ตอนที่ 37 ท่าน...เจียงอันเล่อเชิดหน้าขึ้นมองหานอี้หลงอย่างจริงจัง “ใช่...ข้อตกลง...ข้ายินดีช่วยเหลือท่านในแบบของข้า...แลกกับการที่ท่านต้องให้เกียรติข้าในฐานะฮูหยินของจวนแห่งนี้” เจียงอันเล่อกล่าวออกมาอย่างมุ่งมั่น แม้ภายในใจนางจะรักหานอี้หลง แต่ทว่าหัวใจที่มีคนอื่นครอบครองจนไม่เหลือพื้นที่ใดให้นางอีก ทำให้เจียงอันเล่อก็มิคิดจะแย่งชิงมันมา ขอเพียงนางได้อยู่เคียงข้างและช่วยเหลือให้เขาพ้นจากชะตากรรมอันเลวร้าย จากนั้นนางเพียงต้องการใช้เวลาที่เหลืออย่างสุขสงบเท่านั้น“เจ้าแน่ใจหรือ” หานอี้หลงหรี่ตามองอย่างระแวงและไม่เชื่อคำกล่าวนั้น เขารู้ดีว่าเจียงอันเล่อมีใจให้เขามากเพียงใด แต่เวลานี้นางกลับทำทีเมินเฉยราวกับต้องการใช้เล่ห์กลปล่อยเพื่อจับเขาเสียกระมัง“ข้าแน่ใจ” เจียงอันเล่อเชิดหน้าขึ้นอย่างท้าทาย สายตามุ่งมั่นจ้องมองหานอี้หลงอย่างไม่กะพริบตาหานอี้หลงยกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ พร้อมก้าวเท้าตรงมาด้านหน้าของเจียงอันเล่อ ก่อนจะดึงรั้งร่างบางเข้าหาลำตัว สองมือโอบรัดร่างบางเอาไว้อย่างแน่นหนาจนนางมิอาจดิ้นรนขัดขืนเจียงอันเล่อเบิกตากว้างกับท่าทีคุกคามของชายหนุ่มตรงหน้า มือบางพยายามดันหน้าอกแกร่
ตอนที่ 38 ทำคุณบูชาโทษหานอี้หลงนั่งหน้าเคร่งเครียดอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ใบหน้าของเขาบูดบึ้งเต็มไปด้วยโทสะที่มิอาจปิดบัง มือของเขากำกระดาษจนยับยู่ยี่คามือ ดวงตาแดงก่ำราวกับสัตว์ป่าที่ถูกล่าจนมุม“ใต้เท้า...ใครทำท่านอารมณ์เสียแต่เช้าหรือ” เจียงอันเล่อเอ่ยทักเมื่อกวาดสายตาไปยังรอบห้องที่มีกระเบื้องแตกกระจายไปทั่วหานอี้หลงเงยหน้ามองเจียงอันเล่ออย่างไม่พอใจ “เจ้ามีธุระอันใด”เจียงอันเล่อเพียงยกยิ้มบางออกมา “อันแตงที่ฝืนเด็ดจากต้น ย่อมไม่หวาน...ใต้เท้าเคยได้ยินหรือไม่”หานอี้หลงเงยหน้าขึ้นพร้อมหรี่ตามองเจียงอันเล่อด้วยแววตาอันแข็งกร้าว “คุณหนูเจียง...นี่เจ้าคิดจะมาซ้ำเติมข้าเช่นนั้นหรือ เวลานี้ข้ามิมีอารมณ์ล้อเล่นกับเจ้า เชิญเจ้ากลับเรือนไปเสียเถิด”เจียงอันเล่อถอนหายใจยาวออกมาอย่างรู้สึกอ่อนใจ “ข้าเพียงต้องการเตือนสติของท่านก็เพียงเท่านั้น หากท่านยังคิดดื้อดึงเอาแต่ใจ ท่านคิดหรือไม่ว่าท่านจะพบความสุขที่แท้จริง”คำพูดของเจียงอันเล่อเหมือนตอกย้ำความจริงที่เขาไม่อยากยอมรับ คำพูดเพียงเล็กน้อยกับเหมือนน้ำมันที่ราดรดบนกองไฟ หานอี้หลงลุกพรวดจากเก้าอี้ ดวงตาเต็มไปด้วยเพลิงโกรธ เขาเดินเข้ามาหานา
