“เซียวหนิงหลง!! มันจะมากเกินไปแล้วนะ ถึงข้าจะไม่เป็นที่โปรดปราน แต่ยังไงซะข้าก็เป็นถึงองค์ชาย เจ้ากล้าพูดจาดูถูกข้าเช่นนี้ ต้องถูกลงโทษหลงเพ่ยจื่อ ไปนำตัวเซียวซื่อจื่อมาให้ข้า กล้าโอหังพูดจาหมิ่นเกียรติขององค์ชาย ข้าจะสั่งสอนแทนชินอ๋องเอง เร็วเข้าไปเอาตัวมันมาเดี๋ยวนี้!!”“พ่ะย่ะค่ะ องค์ชายรอง”“คิด
ความวุ่นวายของความโลภในจิตใจ เมื่อนึกถึงเงินตำลึงทองจำนวนมากมาย ที่ใกล้จะถูกขนย้ายออกจากคลังหลวง เพื่อนำพวกมันไปยังเมืองหย่งชุน ที่เป็นเมืองท่าน้ำลึกมีแม่น้ำสายใหญ่ และยังสามารถแล่นเรือออกทะเลได้แต่มันไม่ง่ายนักที่จะแย่งชิงมันมา เพราะคนจากหน่วยลับที่คัดเลือกโดยเซียวหนิงหลงในครั้งนี้ ทุกคนล้วนมีพลัง
หากมิใช่ฮองเฮาขอร้องพระองค์ละก็ ไม่มีทางที่จะมาเหยียบตำหนักนี้แน่ ๆ รุ่ยเซียงที่ยืนอยู่หน้าประตู เห็นองค์ชายรองเดินมาแต่ไกล จึงรีบกลับเข้าไปรายงานเจ้านายให้ทราบ ซึ่งพอดีกับองค์ชายรองที่มาถึง และกำลังจะเอ่ยขอเข้าเฝ้าแต่ได้ยินเสียงดังจากด้านใน อนุญาตให้เข้าไปได้ทันที“ถวายบังคมเสด็จพ่อ เสด็จแม่พ่ะย่ะค
เจ้าคิดว่าตนเองฉลาดมากสินะ ที่เก็บมันไว้เป็นความลับมิบอกให้ผู้ใดได้รู้แม้แต่เจิ้น เซียวฮุ่ยหมิงเจ้าไม่อาจมีบุตรได้ไม่สามารถทำสตรีตั้งครรภ์ได้ เพราะเครื่องเพศของเจ้ามีปัญหา หลังจากที่ตกม้าขณะวิ่งไล่ยิงสัตว์ป่าอย่างแรง ถ้าเจ้ายังจำเหตุการณ์นั้นได้ คงจะรู้ว่าเจิ้นไม่ได้พูดโกหก แต่คนที่โกหกหลอกลวงเจ้า ก
องค์ชายรองหัวเราะเยาะตนเอง ที่ถูกสตรีทั้งสามสวมหมวกเขียวให้ลับหลัง “หึ หึ ฮ่า ๆ ๆ ดี ดีจริง ๆ ฮ่า ๆ ๆ พวกเจ้าสามคนมันโง่หรือความจำไม่ดีกันแน่ ข้าไปค้างคืนกับพวกเจ้าก็จริงอยู่ แต่ไม่ได้จบลงด้วยการมีสัมพันธ์ทุกครั้ง นี่พวกเจ้ายังเป็นสตรีของข้าอยู่อีกรึ ทำไมถึงจำนิสัยและการกระทำของข้าไม่ได้”“เสด็จพี่ต
“หม่อมฉันสาบานว่าเห็นเช่นนั้นจริง ๆ เพคะ และไม่กล้าโกหกพระองค์อย่างแน่นอน มิใช่หม่อมฉันที่เห็นเพียงคนเดียว แต่ทหารที่คอยเดินตรวจรอบ ๆ ตำหนัก ก็เห็นเช่นเดียวกับหม่อมฉันเพคะ องค์ชายรองให้คนไปถามทหารได้ ว่าสิ่งที่หม่อมฉันพูดเป็นเรื่องจริงหรือโกหกเพคะ”“พวกเจ้าสามคนคอยเปิดประตูเวลาเดิม ตามที่นางกำนัลคนน
ความวุ่นวายในเมืองหลวง ลู่ชิงไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับปัญหาภายใน ตราบใดที่ตระกูลสวียังไม่มีชื่อว่า เป็นคหบดีผู้ร่ำรวยอันดับหนึ่งของแคว้น การทำมาหากินเพื่อหาเงินทอง ยังคงต้องดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เช่นนี้ แต่ถึงแม้จะร่ำรวยมีเงินทองมากมายแล้ว ก็ไม่อาจทำตัวขี้เกียจได้ ด้วยเงินทองมีได้ก็หมดได้ในสักวันหนึ่งเช่นกัน
“แล้วคนพวกนี้ไปหาข้อมูลของข้าจากที่ใด ถึงได้รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร การพูดจาลักษณะท่าทาง หากไม่เคยอยู่ใกล้ชิดกับข้าไม่มีทางที่จะลอกเลียนแบบได้นะเจ้าคะ อีกอย่างข้าไปไหนต้องมีพี่ก้งเยว่ไปด้วย หรือแม้แต่พี่ก้งเยว่ก็ถูกพวกมันสวมรอย” ลู่ชิงยังสงสัยในข้อนี้อยู่พอสมควร“อืม เรื่องนี้น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย หา
“กระหม่อมเข้าใจชิงเอ๋อร์เป็นอย่างดี และไม่มีวันที่จะทำให้ชิงเอ๋อร์ต้องเสียใจ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตามชิงเอ๋อร์อยากทำสิ่งใดกระหม่อมย่อมสนับสนุน คอยปกป้องนางให้พ้นภัยจากคนชั่ว รัชทายาทอย่าได้ทรงกังวลเรื่องนี้ หากเมื่อไหร่ชิงเอ๋อร์ต้องการไปเยือนตงเฉียน กระหม่อมจะเป็นคนพาไปด้วยตนเองพ่ะย่ะค่ะ” “ก็ดี เปิ่นไท่
