แชร์

บทที่ 145

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
สิ่งที่ลุงเยี่ยนพูดเมื่อครู่นี้มีความหมายกว้างพอสมควร

เสิ่นหยินอู้ได้หยินเช่นนั้นก็รู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก หรือว่าลุงเยี่ยนอาจจะพบเบาะแสอะไรบางอย่างในอาหารของเธอ?

เมื่อลุงเยี่ยนเห็นสีหน้าที่ตกตะลึงของเสิ่นหยินอู้และถูมือของเธอด้วยท่าทางที่ทำอะไรไม่ถูก เขาก็ยิ้มอย่างจริงใจมาก

“จู่ๆรสชาติอาหารที่คุณผู้หญิงชอบก็เปลี่ยนไป ผมก็เลยปรับเปลี่ยนรสชาติตามที่คุณผู้หญิงน่าจะชอบน่ะครับ ทำไมเหรอครับคุณหญิง มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”

รสชาติอาหารที่ชอบเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก....

หากคนอื่นได้ยินคำพูดแบบนี้เข้า มันก็คงจะดูน่าสงสัย

เสิ่นหยินอู้เม้มริมฝีปากแล้วมองไปที่ลุงเยี่ยนด้วยสีหน้าที่จริงจังและกระซิบว่า "ลุงเยี่ยนคะ รสชาติอาหารที่ฉันชอบเปลี่ยนไปมากตรงไหนคะ? ฉันแค่กินของหวานในตอนเช้าเพิ่มมานิดหน่อยเองนะคะ"

ลุงเยี่ยนสับสนกับสิ่งที่เธอพูด เขาจับที่ท้ายทอยของตัวเองและรู้สึกว่าเธอพูดถูก

เธอแค่กินของหวานเพิ่มไม่กี่อย่างเท่านั้นเอง แล้วทำไมเขาจึงรู้สึกว่ารสชาติอาหารที่คุณผู้หญิงชอบนั้นเปลี่ยนไปมากกันนะ?

เมื่อคิดเช่นนั้น ลุงเยี่ยนก็รู้สึกเสียหน้าขึ้นมาเล็กน้อยในทันที “ขอโทษครับคุณผู้หญิง บาง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 146

    เมื่อวานไม่ได้บอกว่าความสัมพันธ์ของเขากับฉูฉู่ไม่ชัดเจนหรอกเหรอ? ทำไมเธอถึงโทรเรียกฉูฉู่มาหละ? ในไม่ช้า ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในใจของฉินเย่ นั่นคือเสิ่นหยินอู้อาจจะปากแข็งและต้องการทำให้เขาโกรธ เนื่องจากเมื่อวานพวกเขาทั้งสองมีปากเสียงกันด้วยปัญหานี้ เธอจึงต้องการใช้ปัญหานี้มาแก้แค้นเขาในวันนี้ เมื่อคิดเช่นนั้น ฉินเย่ก็เอ่ยออกมาย่างใจเย็น "เรียกเธอมาที่นี่ทำไม?"เสิ่นหยินอู้ไม่คาดคิดว่าฉินเย่จะพูดเช่นนั้นเพื่อหยุดเธอ เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้ก็เป็นประโยชน์ต่อเขา หลังจากหย่ากับเธอในอนาคต เขาจะไปคบกับเจียงฉูฉู่อย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้น เจียงฉูฉู่กับคุณย่าจะค่อยๆสนิทกัน และเขาจะได้มีอะไรให้ตำหนิน้อยลง “เธอเข้ากันกับคุณย่าได้เป็นอย่างดี เธอเอาใจคุณย่าเก่งมากและทำให้เธอมีความสุข มันน่าจะดีที่จะโทรเรียกเธอมา” ฉินเย่เม้มริมฝีปากบางของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “แค่คุณชวนมาเธอก็จะมาเหรอ? เธอไม่ต้องไปทำงานรึไง?” เมื่อคุณนายฉินตื่นขึ้นมาเมื่อเช้านี้ เธอสังเกตเห็นว่าบรรยากาศระหว่างพวกเขาคนสองคนดูเหมือนจะไม่ปกติ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องปกติที่คู่รักห

