แชร์

ข่าวลือ

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-28 02:16:03

รุ่งเช้า เมื่อหมอหลิวเข้าไปทำงานที่วังหลวงก็พบกับนายท่านกงที่ดักรอเขาอยู่ที่หน้าประตูวัง

“อาเฮ่อ ข้าขอคุยกับเจ้าสักประเดี๋ยว”

“หากเจ้าจะพูดเรื่องหมั้นหมายของชิงเออร์ เห็นทีข้าคงไม่มีเรื่องจะพูด”

“อย่างไรเล่า อาเฉียงเป็นบุรุษ เรื่องสตรีย่อมต้องมีกันบ้าง เจ้าอย่าได้ใจแคบนักเลย หากเขาได้แต่งชิงเออร์เข้าตระกูลแล้วข้ารับรองว่าเรื่องเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก” นายท่านกงเอ่ยออกมาอย่างหน้าด้านๆ

“หึ กงป๋อเหวิน ข้าเห็นเจ้าเป็นสหาย หากเจ้ากล้าเอ่ยเช่นนี้กับข้าอีกครั้ง แม้แต่ความเป็นสหายข้าก็จะไม่เหลือให้เจ้า” หมอหลิวจ้องมองนายท่านกงอย่างไม่สบอารมณ์

“ใช่แล้ว ใต้เท้ากง ท่านพูดได้เห็นแก่ตัวนัก บุตรชายท่านจะทำตัวเช่นไรก็ได้อย่างนั้นรึ”

หมอหลิวได้ยินเสียงก็รู้เลยว่าเป็นผู้ใด เขาถอนหายใจออกมา ก่อนจะหันไปทำความเคารพให้เว่ยอ๋อง

เมื่อเห็นเว่ยอ๋องเดินเข้ามาพูดสีหน้าของกงป๋อเหวินก็ซีดขาวทันที เพราะกงหลี่เฉียงกลับมาที่จวนแล้วเล่าสิ่งที่เว่ยอ๋องได้เอ่ยกับเขาออกมาให้บิดาได้ฟัง

“กระหม่อมขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ” กงป๋อเหวินเอ่ยขอตัวทันที เขาหันไปมองหน้าหมอหลิวก่อนจะเร่งรีบเดินจากไป

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลิวขอบคุณเว่ยอ๋อง

“มิได้ สิ่งที่เปิ่นหวางพูดเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นเปิ่นหวางขอตัวก่อน” เขาเดินถอดน่องไปอย่างสบายใจ

หมอหลิวมองตามแผ่นหลังของเว่ยอ๋องไปอย่างครุ่นคิด น้อยครั้งนักที่เว่ยอ๋องจะยอมเข้าประชุมเช้า มันช่างบังเอิญเสียจริง ก่อนจะเร่งฝีเท้าไปที่ห้องทำงานของตน

เว่ยอ๋องมิได้อยากจะเข้าประชุมเช้าที่น่าเบื่อเสียหน่อย แต่เพราะรู้ว่าวันนี้กงป๋อเหวินจะต้องรั้งตัวหมอหลิวเพื่อพูดคุยเรื่องงานหมั้นหมายอีกแน่นอน จึงได้จอดรถม้ารออยู่ที่หน้าวังหลวง

เมื่อเห็นหมอหลิวลงจากรถม้า เขาก็เดินตามลงมาทันที ราวกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ

หลังจากประชุมเช้าเสร็จลง เว่ยอ๋องถูกพี่ชายรั้งตัวไว้เพื่อพูดคุย เขาจำต้องเดินตามฮ่องเต้ไปที่ห้องทรงงาน

“อาจ้าน เจ้าเข้าร่วมประชุมเช้าได้อย่างไร” ฮ่องเต้ ฉีฮุ่ยหลงเอ่ยถามน้องชายอย่างสงสัย

“ข้าอยากเข้าฟังบ้างก็เท่านั้น” เขาหมุนจอกน้ำชาเล่นอย่างไม่ใส่ใจ

“หึ แต่เรื่องที่เจิ้นรู้มา คงไม่เพียงเท่านั้นกระมัง” ฮ่องเต้มองน้องชายอย่างหยอกล้อ

“เรื่องอันใดเล่า แล้วข้าไปเกี่ยวอันใด เสด็จพี่อย่าได้มองข้าเช่นนี้” เว่ยอ๋องถลึงตามองพี่ชายอย่างเขินอาย เมื่อถูกจับได้

“วันนี้ เสด็จแม่เรียกตัวคุณหนูไป๋เข้าวัง อีกไม่นานคงได้เจ้าไปพบ”

จอกน้ำชาในมือของเว่ยอ๋องชะงักลง เขายืดตัวขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

“หึ ข้าไม่แต่ง มิเช่นนั้นข้าจะหนีไปอยู่ที่ชายแดนเหนือ”

“เรื่องนี้เจ้าคงต้องไปพูดกับเสด็จแม่เอง เจิ้นช่วยเจ้ามิได้”

“เสด็จพี่ ท่านรู้ดีว่าข้าต้องการอันใด หากเสด็จแม่บังคับข้า พรุ่งนี้คุณหนูไป๋อาจจะต้องตกน้ำแล้วถูกบุรุษจวนใดสักจวนช่วยเหลือเป็นแน่”

“เช่นนั้นเจิ้นจะไปพูดกับเสด็จแม่ให้เจ้าเอง” ฮ่องเต้โบกมือไล่น้องชายของตนให้ออกไปให้ไกลสายตา

เขารู้ดีว่าที่เว่ยอ๋องพูดมิใช่เพียงแค่ขู่ แต่เขาสามารถทำได้จริง

ตั้งแต่ที่รู้เรื่องตระกูลหลิวจะหมั้นหมายกับตระกูลกง เขาก็ดื่มสุราย้อมใจอยู่ในตำหนักเสียหลายวัน จนไทเฮาอดที่จะเห็นใจบุตรชายคนเล็กของนางไม่ได้

จึงได้ส่งนางกำนัลเข้ามาในตำหนักเว่ยอ๋องหลายคน และทุกคนยังมีใบหน้าละม้ายเยว่ชิงเสียสองถึงสามส่วน หวังให้เขารับนางพวกนั้นเป็นสาวใช้ข้างห้อง

