ท่านอ๋องไม่เคยถูกจู่โจมเช่นนี้มาก่อน เขาไม่ทันระวัง ตอนนี้ชิงเยี่ยนเริ่มลงมือบางอย่างกับร่างเปลือยของเขาแล้ว
มังกรของเขาจากที่หลับใหลอยู่เริ่มผงาดขึ้นมาเพราะถูกถูไถไปมาจนมันเริ่มตื่น เจ้าสาวของเขาร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆแม้ว่าเขาจะแข็งแรงกว่านาง แต่ดูเหมือนจะไม่อยากจะต่อต้านนางสักเท่าใด
“ฟ่างชิงเยี่ยน ข้า….จะทนไม่ไหวแล้ว”
“ไม่ไหว…ก็อย่าทน…สัมผัสข้าสิเพคะ ท่านอ๋อง….อย่ากลั้นสิ อ๊าาา”
“ฟ่างชิงเยี่ยน!! ตั้งสติหน่อย นี่เรากำลังถูกวางยานะ!!”
“วางยา แล้วอย่างไร ข้าแต่งมาท่านก็ต้องทำเช่นนี้ ไม่ต่างกับพระสนมก่อนหน้านี้ทุกคน และอีกไม่นานก็จะฆ่าข้า จะทำอย่างไรก็แล้วแต่ท่าน จริงสิ ก่อนที่ท่านจะฆ่าข้า ก็ขอล้างแค้นก่อนก็แล้วกัน อยู่เฉย ๆ!!”
“พระชายา ข้า..ขอเตือนเจ้า นั่นเจ้าจะทำอะไร!!”
ชิงเยี่ยนดึงสายรัดผ้าม่านลงและดึงแขนของเขาตรึงขึ้นด้านบนพร้อมกับมัดเอาไว้
“เจ้าจะทำอะไร ปล่อยข้านะ!! ข้าเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย…ฟ่างชิงเยี่ยน!!”
นางไม่ฟังสิ่งใดจากเขาอีก ชิงเยี่ยนเริ่มล้วงลงไปเรื่อยๆลุกลามไปทั้งร่างของบุรุษหนุ่มที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อที่น่าหลงใหลนี้ นางเผลอกัดเขาไปที่ไหล่ข้างหนึ่งอย่างนึกหมั่นเขี้ยวและเริ่มจูบเขาอีกครั้ง
ท่านอ๋องเริ่มต้านนางไม่ไหว หากเรื่องนี้เขามิได้เป็นคนเริ่มก่อน หากจะโทษก็ต้องโทษที่นางขาดสติเอง
“ข้าเตือนเจ้าแล้วนะ อุ๊บ….อาา…ชะ…ชิงเยี่ยน อย่า..อาา!! ตรงนั้นไม่ได้นะ ข้าเตือนเจ้า…อาา..”
ชิงเยี่ยนดึงมังกรยักษ์นั้นด้วยมือนุ่มของนางพร้อมกับพรมจูบไปทั่วหน้าอกของเขา นางกัดไปที่ยอดอกสีเข้มที่พุ่งขึ้นมาชนปากของนางทำเอาอ๋องหนุ่มร้องครางเสียงหลงออกมาเพราะเริ่มทนไม่ไหว มือเขาถูกมัดเอาไว้แน่นและตอนนี้นางกำลังเลื่อนตัวลงไป
“อย่านะฟ่างชิงเยี่ยน เจ้า…อย่านะ อาา…ไม่นะ ข้า…”
ฟ่างชิงเยี่ยนเองก็ไม่รู้ตัวว่าทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร นางรู้เพียงว่านางอยากจะทำสิ่งใดก็จะทำเลย ตอนนี้ปากนางครอบครองมังกรยักษ์ของเขาเอาไว้จนเต็มปาก
นางดูดเอาน้ำหวานนั้นเข้าไปพร้อมกับรูดขึ้นลงและใช้ปลายลิ้นสัมผัสปลายยอดมังกรที่เริ่มบานนั้น นางอยากรู้ว่าหากสิ่งนี้เข้ามาในกายนางจะเป็นเช่นไร
“ชิงเยี่ยน นี่เป็นครั้งแรกของเจ้า คิดให้ดีก่อนจะทำอะไรโง่ๆ พระชายา!! ตั้งสติหน่อย”
ชิงเยี่ยนไม่สนคำที่เขาพูด นางยังคงครอบครองมังกรยักษ์นั้นต่อ คนใต้ร่างเริ่มทนไม่ไหว สุดท้ายเขาก็ปล่อยให้นางครอบครองเขาจนเริ่มทนไม่ไหว
เชือกที่มือนั้นเริ่มเลื่อนหลุดทีละนิดเพราะเขาดึงออก แต่ไม่รู้ว่าแขนหรือมังกรยักษ์นั่น จะหลุดก่อนกัน
“อาา…ชิงเยี่ยน ข้าไม่ไหวแล้ว ปล่อยข้านะ ปล่อยก่อน อาา….ไม่นะ อาา!!!”