ตอนที่ 39 เผชิญหน้าในยามเช้าของวันแสงแดดเริ่มสาดส่องผ่านม่านโปร่งเข้ามาภายในเรือน เจียงอันเล่อสวมชุดกระโปรงยาวสีฟ้าอ่อนลายดอกพฤกษา ทรงผมถักเกล้าเรียบง่าย แต่ทิ้งปลายผมด้านข้างให้คลอเคลียกับโหนกแก้ม ชวนให้ดูเรียบง่ายแต่งดงามไม่ต่างจากภาพวาด“คุณหนูเจ้าคะ ข้าได้ข่าวว่าแม่ทัพจางและฮูหยินจะมาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้เจ้าค่ะ” หลีอันเข้ามากระซิบบอกข่าวแก่เจียงอันเล่อเจียงอันเล่อพยักหน้ารับพลางคิดคำนวณเหตุการณ์ตรงหน้า หลังจากที่นางแต่งเข้าจวนสกุลหาน นางก็มอบหมายให้หลีอันคอยสืบข่าวของจางลู่เหวินเป็นระยะๆ และนับแต่เหตุการณ์ในห้องอักษร เจียงอันเล่อก็พยายามหลบหน้าหานอี้หลงอยู่บ่อยครั้ง แต่วันนี้เป็นวันฉลองวันเกิดของเจียงเสิ่นเย่ว บิดาของตน นางจึงจำเป็นต้องร่วมงานเลี้ยงพร้อมกับหานอี้หลงอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง“พ่อบ้าน เตรียมรถม้าให้ข้า...ข้าจะไปจวนสกุลเจียง”“แต่ฮูหยิน...ท่านมิรอนายท่านหรือขอรับ” พ่อบ้านซักถามอย่างเกรงจะถูกตำหนิจากหานอี้หลง“ใต้เท้ามีงานราชการ...ค่อยให้เขาตามไปทีหลังก็แล้วกัน” เจียงอันเล่อมินำพา นางเดินตรงไปยังด้านหน้าจวนอย่างไม่สนใจท่าทางลำบากใจของพ่อบ้านแม้แต่น้อยรถม้าจอดเทียบที่จว
ตอนที่ 40 ขัดขวาง“เจ้า...เจ้าอย่าคิดว่าข้ามิรู้ความคิดของเจ้าหรอกนะ” จางลู่เหวินดึงคอเสื้อของหานอี้หลงและเตรียมง้างหมัดขึ้นมากลางอากาศ ในขณะที่หานอี้หลงก็ทำเพียงยืนนิ่งเฉยอย่างไม่สะทกสะท้านทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ร้องตะโกนดังขึ้นมา “พวกท่าน...หยุดเดี๋ยวนี้นะ” เจียงอันเล่อรีบปรี่เข้ามายืนขวางด้านหน้าของจางลู่เหวิน พร้อมจ้องมองเขาอย่างไม่เกรงกลัว เมื่อเห็นจางลู่เหวินสะบัดมือลงแนบลำตัวด้วยความหัวเสีย นางจึงได้เหลียวหลังไปมองหานอี้หลงอย่างนึกผิดหวัง“เจ้ามาทำอันใดที่นี่...นี่มิใช่ธุระกงการของเจ้า” หานอี้หลงตวาดออกมาเมื่อเจียงอันเล่อเข้ามาขัดจังหวะทำให้เขาเสียแผนที่วางไว้เจียงอันเล่อเปรยตามองหานอี้หลงอีกครั้งพร้อมกับค้อนขวับเข้าใส่ชายหนุ่มอย่างนึกหมั่นไส้ ก่อนจะเดินตรงไปยังด้านหน้าของหยางชิวเหยาอีกครั้งและแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น “เพี๊ยะ...” เสียงตบหน้าที่ดังพร้อมกับใบหน้าหวานที่สะบัดไปตามแรงมือจนร่างบางถึงกับซวนเซไปในทีเดียวหยางชิวเหยายกมือขึ้นกุมใบหน้าของตนพร้อมมองหน้าเจียงอันเล่ออย่างตกตะลึง จางลู่เหวินเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เขากำลังจะก้าวเข้ามาห้ามเจียงอันเล่อในทันที เช่นเดียวกับหา