แต่เว่ยอ๋องกลับส่งพวกนางทุกคนเข้าไปในค่ายทหาร เพื่อให้ทหารที่ยังไม่แต่งงานใต้อาณัติของเขาแต่งนางเข้าเรือน

เรื่องนี้สร้างความตกใจให้ไทเฮาอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าบุตรชายของตนจะจัดการเช่นนี้ หากส่งพวกนางกลับเข้าวังยังจะดีเสียกว่า

พอไล่เว่ยอ๋องกลับออกจากวังไปแล้ว ฮ่องเต้จึงได้ไปที่ตำหนักของไทเฮา เพื่อพูดเรื่องที่เขาเอ่ยกับน้องชายให้เสด็จแม่ฟัง

“สวรรค์ อาจ้านพูดเช่นนี้รึ” ไทเฮายกมือขึ้นทาบอก

นางไม่ได้กลัวว่าคุณหนูไป๋จะโดนจัดการเช่นไร หากคิดจะให้นางแต่งให้กับเว่ยอ๋อง แต่กลัวว่าบุตรชายจะหนีไปประจำการอยู่ที่ชายแดนเหนือและไม่ยอมกลับมาให้นางได้เห็นหน้าอีก

“เสด็จแม่ เรื่องคู่ครองของอาจ้าน ท่านก็ปล่อยให้เขาจัดการเองเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

“เหอะ แล้วไอเจียจะทำอันใดได้เล่า” นางมองค้อนบุตรชายคนโตที่เข้ากันดีกับน้องชาย

ข่าวลือในเมืองหลวงเรื่องที่ตระกูลหลิวจับได้ว่าคุณชายกงลอบพบกับคุณหนูตู้ ระหว่างทั้งสองตระกูลเอ่ยเรื่องหมั้นหมายกันก็ถูกลือไปทั่ว

ทั้งจากคนที่เห็นเหตุการณ์จริง และทั้งที่คนนำเอาเรื่องราวไปแต่งเติม แม้แต่โรงงิ้วในเมืองหลวงยังเล่นเรื่องนี้ติดต่อกันหลายวัน

ตู้ซิงเยียนอับอายจนไม่กล้าออกจากจวน ร้อนถึงบิดาของนางที่เป็นเพียงอาลักษณ์เล็กๆ อยู่ในราชสำนักเท่านั้น ต้องออกหน้าเรื่องนี้ด้วยตนเอง

นายท่านตู้เดินทางไปที่จวนตระกูลกง เพื่อพูดคุยกับพี่สาวของตน

“พี่หญิง ท่านต้องจัดการเรื่องนี้ให้ข้า เยียนเออร์ไม่มีหน้าออกไปพบเจอผู้คนแล้ว นางเก็บตัวอยู่ในเรือน ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน”

“ข้าเข้าใจแล้ว แต่เจ้าก็รู้ว่ายังมิอาจแต่งนางเข้ามาในยามนี้ได้” ตู้ซื่อก็ร้อนใจเช่นกัน

ยิ่งข่าวเรื่องไม่มีงานหมั้นหมายระหว่างสองตระกูลเกิดขึ้นแล้ว เจ้าหนี้ก็เริ่มมาที่จวนอย่างเปิดเผย และเร่งให้ชำระเงินคืนโดยเร็วที่สุด

นางจึงได้รู้ว่าตอนนี้การแต่งงานกับเยว่ชิงสำคัญมากเพียงใด

“ท่านพูดเช่นนี้ได้อย่างไร บุตรสาวของข้าที่เป็นหลานสาวของท่าน เสื่อมเสียชื่อเสียงจนไม่เหลือชิ้นดี ท่านยังจะไม่ยอมแต่งนางเข้าจวนตอนนี้อีกรึ” เขาลุกขึ้นโวยวายเสียงดัง

“เพ้ย หากแต่งเข้าจวน เรื่องสินสอดตอนนี้ข้าไม่มีให้ เจ้ายังอยากจะแต่งเข้าจวนข้าอีกหรือไม่เล่า”

“เหอะ ไม่มีสินสอดก็ต้องหามา ไม่เช่นนั้นข้าจะพาเยียนเออร์ไปร้องทุกข์ที่ศาลต้าฉี”

“เจ้ากลับไปก่อน เรื่องนี้ข้าจะต้องหารือกับท่านพี่ก่อน” ตู้ซื่อเห็นน้องชายดูท่าจะไม่ยอมถอย นางจึงได้ใจเย็นลง เพื่อขอให้เขากลับไปก่อน

“ข้าให้เวลาพวกท่านสามวัน หากยังไม่ส่งแม่สื่อไปที่จวนของข้า เรื่องนี้ได้ถึงศาลต้าฉีอย่างแน่นอน” เขาสะบัดชายเสื้อเดินออกจากห้องโถงไปอย่างไม่พอใจ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   ขายสินเดิมแต่งลูกสะใภ้

    เรื่องข่าวลือที่กระจายไปทั่ว ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนตระกูลกง ไม่มีสิ่งใดที่ส่งผลกระทบมาถึงเยว่ชิงที่นั่งจัดเตรียมสมุนไพรอยู่ในทั้งบ่าวในจวนก็ไม่คิดจะเรื่องที่ได้ยินมา มาเล่าให้คุณหนูได้ฟัง เพราะไม่มีผู้ใดอยากจะเห็นคุณหนูของตนเจ็บปวดใจได้พอกงป๋อเหวินและกงหลี่เฉียงกลับมาถึงจวน ตู้ซื่อจึงเล่าเรื่องที่น้องชายของนางมาโวยวายที่จวนให้พวกเขาฟัง“เพ้ย เช่นนั้นเจ้าก็หาสินสอดกันเองเถิด” กงป๋อเหวินสะบัดชายเสื้อจากไปอย่างไม่ไยดี“ท่านแม่ แล้วเรื่องนี้จะทำอย่างไรกันดี” กงหลี่เฉียงยามนี้ก็ทำตัวเป็นบัณฑิตให้คนภายนอกดูแต่ความจริงแล้วเขายังไม่อาจสอบเข้าทำงานในราชสำนักได้ ถึงแม้จะสอบผ่านจิ้นซื่อหน้าพระพักตร์ได้แล้ว แต่ด้วยอันดับที่ไม่ดี ทั้งยังมิอาจสอบชิงเข้ากรมใดได้สักกรม จึงยังมิได้ทำงานเสียทีการแต่งงานกับเยว่ชิงก็หวังว่าตนจะได้อาศัยบารมีของหมอหลิวที่เป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้และไทเฮา เพื่อได้เข้าทำงานในตำแหน่งที่ดีในราชสำนักแต่ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะหมดหวังไปเสียทุกทาง แล้วยังมาถูกจวนตระกูลตู้เร่งรัดให้รีบส่งแม่สื่อไปที่จวนในเวลาเพียงสามวันเท่านั้น“จะทำอย่างไรได้ แม่คงต้องนำสินเดิมที่เก็บซ่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-29
  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   โรงหมอฮุ่ยซิว

