Share

บทที่ 24

Author: ลิ่วเยว่
เย่เต๋อโหรวได้ยินคำพูดของนาง สีหน้าจึงค่อยผ่อนคลายลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยว่า “ไม่มีเป็นดีที่สุด!”

“ฮูหยินคิดจะจัดการนางอย่างไรเจ้าคะ?” ความโหดเหี้ยมอำมหิตฉายขึ้นในแววตาของไฉ่หลี “นังแพศยาผู้นี้คิดเพ้อฝันว่าจะเป็นเจ้านาย ฮูหยินจะปล่อยนางไปง่าย ๆ ไม่ได้นะเจ้าคะ!”

เย่เต๋อโหรวหัวเราะหยันอย่างอำมหิต “ในเมื่อนางมีความคิดเกินเลยนี้ เช่นนั้นข้าจะทำให้นางสมปรารถนา!”

“ฮูหยิน...” ไฉ่หลีเงยหน้าขึ้นมาฉับพลัน “จะให้นางเอาเปรียบถึงเพียงนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ?”

“พูดไร้สาระมากมายเพียงนี้ไปเพื่ออะไร?” เย่เต๋อโหรวเอ่ยด้วยเสียงเคร่งขรึม

ไฉ่หลีหดคอ ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่เต็มใจว่า “เจ้าค่ะ!”

เย่เต๋อโหรวสงบสติอารมณ์ลงแล้วเอ่ยถามอีกว่า “ทางด้านหลงจ่านเหยียนมีข่าวคราวอะไรบ้าง?”

“วันนี้ฮูหยินรองไปหา บอกว่าจะนำรายการสินสอดไปให้คุณหนูเหยียนดูเจ้าค่ะ แต่ได้ยินว่าคุณหนูเหยียนไม่พอใจ ฮูหยินรองยังโดนกัวกูกูตำหนิซึ่ง ๆ หน้า ต่อมาถึงได้จากไปด้วยความโมโหเจ้าค่ะ!”

หลงฮูหยินนึกถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ เมื่อคืนนี้ ก้นบึ้งของจิตใจยังคงมีความหวาดกลัวที่ไม่อาจพูดออกมาได้ เป็นไปได้ไหมว่าหลงจ่านเหยียนถูกหยางจิ่วเม่ยสิงร่าง? ต่อให้ผ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 25

    เย่เต๋อโหรวยิ้มแย้มอย่างอ่อนโยน “อืม ถึงอย่างไรฝีมือของเจ้าก็ดีกว่า เข้ามาช่วยหวีผมให้ข้าเถิด!”หงฮวาไม่ปฏิเสธเช่นกัน ก่อนจะเข้ามายืนข้างหลังนางแล้วลูบผมของเย่เต๋อโหรวอย่างคล่องแคล่ว ชิงซือที่อยู่ทางด้านข้างยื่นหวีมาให้ หงฮวายิ้มพลางกล่าวว่า “ไม่ต้องหรอก เส้นผมของฮูหยินลื่นสลวย มวยผมเช่นนี้ก็ดูงดงามอย่างยิ่ง!”เย่เต๋อโหรวยิ้มน้อย ๆ “จริงหรือ?”หงฮวาเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ย่อมจริงอยู่แล้วเจ้าค่ะ เพียงแต่ว่าอีกไม่กี่วันไว้ข้ามีเวลาว่างแล้วจะต้องช่วยฮูหยินย้อมผมให้ได้เลย ผมขาวขึ้นเยอะมากแล้วนะเจ้าคะ!” นางกล่าวจบก็จ้องมองเย่เต๋อโหรวในคันฉ่องด้วยแววตาท้าทายเล็กน้อย เย่เต๋อโหรวย่อมไม่พลาดความคิดภายในใจของอีกฝ่าย นางเองก็ไม่ได้โกรธ เพียงแต่เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ถึงอย่างไรก็แก่แล้ว สู้สาว ๆ อย่างพวกเจ้าไม่ได้หรอก!” “ฮูหยินแก่ที่ไหนเจ้าคะ? ฮูหยินอายุเท่ากับมารดาของข้า แต่ดูอ่อนวัยกว่ามารดาของข้าตั้งหลายปี!” หงฮวากล่าวด้วยรอยยิ้มชิงซือที่ฟังอยู่ทางด้านข้างตกใจกลัวจนหน้าซีด ส่งสายตาให้หงฮวาติดต่อกัน แต่หงฮวากลับแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น ยังคงกล่าวอย่างไม่สนใจผู้ใดว่า “หางตาของฮูหยินก็มีริ้วรอยนิ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 26

