หวังเสี่ยวเซียนที่ตอนนี้เกิดอาการเซ็งสุดขีด เธอกำลังถ่ายวิดีโอของตัวเองอัพลงโซเชี่ยล หวังเสี่ยวเซียนทำวิดีโอจากการใช้ชีวิตแบบวิถีชนบทดั้งเดิม เธอเรียนจบปริญญาตรีสาขาพฤกษศาสตร์เพื่อมาปรับปรุงไร่ของเธอที่มีอยู่เพียงสามไร่ ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว คุณย่าเพิ่งจะเสียไปไม่นาน
รายได้จากการทำวิดีโอเดือนหนึ่งหลายแสนหยวน หากถามว่าเธอมีเงินไหมแน่นอนว่ามี แต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรหรือ เธอน่าจะถูกคนจ้างวานฆ่ามากกว่า เพราะจะมีโรงแรมขนาดใหญ่มาเปิดที่ชนบทบ้านของเธอหวังเสี่ยวเซียนเป็นผู้นำฝูงชนไปต่อต้านการก่อสร้าง จนกระทั่งถูกขู่มาหลายรอบ
"เฮ้อ ไอ้แสงเขียวๆที่ส่องฉันคงเป็นไรเฟิลสินะ แหม่จะฆ่าทั้งทีลงทุนขนาดนี้นับว่าชีวิตเจ๊นี่ราคาแพงใช่ย่อยเลยนะเนี่ย"
"คุณหนูเจ้าขา...ท่านไม่เป็นไรนะเจ้าคะ คงไม่ได้เสียใจจนเสียสติหรอกนะ"
เสียวฮวาบ่นอุบอิบเพราะกลัวคุณหนูของตนเองได้ยิน หวังเสี่ยวเซียนที่ตอนนี้ก็คือเซียวอี้เซียนได้แต่เดินมาหาสาวใช้ของร่างเดิมก่อนจะจับนางให้มองหน้า
"เสี่ยวฮวาน้อย...ข้าไม่ได้เสียใจแล้ว อีกอย่างไม่แต่งก็ดีเหมือนกัน จ้าวเฉิงเป็นบุรุษที่ไม่รู้จักพอ ทุกครั้งที่พาข้าไปอารามก็เพื่อตนเองจะได้เสพสุขกับสตรีอื่น เอาข้าไปบังหน้า"
"ห๊า..นี่มันๆ คุณหนูแล้วเหตุใดท่านยังอดทนเจ้าคะ"
"ท่านพ่อท่านแม่อยากให้ข้าแต่งข้าก็เลยยอม แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เสี่ยวฮวาเอาใบรายการสินสอดของสกุลจ้าวมาหน่อย"
สาวใช้ตัวน้อยนำสมุดบัญชีสินสอดมาให้กับคุณหนูของตน เซียวอี้เซียนรับมา เมื่อวานเขาแต่งงาน วันนี้คงยังหวานชื่น พรุ่งนี้อีกวัน มะรืนกลับบ้านเจ้าสาว หากให้จ้าวเฉิงตั้งตัวได้ต้องมาเอาสินสอดคืนแน่ๆ
สกุลจ้าวขึ้นชื่อเรื่องใจแคบ เช่นนั้นวันพรุ่งนี้น่าจะเหมาะที่สุด วันที่สามพวกเขาก้าวออกจากห้องหอก็น่าจะเกือบบ่าย นางคงขายของหมดแล้ว ก่อนจะถามสาวใช้ตัวน้อย
"เสี่ยวฮวา แล้วสมบัติบ้านเรามีอะไรบ้าง ให้ท่านพ่อบอกมา ข้าจะขายทอดตลาดหาเงินไปตั้งตัวที่เมืองอื่น เมืองหลวงแห่งนี้จอมปลอมเกินไป"
เสี่ยวฮวารับคำสั่งของคุณหนู จากนั้นก็รีบวิ่งไปหานายท่านเซียวบิดาของนาง ไม่นานในมือของเซียวอี้เซียนก็มีใบรายการทรัพย์สินของสกุลเซียวทั้งหมด ดูคร่าวๆจากสมบัติเหล่านี้ สามารถแปลเป็นเงินได้ถึงเจ็ดถึงแปดแสนตำลึง
แต่เรื่องของเก่าดูเหมือนพวกเขาจะไม่รู้เรื่อง มีไว้เพื่อครอบครองและรักษาไว้เท่านั้น แบบนี้ก็หวานนางสิ ขายให้หมด ไปแต่ตัวไม่ยึดติด อืมแบบนี้แหละดี
"เสี่ยวฮวาคืนนี้ไปหาขอทานมาหลายๆคนข้าจะให้พวกเขาช่วยทำงาน"
"คุณหนูคือว่า"
"อย่าสงสัยให้มากความไปได้แล้ว"
เมื่อเสี่ยวฮวาไปแล้ว เซียวอี้เซียนก็เริ่มเขียนใบโฆษณาชวนเชื่อ นางจะขายสินสอดในราคาขาดทุน แต่จะโก่งราคาสมบัติสกุลเซียว
เซียวหงมาหาบุตรสาว เห็นนางขีดๆเขียนๆก็ถอนหายใจ เสียงถอนหายใจไม่เบาเซียวอี้เซียนเงยหน้ามามองบิดาของตนก่อนจะวางพู่กันในมือแล้วลุกไปประคองเขา
"ท่านพ่อมาได้อย่างไรเจ้าคะ"
"ลูกกำลังทำอะไร เซียนเอ๋อร์สินสอดนั้นคืนพวกเขาไปเถอะ"
"ท่านพ่อ ที่ผ่านมาข้ายอมกล้ำกลืนทนเห็นเขาหลับนอนกับสตรีมากหน้า ทนฟังเสียงครวญครางยามพวกเขาร่วมรักกัน จ้าวเฉิงบอกว่าอีกหน่อยแต่งกับเขาเรื่องแบบนี้ย่อมหนีไม่พ้น เขาต้องสืบสกุลตอนนั้นข้าโง่เขลาเชื่อเขาทุกอย่าง ทั้งที่ความจริงแล้วนั่นต่างหากเป็นการเหยียดหยามข้า"
"มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ เฮ้อ พ่อผิดเองไม่ควรให้คนไปทวงถามเรื่องสัญญาแต่งงานเจ้ากับเขา พ่อคิดแค่ว่าสกุลจ้าวอาจจะดูแลลูกได้ดี เพราะท่านปู่เจ้าจากไปเราก็แทบจะไม่เหลืออะไร พ่อเป็นเพียงคนป่วยรับราชการก็ไม่ได้ แค่กๆๆ"
"เรื่องผ่านไปแล้วก็ช่างเถอะเจ้าค่ะท่านพ่อ จากนี้ไปข้าจะทำให้สกุลจ้าวอับอายจนเดินในเมืองหลวงไม่ไหว ที่กล้าทำให้จวนเซียวของเราต้องอัปยศ"
เซียวหงไปแล้วเขารู้สึกหนักอึ้งในใจ บุตรสาวคงเจ็บแค้นเมื่อวานถูกเจ้าบ่าวทอดทิ้ง นางผูกคอตายแต่กลับไม่ตาย มาวันนี้นางจะแก้แค้นแล้วอย่างไรเล่า สกุลเซียวมีค่าให้พูดถึงด้วยหรือ สกุลจ้าวเป็นถึงอำมาตย์ซ้าย
บิดาจากไปแล้ว ด้วยความที่ชาติก่อนไปช่วยพ่อของเพื่อนแถวๆตรอกค้าของเก่าบ่อยๆทำให้ได้วิชาดูหยกมองของโบราณมาบ้าง สินสอดของสกุลจ้าวล้วนแต่เป็นของไร้ค่า แต่สำหรับคนที่ไม่เคยมีแต่มีเงินอาจยอมจ่าย มีเพียงผ้าไหมกับปิ่นสามกล่องที่นับว่ามีราคา อ้อพระพุทธรูปหยกแกะสลักองค์นี้ โบราณแท้ๆ ราคาน่าจะอยู่ที่หนึ่งแสนตำลึง อันนี้ไม่ขายเอาไปโรงประมูล
หืมหยกจักพรรดิเนื้อดีที่แกะเป็นรูปสิงโตนี้ แกะเพิ่มอีกหน่อยใส่รายละเอียดอีกนิด แปลงจากสิงโตเป็นกิเลน มีทั้งหมดสามชิ้นนี้น่าจะประมาณสามแสนตำลึง เอาไปแกะสลักใหม่ราคาพุ่งแน่ๆ เอาไว้ก่อน ไหนๆโสมชั้นต่ำกล้าเอามาเป็นสินสอด ดูท่าจวนจ้าวเองก็ไม่มีความรู้เรื่องหยกสักเท่าไหร่ที่เอามาให้จวนเซียวล้วนเป็นเครื่องประดับที่ตกรุ่น แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่ามันคือหยกเนื้อดี อวดดีว่าตนเองร่ำรวย เครื่องประดับที่ทำจากหยกเนื้อดีเซียวอี้เซียนเก็บไว้ต่างหากขายแต่หยกคุณภาพต่ำออกไป ต้องมีการเปลี่ยนแบบแกะสลักใหม่เพื่อเพิ่มราคา
วัตถุดิบมีแล้วอาศัยฝีมือที่คุณปู่สอนตอนเด็กๆ แกะสลักงานหยกกับแกะสลักงานไม้ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก นางเรียกหาสาวใช้ของตนทันที มาอยู่ที่นี่ไม่ต้องลำบากเหมือนนางเอกในนิยายที่เคยอ่านที่ต้องขึ้นเขาลงห้วยกว่าจะแยกบ้านได้จ่ายรายตอนจนไม่มีข้าวกิน นางมาที่นี่ครอบครัวรักใคร่กันดีเสียแต่ว่าบ้านกำลังจะถูกยึดเพราะไม่มีเงินไปจ่ายเงินกู้ที่เอามารักษาท่านย่า
สมบัติล้วนต้องขายทิ้งจะให้ถูกยึดบ้านก่อนไม่ได้ เพราะฉะนั้นขายสมบัติของจวนเซียวอาจถูกเจ้าของเงินกู้มาคุกคามเพราะพวกเขาคงไม่ให้กระเด็นออกไป แต่ขายสินสอดของสกุลจ้าวนั้นแตกต่าง เซียวอี้เซียนจึงเอาสมบัติของสกุลเซียวมาวางขายด้วยเสียเลย เมื่อถึงเวลาถูกยึดบ้านก็มีเพียงไม้กระดานแล้ว
"หลิวเย่วหลอกลวงเจ้าของร่างเดิมทำทีเป็นเพื่อนที่แสนดี เห็นนางกตัญญูต่อท่านย่าหาทางจ่ายค่ายาแสนแพง หมอที่พามาก็เป็นหมอของสกุลจ้าว สกุลหลิวให้คนมาปล่อยกู้เพื่อยึดจวนเซียวต่อให้เอาเงินไปจ่ายพวกมันก็ไม่คิดจะคืนบ้านให้อยู่แล้ว จ้าวเฉิงหลิวเย่วสองผัวเมียชั่วช้าอยากทำลายสกุลเซียวหรือฝันกลางวันหรือไง มาดูกันว่าพวกเจ้าจะได้อะไรไป เสี่ยวฮวาน้อย มานี่หน่อย"
เซียวอี้เซียนเรียกหาสาวใช้ทันที
