“เสือเย็น”เป็นวิชากลายร่างจากมนุษย์แปลงเป็น เสือ ตำนานสมิงร้ายแห่งล้านนาที่อยู่คู่กับเรื่องเล่าของชาวบ้านมานาน
“เสือเย็น" วิชากลายร่างจากมนุษย์แปลงเป็น "เสือ" ถึงวิชาคล้ายกับ "เสือสมิง" เสือเย็น จะเป็นวิชาอาคมที่ใช้แปลงร่างเป็นเสือ แต่สามารถควบคุมสติของตนเองและไม่อาละวาดฆ่าคนได้ แต่ถ้าเป็นเสือสมิงจะไม่สามารถควบคุมสติของตนเองได้เมื่อกลายร่าง ……………………………………………… ดาวเหนือ…. ต่อ… พรึบ “แผลเอ็งพรุ่งนี้ก็น่าจะหายแล้ว…”พี่เข้มเอ่ยขึ้นหลังจากที่เขาใส่ยาสมุนไพรให้ผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็นั่งมองพี่เข้มสุดหล่อตาไม่กระพริบด้วยความปลื้มปริ่มใจยังไงบอกไม่ถูก นี่ผมกำลังชอบเขาคนนี้แล้วใช่ไหม? พี่เข้มใช้ผ้าผืนใหม่พันรอบๆเอวผมเพื่อปิดบาดแผลผมให้อย่างนุ่มนวลและเบามือ ผมก็จ้องมองพี่เข้มตลอดระยะเวลาที่เขาทำแผลให้ผม แต่น่าแปลกใจว่าผมนึกว่าจะโดนยิงจนตัวพุนซะอีกทีไหนได้โดนแค่นัดเดียวแต่ก็น่าแปลกอีกว่าทำไมเวลาแค่สามวันแผลผมถึงได้หายเร็วอย่างนี้ เพราะมันเกือบปิดจนสนิทแล้ว แผลสมานกันจนจะหายอยู่แล้วหรืออาจจะเป็นเพราะยาสมุนไพรของพี่เข้มก็ได้ ความรู้สึกที่คุ้นเคยกับเขาคนนี้ มันคืออะไรกันนะ “เรา…เคยเจอกันมาก่อนไหมครับ..?”ผมเอ่ยถามพี่เข้มไปอย่างสงสัย พี่เข้มที่ทำแผลเสร็จแล้วก็ทำท่าจะยันตัวลุกขึ้นยืนก็หันมามองหน้าผม ด้วยแววตาที่เรียบเฉย “ใช่…เอ็งกับข้าเคยเจอกัน” “แต่มันมานานแล้ว…”พี่เข้มตอบผมเสียงเรียบแววตาเรียบเฉยก่อนจะหันหลังและเดินออกจากห้องนี้ไป ปล่อยให้ผมงุนงงกับคำพูดของเขาอยู่เพียงคนเดียว เคยเจอกันมานานแล้วเหรอ…? ไม่นะ…ผมกับเขาเราไม่เคยเจอกันมาก่อนหนิ… แต่ทำไมเขากลับพูดแบบนั้นล่ะ…? ผมจมปรักอยู่กับคำพูดที่แสนจะกำกวมของพี่เข้มทั้งวันทั้งคืน นั่งก็แล้ว นอนก็แล้ว ผมก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดีว่าเคยเจอเขาคนนี้ที่ไหนมาก่อน แต่ความรู้สึกของผมมันบอกว่าผมคุ้นเคยและผูกพันกับเขามาก่อนแน่ๆ เช้าวันต่อมา…. “อื้ออออ”ผมบิดขี้เกียจไปมาอย่างหลับสบายเพราะอากาศตอนกลางคืนที่นี่ค่อนข้างเย็นสบายมากๆ ว่าแต่แถวหุบเขาภูดาวมีหมู่บ้านด้วยเหรอ? ผมไม่ยักรู้มาก่อนแหะ…ตอนที่ผมสำรวจพื้นที่กับกรมป่าไม้ก็ไม่เคยเจอหมู่บ้านเลยนะ หรือคนพวกนี้จะเป็นพวกเพื่อนบ้านของผม แต่ก็ไม่น่าใช่นะเพราะเขาพูดภาษาไทยหนิ ผมฟังพี่เข้มเข้าใจและหน้าตาพี่เข้มก็หล่อเข้มสมเป็นชายชาติไทยสมบูรณ์ทุกอย่างเลยด้วย หรือว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะตกสำรวจ ใช่ต้องเป็นอย่างนี้แน่ๆ วันนี้ผมจะเดินสำรวจเพื่อจะกลับบ้านให้ได้และก็จะถามพี่เข้มด้วยว่าเจอผมที่ไหน ผมจะให้เขาไปส่งผมกลับบ้าน พรึบ ผมยันตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนอย่างช้าๆเพราะยังคงงัวเงียกับการนอนหลับสบายอยู่ แต่ที่น่าแปลกใจในร่างกายของผมนั่นคือแผลจากการถูกยิงของผม ซึ่งตอนนี้มันไม่เจ็บแล้ว ไม่เจ็บเลยสักนิด เหมือนมันไม่เคยถูกยิงหรือมีแผลมาก่อนด้วยซ้ำ พรึบ ว่าแล้วอย่างสงสัยผมก็ใช้มือปลดผ้านิ่มที่พี่เข้มใช้พันแผลให้ผมออกจากเอวสอบของผมทันทีและทันใดนั้นก็ต้องทำให้ผมถึงกับอ้าปากค้้างด้วยความตกใจกับภาพเบื้องหน้าที่เห็น “ไม่มีแม้กระทั่งรอยของแผลเป็น…” “มันเป็นไปได้อย่างไง?”