บทที่ 41 แสดงความเป็นเจ้าของรถม้าแล่นไปตามถนนอย่างช้าๆ หงฟางซินจ้องมองเจียงอันเล่ออย่างไม่วางตา แววตาของเขานั้นดูทั้งห่วงกังวลและนึกเสียใจในเวลาเดียวกัน เจียงอันเล่อหันไปสบตากับเขาพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นอย่างมีคำถาม“เอ่อ...เจ้าสบายดีหรือไม่” หงฟางซินเอ่ยขึ้นมาพร้อมยกมือขึ้นลูบท้ายทอยอย่างรู้สึกกระดากอาย เขาส่งสายตาเว้าวอนมองไปยังเจียงอันเล่ออยู่ในทีเจียงอันเล่อยิ้มอ่อนให้หงฟางซินอย่างนึกเอ็นดู ชายหนุ่มสวมอาภรณ์สีเข้มตัดกับผิวขาวกระจ่างของเขา รูปร่างสูงโปร่ง บ่ากว้างสมชายชาตรี กับแววตาที่ทอดมองนางอย่างคะนึงหา เจียงอันเล่ออดนึกขันตนเองอย่างเสียมิได้ ชายหนุ่มที่ดูซื่อบริสุทธิ์เช่นนี้ นางกลับมิอาจตอบรับไมตรีจากเขา กับชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่นางเอาแต่วิ่งวนอย่างมิรู้จุดหมายปลายทางดั่งกำลังอยู่ในเขาวงกตที่มิอาจหาทางออกได้เจอ“อันเล่อ...ข้านึกเสียดายยิ่งนัก ข้ามันก้าวช้าไปเพียงก้าวหนึ่งเท่านั้น...” หงฟางซินตัดพ้อออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด “หากข้ามิรอเวลาให้ล่วงเลย เจ้าคงมิต้องทนทุกข์เช่นนี้เป็นแน่”คำพูดของหงฟางซินทำให้เจียงอันเล่ออดสะท้านในหัวใจขึ้นมาอย่างช่วยมิได้ นางได้แ
ตอนที่ 42 ข้ามิได้รักท่านภายในห้องนอนใหญ่ของเรือนสกุลหาน แสงจากโคมไฟส่องสว่างพอให้เห็นเงาร่างของหญิงสาวที่กำลังดิ้นรนหนีจากอ้อมแขนของชายหนุ่ม หานอี้หลงเพิ่งพาเจียงอันเล่อเข้ามาถึงในเรือน เขาสั่งให้สาวใช้ออกไปให้หมดพร้อมกับปิดประตูห้องนอนอย่างแน่นหนา“ใต้เท้า...ท่านปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้นะ” เจียงอันเล่อตะโกนพร้อมดิ้นให้หลุดจากการเกาะกุม น้ำเสียงนางดังก้องไปทั่วห้อง แต่หานอี้หลงกลับมินำพาเขายิ่งกระชับวงแขนแน่นขึ้น ดวงตาคมเข้มจ้องมองนางด้วยความรู้สึกผสมปนเป สีหน้าของหานอี้หลงเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากหานอี้หลงอุ้มเจียงอันเล่อไปวางลงบนเตียงนอน เจียงอันเล่อรีบดีดตัวขึ้นยืนพร้อมกับตั้งท่าอย่างระแวดระวังราวกับลูกกวางที่กำลังเผชิญหน้ากับราชสีห์“ใต้เท้า...ท่านทำเช่นนี้ทำไมกัน...ข้าตกลงกับท่านแล้วมิใช่หรือ” เจียงอันเล่อโวยวายขึ้นมาในทันทีที่เห็นหานอี้หลงแสดงพฤติกรรมที่ชวนให้อึดอัดใจเช่นนี้“ตกลง...ข้าตกลงอันใดกับเจ้ากัน” หานอี้หลงเอ่ยออกมาอย่างลอยหน้าลอยตาราวกับมิรับรู้เรื่องอันใด“นี่ท่าน...ท่านต้องการอะไรจากข้ากันแน่” เจียงอันเล่อที่ถูกยั่วยุโทสะก็ยิ่งเต้นเร่าด้วยความเดื
บทที่ 43 ติดบ่วงแสงเทียนสลัวสะท้อนบนพื้นสั่นไหวไปเป็นจังหวะรับกับเตียงไม้ที่ไหวคลอนไปตามแรง เสียงเอี๊ยดอ๊าดบรรเลงรับกับเสียงครางที่ดังสลับกันไปมาราวกับบทเพลงรักที่ขับกล่อมเป็นท่วงทำนองเสนาะ เสื้อผ้าที่เกะกะสายตาถูกดึงรั้งออกจากร่างกายของคนทั้งสอง ก่อนจะถูกโยนทิ้งลงไปที่พื้นอย่างมิไยดีสองร่างกอดรัดพันเกี่ยวหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน หานอี้หลงเคลื่อนกายไปตามแรงปรารถนาที่ถาโถมเข้าใส่อย่างไม่หยุดยั้ง ร่างบางหอบเหนื่อยโยกคลอนไปตามแรงกระแทกที่เร่าร้อนดุดัน