Share

บทที่ 115

Author: ลิ่วเยว่
ส่วนฉีชินอ๋องหลังจากกลับไปแล้วก็ไม่ได้กลับจวน แต่ตรงดิ่งไปยังจวนเซ่อเจิ้งอ๋อง

หลังจากสนทนาเรื่องทั้งหมด ดวงหน้าขาวเนียนของเขาก็ฉายเพลิงโทสะ “ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าหลงฉางเทียนจะกล้าวางแผนกับข้า ต้องโทษที่ข้าไม่ระวังจึงถูกเขาหลอกใช้”

ฮุ่ยอวิ่นแสยะยิ้ม “มิใช่ความคิดของหลงฉางเทียนหรอก หลงฉางเทียนที่เป็นคนตีรันฟันแทงไม่มีความคิดเช่นนี้หรอก แค่เขาให้โจรป่ามาฆ่าหลงจ่านเหยียนก็รู้แล้ว ตัวต้นคิดคงเป็นยายแก่หลงนั่นแหละ

ไอเย็นบนตัวเซ่อเจิ้งอ๋องแผ่ขยาย เขาถามฉีชินอ๋อง “เจ้าแน่ใจนะว่าหลงจ่านเหยียนตายแล้ว?”

“ในเรือนหนิงย่วนมีแต่คนของจวนตระกูลหลง คนข้างตัวของไทเฮาอยู่ข้างนอกหมด กัวอวี้นางกำนัลคนสนิทนางได้รับบาดเจ็บสาหัส ทิ้งกระบี่สองเล่มไว้ที่เกิดเหตุ เป็นกระบี่ที่นักฆ่าทิ้งเอาไว้ เล่มหนึ่งเป็นของอาเชาองครักษ์คนสนิทข้า อีกเล่มที่มาไม่แน่ชัด และบนกระบี่ของอาเชามีเลือดติดอยู่ น่าจะเป็นของหลงจ่านเหยียน”

เซ่อเจิ้งอ๋องได้ยินว่ากัวอวี้บาดเจ็บสาหัสก็หนักใจ “เช่นนั้นต่อให้หลงจ่านเหยียนไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บแน่”

“รู้อย่างนี้เราก็ไม่กลับมาก่อนแล้ว ยังนึกว่าลูกไม้ของหลงฉางเทียนจะหมดแล้วเสียอีก ไม่นึกว่ายายแก่นั่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 116

    เซ่อเจิ้งอ๋องเดินตรงไปนั่งยังตำแหน่งที่นางนั่งเมื่อครู่ สั่งการด้วยสีหน้าเฉยเมย “ใครก็ได้ จับทุกคนในสกุลหลงเอาไว้ให้หมด”องครักษ์ของเซ่อเจิ้งอ๋องกรูกันเข้ามา พริบตาเดียว กระบี่สิบกว่าเล่มก็พาดอยู่บนคอของคนสกุลหลงแม้แต่คอของฮูหยินผู้เฒ่าก็มีกระบี่เย็นแวววาวเพิ่มมาอีกหนึ่งเล่มเช่นกัน และผู้ที่ถือกระบี่ก็คือฮุ่ยอวิ่นฮูหยินผู้เฒ่าใบหน้าโกรธขึ้ง เบ่งบารมีเดี๋ยวนั้น “ท่านอ๋อง หม่อมฉันคือฮูหยินเก้ามิ่งระดับสองที่อดีตฮ่องเต้แต่งตั้งด้วยพระองค์เอง จะยอมให้ท่านลบหลู่เช่นนี้ได้หรือ?”กลีบปากของเซ่อเจิ้งแย้มยิ้มสะพรึงโลกา “แล้วอย่างไร? ข้ายังเป็นถึงอ๋องเซ่อเจิ้งอ๋องแน่ะ”ฮุ่ยอวิ่นยิ้มบางเหมือนกัน “ฮูหยินผู้เฒ่า เมื่อครู่ท่านยังขอรับโทษอยู่เลยมิใช่หรือ? อายุอานามปูนนี้แล้ว พูดจาเชื่อถือไม่ได้ ไม่กลัวคนจะหัวเราะเยาะท่านหรืออย่างไร?”ใบหน้าฮูหยินผู้เฒ่าประเดี๋ยวแดงประเดี๋ยวเขียว ยกเปลือกตาขึ้น ฉายประกายแสงหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็เชิญท่านอ๋องจับตัวหม่อมฉันเข้าวังด้วยเลยเถอะ ให้ไทฮองไทเฮาทรงตัดสิน”“เรื่องเล็กน้อยยังต้องรบกวนองค์ไทฮองไทเฮาหรือ?” เซ่อเจิ้งอ๋องยิ้