ผมอุทานออกมาอย่างตกใจกับบาดที่หน้าท้องผม ไม่สิ เมื่อคืนตอนที่พี่เข้มเข้ามาทำแผลให้ผมมันยังมีร่องรอยของบาดแผลอยู่เลยแต่ทำไมตอนนี้กลับไม่มี ไม่หลงเหลือแม้กระทั่งรอยแผลเป็นเสียด้วยซ้ำ “เห้ย!”ผมทำหน้าตกใจกับสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว “น่าเหลือเชื่อ…”ผมพูดขึ้นพร้อมกับเลิกให้ความสนใจบาดเเผลที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยของผมและลุกขึ้นยืนเดินเปลือยท่อนบนออกมาจากห้องนอนแห่งนี้ด้วยท่าทางปกติไม่เหมือนคนเจ็บอีกต่อไป “พี่เข้มครับ…”ผมตะโกนเรียกหาเจ้าของบ้านแต่ก็ไร้วี่เเววของเขา ทำให้ผมขมวดคิ้วงุนงงว่าเขาไปไหนกันนะ ผมจึงเลือกที่จะเดินมาที่ชานบ้านพักและเดินลงบันไดสามขั้นมาพร้อมกับมองไปรอบๆเพื่อหาพี่เข้มแต่ก็ยังคงไร้วี่แววเช่นเดิม“อ้าว…เป็นยังไงบ้างล่ะพ่อหนุ่ม?”เสียงเข้มทุ้มอย่างคนมีอายุของผู้ชายเอ่ยทักทายผม ผมที่กำลังมองซ้ายมองขวาเพื่อหาร่างของพี่เข้มอยู่ก็ต้องหันกลับไปมองยังต้นเสียงของผู้ชายนั้นทันที“คุณลุง?”ผมเอ่ยขึ้นเรียกเขาไปที่น่าพอจะเป็นคุณลุงได้แล้ว เพราะเขาก็อายุอานามน่าจะปาเข้าไปเลขเจ็ดแล้วล่ะมองท่า เขานั่งอยู่บนแคร่ด้านหน้าบ้านหลังติดๆกับพี่เข้มนี่เอง โดยที่เขาสวมใส่เสื้อม่อฮ้อมสีซีดกำลังนั่งเคี้ยวหมากอยู่ในปากของเขาอย่างเพลิดเพลินที่ผมรู้ว่าเขากำลังกินหมากอยู่นั้นเพราะผมเห็นเขาห่อหมากน่ะ“มานี่สิ….”เขาเอ่ยเชื้อชวนพร้อมกับกวักมือเรียกผมให้เข้าไปหาเขา ผมก็คลี่ยิ้มบางๆให้เขาก่อนจะเดินไปหาชายคนนั้น ที่จะว่าชราภาพก็ไม่น่าใช่เพราะเขายังคงดูแข็งแรงอยู่เลยนะ“สวัสดีครับ…”ผมยกมือไหว้คุณลุงไปอย่างสุภาพอ่อนน้อมเขาก็ยิ้มอย่างใจดีให้ผมก่อนจะยกมือรับไหว้ผม“ไหว้พระๆๆเถอะ…นั่งลงสิ…”“ขอบคุณครับ…”ผมเอ่ยขอบคุณเขาไปพร้อมกับก้มศีรษะลงเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงบนแคร่หน้าบ้านของคุณลุงเขาโดยยิ้มแหยๆให้เขาไปเขาก็ผมจ้องมองผมด้วยสายตาเอ็นดู ใช่สายตาเอ็นดูแน่นอน ผมเป็นตำรวจ ผมจับผิดนักโทษบ่อยผมมั่นใจว่าผมมองคนไม่ผิดแน่“แผลขอ
ประตูเมืองภูดาว….หรือประตูมิติที่ชาวบ้านแถวบ้านไร่สวนนฤมลเรียกขาน ประตูมิติภูดาวจะเปิดต้อนรับพวกคนไม่ดี ที่คิดร้ายกับป่า คิดร้ายกับสัตว์สงวน พวกที่ชอบตัดไม้ทำลายป่าแต่แท้ที่จริงแล้ว….มันไม่ใช่ประตูมิติภูดาวกลืนกินคนใจบาปอย่างที่ถูกเล่าขานกันต่อๆมา แต่มันคือประตูมรณะที่พรายเสือสมิงร่ายมนตร์สร้างประตูนี้ขึ้นมาเพื่อหาเหยื่อมาให้มันกลืนกินนั่นเอง…..ประตูมิตินี้จะถูกเปิดออกเฉพาะวันพระใหญ่เท่านั้น นั่นคือวันขึ้น15ค่ำและแรม15ค่ำ โดยในวันพระใหญนั่นต้องมีวันสำคัญทางศาสนาประกอบอยู่ด้วย ได้แก่ วันมาฆบูชา, วันวิสาขบูชา, วันอาสาฬหบูชา, วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษาหนึ่งปี 365วันหรือ366วัน ประตูมิติจะถูกเปิดออกและถูกปิดแค่5ครั้งต่อหนึ่งปีเท่านั้น……และประตูมิติภพนี่จะถูกทำลายและสูญสิ้นไปก็ต่อเมื่อ คนที่ร่ายมนต์เปิดประตูมิติภพได้ตายลงไปแล้ว….…………………………………………………“ไอ้เข้มมันออกไปล่าสัตว์…เย็นๆค่ำๆนู้นถึงจะกลับมา…”“เอ็งก็อยู่ที่บ้านกับข้านี่แหละ…”“อย่าเที่ยวออกไปเดินเพ่นพ่าน…”“ถ้าไม่อยากโดนเสือขย้ำตาย…”สิ้นเสียงขำขันอย่างทีเล่นทีจริงของลุงสิงห์ผมก็ยิ้มแหยๆให้เขาไปและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่เขาพูดมาเมื