สองมือจิกเกร็งลงบนผืนผ้าห่มนุ่มอย่างมิอาจกลั้นแรงปรารถนาที่โหมเข้าใส่ เสียงครางหวานดังขึ้นเป็นจังหวะสอดประสานรับการเสียงครางแหบกระเส่าทางด้านบน มือหนาบีบเคล้นไปตามจุดสัมผัสอันอ่อนไหวด้วยความชำนาญ ปลุกเร้าให้คนใต้ร่างบิดกายเคลื่อนไหวรับจังหวะที่เร่งเร้าอย่างผสมกลมกลืนกว่าพายุจะสงบลงก็กินเวลาไปกว่าชั่วยาม หานอี้หลงนอนหอบเหนื่อยด้วยใบหน้าที่สุขสมและอิ่มเอม เจียงอันเล่อรีบหันกายหลีกหนีความอับอายเมื่อนึกถึงบทรักที่นางต่างยินยอมพร้อมใจมิต่างจากหญิงคณิกาที่ปรนเปรอความต้องการของบุรุษจนปลดเปลื้องสมดังหมายหานอี้หลงหันกายเข้าหาร่างบางก่อนจะชันกายข
บทที่ 44 จนใจเจียงอันเล่อรีบลุกขึ้นอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเรียบร้อย เมื่อออกมาก็ยังคงเห็นหานอี้หลงนอนชันเข่าอย่างสบายใจ นางรีบปรี่เข้าไปดึงรั้งแขนของเขาให้ลุกขึ้นจากเตียงนอนของนาง “ท่านออกไปจากห้องข้าได้แล้ว”หานอี้หลงยอมลุกขึ้นแต่โดยดี แต่เขาก็ยังมิวายยิ้มกริ่มอย่างนึกล้อเลียนเจียงอันเล่ออีกครั้ง เจียงอันเล่อได้แต่หน้าหงิกงอ ใบหน้าเริ่มแดงก่ำ แววตาเต็มไปด้วยความขัดแย้งในใจ ทั้งโกรธและอับอาย เสียงหัวเราะในลำคอของหานอี้หลงยิ่งทำให้เจียงอันเล่อรู้สึกเหมือนถูกยั่วเย้าจนแทบระเบิด “ท่านอย่ามายิ้มเช่นนั้น ข้าจะมิยอมให้ท่านทำตามอำเภอใจได้อีก...ออกไปได้แล้ว”หานอี้หลงที่ถูกดันกายออกไปจนถึงด้านหน้าประตู เขาหันกลับมาอีกครั้ง พร้อมก้มหน้าต่ำส่งเสียงกระซิบอย่างที่ได้ยินเพียงลำพัง “ข้าจะรอดู”เจียงอันเล่อรีบปิดประตูใส่หน้าหานอี้หลง จากนั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างน่าหงุดหงิดใจ นางรีบหันกลับมานั่งกระแทกตัวลงที่เก้าอี้พร้อมกับความรู้สึกราวกับตนเองกำลังทรยศตนเองอยู่เช่นนั้นช่วงบ่ายของวัน หลีอันเดินเข้ามาภายในห้องพร้อมกับรายงานทันที “คุณหนู...องค์ชายเก้ามาขอพบเจ้าค่ะ” เจียงอันเล่อได้ยินเช
ตอนที่ 53 บทสรุปของนิยายค่ำคืนในเมืองหลวงสงบเงียบลงหลังจากความวุ่นวายภายในวังหลวงได้จบสิ้นลง เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็ค่อยๆ จางหายไปตามกาลเวลาเหตุการณ์ในครั้งนั้นส่งผลให้เจียงเสิ่นเย่วถูกริบทรัพย์สินจนหมดสิ้นเหลือเพียงเงินทองบางส่วนเพื่อประทังชีวิตอย่างไม่ยากลำบากนัก เขาถูกกักบริเวณอยู่ภายในจวนสกุลเจียงโดยมีทหารควบคุมเพื่อมิให้ติดต่อผู้ใดซึ่งอาจเป็นการกบฏขึ้นอีกในภายหลัง ส่วนเหล่าขุนนางที่เกี่ยวข้อง บ้างก็ถูกประหาร บ้างก็ถูกเนรเทศจนมิเหลือสิ้นในขณะที่องค์หญิงห้าหงอวิ๋นชิว เจียงอันเล่อรู้ดีว่านางมีความทะเยอทะยานอยากมีอำนาจเพื่อปกป้องตนเองจากความโหดร้ายของวังหลวงมากเพียงใด การร่วมมือกันในครั้งนี้จึงทำให้นางได้รับความโปรดปรานจากหงจูเหลียง