล่อยผมไปเถอะนะครับ ผมกลัวแล้ว”ซีนยกมือไหว้กลุ่มรุ่นพี่ปีสามด้วยความหวาดกลัวเมื่อเขาโดนรุ่นพี่มาหาเรื่อง สาเหตุมาจากเมื่อคืนมีผู้หญิงคนหนึ่งมานั่งดื่มที่เคาน์เตอร์บาร์ผับที่เขาเป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ ดื่มจนเมาทำให้เขาต้องไปส่งเธอกลับคอนโดด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าจะเจอคนมาฉุดไปทำมิดีมิร้ายเข้า“ถ้ามึงกลัว มึงคงไม่มายุ่งกับเมียกูหรอกว่ะไอ้เหี้ยซีน” ไปป์ยกเท้าขึ้นมาพุ่งกระทืบเข้าไปที่ท้องของซีนเต็มแรง หนุ่มรุ่นน้องถึงกับยกมือขึ้นมากุมท้องไว้ด้วยความเจ็บปวด เจ็บจนจุกไปหมด“ผมไม่รู้จริง ๆ ครับพี่ไปป์ว่าพี่เกรซเป็นแฟนพี่ เมื่อคืนพี่เกรซเมามาก ผมเลยไปส่งพี่เขาที่คอนโดไม่ได้มีอะไรเกินเลยอย่างที่พี่เข้าใจเลยนะครับ”ซีนมองไปป์ด้วยแววตาที่ขอร้องและอ้อนวอน เขาไม่ได้จีบพี่เกรซจริง ๆ เมื่อคืนอยู่ ๆ พี่เกรซก็มานั่งที่เคาน์เตอร์แล้วก็สั่งเหล้าดื่ม เขาพยายามบอกว่าให้พอ แต่พี่เกรซก็ไม่ฟังดื่มจนเมาฟุบลงบนเคาน์เตอร์บาร์จนผับปิดก็ไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาด้วยความที่ห่วง เพราะเป็นผู้หญิงเขาเลยตัดสินใจไปส่งพี่เกรซกลับที่พัก แต่พี่ไปป์กลับเข้าใจไปเองว่าเขาไปต่อกับพี่เกรซซึ่งมันไม่ใช่เลยสักนิด“
วายุตรวจร่างกายของซีนอย่างละเอียดโดยที่มีแก้มใสตามติดไม่ห่างก่อนที่เขาจะส่งซีนไปเอกซเรย์ตรวจเช็กภายในร่างกายว่ามีส่วนไหนแตกหักหรือเปล่า เพราะสภาพของเด็กหนุ่มค่อนข้างบอบช้ำทีเดียว“มือเรามีแผลนี่” หลังจากที่ตรวจซีนเสร็จแล้ววายุก็หันมาเห็นมือบอบบางของแก้มใสที่มีแผลเลือดแตกซิบ ๆ เล็กน้อย ส่วนแก้มใสเมื่อมองไปที่มือก็แค่ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ“ไม่เป็นไรค่ะ แก้มใสชินแล้วตีกับผู้ชายบ่อยแผลแค่นี้ไกลหัวใจ” บอกวายุด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อได้ยินแบบนั้นคิ้วเข้มถึงกับขมวดมุ่นด้วยความแปลกใจ ลูกสาวท่านประธานนี่ห้าวตีนไม่เบาแฮะ จากที่เจอกันวันนั้นที่สนามแข่งรถแล้วสู้เก่งไม่เบา ดูจากท่ากระทืบคนแล้วน่าจะมือหนักเท้าหนักไม่ใช่เล่น“แต่พี่หมอเป็นค่ะ” บอกสาวน้อยตรงหน้าด้วยสีหน้าที่จริงจัง ต่างกับแก้มใสที่พอได้ฟังประโยคนี้แล้วก็นึกไปถึงประโยคเดียวกันก่อนหน้านี้ที่พี่หมอวายุเคยพูดที่สนามแข่ง“เป็นอีกแล้ว อยากเป็นแฟนกับแก้มใสเหรอคะ” แซววายุด้วยสายตาที่แพรวพราวตามแบบฉบับของสาวขี้เล่นก่อนที่วายุจะก้มหน้าลงมาใกล้ ๆ จนชิดแก้มเนียนใสที่ขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เมื่อพี่หมอก้มหน้ามาจนชิดแก้มสีแดงเป็นลูกเ