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 117

    เพียงแต่อารมณ์เหล่านี้แค่แวบเข้ามาในก้นบึ้งหัวใจเท่านั้น มิได้คงอยู่ เรื่องพวกนี้ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับเขา เขาไม่จำเป็นต้องรู้สึกไม่เป็นธรรมเพื่อผู้หญิงคนนั้นกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่กลางอากาศ ตามกลิ่นหอมสดชื่นของสระบงกช ในที่สุดดวงจันทร์ก็เคลื่อนตัวออกจากเมฆชั้นหนาเสี้ยวหนึ่ง ครั้นแสงจันทร์จาง ๆ สาดส่องลงมา ฉายดวงหน้างดงามมีเสน่ห์ของเซ่อเจิ้งอ๋อง กลับทำให้คนรู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุฮูหยินผู้เฒ่าหลงรู้สึกครั่นคร้ามเหมือนกัน ในที่สุดนางก็รู้ว่าตัวเองประเมินชายหนุ่มผู้นี้ต่ำเกินไป แต่... ในตอนที่นางกำลังรบราฆ่าฟันอยู่ในสนามรบ เขายังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ จะถูกเขาขย่มขวัญไม่ได้ ความกล้าของเขาก็มีเพียงฆ่าสาวใช้คนหนึ่งเท่านั้นเมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็ยืดหลังตรง ขณะกำลังจะพูดก็ได้ยินเสียงเย็นชาหนึ่งดังขึ้น และเสียงนี้เองที่ทำให้นางตกใจจริง ๆ“เกิดอะไรน่ะ? แต่ละคนมาล้อมกันอยู่ที่ทำอันใด?”เห็นเพียงศีรษะคนผุดขึ้นมาจากสระบงกช จากนั้นก็ค่อย ๆ ว่ายมา สองมือเกาะหินริมฝั่งพาดตัว แววตาเย็นชาระคนรอยยิ้มจาง ๆ นัยน์ตาดำขลับพกพาความบันเทิงเล็กน้อย เส้นผมชื้นแฉะสยายปกอยู่บนบ่า ราวกับภูตที่หลงเข้ามา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 118

    มู่หรงฉิงเทียนมองอาภรณ์เปียกมะล่อกมะแล่กของนางและใบหน้าสวยเล็กจิ้มลิ้มหนาวจนซีดไปบ้าง หัวใจแข็งกร้าวที่ผ่านมาเกิดความสงสารขึ้นมาเล็กน้อย จึงเอ่ย “ไทเฮาเสด็จกลับไปเปลี่ยนฉลองพระองค์ก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ หลังจากเปลี่ยนฉลองพระองค์แล้ว กระหม่อมยังมีบางเรื่องที่อยากถามพระองค์”“ก็ได้!”สายลมเย็นพัดมาวูบหนึ่ง จ่านเหยียนจามสองหนติดกัน นางสั่นระริก “เช่นนั้นข้าจะกลับไปเปลี่ยนชุดก่อน”นางหันกลับมามองฮูหยินผู้เฒ่าทีหนึ่ง ฮูหยินผู้เฒ่ายืนอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าที่ปราศจากอารมณ์ ชายตามองจ่านเหยียนอย่างเย็นชาเหมือนอย่างเคย ส่วนฮุ่ยอวิ่นยืนอยู่ข้างตัวนางนิ่ง ดวงตาจับจดอยู่บนตัวจ่านเหยียน ราวกับยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่จ่านเหยียนหัวเราะเบา ๆ ทีหนึ่งก่อนจะจากไป คนสนิทของนางก็ตามไปด้วยจิ้นหรูถามทั้งตาแดง “คุณหนูใหญ่ไม่ได้รับบาดเจ็บจริงหรือเพคะ? ทรงตกลงมาจากที่สูงอย่างนั้น ทรงไม่เป็นไรจริง ๆ หรือเพคะ?”จ่านเหยียนถอนหายใจทีหนึ่ง “จิ้นหรู พอแล้ว เจ้าใช้ความรู้สึกกับข้ามากไปแล้ว แบบนี้จะทำให้ขาดสติได้นะ”จิ้นหรูอึ้ง แววตาชะงักงันเล็กน้อยจ่านเหยียนเอ่ย “ถึงอดีตฮ่องเต้จะฝากฝังเจ้าไว้กับข้า แต่เจ้

