"หม่ามี๊บอกว่า ต้องกินข้าวให้ตรงเวลาถึงจะดูแลสุขภาพให้ดีได้ ดังนั้นทุกคนต้องกินข้าวให้ตรงเวลาน้า~ " นี่คือ......เสียงของเด็กคนนั้นที่ชื่อเหมิงเหมิง ไม่คิดว่าเขาจะนึกถึงเสียงของเด็กคนนี้ในเวลาแบบนี้ มันเป็นการบอกใบ้อะไรเขาหรือเปล่า? แม้จะกินยาโรคกระเพาะไปแล้ว แต่ก็ยังคงปวดอยู่ ฉินเย่เม้มริมฝีปาก เรียกหลี่มู่ถิงก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้องนอน "เดี๋ยวก่อน" หลี่มู่ถิงหยุดเดิน หันกลับมามองเขาด้วยสีหน้าหมดหวัง"ครับ ประธานฉิน?""เมื่อกี้คุณพูดถึงข้าวต้มใช่ไหม?" หลี่มู่ถิงที่เดิมทีตามืดมนไร้ความหวังกลับมีประกายขึ้นมาทันที เขาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "ใช่ครับประธานฉิน ร้านอาหารจีนข้างล่างต้มข้าวต้มให้เป็นพิเศษเลยครับ"ฉินเย่คิดอยู่ครู่หนึ่ง "เอาเข้ามา""ได้ครับ ผมจะรีบไปเอา" ตอนที่หลี่มู่ถิงออกจากห้อง จางเถากำลังรออยู่ข้างนอกอย่างกระวนกระวาย"ผู้ช่วยหลี่ เป็นไงบ้างคะ? คุณฉินยอมทานอะไรบ้างรึยัง?""เขายอมแล้ว เอาข้าวต้มมาให้ผมเร็ว""โอเคค่ะ" จางเถายื่นชามข้าวต้มเล็กๆ ให้หลี่มู่ถิงหลังจากได้รับข้าวต้มแล้ว หลี่มู่ถิงก็รีบวิ่งไปที่ห้องนอนทันที กลัวว่าถ้าช้าไปนิดเดียวฉินเย่จะเ
พูดตามตรง คำตอบนี้แบบนี้ไม่ว่ายังไงก็ดูแปลกถ้าไม่ใช่เพราะว่าแอคเคาท์เยี่ยมู่เฉินจี้ให้ของขวัญกับเหมิงเหมิงและเหนียนเหนียนมานาน โดยไม่แสดงความคิดอะไรออกมาเลย เสิ่นหยินอู้ก็คงไม่สนใจเขาเลยแต่ยังไงก็เถอะ เธอเป็นคนติดต่อเขาไปก่อนเองเวลาตอนกลางคืนมีค่ามาก เสิ่นหยินอู้ไม่อยากเสียเวลา จึงถามข้อมูลติดต่อของอีกฝ่ายตรงๆเธอถามอย่างตรงไปตรงมา"ขอเพิ่มช่องทางการติดต่อที่สะดวกในการคุยได้ไหมคะ?"ฉินเย่มองประโยคนี้อยู่นาน แล้วพิมพ์ข้อมูลติดต่อของตัวเองลงไปเสิ่นหยินอู้ดูข้อมูลติดต่อที่อีกฝ่ายส่งมา แล้วเปิด WeChat ของตัวเองและเพิ่มเขาเป็นเพื่อนบัญชีที่ค้นเจอดูเรียบง่าย ชื่อเล่นเป็นตัวอักษร Y ง่ายๆ ส่วนรูปโปรไฟล์เป็นรูปชายหาดตอนกลางคืนมันสอดคล้องกับชื่อใน TikTok ของเขาเธอเพิ่มเขาเป็นเพื่อนอย่างรวดเร็วหลังจากฉินเย่ส่งข้อความไปแล้ว รออยู่ซักพักอีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบกลับมาเขาเม้มริมฝีปากบาง มองดูเวลาแล้วคิดว่า ที่อีกฝ่ายไม่ตอบกลับเพราะดึกมากแล้วและหลับไปแล้วหรือเปล่า?เขาคิดไปพลางเปิดเข้าไปใน WeChat แต่พบว่ามีข้อความขอเพิ่มเพื่อนเข้ามาเขาชะงักไปครู่หนึ่งแล้วกดตกลงหลังจากเพิ่มแล้ว ระบบ
