“เป็นอะไรไหม?”เสียงทุ้มเอ่ยถามผมด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ผมที่รับรู้ได้ว่าผมกำลังอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของเจ้าของเสียงที่เอ่ยถามผมก็ค่อยๆลืมตามามองหน้าผู้ชายคนตรงหน้า
ใบหน้าเรียวเล็กหน้าตาคมเข้มนัยน์ตาสีดำแต่แวบหนึ่งเหมือนเป็นสีเหลือง จมูกโด่งใบหน้าของเราสองคนอยู่ใกล้กันมาก มากจนผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่กำลังเป่ารินรดใบหน้าของผมอยู่ ลมหายใจของเขา หอมดีจัง เราสองคนเหมือนตกอยู่ในห้วงแห่งภวังค์ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวเหมือนหยุดแน่นิ่งไปเหมือนเวลาหยุด เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างหยุดหมด แต่สิ่งที่กำลังเต้นรัวเร็วอยู่ในตอนนี้คือ หัวใจของผมและของเขาคนนี้ พรึบ “เอ่อ…เอ็งไม่เป็นไรใช่ไหม?”เหมือนคนร่างหนาจะได้สติก่อนผมเขาดันร่างของผมให้ลุกขึ้นยืนและเอ่ยถามผมเสียงเข้มพร้อมกับเสมองไปทางอื่นใบหน้าแดงก่ำอย่างคนที่กำลังเขินอาย ทำให้ผมยิ้มกรุ้มกริ่มขึ้นมา คนนี้แหละที่เป็นเจ้าของอ้อมกอดที่อบอุ่นที่กอดผมในตอนที่ผมกำลังฝันร้ายอยู่เมื่อคืนนี้ “ข้าว่าเอ็งไปนอนพักก่อนเถอะ…จะรีบออกมาทำไม…” “พอดี…ผมหิวน้ำและก็หิวข้าวนะครับ…”ผมเอ่่ยบอกเขาไป เขาก็มองหน้าผมแต่ก็แค่แวบเดียวก่อนจะแปรเปลี่ยนมองไปทางอื่น “งั้นก็ไปนั่งรอที่เอ็งนอนก่อน..เดี๋ยวข้าจะไปเอาน้ำกับข้าวมาให้กิน…”เสียงเข้มเอ่ยบอกผมแต่ก็ยังไม่ยอมหันมามองหน้าผมอยู่ดี “ขอบคุณครับ…”ผมเอ่ยตอบเขาพร้อมกับมองคนตรงหน้าที่ไม่สบตาผมอยู่ด้วยสายตาเอ็นดู ผู้ชายคนนี้น่ารักจังวะ หล่อเข้มแต่มองขี้เขินจัง น่ารักโคตรๆ^_^ ตัวโตซะเปล่า ขี้เขินชะมัด^_^ ผมเดินพาร่างกายที่อิดโรยของตัวเองกลับไปนั่งลงบนเตียงไม้ไผ่ที่ผมใช้นอนพักก่อนตามเดิมอย่างช้าๆพร้อมกับสอดส่องสายตามองไปรอบๆห้องแห่งนี้ ห้องที่โล่งเปล่า และบ้านหลังนี้ก็มีเพียงแค่ห้องนี้เท่านั้น จะเรียกว่าบ้านก็ไม่เชิงมันเหมือนกระท่อมที่ใช้นอนปลายนามากกว่า ตึกๆๆๆ ผมหันไปมอยังร่างหนาที่เดินเปลือยกายท่อนบนเข้ามาในห้องนอนพร้อมกับในมือถือถาดไม้สานเดินมุ่งตรงมาหาผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย พรึบ เขาวางถาดสานลงตรงด้านข้างของผมก่อนจะนั่งลงข้างๆผมบนแคร่ไม้ไผ่ “กินซะสิ…” “ขอบคุณครับ….” “ที่นี่เป็นบ้านของคุณหรือครับ?”ผมเอ่ยถามเขาไปอย่างสงสัย ผู้ชายร่างหนารูปร่างกำยำผิวแทนก็หันมามองหน้าผม “ใช่…นี่บ้านข้า…ข้าอยู่คนเดียว…”เขาตอบผมมา ผมก็พยักหน้าเข้าใจก่อนจะเอื้อมมือลงไปมองอาหารในถาดสานที่เป็นจานกระเบื้องที่ผมไม่คุ้นตาวางอยู่หนึ่งจานและด้านข้างเป็นกระติบใส่ข้าวเหนียว ผมก็เงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ข้างๆที่เห็นว่าเขามองไปทางอื่นอยู่โดยไม่สนใจผม ผมก็ยิ้มกริ่มออกมาก่อนจะลงมือปั้นข้าวเหนียวจิ้มกับอาหารอะไรสักอย่างคล้ายๆลาบหมูแต่มันไม่ใช่เนื้อหมู แต่มันอร่อยกว่า “ว่าแต่…คุณชื่ออะไรเหรอครับ?” “ข้าชื่อเข้ม…” “ผมชื่อดาวเหนือนะครับ…เรียกเหนือเฉยๆก็ได้ครับ^_^”ผมเอ่ยแนะนำตัวกับเขากลับไป พี่เข้มก็หันมามองหน้าผมแวบหนึ่งด้วยแววตาสั่นไหวก่อนจะรีบหันกลับไปมองทิศทางอื่น “ทำไมผมรู้สึก…คุ้นเคยกับพี่จัง…” “เอ็งรู้ได้ยังไงว่าข้า…อายุมากกว่าเอ็ง?”