    แต่เพราะอยู่ใกล้กันเกินไป เมื่อนางหันไปมองเขา ใบหน้าของทั้งคู่ก็อยู่ใกล้กันจนรู้สึกถึงลมหายใจของอีกคน เยว่ชิงรีบถอยหนีตามสัญชาตญาณ เว่ยอ๋องที่กำลังจะยื่นหน้ามาใกล้อีกอย่างลืมตัวจึงต้องหยุดชะงักลง เพราะกลัวจะทำให้นางตกใจ“แล้วนายท่านกงจะถูกตัดสินเช่นใดเพคะ” นางรีบเอ่ยเรื่องโทษของกงป๋อเหวินขึ้นมาทันที เพราะบรรยากาศภายในห้องอึดอัดไม่น้อย“หากไม่โดนประหารก็คงถูกเนรเทศไปใช้แรงงานกระมัง" เขาเอนตัวไปพิงเก้าอี้ แล้วยังไหล่ออกมาอย่างไม่ใส่ใจ“ผู้ใดทำสิ่งใดไว้ก็สมควรจะต้องชดใช้” นางเอ่ยออกมาเสียงเบา“เจ้าเห็นใจคุณชายเฉียงอย่างงั้นรึ” เว่ยอ๋องเลิกคิ้วถามนาง“เหอะ มีคำใดที่ข้าเอ่ยถึงเขาเช่นนั้นรึ” นางถลึงตามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์“แล้วไป”“ท่านว่าอย่างไรนะเพคะ” นางเอ่ยถาม เพราะไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูด“ไม่มีอันใด พรุ่งนี้โรงหมอของเจ้าจะเปิดใช่หรือไม่”“เพคะ”“เจ้าคิดดีแล้วหรือ เรื่องที่จะตรวจโรคให้หญิงคณิกา” ในตอนแรกที่เขารู้เรื่องนี้ก็ตกใจไม่น้อย“เพคะ หรือพระองค์กลัวว่าเรื่องที่พระองค์ไปเที่ยวหอนางโลมจะถูกพวกนางพูดออกมา” เยว่ชิงเอียงคอมองเว่ยอ๋องอย่างหยอกล้อ“เพ้ย ชิงชิงเจ้าพูดเรื่องนี้ออกมาได้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-29
  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   กลับมาจวนตระกูลกงอีกครั้ง

    เยว่ชิงยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เมื่อชาติที่แล้วก็เอ่ยกับนางเช่นนี้ เพื่อให้นางวุ่นวายอยู่กับการดูแลมารดาของเขา“เห็นทีจะไม่ได้ เจ้าไม่ได้ยินที่นางพูดรึ ให้พามารดาเจ้ามาที่โรงหมอ” เว่ยอ๋องเอ่ยเสียงเย็นออกมา“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่านกระมังท่านอ๋อง มารดาของข้ามิอาจลุกขึ้นจากเตียงได้ จะพานางมาได้อย่างไรเล่า”เขาเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ ที่เว่ยอ๋องมาขัดขวางเขาเช่นนี้“ช่างเถิด ข้าจะไปดูนางเสียหน่อย” เยว่ชิงไม่อยากฟังพวกเขาทะเลาะกัน และนางก็เหนื่อยมากแล้วด้วยวันนี้ นางไม่อยากให้ตระกูลกงหาเรื่องปล่อยข่าวว่านางใจแคบไม่ยอมไปตรวจให้ตู้ซื่อที่จวน“เช่นนั้นเปิ่นหวางจะไปกับเจ้าด้วย” เยว่ชิงโบกมือแล้วแต่เขาเลย นางเดินกลับเข้าไปเตรียมของ ก่อนจะพาอาอิงไปที่รถม้าเพื่อไปที่จวนตระกูลกงนางก็อยากจะเห็นว่าตู้ซื่อล้มป่วยจริงหรือนางเพียงแต่แสดงงิ้วเช่นเมื่อชาติที่แล้วเว่ยอ๋องกระโดดขึ้นมานั่งรถม้าของเยว่ชิง เขาหันไปยิ้มเยาะให้กงหลี่เฉียงที่ในตอนแรกเขาจะขึ้นมานั่งคันของนาง“คุณชายกง หากท่านจะนั่งคันนี้เห็นทีจะไม่ได้ เปิ่นหวางไม่ชอบนั่งเบียดกับผู้ใด”เยว่ชิงที่นั่งกุมขมับอยู่ในรถม้า ปรายตามองเว่ยอ๋องอย่างไม่สบอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-30
  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   หน้าของเจ้าคงหนามาก