รวมถึงได้รับพระราชทานตรายศสำหรับละเว้นโทษให้กับนางอีกด้วยในขณะที่หงฟางซินแม้จะเป็นบุตรชายคนเล็ก แต่เพราะความเฉลียวฉลาดและผลงานชิ้นดังกล่าว เดิมทีหงจูเหลียงตั้งใจจะมอบตำแหน่งรัชทายาทให้แก่เขา แต่หงฟางซินกลับปฏิเสธด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ทำให้ตำแหน่งรัชทายาทจึงยังคงเป็นของพี่ชายของตนสืบต่อไป ส่วนฮองเฮาเม่งฉีเต๋อนั้นไม่ว่าจะเป็นบุตรคนใดของนางเป็นรัชทาย
ตอนที่ 52 ล้อมจับท้องฟ้ายามราตรีถูกแต่งแต้มด้วยแสงพลุที่แตกกระจายเป็นประกายระยิบระยับ งานเลี้ยงเฉลิมฉลองชัยชนะของจางลู่เหวินถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในพระราชวัง หงจูเหลียงประทับบนบัลลังก์สูงสุด ล้อมรอบไปด้วยเหล่าขุนนางที่มาร่วมงานเลี้ยง เสียงเครื่องดนตรีบรรเลงขับกล่อม ผสมกับเสียงหัวเราะของเหล่าขุนนางและแขกที่มาร่วมงาน บรรยากาศเต็มไปด้วยความครึกครื้นเจียงเสิ่นเย่วได้รับเทียบเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วย เขาสวมอาภรณ์หรูหราตามฐานะ ใบหน้าคงความสง่างามและเยือกเย็นเฉกเช่นทุกครั้ง แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความหวาดระแวง แผนการใหญ่ของเขากำลังใกล้จะเริ่มต้นขึ้น การที่หงจูเหลียงเชิญเขามาร่วมงานในค่ำคืนนี้มิรู้ว่าจะมีแผนการร้ายอันใดหรือไม่ แต่คนอย่างเขาเมื่อขึ้นหลังเสือแล้วก็มิอาจลงได้โดยง่าย เจียงเสิ่นเย่วจึงข่มใจปั้นหน้านิ่งขรึมและวางท่าอย่างสง่างามเพียงเท่านั้น“ท่านพ่อ...” เจียงอันเล่อมองบิดาของตนจากที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยแววตาแห่งความรู้สึกผิดและวิตกกังวล นางรับรู้ได้ถึงพายุแห่งความเปลี่ยนแปลงที่กำลังใกล้เข้ามา ดวงตาของหานอี้หลงที่ยืนอยู่ด้านข้างของนางฉายแววความห่วงใยในตัวหญิงสาวข้างก
ตอนที่ 51 เดินแผนการสายลมเย็นพัดผ่านเข้ามาที่บานหน้าต่างกระทบกับผิวบางที่เปลือยเปล่าของเจียงอันเล่อ นางขยับกายซุกไซ้เข้ากระชับกับแผงอกหนาอุ่นนุ่ม ก่อนจะเหลือบมองหานอี้หลงที่นอนอยู่เคียงข้าง ใบหน้าของเขาสงบนิ่ง ดวงตาปิดสนิทกับลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ เจียงอันเล่อยกยิ้มขึ้นมาอย่างรู้สึกตื้นตันใจ นางมิกล้าคิดหวังว่านางจะสมหวังเช่นนี้ เจียงอันเล่อหลับตาลงอีกครั้ง ดวงตาปิดสนิทพร้อมกับหลับใหลไปในที่สุดช่วงสายของวันใหม่หงฟางซินมายืนรออยู่ที่ด้านหน้าจวน เมื่อเขาเห็นเจียงอันเล่อและหานอี้หลงเดินออกมาพร้อมกัน คิ้วทั้งสองข้างของหงฟางซินก็กระตุกขึ้นมาในทันที สายตาของเขาฉายแววไม่พอใจอย่างชัดเจน “เล่อเอ๋อร์...ดูท่าความสัมพันธ์ของพวกเจ้าจะดีขึ้นมากกว่าที่ข้าคิดไว้” หงฟางซินเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงประชดประชัน พลางพ่นลมหายใจออกมาเบาๆหานอี้หลงปรายตามองหงฟางซินอย่างไม่สบอารมณ์ เขายิ้มเยาะก่อนเอ่ยกลับออกมา “ข้ากับฮูหยินรักใคร่กันดี แล้วท่านเกี่ยวอันใดด้วยเล่า”“เจ้า” หงฟางซินกัดฟันแน่น นัยน์ตาวาวโรจน์ด้วยความขุ่นเคือง มือที่กำหมัดแน่นสั่นเล็กน้อยราวกับต้องการระงับอารมณ์ของตนเอง“พอได้แล้ว ทั้งสองคนน
