แชร์

第4章 : ท้องร้องเป็นเหตุสังเกตได้

ผู้เขียน: เมเธีย.
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-04 20:22:02

หลังจากที่รู้และเข้าใจในเหตุการณ์ที่กำลังเจอกับตัวในตอนนี้ได้แล้วเฟยฮวาจึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าในเมื่อสวรรค์ให้โอกาสนางได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แม้จะอยู่ในร่างของผู้อื่นนางก็จะใช้ชีวิตให้ดีที่สุดเพื่อชดเชยจากโลกก่อนและแทนเจ้าของกายหยาบคนเก่า 

"คุณหนู น้ำชาเจ้าค่ะ" ซิวซิวส่งจอกชาในมือให้คุณหนูของนาง จ้องมองใบหน้าของคุณหนูจนเฟยฮวาที่จับสังเกตได้จึงจ้องมองซินซินตอบกลับด้วยความสงสัย

"ซินซิน เจ้าสงสัยในตัวข้าเช่นนั้นหรือ?" 

ซินซินที่ได้ยินคำถามเช่นนั้นก็ถึงกับแสดงท่าทางหวาดกลัว นางก้มหน้าก้มตาส่ายหัวรัว

"เจ้าไม่เชื่อหรือว่านี่คือคุณหนูของเจ้า"

"ข้าน้อยไม่กล้าเจ้าค่ะ เพียงแค่คิดว่าสิ่งใดที่ทำให้คุณหนูเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้กัน แต่ก่อนคุณหนูที่ข้าน้อยรู้จัก เป็นเพียงสตรีอ่อนโยน อ่อนแอ มักถูกดูแคลนจากบิดา มารดาเลี้ยงและน้องสาวต่างมารดา พอมาในวันนี้หลังจากที่คุณหนูตื่นลืมตาขึ้นมาก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน ข้าน้อยเพียงแค่ดีใจ"

"ดีใจเช่นนั้นหรือ?" 

ซินซินพยักหน้าแล้วเงยหน้าส่งรอยยิ้มให้กับคุณหนูของนาง

"ดีใจที่คุณหนูมีแรงลุกขึ้นมาสู้เพื่อตัวเองได้ในวันนี้ ที่ผ่านมาข้าน้อยต้องทนเห็นคุณหนูร้องห่มร้องไห้อยู่เพียงลำพังมาโดยตลอด แม้ว่าข้าน้อยจะอยากช่วยอะไรท่านได้บ้างก็ไม่อาจทำได้ ข้าน้อยเป็นเพียงบ่าวที่ถูกซื้อมาให้คอยรับใช้คุณหนู ยามเห็นคุณหนูเจ็บข้าน้อยเองก็เจ็บปวดนักที่ไม่อาจช่วยเหลืออะไรคุณหนูได้เลย" ซินซินกล่าวจบพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม 

เฟยฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก ชีวิตนี้ของเซี่ยเหลียนฮวารอบกายนางถูกทำร้ายโดยผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นครอบครัวมาโดยตลอด หาได้คาดคิดว่าจะมีสาวใช้ที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดี รักนางดั่งพี่น้องร่วมสาบานเช่นนี้ พูดแล้วก็อดนึกสงสารเจ้าของร่างคนเก่าเสียไม่ได้ เฟยฮวาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะประคองร่างของซินซินให้ขึ้นมานั่งข้าง ๆ ตน

"ซินซิน ชั่วชีวิตนี้ ข้าคงไม่อาจหาคนดี ๆ ได้เช่นเจ้าอีกแล้ว ขอบใจเจ้ามากที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเจ้าอยู่ข้างข้าเสมอ ชีวิตนี้ข้าไม่อาจตอบแทนอะไรเจ้าได้ มีเพียงแค่คำขอบคุณเล็กน้อยจากปากของข้า" เฟยฮวากุมมือของซินซินขึ้นมาตบเบา ๆ 

"คุณหนู ซินซินหาได้ต้องการสิ่งใดตอบแทน ซินซินเพียงแค่อยากจะอยู่ดูแลรับใช้คุณหนูแบบนี้ตลอดไปเจ้าค่ะ"

"ซินซิน เจ้าเป็นดั่งพี่น้องร่วมสาบานของข้า อย่าได้กล่าวเหมือนว่าเจ้าเป็นสาวใช้ของข้าเลย"

"คุณหนู ซินซินเป็นเพียงแค่บ่าว" 

"ไม่หรอก นับจากนี้เจ้าเป็นดั่งพี่น้องร่วมสาบานของข้า เจ้าปกป้องข้า ข้าเองก็ปกป้องเจ้า ดีหรือไม่?"