บ้านพักวายุแกรก แอดเสียงเปิดประตูบ้านที่ดังขึ้นทำให้เพลิงที่นั่งดื่มไวน์อยู่ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ น้องชายสุดที่รักของเขากลับมาแล้วสินะ เมื่อประตูเปิดขึ้นวายุมองใครบางคนที่นั่งอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขกด้วยความแปลกใจมือใหญ่ค่อย ๆ หยิบปืนที่เหน็บอยู่ที่เอวออกมา แล้วเดินเข้าไปหาผู้ชายที่นั่งหันหลังให้ตัวเองช้า ๆ ศัตรูเขามีเยอะจนไม่รู้ว่าใครเป็นใครบ้าง เขาจึงต้องพกปืนติดตัวตลอดเวลาที่เดินทางไปทำงานและก็หลังเลิกงานเสมอกริ๊ก“ใครส่งมึงมา” น้ำเสียงแข็งกร้าวถามผู้ชายที่นั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน พร้อมกับเตรียมลั่นไกปืนก่อนที่เพลิงกัลป์จะหันมาช้า ๆ แล้วค่อย ๆ จับมือที่ถือปืนของน้องชายให้เล็งมาที่หัวใจของตัวเองส่วนวายุเมื่อเห็นหน้าของพี่ชายดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจราวกับเห็นผี ด้วยไม่คิดว่าพี่ชายเขาจะมานั่งจิบไวน์เซอร์ไพรส์เขาที่เมืองไทยแบบนี้“เรียวอิจิส่งฉันมา ทำไม จะยิงพี่ชายตัวเองเหรอเอาสิ” เพลิงกัลป์แสยะยิ้มร้ายให้น้องชายก่อนที่จะดึงปืนมาจ่อตรงหัวใจของตัวเอง ส่วนวายุรีบสะบัดมือที่ถูกพี่ชายจับเอาไว้ออกทันที พี่ชายเขาบ้าบิ่นเกินไปแล้ว“เล่นบ้าอะไรวะเนี่ย ปืนลั่นขึ้นมาจะทำอย่างไร” ว่าให้พี
มหาวิทยาลัย A“แก้มใสเร็ว ๆ อาจารย์มานั่นแล้ว” ไอโกะร้องเรียกเพื่อนสาวคนสนิทให้รีบวิ่งเมื่อมองไปเห็นอาจารย์ประจำวิชาที่กำลังเดินมาเพื่อที่จะเข้าสอนคาบเช้าพวกเธอ“มาแล้ว ๆ ขอโทษทีนอนเพลินไปหน่อย” เมื่อวิ่งมาถึงตัวเพื่อนสาวแก้มใสก็ยิ้มให้ไอโกะอย่างอ้อน ๆ เมื่อคืนเธอนอนฝันดีถึงพี่หมอวายุทั้งคืนทำให้วันนี้เธอตื่นสายมาเข้าเรียนแบบฉิวเฉียด ผู้ชายเป็นเหตุสังเกตได้ แหะ แหะ“เมื่อวานไปทำอีท่าไหนล่ะถึงได้โดดเรียนแบกผู้ชายไปหาหมออะ”เมื่อเข้ามาในห้องเรียนเรียบร้อยแล้วไอโกะก็ถามแก้มใสด้วยความสงสัย เพราะเมื่อวานเพื่อนสนิทของเธอส่งข้อความมาบอกเธอแค่ว่าพาคนเจ็บไปโรงพยาบาลโดยที่ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรกับเธอเลยสักนิด แล้วหลังจากนั้นก็เงียบหายไปทั้งวันเลย“ก็กำลังจะมารอเข้าเรียนช่วงบ่ายนี่แหละ แต่อยู่ ๆ ก็หลงเข้าไปตีกับพี่ปีสามแบบงง ๆ เห็นคนเจ็บแล้วอดสงสารไม่ได้อะ”แก้มใสบอกเพื่อนสาวเพียงหนึ่งเดียวของเธอยิ้ม ๆ ก่อนที่จะหยิบช็อกโกแลตของโปรดของเธอขึ้นมากินไปด้วยฟังอาจารย์สอนไปด้วย กินของหวานทีไรอารมณ์ดีทุกทีเลย ยิ่งคิดถึงพี่หมอฮอร์โมนเอ็นโดรฟินก็ยิ่งหลั่ง ทำไมวันนี้แก้มใสมีความสุขจังเลย“ของหวานอย่ากินเย