ตอนที่ 50 ยอมทิ้งศักดิ์ศรีเจียงอันเล่อยิ้มเจื่อนขึ้นมาเมื่อเห็นว่าหานอี้หลงยังคงนิ่งเฉย นางกะพริบตาเพื่อไล่หยาดน้ำตาที่เอ่อคลออยู่ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น ดวงตาคู่งามฉายแววแน่วแน่ พยายามรักษาศักดิ์ศรีของตนไว้ให้คงอยู่ แม้ว่าในใจจะแหลกสลายไปแล้วก็ตาม“พรุ่งนี้ข้าจะส่งหนังสือหย่าให้ท่าน หวังว่าท่านจะมิทำให้ข้าลำบากใจอีก” เจียงอันเล่อกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่กลับสั่นเครือแม้ว่าจะพยายามรักษาท่าทีมากเพียงใดก็ตาม นางตัดสินใจหมุนกายเตรียมก้าวเดินออกจากห้องไปเสียหานอี้หลงยืนนิ่งราวกับถูกตรึงเอาไว้ ความรู้สึกต่างๆ ประเดประดังเข้าใส่ราวกับคลื่นมหาสมุทร ดวงตาคมกริบที่เคยแน่วแน่ฉายแววเจ็บปวดอย่างที่สุด เมื่อเจียงอันเล่อหันหลังให้กับเขา ความรู้สึกหวาดกลัวพลันแล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจจนหานอี้หลงแทบหายใจไม่ออก“เล่อเอ๋อร์” หานอี้หลงร้องเรียกออกมา ก่อนจะโถมตัวเข้าสวมกอดร่างบางจากทางด้านหลังเอาไว้แน่น อ้อมแขนแกร่งรัดแน่นราวกับกลัวว่านางจะสลายหายไปในพริบตา“เล่อเอ๋อร์...ได้โปรดอย่าทิ้งข้าไปเลย ข้ามีเจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น” น้ำเสียงของหานอี้หลงสั่นไหวอย่างที่มิเคยเป็นมาก่อน ศีรษะก้มต่ำซบลงที่ลาดไหล่ของเจี
ตอนที่ 49 เหนี่ยวรั้งครั้งสุดท้ายหานอี้หลงกระชากแขนเจียงอันเล่อเข้าปะทะกับแผงอกเข้าอย่างจัง ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วห้องมีเพียงเสียงลมหายใจที่ติดขัดของทั้งสองคน พร้อมสายตาที่จ้องมองกันอย่างมิมีใครยอมใคร“เจ้าคิดจะทำอันใดกันแน่” หานอี้หลงตะคอกออกมาอย่างหมดความอดทน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยโทสะ ความหึงหวงแผ่ซ่านไปทั่วร่างราวกับเพลิงที่ไม่มีวันดับ ดวงตาดุดันจ้องมองร่างบางที่เบื้องหน้า“ใต้เท้า...ท่านต่างหากที่คิดจะทำอันใดกันแน่” เจียงอันเล่อโต้กลับในทันที“เฮอะ...ฮูหยินของข้าออกตะลอนไปทั่วเมืองกับชายอื่น เจ้าจะให้ข้านั่งรออยู่ที่จวนเฉยๆ เช่นนั้นหรือ”“เพี๊ยะ...” เจียงอันเล่อยกมือขึ้นสะบัดไปที่ใบหน้าของหานอี้หลงจนเต็มแรง “ใต้เท้า...ท่านอย่าได้คิดว่าดูถูกข้าเช่นนี้”หานอี้หลงยกมือขึ้นลูบใบหน้า พร้อมกับแสยะยิ้มขึ้นมาจนดูน่าหวาดกลัว เขากระชากแขนของเจียงอันเล่อเข้าหาตัวอีกครั้ง “งั้นข้าควรคิดเช่นใด...เจ้าลองตอบข้ามาสักหน่อย”เจียงอันเล่อสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเขา นางเชิดหน้าขึ้นอย่างทระนง ทว่าดวงตาของนางกลับมีร่องรอยของความผิดหวังลึกซึ้ง นางกวาดตามองหานอี้หลงอย่างเย็นชา ก่อนจะเดินตรงไปยั