    ตั้งแต่แต่งนางเข้าไป เขาก็มีเรื่องปวดหัวไม่เว้นวัน ไหนจะสินเดิมที่นางไม่มีติดตัวมาด้วย แต่กลับชี้นิ้วสั่งจะเปลี่ยนเครื่องเรือน เสื้อผ้าเครื่องประดับก็จะเอาชุดใหม่อยู่ทุกวัน“ท่านไม่เห็นรึ ว่าข้าเจ็บตัวอยู่ ผู้ใดกันแน่ที่โดนทำร้าย”“หึ เปิ่นหวางได้เปิดหูเปิดตาแล้ว ทำร้ายผู้อื่นแต่กลับบอกว่าตนเองได้รับบาดเจ็บ น่าขันนัก ชิงชิงลุกไหวหรือไม่” เขามองนางอย่างปวดใจ เพียงแค่พ้นสายตาครู่เดียวนางก็ถูกรังแกแล้ว“ไหวเจ้าค่ะ” เยว่ชิงลุกขึ้นโดยมีเว่ยอ๋องประคองนางมิได้เจ็บอันใด แต่คงเป็นเพราะผิวของนางบอบบางจึงทำให้รอยนิ้วมือของซิงเยียนบนหน้านางดูน่ากลัว“เปิ่นหวางจะไปส่งเจ้าที่จวน” เว่ยอ๋องประคองเยว่ชิงเดนออกจากจวนตระกูลกง“ประเดี๋ยวก่อน คุณหนูหลิวเจ้ายังมิได้ตรวจอาการให้มารดาข้าเลย” กงหลี่เฉียงเอ่ยรั้งพวกเขาไว้“หึ เจ้ายังคิดจะให้นางเข้าไปตรวจมารดาเจ้าอีกรึ นางรึอุตส่าห์มาตรวจให้ถึงจวน แต่คนของเจ้ากลับทำกับนางเช่นนี้” เว่ยอ๋องจ้องมองทั้งสองอย่างดุดัน เขาอยากจะเข้าไปฉีกเนื้อทั้งคู่ทิ้งเสียเดี๋ยวนี้แต่ก็ถูกเยว่ชิงสะกิดเรียกสติเขาไว้ก่อน “หม่อมฉันอยากกลับจวนแล้วเพคะ” เยว่ชิงเอ่ยขึ้นเสียงเบา ใบหน้าที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-30
  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   บทนำ

    หลิวเยว่ชิง สาวงามของเมืองหลวง บุตรสาวของท่านหมอหลวงหลิว ความงามของนางเป็นที่ประจักษ์ ทั้งเรื่องความสามารถเรื่องการรักษานางก็เก่งไม่แพ้ผู้เป็นบิดา แต่เพราะด้วยที่นางเป็นสตรี นางจึงมิอาจเดินตามรอยเท้าของบิดาได้ทำได้เพียงรักษาให้กับสตรีที่ต้องการความช่วยเหลือจากนาง นางยังคิดจะเปิดโรงหมอ เพื่อรักษาให้กับสตรีโดยเฉพาะ แต่เพราะคู่หมั้นของนาง กงหลี่เฉียงมิเห็นด้วย นางจึงได้เลิกล้มไปเสียนางแต่งให้กงหลี่เฉียงท่ามกลางความเสียดายของบุรุษมากมายในเมืองหลวง งานมงคลของนางเป็นที่พูดถึงนานหลายเดือน เพราะสินเดิมที่บิดาจัดเตรียมให้ เรียกได้มามากมายจนไม่ต้องทำสิ่งใดอีกแล้วนางใช้ชีวิตเป็นฮูหยินของกงหลี่เฉียง ดูแลจวน ทั้งยังดูแลแม่สามีที่เจ็บป่วยอยู่เสมอ จนมีแต่คนเอ่ยชมกงหลี่เฉียงที่ได้ภรรยาเช่นนางไปครอบครองในวันแต่งงาน เรื่องที่ไม่อาจไม่พูดถึงไม่ได้คือเรื่องคำสาบานของกงหลี่เฉียง“ข้ากงหลี่เฉียง ขอสาบานต่อฟ้าดิน ว่าชีวิตนี้จะมีเพียง หลิวเยว่ชิงเป็นภรรยาเพียงผู้เดียว”เรื่องนี้ยังสร้างความอิจฉาให้กับเหล่าสตรีในเมืองหลวงอยู่นานหลายเดือน หากบุรุษบ้านใดที่รับอนุเพิ่ม จะถูกเปรียบเทียบกับกงหลี่เฉียงในยามนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   หวนคืนกลับมา

    เสียงฟ้าคำรามกึกก้องไปทั่วเมืองหลวง เยว่ชิงที่นอนอยู่บนเตียงสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝันที่น่าหวาดกลัวนางจับที่หน้าอกของตนเอง เนื้อตัวของนางยังสั่นเทาไม่หยุด นางมองไปรอบๆ ห้อง ก็พบว่าตอนนี้นางอยู่ที่เตียงนอนในเรือนของนาง ที่จวนตระกูลหลิว“ข้าย้อนกลับมารึ” นางไม่รู้ว่าสิ่งใดคือเรื่องจริงกันแน่ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงฝันหนึ่งตื่น หรือว่านางในตอนนี้ได้ย้อนกลับมาก่อนที่จะแต่งเข้าจวนตระกูลกงกันแน่ฝนด้านนอกกำลังตกหลัก อากาศก็เริ่มที่จะเย็นขึ้น แต่ตัวของนางกลับเต็มไปด้วยเหงื่อที่ราวกับว่านางเพิ่งจะขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำเยว่ชิงหยิกที่แขนของตนเอง เพื่อทดสอบว่านางกำลังฝันไปหรือไม่ ก็พบว่านางเจ็บจนต้องร้องออกมาเบาๆ“คุณหนู ท่านตื่นเพราะเสียงฟ้าร้องหรือเจ้าคะ” อาอิงที่นอนอยู่หน้าห้องเดินเข้ามาดูเยว่ชิงด้านในห้อง“อาอิง” นางเอ่ยเรียกสาวใช้เสียงสั่น พร้อมทั้งอ้าแขนออกสวมกอดนางไว้แน่นในจวนตระกูลกง มีเพียงอาอิงที่นางปรับทุกข์ได้ตลอดสองปีที่ใช้ชีวิตที่นั่น บ่าวคนอื่นไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ไม่มีผู้ใดที่กล้าเอ่ยคุยเล่นกับนางคงเป็นเพราะนางต้องจัดการเรื่องภายในจวนที่ยุ่งเหยิงก่อนหน้าที่นางจะเข้าไป หนี้สินท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   ตระกูลกงมาเยือน