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 119

    “ข้าไม่ได้อยู่ในน้ำสักหน่อย แค่หลบอยู่ในพงหญ้าแถวนั้น พอได้เห็นช่วงถึงพริกถึงขิงของละครจึงลงน้ำ” ที่เซ่อเจิ้งอ๋องลงมือในตอนท้ายนั้นน่าจะข่มขวัญยายแก่นั่นได้คนที่มั่นใจเกินเหตุคนหนึ่งจะโอหังใช้อำนาจบาตรใหญ่ เอาแต่ใจวางก้าม นี่คือโรค ต้องมีคนรักษา!“แต่... เหตุใดต้องดำน้ำแล้วค่อยปรากฏขึ้นสู่ผิวน้ำด้วย? ทรงปรากฏตัวออกมาตรง ๆ เลยมิได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” อาเถี่ยก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีจ่านเหยียนยิ้มสวย “เจ้าไม่รู้สึกว่าโผล่ออกมาจากใต้น้ำเพิ่มความลึกลับได้หรือ? อีกอย่าง หญิงงามขึ้นสระ เป็นภาพน่าชมแค่ไหน!”คนเป็นฝูงยุ่งกันทั้งคืน ก็ต้องให้สวัสดิการหน่อยใช่หรือไม่?ทุกคนเหงื่อตกกันเป็นแถว ยังจะหญิงงามขึ้นสระอีกแน่ะ? ช่างหลงตัวเองโดยแท้!ครั้นกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว จ่านเหยียนก็ไปเยี่ยมกัวอวี้กัวอวี้บาดเจ็บถลอกนิดหน่อยจริง ๆ นางนอนอยู่บนเตียง เมื่อเห็นจ่านเหยียนกลับมาอย่างปลอดภัยก็ยันตัวจะลุกขึ้นทำความเคารพ แต่จ่านเหยียนกดตัวนางลง “พอแล้ว นอนเถอะ”“คุณหนูใหญ่ทรงหยั่งรู้ดังคาดเพคะ!” กัวอวี้ยิ้มพูด“ก็เพราะเจ้าให้ความร่วมมือดี!” ใบหน้าหมดจดของจ่านเหยียนฉายรอยยิ้มมีเสน่ห์ เส้นผมยาวยังชื้นอยู

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 120

    ขณะจ่านเหยียนมาถึงห้องโถงด้านข้าง เซ่อเจิ้งอ๋องกำลังเล่นแหวนอังคุฐในมืออย่างผ่อนคลาย สีหน้าหยิ่งผยองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เขาก็เอนหลังแล้วมองมา แววตาแห่งปฏิภาณล้ำลึกกวาดมองมาเรียบ ๆ และหยุดอยู่บนใบหน้าของจ่านเหยียนเมื่อนั้นจึงลุกขึ้นยืน “ไทเฮาเชิญประทับพ่ะย่ะค่ะ” ตามด้วยไม่รอให้จ่านเหยียนนั่งลง เขาก็นั่งเก้าอี้อีกครั้ง คืนท่าทางเมื่อก่อนหน้านี้จ่านเหยียนไม่แปลกใจกับความหยิ่งผยองของเขาสักนิด อีกทั้งยังเคยชินกับความยโสเย็นชาของเขานานแล้ว ทว่าเขาในคืนนี้ต่างออกไปเล็กน้อย ในความทระนงมีความคลุมเครือแฝงซ่อนอยู่เสี้ยวหนึ่งจ่านเหยียนรู้ มิอาจดูแคลนเด็กชายตรงหน้าได้ นางค่อย ๆ นั่งลงและรับกับสายตาของเขา ก่อนจะเอ่ย “ท่านอ๋องรอนานแล้ว”“พอได้!” เซ่อเจิ้งอ๋องตอบชืด ๆฮุ่ยอวิ่นก็เข้ามาจากนอกห้องเหมือนกัน เดินหน้ามาทำความเคารพ “ฮุ่ยอวิ่นถวายพระพรไทเฮา”“คุณชายฮุ่ยอวิ่นมิต้องมากพิธี” ฮุ่ยอวิ่นมองแล้วยิ้มจาง ๆ “ข้าอยากหาโอกาสขอบคุณคุณชายฮุ่ยอวิ่นมาตลอด”“อ้อ?” ฮุ่ยอวิ่นมองนางอย่างไม่เข้าใจจ่านเหยียนเอ่ย “นักดนตรีพวกนั้นที่คุณชายฮุ่ยอวิ่นให้ข้า ปรนนิบัติได้เหมาะสมและรู้ใจนัก”ฮุ่ยอวิ่นตก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 121