    “พวกชั้นต่ำที่มาจากครอบครัวสามัญชนต่ำต้อยจะมีแววอันใด? ข้าว่าหักขาแล้วไล่ออกไปก็พอ!” นางเฉินเอ่ยอย่างอำมหิตเย่เต๋อโหรวคล้ายกลับถูกนางทำให้ตกใจจนสะดุ้ง ก่อนจะตำหนิเสียงเบาว่า “เจ้าเป็นถึงฮูหยินรองของจวนตระกูลหลงจะโหดเหี้ยมปานนี้ได้อย่างไร? คำพูดนี้เอ่ยกับข้าที่นี่ก็แล้วไป แต่ออกไปแล้วห้ามพูดส่งเดชเป็นอันขาด หากแพร่ออกไป คนเขาจะมองจวนแม่ทัพของเราอย่างไร?”นางเฉินเบะปาก “นี่จะมีอันใด? ท่านคิดว่าบ่าวไพร่เป็นคนจริง ๆ หรือ? คนชั้นต่ำพวกนี้ทำเป็นแค่กอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวเอง มักใหญ่ใฝ่สูงเท่านั้น หากท่านไม่กดขี่นางให้อยู่ในโอวาท วันหน้าจะต้องทนต่อความทุกข์ยากลำบาก!”เย่เต๋อโหรวไม่สนใจแล้วกล่าวว่า “โชคชะตาฟ้ากำหนด ชีวิตนางถูกกำหนดให้มีวาสนานี้ เช่นนั้นไม่ว่าอย่างไรก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว”นางเฉินยิ้มร้ายแล้ว “จิตใจทะเยอทะยานกว่าฟ้า ชีวิตกลับบางยิ่งกว่ากระดาษ นางหนูเหยียนของเราก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือไร? วันนี้นางบอกว่าจะนำของพระราชทานจากวังไปเป็นสินติดตัวเข้าวังทั้งหมด นางคิดว่านางไปโดนฝังสังเวยชีวิตแล้ว เลยจะเอาสมบัติล้ำค่าพวกนั้นไปฝังเป็นเพื่อนทั้งหมดหรือไร?” เย่เต๋อโหรวนึกถึงทุกสิ่งท

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 27

    เมื่อมีพระบัญชาลงมา หลงจ่านเหยียนกำลังนอนหลับอยู่ก็ถูกกัวกูกูขุดขึ้นมาจากในผ้าห่มด้วยความรีบร้อน ขณะที่กำลังตาพร่าเบลอสะลึมสะลือก็ถูกโยนเข้าไปในถังอาบน้ำเพื่อชำระร่างกายเย่เต๋อโหรวสั่งให้คนแต่งตัวให้นางทันที สวมชุดอภิเษกสมรส ความวุ่นวายนี้ทำให้หลงจ่านเหยียนไม่มีเวลาแม้กระทั่งกินอาหารเย็น หิวจนไส้กิ่วแล้วแต่นางก็ถือว่าให้ความร่วมมือเช่นกัน หลับตาปล่อยให้พวกนางจัดการเมื่อถึงช่วงสามทุ่ม เสนาบดีกรมพิธีการกับฉีอ๋องก็มาถึงขบวนเกียรติยศจากในวังยืนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ตรงหน้าประตูแล้วจุดประทัด นับว่าให้ความรู้สึกเหมือนจัดงานมงคลอยู่บ้างเนื่องจากต้องเข้าประตูวังตอนเที่ยงคืนเพื่อรับการคำนับจากสตรีบรรดาศักดิ์ฝ่ายในและฝ่ายนอก ดังนั้นเมื่อขบวนรับเจ้าสาวมาถึง ก็ต้องออกเดินทางทันทีแต่ไม่ว่าอย่างไรหลงจ่านเหยียนก็ไม่ยอมขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว นางบอกว่าบิดามารดาเลี้ยงดูนางมาสิบหกปี บัดนี้นางออกเรือนแล้วย่อมต้องกราบลาคนในครอบครัวก่อน!กษัตริย์กับราษฎรแยกแยะกันอย่างชัดเจน การกราบลาที่ว่าความจริงก็คือให้ทุกคนในจวนสกุลหลงคุกเข่าส่งนางออกเรือนเข้าวัง อีกทั้งหลงจ่านเหยียนจงใจบอกชัดเจนว่าฮูหยินผ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 28