ศูนย์อาหารโรงพยาบาล Nเมื่อสองหนุ่มสาวเดินเข้ามาในศูนย์อาหารบรรดาคุณหมอและพยาบาลต่างพากันหันมามองด้วยความสนใจ เพราะพวกเขาต่างรู้ดีว่าแก้มใสคือลูกสาวของท่านประธานโรงพยาบาลแต่วันนี้แก้มใสกลับเดินเคียงคู่มากับคุณหมอคนใหม่สุดฮอตของโรงพยาบาลอย่างหมอวายุ ทำเอาทุกคนต่างให้ความสนใจและพากันแปลกใจไม่น้อยที่เห็นทั้งคู่มาด้วยกัน“พี่หมอทานอะไรดีคะ” เมื่อเดินมาหยุดหน้าร้านอาหารที่มีทั้งอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว หรือจะเป็นข้าวราดแกง แก้มใสก็เอียงคอถามพี่หมอพร้อมกับยิ้มหวานให้ภาพนั้นทำเอาพยาบาลสาวที่พักเที่ยงพากันมองมาด้วยความอิจฉาคุณหมอวายุต่างเป็นที่หมายปองของสาว ๆ เกือบทั้งโรงพยาบาลไม่ว่าจะเป็นคุณหมอสาว หรือพยาบาลสาวโสด ที่แวะเวียนพากันมาขายขนมจีบให้คุณหมอแต่ก็ไม่เห็นว่าคุณหมอวายุจะเล่นด้วยกับสาว ๆ คนไหนเลย ยกเว้นสาวน้อยตรงหน้าที่คุณหมอยิ้มกว้างให้แบบโลกสว่างสดใสจนแสบตากระแทกใจพวกเธอไปหมด“วันนี้พี่หมอขอเป็นข้าวราดแกงแล้วกันครับ” ตอบสาวน้อยแก้มใสเสียงนุ่มก่อนที่จะสาวเท้ายาว ๆ เดินไปที่ร้านอาหารข้าวราดแกงโดยที่มีแก้มใสเดินตามมาติด ๆ ไม่ห่าง“สวัสดีค่ะคุณหมอวายุ วันนี้รับอะไรดีคะ”คุณป้ามาลัยเจ้าขอ
“น่าสนุกตรงไหนกันเพลิง” วายุแย้งพี่ชายเสียงเบาพร้อมกับมองหน้าฝาแฝดด้วยความหมั่นไส้ ทำหน้ากวนเบื้องล่างเสียจริง แต่ถึงอย่างนั้นสาว ๆ ก็พากันกรี๊ดพี่ชายเขามากกว่าเขาเสียอีก ก็เพราะว่าพี่ชายของเขาหล่อร้ายออกแนวแบดบอยส่วนเขาจะออกแนวสุภาพอ่อนโยนเสียมากกว่า“ไม่น่าสนุกตรงไหน ลูกสาวท่านประธานมาชอบนายเชียวน้า” แซวน้องชายยิ้ม ๆ ก่อนที่จะเท้าคางมองหน้าวายุจนคนเป็นน้องรู้สึกอยากจะยื่นมือไปชกหน้าหล่อ ๆ กวน ๆ นั้นให้ปากแตกสักทีสองทีจะได้เลิกกวนเขาสักที“เราสองคนมีความรักได้ด้วยเหรอเพลิง หึ” วายุถามพี่ชายขึ้นมาเสียงเบาก่อนที่จะนิ่งเงียบไป ทำเอาเพลิงที่ยิ้มล้อเลียนน้องชายอยู่ถึงกับชะงักไปทันทีที่น้องชายพูดขึ้นมาแบบนั้น ความรักเหรอ แล้วทำไมคนแบบน้องชายเขาถึงจะมีความรักไม่ได้ล่ะ“ทำไมจะไม่ได้ล่ะเร็น พ่อแม่เรายังรักกันจนมีเราสองคนได้เลย”เพลิงบอกน้องชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ดวงตาคมกริบมองหน้าน้องชายสุดที่รักเพียงคนเดียวของเขาด้วยแววตาที่รักและพร้อมจะปกป้องน้องชายเสมอ คนที่ไม่สมควรมีความรักเลยคือเขา ริว ซาโต้อิชิบะ หัวหน้าแก๊งมาเฟียแบบเขาต่างหากเล่า“เฮ้อ ไม่พูดกับนายดีกว่าไปทำงานล่ะ” วายุบอกพี่ชายก่อนที