    “แต่ก็ต้องขอบคุณท่านอ๋องที่ดูแลมาตลอด” จ่านเหยียนกล่าวจากใจจริง“มิต้องเกรงพระทัย” เซ่อเจิ้งอ๋องลุกขึ้นยืนช้า ๆ “ดึกมากแล้ว ไม่รบกวนไทเฮาทรงพักผ่อน กระหม่อมทูลลา!”เขายกนัยน์ตาดำขลับขึ้น มองจ่านเหยียนเงียบ ๆ จ่านเหยียนก็มองเขาตอบเหมือนกัน ท่ามกลางแสงเทียนสลัว เห็นเพียงสองสายตาประสานกันจนเกิดเป็นประกายไฟที่คนอื่นดูไม่ออก“ส่งท่านอ๋อง!” จ่านเหยียนหันไปสั่งกับจิ้นหรู“ท่านอ๋อง เชิญ!” จิ้นหรูอมยิ้มแล้วเดินไปข้างหน้าเซ่อเจิ้งอ๋องมองจิ้นหรูทีหนึ่ง “คืนนี้ทำให้เจ้าตกใจแล้ว?”“นิดหน่อยเพคะ!” จิ้นหรูยิ้ม“แต่ไหนมาเจ้าก็ขี้กลัว” เซ่อเจิ้งอ๋องส่ายหน้า “เพียงแต่ต่อไปติดตามนายเช่นนี้ ต้องหัดใจกล้ามากหน่อยแล้ว มิเช่นนั้นจะตกใจตายได้ง่าย”จิ้นหรูขำพรืด “เพคะ!”ฮุ่ยอวิ่นไม่ค่อยอยากกลับ ก่อนจากไปยังหันไปมองจ่านเหยียนอีกทีหนึ่งแบบไม่ยอมแพ้ ครั้นเห็นจ่านเหยียนนิ่งเฉยจึงได้แต่ถอนหายใจและออกไประหว่างทางกลับ ฮุ่ยอวิ่นยังครุ่นคิดอยู่“คิดอะไรอยู่น่ะ?” เซ่อเจิ้งอ๋องเดินทอดน่องพลางถาม เขาถอดแหวนอังคุฐหยกแล้วเล่นอยู่ในมือฮุ่ยอวิ่นตอบ “คิดเรื่องในคืนนี้นะสิ เทียน ท่านรู้สึกหรือไม่ว่าหลงจ่านเหยียนผ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 122