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 147

    เมื่อรู้สึกว่าโลกกำลังหมุนอยู่ ภายในหัวของเสิ่นหยินอู้ก็มีเพียงความคิดเดียวที่เหลืออยู่ เขาไม่ได้บอกว่าจะนับหนึ่งสองสามเหรอ? แล้วสามหละ? ฉินเย่เป็นคนสูงและขายาว ดังนั้นทั้งสองจึงกลับไปถึงที่ห้องอย่างรวดเร็ว เดิมทีเสิ่นหยินอู้คิดว่าหลังจากกลับไปถึงที่ห้องเขาจะวางเธอลง แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่เขาเข้าไปในห้อง เขาก็ยืนตัวตรงอยู่ตรงนั้น ราวกับว่าถูกคนปิดจุดฝังเข็มของเขา "วางฉันลงนะ" เขาทำเหมือนว่าไม่ได้ยิน จากนั้นก็ก้มศีรษะลงแล้วใช้ดวงตาสีดำเข้มคู่นั้นมองเธออย่างเงียบๆ “เรื่องของฉูฉู่ ผมจะคุยให้รู้เรื่อง” เสิ่นหยินอู้ "?" หมายความว่าอะไร? คุยอะไรให้รู้เรื่อง? “คุณไม่ได้บอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเธอไม่ชัดเจนหรอกเหรอ? นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าคุณอีก ผมจะไม่ให้เธอไปที่บริษัท แล้วก็จะไม่ให้เธอมาที่บ้านและไม่ให้เธอสวมเสื้อผ้าของคุณด้วย” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้รู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นรัว เขาพูดแบบนี้ หมายความว่าอะไรกัน? จะไม่ยอมให้เจียงฉูฉู่ไปที่บริษัท แล้วก็จะไม่ให้เธอมาที่บ้าน ทำไมจู่ๆเขาถึงทำเช่นนี้? "ทำไมหละ?" เสิ่นหยินอู้ไม่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 148

    ดูเหมือนว่าเขาจะรู้เรื่องนี้ดี เมื่อครู่นี้เขาลืมเรื่องนี้ไปชั่วขณะ อาจเป็นเพราะศักดิ์ศรีของผู้ชายที่ทำให้เขาเสียสติไป สิ่งที่น่าขันก็คือ เธอยังมีความหวังสำหรับเขาอยู่ มันช่างน่าขันสิ้นดี มันคงจะเป็นวันนั้นที่เจียงฉูฉู่กลับมา ตอนนั้นที่เขาจูบเธออย่างเร่าร้อนและเมื่อเธอได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขากลับถอนตัวออกไป และตอนนั้นที่เขานอนข้างเธอแต่กลับพูดถึงเรื่องการหย่าร้าง ระหว่างพวกเขาทั้งสองนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ ในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็ผลักเขาออกไป เท้าของเธอแตะลงบนพื้น และเธอก็กลับไปที่ห้องของเธอเพื่อพักผ่อน ฉินเย่ไม่ได้ตามเธอไปอีก สิ่งที่แปลกก็คือ ในวันนั้นเจียงฉูฉู่ไม่ได้โทรหาเธอหรือส่งข้อความหาเธอเลย เธอเงียบหายไปตลอดทั้งวัน หากเธอไม่มาหาหยินอู้ หยินอู้ก็ย่อมไม่ไปหาเธอวันถัดมา เนื่องจากคุณนายฉินเอาแต่บอกว่าไม่จำเป็นต้องดูแลเธอ เธอแสร้งทำเป็นโกรธเพราะกลัวว่าจะทำให้งานของหยินอู้และฉินเย่ล่าช้า เสิ่นหยินอู้เอาชนะความดื้อรั้นของเธอไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงกลับไปที่บริษัท แต่ความจริงก็คือ หลายวันมานี้เธอกับฉินเย่ส่วนใหญ่อยู่บ้านเพื่อจัดการกับงาน ดังนั้นความคืบหน้าขอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 149

    ขณะที่คิด เสียงของเถ้าแก่ก็ทำลายความคิดของเธอลง “แม่หนู โจ๊กแปดทรัพย์กับซาลาเปาไส้ครีมได้แล้ว” หลังจากได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็เรียกสติกลับคืนมาและเห็นว่าเถ้าแก่เอาของที่เธอสั่งใส่ถุงเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเอื้อมมือไปรับมันมา “ขอบคุณค่ะ หนูจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วนะคะ” “โอเคครับ ค่อยๆเดินนะครับ โอกาสหน้ามาใหม่นะครับ” เสิ่นหยินอู้ถือถุงขึ้นมาแล้วหันหลังเพื่อเดินออกไป ในระหว่างทาง เธอยังคงรู้สึกเหมือนมีคนกำลังเฝ้ามองเธออยู่ จนกระทั่งเธอเข้าไปในบริษัท สายตาคู่นั้นก็หายไป เมื่อครู่นี้มีใครอยู่ในรถสีดำคันนั้นหรือไม่? ที่จริงแล้วตอนที่เธอเดินกลับมา เธอก็มีความคิดที่จะเดินเข้าไปดูผุดขึ้นมา ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคนอยู่ แค่เดินเข้าไปดูก็คงจะรู้แล้วสินะ? แต่เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจากก้นบึ้งของจิตใจ เธอจึงไม่ได้เดินเข้าไปดู ยิ่งไปกว่านั้น รถที่จอดอยู่ในลานจอดรถจอดอยู่ที่นั่นในตอนกลางวันแสกๆ มันจึงไม่ควรมีใครอยู่ในรถ เสิ่นหยินอู้ขยี้ตของตัวเอง เธอคิดว่าบางทีเธออาจจะคิดมากไป ติ๊ง-- ลิฟต์มาพอดี เสิ่นหยินอู้เดินเข้าไปในลิฟต์ ตอนที่เธอยุ่งในช่วงบ่าย เธอก็ลืมเหตุก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 150