“อย่าลืมส่งรายงานให้แก้มใสด้วยนะคะ” เมื่อเดินออกมาจากห้องของพี่หมอแก้มใสก็เดินไปใกล้ ๆ พี่พยาบาลสาวใบบัวก่อนที่จะแอบกระซิบที่ข้างหูและขยิบตาให้อย่างรู้กัน นี่ล่ะสายสืบของเธอที่มาแอบติดสินบนเอาใว้ให้จับตาดูพี่หมอของเธอไม่ว่าจะทำอะไร กับใคร ที่ไหน พี่ใบบัวต้องรายงานเธอทุกฝีก้าว ส่วนชีวิตส่วนตัวข้างนอกไม่ต้องจ้างใครตามดูหรอก แก้มใสคนนี้จะตามติดเป็นเงาของพี่หมอเองค่ะ อิอิ“พี่แก้มมาแล้ว รอนานไหม ปะกลับบ้านซีนกัน” เมื่อเดินมาถึงรถที่จอดไว้ก็เจอกับซีนที่นั่งรออยู่ข้างฟุตพาทก่อนที่แก้มใสจะชวนเพื่อนชายกลับบ้าน เจ้าของชื่อซีนเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าเลิ่กลั่กทันทีเมื่อแก้มใสบอกว่าจะไปส่งที่บ้าน“พี่แก้มจะไปส่งซีนที่บ้านเหรอ” เสียงทุ้มถามแก้มใสที่เตรียมตัวเปิดประตูรถก่อนที่แก้มใสจะพยักหน้าตอบรับว่าเธอจะไปส่งเขาที่บ้าน“อะ เอ่อ ไม่เป็นไรปล่อยซีนลงแถวป้ายรถเมล์เองก็ได้ เดี๋ยวซีนกลับเอง” ซีนบอกแก้มใสด้วยความเกรงใจ เพิ่งรู้จักกัน แต่แก้มใสกลับช่วยเหลือเขาทุกอย่างเลย ตั้งแต่ช่วยเขาจากตีนพี่ไปป์ จ่ายค่ารักษาให้ แล้วยังจะไปส่งเขาที่บ้านอีกแค่นี้เขาก็เกรงใจจะแย่แล้ว“ได้ไง ซีนเป็นลูกน้องพี่แก้มแค่นี้
คฤหาสน์วายุ“กอหญ้าคะกินผักด้วยค่ะลูกสาว”แก้มใสบอกลูกสาวที่แอบเขี่ยผักมากองไว้ที่ขอบจานแถมข้าวผัดกุ้งที่แก้มใสโชว์ฝีมือทำมื้อเช้าให้สองแฝดกินยังเหลือเต็มจานของเด็กน้อย ส่วนรามสูรตักข้าวกินเงียบ ๆ โดยที่ไม่พูดไม่จาสักคำทั้ง ๆ ที่รสมือของมารดาทำเอาแฝดคนพี่แทบอยากคายข้าวที่อยู่ในปากออกมาคืน แต่พอหันมาเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังในฝีมือการทำกับข้าวที่ไม่เคยพัฒนาเลยสักนิดของมารดาทำให้รามสูรต้องกล้ำกลืนฝืนทนกลืนข้าวลงไปทั้ง ๆ ที่อยากจะร้องไห้ออกมาเต็มแก่กับรสชาติที่แสนจืดชืดของข้าวผัดจานนี้ ส่วนเด็กหญิงกอหญ้าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาก่อนที่จะตักผักเข้าปากด้วยท่าทางยี้ เพราะเธอไม่ชอบกินผักเลยสักนิดและด้วยความสงสารน้องสาวที่ไม่ชอบกินผักพี่ชายที่แสนดีอย่างรามสูรก็เลยแอบตักผักจากจานของแฝดน้องมาไว้ที่จานของตัวเองในยามที่มารดาเผลอ ทำเอาเด็กหญิงกอหญ้าถึงกับยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่พี่ชายมักจะช่วยเธอกินผักเสมอเวลาที่มารดาหรือบิดาทำอาหารที่มีผักเป็นส่วนผสม“เป็นอย่างไรกันบ้างคะวันนี้ข้าวผัดฝีมือคุณแม่ขาอร่อยขึ้นหรือยัง”แก้มใสเดินกลับมาที่โต๊ะทานอาหารอีกครั้งหลังจากที่เดินออกไปหยิบโทรศัพท์