    เมื่อสามวันที่แล้ว ตอนที่ตระกูลกงเข้าทาบทาม งานหมั้นหมายของนาง ก็ดูเหมือนเยว่ชิงนางไม่ได้ขัดข้องอันใด แต่มาตอนนี้กลับบอกจะไม่แต่งแล้ว“หากลูกพูดเรื่องอันใดไป ท่านพ่อจะเชื่อลูกหรือไม่เจ้าคะ” นางรอคำตอบอย่างคาดหวัง“ย่อมต้องเชื่อเจ้าอยู่แล้ว มีอันใดก็ว่ามาเถิด” เขาลูบหัวบุตรสาวอย่างรักใคร่หมอหลิวย่อมต้องเชื่อในคำพูดของเยว่ชิง เพราะเขาเลี้ยงดูนางมาด้วยตนเอง ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่นางไม่เคยพูดหลอกลวงเขาสักครั้ง“ลูกฝันไม่ดีเจ้าค่ะ มันเหมือนจริงยิ่งนัก” นางไม่กล้าบอกบิดาตามตรงว่านางได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง จึงเล่าทุกสิ่งออกมาเป็นสิ่งที่นางได้ฝันแทนหมอหลิวมองบุตรสาวอย่างหยอกล้อ เพียงแค่ความฝันถึงกลับทำให้นางมิต้องการต้องเข้าตระกูลกงได้เลยรึ“ชิงเออร์ สิ่งที่ลูกกังวลเป็นเพียงแค่ความฝัน เจ้าก็เชื่อแล้วรึ”“ท่านพ่อ ถึงอย่างไรลูกก็ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น ทั้งยังไม่ต้องการแต่งเข้าตระกูลกง หากท่านพ่อคิดว่าเรื่องทั้งหมดลูกกังวลไปเอง ท่านลองส่งคนไปสืบเรื่อง คุณหนูตู้ ตู้ซิงเยียน ก่อนดีหรือไม่ แล้วเรื่องสัญญาหมั้นหมายค่อยพูดกันอีกครั้ง”หมอหลิวนั่งนิ่งอย่างใช้ความคิด บุตรสาวของตนทำอะไรมีเหตุผลเสมอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-26
  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   สืบเรื่องราว

    ตู้ซื่อเมื่อเอ่ยเรื่องหนี้สินในจวนออกมา ใบหน้าของนางก็เคร่งเครียดขึ้น แล้วเริ่มมองไปทางนายท่านกงที่สร้างเรื่องไว้มากมาย“มิใช่บิดาของเจ้ารึที่ก่อเรื่องเอาไว้ เอาเถิดข้าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก แต่เมื่อแต่งนางเข้ามาแล้ว เจ้าต้องรับเยียนเออร์เข้ามาเป็นฮูหยินรองทันที เข้าใจหรือไม่” นางหันไปคาดคั้นบุตรชายของนาง“ท่านแม่ท่านลืมไปแล้วหรือขอรับ ว่าข้ารับปากท่านหมอหลิว เรื่องที่จะไม่รับฮูหยินรองหรืออนุเข้าเรือนหลัง” กงหลี่เฉียงเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยใจ“แล้วอย่างไรเล่า หากนางตั้งครรภ์มิได้ เจ้าจะแต่งอนุเข้าจวน เรื่องนี้จะมีผู้ใดว่าเจ้าได้กัน” เมื่อได้ยินคำของมารดาดวงตาของกงหลี่เฉียงก็เปล่งประกายขึ้นมานายท่านกงมองสองแม่ลูกสนทนากันอย่างไม่ใส่ใจ ทั้งคู่จะจัดการเรื่องนี้เช่นไรเขาไม่สน แต่ต้องแต่งเยว่ชิงเข้าจวนให้ได้เสียก่อน เพื่อนำสินเดิมของนางมาชดใช้หนี้ที่เขาสร้างไว้ทางด้านเยว่ชิงเมื่อรู้ว่าพวกตระกูลกงเดินทางกลับไปแล้ว จึงได้ออกจากเรือนไปพบบิดาเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น“พ่อบอกให้พวกเขารอจนกว่าเจ้าจะหายป่วย”“ท่านพ่อไม่ปฏิเสธไปเลยเล่าเจ้าคะ” เยว่ชิงอดที่จะกังวลไม่ได้“เจ้าอย่าได้รีบร้อน หากปฏิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-26

บทล่าสุด

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   หน้าของเจ้าคงหนามาก

    ตั้งแต่แต่งนางเข้าไป เขาก็มีเรื่องปวดหัวไม่เว้นวัน ไหนจะสินเดิมที่นางไม่มีติดตัวมาด้วย แต่กลับชี้นิ้วสั่งจะเปลี่ยนเครื่องเรือน เสื้อผ้าเครื่องประดับก็จะเอาชุดใหม่อยู่ทุกวัน“ท่านไม่เห็นรึ ว่าข้าเจ็บตัวอยู่ ผู้ใดกันแน่ที่โดนทำร้าย”“หึ เปิ่นหวางได้เปิดหูเปิดตาแล้ว ทำร้ายผู้อื่นแต่กลับบอกว่าตนเองได้รับบาดเจ็บ น่าขันนัก ชิงชิงลุกไหวหรือไม่” เขามองนางอย่างปวดใจ เพียงแค่พ้นสายตาครู่เดียวนางก็ถูกรังแกแล้ว“ไหวเจ้าค่ะ” เยว่ชิงลุกขึ้นโดยมีเว่ยอ๋องประคองนางมิได้เจ็บอันใด แต่คงเป็นเพราะผิวของนางบอบบางจึงทำให้รอยนิ้วมือของซิงเยียนบนหน้านางดูน่ากลัว“เปิ่นหวางจะไปส่งเจ้าที่จวน” เว่ยอ๋องประคองเยว่ชิงเดนออกจากจวนตระกูลกง“ประเดี๋ยวก่อน คุณหนูหลิวเจ้ายังมิได้ตรวจอาการให้มารดาข้าเลย” กงหลี่เฉียงเอ่ยรั้งพวกเขาไว้“หึ เจ้ายังคิดจะให้นางเข้าไปตรวจมารดาเจ้าอีกรึ นางรึอุตส่าห์มาตรวจให้ถึงจวน แต่คนของเจ้ากลับทำกับนางเช่นนี้” เว่ยอ๋องจ้องมองทั้งสองอย่างดุดัน เขาอยากจะเข้าไปฉีกเนื้อทั้งคู่ทิ้งเสียเดี๋ยวนี้แต่ก็ถูกเยว่ชิงสะกิดเรียกสติเขาไว้ก่อน “หม่อมฉันอยากกลับจวนแล้วเพคะ” เยว่ชิงเอ่ยขึ้นเสียงเบา ใบหน้าที่