เสี่ยวฮวามาถึงก็ส่งกระดาษให้หลายแผ่น เงินตำลึงที่เป็นเงินสินสอดห้าพันตำลึงถูกจ่ายไปเพื่อจ้างช่างตีเหล็กสร้างเครื่องมือแกะสลัก พรุ่งนี้นางจะขายทอดตลาดสินสอดทั้งหมดรวมถึงสมบัติในจวน เพื่อไปเริ่มต้นใหม่ที่อื่นกับครอบครัว ร่างบางยืนร้องไห้อยู่ข้างๆเซียวอี้เซียน นางเงยหน้ามาก็เจอเจ้าของร่างเดิมที่เป็นเพียงวิญญาณอยู่ตอนนี้"ไปเถอะอย่าเสียใจ เจ้าเลือกทางนี้แล้วจงรับผลกรรม ครอบครัวของเจ้า ความแค้นของเจ้าข้าจะช่วยแบกรับเอง"เซียวอี้เซียนคนเก่าพยักหน้าให้ก่อนจะค่อยๆเลือนหายไป เซียวอี้เซียนสงสารชะตาร่างเดิมจริงๆ นางหัวอ่อนเชื่อใจคนถึงได้มีจุดจบเช่นนี้ อย่าบอกว่าสตรีโบราณอยู่ในจารีตต้องอ่อนแอ ถ้าเป็นเช่นนี้จริงๆหลิวเย่วสตรีอสรพิษจะทำเรื่องเลวทรามกับคนที่เรียกว่าสหายได้อย่างไร "ได้เวลาเอาคืนแล้วสินะ เจ้าไปอย่างหมดห่วงเถอะ"ตกค่ำขอทานที่เสี่ยวฮวาไปหามาก็รออยู่ประตูข้าง เซียวอี้เซียนที่สวมผ้าคลุมเดินออกมาก่อนจะเรียกเด็กๆเหล่านนั้นมาแล้วกระซิบบางอย่าง พร้อมกับเด็กอีกกลุ่มไปแจกใบปลิว เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็เข้าบ้าน เซียวอี้เซียนมองไปยังต้นไม้ใหญ่ที่ทอดกิ่งมาทางจวนของนาง ทำไมให้ค
ยามเหมาประตูจวนเซียวเปิดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันแต่งงาน นำโต๊ะมาวางต่อๆกันเรียงรายยาวอยู่หน้าเรือน บ่าวไพร่ในเรือนมีไม่ถึงยี่สิบคนเป็นบ่าวชายหกคน ทุกคนอยู่เพราะยังคิดถึงบุญคุณของผู้นำตระกูลคนเก่า เซียวอี้เซียนตื่นแต่เช้า ท่านย่าอาการไม่ค่อยดี นางนำเงินสินสอดที่ได้มาเพียงห้าพันตำลึงไปขอร้องอ้อนวอนหมอเทวดาซุนเจิ้นหนานมารักษานาง เจิ้นหนานยอมมาตรวจให้เมื่อคืนนี้เขามิได้เห็นแก่เงิน แต่เห็นแก่ความกตัญญูของนาง เซียวอี้เซียนที่นั่งคุกเข่าอยู่หน้าเรือนของเขากว่าสองชั่วยาม เจิ้นหนานยืนมองนางสั่งบ่าวไพร่ให้ขนหีบออกมา เซียวหงเดินมาหาบุตรสาว ยกมือลูบศีรษะนางเบาๆรั้งนางเข้ามากอดก่อนจะเอ่ยถามให้แน่ใจ"เซียนเอ๋อร์ ลูกตัดใจจากจ้าวเฉิงได้แล้วจริงๆเหตุใดยังต้องขายสินสอด ไปคืนไม่ดีกว่าหรือ""ท่านพ่อ เดิมทีเขาทำผิดต่อข้าและสกุลเซียว สินสอดนี้ควรขายทิ้งเอาเงินพวกเราคืนมาเจ้าค่ะ""เงินพวกเราหรือ""ท่านพ่อ เดิมทีค่ารักษาท่านย่าไม่ได้แพงมากนัก แต่เพราะหมอจ้าวหมอประจำจวนของเขามารักษาแล้วให้ลูกซื้อยาที่แสนแพงจนต้องจำนองจวนหลังนี้ ตอนนี้ข้ารู้ดีชั่วของพวกเขาหมดแล้ว สกุลหลิวของหลิวเว่ยท่า
ชาวบ้านและขุนนางที่เดินผ่านจวนเซียวต่างเดินเข้ามาชมสินค้าล้วนมีแต่ของดี"โย่ว..ข้าซื้อๆ ข้าอยากทำบุญ""ข้าด้วยๆ"กล่องไม้หลากหลายขนาดถูกวางเรียงราย เครื่องประดับ ภาพวาด เครื่องเรือน แพรพรรณอย่างดีถูกนำมาจัดวาง"เสี่ยวฮวา วางป้ายราคาได้"สาวใช้ตัวน้อยรับคำก่อนจะวางป้ายราคาตามสินค้าชิ้นต่างๆ เหล่าคนที่มาดูเรื่องตลกทีแรกก็ตะลึง หยกเนื้อดีที่ราคาสามร้อยถึงหนึ่งพันตำลึงแต่คุณหนูคนนี้ขายเพียงแปดสิบตำลึง เครื่องลายครามราคาแปดร้อยตำลึงนางขายเพียงร้อยตำลึง ผ้าไหมอย่างดี ราคาพับละสามร้อยตำลึงนางขายเพียงสามสิบตำลึง ไม่นานสินค้ากว่าแปดร้อยรายการที่วางขายก็เริ่มทยอยขายจนหมด กระทั่งเหลือหยกสามชิ้นหนึ่งในนั้นมีบุรุษแต่งกายมอซอคนหนึ่ง ใครที่อยู่ใกล้ๆเขาต่างก็รังเกียจ เขาเดินเข้ามาคอตกทำท่าทางกล้าๆกลัวๆก่อนจะเอ่ย"คะ คุณหนู ขะ ขอรับ คือว่าขะข้าๆเอ่อข้า""พี่ชาย ท่านต้องการสิ่งใดว่ามาเถอะ หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงข้าย่อมให้ท่านได้""วะ วันเกิดมารดาข้า บิดาข้าจากไปนานแล้วนางเฝ้าหลุมศพท่านพ่อจนกระทั่งผมขาว ข้าน้อยทำงานหนักมานานจึงอยากให้ของขวัญนางสักชิ้น อยากได้ของขวัญ คะ คุณหนูมีที่ไม่แพงไหม""เ