เหมือนผมเป็นพวกสิ่งแปลกประหลาดที่ผิดแปลกไปจากพวกเขาอย่างงั้นแหละผมก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มแหยๆให้เขากลับไปและรีบเดินออกไปทางป่าไม้ที่เป็นแปลงผักสวนครัวของชาวบ้านที่นี่อยู่หลายแปลงอย่างรวดเร็วชาวบ้านที่นี่ก็แปลกเหมือนกันนะ ใช้ชีวิตเหมือนคนหนึ่งร้อยกว่าปีก่อน ใช้ม้าใช้เกวียนเป็นยานพาหนะแทนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในสมัยนี้หรือว่าหมู่บ้านนี่จะเป็นหมู่บ้านที่ตกสำรวจจริงๆ ว่าแต่ที่หมู่บ้านนี่มันอยู่ตรงส่วนไหนของภูมิประเทศกันล่ะกลับไปคราวนี้ผมจะสืบดูและให้ทางการเข้ามานำพาความเจริญให้คนพวกนี้เพราะที่นี่ไม่มีน้ำไฟฟ้าเข้าถึงเลย“หรือว่า…คนพวกนี้จะเป็นชาวบ้านที่หนีเข้าประเทศ?”ผมพึมพำออกมาอย่างสงสัย เพราะถ้าเป็นพวกที่ลับลอบเข้าประเทศของผมผิดกฏหมายและคนพวกนี้จะต้องโดนทางการจับและส่งตัวกลับประเทศของพวกเขาเป็นแน่แต่พี่เข้มกับลุงสิงห์พวกเขาใจดีอุตส่าห์ช่วยชีวิตผมให้รอดพ้นจากเสือใหญ่ตัวนั้น ผมจะทรยศพวกเขาได้เหรอพรึบซ่าาาาาาาาาา“น้ำตก?”ผมพึมพำออกมาก่อนจะหยุดมองภาพเบื้องหน้าอย่างตกตะลึงให้ความสวย น้ำตกที่ไหลรินลงมาจากยอดภูเขาสองลูกที่อยู่ติดกันลงสู่พื้นน้ำหนองด้านล่างน้ำสีใสมองเห็นตัวปลา ทำให้ผมละสายต
“รักมานานแล้ว…”เสียงหวานของเธอเปล่งออกมาพร้อมกับร่างเล็กที่อวบอั๋นที่ขาวโพลนของเธอเดินไปซ้อนหลังของพี่เข้มพลางใช้หน้าอกที่ใหญ่โตของเธอถูเสียดสีไปกับแผ่นหลังกว้างของพี่เข้ม ทำไมผมรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจแบบนี้ ทำไมผมรู้สึกหวงพี่เข้มอย่างงั้นเหรอ “อีเดือน…เอ็งอย่าทำแบบนี้…” “ทำไมล่ะจ้ะ…ฉันยินดีที่จะเป็นเมียของพี่…” “ยอมเป็นของพี่เข้มแค่คนเดียว…” ร่างเล็กใช้หน้าอกของเธอถูเสียดสีไปกับร่างเปลือยท่อนบนของพี่เข้มไปอย่างยั่วยวนพร้อมครวญครางเสียงกระเส่านั่นออกมา ผมรีบหันหลังให้สองคนนั้นอย่างไว ผมทำใจดูแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว…. ผมเจ็บ ผมเจ็บเหลือเกิน…. เมื่อหลายสิบปีก่อน ก่อนที่จะมีบ้านปูนบ้านไม้สองชั้น ตึกรามบ้านช่อง โรงแรม คอนโดหรูหราหลายสิบชั้นเหมือนเช่นทุกวันนี้ เคยมีป่ารกทึบต้นไม้ใบเขียวขึ้นเต็มต้นไม้ใหญ่มีอายุยืนยาวหลายร้อยปี มีบ้านเรือนมีหมู่บ้านที่สุขสงบ คนสมัยก่อน ใช้การเดินท้าวและเกวียนในการขนย้ายสัมภาระและการเดินทางไปยังที่ไกล ใช้ม้าวัวควายเป็นยานพาหนะ แต่ปัจจุบันมองไปทางไหนก็มีแต่บ้านเมือง ตึกสูงถนนคอนกรีต รถเหล็กวิ่งตามราง รถยนต์ที่ใช้น้ำมันในการเดินเครื่องทั่วทั้งป
“ใครกัน…ที่บังอาจมาแย่งพี่เข้มไปจากข้า!!!”แสงเดือนหญิงสาวชาวบ้านวัยยี่สิบห้าปีเศษยืนดีดดิ้นอยู่ในน้ำลำธารสีใสอย่างไม่พอใจ ที่ชายคนที่สาวชาวบ้านทุกคนหมายตาหมายปองกลับปฏิเสธรักกับเธอแถมเขายังปฏิเสธร่างกายของเธออีก เขาเป็นใครกันถึงกล้าปฏิเสธลูกสาวผู้ใหญ่บ้านอย่างเธอได้!!“เอ็งไม่ต้องฟูมฟายไปหรอก…”เสียงเข้มของชายร่างสูงกำยำที่เรือนร่างเต็มไปด้วยหมัดกล้ามที่แข็งแกร่งร่างกายบึกบึนกำลังยืนกอดอกมองร่างเปลือยของหญิงสาวอยู่บนโขนหินเหนือที่หญิงสาวยืนอยู่“เอ็งเป็นใคร!!”