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   กลับมาจวนตระกูลกงอีกครั้ง

    เยว่ชิงยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เมื่อชาติที่แล้วก็เอ่ยกับนางเช่นนี้ เพื่อให้นางวุ่นวายอยู่กับการดูแลมารดาของเขา“เห็นทีจะไม่ได้ เจ้าไม่ได้ยินที่นางพูดรึ ให้พามารดาเจ้ามาที่โรงหมอ” เว่ยอ๋องเอ่ยเสียงเย็นออกมา“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่านกระมังท่านอ๋อง มารดาของข้ามิอาจลุกขึ้นจากเตียงได้ จะพานางมาได้อย่างไรเล่า”เขาเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ ที่เว่ยอ๋องมาขัดขวางเขาเช่นนี้“ช่างเถิด ข้าจะไปดูนางเสียหน่อย” เยว่ชิงไม่อยากฟังพวกเขาทะเลาะกัน และนางก็เหนื่อยมากแล้วด้วยวันนี้ นางไม่อยากให้ตระกูลกงหาเรื่องปล่อยข่าวว่านางใจแคบไม่ยอมไปตรวจให้ตู้ซื่อที่จวน“เช่นนั้นเปิ่นหวางจะไปกับเจ้าด้วย” เยว่ชิงโบกมือแล้วแต่เขาเลย นางเดินกลับเข้าไปเตรียมของ ก่อนจะพาอาอิงไปที่รถม้าเพื่อไปที่จวนตระกูลกงนางก็อยากจะเห็นว่าตู้ซื่อล้มป่วยจริงหรือนางเพียงแต่แสดงงิ้วเช่นเมื่อชาติที่แล้วเว่ยอ๋องกระโดดขึ้นมานั่งรถม้าของเยว่ชิง เขาหันไปยิ้มเยาะให้กงหลี่เฉียงที่ในตอนแรกเขาจะขึ้นมานั่งคันของนาง“คุณชายกง หากท่านจะนั่งคันนี้เห็นทีจะไม่ได้ เปิ่นหวางไม่ชอบนั่งเบียดกับผู้ใด”เยว่ชิงที่นั่งกุมขมับอยู่ในรถม้า ปรายตามองเว่ยอ๋องอย่างไม่สบอ

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   โรงหมอฮุ่ยซิว

    แต่เพราะอยู่ใกล้กันเกินไป เมื่อนางหันไปมองเขา ใบหน้าของทั้งคู่ก็อยู่ใกล้กันจนรู้สึกถึงลมหายใจของอีกคน เยว่ชิงรีบถอยหนีตามสัญชาตญาณ เว่ยอ๋องที่กำลังจะยื่นหน้ามาใกล้อีกอย่างลืมตัวจึงต้องหยุดชะงักลง เพราะกลัวจะทำให้นางตกใจ“แล้วนายท่านกงจะถูกตัดสินเช่นใดเพคะ” นางรีบเอ่ยเรื่องโทษของกงป๋อเหวินขึ้นมาทันที เพราะบรรยากาศภายในห้องอึดอัดไม่น้อย“หากไม่โดนประหารก็คงถูกเนรเทศไปใช้แรงงานกระมัง" เขาเอนตัวไปพิงเก้าอี้ แล้วยังไหล่ออกมาอย่างไม่ใส่ใจ“ผู้ใดทำสิ่งใดไว้ก็สมควรจะต้องชดใช้” นางเอ่ยออกมาเสียงเบา“เจ้าเห็นใจคุณชายเฉียงอย่างงั้นรึ” เว่ยอ๋องเลิกคิ้วถามนาง“เหอะ มีคำใดที่ข้าเอ่ยถึงเขาเช่นนั้นรึ” นางถลึงตามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์“แล้วไป”“ท่านว่าอย่างไรนะเพคะ” นางเอ่ยถาม เพราะไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูด“ไม่มีอันใด พรุ่งนี้โรงหมอของเจ้าจะเปิดใช่หรือไม่”“เพคะ”“เจ้าคิดดีแล้วหรือ เรื่องที่จะตรวจโรคให้หญิงคณิกา” ในตอนแรกที่เขารู้เรื่องนี้ก็ตกใจไม่น้อย“เพคะ หรือพระองค์กลัวว่าเรื่องที่พระองค์ไปเที่ยวหอนางโลมจะถูกพวกนางพูดออกมา” เยว่ชิงเอียงคอมองเว่ยอ๋องอย่างหยอกล้อ“เพ้ย ชิงชิงเจ้าพูดเรื่องนี้ออกมาได้อ