วันเวลาช่างผ่านไปไวราวกับโกหกตอนนี้เจ้าแฝดทั้งสองคนของเธออายุสี่ขวบกว่าแล้ว แต่ความซนความเฟียร์สของทั้งคู่ไม่ได้ต่างจากแก้มใสตอนที่เป็นเด็ก ๆ เลยแม้แต่น้อยและอาจจะมีมากกว่าด้วยซ้ำ ในแต่ละวันมีเรื่องราวมากมายที่ลูกเธอก่อเรื่องขึ้นมาซึ่งนิสัยที่ได้มาไม่ได้มาจากเธอผู้เป็นมารดานะ แต่กลับได้มาจากคุณปู่สายเฟียร์สกับคุณตาสายห้าวต่างหากเล่าสอนหลานอย่างไรให้ถอดนิสัยของตัวเองมาแบบที่เหมือนกันแทบจะทุกกระเบียดนิ้ว สอนเอง ปวดหัวเอง กุมขมับเอง เป็นไงล่ะ แก้มใสไม่รู้จะยินดีที่ลูก ๆ ได้นิสัยของคุณปู่คุณตามาหรือจะนั่งร้องไห้แทนดีหลาน ๆ ซนขึ้นมาเมื่อไรไม่พากันความดันขึ้นก็พากันนั่งกุมขมับชนแก้วด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ“เด็ก ๆ คะวันนี้พากันไปโรงเรียนอย่าดื้อกับคุณครูแล้วก็พี่อากิระกับพี่ฮิโรชินะคะเข้าใจไหม”แก้มใสที่อยู่ในชุดนักศึกษาบอกลูก ๆ ทั้งสองคนที่พากันยิ้มแฉ่งพยักหน้ารับหงึกหงักมือน้อย ๆ ก็ตักข้าวต้มรสชาติอร่อยที่บิดาเป็นคนทำให้กินด้วยความเอร็ดอร่อย วันไหนที่ทั้งสองคนดื้อแก้มใสก็จะเป็นคนลงมือทำอาหารรสชาติอร่อยม้ากมากให้ลูก ๆ ทาน แต่ถ้าวันไหนทั้งคู่เป็นเด็กดีอาหารรสชาติถูกปากก็จะมารออยู่ตรงหน้าทำไมต
“แอะ แอะ แอ้ แอ้”เสียงเด็กชายตัวน้อยที่กำลังนอนดิ้นไปดิ้นมาพร้อมกับร้องขึ้นเสียงดังเรียกให้แก้มใสกับวายุที่กำลังหลับอยู่ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความยากลำบาก เพราะเมื่อคืนกว่าที่คนทั้งคู่จะได้นอนก็ปาไปตีสามกว่า เพราะลูกสาวกับลูกชายตัวน้อยร้องไห้งอแงขึ้นมากลางดึก แก้มใสที่กำลังเคลิ้มหลับถึงกับต้องรีบตื่นขึ้นมาแล้วเอาเด็ก ๆ เข้าเต้าโดยที่มีวายุนั่งอยู่เป็นเพื่อนและกว่าที่ลูก ๆ จะยอมหลับคุณแม่กับคุณพ่อก็แทบร้องไห้ออกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย เพิ่งรู้ว่าการเป็นพ่อเป็นแม่คนมันเหนื่อยมากขนาดนี้ตั้งแต่ที่แก้มใสออกจากโรงพยาบาลวายุก็ขอพ่อตาลาออกจากงานเพราะอยากมาช่วยแก้มใสเลี้ยงลูก แต่คุณพ่อตากลับบอกให้วายุพักงานชั่วคราวแทนพร้อมเมื่อไรก็ค่อยกลับไปทำงาน เพราะโรงพยาบาล N ในอนาคตต่อไปเขาก็คงต้องฝากฝังให้ลูกเขยดูแลต่อ“อื้อ ลูกชายขาขอแม่นอนก่อนได้ไหมคะ แม่ไม่ไหวแล้ว” มือบางของแก้มใสยื่นไปจับมือของลูกน้อยเอาไว้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ลืมตาส่วนวายุที่ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความง่วงงุนกระพริบตาปริบ ๆ สองสามครั้งก่อนที่จะเอื้อมมือมาอุ้มลูกชายที่นอนน้ำลายไหลยืดดีดเท้าไปมา ยิ่งเมื่อผู้เป็นบิดาอุ้มเด็กชายก็ยิ้มร่าด้วยความด