    “อืมอืม!” หลินโยวโยวได้ความมั่นใจของเธอกลับคืนมาด้วยคำพูดไม่กี่ประโยคของหยินอู้ เมื่อเสิ่นหยินอู้หันกลับไป หลินโยวโยวก็แอบมองเธอจากด้านข้าง พี่หยินอู้... ช่างเป็นคนดีมากและเก่งมากจริงๆ เมื่อไรตัวเธอจะเป็นเหมือนพี่หยินอู้ได้กันนะ? สถานที่นัดหมายคือร้านเหล้าแห่งหนึ่ง เมื่อลงจากรถ เสิ่นหยินอู้ก็มองไปที่สถานบันเทิงตรงหน้าและอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “ใครเป็นคนเลือกที่นี่?” การแสดงออกของหลินโยวโยวดูอ้ำๆอึ้งๆ "ก็ ก็ฉินกรุ๊ปไง" เมื่อได้ยิน คิ้วของเสิ่นหยินอู้ก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น "มีคนมากมายหลายหน้าในร้านเหล้า มันไม่ใช่ที่ที่เหมาะสมสำหรับการพูดคุยเรื่องต่างๆ เธอไม่ได้เป็นคนเลือกสถานที่กับพวกเขาเหรอ?" เมื่อเสิ่นหยินอู้พูดเช่นนี้ หลินโยวโยวก็ตกตะลึง “ฉัน ฉันไม่รู้ ฉันคิดว่าพวกเขาบอกว่าเอาที่ไหนก็ต้องเอาที่นั่น” และก่อนที่จะมาที่นี่ หลินโยวโยวก็ไม่ทราบว่าที่นี่คือร้านเหล้า ดูๆไปแล้ว มันดูไม่ค่อยได้มาตรฐานเสียเลย “ต่อจากนี้ เวลามีคนนัด เธอต้องเช็คก่อนเสมอว่าเป็นสถานที่แบบไหนและเหมาะที่จะคุยงานหรือไม่ ถ้าไม่เหมาะ ก็เปลี่ยนสถานที่เองเลย” หลินโยวโยวทำได้เพียงพยักหน้าแห้งๆ "เข้าใจแล้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 151

    และในช่วงที่เงียบสงัดนี้ ชายคนหนึ่งซึ่งดูนิสัยแย่ที่อยู่ในห้องก็พูดขึ้น “เลขาคนสวย ทำไมถึงอยากเปลี่ยนที่หละ? พวกเรากับคุณชายเฉินเป็นเพื่อนกัน มีอะไรที่เรารู้ไม่ได้เหรอครับ? สบายใจได้ ต่อให้เราจะรู้ไม่ได้จริงๆ เราก็จะทำเป็นปิดหูปิดตา” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ขมวดคิ้ว เธอมองชายคนที่พูดจาสามหาวด้วยสายตาที่แหลมคมขึ้นกว่าเดิม หลังจากอยู่กับฉินเย่มาเนิ่นนาน ออร่าที่ออกมาจากร่างกายของเสิ่นหยินอู้ก็คล้ายกับของเขามากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเมื่อครู่นี้ที่เธอกวาดสายตาไปมองเขา ชายคนที่พูดก็ตกใจจนเงียบไปทันที จากนั้นก็หดคอของเขาลง เมื่อเสิ่นหยินอู้ลากสายตามองไปทางอื่น เมื่อชายคนนั้นรู้ตัวอีกทีเขาก็ตอบสนอง ให้ตายเถอะ เกิดอะไรขึ้นกับเขาเมื่อครู่นี้? นี่เขากลัวหญิงสาวตัวเล็กๆคนหนึ่งจริงๆเหรอ? ชิ เขาปะทะกับปีศาจเข้าให้แล้วสินะ? “เลขาเสิ่น มันไม่สะดวกที่จะเปลี่ยนสถานที่ครับ ถ้าคุณทนดมกลิ่นพวกนี้ไม่ได้ งั้นก็เปิดประตูห้องทิ้งไว้เพื่อให้กลิ่นกระจายออกไปดูไหมครับ?” เฉินเฉินยิ้มในขณะที่เขาพูด ซึ่งดูเหมือนกับคนหน้าเนื้อใจเสือ เพื่อนคนที่อยู่ข้างๆเขาดูจะรู้กาลเทศะมาก เขาตะโกนสั่งว่า "