ทันทีที่ของขายหมดจ้าวเฉิงก็มาถึงพอดี เขากำลังจะชี้หน้านางแต่ก็ต้องชะงัก ดูเหมือนนางจะแปลกไป ดูงดงามขึ้น เสื้อผ้าก็ไม่ซีดจนมีแต่สีขาว จ้าวเฉิงเดินไปหานางเอ่ยปากถามนาง"อี้เซียน..เหตุใดนำของหมั้นมาขายเสียเล่านี่เป็นสินสอดของเรานะ""คุณชายจ้าว สินสอดอันใดกันในเมื่อท่านแต่งงานไปแล้วข้าวของเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้อีก อ้ออีกเรื่องหนึ่งรบกวนท่านเรียกข้าว่าคุณหนูเซียวจะดีกว่า คำเรียกสนิทสนมแบบนั้นคราวหลังอย่าใช้อีก เสี่ยวฮวาเข้าบ้านกันเถอะ พี่ชายท่านนี้ขอให้มารดาท่านสุขภาพแข็งแรงนะเจ้าคะ""อี้เซียนเจ้าโกรธข้าเรื่องนั้นไม่ได้ แม้ว่าเราจะมีสัญญาหมั้นหมายกัน แต่ว่าด้วยความเหมาะสมข้าต้องแต่งเย่วเอ๋อร์ มิใช่บอกเจ้าแล้วหรือว่าข้าสามารถแต่งเจ้าเป็นฮูหยินรองได้""โอ้ว..คุณชายจ้าวท่านช่างเปี่ยมน้ำใจยิ่งนัก ทำเพื่อวงศ์ตระกูลเสียน่ายกย่อง เสียงที่ข้าได้ยินยามที่ไปอารามกับท่านเป็นเสียงที่ท่านบอกว่าอีกหน่อยข้าต้องยอมรับให้ได้ เพราะว่าข้าอีกหน่อยต้องเป็นฮูหยินที่ใจกว้าง มาบัดนี้กลับต้องไปเป็นฮูหยินรอง แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะคนที่ครวญคราง อ๊า ท่านพี่เฉิงท่านเร่าร้อนนัก อืม ใหญ่โตเช่น
เซียวอี้เซียนที่ไม่รู้ว่าจ้าวเฉิงกำลังจะเล่นงานคิดครอบครองตนเอง นางนั่งนับเงินทั้งหมดของสกุลเซียวแยกแยะชัดเจนนางขายได้เก้าแสนตำลึง สินสอดเน่าๆ เหล่านั้นนางขายได้สี่แสนตำลึง เซียวอี้เซียนไปหาบิดาพูดคุยบางอย่างจนกระทั่งไม่นานเซียวหงก็ให้คนนำรถม้าออกจากจวน"คุณหนู..คนสกุลหลิวมาหาบอกว่าต้องการให้พวกเราย้ายออกทันทีเจ้าค่ะ""ยังไม่ถึงเวลา เจ้าไปบอกพวกเขาว่าไปหาใต้เท้าฮั่วแห่งกรมปกครอง หากใต้เท้ามาไล่ข้าเองข้าจะออกทันที""เอ่อ...เจ้าค่ะ"เสี่ยวฮวาออกมาแจ้งแก่คนด้านนอกตามคำกล่าวของคุณหนู หลิวต่งถึงกับเงื้อมือจะตบหน้าสาวใช้ตัวน้อย แต่ยังไม่ทันลงมือแส้เส้นยาวก็สะบัดใส่เขาจนล้มลง"เป็นบุรุษรังแกสตรี คุณชายหลิวช่างเป็นสุภาพบุรุษยิ่งนัก""ลู่เสวียน...เรื่องของสกุลหลิวใครใช้ให้เจ้าแส่ไม่เข้าเรื่อง""อืม...หนิงอ๋องรับสั่งเอาไว้ คุณหนูเซียวต้องปลอดภัย หลิวต่งหรือว่าเจ้าอยากต่อกรกับเทพสงครามแห่งต้าฉินกันเล่า""หมายความว่าอย่างไร""ความหมายของข้า คนโง่เช่นเจ้ารู้ไปก็เท่านั้น อ้อ เรื่องที่สกุลหลิวฉ้อโกงชาวบ้าน โก่งราคาจำนองอยู่ๆ ก็มีคนไปร้องศาลปกครองกว่าห้าสิบราย ใต้เท้าฮั่วกำลังไปที่บ้านเจ้า มิกลับไป
ทางด้านเซียวหงหลังจากที่พูดคุยกับบุตรสาวก็รีบร้อนออกมาจากจวนทันที ตอนนี้หยุดอยู่ด้านหน้าห้องทรงอักษร ลู่กงกงเดินออกมาพบเขา เซียวหงแจ้งความจำนงลู่กงกงจึงบอกให้เขารอก่อนจะเข้าไปถวายรายงาน"ทูลฝ่าบาท.. นายท่านเซียวบุตรชายอดีตเจ้ากรมโยธาเซียวหานมาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ""หืม...เซียวหงหรือ ปกติเขาขี้โรคร่างกายอ่อนแอมิออกสังคมเท่าไหร่ วันนี้มาหาข้าหรือจะให้ข้าเอาโทษจ้าวเฉิงคนนั้นที่ทิ้งงานแต่งงานกัน ลู่กงกงไปเชิญเขาเข้ามา"ลู่กงกงไปแล้ว แต่อีกคนเข้ามาแทน หยางเทียนฮั่วถอนหายใจ วันนี้เขาส่งคนไปสืบดูลาดเลาแล้ว เด็กคนนั้นนับว่าร้ายกาจเจ้าเล่ห์พอๆกับไอ้ตัววุ่นวายที่กำลังนั่งรอว่าที่พ่อตามาเข้าเฝ้าเขาอยู่"ข้ายังไม่ร่างราชโองการเจ้าก็เสนอหน้า""เสด็จลุง ไม่มีใครเหมาะกับหลานเท่านางแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางไม่ยึดติดหลานชอบท่องเที่ยว นางเหมาะที่จะติดตามหลานที่สุด""เจ้านี่นะ แค่ไม่อยากแต่งงานถึงกับหาสตรีมาเป็นโล่กันมารดาตนเอง"สองลุงหลานเอ่ยจบลู่กงกงก็นำเซียวหงเข้ามา เขาคุกเข่าลงเพื่อถวายพระพรฮ่องเต้"กระหม่อมเซียวหงถวายพระพรฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆปีพ่ะย่ะค่ะ""เอาล่ะๆลุกขึ้
