“ระ... เราเป็นถึงลูกสาวของออกญาศรีภิบาลเทียวนะ ท่านจักข้ามขั้นตอนมิได้นะเจ้าคะ จริงๆ แล้วท่านต้องมาสู่ขอเราพอเป็นพิธีก่อน แล้วเมื่อเรารับรักท่าน ท่านถึงจักแตะต้องเราได้ในฐานะผัวเมียตามแต่พึงใจ” พิมแก้วว่าพลางพยายามบิดสะโพกอ่อนออกจากความแข็งขืนตรงกลางกายของบุรุษ นางหน้าแดงก่ำไปด้วยความขวยเขิน รูปทรงที่ไม่ธรรมดานั้นแนบชิดตรงก้นกบจนเกร็งตัว
สติไม่สมประกอบแล้วยังจะเล่นตัว น่ารำคาญจริง สามก๊กคิดในใจ พลางดันนางลงจากตัก พอสาวเจ้าเห็นท่าว่าจะรอด กลับถูกริดรอนด้วยการผลักไหล่มนลงไปนอนบนฟูกนุ่ม ก่อนที่ร่างกายสูงใหญ่ล่ำสันของชายหนุ่มจะเลื่อนขึ้นมาทาบทับ
ชุดที่แปลกตา ดูเหมือนชุดของชาวต่างแดนที่มักเห็นมาทำการค้าที่พระนครถูกปลดออกด้วยความร้อนรุ่มของคนตัวใหญ่ ชวนให้เห็นแผงอกกำยำเย้ายวนตาเย้ายวนจิต ที่ทำเอาสาวเจ้าถึงกับหน้าแดงก่ำไปถึงกกหู
เจ้าคุณพ่อไม่อนุญาต ห้ามมองนะออพิม!
นางคิดในใจพลางเอามือทั้งสองข้างมาปิดตาของตัวเอง แต่ปลายนิ้วเจ้ากรรมกลับแยกแง่งนิ้วน้อยๆ เพื่อสำรวจความรูปงามของชายตรงหน้าอย่างชัดเจน พอเห็นความขาวผ่อง แลลายสักอักขระโบราณ เป็นรูปเสือแลอักษรแปลกๆ นางก็หน้าแดงสุกปลั่งยิ่งกว่าเก่า
“โดนคร่อมขนาดนี้ คงจะให้ปฏิเสธไม่ได้นะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแหบพร่าชวนขยี้ใจ พลางพยายามปลดปมผ้าที่ปิดร่างกายกำยำนั่นไม่มิด เพื่อเปิดเผยความใหญ่โตองอาจต่อหน้าแม่กุลสตรีศรีสยาม
พรึ่บ
ชุดคลุมอาบน้ำถูกถอดลงไปกองกับพื้น ในขณะเดียวกันพิมแก้วก็ได้เห็นสิ่งที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต อวัยวะโล้สำเภาของบุรุษเพศ ที่เจ้าคุณพ่อว่าต้องอายุสิบแปดถึงจักสมควรเห็น แม้ในตอนนี้หล่อนจะสิบแปดปีแล้ว มีแววจักเป็นสาวเทื้อ (สาวขึ้นคาน) แต่เจ้าคุณพ่อก็ยังตั้งแง่กับชายที่มาสู่ขออยู่เรื่อยไป
หญิงสาวผู้ถูกเลี้ยงดูราวกับไข่ในหิน บัดนี้กำลังเสียท่าให้กับชายเถื่อนผู้ไม่รู้ที่มาที่ไปเสียแล้ว