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   ขายสินเดิมแต่งลูกสะใภ้

    เรื่องข่าวลือที่กระจายไปทั่ว ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนตระกูลกง ไม่มีสิ่งใดที่ส่งผลกระทบมาถึงเยว่ชิงที่นั่งจัดเตรียมสมุนไพรอยู่ในทั้งบ่าวในจวนก็ไม่คิดจะเรื่องที่ได้ยินมา มาเล่าให้คุณหนูได้ฟัง เพราะไม่มีผู้ใดอยากจะเห็นคุณหนูของตนเจ็บปวดใจได้พอกงป๋อเหวินและกงหลี่เฉียงกลับมาถึงจวน ตู้ซื่อจึงเล่าเรื่องที่น้องชายของนางมาโวยวายที่จวนให้พวกเขาฟัง“เพ้ย เช่นนั้นเจ้าก็หาสินสอดกันเองเถิด” กงป๋อเหวินสะบัดชายเสื้อจากไปอย่างไม่ไยดี“ท่านแม่ แล้วเรื่องนี้จะทำอย่างไรกันดี” กงหลี่เฉียงยามนี้ก็ทำตัวเป็นบัณฑิตให้คนภายนอกดูแต่ความจริงแล้วเขายังไม่อาจสอบเข้าทำงานในราชสำนักได้ ถึงแม้จะสอบผ่านจิ้นซื่อหน้าพระพักตร์ได้แล้ว แต่ด้วยอันดับที่ไม่ดี ทั้งยังมิอาจสอบชิงเข้ากรมใดได้สักกรม จึงยังมิได้ทำงานเสียทีการแต่งงานกับเยว่ชิงก็หวังว่าตนจะได้อาศัยบารมีของหมอหลิวที่เป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้และไทเฮา เพื่อได้เข้าทำงานในตำแหน่งที่ดีในราชสำนักแต่ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะหมดหวังไปเสียทุกทาง แล้วยังมาถูกจวนตระกูลตู้เร่งรัดให้รีบส่งแม่สื่อไปที่จวนในเวลาเพียงสามวันเท่านั้น“จะทำอย่างไรได้ แม่คงต้องนำสินเดิมที่เก็บซ่อ

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   ข่าวลือ

    รุ่งเช้า เมื่อหมอหลิวเข้าไปทำงานที่วังหลวงก็พบกับนายท่านกงที่ดักรอเขาอยู่ที่หน้าประตูวัง“อาเฮ่อ ข้าขอคุยกับเจ้าสักประเดี๋ยว”“หากเจ้าจะพูดเรื่องหมั้นหมายของชิงเออร์ เห็นทีข้าคงไม่มีเรื่องจะพูด”“อย่างไรเล่า อาเฉียงเป็นบุรุษ เรื่องสตรีย่อมต้องมีกันบ้าง เจ้าอย่าได้ใจแคบนักเลย หากเขาได้แต่งชิงเออร์เข้าตระกูลแล้วข้ารับรองว่าเรื่องเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก” นายท่านกงเอ่ยออกมาอย่างหน้าด้านๆ“หึ กงป๋อเหวิน ข้าเห็นเจ้าเป็นสหาย หากเจ้ากล้าเอ่ยเช่นนี้กับข้าอีกครั้ง แม้แต่ความเป็นสหายข้าก็จะไม่เหลือให้เจ้า” หมอหลิวจ้องมองนายท่านกงอย่างไม่สบอารมณ์“ใช่แล้ว ใต้เท้ากง ท่านพูดได้เห็นแก่ตัวนัก บุตรชายท่านจะทำตัวเช่นไรก็ได้อย่างนั้นรึ”หมอหลิวได้ยินเสียงก็รู้เลยว่าเป็นผู้ใด เขาถอนหายใจออกมา ก่อนจะหันไปทำความเคารพให้เว่ยอ๋องเมื่อเห็นเว่ยอ๋องเดินเข้ามาพูดสีหน้าของกงป๋อเหวินก็ซีดขาวทันที เพราะกงหลี่เฉียงกลับมาที่จวนแล้วเล่าสิ่งที่เว่ยอ๋องได้เอ่ยกับเขาออกมาให้บิดาได้ฟัง“กระหม่อมขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ” กงป๋อเหวินเอ่ยขอตัวทันที เขาหันไปมองหน้าหมอหลิวก่อนจะเร่งรีบเดินจากไป“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลิวขอบคุณเว่ย

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   เจ้าเสียใจมากเพียงใด

    กงหลี่เฉียงหันไปมองเว่ยอ๋องอย่างไม่สบอารมณ์ เขากำลังหาทางปลีกตัวหนีได้อยู่แล้ว“ท่านอ๋อง เรื่องนี้ท่านเกี่ยวอันใดด้วยพ่ะย่ะค่ะ"“เรื่องนี้เปิ่นหวางก็ไม่เกี่ยวหรอก เพียงแต่ว่ามันน่าสนุกดีมิใช่หรือ” เขายื่นหน้าไปใกล้กงหลี่เฉียง“หรือพระองค์กำลังเอาคืนกระหม่อม” กงหลี่เฉียงมองเว่ยอ๋องอย่างโกรธแค้น“เหตุใดเปิ่นหวางต้องแก้แค้นเจ้าด้วยเล่า” เขากอดอกมองกงหลี่เฉียงอย่างยียวน"พระองค์พึงใจในตัวชิงชิง คงจะยินดีไม่น้อยที่กระหม่อมมิได้แต่งนางเข้าจวน” กงหลี่เฉียงเอ่ยสิ่งที่อยู่ในใจออกมา แต่เขาก็เพียงพูดออกมาให้ได้ยินเพียงแค่สองคน“เช่นนั้นรึ แล้วอย่างไรเล่า หากเป็นเปิ่นหวางที่ได้ใจนางมาครองคงมิยอมให้เสียไปอย่างแน่ แต่เจ้าเล่า หึหึ น่าขันนัก” เว่ยอ๋องกระซิบข้างหู ทั้งยังปรายตาไปมองซิงเยียนอย่างดูแคลนกงหลี่เฉียงตัวช้าวาบ เขาเพิ่งจะรู้ว่าเมื่อก่อนที่เคยยิ้มเยาะเว่ยอ๋องที่แย่งเยว่ชิงมาได้ ในตอนนี้เขาได้สูญเสียนางไปเสียแล้วหากไม่เชื่อคำมารดา ออกมาพบซิงเยียนในวันนี้ เขาคงไม่เกิดเรื่องเช่นนี้แน่แต่ไม่สิ หมอหลิวระแคะระคายเรื่องทั้งหมดได้อย่างไร หากไม่มีผู้ใดเอ่ยบอกเรื่องที่จวนของเขา หมอหลิวจะส่งคนตามสืบ