เขารู้สึกว่ามีบางอย่างพุ่งออกมาด้วยความเสียวซ่านสุดชีวิตที่เขาเคยพบ แม้ว่าจะเคยผ่านเรื่องเช่นนี้มา แต่ประสบการณ์เช่นนี้พึ่งเคยพบเจอเป็นครั้งแรก
ชิงเยี่ยนจับมังกรยักษ์ของเขาเอาไว้แน่นพร้อมดูดกลืนทุกอย่างลงไปจนหมดสิ้น นางกำลังทำบางอย่างเมื่อเห็นว่าท่านอ๋องนอนหอบอยู่บนเตียง
“ช้าก่อน!! หยุดนะ!!”
เขาดึงสายรัดผ้าม่านนั้นออกพร้อมกับจับตัวพระชายาหมาดๆของเขาเข้ามา ร่างเปลือยเปล่าตรงหน้ายังไม่หยุดยั่วยวนเขาเมื่อหันมาจูบเขาต่อ เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะจัดการเช่นไรดี
“ชิงเยี่ยน เช่นนั้น ครั้งแรกของเจ้า….”
“เร็วเข้าเพคะ ท่านอ๋อง ได้โปรด มอบความสุขให้หม่อมฉัน…อ๊าา…ท่านอ๋อง ดีเพคะ เลียแรงๆเพคะ ครอบครองหม่อมฉัน อ๊าา…เช่นนั้นแหละเพคะ อื้ออ…อ๊าาาา ”
เขารู้ว่านางพูดด้วยอารมณ์ของฤทธิ์ยานั้น เขาต้องทำให้นางตายใจก่อน ลิ้นของเขากำลังก้มจัดการกับยอดอกคู่งามที่น่าหลงใหลยิ่งนัก มืออีกข้างประคองยอดอกพร้อมกับบีบตามมือเรียวบางที่เอื้อมมาบอกให้เขาจัดการมัน
“ชิงเยี่ยน อาา…”
“ท่านอ๋อง….”
มือหนาเลื่อนลงไปยังกลีบดอกไม้ด้านล่าง ใจกลางสตรีของนางตอนนี้เปียกจนลามไปข้างล่าง ฤทธิ์ยานี้มีผลกับนางมาก เขาคิดว่านางคงทนอีกไม่นานแล้วเมื่อนิ้วของเขาเริ่มสอดใส่เข้าไปด้านในนั้นจนนางร้องออกมา
“ท่านอ๋องเพคะ อ๊าา…..”
ลิ้นที่กัดเล็มที่หน้าอกพร้อมกับนิ้วมือที่ทำงานประสานกันด้านล่าง กระดิกไปมาด้านในกลีบงามนั้นไม่นานก็มีน้ำหล่อลื่นไหลออกมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงร้อง
“อ๊าา…ทนไม่ไหวแล้ว อ๊าาา….”