ห้องคลอด“อดทนหน่อยนะลูกนะเจ็บแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หายแล้ว”กฤษฎิ์บอกลูกสาวที่กำลังร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ข้าง ๆ กันมีวายุที่ยืนบีบมือแก้มใสอย่างให้กำลังใจเมียตัวน้อยที่เจ็บท้องใกล้คลอดด้วยความทรมานถ้าเจ็บแทนได้เขาจะยอมรับความเจ็บนั้นไว้เอง เห็นเมียร้องไห้น้ำตาไหลแล้วเขารู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกทั้งยินดีที่ลูกกำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลกทั้งเจ็บปวดที่เมียต้องทนเจ็บเพื่อให้กำเนิดลูก ๆ“พี่หมอคะแก้มใสเจ็บ ฮึก ฮืออออ” แก้มใสร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะหันมาอ้อนวายุ ด้านคุณตากฤษฎิ์ที่กำลังจะลงมือทำคลอดถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองลูกสาวอย่างงอน ๆWhat!! ไอ้เราก็เป็นห่วงแทบตาย แต่ลูกสาวคนสวยกลับอ้อนผัวต่อหน้าต่อตาเขามันน่าน้อยใจนัก“เอ่อ คุณหมอคะ” พยาบาลสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เรียกกฤษฎิ์ที่ยังไม่ยอมลงมือทำคลอด ก่อนคุณหมอรุ่นใหญ่จะหันกลับมาแล้วเริ่มลงมือทำคลอดแบบธรรมชาติให้ลูกสาวทันที ในตอนนี้จะผ่าก็ไม่ทันแล้ว เพราะเป็นการคลอดที่ฉุกเฉินฉุกละหุกมาก เนื่องด้วยหัวเด็กโผล่มาแล้วทำให้ต้องเปลี่ยนจากการผ่าคลอดมาเป็นการคลอดแบบธรรมชาติแทนซึ่งเขาเป็นคนทำคลอดไม่น่าจะมีอะไรน่าเป็นห่วงหมอกฤษฎิ์เสียอ
“ง่ำ ง่ำ ง่ำ อร่อยจังเลย”แก้มใสที่ตอนนี้ท้องใหญ่อุ้ยอ้ายใกล้คลอดหยิบขนมลูกชุบที่แม่ขาของเธอเอามาฝากเมื่อวานเข้าปากด้วยความเอร็ดอร่อย เธอจำได้ว่าคุณยายชอบทำขนมลูกชุบให้เธอกินบ่อย ๆ ตอนที่เธอยังเป็นเด็กและมันก็เป็นขนมไทยสุดโปรดของเธอมาจนถึงทุกวันนี้“อร่อยใช่ไหมคะตาหนูยายหนูดิ้นใหญ่เลย อร่อยแบบนี้คุณแม่ต้องกินเยอะ ๆ เสียแล้วสิ”ยิ้มร่าด้วยความชอบใจเมื่อลูกน้อยถีบเข้าที่ท้องเบา ๆ วันนี้พี่หมอของเธอเข้าเวรเช้าคืนนี้เธอไม่ต้องนอนเหงาคนเดียวอีกแล้ว ทุกครั้งที่พี่หมอเข้าเวรดึกเธอมักจะนอนไม่หลับเสมอบางวันถึงกับต้องเอาเสื้อสามีมานอนกอดทีเดียวถึงจะหลับตาลงได้ติ๊งเสียงข้อความที่เด้งเข้ามาในโทรศัพท์ทำให้แก้มใสรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครกันที่ส่งข้อความมาหาเธอ แต่พอเปิดเข้าห้องแช็ตก็พบว่าคนที่ส่งมาก็คือพี่ใบบัวอดีตสายสืบของเธอนั่นเองใบบัว: น้องแก้มขาวันนี้พี่ใบบัวเห็นปลิงควายตัวหย่ายใหญ่N'แก้มใส: วันนี้เป็นอะไรมาอีกล่ะคะ...ใบบัว: โรคสำออยอยากอ้อนหมอค่ะN'แก้มใส: โดนตบสักทีเขาจะหายไหมคะแก้มใสจะสงเคราะห์ให้ อิอิแก้มใสยังคงพิมพ์ข้อความหยอกล้อเล่นกับใบบัวอย่างไม่คิดอะไรมาก ตั้งแต่ที่เธอตั้งท้