แสงเดือนแผดเสียงใส่ชายผู้มาใหม่ที่ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าอย่างไม่พอใจพร้อมกับยกมือเล็กของเธอขึ้นมาปิดของสงวนของเธอไว้อย่างหวงแหนที่เธอเฝ้าเก็บรักษามันไว้อย่างดีเพื่อให้พรานหนุ่มเข้มได้เชยชมเพียงคนเดียว“หึ…ข้าเป็นใครไม่สำคัญ…มันสำคัญแค่ว่า…”“เอ็งชอบไอ้เข้ม…และอยากได้มันเป็นผัวใช่หรือไม่!”เสียงเหี้ยมเปล่งออกมาจากริมฝีปากดำคล่ำทำให้แสงเดือนขมวดคิ้วอย่างสงสัยและแอบหวาดกลัวกับชายแปลกหน้าตรงหน้าเธอคนนี้เพราะเธอไม่เคยเห็นเขามาก่อน เขาไม่ใช่คนในหมู่บ้านนี่เป็นแน่ เพราะหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆเราอยู่กันแบบพี่น้องรู้จักมักจี่กันทุ
“ใช่พ่อ…ข้าไปในวันที่ปลามันขึ้นพอดี…”พี่เข้มตอบลุงสิงห์แต่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากการง่วนอยู่กับการชำแระเนื้อปลาของเขาอยู่อย่างตั้งอกใจ ผมก็พยายามที่จะไม่มองไปที่พี่เข้ม “อ้าว…ไอ้เหนือ…มานั่งนี่สิ…”เสียงของลุงสิงห์ที่เรียกผมทำให้ผมสะดุ้งสุดตัวพี่เข้มที่เมื่อกี้ยังคงให้ความสนใจกับการแล่เนื้อปลาก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมเช่นกัน แต่ผมก็ไม่มองหน้าแกกลับหันมามองหน้าลุงสิงห์แทน “รอไอ้เข้มมันทำปลาให้เสร็จก่อน..แล้วเอ็งกับข้าค่อยกิน…” “ครับ…ลุง…”ผมตอบรับคำลุงสิงห์ไปก่อนจะเดินไปตามคำชวนของแก โดยมีสายตาคมเข้มคู่สวยของพี่เข้มจ้องมองมาที่ผมด้วยความสงสัยอยู่ “รีบๆทำสิวะ..ข้าหิวแล้ว…” “ได้พ่อ!”พี่เข้มตอบรับคำลุงสิงห์ก่อนจะก้มหน้าลงไปทำปลาต่อ ผมก็หันมายิ้มแหยๆให้ลุงสิงห์แอบดูพี่เข้มเป็นระยะๆพี่เข้มเองก็เงยหน้าขึ้นมามองผมเป็นระยๆเช่นกัน แต่ผมรู้ตัวว่ากำลังถูกเขาจ้องมองอยู่ เขาก็รีบก้มหน้าหลบสายตาผมทันที แล้วทำไมผมต้องไม่กล้าสู้หน้าเขาด้วย เขาจะรักจะมีอะไรกับใคร…มันก็เรื่องของเขาสิ… ผมแค่มาอาศัยอยู่บ้านเขาแค่ไม่กี่วัน พรุ่งนี้ มะรืนนี้ผมก็จะหาทางกลับบ้านของผมแล้ว(ไสยศาสตร์ ไสยเวท มนตร์ดำ เป
“เหล้าที่นี่รุนแรงจังเลยนะครับ…เอือก…”ผมบอกไปพลางส่งไหดินกลับคืนพี่เข้มไป แกก็ยื่นมือมารับไหดินไปจากผมและยกขึ้นกระดกดื่มต่อผมก็ดื่มและเราสามคนก็ต่างพากันร้องเพลงที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนจากลุงสิงห์และพี่เข้มเราสังสรรค์กันนานสองนาน นานจนผมไม่สามารถรับรู้ได้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้วเพราะที่นี่ไม่มีนาฬิกาสิ่งเดียวที่จะบอกเวลาเราได้คือ พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกกับพระจันทร์…ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมที่นี่ถึงได้ทุรกันดารแบบนี้ ขาดความเจริญไปเสียหมด………………………………ชายหนุ่มหน้าหล่อคมเข้มมีนามว่าเข้มหิ้วปีกของสารวัตรหนุ่มดาวเหนือที่หลับใหลเพราะพิษจากของน้ำเมาที่หนุ่มชาวบ้านที่นี่ดื่มกินยามเย็นเป็นประจำเข้ามายังในบ้านของเขาเข้มวางร่างของดาวเหนือนอนลงไปบนที่เตียงนอนไม้ไผ่ของเขาอย่างเบามือ โดยที่เขาไม่ค่อยเมาเท่าไหร่ เพราะเขาดื่มกินจนชาชินไปแล้ว เหล้าแค่นี้ไม่ละคายคอทองคำของเขาเลยสักนิดแต่ดูหนุ่มหน้าหล่อนี่สิ เมาแอ๋เลยทำให้เข้มหัวเราะออกมาก่อนจะส่ายศีรษะไปให้กับความน่าเอ็นดูของชายหนุ่มแปลกประหลาดที่เขาพบเจอคนนี้เขานั่งทางในสื่อกระแสจิตถึงที่มาของชายคนนี้ ก็พบว่าเขาเป็นจากดินแดนที่อยู่ห่างไกลจากที่เขา