ชิงเยี่ยนร้องดังจนไม่เป็นภาษา ร่างของนางเกร็งกระตุกถี่อย่างรุนแรงไม่นานก็ร่วงลงไปที่เตียงพร้อมกับท่านอ๋องที่ใช้แขนมารับนางเอาไว้ได้ ฟ่างชิงเยี่ยนหมดสติไปในอ้อมกอดของเขา
“อีกนิดเดียว…..เกือบไปแล้ว….เฮ้อ…”
เขาเผลอล้มตัวลงนอนข้างๆร่างเปลือยนั้นด้วยความหมดแรง พร้อมกับนึกย้อนไปเหตุการณ์ที่พึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ เขาค่อยๆลุกขึ้นมองสตรีที่นอนอยู่ข้างๆ ใบหน้างดงามนี้เขาจำได้ว่าไม่เคยพบเจอนางมาก่อนที่ซูโจวนี้เป็นแน่ บุตรแม่ทัพฟ่างเขาเคยเห็นหน้านางมาก่อน แต่ไม่ใช่นางผู้นี้
“จางจื่อ”
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง ห้ามออกจากห้อง…”
“ข้ารู้แล้ว!! ข้ามีเรื่องจะไหว้วานเจ้า”
“ท่านอ๋องโปรดบัญชา”
“เจ้า…ไปสืบเรื่องของพระชายาให้ข้าที”
“พระชายา นางมิใช่…”
“ข้ารู้ แต่บุตรใต้เท้าฟ่างที่ข้าเคยพบ ไม่ใช่นาง เจ้าไปสืบมาให้แน่ว่าผู้ที่แต่งมานี้ คือบุตรของเขาแน่หรือไม่”
“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”
ลั่วอ๋องเดินกลับเข้าไปยังเตียงที่มีพระชายานอนเปลือยเปล่าอยู่ เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มนางไว้ พร้อมกับยืนมองใบหน้านางตอนหลับในตอนนี้
“หากว่าอีกสามเดือนข้างหน้าข้าไม่ฆ่าเจ้าให้ตาย ชีวิตพวกเราจะต่างไปจากเดิมหรือไม่กันนะ”
เขาเดินไปช้อนตัวร่างเปลือยนั้นขึ้นมาเพื่อพาไปล้างตัวห้องด้านหลัง ร่างบางนั้นเมื่อโดนน้ำก็รู้สึกตัวขึ้นเล็กน้อยแต่คงเพราะฤทธิ์ยาที่ยังไม่หมดไปทำให้นางรู้สึกตัวขึ้นมาอีก
“อืมม หนาวจังเลย….ท่านแม่..ช่วยลูกด้วย”
“แม่งั้นหรือ”
“ท่านแม่ ไม่นานลูกจะตามไปอยู่กับท่านแล้ว ลูกจะไม่เหงาและโดดเดี่ยวอีกแล้ว ท่านแม่รอลูกด้วย……”
“ตามไปอยู่ด้วย นี่นาง…..มิได้เป็นบุตรของฮูหยินใหญ่ของท่านแม่ทัพหรอกหรือ ฟ่างชิงเยี่ยน หึ น่าสนใจดีนี่ สกุลฟ่างพวกเจ้าช่างกล้าเหลือเกินนะ”
เขาไม่ทราบมาก่อนเลยว่าท่านแม่ทัพจะมีบุตรสาวอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนที่พบเจอในตอนนั้นในงานต้อนรับเขาที่พึ่งมาจากเมืองหลวงเขาพบเห็นเพียงบุตรชายสามคน
หนึ่งในนั้นคือฟ่างจื่อหนานสหายคนสนิทของเขาและบุตรสาวคนเดียวที่มาในงานนั้นหากว่าเขาจำไม่ผิด นางชื่อว่าฟ่างฝูเยว่
เมื่อเขาสวมชุดคลุมให้นางแล้วจึงได้วางร่างของชิงเยี่ยนลงที่เตียงพร้อมกับดึงผ้าห่มมาห่มให้นาง แม้ว่าตามธรรมเนียมแล้วคืนนี้เขาจะออกจากห้องไม่ได้ แต่คงไม่ดีแน่หากนางตื่นมาแล้วพบหน้าเขา
“จางจื่อ ไปกับข้า”
“ท่านอ๋อง ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ คืนนี้ …อุ่ย…”