นี่ก็ล่วงเลยเข้าสู่ยามเซินแล้ว (15:00-16:59) เซี่ยเหลียนฮวาพึ่งจะนึกขึ้นได้ว่าตนเองยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า เสียงท้องร้องครอกครากดังลั่นในขณะที่กำลังสนทนากับซินซินถึงเบื้องหลังชะตาชีวิตของคุณหนูสกุลเซี่ย ซินซินที่ได้ยินก็ถึงกับยกมือปิดปากหัวเราะแทบไม่ทันก่อนที่ใบหน้าแสดงรอยยิ้มนั้นจะแปรเปลี่ยนไป เซี่ยเหลียนฮวาที่จับสังเกตได้จึงเอ่ยถาม

"ไยเจ้าต้องทำหน้าเช่นนั้นด้วยเล่า?" 

สาเหตุที่ซินซินทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นก็คงเป็นเพราะ คุณหนูเซี่ยของตนนั้นในยามก่อนไม่เคยที่จะได้กินอาหารดี ๆ แม้แต่การร่วมโต๊ะกินข้าวกับครอบครัวก็มิเคยได้รับ ทุกครั้งที่นางตรงดิ่งไปยังห้องรับประทานอาหารของครอบครัวก็มักจะได้เพียงแค่หมั่นโถวที่ถูกปล่อยทิ้งไว้จนเย็นชืดพอกินประทังชีวิตได้ไปวัน ๆ อาหารดี ๆ รสชาติมากรสเหล่านั้นมักจะมีแค่นายท่าน ฮูหยินแม่เลี้ยงและคุณหนูคนรองเท่านั้นที่จะได้กิน บางครั้งหากพวกเขากินไม่หมดก็มักจะเหลือไว้เพียงแค่เศษอาหารให้บุตรสาวคนโตได้กินราวกับให้อาหารสุนัขก็ไม่ปาน

แต่ช้าไปเสียแล้ว เมื่อไม่ได้รับคำตอบจากซินซิน เซี่ยเหลีนนฮวาไม่สนที่จะรอฟัง จากที่ได้ยินซินซินบอกมาเวลานี้เป็นเวลาอาหารของครอบครัว และนางก็ต้องไปร่วมด้วยเพราะถึงอย่างไรเสียนางก็เป็นบุตรสาวคนโตของสกุลเซี่ย ผู้เป็นบิดาคงไม่ใจร้ายปล่อยให้นางหิวจนตายหรอกกระมัง

เมื่อเซี่ยเหลียนฮวาเดินตรงมาถึงบริเวณทางเข้าไปยังห้องรับประทานอาหาร เสียงหัวเราะครื้นเครงก็ดังขึ้นเป็นเสียงขแงบิดา มารดาเลี้ยงที่กำลังกล่าวชื่นชมในตัวบุตรสาวคนรองเซี่ยชิวหรง เซี่ยหลานฮวาชะงักฝีมือก่อนจะตั้งใจฟังบทสนทนาด้านใน

"ฮ่า ๆ ชิวหรงเป็นเด็กดีนัก ไม่แปลกที่จะมีบุรุษมาชื่นชอบไม่น้อย"

คำพูดที่เอ่ยออกมาจากผู้เป็นบิดาทำให้เซี่ยเหลียนฮวาถึงกับกลอกตาขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ นางยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะหลังจากที่ได้ยินคำพูดเช่นนั้นออกมา ให้ตายเถิด ไม่มีผู้ใดตามทันจิตใจสกปรกชั่วช้าของเซี่ยชิวหรงเลยหรืออย่างไร เบื้องหน้าผู้อายุมากมายทำตัวอ่อนโยน อ่อนน้อม โยนให้เซี่ยเหลียนฮวาเป็นนางร้าย แต่พออยู่ลับหลังผู้คนกลับรังแกร่างกายนี้สารพัดวิธี จนกระทั่งผลักร่างของเซี่ยเหลียนฮวาตกน้ำเป็นไข้จนตายไปอย่างโดดเดี่ยว