แต่... แต่ว่า
ทรงเรียวปลายหัวมน ราวกับเห็ดยักษ์สีหงชาด มีเส้นเลือดพาดกลอนอยู่ตามขนาดของแก่นอย่างสวยงาม ราวกับศิลปะที่วิจิตรการตา
ใหญ่จัง
“ดะ... ได้โปรดอย่าทำเรา เรายังมิพร้อม เราเพิ่งอายุสิบแปดปีเศษ เจ้าคุณพ่อยังมิอนุญาตให้เรามีสัมพันธ์กับชายใด ถ้าหากคุณสมบัติเขามิตรงตามที่เจ้าคุณพ่อต้องการ”
ประโยคนั้นทำให้สามก๊กชะงักได้ราวกับออกคำสั่ง
เด็กคนนี้อายุสิบแปดอย่างนั้นเหรอ? แบบนี้ก็ยังเรียนมัธยมอยู่เลย เขาในตอนที่ที่เฉียดเลขสามไม่อยากเสี่ยงคุกนักหรอก
คิดแล้วจึงผละออกจากนางจนสาวเจ้าตกใจ หยัดตัวขึ้นในขณะที่ชายหนุ่มจะก้มลงหยิบชุดคลุมอาบน้ำ แล้วโยนใส่ศีรษะของเธอ
“ไปแต่งตัวซะ”
เขาพูดเพียงแค่นั้น หญิงสาวก็นั่งตัวสั่นอยู่ ปล่อยให้ชุดคลุมอาบน้ำร่นลงไปกองอยู่ที่ตัก เนื่องด้วยประสบการณ์ในการอยู่ชิดใกล้กับผู้ชายนั้นช่างน้อยนิด
สามก๊กเอี้ยวตัวไปใกล้นางเมื่อเห็นว่าเด็กสาวไม่ขยับ ชวนให้นางสะดุ้งเฮือก หลับตาปี๋เมื่อความอบอุ่นแลกลิ่นหอมจางๆ ผ่านหน้าไป แต่เมื่อไม่เกิดอะไรขึ้นนางจึงลืมตาขึ้น แล้วจึงได้เห็นว่าอีกฝ่ายแค่เพียงเอี้ยวตัวไปหยิบแว่นสายตาที่กระดอนไปบนกลางฟูกเท่านั้น
เท่านั้นก็หน้าแดงลามไปยันซอกคอ บุรุษเถื่อนสวมแว่นสายตาเข้ากับกรอบหน้า พลางปรายตามองหล่อน
“นั่งเซ่ออยู่ทำไม ไปแต่งตัว”
“เอ่อ... คือท่านไม่ทำกระไรเราแล้วหรือเจ้าคะ” นางกลั้นหายใจถามคำถามโง่ๆ ออกไป ชวนให้สามก๊กแค่นหัวเราะ
“ทำไม?” เขาย้อนถาม พลางคว้าซองบุหรี่จากโต๊ะข้างหัวเตียง คีบมวนบุหรี่ราคาแพงมาคาบในปาก หยิบไฟแช็คที่ทำจากเงินมากดเปิดไฟแช็ค พลางออกปากยวน “หรืออยากให้ทำขึ้นมาแล้วเหรอ”
“มะ... ไม่เจ้าค่ะ เราจักไปแต่งตัวแล้วเจ้าค่ะ” พอเห็นว่าเขามีท่าทางเอาจริงเอาจังนางจึงหน้าถอดสี รีบยกมือไหว้ปะหล่กๆ พลางรุดตนเองออกไปจากห้อง แต่กลับถูกดึงชายเสื้อลูกไม้บางไว้ด้วยปลายนิ้วหยาบใหญ่ จนต้องชะงักอยู่กับที่ “กะ... กระไรหรือเจ้าคะ”
“เข้าห้องน้ำกูไป”
“จะ... เจ้าคะ?”