เสิ่นหยินอู้รออยู่นานกว่าจะได้คำตอบจากอีกฝ่ายคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะกำลังไปหาหมายเลขบัญชี แต่ไม่คิดว่าไม่กี่นาทีต่อมาเขาจะตอบกลับมาว่า"ไม่จำเป็นครับ"เสิ่นหยินอู้ "......"ตั้งแต่เริ่มคุยจนถึงตอนนี้ อีกฝ่ายแทบจะไม่พูดอะไรเลยไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาพูดน้อยเป็นปกติหรือว่าเขาไม่อยากคุยกับเธอกันแน่แต่ดูจากพฤติกรรมของเขา ดูเหมือนจะเอนเอียงไปทางเขาไม่อยากคุยกับเธอมากกว่าเพราะตอนที่เธอส่งข้อความไป มันขึ้นว่าอ่านแล้วตั้งนาน แต่เขาไม่ตอบกลับมารอจนถึงดึกถึงจะตอบกลับมา เขาอาจจะคิดว่าการไม่ตอบเลยมันไม่สุภาพ?เมื่อคิดได้ เสิ่นหยินอู้ก็ล้มเลิกความคิดที่จะคุยกับเขาต่อ เธอเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพิมพ์ข้อความทิ้งไว้"ดึกแล้วนะคะคุณเย่ พักผ่อนก่อนเถอะค่ะ พรุ่งนี้หรือเมื่อไหร่ที่คุณสะดวก รบกวนส่งหมายเลขบัญชีมาให้ฉันด้วยนะคะ ฝันดีค่ะ"เมื่อเห็นข้อความนี้ ฉินเย่ก็อดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ข้อความที่อีกฝ่ายส่งมาชัดเจนว่าต้องการจะจบการสนทนากับเขาแต่ที่เธอขอหมายเลขบัญชีเขาในตอนท้ายนั้นกลับทำให้ฉินเย่ประหลาดใจเธอจะคืนเงินให้เขาจริงๆหรอ?ถ้าเขาส่งหมายเลขบัญชีไปให้ เธอจะโอนเงินให้เขาจริงๆ หรอ?คิดถึงเด็กน
เพราะแบบนี้โม่ไป๋ก็เลยได้รหัสเข้าบ้านของเธอไปหลังจากนั้นเขาก็จะมาส่งอาหารเช้าเองบ่อยๆพอมาบ่อยเข้า เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกเกรงใจ เลยบอกเขาว่า "จริงๆ แล้วนายให้ลูกน้องนายส่งมาก็ได้นะ"โม่ไป๋ลูบหัวเธอแล้วบอกว่า "เธอไม่ได้อยากนอนนานขึ้นหน่อยเหรอ? ถ้าให้พวกเขาส่งมา เขาจะโทรมากวนเธอนะ""ก็มีรหัสเข้าบ้านแล้วไม่ใช่เหรอ?"โม่ไป๋ถอนหายใจ "รหัสเข้าบ้านเธอ คิดว่าผมจะวางใจให้คนอื่นเหรอ?""แม้แต่ลูกน้องนายก็ไม่ได้เหรอ?""แม้แต่ลูกน้องก็ไม่ได้"ดังนั้นถ้าเขาไม่ยุ่งจริงๆ เขาก็จะมาดูแลเธอไม่เคยขาด"ล้างหน้าแปรงฟันแล้วเหรอ?"เสิ่นหยินอู้ที่กำลังเหม่อลอย ได้ยินโม่ไป๋ถามขึ้นมากะทันหันเธอได้สติแล้วส่ายหัว "ยังเลย พอดีได้ยินเสียงจากห้องนั่งเล่น เลยลุกขึ้นมาดูไง?""ยังไม่ชินอีกเหรอ?" โม่ไป๋วางแก้วน้ำอุ่นลงตรงหน้าเธอ "พอผมมา เธอก็ตื่น อย่างนี้ต่างกับโทรปลุกยังไง?"เสิ่นหยินอู้ยิ้มเล็กน้อย"มันก็ต่างอยู่นิดหน่อย จากตอนที่นายโทรปลุกฉันจนถึงตอนที่นายเข้ามาจัดอาหารในห้องนั่งเล่น อย่างน้อยฉันก็นอนได้อีกสองสามนาที"พอพูดจบ โม่ไป๋ก็อดหัวเราะไม่ได้ เขาเอื้อมมือไปแตะปลายจมูกน่ารักของเธอ"ทำไมเหมือนแมวเ