เซี่ยวั่งซูผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวและนายท่านสกุลเซี่ยที่ได้ยินเสียงกลั้นหัวเราะของบุคคลที่ไม่รับเชิญก็ถึงกับโกรธจนควันออกหู ทุบโต๊ะเสียงดังปัง เอ่ยปากให้คนที่ยืนอยู่หลังประตูก้าวขาออกมา

ให้ตายสิ ข้าว่าข้าอุตส่าห์กลั้นเสียงหัวเราะได้แล้วเชียว! ช่างเป็นบิดาที่หูดีเกินไปแล้ว!

เซี่ยเหลียนฮวาตัดสินใจก้าวขาออกมาพ้นประตูได้นางก็เดินตรงเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร ก้มหน้าย่อตัวคารวะผู้เป็นบิดาก่อนจะเงยหน้าขึ้นยืนนิ่งไม่สนใจมารดาเลี้ยงและเซี่ยชิวหรงที่ทำหน้ายักษ์จ้องเขม็งมาที่นาง

"เจ้ามาทำอะไรที่นี่? มิใช่ว่าข้าสั่งให้กักบริเวณเจ้าหรอกหรือ?!" เซี่ยวั่งซูถามน้ำเสียงกดต่ำจ้องเขม็งมาที่ร่างของบุตรสาวอย่างเยือกเย็น

"ข้าทราบว่าท่านสั่งกักบริเวณข้า แต่ในยามนี้ท้องไส้ของข้าปั่นป่วนด้วยความหิว อีกทั้งยังบิดเป็นเกลียวราวกับจะทะลุออกมาเสียแล้ว นายท่านเซี่ยถึงอย่างไรข้าก็ถือว่าเป็นบุตรสาวของท่าน ท่านคงไม่ใจร้ายให้บุตรสาวหิวข้าวจนตายหรอกใช่หรือไม่? เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นขึ้นมาวิญญาณของข้าคงได้กลายเป็นผีร้ายร้องคร่ำครวญอยู่ในสกุลเซี่ยแห่งนี้เป็นแน่" 

เซี่ยวั่งฝูที่ได้ยินเช่นนั้นยกมือตบโต๊ะเสียงดังปังจนทำให้เหล่าสาวใช้ที่รอรับใช้ต้องทรุดตัวก้มหัวไม่กล้าจ้องมองเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผู้เป็นนายท่านสกุลเซี่ยขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจและโกรธเคือง ที่แปลกใจก็เพราะท่าทางของบุตรสาวคนโตที่ดูเปลี่ยนแปลง อีกทั้งคำที่เรียกตนจากแต่ก่อนชอบเรียกท่านพ่อ แต่ในวันนี้กลับเรียกตนว่านายท่านเซี่ย ความปีกกล้าขาแข็งที่แสดงออกในวันนี้จากที่เคยเป็นสตรีอ่อนแอ ก้มหัวให้ผู้ใดหน้าไหนกสับแปรเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเจน

"เจ้ากล้าขู่ข้าเช่นนั้นหรือ!?"

"หามิได้นายท่านเซี่ย ข้าเพียงพูดในความเป็นจริงเท่านั้น เพราะถ้าหากข้าเป็นวิญญาณร้ายขึ้นมาจริง ๆ ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้คนที่รังแก ทำร้ายข้าได้มีความสุขแน่นอน เพราะข้าจะตามหลอกหลอนราวีคนพวกนั้นเอาให้อยู่กันเสียไม่ได้เลย"

"บังอาจ!!!!"