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   เป็นไปตามแผนการ

    นางมิได้คิดสิ่งใดกับกงหลี่เฉียงแล้วเสียหน่อย ทั้งความเสียใจที่ทุกเขากระทำก็หายไปเสียจนสิ้น ตอนนี้เหลือเพียงแค่อยากเห็นชายชั่วกับหญิงร้ายถูกทำให้อับอายเช่นที่นางเคยโดนมาก็เท่านั้น“นายท่านต้องการนั่งที่ใดขอรับ” เสี่ยวเอ้อเดินออกมาต้อนรับ“ท่านพ่อลูกอยากนั่งที่ชั้นสองเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นก็ชั้นสองเถิด”“ทางนี้ขอรับ” เสี่ยวเอ้อรีบนำทางไปทันทีเยว่ชิงที่ไม่ได้ปรากฏตัวนอกจวนเสียนาน เมื่อนางออกมาย่อมต้องตกเป็นเป้าสายตาของผู้อื่น บุรุษได้แต่มองตามแผ่นหลังของนางที่เดินข้างบิดาไปอย่างล่องลอย สตรีก็ได้แต่มองไปอย่างอิจฉาในความงามของนางโต๊ะด้านในที่หลบสายตาของผู้อื่น มีบุรุษสองคนที่นั่งสนทนากัน กำลังมองมาที่หมอหลิวและเยว่ชิงอย่างนึกสนุก“หึหึ ช่างน่าสนใจ”“ท่านไม่คิดจะไปห้ามอย่างนั้นรึ”“เรื่องสนุกเช่นนี้ จะห้ามไปไย สมควรจะตามไปชมเสียมากกว่า” เขาโยนถั่วเข้าปากแล้วลุกขึ้นเดินตามสองพ่อลูกไปอย่างช้าๆ สหายของเขาได้แต่ส่ายหน้าและเร่งฝีเท้าตามไป“พี่เฉียง ท่านแอบออกมาพบข้าเช่นนี้ มิกลัวคุณหนูหลิวนางจะรู้เข้าอย่างนั้นรึ” เสียงสตรีกำลังต่อว่าบุรุษด้านใน ดังออกมาด้านนอก จนทำให้คนทั้งหมดที่กำลังจะเข้าไปในห้อ

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   สืบเรื่องราว

    ตู้ซื่อเมื่อเอ่ยเรื่องหนี้สินในจวนออกมา ใบหน้าของนางก็เคร่งเครียดขึ้น แล้วเริ่มมองไปทางนายท่านกงที่สร้างเรื่องไว้มากมาย“มิใช่บิดาของเจ้ารึที่ก่อเรื่องเอาไว้ เอาเถิดข้าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก แต่เมื่อแต่งนางเข้ามาแล้ว เจ้าต้องรับเยียนเออร์เข้ามาเป็นฮูหยินรองทันที เข้าใจหรือไม่” นางหันไปคาดคั้นบุตรชายของนาง“ท่านแม่ท่านลืมไปแล้วหรือขอรับ ว่าข้ารับปากท่านหมอหลิว เรื่องที่จะไม่รับฮูหยินรองหรืออนุเข้าเรือนหลัง” กงหลี่เฉียงเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยใจ“แล้วอย่างไรเล่า หากนางตั้งครรภ์มิได้ เจ้าจะแต่งอนุเข้าจวน เรื่องนี้จะมีผู้ใดว่าเจ้าได้กัน” เมื่อได้ยินคำของมารดาดวงตาของกงหลี่เฉียงก็เปล่งประกายขึ้นมานายท่านกงมองสองแม่ลูกสนทนากันอย่างไม่ใส่ใจ ทั้งคู่จะจัดการเรื่องนี้เช่นไรเขาไม่สน แต่ต้องแต่งเยว่ชิงเข้าจวนให้ได้เสียก่อน เพื่อนำสินเดิมของนางมาชดใช้หนี้ที่เขาสร้างไว้ทางด้านเยว่ชิงเมื่อรู้ว่าพวกตระกูลกงเดินทางกลับไปแล้ว จึงได้ออกจากเรือนไปพบบิดาเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น“พ่อบอกให้พวกเขารอจนกว่าเจ้าจะหายป่วย”“ท่านพ่อไม่ปฏิเสธไปเลยเล่าเจ้าคะ” เยว่ชิงอดที่จะกังวลไม่ได้“เจ้าอย่าได้รีบร้อน หากปฏิ

  • ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาที่แสนดี   ตระกูลกงมาเยือน

    เมื่อสามวันที่แล้ว ตอนที่ตระกูลกงเข้าทาบทาม งานหมั้นหมายของนาง ก็ดูเหมือนเยว่ชิงนางไม่ได้ขัดข้องอันใด แต่มาตอนนี้กลับบอกจะไม่แต่งแล้ว“หากลูกพูดเรื่องอันใดไป ท่านพ่อจะเชื่อลูกหรือไม่เจ้าคะ” นางรอคำตอบอย่างคาดหวัง“ย่อมต้องเชื่อเจ้าอยู่แล้ว มีอันใดก็ว่ามาเถิด” เขาลูบหัวบุตรสาวอย่างรักใคร่หมอหลิวย่อมต้องเชื่อในคำพูดของเยว่ชิง เพราะเขาเลี้ยงดูนางมาด้วยตนเอง ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่นางไม่เคยพูดหลอกลวงเขาสักครั้ง“ลูกฝันไม่ดีเจ้าค่ะ มันเหมือนจริงยิ่งนัก” นางไม่กล้าบอกบิดาตามตรงว่านางได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง จึงเล่าทุกสิ่งออกมาเป็นสิ่งที่นางได้ฝันแทนหมอหลิวมองบุตรสาวอย่างหยอกล้อ เพียงแค่ความฝันถึงกลับทำให้นางมิต้องการต้องเข้าตระกูลกงได้เลยรึ“ชิงเออร์ สิ่งที่ลูกกังวลเป็นเพียงแค่ความฝัน เจ้าก็เชื่อแล้วรึ”“ท่านพ่อ ถึงอย่างไรลูกก็ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น ทั้งยังไม่ต้องการแต่งเข้าตระกูลกง หากท่านพ่อคิดว่าเรื่องทั้งหมดลูกกังวลไปเอง ท่านลองส่งคนไปสืบเรื่อง คุณหนูตู้ ตู้ซิงเยียน ก่อนดีหรือไม่ แล้วเรื่องสัญญาหมั้นหมายค่อยพูดกันอีกครั้ง”หมอหลิวนั่งนิ่งอย่างใช้ความคิด บุตรสาวของตนทำอะไรมีเหตุผลเสมอ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status