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 152

    “ยังไงซะก็ออกมาเล่นทั้งที ดื่มสักแก้วเถอะ” ในขณะที่ทุกคนสร้างความปั่นป่วน เสิ่นหยินอู้ก็มองเฉินเฉินด้วยสายตาที่เย็นชา "ฉันมาที่นี่เพื่อเล่นกับคุณหรือเปล่า" รอยยิ้มบนริมฝีปากของเฉินเฉินจางหายไปเล็กน้อย หากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะไม่กล้าทำอะไรเพราะเห็นแก่หน้าของฉินเย่ แต่เมื่อเร็วๆนี้เขาได้ยินข่าวลือบางอย่าง เขาจึงคิดถึงเธออย่างหาที่สุดมิได้ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อคิดเช่นนั้น เฉินเฉินก็ยกริมฝีปากขึ้นอีกครั้ง เขาหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วเข้าไปข้างๆเสิ่นหยินอู้ “เลขาเสิ่น ต่อให้คุณอยากจะคุยเรื่องงานก็ไม่จำเป็นต้องจริงจังขนาดนั้น คุณทำงานหนักขนาดนี้แล้วคุณได้อะไร? เขาพาผู้หญิงอื่นไปที่บริษัทต่อหน้าคุณแท้ๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณคงต้องคิดแผนสำรองให้กับตัวเองหน่อยนะ” เสิ่นหยินอู้รู้สึกว่าวันนี้เฉินเฉินกำเริบเสิบสานเป็นพิเศษ เธอไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเรื่องนี้มา เธอจ้องมองเขาด้วยความดูถูกในสายตาของเธอ ราวกับกำลังพูดว่า: ต่อให้ฉันกับฉินเย่จะหย่ากัร คุณคิดว่าคุณจะมีโอกาสรึไง? เฉินเฉินแทบไม่สามารถฝืนรักษารอยยิ้มบนริมฝีปากของเขาให้คงอยู่ได้อีกต่อไป เขารู้ว่าเสิ่นหยินอู้ดูถูกเขามาโดยตลอด ไม่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 153

    เมื่อเห็นว่าเขาหน้าซีด เสิ่นหยินอู้ก็เดาได้ว่าเขาคงนึกเรื่องนั้นออก “ยังไงหละ? คุณชายเฉินคงยังไม่ลืมสิ่งที่ตัวเองพูดไว้ในตอนนั้นใช่ไหม?” เพื่อนที่อยู่ข้างๆเขาถามขึ้นอย่างสงสัย "ไอเฉิน ตอนนั้นมึงพูดว่าอะไร?" สมองของเฉินเฉินโล่งไปหมด โชคดีที่เขาคิดเสมอว่าเสิ่นหยินอู้ดูถูกภูมิหลังครอบครัวของเขา และต้องการอยู่กับคนที่มีอำนาจมากกว่านี้ แต่เขาคิดไม่ถึงว่าเธอจะได้ยินคำพูดที่ล่วงเกินของเขา เมื่อเขาคิดได้ว่าคำพูดนี้ที่เขาพูดในตอนนั้นอาจทำให้เขาพลาดคนดีๆไป เฉินเฉินก็อยากตบหน้าตัวเองแรงๆสักที “ไม่ใช่แบบนั้นนะ!” เฉินเฉินกัดฟันและอธิบายด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “คำพูดในตอนนั้น ผมก็แค่นึกสนุกเลยพูดออกมาไร้สาระแบบนั้น ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะล่วงเกินคุณเลยสักนิด” หากเขาแค่นึกสนุกจริงๆ เขาคงไม่ดั้นด้นไปหาเธอในทันทีหลังจากได้ยินว่าเธอจะไปแช่น้ำพุร้อนหรอก "นึกสนุกเหรอ?" เสิ่นหยินอู้เอียงศีรษะเล็กน้อยราวกับกำลังคิดเกี่ยวกับคำคำนี้ จากนั้นครู่หนึ่งเธอก็เอ่ยขึ้นว่า "ที่แท้คำพูดแบบนี้ในสายตาของคุณชายเฉินมันก็เป็นแค่ความสนุกสินะ?" เฉินเฉิน "ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น! ผมหมายถึง..." “เอาเถอะคุณชายฉิน เราก

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status