เซี่ยวังซู่ลุกขึ้นชี้หน้าเซี่ยเหลียนฮวาด้วยความเดือดดาล จ้องมองบุตรสาวตรงหน้ามิวางตาก่อนจะหันไปสั่งคนรับใช้ที่ยืนอยู่ด้านข้าง

"นำอาหารไปส่งที่เรือนของนาง อย่าให้นางมาเพ่นพ่านร้องว่าข้าเป็นคนใจจืดใจดำ ไม่ให้บุตรสาวกินข้าวปลา ส่วนเจ้าเซี่ยเหลียนฮวา ไสหัวกลับไปที่จวนของเจ้าเสีย หากไม่ได้รับคำสั่งจากข้าอย่าเสนอมาท่เรือนใหญ่ ไสหัวออกไป!!!"

เซี่ยเหลียนฮวาย่อกายลงเล็กน้อยกล่าวขอบคุณผู้เป็นบิดาก่อนจะหันไปยิ้มเหยียดใส่มารดาเลี้ยงและเซี่ยชิวหรง หันหลังเดินกลับจวนไปพร้อมซินซินที่ทำหน้าทำตาราวกับเห็นผี

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าทะลุ​มิติ​มา​เป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพ   第5章 : จดหมายที่ไม่ทันได้ตั้งตัว

    แคว้นจ้าวเล่อ ปกครองโดยองค์ฮ่องเต้จ้าวหรงเล่อ ในยามนี้เป็นช่วงศึกสงครามจากฝั่งชายแดนด้วยเพราะแคว้นเว่ยต้องการจะยึดครองแคว้นจ้าวขึ้นเป็นเมืองขึ้นของตน สาเหตุหนึ่งก็เพราะแคว้นจ้าวนั้นเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ มีพื้นที่หล่อเลี้ยงชาวประชา หาได้รับความทุกข์ร้อนแต่อย่างไร อีกทั้งยังมีข่าวลือว่าภายใต้ดินของแคว้นจ้าวนั้นมีขุมทรัพย์มากมายถูกฝั่งเอาไว้ จึงเป็นแคว้นที่ถูกเล็งมากที่สุดในศึกสงครามในโลกยุทธภพแห่งนี้แคว้นจ้าวมีแม่ทัพหนุ่มผู้หนึ่ง ที่ได้ชื่อว่าเป็นเทพแห่งสงครามลงมาเกิดจากสวงสวรรค์ ด้วยเพราะมีฝีมือเก่งกาจในเรื่องของบู๊และบุ๊น อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นบุรุษที่เฉยชาที่สุดบนแผ่นดินแคว้นจ้าว แม่ทัพผู้นี้มีนามว่า อู๋ซีห่าว ทุกครั้งที่จับดาบออกรบเมื่อใดเขามักจะนำชัยชนะกลับมาให้เป็นที่พอใจแก่ฮ่องเต้จ้าวหรงเล่อทุกครั้งไปภายในสนามรบเวลานี้ล้วนเต็มไปด้วยศพของเหล่าทหารของทั้งสองแคว้นที่นอนตายเกลื่อนกลาดไปทั่ว มองไปทางนั้นก็มีแต่ดองโลหิตเหม็นคาวคละคลุ้งลอยมาแตะจมูก ฝั่งหนึ่งคือแคว้นจ้าวที่ยังคงเหลือทหารกว่าครึ่ง ส่วนอีกแคว้นคือแคว้นเว่ยที่กำลังจะพ่ายแพ้ในศึกสงครามครั้งนี้"ผู้ใดตัด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ข้าทะลุ​มิติ​มา​เป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพ   第1章