“ไม่พูดซ้ำ”
ดุจังเลยเจ้าค่ะท่านผู้นี้ ออพิมแก้วคิด พลางก้มปะหล่กๆ เดินเก้กังเข้าไปในห้องน้ำส่วนตัวของเขา สามก๊กเหลือบมองร่างเล็กที่ปิดประตูลงอย่างเรียบร้อย พลางพ่นควันบุหรี่ออกเป็นวงกว้าง
เขานั้นเป็นผู้ที่มากกาม ถึงจะชอบสวดมนต์บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อในเรื่องเวรกรรมและบาปบุญเข้าจิตใจ แต่ก็ยอมรับว่าตัวเองนั้นยังเป็นมนุษย์ที่ยังคงมีกิเลส ตัณหาราคะในสรีระของอิสตรีอยู่
การหานางบำเรอเพื่อปลดปล่อยความเครียดจากงานนั้นแทบจะเป็นหน้าที่ที่มอบให้มือขวาอย่างวิลลี่อยู่ประจำ เพราะผู้หญิงส่วนมากไม่มาปอกลอก ก็มาหลอกเขา ทำให้มาเฟียหนุ่มเข้าสู่แววอาภัพรักอย่างหนัก
และเขาก็มีข้อแม้กับตัวเอง ว่าจะไม่มีอะไรกับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่ายี่สิบปีเด็ดขาด เพราะยังเด็กเกินไป ยังมีอนาคตที่สดใสรออยู่
เด็กสาวคนนี้ ก็คงเป็นหนึ่งในนั้น
ฝ่ายพิมแก้วนั้นที่ตรงเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำอันหรูหรา เพิ่งสังเกตได้ว่าตนเองนั้นอยู่ในชุดแปลกตาที่แสนบางเบา ผ้าแพรที่มีลายดอกไม้ถักมือวิจิตรนั้นดูดีถ้าเกิดเนื้อผ้าไม่บางราวกับผ้าแพรเช่นนี้ เสื้อผ้าที่ดูไม่คุ้นตาแต่แสนจะบัดสีบัดเถลิงเหลือเกิน ราวกับหญิงสาวในย่านโคมเขียวก็มิปานเจ้าคุณพ่อมาเห็นแบบนี้ มีหวังจับเราเฆี่ยนจนหลังหักเป็นแน่นางคิดแล้วซับน้ำตาที่รื้นขึ้นมาบนดวงตากลมโตเนื่องด้วยอยู่ดีๆ ตนเองก็ต้องมาเจอกับที่ที่ไม่เคยอยู่ มันกะทันหันจนตั้งตัวมิทัน สาวเจ้าทำใจอยู่นาน ก่อนที่จะสวมชุดคลุมอาบน้ำทับผ้าแพรด้านนอกที่แทบจะปิดสรีระไม่มิดนั่น พยายามดูอยู่หลายครั้งจึงรู้ว่าต้องผูกสายตรงสะบั้นเอวให้แนบชิดติดกับสะโพกผายแกรกเมื่อแต่งตัวอย่างมิดชิดสำเร็จ เจ้าตัวเล็กจึงค่อยๆ แง้มประตูไม้สักทองเปิดออกอย่างกล้าๆ กลัวๆ พลางสอดส่องไปยังภายในห้องนอนโทนสีหม่นทึบ จึงเห็นว่าชายผู้นั้นกำลังใช้มวนยาสูบที่บ่าวไพร่มักใช้กันพ่นควันปุ๋ยๆ อยู่ด้านนอกระเบียง“เอ่อ... คือเราต้องทำเช่นไรต่อไปดีเจ้าคะ” เธอละล้าละหลังอยู่นานจึงตัดสินใจโพล่งถามขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงัดน่าอึดอัดและกลิ่นม่านควัน ชายหนุ่มในแว่นส