เขาเอ่ยถามผมกลับมาอย่างสงสัย ใบหน้าหล่อจ้องผมเขม่น ผมก็คลี่ยิ้มบางๆให้เขาก่อนจะเคี้ยวข้าวเหนียวในปากอย่างเอร็ดอร่อยและไม่ยอมตอบคำถามพี่เข้มไป ก็ผมพอใจที่จะเรียกเขาแบบนี้^_^เรื่องราวของนายเอก 'ดาวเหนือ' ที่เป็นนายตำรวจที่เขากำลังเข้าไปพัวพันกับคดียาเสพติด จนวันที่เขาได้พากำลังนายตำรวจหลายสิบนายเข้าล้อมจับกุมกลุ่มขนยาเสพติดที่ลักลอบเข้าประเทศจากประเทศเพื่อนบ้านจนพอเขามารู้ตัวอีกที เขาก็ถูกผู้ร้ายจับกุมไว้เสียเองและนาทีชีวิตของเขา ที่กำลังจะจบลงด้วยคมลูกกระสุนของเพื่อนร่วม ที่เห็นเงินสำคัญกว่าจรรยาบรรณในอาชีพของตัวเองเขาไม่ได้เสียใจที่ชีวิตจะจบลงแต่ที่เขาเสียใจ ก็เพราะเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยกันมานาน กลับกลายเป็นคนที่คิดทรยศประเทศเสียเองด้วยชุดสีกากีแต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้หมดลมหายใจ อาจจะเป็นเพราะชะตาชีวิตของเขายังไม่ถึงคาดทันใดนั้นก็เกิด ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติหรือธรรมชาติสร้างขึ้นมา ก็ไม่อาจรู้ได้ เกิดลมพายุพัดโหมกระหน่ำ ท้องฟ้าแปรปรวนวิปริตฟ้าผ่าลั่นสนั่นแผ่นดินสั่นสะเทือนก็มีเสียงคำรามที่พวกเขาไม่คุ้นหู แต่รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นเสียงร้องของสัตว์ชนิดใดมันคือ 'เสือ'เสียงคำรามดังสนั่น พร้อมกับเสียงร้องโหยหวนของเหล่าโจรชั่วช้าเขาก็ลืมตาขึ้นมาก่อนจะพบกับสิ่งผิดปกติที่อยู่รอบๆตัว ขิงเขา บรรยากาศที่แปรเปลี่ยนไป ก่อนที่สติของเขาจะดับมืดลงเขาตื่นขึ้
พวกคุณเคยฝันเห็นสถานที่ ที่ซ้ำๆ สถานที่ที่เคยเกิดขึ้นมา และเหตุการณ์ในอดีตที่เคยเกิดขึ้นมาจริงๆไหม__? เรื่องราวตำนาน ลี้ลับของประเทศไทยมีหลากหลา ยตำนาน แต่มีอยู่ตำนานหนึ่งที่ยังคงถูกพูดถึงกันมาจนถึงทุกวันนี้ และถูกนำไปสร้างเป็นหนังเป็นละครและเรื่องเล่ามากมาย และผู้คนก็ยังคงให้ความสนใจมันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตำนานเสือสมิง เสือสมิง นั้นคือคนที่เป็นมนุษย์ธรรมดาที่อยากจะไม่เป็นแค่คนธรรมดา คนพวกนี้จะมีทั้งความโลภความโกรธและความหลง พวกเขาจะใช้มนตราและอาคม ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการเขาจะร่ำเรียนและฝึกฝน วิชาไสยศาสตร์ไสยเวท จนวิชาอาคมแก่กล้า และคนเล่นของพวกนี้จะมีข้อห้ามมากมาย แต่ถ้าทำผิดครูละก็ ของที่ร่ำเรียนมาจะตีกลับเข้าตัวทำให้กลายร่างเป็นสัตว์เดรัจฉาน ครึ่งคน ครึ่งสัตว์ ที่เรียกขานกันว่า ‘เสือสมิง’หรือ ‘สมิงอาคม’ ท่อนบนเป็นคน ท่อนล่างเป็นเสือหรือเป็นเสือทั้งร่าง เสือโคร่งใหญ่ลายพาดกลอน มันมีขนาดตัวที่ใหญ่โตถึงสามเมตรและตามอายุและอาคมในตัวของมันลายพาดกลอนก็จะยิ่งเข้มขึ้น ยิ่งเสือสมิงมันกัดกินเลือดเนื้อมนุษย์มากเท่าไหร่ อาคมในตัวมันก็จะยิ่งแก่กล้ามาก