เสิ่นหยินอู้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย "ห้าปีนี้นายช่วยฉันมาเยอะมาก ฉันคงพึ่งพานายทุกเรื่องไม่ได้หรอก""พึ่งพาทุกเรื่อง?" โม่ไป๋หัวเราะเบาๆ กับคำนี้ "หยินอู้ ถ้าห้าปีนี้เธอยอมพึ่งพาผมทุกเรื่องจริงๆ ผมคงไม่ต้องพยายามขนาดนี้"แม้ว่าเธอจะยอมให้เขาเอาอาหารเช้ามาให้ แต่นั่นก็เป็นผลจากความพยายามของโม่ไป๋ ต่อให้เขาไม่ทำอะไรแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ก็สามารถใช้ชีวิตได้ดีอยู่ดี"อย่าพูดแบบนั้น นายช่วยฉันมาเยอะแล้ว ถ้ามากกว่านี้ ฉันจะตอบแทนไม่ไหว""แล้วใครต้องการให้เธอตอบแทนล่ะ?"โม่ไป๋มองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้งขึ้น เสียงของเขาต่ำลง "ยังไงผมก็เต็มใจ เธอไม่ตอบแทนผม ผมก็ทำอะไรเธอไม่ได้"เสิ่นหยินอู้ไม่พูดอะไรเขาไม่สามารถทำอะไรเธอได้ ยังไงก็ตาม เขาเคารพเธอเสมอแต่ยิ่งเธอเป็นหนี้บุญคุณเขามากขึ้น เธอก็ยิ่งรู้สึกผิดในใจ ถ้าไม่สามารถตอบแทนได้จริงๆ เธอก็จะรู้สึกไม่สบายใจไปตลอดชีวิต"เอาล่ะ สบายใจเถอะ อยากไปเปิดในประเทศก็ไม่มีปัญหาอะไร อย่างมากผมก็แค่กลับประเทศกับเธอ"เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ที่ก้มหน้าอยู่ก็เงยหน้าขึ้นทันที"นายจะกลับประเทศกับฉัน?""ไม่งั้นล่ะ? เธอจะกลับไปเปิดบริษัทในประเทศ ผมจะไม
เสิ่นหยินอู้คืนบัตรเชิญให้หลังจากพูดจบโม่ไป๋รับบัตรเชิญมาโดยไม่ได้เอามือลง แต่กลับจับปกบัตรเชิญแล้วมองเสิ่นหยินอู้ "ของขวัญที่คุณพ่ออยากได้ที่สุดคงเป็นสะใภ้ซักคน"เมื่อได้ยินแบบนั้น เสิ่นหยินอู้ชะงักไปรู้สึกว่าโม่ไป๋กำลังบอกใบ้บางอย่าง แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไร โม่ไป๋ก็พูดขึ้นอีก "เสียดาย ตอนนี้ผมยังทำให้คุณพ่อสมหวังไม่ได้ เลยต้องประมูลของเก่าที่ท่านชอบไปก่อน"เมื่อพูดจบ โม่ไป๋ก็ดึงบัตรเชิญกลับมาเห็นเสิ่นหยินอู้ยังค้างอยู่กับที่ เขาจึงถามอย่างขำๆ "เธอเป็นอะไรไป?"เสิ่นหยินอู้ได้สติกลับมา ยิ้มเขินๆ "ไม่มีอะไร""จริงเหรอ? หรือคิดว่าผมกำลังบอกใบ้อะไรเธอ?"เสิ่นหยินอู้ "......ไม่ ไม่ใช่ ฉันจะคิดแบบนั้นได้ไง?""ถึงจะคิดแบบนั้นก็ไม่เป็นไร คุณพ่อก็ชอบลูกสองคนของเธอมาก และเธอก็รู้ความรู้สึกของผมดี"เสิ่นหยินอู้เม้มปากไม่พูดอะไรสองปีก่อน โม่ไป๋เคยสารภาพรักกับเธอในโอกาสๆหนึ่ง แต่ตอนนั้นเสิ่นหยินอู้ปฏิเสธไปหลังจากนั้น เธอก็หลีกเลี่ยงเขาตลอด จนกระทั่งโม่ไป๋หาเธอเจอ"ถ้าเป็นเพราะผมชอบเธอ เธอถึงเลี่ยงผมมาโดยตลอด มันไม่จำเป็นเลยเสิ่นหยินอู้ เพราะการที่ผมชอบเธอเป็นเรื่องของผมเอง ตลอดสาม