“นางนอนไปแล้ว อย่าเสียงดัง เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ใดเป็นผู้นำสุรามงคลนี่มา”
“เอ่อ…สุรานี่นำมาจากที่ไปรับเจ้าสาว เช่นนั้นก็เป็นที่จวนสกุลฟ่างพ่ะย่ะค่ะ”
“เรื่องนี้ไม่ธรรมดาแน่ มีคนวางยาในเหล้านี่”
“เช่นนั้น…ท่านอ๋องกับพระชายา…เอ่อ…”
“เจ้าคิดอะไร นางเป็นพระชายาของข้า ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะ…”
ลั่วอ๋องมองหน้าคนสนิทของตนเองที่ยืนอมยิ้มให้เขาที่ยืนหน้าแดงอยู่ แม้ว่าจะมืดแต่อาการของผู้เป็นนายในยามนี้กลับปิดบังไม่มิด
“ท่านอ๋อง คิดจะทำสิ่งใดกับสุรานี่หรือพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าส่งคนไปสืบดู ว่าผู้ใดกันแน่ที่เป็นคนวางยาในสุรานี่ หากว่ามิได้สั่งการมาจากในวัง เช่นนั้น เป้าหมายที่ต้องการทำลาย อาจจะเป็นนาง”
“ท่านอ๋อง…ทรงหมายความว่ามีคนในสกุลฟ่างคิดร้ายกับพระชายางั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”
จวนสกุลฟ่าง“เจ้า….เจ้าว่าอย่างไรนะ พูด…พูดใหม่อีกที”“เรียนฮูหยิน…คุณหนูรอง….หาย…หายตัวไปแล้วเจ้าค่ะ”“นางหายไปได้อย่างไร!! หายไปเมื่อใดเหตุใดไม่มีคนรู้เห็น”“บ่าว…บ่าวไม่ทราบเจ้าค่ะ เมื่อเช้าบ่าวไปเคาะเรียกตามปกติ แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ จึงได้…เปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าคุณหนูรองไม่อยู่แล้วเจ้าค่ะ”แม่ทัพฟ่างที่นั่งนิ่งสงบอยู่ไล่สาวใช้ออกไปพร้อมกับหันหน้ามามองที่ฮูหยินรองที่เป็นมารดาของบุตรีที่หายไป นางหันมามองหน้าท่านแม่ทัพราวกับจะขอความช่วยเหลือ “ท่านพี่เจ้าคะ ได้โปรด…”“เจ้าไม่ต้องพูดสิ่งใด ข้า…เป็นคนปล่อยให้นางไปจากที่นี่เอง”“แต่ว่า ราชโองการแจ้งว่าให้นางแต่งเข้าจวนอ๋อง”“เรามิได้มีบุตรีแค่คนเดียว นางเป็นบุตรของเจ้าและข้า การส่งนางแต่งเข้าจวนอ๋องเจ้าเล่ห์ผู้นั้น ถือว่า….ส่งเนื้อเข้าปากเสือ”“แต่เราจะทำอย่างไรเจ้าคะ แจ้งไปตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว หากว่าพวกเขาทราบ นี่เป็นอาญาแผ่นดิน ขัดราชโองการหมายถึงตัดหัวนะเจ้าคะท่านพี่”“ข้า…ย่อมคิดหาวิธีได้จึงวางแผนเช่นนี้”ฮูหยินหันมามองผู้เป็นสามีที่ยังมีสายตาเรียบสงบนิ่ง “หรือว่า…ท่านพี่คิดจะ…”“นี่คือวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในยามนี้ ส่งฟ่างชิง