บ้านพรานเข้มดาวเหนือ ณทภัทร…..พรึบ“อื้อออ”สิ้นเสียงคำพูดของพี่เข้ม ผมก็คราญครางออกมาเมื่อปลายลิ้นสากของพี่เข้มตวัดเลียไปรอบๆซอกคอของผมพร้อมดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย ผมก็หลับตาพริ้มรับสัมผัสของพี่เข้มก่อนที่ผมจะไม่ยอมแพ้เขาโดยการใช้มือทั้งสองข้างรูดดึงโจงกระเบนของพี่เข้มให้หลุดพ้นไปจากท่อนร่างของของเขาอย่างรวดเร็วพร้อมกับใช้มือกอบกุบลำกายใหญ่ของเขาที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารกว่าของผมมาก ผมว่าผมใหญ่แล้วนะ…เจอของพี่เข้มไปใหญ่กว่าผมอีก….“อื้อออ”ผมร้องครางกระเส่าออกมาเมื่อพี่เข้มลากปลายลิ้นสากของเขามาตวัดเลียรอบๆยอดปทุมถันสีชมพูสดของผมที่มันกำลังเเข็งท้าทายปลายลิ้นของพี่เข้มอยู่ในขณะนี้“อ๊าาาาาห์…ซี๊ดดดด…พี่เข้มของผม…”ผมครางกระเส่าออกมาพร้อมกับแอ่นหน้าอกสู้ปลายลิ้นสากของพี่เข้มเขาก็ตวัดเลียจนผมรับรู้ได้ถึงความเปียกแฉะที่บริเวณหัวนมของผมแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ผมสั่นสะท้านไปทั้งร่างคือตอนที่พี่เข้มขบกัดยอดผมอย่างหยอกเย้านี่แหละผมก็ไม่รอช้าเริ่มรูดมือขึ้นลงไปกับแก่นกายของพี่เข้มอย่างนุ่มนวลจนผมรับรู้ได้ถึงความเปียกแฉะที่ออกมาจากรอยแยกส่วนปลายของหัวบานใหญ่นั่น“อ๊าาาาาห์…..”พี่เข้มครางเสียงกระเส่
“ข้าไม่รับรองความปลอดภัย…..”พี่เข้มว่าพลางหรี่ตามองต่ำลงไปที่ด้านหลังของผม นั่นคือก้นงอนที่อวบอั๋นของผมนั่นเอง“กะก็ได้…ผมจะไปรอพี่ที่บ้าน….”ผมจำใจบอกพี่เข้มไปพลางทำหน้าเบะอย่างอิดออดใจที่ไม่ยอมรับในคำสั่งห้ามของพี่เข้ม“เข้าใจข้าเถอะ…วันนี้มันไม่ดี….”พี่เข้มว่าพร้อมกับจ้องมองผมด้วยสายตาเป็นห่วง“ก็ได้ครับ…..”ผมเอ่ยต่อเสียงอ่อนก่อนจะทำท่าหันหลังให้พี่เข้มแต่ก็โดนพี่เข้มคว้าข้อมือของผมไว้ซะก่อนพรึบทำให้ผมต้องหันหน้ากลับไปเผชิญหน้ากับพี่เข้มตามเดิมพร้อมกับมองเขาด้วยสายตาสงสัย หรือเขาจะเปลี่ยนใจให้ผมตามไปเล่นน้ำตกด้วยแล้ว“ไม่ต้องยิ้มกริ่มขนาดนี้…ข้าพูดแล้ว..ไม่มีวันเปลี่ยนใจ…”พี่เข้มว่าเสียงเข้มพร้อมกับทำหน้าตาจริงจังใส่ผม ผมก็หน้าสลดลงทันที “แล้วรั้งผมไว้ทำไม?”ผมถามเขาเสียงเข้มพร้อมเบะปากใส่เขา พี่เข้มก็มองหน้าผมก่อนจะเอื้อมมือทั้งสองข้างของเขาไปปลดสร้อยเชือกเทียนถักมือเส้นสีดำที่ผมเห็นเขาใส่ติดตัวไว้ตลอดตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอเขาพรึบพี่เข้มปลดสร้อยเชือกเทียนถักเส้นก็ยื่นมันส่งมาให้ผม ผมก็มองหน้าพี่เข้มกับสร้อยเชือกสลับกับอย่างสงสัย“ข้าจิตใจพะว้าพะวัง…เป็นห่วงเอ็งยังไงชอบกล”พี่เข้ม
“มันไม่หายไปไหนหรอก…จ้องขนาดนั้น….”ลุงสิงห์เลยขึ้น ทำให้ผมหันกลับมามองหน้าแกอย่างเขินอาย ที่เขารู้ทันผม แกก็ลอยหน้าลอยตาอย่างไม่รู้ไม่ชี้ เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่เข้มเดินถือสากกระเบือกลับมายื่นส่วให้ลุงสิงห์พอดี “พี่เข้มกินข้าวแล้วเหรอครับ?”ผมเอ่ยถามพี่เข้มเสียงอ่อน พี่เข้มก็นั่งลงข้างๆผมก่อนจะส่ายศีรษะไปมาเป็นคำตอบว่าเขายังไม่ได้กินข้าวผมก็ขมวดคิ้วมองแกอย่างสงสัย ว่าทำไมเขายังไม่กินอีก ทั้งๆที่เขาออกจากบ้านมาก่อนผมอีกน่ะ “มันจะกินได้ยังไง…ก็มันรอเอ็งอยู่น่ะสิ…”ลุงสิงห์เอ่ยขึ้นมาทำให้ผมมองหน้าพี่เข้มอย่างเค้นคั้นเอาคำตอบว่าที่ลุงสิงห์พูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ที่ว่าพี่เข้มรอกินข้าวพร้อมผมน่ะ “ไปๆๆไปยกสำรับข้าวมากินไป๊…ข้าหิวแล้ว..”