พุทธศักราช 2566หุบเขาลึก ชายแดนไทยติดประเทศเพื่อนบ้าน17:30น.ดาวเหนือ ณทภัทร…..“จ่าปลา…..ซ้ายสาม….ขวาห้า….”ผมหันไปสั่งหมู่ปลาลูกน้องคนสนิทของผมที่เรามักจะออกพื้นที่ด้วยกันบ่อยๆพร้อมกับทำมือสัญญาณสั่งการโค้ดลับตามแบบฉบับตำรวจเขาทำกัน“รับทราบครับ…”หมู่ปลาเอ่ยบอกผมเสียงเข้มและหันไปจัดการเอาตำรวจแปดนายไปตามทิศทางที่ผมบอกเพื่อจะทำการล้อมแก๊งค้ายาเสพติดแก๊งนี้ ที่ผมเฝ้าติดตามมันมาหลายเดือนและรอจังหวะที่จะเข้าจับกุมผมที่นอนหมอบราบไปกับพื้นดินสายตาจับจ้องชายฉกรรจ์หลายคนที่ร่างกายสูงใหญ่กำยำที่มีอุปกรณ์ครบมือทุกคนกำลังเดินวนเวียนไปมาตามด้านหน้าของเต้นท์นอนหลังใหญ่ที่คาดว่าเจ้านายของพวกมันจะอยู่ในนั้นเป็นแน่เพราะดูจากการเฝ้าระวังภัยแบบนี้แล้ว ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าของที่อยู่ด้านในเต้นท์นั้นต้องเป็นของที่ผิดกฏหมายที่ไม่ว่าจะเป็นปืนเถื่อนที่ถูกลักลอบเข้ามาจากทางประเทศเพื่อนบ้านและจะยังพวกยานรกนั่นอีก“พวกคุณรอตรงนี้…ผมจะเข้าไปดูด้านในสักหน่อย….”ผมหันไปสั่งนายตำรวจที่นั่งอยู่ข้างๆผมเพื่อบอกจุดประสงค์ของผมในครั้งนี้“แต่มันจะไม่เสี่ยงไปเหรอครับ?”นายตำรวจน้องใหม่เอ่ยค้านขึ้นทำให้ผมแค่นหัวเราะอ
“ไอ้ตำรวจหนุ่มหน้าโง่นั่น…มึงเอาเงินไปเสนอให้มันหรือเปล่า?”เสียงเข้มทุ้มสองเสียงเอ่ยสนทนากันอยู่ด้านในของเต้นท์สนามสีดำหลังนี้ บทสนทนาของคนด้านในทำให้ผมสนใจเป็นอย่างมาก “เสนอให้แล้วครัับนาย…แต่มันไม่รับ….”เสียงสลดเอ่ยขึ้น “หึ…หยิ่งผยองนัก…ถ้ามันไม่เอาเงิน…ก็ฆ่ามันทิ้งซะ!!”เสียงเหี้ยมตะโกนแผดเสียงดังออกมาอย่างไม่พอใจ ทำให้ผมหรี่ตาอย่างนึกคิด ตำรวจที่พวกมันพูดถึง…และมันคิดที่จะฆ่าทิ้งก็คงจะเป็นผมสินะ… เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนมีคนมายื่นข้อเสนอให้ผมล้มเลิกภารกิจจับแก๊งค้ายานี้โดยระบุจำนวนเงินห้าล้านบาทเสนอให้กับผม แต่ผมไม่รับ ถึงเสนอให้ผมสูงถึงหนึ่งร้อยล้านบาท ผมก็ไม่เอา “หึ…ก็เพราะประเทศชาติมีคนแบบพวกมึงอยู่นี้ไง…ถึงได้จะล่มจมอย่างทุกวันนี้!”ผมพึมพำออกมาอย่างไม่พอใจ ไอ้คนที่อยู่ไปก็หนักแผ่นดินเกิด ในมือด้านหลังก็กำปืนพกสั้นที่เหน็บไว้ที่เข็มขัดด้านหลังแน่นด้วยความคับแค้นใจและไฟร้อนรนที่มันสุมอยู่ในอก พวกมันนำพาแต่ของสกปรกเข้ามาในแผ่นดินเกิดที่บรรพบุรุษยอมเสียสละเสียเลือดเสียเนื้อให้พวกเราชาวรุ่นหลังได้อยู่อย่างสบาย มีที่ทำกินอย่างทุกวันนี้ คนพวกนี้ผมปล่อยไว้ไม่ได้!! พรึบ “นายจะไ
“เดินไปข้างหน้า…และอย่าคิดตุกติกไม่งั้นมึงตาย…”ผมสั่งมันเสียงเข้ม มันก็พยักหน้าเป็นคำตอบให้ผมก่อนจะยอมทำตามที่ผมบอก โดยการเดินกลับไปยังทิศทางเดิมอย่างช้าๆ ผมก็เดินตามหลังมันไปพรึบ“นาย!!!”พรึบ พรึบ“วางปืนลง…ไม่งั้นนายมึงตาย…”ผมกดเสียงทุ้มต่ำพลางกดปลายกระบอกปืนจ่อไปที่ท้ายทอยของชายร่างสูงที่ชายชุดดำพวกนี้เรียกว่า นาย“วะวางปืนลงสิวะ!!!”เสียงคำรามอย่างสั่นเครือเอ่ยสั่งลูกน้องของตัวเองอย่างโมโหที่คนพวกนั้นไม่ยอมวางปืนลงตามคำสั่งของผมพรึบพรึบกระบอกปืนกลนับสิบกระบอกถูกวางลงบนพื้นดินตรงหน้าของผมอย่างช้าๆ“ยกมือขึ้น!!”ผมเอ่ยสั่งคนพวกนั้นเสียงเข้ม มันก็ยอมทำตามผมแต่โดยดีเพราะผมมีตัวประกันเป็นหัวหน้าของพวกมันพรึบตึกๆๆๆนายตำรวจแปดนายที่นำทีมมาโดยหมู่ปลาวิ่งเข้ามาหาสมทบกับผมและไม่ต้องรอให้ผมเอ่ยสั่งการอะไร พวกเขารู้หน้าที่รีบเดินไปเก็บกระบอกปืนกลเหล่านั้นออกมาจากชายชุดดำเหล่านั้นทันทีผมก็กระตุกยิ้มขึ้นมา ที่แผนของผมสำเร็จและผมก็ยังจับหัวหน้าแก๊งของพวกมันได้อีกด้วย งานนี้ผมจะได้ปิดคดีเสียทีทำไมมันช่างง่ายแบบนี้ แต่มันก็ยังเเอบทำให้ผม นึกแปลกใจและฉงนใจแบบแปลกๆอยู่ดี เพราะมันดูง่ายเกินไ