ตอนที่ 48 ร้อนใจในยามสายของวันหนึ่ง เจียงอันเล่อที่นั่งพลิกอ่านสารลับที่หลีอันเพิ่งนำมามอบให้ ดวงตางดงามแต่นิ่งลึกฉายแวววิตกกังวลใจขึ้นมาในทันที คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน นางเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะกำสารลับไว้ในมือแน่นขึ้น “ถึงเวลาแล้วสินะ”“หลีอันรีบเตรียมรถม้าให้ข้าที” เจียงอันเล่อรีบสั่งหลีอันอย่างเร่งร้อน พลางเงยหน้ามองออกไปภายนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าสีครามที่ดูงดงามราวกับภาพวาดกลับมิอาจกลบเกลื่อนความรู้สึกอึดอัดภายในใจที่มี เจียงอันเล่อมิรอช้าอีกต่อไป นางรีบเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดเรียบง่าย คลุมทับด้วยผ้าคลุมสีเข้มแล้วรีบออกจากจวนไปอย่างเงียบๆในขณะเดียวกันภายในห้องอักษรของจวนสกุลหาน หานอี้หลงนั่งอยู่หลังโต๊ะใหญ่ ม้วนเอกสารกระจัดกระจายอยู่เบื้องหน้า จ้าวกงยืนรายงานความเคลื่อนไหวของกองกำลังลับที่เตรียมซุ่มโจมตีจางลู่เหวินตามแผนการที่วางเอาไว้เป็นอย่างดี แต่หานอี้หลงกลับเพียงพยักหน้ารับอย่างเหม่อลอยราวกับจิตใจมิได้อยู่กับตัว“ใต้เท้า...ทหารลับรอเพียงคำสั่งจากท่าน...ชีวิตของแม่ทัพจางย่อมอยู่ในเงื้อมมือของเราขอรับ”ทันใดนั้นพ่อบ้านก็เดินเข้ามาด้วยท่าทีลังเลใจ เขาเดินเข้ามาวางของว่างตรงหน
ตอนที่ 47 เดินตามวิถีทางภายในจวนสกุลหานกลับเข้าสู่บรรยากาศที่อึมครึม เจียงอันเล่อเอาแต่อยู่ภายในเรือนของตนเอง นางไม่คิดย่างกรายออกไปที่ใด วันๆ เอาแต่นั่งหน้าเคร่งเครียดกับเอกสารที่กองตรงหน้า มีเพียงหลีอันที่คอยวิ่งเข้าวิ่งออกภายในเรือนโดยมิให้ผู้ใดเข้าพบ แม้กระทั่งเงาของหานอี้หลงก็แทบจะมิได้พบเจอเช่นกัน ตั้งแต่วันนั้นมาความสัมพันธ์ระหว่างนางกับหานอี้หลงก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงหานอี้หลงออกจากจวนตั้งแต่เช้าตรู่และกลับมาในยามดึกเสมอ เขาหาได้มาหานางเฉกเช่นเคย ราวกับคนทั้งสองมิได้อยู่ร่วมจวนเดียวกัน จะมีก็แต่เพียงพ่อบ้านที่คอยเทียวไปเทียวมา รายงานความเคลื่อนไหวของแต่ละฝ่ายให้ทั้งสองรับทราบอย่างอ่อนอกอ่อนใจ“ยามพวกท่านรักกันก็ตัวติดกันเป็นตังเม ยามโกรธเคืองกัน ไฉนเลยจึงมาลงเอาที่ข้าเพียงผู้เดียว” พ่อบ้านบ่นอุบเมื่อเข้ามารายงานความเคลื่อนไหวของหานอี้หลงให้ฮูหยินของจวนฟัง นางเพียงพยักหน้ารับพร้อมกับปัดมือไล่เขาออกไปในขณะที่หานอี้หลงเองเมื่อรายงานความคืบหน้าของเจียงอันเล่อเสร็จ หานอี้หลงก็เพียงเอ่ยถามเพียงว่านางได้พบผู้ใดหรือไม่ เมื่อได้คำตอบที่พึงพอใจ เขาก็โบกมือไล่เขาออกไปอย่างนึกรำคาญวันน