ประวัติของเธอ ไม่ว่าจะคร่าวๆ หรือโดยละเอียดไม่มีปรากฎอยู่เลยสักนิด ราวกับเธอคือบุคคลสาปสูญลึกลับโดยสมบูรณ์ ด้วยความสนใจต่อเด็กสาวอย่างแรงกล้า สามก๊กตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูเธอไว้ในสถานะเด็กเลี้ยงที่อนาคตเมื่ออายุบรรลุนิติภาวะจะผันตัวมาเป็นนางบำเรอ มอบคำสั่งให้เมดรับใช้ส่งเด็กสาวเข้านอนที่ห้องที่เขาหวงแหนใช่ เพราะห้องนั้นที่จัดให้เธอนอน เป็นห้องที่ถูกจัดมาเพื่อ ‘ลูกสาวคนแรก’ ของเขา ที่บัดนี้ได้เสียชีวิตไปแล้วฝ่ายพิมแก้วยังคงนั่งอยู่ภายในห้องนอนโดยเต็มไปด้วยความรู้สึกสับสน เธอถูกสามก๊กส่งมายังห้องใหญ่เทียบเท่ากับห้องนอนเจ้าคุณพ่อ แต่มีเครื่องนอนและการตบแต่งผิดแผกไปจากที่ที่เธอเคยอยู่เด็กสาวยังนั่งนึกถึงคำพูดของสามก๊กคนนั้น ที่บอกชื่อสถานที่แห่งนี้ที่เธอกำลังอยู่“ที่นี่คือกรุงเทพมหานคร เมืองแห่งแสงสี ที่มีแต่กลิ่นควัน มลพิษ อีกอย่าง... กูก็ไม่ใช่คนปกติที่เดินอยู่บนถนนข้างล่างนั่น”กรุงเทพมหานคร ชื่อคล้ายๆ พระนคร แต่ทำไมไม่คุ้นเคยเลย“หรือเราจักต้องหลบหนีออกไปหาเจ้าคุณพ่อด้วยตนเอง ชายผู้นั้นอาจจักเป็นแขกขาว หรือเขมรเมืองมอญมาจับเราไปเป็นเชลยก็เป็นได้” เนื่องด้วยข่าวเรื่องการรบรากับเขมรทำ
‘ออพิมแก้ว’ กำลังกรองมาลัยอยู่ที่สวนดอกลำดวน บ่าวทั้งสองนำขนมพระพายมาวางบนพานให้นางรับประทาน เนื่องจากคุณพิมแก้วนั้นชอบรับประทานขนมไทยยิ่ง“ขอบใจจ้ะ จิต จวน” เธอพูดกับบ่าวทั้งสองที่คอยเคียงบ่าเคียงไหล่เธออยู่เสมอมา ทั้งสองนั่งพับเพียบอยู่ใต้ถุนศาลา มองแม่นายคนสวยที่กรองมาลัยอย่างกุลสตรีพิมแก้วนั้นเป็นบุตรีเพียงคนเดียวของออกญาชื่อดังในยุคสมัยกรุงศรีอโยธยา นางเป็นกุลสตรีครบทุกส่วน มีแต่บุตรของคนมีอำนาจในยุคนี้มาสนใจใคร่รักในตัวนางออกมาก แลต้องการสู่ขอหลายต่อหลายคน แต่พิมแก้วก็มินึกสนใจในชายใดเป็นพิเศษวันๆ ของเธอคือการนั่งกรองมาลัย ออดอ้อนเจ้าคุณพ่อที่แสนดุแต่อบอุ่นกับลูกสาวเพียงคนเดียว ออกญาศรีภิบาลนั้นขึ้นชื่อเรื่องความโหดแลหวงลูกสาวมาก เนื่องจากภรรยาคนเดียวตายไปตั้งแต่พิมแก้วยังเล็ก ท่านจึงพยายามประคบประหงมบุตรีของตนอย่างดีที่สุด ถ้าไม่มีผู้ใดที่เขามองว่าเหมาะสมกับพิมแก้วลูกรักของเขา ก็จักมิให้ลูกแต่งงานอย่างเด็ดขาดออกญาศรีภิบาลนั้นขึ้นชื่อว่ารักเดียวใจเดียวยิ่ง ทั้งชีวิตนั้นมีเพียงแต่คุณแม่ จนกระทั่งแม่เสียชีวาก็ยังมิมีใครอื่น นั่นยิ่งทำให้พิมแก้วรู้สึกว่า... ถ้าจักหาใครสักคนมาเข้