ยามโหย่วรถม้าของเซียวหงก็กลับมาถึงจวน เซียวอี้เซียนที่ตอนนี้กำลังเคี่ยวยาให้กับท่านย่าของนางอยู่ เซียวหงมองดูบุตรสาวที่แปลกไป แม้ว่านางจะไม่อาลัยอาวรณ์จ้าวเฉิงแล้วก็ตาม แต่ปัญหายังคงอยู่ พรุ่งนี้พระราชโองการจะมา คนสกุลจ้าวจะมาหาเรื่องอีกไหม จ้าวอันป๋อให้คนปล่อยข่าวไปทั่วว่าจะรับนางไปเป็นสาวใช้อุ่นเตียงของจ้าวเฉิง เพราะนางทำชื่อเสียงสกุลสามีเสียหาย ให้เป็นอนุยังนับว่าให้เกียรติเกินไป หากมิใช่เพราะต้องรักษาคำพูดแค่ถือรองเท้าให้สาวใช้สกุลจ้าวนางยังไม่คู่ควร จ้าวอันป๋อไอ้คนสารเลวนั่นต้องการลบหลู่เกียรติสกุลเซียวให้ได้จริงๆเช่นนั้นหรือ ยาถูกเคี่ยวเสร็จแล้วเซียวอี้เซียนยกกาต้มยา ก่อนจะเทยาลงในชาม นางยกถาดไม้ที่รองถ้วยยาหันกลับมาก็เจอเข้ากับบิดาที่ยืนอยู่ "ท่านพ่อ...ท่านกลับมาแล้วเหนื่อยหรือไม่ เจรจาต่อรองเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ""้เซียนเอ๋อร์อ่า นั่นฝ่าบาทเชียวนะ เจ้าใช้คำว่าต่อรองได้อย่างไรกัน""คิกๆ ท่านพ่อการเจรจาเรื่องผลประโยชน์ไม่เรียกต่อรองแล้วจะให้เรียกว่าอย่างไรเจ้าคะ ยาอุ่นแล้วข้าจะยกไปให้ท่านย่าก่อน เดี๋ยวเราพ่อลูกค่อยมาคุยกัน ท่านพ่อไปพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ"
เซียวอี้เซียนลูบหลังก่อนจะส่งน้ำอุ่นให้เขาจิบทีละน้อย"ท่านพ่อ ต่อไปท่านดื่มน้ำเปล่าดีหรือไม่ น้ำชานานๆครั้งเถอะเจ้าค่ะ มาเข้าเรื่องเถอะท่านได้อะไรมาบ้างเข้าวังครั้งนี้""เฮ้อฝ่าบาทยอมเขียนราชโองการให้เจ้าเป็นฝ่ายถอนหมั้น อีกทั้งรับปากว่าจะพระราชทานป้ายทองสำหรับร้านค้าต่างๆและขุนนางที่ร่วมบริจาค ด้วยลายพระหัตถ์ของพระองค์เอง""อืม..ฮ่องเต้นับว่าปราดเปรื่องยิ่งนักเจ้าค่ะ""เซียนเอ๋อร์ ลูกรู้ได้อย่างไรว่าฮ่องเต้จะรับปากเงื่อนไขของเจ้า เงินหกแสนตำลึงนั้นที่เจ้าให้ไปจะว่าเยอะก็เยอะ แต่ท้องพระคลังมิได้ขาดแคลนเงินทองที่จะส่งไปบรรเทาทุกข์สักนิด""ท่านพ่อ ที่ฝ่าบาททรงรับปากเงื่อนไขของท่านทุกอย่างมิใช่เพราะเงินบริจาคแต่อย่างใด แต่เป็นสมุดสามเล่มที่ข้าเขียนให้ท่านถวายพระองค์ต่างหากเจ้าค่ะ""สมุดเรื่องการแก้ปัญหาภัยแล้ง แก้ปัญหาน้ำท่วม แก้ปัญหาโรคระบาดนั่นต่างหากเจ้าค่ะ""ลูกรู้ได้อย่างไรกัน""ดินแดนต้าฉิน มีทั้งลุ่มทั้งดอน ฤดูกาลผกผันที่ลุ่มน้ำท่วมหนัก ที่ดอนเกิดภัยแล้ง เมื่อมีเหตุการณ์ทั้งสองเกิดขึ้นที่ตามมาคือโรคระบาด หากเรารับมือกับปัญหาหน้าแล้งกับหน้าน้ำได้เรื่องที่ตามมาก็
เซียวอี้เซียนลูบหลังก่อนจะส่งน้ำอุ่นให้เขาจิบทีละน้อย"ท่านพ่อ ต่อไปท่านดื่มน้ำเปล่าดีหรือไม่ น้ำชานานๆครั้งเถอะเจ้าค่ะ มาเข้าเรื่องเถอะท่านได้อะไรมาบ้างเข้าวังครั้งนี้""เฮ้อฝ่าบาทยอมเขียนราชโองการให้เจ้าเป็นฝ่ายถอนหมั้น อีกทั้งรับปากว่าจะพระราชทานป้ายทองสำหรับร้านค้าต่างๆและขุนนางที่ร่วมบริจาค ด้วยลายพระหัตถ์ของพระองค์เอง""อืม..ฮ่องเต้นับว่าปราดเปรื่องยิ่งนักเจ้าค่ะ""เซียนเอ๋อร์ ลูกรู้ได้อย่างไรว่าฮ่องเต้จะรับปากเงื่อนไขของเจ้า เงินหกแสนตำลึงนั้นที่เจ้าให้ไปจะว่าเยอะก็เยอะ แต่ท้องพระคลังมิได้ขาดแคลนเงินทองที่จะส่งไปบรรเทาทุกข์สักนิด""ท่านพ่อ ที่ฝ่าบาททรงรับปากเงื่อนไขของท่านทุกอย่างมิใช่เพราะเงินบริจาคแต่อย่างใด แต่เป็นสมุดสามเล่มที่ข้าเขียนให้ท่านถวายพระองค์ต่างหากเจ้าค่ะ""สมุดเรื่องการแก้ปัญหาภัยแล้ง แก้ปัญหาน้ำท่วม แก้ปัญหาโรคระบาดนั่นต่างหากเจ้าค่ะ""ลูกรู้ได้อย่างไรกัน""ดินแดนต้าฉิน มีทั้งลุ่มทั้งดอน ฤดูกาลผกผันที่ลุ่มน้ำท่วมหนัก ที่ดอนเกิดภัยแล้ง เมื่อมีเหตุการณ์ทั้งสองเกิดขึ้นที่ตามมาคือโรคระบาด หากเรารับมือกับปัญหาหน้าแล้งกับหน้าน้ำได้เรื่องที่ตามมาก็