    วันต่อมาหลงฉางเทียนก็นำทหารกลับมา เขาหาจนทั่วภูเขาเฮยเฟิงแล้ว แต่จูซิวมิได้กลับไป หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ จูซิวไม่ได้จับคนไปจริง ๆหลังจากกลับถึงจวน ฮูหยินผู้เฒ่าก็เรียกเขาไปอย่างร้อนใจทันทีหลังจากฟังเรื่องทั้งหมดอย่างชัดเจนแล้ว หลงฉางเทียนก็วิตกกังวลอย่างหนัก“ท่านแม่ ข้าสงสัยมาตลอดว่านางจะมีมือดีคอยช่วยเหลืออยู่ข้างตัว ท่านคิดว่าเป็นผู้ใด?” หลงฉางเทียนถาม“นอกจากเซ่อเจิ้งอ๋องก็ไม่มีใครอื่น” ฮูหยินผู้เฒ่าเปล่งเสียงเนิบ ๆหลงฉางเทียนแววตาร้อนรนเล็กน้อย “ทำเรื่องที่ไทฮองไทเฮามอบหมายไม่สำเร็จ กลัวแต่วันหน้าอยู่ต่อหน้าไทฮองไทเฮา ข้าจะไม่มีที่ยืนแล้ว”ฮูหยินผู้เฒ่าแววตาเคร่งขรึม มองเขาดุ ๆ “นี่ก็ยอมแพ้แล้วหรือ? จะให้นางตาย มีสารพัดวิธี อยู่ที่ว่าเจ้าจะเลือกวิธีไหน”“ท่านแม่ยังมีแผนเด็ด ๆ อีกหรือขอรับ?” หลงฉางเทียนหน้าระรื่น“เคยได้ยินเรื่องภูเขาหลัวถัวมีปีศาจจิ้งจอกออกอาละวาดหรือไม่?” ฮูหยินผู้เฒ่าถาม“ภูตผีปีศาจหลอกคน โลกนี้มีปีศาจที่ไหน? ท่านแม่อย่าได้เชื่อข่าวลือนะขอรับ” หลงฉางเทียนเอ่ยฮูหยินผู้เฒ่ามองตาขวางทีหนึ่ง “โลกนี้มีปีศาจหรือไม่ มันเกี่ยวอันใดกับเจ้า? ที่สำคัญที่สุ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 123

    ครั้นถึงตอนเย็น เสียงดนตรีเศร้าโศกดังขึ้น จวนตระกูลหลงหามโลงศพออกมาหลายโลง แล้วตรงดิ่งไปยังนอกเมือง คนที่กำลังจะเข้าเมืองเห็นเข้าพอดี ต่างเล่าว่าได้ยินเสียงร้องไห้ฮือ ๆ จากในโลงศพ มิหนำซ้ำยังมีน้ำเลือดไหลอยู่เต็มพื้น แม้แต่ทหารหน้าประตูเมืองเห็นแล้วยังพากันหลีกหนีพริบตาเดียวเมืองหลวงที่ศิวิไลซ์ก็กลายเป็นเมืองร้าง บรรยากาศอึมครึม เมื่อถึงยามราตรี บรรดาภัตตาคารโรงน้ำชาต่างปิดประตูไม่ทำการ แม้แต่หอนางโลมที่มีเสียงดนตรีทุกค่ำคืนตลอดเส้นทางก็ยังเงียบกริบช่วงกลางคืนลมพายุรุนแรงหนักกว่าเดิม เมฆดำไม่สลายตัวไปสักที แต่ก็ไม่มีฝนตกลงมาด้วย อากาศสอดแทรกบรรยากาศแปลกประหลาดถึงที่สุดอยู่ อากาศที่ผิดปกติเช่นนี้ แม้แต่ราชครูก็ยังมิอาจเข้าใจวันต่อมา ทางตะวันตกของเมืองก็มีข่าว ครอบครัวหญิงม่ายแซ่เซวตายด้วยน้ำมือของปีศาจจิ้งจอกยกครัว ลักษณะการตายอุจาดตามาก แม้แต่หัวใจก็ยังถูกควัก เลือดไหลนอง ครอบครัวสี่คนของหญิงม่ายแม่เซว ทั้งมารดาสามี ลูกชาย ลูกสาว และแม้แต่หญิงม่ายแซ่เซวก็ยังมิอาจรอดพ้นเคราะห์กรรมนี้ไปได้ทางการต้องทำคดี จึงรีบส่งหัวหน้ามือปราบและมือปราบไปชันสูตรศพ ครั้นเคลื่อนย้ายศพมาถึงที่เก็บศ