“น้องห้า…เจ้า…ตัดสินใจแน่แล้วงั้นหรือ”“เจ้าค่ะ"ชิงเยี่ยนคำนับให้พี่ใหญ่ก่อนจะเดินกลับมาที่เรือนพัก ของตนเอง นางมองไปรอบๆเรือนพักของนางอีกครั้ง ก่อนหน้านี้หลังจากมารดานางเสียไปนางก็ถูกย้ายมาที่เรือนหลังนี้ทันทีด้วยคำสั่งของฮูหยินใหญ่ ระหว่างที่บิดานางไปทำศึก แต่เมื่อเขากลับมาก็มิได้สั่งย้ายหรือช่วยเหลืออะไรนาง ทุกอย่างก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฮูหยินใหญ่จัดการทั้งหมด แม้ว่านางจะได้ร่ำเรียนทุกอย่างเหมือนกับพี่น้องทุกคน แต่ความแตกต่างกันก็เห็นได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับและสถานะในจวนสกุลฟ่าง“บางทีการไปตายเอาดาบหน้าเช่นนี้ก็อาจจะดีกว่า”วันแต่งงาน“ช่างน่าสงสารอะไรเช่นนี้นะ”“เห็นว่านางเป็นบุตรสาวคนสุดท้องของท่านแม่ทัพ”“นางไม่มีแม่ จะว่าไปแล้วข้าแทบจะไม่เคยเห็นนางมาก่อนเลยนะ หากวันนี้มิได้แต่งออกไปข้าคงคิดว่าท่านแม่ทัพมีบุตรสาวเพียงคนเดียวเสียอีก”“จุดประทัดไล่เสียงน่ารำคาญนี่ที”ฟ่างหลิงเทียนรีบสั่งคนให้จุดประทัดที่หน้าจวนด้วยรำคาญเสียงพูดจาเกี่ยวกับน้องสาวของเขา ก่อนจะออกเรือนเขาไม่อยากให้นางได้ยินเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ เมื่อเสียงประทัดดังขึ้นเสียงครหานั้นก็เงียบลงไปท
“กระหม่อมคิดว่า….เรื่องนี้พระองค์ทรงตรัสกับพระชายาเองจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”ผู้เป็นนายหันมามองหน้าองครักษ์หนุ่มคู่กายด้วยความหงุดหงิดอีกครั้ง เขาเดินออกจากห้องทรงงานและมุ่งตรงไปยังห้องส่งตัวที่ถูกจัดเตรียมไว้ดูยิ่งใหญ่กว่าเดิมก่อนหน้านั้นรับพระสนม เขาไม่เคยมาห้องส่งตัวพวกนางมาก่อนเลย แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน เพราะเป็นการรับพระชายา พิธีส่งตัวจึงจำเป็นต้องทำ“เปิดประตู”“ท่านอ๋อง หากว่ากระหม่อมปิดประตูนี้แล้ว คืนนี้พระองค์ต้องอยู่ในห้องจนถึงเช้าวันพรุ่งขึ้นนะพ่ะย่ะค่ะ”“จางจื่อเจ้าอยากเปลี่ยนอาชีพไปเป็นพ่อสื่องั้นหรือ”“ท่านอ๋อง คือเรื่องนี้…”“ข้ารู้แล้ว ออกไปเถอะ”“พ่ะย่ะค่ะ”ท่านอ๋องเดินเข้ามายังห้องส่งตัว เขามองไปยังเตียงที่มีเจ้าสาวในชุดสีแดงนั่งอยู่พร้อมกับผ้าปิดหน้า นางนั่งตัวเอียงแปลกๆเมื่อเทียบกับเจ้าสาวที่ตื่นเต้นในคืนส่งตัว “นี่นางคงไม่ใช่ว่า…กำลังหลับอยู่หรอกนะ”ลั่วอ๋องลำพึงเบาๆเมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ เขายืนตรงหน้านางอยู่นานจนฟังเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของคนตรงหน้า นางหลับไปแล้วจริงๆเขาจึงเดินไปหยิบไม้มงคลมาเพื่อเปิดดูหน้าของนาง อย่างน้อยเขาก็ควรจะรู้ว่าเขาแต่งงานกับผู้ใด เขาเด