แกร๊ก “กูบอกมึงแล้ว…”เสียงเข้มดังมาจากชายร่างอ้วนตรงหน้าผมด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยและถากถาง “ไม่เชื่อกูเอง…” “หึ…ยอมทิ้งเงินห้าล้านแล้วเอาชีวิตมาทิ้งในหุบเขานี้..” “โง่ชิบหายแต่เสือกทำตัวอวดฉลาดและอวดเก่ง…” พรึบ “นี่มันหมายความว่ายังไงกันหมวดปลิว…?”ผมเอ่ยถามหมวดปลิวไปอย่างสงสัยหัวใจของผมมันร้อนรุ่มด้วยความเสียใจว่าคนดีๆอย่างหมวดปลิวจะกล้าทรยศต่อประเทศชาติได้จริงๆเหรอและผมเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดของไอ้อ้วนด้านหน้าผมอย่างไม่อยากเชื่อ ว่าหมวดปลิวจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ “หึ…ก็หมายความอย่างที่เห็น…”หมวดปลิวแสยะยิ้มมุมปากขึ้นมาพลางเอ่ยบอกผม สีหน้าที่เหี้ยมโหดของเขาทำให้ผมรับรู้ได้ว่าเขาไม่ใช่หมวดปลิวคนเดิน คนที่ผมเคยรู้จักอีกแล้ว พรึบ แกร็ด “หึ!”หมวดปลิวแค่นหัวเราะในลำคอและเขาใช้จังหวะที่ผมมัวแต่ตกใจจนอึ้งจับมือผมไปล็อคไว้แทนและก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้น และทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนผมไม่ทันตั้งตัว ผมเป็นฝ่ายโดนจับและผมคิดว่า ผมอาจจะไม่รอดไปจากที่นี่แน่นอน เพราะพวกมันวางแผนมาซ้อนแผนผม เขาทำให้ผมเชื่อใจอย่างสนิทใจว่าเขาคือคนดีและรักประเทศชาติเหมือนกันกับผม เพราะเราทำงานด้วยกันมา
“หึ…กูอีกนานเว้ยกว่าจะตาย..แต่คนที่จะชะตาขาดในวันนี้ก็คงจะเป็นมึงก่อนที่จะต้องตายก่อนกู…”“เราจะฆ่ามันด้วยวิธีไหนดีครับ…นาย..”“ถ้าพวกเรากลับไปโดยที่ไร้มัน…มีหวังพ่อมันผิดสังเกตแน่!”ผมเหลือบตาไปมองคนที่พูดประโยคสองประโยคเมื่อกี้อย่างไม่อยากที่จะเชื่อหูตัวเอง ว่าจะเป็นคนคนนี้ที่ผมไว้ใจมาตลอดเป็นคนพูดมันออกมา“จ่าปลา?”ผมเอ่ยชื่อเขาไปพลางมองเขาด้วยสายตาผิดหวัง เขาก็มองหน้าผมด้วยสายตาที่นิ่งเฉยอย่างไม่สะทกสะท้านอะไร และมองเลยไปด้านหลังเขา ตำรวจทุกนายที่มากับผมในวันนี้ ไม่มีใครเลยสักคนที่ถูกจับมัดแบบผมผมมองทุกคนด้วยสายตาผิดหวัง นี่ผมไว้ใจคนมากไปใช่ไหม ถึงได้มีชะตากรรมแบบนี้“เพราะอะไรกัน…ถึง?”ผมเอ่ยถามจ่าปลาไปอย่างจุกอยู่ในอก จ่าปลาก็กระตุกยิ้มให้ผม“เงินไง…เงินคือทุกสิ่งทุกอย่างของผม…”“ถ้าไม่มีเงิน…ผมก็คงจะไม่มีความสุข…”นี่คือคำพูดของจ่าปลา จ่าที่ผมปลุกปั้นมาเองกับมือ คำพูดของเขาทำให้ผมพูดอะไรไม่ออกทำได้เพียงแค่นำ้ตาตกใน พ่อครับ…เงินคือพระเจ้าสำหรับคนพวกนี้ครับ พ่อผมเป็นนายตำรวจยศผู้พันและเป็นหัวหน้าของผมและหัวหน้าของคนที่ทรยศจรรยาบรรณพวกนี้ด้วย“พวกคุณ….”ผมพูดได้เพียงแค่นี้จริงๆก่อน