"อะไรอะไร?" ทุกคนเริ่มซุบซิบนินทากัน บนโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ถ้ามีคนก็ต้องมีเรื่องซุบซิบ"ผู้จัดการเสิ่นเคยหย่ามาก่อน แล้วก็มีลูกสองคน" เมื่อได้ยินแบบนั้น บางคนที่ไม่รู้เรื่องนี้ก็ตกใจ แต่เดิมคิดว่าต้องมีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าเธอเคยหย่ามาก่อน แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีลูกสองคนอีก"ได้ยินมาว่าตระกูลโม่เคร่งครัดกับเรื่องครอบครัว ผู้จัดการเสิ่นมีลูกสองคนแล้ว คุณพ่อของประธานโม่คงไม่ยอมให้ผู้หญิงแบบนี้เข้ามาในบ้านหรอก" "ผู้หญิงที่แต่งงานรอบสอง แถมมีลูกอีกสองคน แต่งกับผู้ชายธรรมดาอาจจะพอได้ แต่จะแต่งกับประธานโม่ แบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยหรอ? คุณพ่อของประธานโม่คงไม่ยอมแน่ ไม่แปลกใจเลยที่ฉันสงสัยว่าทำไมถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน ที่แท้ก็เพราะตัวเองไม่เหมาะสม" มีคนพูดขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง"คุณได้ยินมาจากไหน? คุณพ่อของประธานโม่ก็รับเมียน้อยเข้าบ้าน นี่เรียกว่าเคร่งครัดเหรอ?""ใช่ น้องชายของประธานโม่ที่อายุแค่ประมาณเจ็ดขวบก็คือลูกของแม่เลี้ยงหนิ?ได้ยินว่าแม่เลี้ยงของเขาใจร้ายกับเขามาก" ในตอนแรกพวกเขานินทาเรื่องของโม่ไป๋กับเสิ่นหยินอู้ แต่พูดไปพูดมา ทุกคนก็สนใจเรื่องครอบครัวของ
สุดท้ายผู้ช่วยเฉินก็ยื่นรายงานการสำรวจตลาดให้เธอ เสิ่นหยินอู้เปิดดูและพบว่ามันคือรายงานที่โม่ไป๋บอกจริงๆ และวันที่ในรายงานก็เป็นเดือนที่แล้ว รายงานฉบับนี้ไม่ใช่รายงานการสำรวจตลาดทั่วไป รายละเอียดหลายอย่างถูกสำรวจอย่างละเอียดถี่ถ้วน เมื่อเธออ่านจบ เสิ่นหยินอู้ถึงได้รู้สึกโล่งใจจริงๆ โชคดีที่เขามีแผนจะกลับมาพัฒนาธุรกิจในประเทศ ไม่ใช่อยากกลับไปเพราะเธอ ดังนั้นเธอถึงรู้สึกสบายใจ "ขอบคุณค่ะ เอาคืนไปเถอะค่ะ" เสิ่นหยินอู้ส่งรายงานการสำรวจตลาดคืนให้ผู้ช่วยเฉิน"ผู้จัดการเสิ่นไม่อยากเอากลับไปดูอย่างละเอียดก่อนหรอครับ?""ไม่เป็นไรค่ะ เมื่อกี้ฉันดูแล้ว""โอเคเครับ ถ้ามีอยากได้อะไรเพิ่มก็ส่งข้อความมาได้เลย ผมจะรีบเอาไปให้ทันทีครับ" หลังจากส่งเสิ่นหยินอู้กลับไปอย่างสุภาพเรียบร้อยแล้ว ผู้ช่วยเฉินก็กลับมาที่โต๊ะของเขา เช็ดเหงื่อบนหน้าผากและมองรายงานการสำรวจตลาดในมือ คิดถึงคำที่โม่ไป๋บอกกับเขาตอนที่ทำรายงานนี้"ต้องละเอียด""ละเอียด?" ผู้ช่วยเฉินไม่เข้าใจความหมายของโม่ไป๋เท่าไหร่ จึงถามเพิ่มเติมว่า "ประธานโม่ ต้องละเอียดแค่ไหนครับ?""ให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้" หลังจากทำรายงา