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 271

    “ข้าได้ยินมา ทุกคืนนางจะเรียกนักดนตรีไปบรรเลงเพลง ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่?”“ทูลไทเฮา เรื่องนี้เกินไปหน่อยเพคะ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาทรงเรียกพวกเขามาในยามวิกาลน้อยนัก!”รอยยิ้มของถงไทเฮาบานสะพรั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ “ข้าก็รู้ว่าวังหลังมีปากหอยปากปูมาก จริงสิ ปกติเวลาอดีตฮ่องเต้ทรงสะสางราชกิจ ทรงโปรดทำอันใดหรือ?”หัวข้าสนทนาวกกลับมาเรื่องอดีตฮ่องเต้ จิ้นหรูลอบโล่งอก เวลาตอบคำถามจึงเป็นมิตรมากขึ้นบางส่วน “อดีตฮ่องเต้มีเวลาวางน้อยนัก แต่พระองค์โปรดอู้งานยามยุ่ง ทรงโปรดการเดินหมาก เสวยพระสุธารสชาเพคะ”“เดินหมาก? เดินกับผู้ใด?” ถงไทเฮาถาม“กับบ่าวเพคะ” จิ้นหรูยิ้มบาง “เพียงแต่ฝีมือการเดินหมากของบ่าวไม่ดี แพ้อยู่เรื่อยเลยเพคะ”“อดีตฮ่องเต้ทรงยินดีเดินหมากกับเจ้า แสดงว่าฝีมือการเดินหมากของเจ้าต้องดี” ถงไทเฮายิ้มเอ่ย “เจ้าอย่าได้ถ่อมตัวนักเลย วันหลังข้าจะเดินหมากกับเจ้าบ้าง เจ้าก็คลายเหงาให้ข้าหน่อย”“ขอเพียงไทเฮาโปรด บ่าวก็เดินหมากเป็นเพื่อนไทเฮาได้ทุกเมื่อเพคะ” จิ้นหรูกล่าวจากใจ“เจ้าช่างเป็นคนเข้าใจผู้อื่นแท้ ๆ มิน่าอดีตฮ่องเต้จึง ‘โปรดปราน’ เจ้าเช่นนี้” ถงไทเฮายิ้มเอ่ยคำพูดนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 270

    ตำหนักชิงหนิงจิ้นหรูคุกเข่าลงคำนับ “ถวายพระพรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮา”“ลุกขึ้นเถอะ จิ้นหรู” ถงไทเฮาแย้มยิ้มจิ้นหรูลุกขึ้นยืนก้มหน้าแล้วไปยืนอยู่ด้านข้าง“ไม่ต้องเกร็งไป วันนี้ที่ข้าเรียกเจ้ามา เพราะอยู่ ๆ ก็นึกถึงอดีตฮ่องเต้ อดีตฮ่องเต้เคยรับสั่งว่าทักษะการชงชาของเจ้าเป็นหนึ่งในใต้หล้า เจ้าจะชงให้ข้าสักครั้งได้หรือไม่?” ถงไทเฮากล่าวขอด้วยใบหน้าราบเรียบ“เพคะ!” จิ้นหรูขานรับ“หรูหัว ไปเตรียมเครื่องชงชา” ถงไทเฮาสั่งหรูหัวขานรับแล้วจึงออกไปถงไทเฮาปรายตามองจิ้นหรู วันนี้นางสวมชุดสีครามปักลายใบไม้ไผ่สีแดงเข้ม มิได้ผัดแป้ง แม้อายุล่วงเลยสี่สิบ กลับยังสง่าเรียบง่ายจิ้นหรูไม่เคยคลอดลูก จึงดูอ่อนเยาว์กว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันมิได้เลอโฉม กลับมีท่วงทำนองอย่างหนึ่งหรูหัวยกเครื่องชงชามา นางมองการต้มน้ำ ล้างชา ล้างถ้วย รินน้ำชาอย่างสง่างามของจิ้นหรูยังไม่พูดถึงฝีไม้ลายมือที่สง่างาม แต่ขณะนางชงชาจะมีสมาธิมาก ยามที่คนคนหนึ่งจดจ่ออยู่กับเรื่องหนึ่ง จะมีเสน่ห์ชวนหลงใหลเป็นพิเศษในฐานะที่ถงไทเฮาคือสตรีก็รู้สึกถึงมนตร์เสน่ห์น่าหลงใหลนี้เหมือนกัน“อดีตฮ่องเต้โปรดเสวยพระสุธารสชาอะไรหรือ?” นา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 269