“แถวนี้มีเสือด้วยเหรอ?”ผมพึมพำต่ออีกแต่เสียงของมันดังมากจากทิศทางเหนือลม เเสดงว่าต้นเสียงมันกำลังมุ่งหน้าไปยังที่ที่ผมเพิ่งจะวิ่งจากมานะตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆผมไม่รอช้ารีบวิ่งฝ่าสายลมที่พัดโหมกระหน่ำนี่ไปอย่างอยากลำบากเพราะต้องหลับตาวิ่งและต้องทนสู้กับสายลมที่สวนทาง ตึกๆๆๆๆๆๆ“วี๊ดดดดดดดดดดด!!!!!”ปังๆๆๆๆๆๆเสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมานหลายเสียงดังแผดและผสมผสานไปด้วยเสียงปืนกลนับหลายสิบกระบอกที่ยิงรัวอย่างไม่พักดังตามไล่หลังผมมาทำให้ผมหันกลับไปมองยังด้านหลังของผม ก็ทำให้ผมรับรู้ได้ว่า เสียงกรีดร้องหลายเสียงนั่น ดังมาจากคนพวกนั้นคนที่ทรยศประเทศชาติและจรรยาบรรณของตำรวจ นี่คงจะเป็นบทลงโทษของธรรมชาติ ผมนึกขอบคุณจากใจจริงๆที่มีเสือผ่านมาทางนี้พอดีหรืออาจจะเป็นกำหนดจากฟ้าก็ได้ที่มอบเวรกรรมให้เดินเร็วตามทันพวกมันได้ฉับพลันแบบนี้พรึบตุ๊บ“โอ้ย!!”ผมร้องออกมาอย่างเจ็บปวดที่ผมมัวแต่มองด้านหลังจนไม่ได้มองเบื้องหน้ากลับสะดุดกิ่งไม้ที่เลื้อยขึ้นไปตามทางล้มลงหน้าคะมำไถลไปกับพื้นดินตุ๊บ“โอ้ย…เจ็บ…”ผมอุทานออกมาก่อนจะค่อยๆขยับตัวพลิกตัวให้นอนหงายอย่างยากลำบากเพราะร่างกายของผมมันถูกพันธนาการด้วยเชือกเส้
“เป็นอะไรไหม?”เสียงทุ้มเอ่ยถามผมด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ผมที่รับรู้ได้ว่าผมกำลังอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของเจ้าของเสียงที่เอ่ยถามผมก็ค่อยๆลืมตามามองหน้าผู้ชายคนตรงหน้าใบหน้าเรียวเล็กหน้าตาคมเข้มนัยน์ตาสีดำแต่แวบหนึ่งเหมือนเป็นสีเหลือง จมูกโด่งใบหน้าของเราสองคนอยู่ใกล้กันมาก มากจนผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่กำลังเป่ารินรดใบหน้าของผมอยู่ลมหายใจของเขา หอมดีจังเราสองคนเหมือนตกอยู่ในห้วงแห่งภวังค์ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวเหมือนหยุดแน่นิ่งไปเหมือนเวลาหยุด เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างหยุดหมดแต่สิ่งที่กำลังเต้นรัวเร็วอยู่ในตอนนี้คือ หัวใจของผมและของเขาคนนี้ พรึบ“เอ่อ…เอ็งไม่เป็นไรใช่ไหม?”เหมือนคนร่างหนาจะได้สติก่อนผมเขาดันร่างของผมให้ลุกขึ้นยืนและเอ่ยถามผมเสียงเข้มพร้อมกับเสมองไปทางอื่นใบหน้าแดงก่ำอย่างคนที่กำลังเขินอายทำให้ผมยิ้มกรุ้มกริ่มขึ้นมา คนนี้แหละที่เป็นเจ้าของอ้อมกอดที่อบอุ่นที่กอดผมในตอนที่ผมกำลังฝันร้ายอยู่เมื่อคืนนี้“ข้าว่าเอ็งไปนอนพักก่อนเถอะ…จะรีบออกมาทำไม…”“พอดี…ผมหิวน้ำและก็หิวข้าวนะครับ…”ผมเอ่่ยบอกเขาไป เขาก็มองหน้าผมแต่ก็แค่แวบเดียวก่อนจะแปรเปลี่ยนมองไปทางอื่น“งั้นก็ไปนั่งรอที่เอ็งนอนก่
ภูดาว…..คือชื่อหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ใจกลางระหว่างภูเขาสองลูกที่มีชื่อว่า ภูเขาภูและภูเขาดาวที่มีรูปร่างคล้ายดาวห้าแฉก ชาวบ้านจึงเรียกขานภูเขาสองลูกที่อยู่ใกล้กันว่าภูเขาภูดาว ที่หมู่บ้านแห่งนั่นร่ำลือกันว่ามีนายพรานเก่งกาจอยู่หลายนับสิบคน แต่นายพรานพวกนั้นไม่มีใครสามารถฆ่าเสือสมิงใหญ่ตัวนั้นได้เลยสักคน……ยิ่งมันได้กินนายพรานที่มีวิชาอาคมแก่กล้ามากเข้าไปเพียงใด วิชาอาคมในตัวมันก็จะแกร่งกล้ามากขึ้นเท่านั้น…เสือสมิง…เสืออาคม คือคนที่เล่นของคาถาอาคม ทั้งไสยเวท ไสยศาสตร์ มนต์ดำ คุณไสย ทำผิดครูและผิดกฏต้องห้ามจนวิชาเหล่านั้นเข้าตัวทำให้กลายเป็นสัตว์เดรัจฉาน มันจะปลอมแปลงเป็นมนุษย์ที่มันฆ่าได้ทุกคน มันจะกัดกินเลือดกินเนื้อของมนุษย์เพื่อเพิ่ม พละกำลังและพละกำลังคุณเวชของมันที่อยู่ในตัวให้แกร่งกล้าขึ้น กระสุนธรรมดาทำอะไรมันไม่ได้ มันไม่ตาย เพราะหนังมันเหนียว มันมีของต่ำมากมายอยู่ในตัวสองสิ่งที่จะฆ่ามันได้ก็คือ….