    พูดอีกอย่างคือหากมีผลที่ตามมาใด ๆ จวนตระกูลหลงของพวกเขาจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลงฉางเทียนทำหน้าเคร่งขรึม เผยความน่าเกรงขามของแม่ทัพออกมาจนหมด ถึงอย่างไรก็เป็นคนที่เคยเข่นฆ่าสังหารผู้คนในสนามรบมาก่อน กัวกูกูเห็นเขาเป็นเช่นนี้ก็อดรู้สึกหนาวสะท้านไม่ได้ ก่อนจะถอยหลังไปก้าวหนึ่งแล้วยืนก้มศีรษะหลงฉางเทียนเอ่ยเสียงเข้มว่า “ข้าจะเข้าไปคุยกับฮองเฮา!”กัวกูกูอึ้งไปก่อนจะรีบยื่นมือไปขวาง “ฮองเฮากำลังจะเข้าวัง ไม่อาจให้บุรุษผู้ใดพบหน้าได้ นี่เป็นกฎเจ้าค่ะ!” หลงฉางเทียนหัวเราะอย่างเย็นชา “กูกูเป็นคนฉลาด ย่อมรู้ว่าบางครั้งกฎเกณฑ์เป็นสิ่งที่มนุษย์กำหนดและแก้ไขโดยมนุษย์ อีกทั้งกฎเกณฑ์ก็ต้องให้ตรงกับเป้าหมายด้วย ส่วนฮองเฮาจากจวนตระกูลหลงของเราพระองค์นี้ไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับกฎเกณฑ์มากนัก!” เขากล่าวจบก็สะบัดแขนเสื้อเดินเข้าไปกัวกูกูมองแผ่นหลังของเขาอย่างตะลึงงัน แต่ไม่กล้าเข้าไปขัดขวาง นางรู้ว่าแม้ก่อนหน้านี้หลงฉางเทียนจะปฏิบัติกับนางอย่างมีมารยาท แต่นางก็ล่วงเกินเขาไม่ได้เย่เต๋อโหรวยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วเอ่ยเหน็บแนมว่า “ข้ายังนึกว่ากัวกูกูเป็นคนเฉลียวฉลาดเสียอีก นกที่ดีรู้จักเลือกกิ่งไม้พำน

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 29

    เขาใจหายวาบ อยากจะชักมือกลับมา แต่แรงส่งรุนแรงเกินไป เมื่อเขาฝืนดึงกลับมาทำให้เขาพุ่งออกไปชนเข้ากับขื่อไม้แกะสลักข้างเตียง ได้ยินเพียงเสียงดัง “วิ้ง” ถาดบนชั้นวางด้านข้างขื่อไม้ร่วงลงพื้นดัง “เพล้ง ๆๆๆ”คนที่อยู่ด้านนอกอย่างอาถงกับอาเถี่ยได้ยินเสียงนี้ก็อยากจะพุ่งเข้ามา แต่ถูกกัวกูกูส่ายหน้าห้ามเอาไว้ แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่เข้าใจเหตุผล เพียงแต่ว่าตอนที่ออกจากวัง ไทเฮาสั่งพวกเขาให้เชื่อฟังคำสั่งของกัวกูกูเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สนใจทันทีใบหน้าของหลงฉางเทียนเปลี่ยนสีเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “เจ้าถึงกับกล้าพกมีดสั้นติดตัวเชียวหรือ?”ขณะที่ถาม เขาก็สูดลมหายใจเย็นเยียบในใจเช่นกัน หากนางเกิดไม่พอใจอะไร หลังจากส่งตัวเข้าวังแล้วทำอะไรไม่ดีกับฮ่องเต้ขึ้นมา เช่นนั้นก็แย่แล้วถึงอย่างไรนางก็ต้องตาย แต่ใครจะรู้ว่านางจะไม่ลากคนทั้งจวนมาตายตกร่วมกันกับนาง? นัยน์ตาดำขลับของหลงจ่านเหยียนมีไอน้ำคลุมอยู่หนึ่งชั้น เอ่ยด้วยสีหน้าโศกเศร้าว่า “ท่านพ่อ ลูกไปครั้งนี้ บางทีอาจจะเป็นการแยกจากกันระหว่างคนเป็นกับคนตาย ลูกซาบซึ้งในบุญคุณที่ท่านพ่อท่านแม่และท่านย่าเลี้ยงดูสั่งสอน ขอให้ท่านพ่ออนุญา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 30