คฤหาสน์วายุตอนนี้แก้มใสกำลังนั่งกินขนมดูซีรีส์อยู่ด้วยความสนุกสนาน วันนี้พี่หมอของเธอเข้าเวรดึกทำให้เธอที่ติดสามีต้องหาอะไรทำเพื่อคลายเหงาซึ่งการดูซีรีส์ฟิน ๆ คือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับแก้มใส“อูยย ลูกจ๋าเบา ๆ ค่ะคุณแม่เจ็บน้า”ในขณะที่กำลังส่งขนมเข้าปากเจ้าแฝดทั้งสองคนของเธอก็ดิ้นไปมาพร้อมกับถีบท้องของเธอเบา ๆ แก้มใสที่กำลังกินขนมอยู่ถึงกับทำขนมหลุดมือ เพราะดูเหมือนเจ้าแฝดจะพร้อมใจกันถีบเสียมากกว่า แต่พอมือบางของเธอลูบท้องที่นูนใหญ่เบา ๆ แรงถีบก็หายไปก่อนที่แก้มใสจะยิ้มออกมาบาง ๆคิดถึงคุณพ่อล่ะสิถีบใหญ่เลย ปกติก่อนนอนพี่หมอมักจะเล่านิทานให้ลูก ๆ ฟังเสมอ ซึ่งเด็ก ๆ ก็จะพากันฟังอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อยกันมาก แต่พอผู้เป็นแม่อย่างเธอพาดูซีรีส์ยิงกันเลือดสาด เด็ก ๆ กลับประท้วงด้วยการดิ้นอย่างแรง“อร่อยจังเลยรสนี้ วันหลังต้องซื้อมาตุนเยอะ ๆ” หยิบขนมชิ้นสุดท้ายเข้าปากก่อนที่จะเดินเอาถุงขนมไปซ่อนในถังขยะเพื่อไม่ให้วายุเห็น ขืนพี่หมอรู้ว่าเธอกินขนมดูซีรีส์ก่อนนอนงานนี้มีดุแน่นอนก็คนมันชอบกินขนมอะ กินจนตอนนี้แก้มป่องไม่ยุบเลย เป็นคุณแม่ที่สมบูรณ์มากจริง ๆครืด ครืดเสียงโทรศัพท์ที่สั่นเพรา
หลังจากที่งานแต่งผ่านพ้นไปแก้มใสกับวายุก็ย้ายเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ที่พ่อสามีซื้อให้เป็นของขวัญวันแต่งงานให้ทั้งคู่ เมื่อถึงวันที่มหาวิทยาลัยเปิดเทอมแก้มใสกลับไม่ได้ไปเรียนตามที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะตอนนี้อายุครรภ์ของแก้มใสเกือบจะห้าเดือนแล้ว ถึงจะเป็นท้องแรกและท้องสาว แต่วายุกลับเป็นห่วงแก้มใสมากแทบจะไม่ให้เธอหยิบจับอะไรนอกจากกินและนอนเท่านั้นซึ่งตอนนี้แก้มใสรู้สึกว่าเธอแทบจะกลิ้งได้อยู่แล้ว รูปร่างที่เคยผอมบางรู้สึกจะกลมดุกดิกแลดูตะมุตะมิไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นแก้มใสก็ไม่รู้สึกเหงาเลยสักนิดเพราะในแต่ละวันเธอมีซีรีส์มากมายหลายเรื่องที่คอยอยู่เป็นเพื่อนเธอยามที่พี่หมอวายุไปเข้าเวรแต่วันนี้แก้มใสไม่ดูซีรีส์นะคะทุกคน แก้มใสจะแอบหนีพี่หมอไปอัลตราซาวนด์แหละโรงพยาบาล N“พ่อขาคิดถึงจังเลยค่ะ” เด็กหญิงแก้มใสเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาแล้ววิ่งดุกดิกไปหาบิดาที่กำลังนั่งทำงานรอลูกสาวอยู่ซึ่งตอนนี้ว่าที่คุณตาได้ไว้หนวดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะถ้าหลานเขาเป็นผู้หญิงจะได้ไม่มีใครมันกล้ามาจีบอย่างไรล่ะ“บอกกี่ครั้งแล้วคะลูกสาวว่าให้ค่อย ๆ เดินห้ามวิ่ง หนูท้องอยู่นะลูกไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว”กฤษฎิ์เอ