ยามโหย่วรถม้าของเซียวหงก็กลับมาถึงจวน เซียวอี้เซียนที่ตอนนี้กำลังเคี่ยวยาให้กับท่านย่าของนางอยู่ เซียวหงมองดูบุตรสาวที่แปลกไป แม้ว่านางจะไม่อาลัยอาวรณ์จ้าวเฉิงแล้วก็ตาม แต่ปัญหายังคงอยู่ พรุ่งนี้พระราชโองการจะมา คนสกุลจ้าวจะมาหาเรื่องอีกไหม จ้าวอันป๋อให้คนปล่อยข่าวไปทั่วว่าจะรับนางไปเป็นสาวใช้อุ่นเตียงของจ้าวเฉิง เพราะนางทำชื่อเสียงสกุลสามีเสียหาย ให้เป็นอนุยังนับว่าให้เกียรติเกินไป หากมิใช่เพราะต้องรักษาคำพูดแค่ถือรองเท้าให้สาวใช้สกุลจ้าวนางยังไม่คู่ควร จ้าวอันป๋อไอ้คนสารเลวนั่นต้องการลบหลู่เกียรติสกุลเซียวให้ได้จริงๆเช่นนั้นหรือ ยาถูกเคี่ยวเสร็จแล้วเซียวอี้เซียนยกกาต้มยา ก่อนจะเทยาลงในชาม นางยกถาดไม้ที่รองถ้วยยาหันกลับมาก็เจอเข้ากับบิดาที่ยืนอยู่ "ท่านพ่อ...ท่านกลับมาแล้วเหนื่อยหรือไม่ เจรจาต่อรองเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ""้เซียนเอ๋อร์อ่า นั่นฝ่าบาทเชียวนะ เจ้าใช้คำว่าต่อรองได้อย่างไรกัน""คิกๆ ท่านพ่อการเจรจาเรื่องผลประโยชน์ไม่เรียกต่อรองแล้วจะให้เรียกว่าอย่างไรเจ้าคะ ยาอุ่นแล้วข้าจะยกไปให้ท่านย่าก่อน เดี๋ยวเราพ่อลูกค่อยมาคุยกัน ท่านพ่อไปพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ"
ทางด้านเซียวหงหลังจากที่พูดคุยกับบุตรสาวก็รีบร้อนออกมาจากจวนทันที ตอนนี้หยุดอยู่ด้านหน้าห้องทรงอักษร ลู่กงกงเดินออกมาพบเขา เซียวหงแจ้งความจำนงลู่กงกงจึงบอกให้เขารอก่อนจะเข้าไปถวายรายงาน"ทูลฝ่าบาท.. นายท่านเซียวบุตรชายอดีตเจ้ากรมโยธาเซียวหานมาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ""หืม...เซียวหงหรือ ปกติเขาขี้โรคร่างกายอ่อนแอมิออกสังคมเท่าไหร่ วันนี้มาหาข้าหรือจะให้ข้าเอาโทษจ้าวเฉิงคนนั้นที่ทิ้งงานแต่งงานกัน ลู่กงกงไปเชิญเขาเข้ามา"ลู่กงกงไปแล้ว แต่อีกคนเข้ามาแทน หยางเทียนฮั่วถอนหายใจ วันนี้เขาส่งคนไปสืบดูลาดเลาแล้ว เด็กคนนั้นนับว่าร้ายกาจเจ้าเล่ห์พอๆกับไอ้ตัววุ่นวายที่กำลังนั่งรอว่าที่พ่อตามาเข้าเฝ้าเขาอยู่"ข้ายังไม่ร่างราชโองการเจ้าก็เสนอหน้า""เสด็จลุง ไม่มีใครเหมาะกับหลานเท่านางแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางไม่ยึดติดหลานชอบท่องเที่ยว นางเหมาะที่จะติดตามหลานที่สุด""เจ้านี่นะ แค่ไม่อยากแต่งงานถึงกับหาสตรีมาเป็นโล่กันมารดาตนเอง"สองลุงหลานเอ่ยจบลู่กงกงก็นำเซียวหงเข้ามา เขาคุกเข่าลงเพื่อถวายพระพรฮ่องเต้"กระหม่อมเซียวหงถวายพระพรฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆปีพ่ะย่ะค่ะ""เอาล่ะๆลุกขึ้
เซียวอี้เซียนที่ไม่รู้ว่าจ้าวเฉิงกำลังจะเล่นงานคิดครอบครองตนเอง นางนั่งนับเงินทั้งหมดของสกุลเซียวแยกแยะชัดเจนนางขายได้เก้าแสนตำลึง สินสอดเน่าๆ เหล่านั้นนางขายได้สี่แสนตำลึง เซียวอี้เซียนไปหาบิดาพูดคุยบางอย่างจนกระทั่งไม่นานเซียวหงก็ให้คนนำรถม้าออกจากจวน"คุณหนู..คนสกุลหลิวมาหาบอกว่าต้องการให้พวกเราย้ายออกทันทีเจ้าค่ะ""ยังไม่ถึงเวลา เจ้าไปบอกพวกเขาว่าไปหาใต้เท้าฮั่วแห่งกรมปกครอง หากใต้เท้ามาไล่ข้าเองข้าจะออกทันที""เอ่อ...