“แล้วเสี่ยวชิงเป็นอย่างไรบ้าง ทำสัญญาการค้ากับสี่แคว้น แค่วันเดียวก็ได้รับเงินแสนตำลึงแล้ว ยังไม่นับเงินส่วนต่างที่จะได้รับหลังกิจการในแต่ละแคว้นเปิดทำการอีก ต่อไปนี้ใคร ๆ ก็คงจะคิดหนักหากคิดจะจัดการตระกูลสวี” “ตอนนี้ชิงเอ๋อร์กำลังทำคู่มือสำหรับการเปิดกิจการสาขา และพ่อครัวที่ต้องเดินทางไปสอนการทำอา
เมื่อคนกลุ่มใหญ่จากสามแคว้นออกจากท้องพระโรงแล้ว ได้เสด็จตรงไปยังประตูวังหลวง เพื่อรอให้ข้ารับใช้ไปเก็บสัมภาระ ยังตำหนักรับรองที่ได้พำนักก่อนหน้านี้ รวมถึงรัชทายาทและพระชายาที่ต้องตามเสด็จกลับแคว้น แม้ภายในใจจะรู้สึกโกรธเคือง และไม่เห็นด้วยกับพระบิดาเพียงใดก็ไม่อาจแสดงออกได้มากนัก ยามนี้ยังอยู่ต่างแ
“เฮอะ มีฮ่องเต้คนใดบ้างที่ไม่มีสนม อย่างน้อยพวกนางก็ช่วยให้เรามีความสุขชั่วครั้งชั่วคราวก็ยังดี ขุนนางจะดีจะชั่วใช่ว่า จะมองออกได้ง่าย ๆ ท่านคงคิดว่าตนเองเก่งมาก ที่สามารถมองคนออกว่าคนไหนดีคนไหนไม่ดีเชียวรึ” ฮ่องเต้จากซีหนานตรัสประชดประชันอย่างน่าหมั่นไส้ “ฮ่องเต้ซีหนานท่านไม่อยากเป็นฮ่องเต้ ที่เ
“จริงรึ! นี่คงเป็นลิขิตสวรรค์ ที่ได้ส่งเด็กสาวคนนี้มาเกิดบนแผ่นดินแคว้นฉู่ แม้แต่วิธีแก้ปัญหาเล็ก ๆ แต่กลับช่วยผู้คนได้มากมายนัก ไว้แนะนำให้เจิ้นได้รู้จักนางบ้าง เผื่อจะได้แลกเปลี่ยนความรู้กันสักครั้ง” “เสด็จพ่อทรงพักผ่อนสักนิดเถิด เย็นนี้จะได้ชิมอาหารสูตรของคุณหนูสวี แล้วจะทรงเข้าพระทัยว่าเหตุใด ล
เพราะเดินทางก่อนทำให้ฮ่องเต้ตงเพ่ยจวิน เสด็จมาถึงเมืองหลวงแคว้นฉู่เป็นพระองค์แรก โดยมีรัชทายาทมารอรับเสด็จพระบิดาที่หน้าประตูวังหลวง พร้อมด้วยฮ่องเต้เซียวถิงเฟิง ชินอ๋องและขุนนางอีกหลายคนที่มารอต้อนรับด้วยเช่นกัน “ถวายพระพรเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ” “รัชทายาทเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง อยู่ที่นี่มีปัญหาอันใดหรือไ
“จือเค่อเจ้าไปสังหารฮ่องเต้ส่วนข้ากับลี่จ้งจะหาของมีค่า เผื่อฝ่าบาทจะนำมาด้วยระหว่างทางหลบหนี ยังต้องใช้เงินอีกมาก”“อืม ทำเงียบ ๆ เล่าอย่าได้ส่งเสียงดังเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นพวกเราสามคนคงหนีไม่พ้นเข้าใจไหม”“เชื่อมือพวกข้าสองคนเถิดน่างานนี้ไม่มีพลาดแน่นอน เจ้ารอส่วนแบ่งก็พอแล้วรีบลงมือกันเถิด”จือเค่อ
ส่วนองครักษ์เหยียนกลับคิดถึงเรื่องยาพิษมากกว่า “อย่าว่าแต่เรื่องพลังยุทธ์เลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนึกถึงยาพิษที่ฮองเฮาได้รับแล้วยังขนลุกได้ทุกครั้ง ยาพิษอันใดกันทำให้เจ็บปวดทรมานอยากตายก็ตายไม่ได้ แต่อยู่โดยมีพิษนี้อยู่ในร่างกายต้องทุกข์ทรมานยามตะวับลับขอบฟ้า น่ากลัวมากจริง ๆ นะพ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องนี้รัชท
ตลอดระยะเวลาที่ตัวประกันที่เป็นเชื้อพระวงศ์ และต้องพำนักอยู่ที่แคว้นฉู่มาพักใหญ่ แม้จะถูกจำกัดบริเวณที่ไปได้ แต่มิได้ทำให้ทุกคนซึมเซาหรือเคร่งเครียดแต่อย่างใด เพราะกิจการของตระกูลสวีดึงดูดความสนใจของทุกคน ยิ่งร้านน้ำหอมที่ได้เข้าไปเลือกชมด้วยตนเอง จนต้องเสียตำลึงเงินไปพอสมควร จะซื้อขวดเล็ก ๆ ได้อย่า