“เราชื่อพิมเเก้ว เป็นลูกสาวคนเดียวของออกญาศรีภิบาล ว่าเเต่ท่านจับเรามาทำไมกันหรือ”‘สามก๊ก’ หรี่ตามองแม่สาวสวยตรงหน้า ที่ราวกับแม่พันธุ์ชั้นดี หน้าอกเอย ทรวดทรงองค์เอวเอย งดงามสมจะมาเป็นนางบำเรอราคะชั่วคราวของเขามากแต่ทำไมถึงพูดจาประหลาด เหมือนหลุดมาจากละครจักรๆ วงศ์ๆชายหนุ่มนิ่งสงบ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพื่อหยั่งเชิงอีกฝ่าย หญิงสาวสวยจึงโพล่งขึ้นมาอย่างลนลานอีกครั้ง“ที่เรือนเจ้าคุณพ่อมีเงินพดด้วงแลเบี้ยมากมาย ถ้าท่านต้องการแลกกับการพาเรากลับไปหาเจ้าคุณพ่อ เรายอมยกให้หลายถุงเลย”“วิลลี่ มึงพาคนบ้ามาเหรอไง ไปเอาคนใหม่มา” พอเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นดูท่าจะเป็นหญิงสาวสวยที่สติสตังไม่ค่อยดี เขาเลยลูบหัวคิ้วตัวเองพลางปัดมือไล่ให้ลูกน้องลากเธอออกไปวิลลี่ หรือชายฉกรรจ์ตัวใหญ่ที่ยืนหัวโล้นอยู่ข้างหลังเธอ จึงก้าวตรงเข้ามาเพื่อป้องปากกระซิบข้างหูนายใหญ่ของตน“แต่นายครับ สวยขนาดนี้ หายากมากนะครับ ระดับดาราก็ไม่มีสวยแบบราคาดีขนาดนี้”“กูรู้ แต่นี่มันคนสติไม่ดี” สามก๊กแสนจะหงุดหงิดใจ ถึงจะถูกใจหน้าตารูปร่างอยู่มาก แถมยังอยากได้คนตรงหน้ามาเป็นนางบำเรอก็จริง แต่จะให้มามีเซ็กซ์กับคนบ้า ก็คงจะไม่ไหว“ให้ผม
ประวัติของเธอ ไม่ว่าจะคร่าวๆ หรือโดยละเอียดไม่มีปรากฎอยู่เลยสักนิด ราวกับเธอคือบุคคลสาปสูญลึกลับโดยสมบูรณ์ ด้วยความสนใจต่อเด็กสาวอย่างแรงกล้า สามก๊กตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูเธอไว้ในสถานะเด็กเลี้ยงที่อนาคตเมื่ออายุบรรลุนิติภาวะจะผันตัวมาเป็นนางบำเรอ มอบคำสั่งให้เมดรับใช้ส่งเด็กสาวเข้านอนที่ห้องที่เขาหวงแหนใช่ เพราะห้องนั้นที่จัดให้เธอนอน เป็นห้องที่ถูกจัดมาเพื่อ ‘ลูกสาวคนแรก’ ของเขา ที่บัดนี้ได้เสียชีวิตไปแล้วฝ่ายพิมแก้วยังคงนั่งอยู่ภายในห้องนอนโดยเต็มไปด้วยความรู้สึกสับสน เธอถูกสามก๊กส่งมายังห้องใหญ่เทียบเท่ากับห้องนอนเจ้าคุณพ่อ แต่มีเครื่องนอนและการตบแต่งผิดแผกไปจากที่ที่เธอเคยอยู่เด็กสาวยังนั่งนึกถึงคำพูดของสามก๊กคนนั้น ที่บอกชื่อสถานที่แห่งนี้ที่เธอกำลังอยู่“ที่นี่คือกรุงเทพมหานคร เมืองแห่งแสงสี ที่มีแต่กลิ่นควัน มลพิษ อีกอย่าง... กูก็ไม่ใช่คนปกติที่เดินอยู่บนถนนข้างล่างนั่น”กรุงเทพมหานคร ชื่อคล้ายๆ พระนคร แต่ทำไมไม่คุ้นเคยเลย“หรือเราจักต้องหลบหนีออกไปหาเจ้าคุณพ่อด้วยตนเอง ชายผู้นั้นอาจจักเป็นแขกขาว หรือเขมรเมืองมอญมาจับเราไปเป็นเชลยก็เป็นได้” เนื่องด้วยข่าวเรื่องการรบรากับเขมรทำ