หลังจากที่เรียวอิจิออกไปจากห้องแล้วแก้มใสก็หันหน้ามาหาวายุทันที มือบางยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้สามีขี้แยอย่างอ่อนโยน คุณสามีหมาด ๆ ถึงกับยิ้มออกมาอย่างขวยเขิน เขาเป็นลูกผู้ชายแท้ ๆ แต่กลับร่ำไห้กับบิดาต่อหน้าภรรยาคนสวยมันช่างน่าอายเสียจริง ๆ“คุณพ่อไม่งอแงสิคะ เดี๋ยวลูกออกมาจะขี้แยเหมือนคุณพ่อนะคะ”แก้มใสเช็ดน้ำตาไปด้วยแซววายุไปด้วยจนเมื่อเช็ดน้ำตาให้วายุเรียบร้อยแล้วร่างบางขาวอวบที่ดูมีน้ำมีนวลจากการตั้งครรภ์ก็ลุกขึ้นจากเตียงมาหยุดยืนที่กลางห้อง มือบางค่อย ๆ ถอดชุดแต่งงานออกช้า ๆ จนกระทั่งชุดสวยราคาแพงร่วงลงมากองอยุ่บนพื้น แก้มใสก็หันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับพ่อของลูกทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอมีเพียงแพนตี้สีดำสุด Sexy เท่านั้น“เหนียวตัวจะแย่แก้มใสขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”กระตุกยิ้มมุมปากบอกสามีอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะมองวายุด้วยสายตายั่วยวนชวนขึ้นเตียงแล้วหันหลังเดินสะบัดก้นเด้ง ๆ เข้าห้องน้ำไปทันที วายุที่เห็นแบบนั้นไม่รอช้ารีบวิ่งตามแก้มใสไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้รักเมียในฐานะสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายหมับร่างสูงตรงเข้ามากอดร่างสวยอวบอิ่มยั่วยวนของแก้มใสที่ตอนนี้
“โอเคค่ะทุกคน คณะของเจ้าบ่าวผ่านด่านประตูเงินไปได้เรียบร้อยแล้ว ไปต่อกันที่ด่านสุดท้ายเลยนะคะ ด่านนี้มีชื่อว่าคำมั่นสัญญาแห่งรัก พี่อลิสขอให้น้องหมอโชคดีนะคะ”อลิสกล่าวอวยพรวายุพร้อมกับขบวนแห่ของฝ่ายเจ้าบ่าวที่หยุดลงหน้าประตูด่านที่ 3 ซึ่งด่านนี้มีพี่ชายหน้าดุกับน้องชายหน้าหล่อกายกับเก้าทัพเป็นผู้กั้นประตูนั่นเองก่อนที่ทั้งคู่จะหันมามองหน้าของวายุนิ่ง ๆ ซึ่งเจ้าบ่าวก็ส่งยิ้มให้พี่ชายกับน้องชายของว่าที่เมียด้วยความจริงใจ“ด่านนี้หินหน่อยนะ อาจจะต้องแลกหมัด หึ” กายพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัยก่อนที่จะเข้าสู่โหมดจริงจังซึ่งวายุก็เตรียมรับมือเป็นอย่างดี“พี่แก้มเป็นพี่สาวคนเดียวของเก้าพี่แก้มเลี้ยงเก้ามาตั้งแต่เด็กตอนนี้พี่แก้มกำลังจะแต่งงานมีครอบครัวแล้ว พี่วายุสัญญากับเก้าได้ไหมครับว่าจะดูแลพี่สาวของเก้าให้ดีที่สุดจะไม่ทำให้พี่แก้มร้องไห้หรือเสียใจเด็ดขาด”เก้าทัพจ้องหน้าวายุด้วยความจริงจังก่อนที่ว่าที่พี่เขยจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความจริงใจแล้วพยักหน้าตอบรับคำพูดของน้องชายว่าที่ภรรยา“พี่สัญญาครับ ว่าจะไม่มีวันทำให้พี่สาวของเก้าเสียใจแน่นอน”วายุมองต