ตอนที่ 46 เจ้าช่างโง่ยิ่งนักหานอี้หลงอุ้มเจียงอันเล่อเข้าไปในเรือนของนางอย่างเร่งรีบ ร่างบางในอ้อมแขนสั่นเทาด้วยพิษไข้ที่เริ่มกำเริบ ดวงตาที่กลมโตปิดปรือขึ้นเล็กน้อยก่อนที่ริมฝีปากซีดจะสั่นระริกอย่างต้องการเอ่ยสิ่งใดออกมา“เหตุใดเจ้าช่างโง่เช่นนี้” หานอี้หลงพึมพำอย่างหัวเสีย เขาทั้งโกรธทั้งหงุดหงิดทั้งเป็นห่วงร่างบางในอ้อมแขนอย่างยิ่งดวงตาหม่นเศร้าจับจ้องไปที่ใบหน้าของหานอี้หลง “ใต้เท้า...ข้ามิต้องการให้ท่านทำผิดซ้ำอีก ข้ามิต้องการให้ท่านถลำลึกไปมากกว่านี้…”หัวใจของหานอี้หลงบีบรัดแน่นกับคำพูดของเจียงอันเล่อ เขาข่มความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ ก่อนจะกระซิบเสียงสั่นเครือ “เล่อเอ๋อร์...เจ้าเลิกพูดได้แล้ว เวลานี้เจ้าควรพักผ่อนเสียก่อนเถิด”ไม่นานหมอก็รีบเข้ามาด้านในพร้อมกล่องยา หานอี้หลงเดินกระสับกระส่ายไปมา คอยเฝ้ามองเจียงอันเล่ออยู่ไม่ห่างกาย“ใต้เท้า...บาดแผลจากลูกธนูมิโดนจุดสำคัญ แต่ลูกธนูนั้นอาบยาพิษไว้ จำต้องรีบขับพิษออกจากร่างกายโดยเร็วขอรับ”หานอี้หลงรีบให้คนนำยาถอนพิษมาให้หมอ “เจ้าต้องทำทุกอย่างให้นางปลอดภัย” หานอี้หลงกำชับหมออย่างกระวนกระวายหลังจากได้รับยาถอนพิษเจียงอันเล่อก็เข้าส
ตอนที่ 45 ธนูพิษช่วงสายของวันเจียงอันเล่อลืมตาตื่นขึ้นอย่างรู้สึกสดชื่น หลีอันที่ใบหน้ายิ้มแย้มเดินเข้ามาด้านในพร้อมสำรับอาหาร“คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ”“เจ้ามีเรื่องอันใด เหตุใดถึงดูมีความสุขเช่นนั้น” เจียงอันเล่อเอ่ยพลางลุกขึ้นผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าไปพลางหลีอันที่ช่วยแต่งกายอยู่ด้านข้างก็หัวเราะคิกคักขึ้นมา “เมื่อคืนใต้เท้าอยู่เป็นเพื่อนคุณหนูทั้งคืนนี่เจ้าคะ”เจียงอันเล่อชะงักพร้อมเลิกคิ้วขึ้น “ใต้เท้านอนที่นี่หรือ”“เจ้าค่ะ...ใต้เท้าเป็นห่วงคุณหนูมาก นอนเฝ้าไข้คุณหนูทั้งคืน เพิ่งออกจากจวนไปเมื่อตอนเช้าตรู่เจ้าค่ะ”เจียงอันเล่อเผลออมยิ้มขึ้นมาอย่างลืมตัว แต่เมื่อเห็นสายตาล้อเลียนของหลีอัน นางก็กระแอมออกมาเบาๆ “เจ้าจะไปทำอันใดก็ไปเถิด...อ้อแล้วเรื่องที่ข้าให้ไปสืบ มีความคืบหน้าถึงไหนแล้ว”เจียงอันเล่อลงนั่งที่โต๊ะพร้อมคีบอาหารเข้าปากอย่างหิวกระหาย หลีอันยื่นกระดาษเล็กๆ ให้กับนางในทันที เจียงอันเล่อรับกระดาษนั้นคลี่ออกอ่าน แต่แล้วใบหน้าที่แช่มชื่นก็แปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองในทันที ความอยากอาหารที่มีหายวับไปในพริบตา “ท่านยังมิเลิกล้มความตั้งใจอยู่อีกหรือ”เจียงอันเล่อรีบลุกขึ้นจรดพู่กัน