กระสุนปลุกเสกจากคนที่มีคาถาอาคมแกร่งกล้า และมีดหมอปลุกเสกนั่นเอง…………………………………………..พุทธศักราช2466เช้าวันต่อมาหมู่บ้านภูดาวบ้านของพรานเข้มดาวเหนือ…..“อืมมมม…”ผมครวญครางออกมาก่
19:00น.พรึบ“เสือ!!!”เสียงทุ้มดังตะโกนขึ้นอย่างคนที่ตกใจสุดขีด ผมที่นอนหลับกำลังฝันดีก็เผลอสะดุ้งสุดตัวผวาตื่นไปด้วยอย่างตกใจทคนที่นอนกอดผมและผมก็นอนกอดมันอยู่ทั้งวันผุดลุกนั่งขึ้นอย่างรวดเร็วผมก็งัวเงียๆและก็ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่งตามคนร่างเล็กไป ขอเรียกมันว่าร่างเล็กล่ะกันถึงมันจะเป็นผู้ชายที่ร่างกายเต็มไปด้วยหมัดกล้ามแต่มันก็ตัวเล็กกว่าผมอยู่ดีเหงื่อโทรมกายจนเปียกชุ่มจนลามมาถึงร่างกายของผมเองก็ด้วยพรึบ“หะเห้ย!”เเรงสะบัดพร้อมกับตัวสั่นเทาด้วยความกลัวจัดของคนตรงหน้าผมที่ผมยื่นมือไปจะจับไหล่เขาแต่ถูกเขากลับสะบัดมือผมออก“ตั้งสติ…”ผมเอ่ยขึ้นบอกคนร่างหนาที่เล็กกว่าผมที่นั่งตัวสั่นเทาด้วยความกลัวดูเหมือนเขาจะขาดสติหลุดไปแล้ว เพราะการตกใจสุดขีดของเขาที่เห็นไอ้พรายสมิงมันฆ่าคนตายต่อหน้าต่อตาเขาทำให้เขาตกใจสุดขีดและสติหลุดผมคงต้องเรียกสติให้เขาพรึบตุ๊บผมยันตัวนั่งคุกเข่าและทำการใช้เล็บจิกลงไปบนนิ้วชี้ของตัวเองให้เลือดสีแดงสดไหลรินออกมาก่อนจะเอื้อมมือไปจับคนร่างหนาตรงหน้าของผมยึดไว้อย่างแรงและจัดการดันร่างของเขาให้ติดกับฝาไม้ด้านหลังและกดปลายนิ้วชี้ที่มีเลือดของผมจี้ลงไปบนกลางหน้าผา
ผมก็รีบหันไปรินน้ำใส่แก้วน้ำที่ทำจากกระบอกไม้ไผ่และรีบหันมายกร่างของคนร่างหนาขึ้นอุ้มไว้ในอ้อมแขนของผมและผมก็จ่อแก้วกระบอกไม้ไผ่ไปที่ริมฝีปากแห้งผาดของเขาอย่างนุ่มนวล“อึกๆๆๆๆ”“ค่อยๆกินก็ได้…เดี๋ยวก็สำลักตายกันพอดี!”ผมพูดเสียงเข้มอย่างดุคนในอ้อมแขนไปที่ดื่มน้ำอย่างกระหาย ก็แหงล่ะ เขาเล่นหลับไปสองวันเต็มๆเลยหนิ จะไม่หิวได้ยังไง“อืม…ขอบใจ…”เสียงแหบแห้งเอ่ยออกมา ผมก็จัดการวางร่างของเขาให้นอนลงกลับไปบนที่นอนตามเดิมอย่างเบามือ และก็มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาต่อที่คิดว่าเขาคงจะตื่นแต่กลับไม่เลย “นอนหลับต่อซะงั้น….ขี้เซาจังนะเอ็ง?!”ผมพึมพำออกมาก่อนจะขมวดคิ้วและก็ยิ้มบางๆออกมา ใช่ผมยิ้มบางๆออกมาอย่างนั้นเหรอ“เห้ย!”ผมร้องอุทานออกมาก่อนจะสะบัดศีรษะแรงๆเพื่อไล่ความคิดไม่ดีออกไปหัวของผมก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืนและเดินออกมาจากห้องนอนของผมเพื่อจะไปทำการตำยาสมุนไพรที่ผมเข้าไปเก็บจากในป่าเพื่อนำมาใส่แผลและรักษาบาดแผลที่เกิดจากการถูกยิงให้ชายหนุ่มหน้าหล่อคนนั้นผิวที่ขาวเนียนละเอียดของเขาผิดแปลกไปจากชาวบ้านของที่นี่มาก เพราะผู้ชายที่นี่ร่างกายจะหนาและกำยำผิวสองสีเหมือนกันกับผม เพราะพวกเราชอบถอดเสื้อกัน