    กัวกูกูเอ่ยถามอย่างหยั่งเชิงว่า “เมื่อครู่นี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเพคะ?”หลงจ่านเหยียนยื่นมือไปประคองมงกุฎบนศีรษะแล้วเอ่ยว่า “ไม่มีอะไร เครื่องสำอางข้าเลือนแล้วหรือไม่?” นางเอาสองมือลูบใบหน้าเบา ๆ การแต่งหน้าครั้งนี้ใช้เวลาเกือบสองชั่วยามถึงจะแต่งเสร็จ เมื่อครู่นี้นางพยายามแทบตายเพื่อไม่ให้น้ำตาหยดลงมา กลัวว่าจะทำให้เครื่องสำอางเลือนกัวกูกูร้องอ้อคำหนึ่ง มองนางด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง นางย่อมไม่เชื่อว่าเมื่อครู่นี้จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เดิมทีคิดว่าเข้ามาแล้วจะได้เห็นหลงจ่านเหยียนร้องห่มร้องไห้ ใครจะคาดคิดว่านางกลับนั่งอยู่ตรงนี้เหมือนไม่มีเรื่องอะไร ยังคงกังวลว่าเครื่องสำอางของตนเลือนแล้วหรือยังดูท่า ฮองเฮาพระองค์นี้ช่าง...น่าสนใจชวนให้ติดตามยิ่งนัก!“ไม่เลือนเพคะ ฮองเฮายังทรงงดงามมาก!” สายตาของกัวกูกูจับจ้องไปที่ใบหน้าของนาง ราวกับอยากมองหาอะไรบางอย่างจากบนใบหน้าของนาง แต่นางก็ผิดหวัง เนื่องจากเมื่อหลงจ่านเหยียนได้ยินว่าเครื่องสำอางของนางยังไม่เลือน ใบหน้าก็มีเพียงสีหน้าโล่งใจเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่นเพิ่มอีกสักนิดเดียว“เมื่อครู่นี้ท่านแม่ทัพเหมือนจะโมโหมากเลยนะเพคะ!” กั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 31