ท่านอ๋องไม่เคยถูกจู่โจมเช่นนี้มาก่อน เขาไม่ทันระวัง ตอนนี้ชิงเยี่ยนเริ่มลงมือบางอย่างกับร่างเปลือยของเขาแล้วมังกรของเขาจากที่หลับใหลอยู่เริ่มผงาดขึ้นมาเพราะถูกถูไถไปมาจนมันเริ่มตื่น เจ้าสาวของเขาร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆแม้ว่าเขาจะแข็งแรงกว่านาง แต่ดูเหมือนจะไม่อยากจะต่อต้านนางสักเท่าใด “ฟ่างชิงเยี่ยน ข้า….จะทนไม่ไหวแล้ว”“ไม่ไหว…ก็อย่าทน…สัมผัสข้าสิเพคะ ท่านอ๋อง….อย่ากลั้นสิ อ๊าาา”“ฟ่างชิงเยี่ยน!! ตั้งสติหน่อย นี่เรากำลังถูกวางยานะ!!”“วางยา แล้วอย่างไร ข้าแต่งมาท่านก็ต้องทำเช่นนี้ ไม่ต่างกับพระสนมก่อนหน้านี้ทุกคน และอีกไม่นานก็จะฆ่าข้า จะทำอย่างไรก็แล้วแต่ท่าน จริงสิ ก่อนที่ท่านจะฆ่าข้า ก็ขอล้างแค้นก่อนก็แล้วกัน อยู่เฉย ๆ!!”“พระชายา ข้า..ขอเตือนเจ้า นั่นเจ้าจะทำอะไร!!”ชิงเยี่ยนดึงสายรัดผ้าม่านลงและดึงแขนของเขาตรึงขึ้นด้านบนพร้อมกับมัดเอาไว้“เจ้าจะทำอะไร ปล่อยข้านะ!! ข้าเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย…ฟ่างชิงเยี่ยน!!”นางไม่ฟังสิ่งใดจากเขาอีก ชิงเยี่ยนเริ่มล้วงลงไปเรื่อยๆลุกลามไปทั้งร่างของบุรุษหนุ่มที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อที่น่าหลงใหลนี้ นางเผลอกัดเขาไปที่ไหล่ข้างหนึ่งอย่างนึกหมั่นเขี้ยว
“กระหม่อมคิดว่า….เรื่องนี้พระองค์ทรงตรัสกับพระชายาเองจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”ผู้เป็นนายหันมามองหน้าองครักษ์หนุ่มคู่กายด้วยความหงุดหงิดอีกครั้ง เขาเดินออกจากห้องทรงงานและมุ่งตรงไปยังห้องส่งตัวที่ถูกจัดเตรียมไว้ดูยิ่งใหญ่กว่าเดิมก่อนหน้านั้นรับพระสนม เขาไม่เคยมาห้องส่งตัวพวกนางมาก่อนเลย แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน เพราะเป็นการรับพระชายา พิธีส่งตัวจึงจำเป็นต้องทำ“เปิดประตู”“ท่านอ๋อง หากว่ากระหม่อมปิดประตูนี้แล้ว คืนนี้พระองค์ต้องอยู่ในห้องจนถึงเช้าวันพรุ่งขึ้นนะพ่ะย่ะค่ะ”“จางจื่อเจ้าอยากเปลี่ยนอาชีพไปเป็นพ่อสื่องั้นหรือ”“ท่านอ๋อง คือเรื่องนี้…”“ข้ารู้แล้ว ออกไปเถอะ”“พ่ะย่ะค่ะ”ท่านอ๋องเดินเข้ามายังห้องส่งตัว เขามองไปยังเตียงที่มีเจ้าสาวในชุดสีแดงนั่งอยู่พร้อมกับผ้าปิดหน้า นางนั่งตัวเอียงแปลกๆเมื่อเทียบกับเจ้าสาวที่ตื่นเต้นในคืนส่งตัว “นี่นางคงไม่ใช่ว่า…กำลังหลับอยู่หรอกนะ”ลั่วอ๋องลำพึงเบาๆเมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ เขายืนตรงหน้านางอยู่นานจนฟังเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของคนตรงหน้า นางหลับไปแล้วจริงๆเขาจึงเดินไปหยิบไม้มงคลมาเพื่อเปิดดูหน้าของนาง อย่างน้อยเขาก็ควรจะรู้ว่าเขาแต่งงานกับผู้ใด เขาเด