ฝ่ายพิมแก้วนั้นที่ตรงเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำอันหรูหรา เพิ่งสังเกตได้ว่าตนเองนั้นอยู่ในชุดแปลกตาที่แสนบางเบา ผ้าแพรที่มีลายดอกไม้ถักมือวิจิตรนั้นดูดีถ้าเกิดเนื้อผ้าไม่บางราวกับผ้าแพรเช่นนี้ เสื้อผ้าที่ดูไม่คุ้นตาแต่แสนจะบัดสีบัดเถลิงเหลือเกิน ราวกับหญิงสาวในย่านโคมเขียวก็มิปานเจ้าคุณพ่อมาเห็นแบบนี้ มีหวังจับเราเฆี่ยนจนหลังหักเป็นแน่นางคิดแล้วซับน้ำตาที่รื้นขึ้นมาบนดวงตากลมโตเนื่องด้วยอยู่ดีๆ ตนเองก็ต้องมาเจอกับที่ที่ไม่เคยอยู่ มันกะทันหันจนตั้งตัวมิทัน สาวเจ้าทำใจอยู่นาน ก่อนที่จะสวมชุดคลุมอาบน้ำทับผ้าแพรด้านนอกที่แทบจะปิดสรีระไม่มิดนั่น พยายามดูอยู่หลายครั้งจึงรู้ว่าต้องผูกสายตรงสะบั้นเอวให้แนบชิดติดกับสะโพกผายแกรกเมื่อแต่งตัวอย่างมิดชิดสำเร็จ เจ้าตัวเล็กจึงค่อยๆ แง้มประตูไม้สักทองเปิดออกอย่างกล้าๆ กลัวๆ พลางสอดส่องไปยังภายในห้องนอนโทนสีหม่นทึบ จึงเห็นว่าชายผู้นั้นกำลังใช้มวนยาสูบที่บ่าวไพร่มักใช้กันพ่นควันปุ๋ยๆ อยู่ด้านนอกระเบียง“เอ่อ... คือเราต้องทำเช่นไรต่อไปดีเจ้าคะ” เธอละล้าละหลังอยู่นานจึงตัดสินใจโพล่งถามขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงัดน่าอึดอัดและกลิ่นม่านควัน ชายหนุ่มในแว่นส
“ระ... เราเป็นถึงลูกสาวของออกญาศรีภิบาลเทียวนะ ท่านจักข้ามขั้นตอนมิได้นะเจ้าคะ จริงๆ แล้วท่านต้องมาสู่ขอเราพอเป็นพิธีก่อน แล้วเมื่อเรารับรักท่าน ท่านถึงจักแตะต้องเราได้ในฐานะผัวเมียตามแต่พึงใจ” พิมแก้วว่าพลางพยายามบิดสะโพกอ่อนออกจากความแข็งขืนตรงกลางกายของบุรุษ นางหน้าแดงก่ำไปด้วยความขวยเขิน รูปทรงที่ไม่ธรรมดานั้นแนบชิดตรงก้นกบจนเกร็งตัวสติไม่สมประกอบแล้วยังจะเล่นตัว น่ารำคาญจริง สามก๊กคิดในใจ พลางดันนางลงจากตัก พอสาวเจ้าเห็นท่าว่าจะรอด กลับถูกริดรอนด้วยการผลักไหล่มนลงไปนอนบนฟูกนุ่ม ก่อนที่ร่างกายสูงใหญ่ล่ำสันของชายหนุ่มจะเลื่อนขึ้นมาทาบทับชุดที่แปลกตา ดูเหมือนชุดของชาวต่างแดนที่มักเห็นมาทำการค้าที่พระนครถูกปลดออกด้วยความร้อนรุ่มของคนตัวใหญ่ ชวนให้เห็นแผงอกกำยำเย้ายวนตาเย้ายวนจิต ที่ทำเอาสาวเจ้าถึงกับหน้าแดงก่ำไปถึงกกหูเจ้าคุณพ่อไม่อนุญาต ห้ามมองนะออพิม!นางคิดในใจพลางเอามือทั้งสองข้างมาปิดตาของตัวเอง แต่ปลายนิ้วเจ้ากรรมกลับแยกแง่งนิ้วน้อยๆ เพื่อสำรวจความรูปงามของชายตรงหน้าอย่างชัดเจน พอเห็นความขาวผ่อง แลลายสักอักขระโบราณ เป็นรูปเสือแลอักษรแปลกๆ นางก็หน้าแดงสุกปลั่งยิ่งกว่าเก่า“โด