    หลงจ่านเหยียนพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวออกมาราวกับมีความคิดอันใดบางอย่าง “มีใจแล้วจริง ๆ!” นางมองกัวกูกูแล้วกล่าวว่า “มิได้บอกว่าห้ามผิดเวลาหรอกหรือ? ไปดูหน่อยเถิดว่ามาถึงหรือยัง?”กัวกูกูรับคำแล้วเดินออกไป เย่เต๋อโหรวนำสาวใช้สองสามนางมายืนรออยู่ที่หน้าประตูหอเฟิ่งอี๋ ครั้นเห็นกัวกูกูเดินมา นางจึงเดินไปต้อนรับ แล้วกระซิบถาม “ใส่ยาลงไปแล้ว เห็นผลแล้วหรือ?”กัวกูกูชะงักไปเล็กน้อย “ชาเมื่อกี้หรือ?”“ใช่น่ะสิ!” เย่เต๋อโหรวยิ้มบาง ๆ “ใส่ยาลงไปเยอะขนาดนั้น อีกประเดี๋ยวก็น่าจะเห็นผลแล้ว หากเป็นเช่นนี้จะได้ไม่เสียเวลา!”กัวกูกูทอดถอนใจอยู่ในภายในใจ คนผู้นี้ช่างทำสิ่งเลวทรามได้ทุกวิถีทางจริง ๆ เพียงแต่ยามนี้พวกนางกำลังลงเรือลำเดียวกัน จะพูดอันใดก็ไม่ได้ จึงได้แต่พูดเพียงว่า “ข้าจะเข้าไปดูสักหน่อย ฮูหยินสั่งให้เตรียมเกี้ยวหงส์เถิด จะได้มิต้องเสียเวลา!”พูดจบ นางจึงหมุนกายเดินเข้าไปครั้นกล่าวถึงฉีอ๋องและเสนาบดีโจวที่รออยู่ที่โถงฝ่ายหน้าอยู่นานแล้ว ทว่ายังไม่เห็นใครออกมา เสนาบดีโจวยังดีอยู่หน่อย แต่ฉีอ๋องนั้นเป็นคนใจร้อน จึงอดเร่งรัดหลงฉางอี้ที่มาต้อนรับไม่ได้ “รีบเข้าไปดูสิ ถ้าพลาดฤกษ์งามยามด

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 32

    เย่เต๋อโหรวเองก็หวั่นใจ หันหน้าไปสั่งจวีชุน “ไปเชิญท่านแม่ทัพมา!”ขณะที่จวีชุนกำลังจะไป ก็เห็นหลงฉางเทียนเดินนำคนสองสามคนเข้ามา ครั้นเขาเห็นเย่เต๋อโหรวยังยืนอยู่ที่เดิม จึงอดขมวดคิ้วแล้วกล่าวอย่างโมโหเล็กน้อย “ไยยังยืนนิ่งอยู่อีก?”เย่เต๋อโหรวกระซิบบอก “ดื่มยาไปแล้ว แต่คนยังไม่หลับ!”หลงฉางเทียนกล่าวอย่างประหลาดใจ “นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ดื่มเข้าไปนานเท่าไรแล้ว?”“ได้ครู่ใหญ่แล้วเจ้าค่ะ ตามหลักก็น่าจะสลบไปแล้ว!” เย่เต๋อโหรวกล่าวหลงฉางเทียนกล่าวพลางขมวดคิ้วมุ่น “ฉีอ๋องมีนิสัยใจร้อน ตอนนี้ก็เร่งรัดมาแล้ว!”“บอกไปว่ายังแต่งตัวอยู่ หรือไม่เจ้าคะ?”หลงฉางเทียนเงียบไปครู่หนึ่ง “รออีกหน่อย!”เป็นเช่นนี้อยู่อีกครึ่งชั่วยาม ฉีอ๋องเริ่มมีโทสะอยู่ที่โถงฝั่งหน้าแล้ว หลงฉางอี้พยายามปลอบประโลมแต่ก็ไม่เป็นผล ฉีอ๋องจึงพาเสนาบดีโจวพร้อมกับเหล่ากลุ่มองครักษ์ที่มารับเกี้ยวเจ้าสาวตรงบุกเข้าหอเฟิ่งอี๋หลงฉางเทียนเห็นฉีอ๋องขมวดคิ้วด้วยความโมโห ในใจพลันเกิดความหวาดกลัว รีบเข้าไปรับหน้าพร้อมกล่าว “ทำให้ท่านอ๋องต้องรอนานแล้ว ถือเป็นความผิดของกระหม่อมเอง!”“เกิดเรื่องอันใดขึ้น? ยามนี้มันยามใดแล้ว?