    ถงไทเฮาถอนตายตากลับช้า ๆ ก็จริง นับจากหรูหัวเข้าวังก็อยู่ข้างตัวนางมาตลอด รวมแล้วอดีตฮ่องเต้เคยมองนางเพียงไม่กี่ครั้ง แม้แต่ชื่อของนางก็ยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำที่สำคัญที่สุดคือ แม้หน้าตาของหรูหัวจะพอใช้ได้ แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับคำว่า ‘สวย’ เด็ดขาด“ในฐานะที่เป็นบุตรสาวสกุลถง ตั้งแต่ข้าเกิดมาก็ใช้ชีวิตเหมือนพญาหงส์ แล้วยังจะสูงศักดิ์ยิ่งกว่าองค์หญิงเสียด้วยซ้ำ หลังจากเข้าวังก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา เกียรติยศไร้ขีดจำกัด แต่... นี่ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ให้คนอื่นดู สิ่งที่ข้าต้องการ ก็แค่สายตาอาวรณ์หนึ่งของอดีตฮ่องเต้ เมื่อไม่ได้มา ข้าก็ไม่อยากให้ผู้ใดได้มันไปทั้งนั้น ไม่ว่านางจะอยู่หรือตาย ข้าก็ต้องรู้ว่านางคือใคร”ถงไทเฮาพูดเนิบช้ามาก แต่... มีความโหดเหี้ยมทุกถ้อยคำหรูหัวพิจารณาอย่างละเอียดครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นพึ่บ “เสี่ยวหรู? คนที่ปรนนิบัติอดีตฮ่องเต้ในตำหนักในสมัยก่อน มีคนหนึ่งที่ชื่อจิ้นหรูเพคะ”“จิ้นหรู? ไม่ใช่นาง” ถงไทเฮาส่ายหน้า “นางโตมากับอดีตฮ่องเต้ ถูกส่งไปปรนนิบัติข้างพระวรกายอดีตฮ่องเต้นานแล้ว หากนางคือคนที่อดีตฮ่องเต้โปรดปราน ไยไม่แต่งตั้งนางเป็นสนมเล่า?”หรูหัวคิ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 268

    ฮองเฮาส่ายหน้า “ไม่ ซูอี้จะกล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร เขาไม่กลัวว่า...” ความกลัวเริ่มปกคลุมใบหน้าของนาง และไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย“ถ้าเจ้ายังอยากรักษาชีวิตพ่อของเจ้าเอาไว้ ก็ไปหาฮ่องเต้” ถงไทเฮากล่าวอย่างแค้นที่เหล็กไม่เป็นเหล็กกล้าเทียบกับสมัยก่อน ถงไทเฮาเติบโตและรู้ความมากแล้ว เมื่อก่อนนางไม่เข้าใจ เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่เข้าใจนาง เหตุใดมักให้นางทำเรื่องที่ลำบากใจ บัดนี้นางรู้แล้ว มีเพียงให้ตัวเองลำบาก สกุลถงจึงจะมั่นคงในใจของคนสกุลถง ชื่อเสียงและความมั่นคงของวงศ์ตระกูลสำคัญที่สุดเสมอ นางรู้ว่าตอนนี้ถงเหยียนยังไม่ตระหนักในจุดนี้ แต่นางจะเข้าใจในไม่ช้าก็เร็ว ความน้อยเนื้อต่ำใจในเวลานี้นับเป็นอันใด? ภายภาคหน้ายามสกุลถงกับสกุลมู่หรงแบ่งใต้ฟ้า นางจะรู้ว่าความอยุติธรรมทั้งหลายที่ได้รับในวันนี้คุ้มค่าดวงหน้าไฉไลของฮองเฮาประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวขาว ที่เจืออยู่ในดวงตาคือน้ำตาแห่งความน้อยใจ “เหตุใดต้องให้ข้าไปช่วยด้วยเจ้าคะ? ท่านสั่งคำเดียวก็ได้แล้วนี่ กลับต้องให้ข้าวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้”ถงไทเฮานวดศีรษะ รู้สึกว่าความอึดอัดสายหนึ่งพุ่งขึ้นสมอง นางอยากระเบิดอารมณ์ แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้าและเอ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status