    ท่ามกลางใจกลางเมืองหรูในเขตต้าหนาย สถานที่เขตนี้เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศชอบมาเป็นอับดับต้น ๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตเลยก็ว่าได้ ท่ามกลางแสงสีและสถานที่น่าเที่ยวมากมายใครจะไปรับรู้ได้ว่าจะมีสถานที่หนึ่งที่จะทำให้เรื่องน่าแปลกประหลาดของกาลเวลาเกิดขึ้นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ตัดมาทางสะพานข้ามเมืองเข้าออกแห่งใหญ่ที่มักจะมีรถสัญจรผ่านไปมาเนื่องจากตรงช่วงใจกลางสะพานแห่งนี้นั้นมีวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำใหญ่ที่งดงามจึงมักเป็นสถานที่ที่ใครหลาย ๆ คนมักจะชอบมาจอดรถเพื่อลงมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นภาพความทรงจำ ใจกลางสะพานใหญ่ขณะนี้กำลังมีร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง หล่อนกำลังยืนจับขอบสะพานเฝ้ามองไปยังวิวทิวทัศน์ด้านหน้าอย่างเหม่อลอย ก่อนที่น้ำตาสีใสจะไหลรินร่วงลงมาจากนัยน์ตาสีอำพัน ในมือของเธอกำรูปภาพใบหนึ่งเอาไว้ หล่อน ๆ ค่อยคลี่มือออกจับรูปภาพใบนั้นขึ้นมาดูทั้งน้ำตาในภาพปรากฏเป็นรูปของคนสามคนโดยที่หล่อนนั้นยืนอยู่ตรงกลาง ฝั่งข้างซ้ายมือของแฟนหนุ่มที่กำลังจะตบแต่งกันในหนึ่งเดือนข้างหน้า ส่วนด้านขวามือคือเพื่อนสนิทตั้งแต่เล็กของเธอ พวกเขาทั้งสามคนมาเที่ยวทริปที่ประเทศนี้เพราะจะฉลองกับการส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ข้าทะลุ​มิติ​มา​เป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพ   第2章 : บุตรสาวที่ไม่เป็นที่ต้องการของสกุลเซี่ย (1)

    เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นจนทำให้ร่างที่นอนนิ่งอยู่ขมวดคิ้วด้วยความรำคาญแต่ทว่ายังไม่ยอมตื่นลืมตาขึ้นมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งมือปริศนาคู่หนึ่งเข้ามากระชากแขนของสตรีที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงอย่างแรงแล้วโยนร่างนางจนตกลงจากเตียงลงมานั่งอยู่บนพื้น เฟยฮวาร้องซีดในลำคอเมื่อความเจ็บแสบจากที่เข่าทั้งสองข้างกระแทกกับพื้นเต็มแรงก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองบุคคลที่ยืนทำท่าทางกระฟัดกระเฟียดอยู่ตรงหน้า เฟยฮวาขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจที่จู่ ๆ ก็เห็นบุคคลประหลาดในเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ไม่คุ้นตา ค่อย ๆ กวาดสายตามองดูอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความสงสัยว่าทำไมตนถึงมาอยู่กองละครถ่ายย้อนยุคได้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ตนเพิ่งจะกระโดดสะพานลอยตกลงไปในแม่น้ำอันแสนกว้างใหญ่แท้ ๆ "กะ..." ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยถามในสิ่งที่ตนเองสงสัย อีกฝ่ายก็พุ่งเข้ามาใช้ฝ่ามือตบลงบนที่พวงแก้มของเฟยฮวาจนหน้าหัน ความเจ็บแปลบที่พวงแก้มทำให้เฟยฮวาจำต้องยกมือขึ้นกุมใบหน้าของตนเอาไว้ก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่น แม้จะไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนักแต่ตัวเธอก็ไม่ยอมให้คนที่ไม่รู้จักมาทำกิริยาต่ำทรามแบบนี้ใส่ตนหรอกไม่รอช้าเฟยฮวาลุกขึ้นพร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ข้าทะลุ​มิติ​มา​เป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพ   第3章 :​ บุตรสาวที่ไม่เป็นที่ต้องการของสกุลเซี่ย (2)