ลุงสิงห์ว่าเสียงเข้มพลางโบกมือไล่พี่เข้ม พี่เข้มที่หน้าแกแดงก่ำก็รีบหลบสายตาผมอย่างเขินอายหันไปก้มศีรษะหงึกๆเป็นคำตอบให้ลุงสิงห์ก่อนที่แกจะลุงขึ้นยืนและเดินซอยเท้าถี่รัวออกไปจากตรงนี้อย่างรวดเร็ว พรึบ “ข้าจะบอกกับคนในหมู่บ้านว่าเอ็งเป็นหลานของข้าแล้วกัน….” “ส่วนเอ็งก็แสร้งทำเป็นหลานชายข้าที่มาจากในเมืองไปก่อนล่ะกัน…”ลุงสิงห์ว่าในขณะที่แผ่นหลังของพี่เข
บ่ายวันเดียวกันบ้านพรานเข้ม…. พรึบ“โอ้ยยย….!”ผมร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดที่ด้านหลังในก้นของผมที่รับรู้ได้ถึงความระบมจากการที่ผมโดนพี่เข้มจัดเต็มไปเมื่อคืนและยังต่อด้วยเมื่อเช้านี่อีกยกหนึ่งรูทวารผมคงจะระบมหนักเกินไปแล้ว ก็แน่ล่ะ ของพี่เข้มแกเล็กๆซะที่ไหนกัน ใหญ่กว่าของผมที่ผมก็คิดว่าใหญ่เกินมาตรฐานของชายไทยมากแล้ว แต่กลับเจอของพี่เข้มใหญ่กว่าของผมอีกอ่ะและตอนนี้ผมก็กำลังพยายามเดินอย่างช้าๆเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนรูทวารหนักของผมจนมากเพิ่มขึ้นไปอีกเพราะมันจะได้ไม่เจ็บปวดไปมากกว่านี้ครั้งแรกมันเจ็บก็รู้แต่ครั้งสองนี้กลับสมยอมให้เขาอีกซะอย่างงั้น ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันพรึบ“เป็นอะไรของเอ็งล่ะ…เดินแปลกๆชอบกล…?”เสียงสงสัยดังมาจากลุงสิงห์ที่นั่งชันเข่าข้างหนึ่งที่แคร่ไม้หน้าบ้านแกเช่นเดิมมองผมด้วยสีหน้าแปลกใจ ผมก็ยิ้มแหยๆให้เขา โดยไม่รู้จะตอบอะไรเขา จะให้บอกไปตรงๆว่าลูกชายแกเป็นคนทำก็ไม่ใช่เรื่อง พรึบ“หึ…”เสียงแค่นหัวเราะจากผู้ชายที่กำลังนั่งใช้ขวานผ่าไม้เพื่อจะนำไปทำฟืนอยู่ข้างบ้านถัดจากตีนบันไดบ้านดังมาทำให้ผมหันขวับกลับไปมองค้อนเขาอย่างเอาเรื่อง ตัวเองเป็นคนทำแท้ๆยังจะมีหน
“มานะ…มาให้เห็นข้ากลืนกินเอ็งเสียดีๆ…”พี่เข้มบอกผมเสียงเข้มพร้อมกับกระตุกรอยยิ้มที่มุมปากก่อนที่เขาจะจับเอวสอบของผมให้นั่งทาบทับลงไปบนตัวเขาโดยที่ผมนั่งยองๆบนตักเขาเพื่อจะทำการสอดใส่ลำกายใหญ่ของเขาเข้ามาในประตูหลังของผม“อื้ออออ…”“เบาๆนะครับ….ผมเจ็บ…”ผมเอ่ยบอกพี่เข้มไปเสียงกระเส่า…พี่เข้มก็ไม่ตอบอะไรผมกลับยื่นใบหน้าเข้มของเขามาบดขยี้ริมฝีปากของผมอย่างรวดเร็วและมอบจุมพิตที่เร้าร้อนให้ผมจนผมลืมเรื่องท่อนล่างไปเลย“อื้อออออ…”ผมครางอื้ออึงในลำคอเมื่อรับรู้ได้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่กำลังค่อยๆคลืบคลานเข้ามาในช่องทางรักที่คับแน่นประตูหลังของผมอย่างช้าๆทำให้ผมจิกเล็บลงไปบนไหล่กว้างของพี่เข้มเพื่อผ่อนคลายความเจ็บปวดลง หลับตาปี๋เพราะความรู้สึกเจ็บจี๊ดเเล่นเข้ามาในร่องสวาทของผมทำให้ร่างกายของผมสั่นระริกไปทั้งร่าง“อ๊าาาาาาาห์….”พี่เข้มขู่คำรามออกมาอย่างเสียวซ่านและสุขสมใบหน้าเหยเกพอๆกับผม เพราะด้านหล้งของผมมันยังคงคับแน่นและตอดรัดลำกายใหญ่ที่ใหญ่โตของพี่เข้มถี่รัวทำให้ร่างของพี่เข้มเองก็สั่นระริกไม่ต่าวจากผม“ปวดคว….”พี่เข้มเอ่ยบอกผมเสียงสั่นขาดหาย ผมก็มองหน้าเขาเขม่น ตัวเองเจ็บแค่ลำกายผมนี่เจ็บตู