เจ้าค่ะ"เสี่ยวฮวาออกมาแจ้งแก่คนด้านนอกตามคำกล่าวของคุณหนู หลิวต่งถึงกับเงื้อมือจะตบหน้าสาวใช้ตัวน้อย แต่ยังไม่ทันลงมือแส้เส้นยาวก็สะบัดใส่เขาจนล้มลง"เป็นบุรุษรังแกสตรี คุณชายหลิวช่างเป็นสุภาพบุรุษยิ่งนัก""ลู่เสวียน...เรื่องของสกุลหลิวใครใช้ให้เจ้าแส่ไม่เข้าเรื่อง""อืม...หนิงอ๋องรับสั่งเอาไว้ คุณหนูเซียวต้องปลอดภัย หลิวต่งหรือว่าเจ้าอยากต่อกรกับเทพสงครามแห่งต้าฉินกันเล่า""หมายความว่าอย่างไร""ความหมายของข้า คนโง่เช่นเจ้ารู้ไปก็เท่านั้น อ้อ เรื่องที่สกุลหลิวฉ้อโกงชาวบ้าน โก่งราคาจำนองอยู่ๆ ก็มีคนไปร้องศาลปกครองกว่าห้าสิบราย ใต้เท้าฮั่วกำลังไปที่บ้านเจ้า มิกลับไป
ทันทีที่ของขายหมดจ้าวเฉิงก็มาถึงพอดี เขากำลังจะชี้หน้านางแต่ก็ต้องชะงัก ดูเหมือนนางจะแปลกไป ดูงดงามขึ้น เสื้อผ้าก็ไม่ซีดจนมีแต่สีขาว จ้าวเฉิงเดินไปหานางเอ่ยปากถามนาง"อี้เซียน..เหตุใดนำของหมั้นมาขายเสียเล่านี่เป็นสินสอดของเรานะ""คุณชายจ้าว สินสอดอันใดกันในเมื่อท่านแต่งงานไปแล้วข้าวของเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้อีก อ้ออีกเรื่องหนึ่งรบกวนท่านเรียกข้าว่าคุณหนูเซียวจะดีกว่า คำเรียกสนิทสนมแบบนั้นคราวหลังอย่าใช้อีก เสี่ยวฮวาเข้าบ้านกันเถอะ พี่ชายท่านนี้ขอให้มารดาท่านสุขภาพแข็งแรงนะเจ้าคะ""อี้เซียนเจ้าโกรธข้าเรื่องนั้นไม่ได้ แม้ว่าเราจะมีสัญญาหมั้นหมายกัน แต่ว่าด้วยความเหมาะสมข้าต้องแต่งเย่วเอ๋อร์ มิใช่บอกเจ้าแล้วหรือว่าข้าสามารถแต่งเจ้าเป็นฮูหยินรองได้""โอ้ว..คุณชายจ้าวท่านช่างเปี่ยมน้ำใจยิ่งนัก ทำเพื่อวงศ์ตระกูลเสียน่ายกย่อง เสียงที่ข้าได้ยินยามที่ไปอารามกับท่านเป็นเสียงที่ท่านบอกว่าอีกหน่อยข้าต้องยอมรับให้ได้ เพราะว่าข้าอีกหน่อยต้องเป็นฮูหยินที่ใจกว้าง มาบัดนี้กลับต้องไปเป็นฮูหยินรอง แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะคนที่ครวญคราง อ๊า ท่านพี่เฉิงท่านเร่าร้อนนัก อืม ใหญ่โตเช่น
ชาวบ้านและขุนนางที่เดินผ่านจวนเซียวต่างเดินเข้ามาชมสินค้าล้วนมีแต่ของดี"โย่ว..ข้าซื้อๆ ข้าอยากทำบุญ""ข้าด้วยๆ"กล่องไม้หลากหลายขนาดถูกวางเรียงราย เครื่องประดับ ภาพวาด เครื่องเรือน แพรพรรณอย่างดีถูกนำมาจัดวาง"เสี่ยวฮวา วางป้ายราคาได้"สาวใช้ตัวน้อยรับคำก่อนจะวางป้ายราคาตามสินค้าชิ้นต่างๆ เหล่าคนที่มาดูเรื่องตลกทีแรกก็ตะลึง หยกเนื้อดีที่ราคาสามร้อยถึงหนึ่งพันตำลึงแต่คุณหนูคนนี้ขายเพียงแปดสิบตำลึง เครื่องลายครามราคาแปดร้อยตำลึงนางขายเพียงร้อยตำลึง ผ้าไหมอย่างดี ราคาพับละสามร้อยตำลึงนางขายเพียงสามสิบตำลึง ไม่นานสินค้ากว่าแปดร้อยรายการที่วางขายก็เริ่มทยอยขายจนหมด กระทั่งเหลือหยกสามชิ้นหนึ่งในนั้นมีบุรุษแต่งกายมอซอคนหนึ่ง ใครที่อยู่ใกล้ๆเขาต่างก็รังเกียจ เขาเดินเข้ามาคอตกทำท่าทางกล้าๆกลัวๆก่อนจะเอ่ย"คะ คุณหนู ขะ ขอรับ คือว่าขะข้าๆเอ่อข้า""พี่ชาย ท่านต้องการสิ่งใดว่ามาเถอะ หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงข้าย่อมให้ท่านได้""วะ วันเกิดมารดาข้า บิดาข้าจากไปนานแล้วนางเฝ้าหลุมศพท่านพ่อจนกระทั่งผมขาว ข้าน้อยทำงานหนักมานานจึงอยากให้ของขวัญนางสักชิ้น อยากได้ของขวัญ คะ คุณหนูมีที่ไม่แพงไหม""เ
ยามเหมาประตูจวนเซียวเปิดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันแต่งงาน นำโต๊ะมาวางต่อๆกันเรียงรายยาวอยู่หน้าเรือน บ่าวไพร่ในเรือนมีไม่ถึงยี่สิบคนเป็นบ่าวชายหกคน ทุกคนอยู่เพราะยังคิดถึงบุญคุณของผู้นำตระกูลคนเก่า เซียวอี้เซียนตื่นแต่เช้า ท่านย่าอาการไม่ค่อยดี นางนำเงินสินสอดที่ได้มาเพียงห้าพันตำลึงไปขอร้องอ้อนวอนหมอเทวดาซุนเจิ้นหนานมารักษานาง เจิ้นหนานยอมมาตรวจให้เมื่อคืนนี้เขามิได้เห็นแก่เงิน แต่เห็นแก่ความกตัญญูของนาง เซียวอี้เซียนที่นั่งคุกเข่าอยู่หน้าเรือนของเขากว่าสองชั่วยาม เจิ้นหนานยืนมองนางสั่งบ่าวไพร่ให้ขนหีบออกมา เซียวหงเดินมาหาบุตรสาว ยกมือลูบศีรษะนางเบาๆรั้งนางเข้ามากอดก่อนจะเอ่ยถามให้แน่ใจ"เซียนเอ๋อร์ ลูกตัดใจจากจ้าวเฉิงได้แล้วจริงๆเหตุใดยังต้องขายสินสอด ไปคืนไม่ดีกว่าหรือ""ท่านพ่อ เดิมทีเขาทำผิดต่อข้าและสกุลเซียว สินสอดนี้ควรขายทิ้งเอาเงินพวกเราคืนมาเจ้าค่ะ""เงินพวกเราหรือ""ท่านพ่อ เดิมทีค่ารักษาท่านย่าไม่ได้แพงมากนัก แต่เพราะหมอจ้าวหมอประจำจวนของเขามารักษาแล้วให้ลูกซื้อยาที่แสนแพงจนต้องจำนองจวนหลังนี้ ตอนนี้ข้ารู้ดีชั่วของพวกเขาหมดแล้ว สกุลหลิวของหลิวเว่ยท่า
เสี่ยวฮวามาถึงก็ส่งกระดาษให้หลายแผ่น เงินตำลึงที่เป็นเงินสินสอดห้าพันตำลึงถูกจ่ายไปเพื่อจ้างช่างตีเหล็กสร้างเครื่องมือแกะสลัก พรุ่งนี้นางจะขายทอดตลาดสินสอดทั้งหมดรวมถึงสมบัติในจวน เพื่อไปเริ่มต้นใหม่ที่อื่นกับครอบครัว ร่างบางยืนร้องไห้อยู่ข้างๆเซียวอี้เซียน นางเงยหน้ามาก็เจอเจ้าของร่างเดิมที่เป็นเพียงวิญญาณอยู่ตอนนี้"ไปเถอะอย่าเสียใจ เจ้าเลือกทางนี้แล้วจงรับผลกรรม ครอบครัวของเจ้า ความแค้นของเจ้าข้าจะช่วยแบกรับเอง"เซียวอี้เซียนคนเก่าพยักหน้าให้ก่อนจะค่อยๆเลือนหายไป เซียวอี้เซียนสงสารชะตาร่างเดิมจริงๆ นางหัวอ่อนเชื่อใจคนถึงได้มีจุดจบเช่นนี้ อย่าบอกว่าสตรีโบราณอยู่ในจารีตต้องอ่อนแอ ถ้าเป็นเช่นนี้จริงๆหลิวเย่วสตรีอสรพิษจะทำเรื่องเลวทรามกับคนที่เรียกว่าสหายได้อย่างไร "ได้เวลาเอาคืนแล้วสินะ เจ้าไปอย่างหมดห่วงเถอะ"ตกค่ำขอทานที่เสี่ยวฮวาไปหามาก็รออยู่ประตูข้าง เซียวอี้เซียนที่สวมผ้าคลุมเดินออกมาก่อนจะเรียกเด็กๆเหล่านนั้นมาแล้วกระซิบบางอย่าง พร้อมกับเด็กอีกกลุ่มไปแจกใบปลิว เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็เข้าบ้าน เซียวอี้เซียนมองไปยังต้นไม้ใหญ่ที่ทอดกิ่งมาทางจวนของนาง ทำไมให้ค
หวังเสี่ยวเซียนที่ตอนนี้เกิดอาการเซ็งสุดขีด เธอกำลังถ่ายวิดีโอของตัวเองอัพลงโซเชี่ยล หวังเสี่ยวเซียนทำวิดีโอจากการใช้ชีวิตแบบวิถีชนบทดั้งเดิม เธอเรียนจบปริญญาตรีสาขาพฤกษศาสตร์เพื่อมาปรับปรุงไร่ของเธอที่มีอยู่เพียงสามไร่ ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว คุณย่าเพิ่งจะเสียไปไม่นานรายได้จากการทำวิดีโอเดือนหนึ่งหลายแสนหยวน หากถามว่าเธอมีเงินไหมแน่นอนว่ามี แต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรหรือ เธอน่าจะถูกคนจ้างวานฆ่ามากกว่า เพราะจะมีโรงแรมขนาดใหญ่มาเปิดที่ชนบทบ้านของเธอหวังเสี่ยวเซียนเป็นผู้นำฝูงชนไปต่อต้านการก่อสร้าง จนกระทั่งถูกขู่มาหลายรอบ "เฮ้อ ไอ้แสงเขียวๆที่ส่องฉันคงเป็นไรเฟิลสินะ แหม่จะฆ่าทั้งทีลงทุนขนาดนี้นับว่าชีวิตเจ๊นี่ราคาแพงใช่ย่อยเลยนะเนี่ย""คุณหนูเจ้าขา...ท่านไม่เป็นไรนะเจ้าคะ คงไม่ได้เสียใจจนเสียสติหรอกนะ"เสียวฮวาบ่นอุบอิบเพราะกลัวคุณหนูของตนเองได้ยิน หวังเสี่ยวเซียนที่ตอนนี้ก็คือเซียวอี้เซียนได้แต่เดินมาหาสาวใช้ของร่างเดิมก่อนจะจับนางให้มองหน้า"เสี่ยวฮวาน้อย...ข้าไม่ได้เสียใจแล้ว อีกอย่างไม่แต่งก็ดีเหมือนกัน จ้าวเฉิงเป็นบุรุษที่ไม่รู้จักพอ ทุกครั้งที่พาข้าไปอารามก็เ