    เป็นอีกครั้งที่เฟยฮวาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด แต่คราวนี้เป็นความเจ็บปวดที่มาจากบริเวณกลางหลัง หญิงสาวร้องซี๊ดเมื่อรับรู้ถึงสมุนไพรที่ถูกบดจนละเอียดกำลังทาลงมาที่กลางหลังอีกครั้ง เฟยฮวากัดริมฝีปากของตนเองแน่น บริเวณขอบตาปรากฏหยดน้ำตาคลอ ๆ อยู่หางตาเล็กน้อย"คุณหนู นายท่านช่างใจร้ายกับท่านเหลือเกิน เฆี่ยนตีรุนแรงเช่นนี้ ทั้งไม่ยอมให้ยามารักษา ซินซินต้องขออภัยที่ต้องนำสมุนไพรไม่มีราคามารักษาบาดแผลให้ท่าน" ผู้เรียกตัวเองว่าซินซินกล่าวจบก็ค่อย ๆ ทาสมุนไพรลงที่แผลจากเฆี่ยนตีให้คุณหนูของตนอย่างเบามือที่สุดกลิ่นเหม็นเขียวของสมุนไพรที่ถูกบดจนละเอียดลอยอบอวลไปทั่วห้อง จนกระทั่งหลังจากที่ทำอะไรเสร็จแล้วเฟยฮวาจึงถูกประคองใ้ลุกขึ้นนั่งเหยียดตรง นางมองการกระทำของซินซินอยู่นาน เมื่อเห็นว่าถ้วยยาเหม็นเขียวที่ยื่นมาตรงหน้าก็ทำหน้าเหยเกใช้มือดันถ้วยยาคืนกลับไปให้ซินซิน"เหม็นแบบนี้ใครจะไปกินได้กัน" "คุณหนู หากคุณหนูไปกินจะไม่หายเอานะเจ้าค่ะ ยานี้เหม็นเขียวก็จริงอยู่แต่จะช่วยทำให้อาการและความเจ็บปวดของคุณหนูลดลงได้เยอะเลยนะเจ้าคะ หากไม่ดูดค่ำคืนนี้คุณหนูคงได้ไข้ขึ้นอีกแน่ ๆ""เฮ้อ ก็ได้ ๆ ฉันยอม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04

บทล่าสุด

  • ข้าทะลุ​มิติ​มา​เป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพ   第5章 : จดหมายที่ไม่ทันได้ตั้งตัว

    แคว้นจ้าวเล่อ ปกครองโดยองค์ฮ่องเต้จ้าวหรงเล่อ ในยามนี้เป็นช่วงศึกสงครามจากฝั่งชายแดนด้วยเพราะแคว้นเว่ยต้องการจะยึดครองแคว้นจ้าวขึ้นเป็นเมืองขึ้นของตน สาเหตุหนึ่งก็เพราะแคว้นจ้าวนั้นเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ มีพื้นที่หล่อเลี้ยงชาวประชา หาได้รับความทุกข์ร้อนแต่อย่างไร อีกทั้งยังมีข่าวลือว่าภายใต้ดินของแคว้นจ้าวนั้นมีขุมทรัพย์มากมายถูกฝั่งเอาไว้ จึงเป็นแคว้นที่ถูกเล็งมากที่สุดในศึกสงครามในโลกยุทธภพแห่งนี้แคว้นจ้าวมีแม่ทัพหนุ่มผู้หนึ่ง ที่ได้ชื่อว่าเป็นเทพแห่งสงครามลงมาเกิดจากสวงสวรรค์ ด้วยเพราะมีฝีมือเก่งกาจในเรื่องของบู๊และบุ๊น อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นบุรุษที่เฉยชาที่สุดบนแผ่นดินแคว้นจ้าว แม่ทัพผู้นี้มีนามว่า อู๋ซีห่าว ทุกครั้งที่จับดาบออกรบเมื่อใดเขามักจะนำชัยชนะกลับมาให้เป็นที่พอใจแก่ฮ่องเต้จ้าวหรงเล่อทุกครั้งไปภายในสนามรบเวลานี้ล้วนเต็มไปด้วยศพของเหล่าทหารของทั้งสองแคว้นที่นอนตายเกลื่อนกลาดไปทั่ว มองไปทางนั้นก็มีแต่ดองโลหิตเหม็นคาวคละคลุ้งลอยมาแตะจมูก ฝั่งหนึ่งคือแคว้นจ้าวที่ยังคงเหลือทหารกว่าครึ่ง ส่วนอีกแคว้นคือแคว้นเว่ยที่กำลังจะพ่ายแพ้ในศึกสงครามครั้งนี้"ผู้ใดตัด

  • ข้าทะลุ​มิติ​มา​เป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพ   第4章 : ท้องร้องเป็นเหตุสังเกตได้