“มันยังเป็นรูโบ๋อยู่เลย….”พี่เข้มเอ่ยออกมาเสียงเรียบก่อนจะเงยหน้าจากร่องก้นของผมมามองหน้าผม ผมก็มองหน้าเขาด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าวด้วยความเขินอายพี่เข้มจ้องมองหน้าผมด้วยสีหน้าที่สื่อว่าเขาเห็นใจผมและสงสารผม ผมจึงยันตัวลุกขึ้นนั่งและยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของพี่เข้ม“แล้วพี่มีความสุขไหมครับ….กับเรื่องเมื่อคืนนี้ของเรา…”ผมเอ่ยถามพี่เข้มเสียงกระเส่าพร้อมกับกดปลายจมูกโด่งของตัวเองแนบลงไปบนแก้มนวลของพี่เข้มที่ไร้สิวแต่กลับเนียนเรียบจนน่าตกใจ“แล้ว…เอ็งล่ะ…มีความสุขไหม…?”พี่เข้มไม่ตอบผมแต่กลับเอ่ยถามผมต่อโดยที่เขายื่นริมฝีปากมาคลอเคลียที่ริมฝีปากของผม ผมก็กระตุกรอยยิ้มขึ้นมาก่อนกดริมฝีปากหนักๆลงแนบไปบนริมฝีปากของพี่เข้ม พี่เข้มเองก็กดทับริมฝีปากของผมกลับมาก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายผละออกมาจากใบหน้าเข้มของเขาแทน“ผม…มีความสุขมากครับ…ที่ได้ตกเป็นของพี่เข้ม…”ผมเอ่ยออกไปพร้อมกับยื่นมือไปลูบไล้ต้นคอของพี่เข้มขยับเลื่อนลงมาที่หน้าอกแกร่งของเขาพร้อมกับลูบไล้อย่างลุ่มหลง ผมไม่เคยตกเป็นของใครและผมเองก็ไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนด้วยมีอะไรกับผู้หญิงก็อาจจะมีบ้าง เวลาเหงา แต่ผมรู้ใจตัวเองดี….ว่าพวกเธอไม่ใช
เช้าวันต่อมาบ้านพรานเข้ม….ดาวเหนือ ณทภัทร….“อื้อออ….”ผมครวญครางออกมาอย่างรู้สึกอัดอัดและระบบเจ็บไปหมดตามท่อนร่างของผมและรับรู้ได้ถึงแรงกอดรัดจากผู้ชายร่างหนาที่นอนเปลือยกายอยู่ข้างๆผม โดยเราทั้งคู่นอนเปลือยกายกันมีแค่ผ้าขาวม้าผืนเดียวที่ห่มช่วงเอวลงไปถึงหน้าขาอ่อนนอกนั้นโล่งโจ้ง“อื้อออ…พี่เข้ม…”ผมครางเสียงกระเส่าเมื่อพี่เข้มที่นอนซ้อนด้านหลังของผมโดยที่ผมนอนหันหลังให้เขา เขากำลังใช้ปลายจมูกโด่งซุกไซ้คลอเคลียไปตามซอกคอของผมสร้างความสยิวให้ผมเป็นอย่างมาก“อื้ออ!”พี่เข้มคำรามในคออย่างขัดใจที่ผมพยายามขันขืนเขาโดยการขยับตัวออกมาจากร่างหนาของพี่เข้มเพราะผมรับรู้ได้ถึงลำกายใหญ่ของเขาที่เริ่มคลอเคลียอยู่บริเวณตูดงอนกลมกลึงและความเเข็งแกร่งบางอย่างของเขาที่ผมรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิความร้อนของมันพี่เข้มจะกินผมอีกแล้วเหรอเนี่ย“ไม่นะครับ….ผมเจ็บ…ตูด…”ผมพูดบอกแกไปแต่ประโยคท้ายผมใช้พึมพำเอาน่ะ ก็มันน่าอายหนิครับ เมื่อคืนนี้คิดว่าฝันแต่พอตื่นมากลับมานอนอยู่ในอ้อมอกของพี่เข้มได้ซะงั้น“หึ….”เสียงแค่นหัวใจในลำคอจากคนด้านหลังทำให้ผมหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันทีก็ใช่สิ…เขาไม่ได้โดนกระแทกและสอดใส่แบบผมหนิ เ
“อื้อออ…พี่เข้มครับ…”ผมร้องเรีียกของเสียงหลงเมื่อพี่เข้มจัดการสอดใส่ปลายนิ้วเรียวของเขาให้เร็วขึ้นโดนโพรงปากของเขากำลังดูดดึงลูกบอลกลมกลึงของผมทั้งสองลูกเล่นอยู่ทำให้ผมกระสับกระส่ายร่างกายไปมา“อื้อออออ”“อ๊าาาาาาาห์..!!”ผมร้องออกมาด้วยความเสียวซ่านผมหลับตาพริ้มที่รับรู้ได้ว่าในตอนนี้พี่เข้มได้ถอดถอนปลายนิ้วเรียวของเขาออกมาจากช่องทางรักของผมเรียบร้อยแล้วและแปรเปลี่ยนมาจับร่างผมให้นอนหงานราบไปกับเตียงนอนไม้ไผ่ที่เย็นนะเยือกเย็นเพราะอากาศยามค่ำคืนแบบนี้พรึบ“อื้อออ…พี่เข้ม…”ผมเรียกพี่เข้มเสียงเเผ่วเบาพลางมองการกระทำของเขาที่ในตอนนี้เขาจับท่อนขาแกร่งของผมทั้งสองข้างยกสูงขึ้นและจัดการอ้ามันออกมาจากกันก่อนจะสอดแทรกร่างของเขามาตรงหว่างของผมและจัดการใช้ท่อนเอ็นยักษ์ของเขาถูไถทักทายท่อนเอ็นร้อนของผมก่อนที่เขาจะเลื่อนต่ำลงไปที่ช่องทางรักของผม“ถุย!”