“น้องห้า…เจ้า…ตัดสินใจแน่แล้วงั้นหรือ”“เจ้าค่ะ"ชิงเยี่ยนคำนับให้พี่ใหญ่ก่อนจะเดินกลับมาที่เรือนพัก ของตนเอง นางมองไปรอบๆเรือนพักของนางอีกครั้ง ก่อนหน้านี้หลังจากมารดานางเสียไปนางก็ถูกย้ายมาที่เรือนหลังนี้ทันทีด้วยคำสั่งของฮูหยินใหญ่ ระหว่างที่บิดานางไปทำศึก แต่เมื่อเขากลับมาก็มิได้สั่งย้ายหรือช่วยเหลืออะไรนาง ทุกอย่างก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฮูหยินใหญ่จัดการทั้งหมด แม้ว่านางจะได้ร่ำเรียนทุกอย่างเหมือนกับพี่น้องทุกคน แต่ความแตกต่างกันก็เห็นได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับและสถานะในจวนสกุลฟ่าง“บางทีการไปตายเอาดาบหน้าเช่นนี้ก็อาจจะดีกว่า”วันแต่งงาน“ช่างน่าสงสารอะไรเช่นนี้นะ”“เห็นว่านางเป็นบุตรสาวคนสุดท้องของท่านแม่ทัพ”“นางไม่มีแม่ จะว่าไปแล้วข้าแทบจะไม่เคยเห็นนางมาก่อนเลยนะ หากวันนี้มิได้แต่งออกไปข้าคงคิดว่าท่านแม่ทัพมีบุตรสาวเพียงคนเดียวเสียอีก”“จุดประทัดไล่เสียงน่ารำคาญนี่ที”ฟ่างหลิงเทียนรีบสั่งคนให้จุดประทัดที่หน้าจวนด้วยรำคาญเสียงพูดจาเกี่ยวกับน้องสาวของเขา ก่อนจะออกเรือนเขาไม่อยากให้นางได้ยินเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ เมื่อเสียงประทัดดังขึ้นเสียงครหานั้นก็เงียบลงไปท
จวนสกุลฟ่าง“เจ้า….เจ้าว่าอย่างไรนะ พูด…พูดใหม่อีกที”“เรียนฮูหยิน…คุณหนูรอง….หาย…หายตัวไปแล้วเจ้าค่ะ”“นางหายไปได้อย่างไร!! หายไปเมื่อใดเหตุใดไม่มีคนรู้เห็น”“บ่าว…บ่าวไม่ทราบเจ้าค่ะ เมื่อเช้าบ่าวไปเคาะเรียกตามปกติ แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ จึงได้…เปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าคุณหนูรองไม่อยู่แล้วเจ้าค่ะ”แม่ทัพฟ่างที่นั่งนิ่งสงบอยู่ไล่สาวใช้ออกไปพร้อมกับหันหน้ามามองที่ฮูหยินรองที่เป็นมารดาของบุตรีที่หายไป นางหันมามองหน้าท่านแม่ทัพราวกับจะขอความช่วยเหลือ “ท่านพี่เจ้าคะ ได้โปรด…”“เจ้าไม่ต้องพูดสิ่งใด ข้า…เป็นคนปล่อยให้นางไปจากที่นี่เอง”“แต่ว่า ราชโองการแจ้งว่าให้นางแต่งเข้าจวนอ๋อง”“เรามิได้มีบุตรีแค่คนเดียว นางเป็นบุตรของเจ้าและข้า การส่งนางแต่งเข้าจวนอ๋องเจ้าเล่ห์ผู้นั้น ถือว่า….ส่งเนื้อเข้าปากเสือ”“แต่เราจะทำอย่างไรเจ้าคะ แจ้งไปตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว หากว่าพวกเขาทราบ นี่เป็นอาญาแผ่นดิน ขัดราชโองการหมายถึงตัดหัวนะเจ้าคะท่านพี่”“ข้า…ย่อมคิดหาวิธีได้จึงวางแผนเช่นนี้”ฮูหยินหันมามองผู้เป็นสามีที่ยังมีสายตาเรียบสงบนิ่ง “หรือว่า…ท่านพี่คิดจะ…”“นี่คือวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในยามนี้ ส่งฟ่างชิง