    หลังจากที่รู้และเข้าใจในเหตุการณ์ที่กำลังเจอกับตัวในตอนนี้ได้แล้วเฟยฮวาจึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าในเมื่อสวรรค์ให้โอกาสนางได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แม้จะอยู่ในร่างของผู้อื่นนางก็จะใช้ชีวิตให้ดีที่สุดเพื่อชดเชยจากโลกก่อนและแทนเจ้าของกายหยาบคนเก่า "คุณหนู น้ำชาเจ้าค่ะ" ซิวซิวส่งจอกชาในมือให้คุณหนูของนาง จ้องมองใบหน้าของคุณหนูจนเฟยฮวาที่จับสังเกตได้จึงจ้องมองซินซินตอบกลับด้วยความสงสัย"ซินซิน เจ้าสงสัยในตัวข้าเช่นนั้นหรือ?" ซินซินที่ได้ยินคำถามเช่นนั้นก็ถึงกับแสดงท่าทางหวาดกลัว นางก้มหน้าก้มตาส่ายหัวรัว"เจ้าไม่เชื่อหรือว่านี่คือคุณหนูของเจ้า""ข้าน้อยไม่กล้าเจ้าค่ะ เพียงแค่คิดว่าสิ่งใดที่ทำให้คุณหนูเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้กัน แต่ก่อนคุณหนูที่ข้าน้อยรู้จัก เป็นเพียงสตรีอ่อนโยน อ่อนแอ มักถูกดูแคลนจากบิดา มารดาเลี้ยงและน้องสาวต่างมารดา พอมาในวันนี้หลังจากที่คุณหนูตื่นลืมตาขึ้นมาก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน ข้าน้อยเพียงแค่ดีใจ""ดีใจเช่นนั้นหรือ?" ซินซินพยักหน้าแล้วเงยหน้าส่งรอยยิ้มให้กับคุณหนูของนาง"ดีใจที่คุณหนูมีแรงลุกขึ้นมาสู้เพื่อตัวเองได้ในวันนี้ ที่ผ่านมาข้าน้อยต้องทนเห็นคุณหนูร้องห่มร้อง

  • ข้าทะลุ​มิติ​มา​เป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพ   第3章 :​ บุตรสาวที่ไม่เป็นที่ต้องการของสกุลเซี่ย (2)

    เป็นอีกครั้งที่เฟยฮวาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด แต่คราวนี้เป็นความเจ็บปวดที่มาจากบริเวณกลางหลัง หญิงสาวร้องซี๊ดเมื่อรับรู้ถึงสมุนไพรที่ถูกบดจนละเอียดกำลังทาลงมาที่กลางหลังอีกครั้ง เฟยฮวากัดริมฝีปากของตนเองแน่น บริเวณขอบตาปรากฏหยดน้ำตาคลอ ๆ อยู่หางตาเล็กน้อย"คุณหนู นายท่านช่างใจร้ายกับท่านเหลือเกิน เฆี่ยนตีรุนแรงเช่นนี้ ทั้งไม่ยอมให้ยามารักษา ซินซินต้องขออภัยที่ต้องนำสมุนไพรไม่มีราคามารักษาบาดแผลให้ท่าน" ผู้เรียกตัวเองว่าซินซินกล่าวจบก็ค่อย ๆ ทาสมุนไพรลงที่แผลจากเฆี่ยนตีให้คุณหนูของตนอย่างเบามือที่สุดกลิ่นเหม็นเขียวของสมุนไพรที่ถูกบดจนละเอียดลอยอบอวลไปทั่วห้อง จนกระทั่งหลังจากที่ทำอะไรเสร็จแล้วเฟยฮวาจึงถูกประคองใ้ลุกขึ้นนั่งเหยียดตรง นางมองการกระทำของซินซินอยู่นาน เมื่อเห็นว่าถ้วยยาเหม็นเขียวที่ยื่นมาตรงหน้าก็ทำหน้าเหยเกใช้มือดันถ้วยยาคืนกลับไปให้ซินซิน"เหม็นแบบนี้ใครจะไปกินได้กัน" "คุณหนู หากคุณหนูไปกินจะไม่หายเอานะเจ้าค่ะ ยานี้เหม็นเขียวก็จริงอยู่แต่จะช่วยทำให้อาการและความเจ็บปวดของคุณหนูลดลงได้เยอะเลยนะเจ้าคะ หากไม่ดูดค่ำคืนนี้คุณหนูคงได้ไข้ขึ้นอีกแน่ ๆ""เฮ้อ ก็ได้ ๆ ฉันยอม