การข้ามภพ…ข้ามชาติ…ไม่ใช่ว่าใครจะไปก็ไปกันได้…แต่ต้องเป็นคนที่ถูกเลือกแล้วเท่านั้น…..ข้ามภพมาอยู่อีกมิติหนึ่งที่อาจจะเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตหรืออาจจะยังไม่เคยเกิดขึ้นก็ได้ นั่นเป็นเพราะมีใครบางคนอยากให้เรามาเพื่อเปลี่ยนแปลงและช่วยเหลืออะไรบางอย่าง คือสิ่งที่เรียกว่าคนบนฟ้าเป็นคนกำหนดนั่นคือ พรมลิขิตนั่นเอง….การจะข้ามภพ ต้องใช้เวลา สถานที่ ต้องเป็นเวลาที่ตรงกัน สถานทีที่เดียวกัน และทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับ ชะตาลิขิต ฟ้าลิขิตและกรรมลิขิต…..……………………………………………….พุทธศักราช 2466หมู่บ้าน ภูดาวบ้านของนายพรานเข้ม08:30น.พรานเข้ม……พรึบ“พ่อหนุ่มเป็นยังไงบ้าง?”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง ผมที่กำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้คนร่างหนาอยู่ก็ต้องละสายตาจากใบหน้าละมุนกลับไปมองพ่อของผมด้วยสายตาเรียบเฉย“ยังไม่ฟื้นเลยพ่อ…”“นี่ข้าก็ทำแผลให้แล้ว….”ผมตอบพ่อของผมไปพลางหันกลับมามองพ่อหนุ่มน้อยตรงหน้าของผมต่อ ดวงตาที่ปิดสนิทของเขาใบหน้าหล่อเหลาคมคายอย่างไร้ที่ติริมฝีปากสีชมพูสดที่กำลังเผยออยู่เพราะเขากำลังหายใจทางปากมันทำให้เขาดูมีเสน่ห์ในแบบที่ไม่เหมือนใครดีนะ“อืม…พอเขาฟื้นแล้วรีบเอายาต้มให้กินทันที..”“เ
“แถวนี้มีเสือด้วยเหรอ?”ผมพึมพำต่ออีกแต่เสียงของมันดังมากจากทิศทางเหนือลม เเสดงว่าต้นเสียงมันกำลังมุ่งหน้าไปยังที่ที่ผมเพิ่งจะวิ่งจากมานะตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆผมไม่รอช้ารีบวิ่งฝ่าสายลมที่พัดโหมกระหน่ำนี่ไปอย่างอยากลำบากเพราะต้องหลับตาวิ่งและต้องทนสู้กับสายลมที่สวนทาง ตึกๆๆๆๆๆๆ“วี๊ดดดดดดดดดดด!!!!!”ปังๆๆๆๆๆๆเสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมานหลายเสียงดังแผดและผสมผสานไปด้วยเสียงปืนกลนับหลายสิบกระบอกที่ยิงรัวอย่างไม่พักดังตามไล่หลังผมมาทำให้ผมหันกลับไปมองยังด้านหลังของผม ก็ทำให้ผมรับรู้ได้ว่า เสียงกรีดร้องหลายเสียงนั่น ดังมาจากคนพวกนั้นคนที่ทรยศประเทศชาติและจรรยาบรรณของตำรวจ นี่คงจะเป็นบทลงโทษของธรรมชาติ ผมนึกขอบคุณจากใจจริงๆที่มีเสือผ่านมาทางนี้พอดีหรืออาจจะเป็นกำหนดจากฟ้าก็ได้ที่มอบเวรกรรมให้เดินเร็วตามทันพวกมันได้ฉับพลันแบบนี้พรึบตุ๊บ“โอ้ย!!”ผมร้องออกมาอย่างเจ็บปวดที่ผมมัวแต่มองด้านหลังจนไม่ได้มองเบื้องหน้ากลับสะดุดกิ่งไม้ที่เลื้อยขึ้นไปตามทางล้มลงหน้าคะมำไถลไปกับพื้นดินตุ๊บ“โอ้ย…เจ็บ…”ผมอุทานออกมาก่อนจะค่อยๆขยับตัวพลิกตัวให้นอนหงายอย่างยากลำบากเพราะร่างกายของผมมันถูกพันธนาการด้วยเชือกเส้
“หึ…กูอีกนานเว้ยกว่าจะตาย..แต่คนที่จะชะตาขาดในวันนี้ก็คงจะเป็นมึงก่อนที่จะต้องตายก่อนกู…”“เราจะฆ่ามันด้วยวิธีไหนดีครับ…นาย..”“ถ้าพวกเรากลับไปโดยที่ไร้มัน…มีหวังพ่อมันผิดสังเกตแน่!”ผมเหลือบตาไปมองคนที่พูดประโยคสองประโยคเมื่อกี้อย่างไม่อยากที่จะเชื่อหูตัวเอง ว่าจะเป็นคนคนนี้ที่ผมไว้ใจมาตลอดเป็นคนพูดมันออกมา“จ่าปลา?”ผมเอ่ยชื่อเขาไปพลางมองเขาด้วยสายตาผิดหวัง เขาก็มองหน้าผมด้วยสายตาที่นิ่งเฉยอย่างไม่สะทกสะท้านอะไร และมองเลยไปด้านหลังเขา ตำรวจทุกนายที่มากับผมในวันนี้ ไม่มีใครเลยสักคนที่ถูกจับมัดแบบผมผมมองทุกคนด้วยสายตาผิดหวัง นี่ผมไว้ใจคนมากไปใช่ไหม ถึงได้มีชะตากรรมแบบนี้“เพราะอะไรกัน…ถึง?”