พี่เข้มถุยน้ำลายของเขาลงไปบนท่อนเอ็นร้อนของเขาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม ที่นอนหอบหายใจเหนื่อยถี่ด้วยความเสียวซ่านและความกลัว เพราะผมไม่เคยมีอะไรกับใครก่อนพี่เข้มเป็นคนแรกของผมที่จะได้เปิดบริสุทธิ์ประตูหลังของผม“อื้ออออ….”“พร้อมนะ…”เขาเอ่ยถาม
บ้านพรานเข้มดาวเหนือ ณทภัทร…..พรึบ“อื้อออ”สิ้นเสียงคำพูดของพี่เข้ม ผมก็คราญครางออกมาเมื่อปลายลิ้นสากของพี่เข้มตวัดเลียไปรอบๆซอกคอของผมพร้อมดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย ผมก็หลับตาพริ้มรับสัมผัสของพี่เข้มก่อนที่ผมจะไม่ยอมแพ้เขาโดยการใช้มือทั้งสองข้างรูดดึงโจงกระเบนของพี่เข้มให้หลุดพ้นไปจากท่อนร่างของของเขาอย่างรวดเร็วพร้อมกับใช้มือกอบกุบลำกายใหญ่ของเขาที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารกว่าของผมมาก ผมว่าผมใหญ่แล้วนะ…เจอของพี่เข้มไปใหญ่กว่าผมอีก….“อื้อออ”ผมร้องครางกระเส่าออกมาเมื่อพี่เข้มลากปลายลิ้นสากของเขามาตวัดเลียรอบๆยอดปทุมถันสีชมพูสดของผมที่มันกำลังเเข็งท้าทายปลายลิ้นของพี่เข้มอยู่ในขณะนี้“อ๊าาาาาห์…ซี๊ดดดด…พี่เข้มของผม…”ผมครางกระเส่าออกมาพร้อมกับแอ่นหน้าอกสู้ปลายลิ้นสากของพี่เข้มเขาก็ตวัดเลียจนผมรับรู้ได้ถึงความเปียกแฉะที่บริเวณหัวนมของผมแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ผมสั่นสะท้านไปทั้งร่างคือตอนที่พี่เข้มขบกัดยอดผมอย่างหยอกเย้านี่แหละผมก็ไม่รอช้าเริ่มรูดมือขึ้นลงไปกับแก่นกายของพี่เข้มอย่างนุ่มนวลจนผมรับรู้ได้ถึงความเปียกแฉะที่ออกมาจากรอยแยกส่วนปลายของหัวบานใหญ่นั่น“อ๊าาาาาห์…..”พี่เข้มครางเสียงกระเส่
“เหล้าที่นี่รุนแรงจังเลยนะครับ…เอือก…”ผมบอกไปพลางส่งไหดินกลับคืนพี่เข้มไป แกก็ยื่นมือมารับไหดินไปจากผมและยกขึ้นกระดกดื่มต่อผมก็ดื่มและเราสามคนก็ต่างพากันร้องเพลงที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนจากลุงสิงห์และพี่เข้มเราสังสรรค์กันนานสองนาน นานจนผมไม่สามารถรับรู้ได้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้วเพราะที่นี่ไม่มีนาฬิกาสิ่งเดียวที่จะบอกเวลาเราได้คือ พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกกับพระจันทร์…ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมที่นี่ถึงได้ทุรกันดารแบบนี้ ขาดความเจริญไปเสียหมด………………………………ชายหนุ่มหน้าหล่อคมเข้มมีนามว่าเข้มหิ้วปีกของสารวัตรหนุ่มดาวเหนือที่หลับใหลเพราะพิษจากของน้ำเมาที่หนุ่มชาวบ้านที่นี่ดื่มกินยามเย็นเป็นประจำเข้ามายังในบ้านของเขาเข้มวางร่างของดาวเหนือนอนลงไปบนที่เตียงนอนไม้ไผ่ของเขาอย่างเบามือ โดยที่เขาไม่ค่อยเมาเท่าไหร่ เพราะเขาดื่มกินจนชาชินไปแล้ว เหล้าแค่นี้ไม่ละคายคอทองคำของเขาเลยสักนิดแต่ดูหนุ่มหน้าหล่อนี่สิ เมาแอ๋เลยทำให้เข้มหัวเราะออกมาก่อนจะส่ายศีรษะไปให้กับความน่าเอ็นดูของชายหนุ่มแปลกประหลาดที่เขาพบเจอคนนี้เขานั่งทางในสื่อกระแสจิตถึงที่มาของชายคนนี้ ก็พบว่าเขาเป็นจากดินแดนที่อยู่ห่างไกลจากที่เขา