  • ข้าทะลุ​มิติ​มา​เป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพ   第2章 : บุตรสาวที่ไม่เป็นที่ต้องการของสกุลเซี่ย (1)

    เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นจนทำให้ร่างที่นอนนิ่งอยู่ขมวดคิ้วด้วยความรำคาญแต่ทว่ายังไม่ยอมตื่นลืมตาขึ้นมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งมือปริศนาคู่หนึ่งเข้ามากระชากแขนของสตรีที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงอย่างแรงแล้วโยนร่างนางจนตกลงจากเตียงลงมานั่งอยู่บนพื้น เฟยฮวาร้องซีดในลำคอเมื่อความเจ็บแสบจากที่เข่าทั้งสองข้างกระแทกกับพื้นเต็มแรงก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองบุคคลที่ยืนทำท่าทางกระฟัดกระเฟียดอยู่ตรงหน้า เฟยฮวาขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจที่จู่ ๆ ก็เห็นบุคคลประหลาดในเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ไม่คุ้นตา ค่อย ๆ กวาดสายตามองดูอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความสงสัยว่าทำไมตนถึงมาอยู่กองละครถ่ายย้อนยุคได้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ตนเพิ่งจะกระโดดสะพานลอยตกลงไปในแม่น้ำอันแสนกว้างใหญ่แท้ ๆ "กะ..." ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยถามในสิ่งที่ตนเองสงสัย อีกฝ่ายก็พุ่งเข้ามาใช้ฝ่ามือตบลงบนที่พวงแก้มของเฟยฮวาจนหน้าหัน ความเจ็บแปลบที่พวงแก้มทำให้เฟยฮวาจำต้องยกมือขึ้นกุมใบหน้าของตนเอาไว้ก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่น แม้จะไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนักแต่ตัวเธอก็ไม่ยอมให้คนที่ไม่รู้จักมาทำกิริยาต่ำทรามแบบนี้ใส่ตนหรอกไม่รอช้าเฟยฮวาลุกขึ้นพร

  • ข้าทะลุ​มิติ​มา​เป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพ   第1章

    ท่ามกลางใจกลางเมืองหรูในเขตต้าหนาย สถานที่เขตนี้เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศชอบมาเป็นอับดับต้น ๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตเลยก็ว่าได้ ท่ามกลางแสงสีและสถานที่น่าเที่ยวมากมายใครจะไปรับรู้ได้ว่าจะมีสถานที่หนึ่งที่จะทำให้เรื่องน่าแปลกประหลาดของกาลเวลาเกิดขึ้นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ตัดมาทางสะพานข้ามเมืองเข้าออกแห่งใหญ่ที่มักจะมีรถสัญจรผ่านไปมาเนื่องจากตรงช่วงใจกลางสะพานแห่งนี้นั้นมีวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำใหญ่ที่งดงามจึงมักเป็นสถานที่ที่ใครหลาย ๆ คนมักจะชอบมาจอดรถเพื่อลงมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นภาพความทรงจำ ใจกลางสะพานใหญ่ขณะนี้กำลังมีร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง หล่อนกำลังยืนจับขอบสะพานเฝ้ามองไปยังวิวทิวทัศน์ด้านหน้าอย่างเหม่อลอย ก่อนที่น้ำตาสีใสจะไหลรินร่วงลงมาจากนัยน์ตาสีอำพัน ในมือของเธอกำรูปภาพใบหนึ่งเอาไว้ หล่อน ๆ ค่อยคลี่มือออกจับรูปภาพใบนั้นขึ้นมาดูทั้งน้ำตาในภาพปรากฏเป็นรูปของคนสามคนโดยที่หล่อนนั้นยืนอยู่ตรงกลาง ฝั่งข้างซ้ายมือของแฟนหนุ่มที่กำลังจะตบแต่งกันในหนึ่งเดือนข้างหน้า ส่วนด้านขวามือคือเพื่อนสนิทตั้งแต่เล็กของเธอ พวกเขาทั้งสามคนมาเที่ยวทริปที่ประเทศนี้เพราะจะฉลองกับการส

DMCA.com Protection Status