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 271

    “ข้าได้ยินมา ทุกคืนนางจะเรียกนักดนตรีไปบรรเลงเพลง ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่?”“ทูลไทเฮา เรื่องนี้เกินไปหน่อยเพคะ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาทรงเรียกพวกเขามาในยามวิกาลน้อยนัก!”รอยยิ้มของถงไทเฮาบานสะพรั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ “ข้าก็รู้ว่าวังหลังมีปากหอยปากปูมาก จริงสิ ปกติเวลาอดีตฮ่องเต้ทรงสะสางราชกิจ ทรงโปรดทำอันใดหรือ?”หัวข้าสนทนาวกกลับมาเรื่องอดีตฮ่องเต้ จิ้นหรูลอบโล่งอก เวลาตอบคำถามจึงเป็นมิตรมากขึ้นบางส่วน “อดีตฮ่องเต้มีเวลาวางน้อยนัก แต่พระองค์โปรดอู้งานยามยุ่ง ทรงโปรดการเดินหมาก เสวยพระสุธารสชาเพคะ”“เดินหมาก? เดินกับผู้ใด?” ถงไทเฮาถาม“กับบ่าวเพคะ” จิ้นหรูยิ้มบาง “เพียงแต่ฝีมือการเดินหมากของบ่าวไม่ดี แพ้อยู่เรื่อยเลยเพคะ”“อดีตฮ่องเต้ทรงยินดีเดินหมากกับเจ้า แสดงว่าฝีมือการเดินหมากของเจ้าต้องดี” ถงไทเฮายิ้มเอ่ย “เจ้าอย่าได้ถ่อมตัวนักเลย วันหลังข้าจะเดินหมากกับเจ้าบ้าง เจ้าก็คลายเหงาให้ข้าหน่อย”“ขอเพียงไทเฮาโปรด บ่าวก็เดินหมากเป็นเพื่อนไทเฮาได้ทุกเมื่อเพคะ” จิ้นหรูกล่าวจากใจ“เจ้าช่างเป็นคนเข้าใจผู้อื่นแท้ ๆ มิน่าอดีตฮ่องเต้จึง ‘โปรดปราน’ เจ้าเช่นนี้” ถงไทเฮายิ้มเอ่ยคำพูดนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 270

    ตำหนักชิงหนิงจิ้นหรูคุกเข่าลงคำนับ “ถวายพระพรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮา”“ลุกขึ้นเถอะ จิ้นหรู” ถงไทเฮาแย้มยิ้มจิ้นหรูลุกขึ้นยืนก้มหน้าแล้วไปยืนอยู่ด้านข้าง“ไม่ต้องเกร็งไป วันนี้ที่ข้าเรียกเจ้ามา เพราะอยู่ ๆ ก็นึกถึงอดีตฮ่องเต้ อดีตฮ่องเต้เคยรับสั่งว่าทักษะการชงชาของเจ้าเป็นหนึ่งในใต้หล้า เจ้าจะชงให้ข้าสักครั้งได้หรือไม่?” ถงไทเฮากล่าวขอด้วยใบหน้าราบเรียบ“เพคะ!” จิ้นหรูขานรับ“หรูหัว ไปเตรียมเครื่องชงชา” ถงไทเฮาสั่งหรูหัวขานรับแล้วจึงออกไปถงไทเฮาปรายตามองจิ้นหรู วันนี้นางสวมชุดสีครามปักลายใบไม้ไผ่สีแดงเข้ม มิได้ผัดแป้ง แม้อายุล่วงเลยสี่สิบ กลับยังสง่าเรียบง่ายจิ้นหรูไม่เคยคลอดลูก จึงดูอ่อนเยาว์กว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันมิได้เลอโฉม กลับมีท่วงทำนองอย่างหนึ่งหรูหัวยกเครื่องชงชามา นางมองการต้มน้ำ ล้างชา ล้างถ้วย รินน้ำชาอย่างสง่างามของจิ้นหรูยังไม่พูดถึงฝีไม้ลายมือที่สง่างาม แต่ขณะนางชงชาจะมีสมาธิมาก ยามที่คนคนหนึ่งจดจ่ออยู่กับเรื่องหนึ่ง จะมีเสน่ห์ชวนหลงใหลเป็นพิเศษในฐานะที่ถงไทเฮาคือสตรีก็รู้สึกถึงมนตร์เสน่ห์น่าหลงใหลนี้เหมือนกัน“อดีตฮ่องเต้โปรดเสวยพระสุธารสชาอะไรหรือ?” นา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 269