“เราชื่อพิมเเก้ว เป็นลูกสาวคนเดียวของออกญาศรีภิบาล ว่าเเต่ท่านจับเรามาทำไมกันหรือ”‘สามก๊ก’ หรี่ตามองแม่สาวสวยตรงหน้า ที่ราวกับแม่พันธุ์ชั้นดี หน้าอกเอย ทรวดทรงองค์เอวเอย งดงามสมจะมาเป็นนางบำเรอราคะชั่วคราวของเขามากแต่ทำไมถึงพูดจาประหลาด เหมือนหลุดมาจากละครจักรๆ วงศ์ๆชายหนุ่มนิ่งสงบ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพื่อหยั่งเชิงอีกฝ่าย หญิงสาวสวยจึงโพล่งขึ้นมาอย่างลนลานอีกครั้ง“ที่เรือนเจ้าคุณพ่อมีเงินพดด้วงแลเบี้ยมากมาย ถ้าท่านต้องการแลกกับการพาเรากลับไปหาเจ้าคุณพ่อ เรายอมยกให้หลายถุงเลย”“วิลลี่ มึงพาคนบ้ามาเหรอไง ไปเอาคนใหม่มา” พอเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นดูท่าจะเป็นหญิงสาวสวยที่สติสตังไม่ค่อยดี เขาเลยลูบหัวคิ้วตัวเองพลางปัดมือไล่ให้ลูกน้องลากเธอออกไปวิลลี่ หรือชายฉกรรจ์ตัวใหญ่ที่ยืนหัวโล้นอยู่ข้างหลังเธอ จึงก้าวตรงเข้ามาเพื่อป้องปากกระซิบข้างหูนายใหญ่ของตน“แต่นายครับ สวยขนาดนี้ หายากมากนะครับ ระดับดาราก็ไม่มีสวยแบบราคาดีขนาดนี้”“กูรู้ แต่นี่มันคนสติไม่ดี” สามก๊กแสนจะหงุดหงิดใจ ถึงจะถูกใจหน้าตารูปร่างอยู่มาก แถมยังอยากได้คนตรงหน้ามาเป็นนางบำเรอก็จริง แต่จะให้มามีเซ็กซ์กับคนบ้า ก็คงจะไม่ไหว“ให้ผม
‘ออพิมแก้ว’ กำลังกรองมาลัยอยู่ที่สวนดอกลำดวน บ่าวทั้งสองนำขนมพระพายมาวางบนพานให้นางรับประทาน เนื่องจากคุณพิมแก้วนั้นชอบรับประทานขนมไทยยิ่ง“ขอบใจจ้ะ จิต จวน” เธอพูดกับบ่าวทั้งสองที่คอยเคียงบ่าเคียงไหล่เธออยู่เสมอมา ทั้งสองนั่งพับเพียบอยู่ใต้ถุนศาลา มองแม่นายคนสวยที่กรองมาลัยอย่างกุลสตรีพิมแก้วนั้นเป็นบุตรีเพียงคนเดียวของออกญาชื่อดังในยุคสมัยกรุงศรีอโยธยา นางเป็นกุลสตรีครบทุกส่วน มีแต่บุตรของคนมีอำนาจในยุคนี้มาสนใจใคร่รักในตัวนางออกมาก แลต้องการสู่ขอหลายต่อหลายคน แต่พิมแก้วก็มินึกสนใจในชายใดเป็นพิเศษวันๆ ของเธอคือการนั่งกรองมาลัย ออดอ้อนเจ้าคุณพ่อที่แสนดุแต่อบอุ่นกับลูกสาวเพียงคนเดียว ออกญาศรีภิบาลนั้นขึ้นชื่อเรื่องความโหดแลหวงลูกสาวมาก เนื่องจากภรรยาคนเดียวตายไปตั้งแต่พิมแก้วยังเล็ก ท่านจึงพยายามประคบประหงมบุตรีของตนอย่างดีที่สุด ถ้าไม่มีผู้ใดที่เขามองว่าเหมาะสมกับพิมแก้วลูกรักของเขา ก็จักมิให้ลูกแต่งงานอย่างเด็ดขาดออกญาศรีภิบาลนั้นขึ้นชื่อว่ารักเดียวใจเดียวยิ่ง ทั้งชีวิตนั้นมีเพียงแต่คุณแม่ จนกระทั่งแม่เสียชีวาก็ยังมิมีใครอื่น นั่นยิ่งทำให้พิมแก้วรู้สึกว่า... ถ้าจักหาใครสักคนมาเข้