ผมเอ่ยถามจ่าปลาไปอย่างจุกอยู่ในอก จ่าปลาก็กระตุกยิ้มให้ผม“เงินไง…เงินคือทุกสิ่งทุกอย่างของผม…”“ถ้าไม่มีเงิน…ผมก็คงจะไม่มีความสุข…”นี่คือคำพูดของจ่าปลา จ่าที่ผมปลุกปั้นมาเองกับมือ คำพูดของเขาทำให้ผมพูดอะไรไม่ออกทำได้เพียงแค่นำ้ตาตกใน พ่อครับ…เงินคือพระเจ้าสำหรับคนพวกนี้ครับ พ่อผมเป็นนายตำรวจยศผู้พันและเป็นหัวหน้าของผมและหัวหน้าของคนที่ทรยศจรรยาบรรณพวกนี้ด้วย“พวกคุณ….”ผมพูดได้เพียงแค่นี้จริงๆก่อน
แกร๊ก “กูบอกมึงแล้ว…”เสียงเข้มดังมาจากชายร่างอ้วนตรงหน้าผมด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยและถากถาง “ไม่เชื่อกูเอง…” “หึ…ยอมทิ้งเงินห้าล้านแล้วเอาชีวิตมาทิ้งในหุบเขานี้..” “โง่ชิบหายแต่เสือกทำตัวอวดฉลาดและอวดเก่ง…” พรึบ “นี่มันหมายความว่ายังไงกันหมวดปลิว…?”ผมเอ่ยถามหมวดปลิวไปอย่างสงสัยหัวใจของผมมันร้อนรุ่มด้วยความเสียใจว่าคนดีๆอย่างหมวดปลิวจะกล้าทรยศต่อประเทศชาติได้จริงๆเหรอและผมเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดของไอ้อ้วนด้านหน้าผมอย่างไม่อยากเชื่อ ว่าหมวดปลิวจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ “หึ…ก็หมายความอย่างที่เห็น…”หมวดปลิวแสยะยิ้มมุมปากขึ้นมาพลางเอ่ยบอกผม สีหน้าที่เหี้ยมโหดของเขาทำให้ผมรับรู้ได้ว่าเขาไม่ใช่หมวดปลิวคนเดิน คนที่ผมเคยรู้จักอีกแล้ว พรึบ แกร็ด “หึ!”หมวดปลิวแค่นหัวเราะในลำคอและเขาใช้จังหวะที่ผมมัวแต่ตกใจจนอึ้งจับมือผมไปล็อคไว้แทนและก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้น และทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนผมไม่ทันตั้งตัว ผมเป็นฝ่ายโดนจับและผมคิดว่า ผมอาจจะไม่รอดไปจากที่นี่แน่นอน เพราะพวกมันวางแผนมาซ้อนแผนผม เขาทำให้ผมเชื่อใจอย่างสนิทใจว่าเขาคือคนดีและรักประเทศชาติเหมือนกันกับผม เพราะเราทำงานด้วยกันมา
“เดินไปข้างหน้า…และอย่าคิดตุกติกไม่งั้นมึงตาย…”ผมสั่งมันเสียงเข้ม มันก็พยักหน้าเป็นคำตอบให้ผมก่อนจะยอมทำตามที่ผมบอก โดยการเดินกลับไปยังทิศทางเดิมอย่างช้าๆ ผมก็เดินตามหลังมันไปพรึบ“นาย!!!”พรึบ พรึบ“วางปืนลง…ไม่งั้นนายมึงตาย…”ผมกดเสียงทุ้มต่ำพลางกดปลายกระบอกปืนจ่อไปที่ท้ายทอยของชายร่างสูงที่ชายชุดดำพวกนี้เรียกว่า นาย“วะวางปืนลงสิวะ!!!”เสียงคำรามอย่างสั่นเครือเอ่ยสั่งลูกน้องของตัวเองอย่างโมโหที่คนพวกนั้นไม่ยอมวางปืนลงตามคำสั่งของผมพรึบพรึบกระบอกปืนกลนับสิบกระบอกถูกวางลงบนพื้นดินตรงหน้าของผมอย่างช้าๆ“ยกมือขึ้น!!”ผมเอ่ยสั่งคนพวกนั้นเสียงเข้ม มันก็ยอมทำตามผมแต่โดยดีเพราะผมมีตัวประกันเป็นหัวหน้าของพวกมันพรึบตึกๆๆๆนายตำรวจแปดนายที่นำทีมมาโดยหมู่ปลาวิ่งเข้ามาหาสมทบกับผมและไม่ต้องรอให้ผมเอ่ยสั่งการอะไร พวกเขารู้หน้าที่รีบเดินไปเก็บกระบอกปืนกลเหล่านั้นออกมาจากชายชุดดำเหล่านั้นทันทีผมก็กระตุกยิ้มขึ้นมา ที่แผนของผมสำเร็จและผมก็ยังจับหัวหน้าแก๊งของพวกมันได้อีกด้วย งานนี้ผมจะได้ปิดคดีเสียทีทำไมมันช่างง่ายแบบนี้ แต่มันก็ยังเเอบทำให้ผม นึกแปลกใจและฉงนใจแบบแปลกๆอยู่ดี เพราะมันดูง่ายเกินไ