    ถงไทเฮาถอนตายตากลับช้า ๆ ก็จริง นับจากหรูหัวเข้าวังก็อยู่ข้างตัวนางมาตลอด รวมแล้วอดีตฮ่องเต้เคยมองนางเพียงไม่กี่ครั้ง แม้แต่ชื่อของนางก็ยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำที่สำคัญที่สุดคือ แม้หน้าตาของหรูหัวจะพอใช้ได้ แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับคำว่า ‘สวย’ เด็ดขาด“ในฐานะที่เป็นบุตรสาวสกุลถง ตั้งแต่ข้าเกิดมาก็ใช้ชีวิตเหมือนพญาหงส์ แล้วยังจะสูงศักดิ์ยิ่งกว่าองค์หญิงเสียด้วยซ้ำ หลังจากเข้าวังก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา เกียรติยศไร้ขีดจำกัด แต่... นี่ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ให้คนอื่นดู สิ่งที่ข้าต้องการ ก็แค่สายตาอาวรณ์หนึ่งของอดีตฮ่องเต้ เมื่อไม่ได้มา ข้าก็ไม่อยากให้ผู้ใดได้มันไปทั้งนั้น ไม่ว่านางจะอยู่หรือตาย ข้าก็ต้องรู้ว่านางคือใคร”ถงไทเฮาพูดเนิบช้ามาก แต่... มีความโหดเหี้ยมทุกถ้อยคำหรูหัวพิจารณาอย่างละเอียดครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นพึ่บ “เสี่ยวหรู? คนที่ปรนนิบัติอดีตฮ่องเต้ในตำหนักในสมัยก่อน มีคนหนึ่งที่ชื่อจิ้นหรูเพคะ”“จิ้นหรู? ไม่ใช่นาง” ถงไทเฮาส่ายหน้า “นางโตมากับอดีตฮ่องเต้ ถูกส่งไปปรนนิบัติข้างพระวรกายอดีตฮ่องเต้นานแล้ว หากนางคือคนที่อดีตฮ่องเต้โปรดปราน ไยไม่แต่งตั้งนางเป็นสนมเล่า?”หรูหัวคิ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 268

    ฮองเฮาส่ายหน้า “ไม่ ซูอี้จะกล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร เขาไม่กลัวว่า...” ความกลัวเริ่มปกคลุมใบหน้าของนาง และไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย“ถ้าเจ้ายังอยากรักษาชีวิตพ่อของเจ้าเอาไว้ ก็ไปหาฮ่องเต้” ถงไทเฮากล่าวอย่างแค้นที่เหล็กไม่เป็นเหล็กกล้าเทียบกับสมัยก่อน ถงไทเฮาเติบโตและรู้ความมากแล้ว เมื่อก่อนนางไม่เข้าใจ เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่เข้าใจนาง เหตุใดมักให้นางทำเรื่องที่ลำบากใจ บัดนี้นางรู้แล้ว มีเพียงให้ตัวเองลำบาก สกุลถงจึงจะมั่นคงในใจของคนสกุลถง ชื่อเสียงและความมั่นคงของวงศ์ตระกูลสำคัญที่สุดเสมอ นางรู้ว่าตอนนี้ถงเหยียนยังไม่ตระหนักในจุดนี้ แต่นางจะเข้าใจในไม่ช้าก็เร็ว ความน้อยเนื้อต่ำใจในเวลานี้นับเป็นอันใด? ภายภาคหน้ายามสกุลถงกับสกุลมู่หรงแบ่งใต้ฟ้า นางจะรู้ว่าความอยุติธรรมทั้งหลายที่ได้รับในวันนี้คุ้มค่าดวงหน้าไฉไลของฮองเฮาประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวขาว ที่เจืออยู่ในดวงตาคือน้ำตาแห่งความน้อยใจ “เหตุใดต้องให้ข้าไปช่วยด้วยเจ้าคะ? ท่านสั่งคำเดียวก็ได้แล้วนี่ กลับต้องให้ข้าวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้”ถงไทเฮานวดศีรษะ รู้สึกว่าความอึดอัดสายหนึ่งพุ่งขึ้นสมอง นางอยากระเบิดอารมณ์ แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้าและเอ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status