“หม่อมฉันสาบานว่าเห็นเช่นนั้นจริง ๆ เพคะ และไม่กล้าโกหกพระองค์อย่างแน่นอน มิใช่หม่อมฉันที่เห็นเพียงคนเดียว แต่ทหารที่คอยเดินตรวจรอบ ๆ ตำหนัก ก็เห็นเช่นเดียวกับหม่อมฉันเพคะ องค์ชายรองให้คนไปถามทหารได้ ว่าสิ่งที่หม่อมฉันพูดเป็นเรื่องจริงหรือโกหกเพคะ”“พวกเจ้าสามคนคอยเปิดประตูเวลาเดิม ตามที่นางกำนัลคนน
ความวุ่นวายในเมืองหลวง ลู่ชิงไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับปัญหาภายใน ตราบใดที่ตระกูลสวียังไม่มีชื่อว่า เป็นคหบดีผู้ร่ำรวยอันดับหนึ่งของแคว้น การทำมาหากินเพื่อหาเงินทอง ยังคงต้องดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เช่นนี้ แต่ถึงแม้จะร่ำรวยมีเงินทองมากมายแล้ว ก็ไม่อาจทำตัวขี้เกียจได้ ด้วยเงินทองมีได้ก็หมดได้ในสักวันหนึ่งเช่นกัน
“แล้วคนพวกนี้ไปหาข้อมูลของข้าจากที่ใด ถึงได้รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร การพูดจาลักษณะท่าทาง หากไม่เคยอยู่ใกล้ชิดกับข้าไม่มีทางที่จะลอกเลียนแบบได้นะเจ้าคะ อีกอย่างข้าไปไหนต้องมีพี่ก้งเยว่ไปด้วย หรือแม้แต่พี่ก้งเยว่ก็ถูกพวกมันสวมรอย” ลู่ชิงยังสงสัยในข้อนี้อยู่พอสมควร“อืม เรื่องนี้น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย หา
“รับทราบขอรับคุณหนู”“หึ พวกเราไม่เคยอยากได้ของคนอื่น แต่ทำไมคนอื่นถึงอยากได้ของเรานัก ยามที่ยากจนไม่มีใครยื่นมือช่วยเหลือ พอเริ่มจะมีเงินทองใช้จ่ายกิจการรุ่งเรืองเพิ่มขึ้น กลับกลายเป็นเป้าหมายที่พวกเห็นแก่ตัวโลภมากจ้องมอง” ลู่เสียนไม่พอใจกับการกระทำของคนกลุ่มนี้ จนมีความรู้สึกอยากสังหารคนชั่วให้ตกต
แต่พวกชางหยิงไม่รู้ตัวหรอกว่า ตอนนี้พวกเขาถูกจับตามองจากพวกหลี่เหลียง และไม่มีทางจะออกจากเขตแดนเหนือได้ เพราะเจ้าของตัวจริงกำลังจะมาถึงนั่นเองการเดินทางอย่างเร่งรีบจากเมืองหลานเฉิง ไปถึงเมืองฟู่โจวที่ยังคงมีอากาศหนาวเย็น ใช้เวลาเพียงสี่วันก็มาถึงทุกคนทำการปลอมตัวเรียบร้อย เมื่อผ่านเข้าประตูเมืองม
ลู่ชิงเห็นแบบนั้นก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ลู่เสียนเองก็เช่นกันก้งเยว่ส่งสายตาบอกสหาย ให้กระจายตัวล้อมพวกมันไว้ ป้องกันไม่ให้มีทางหลบหนี ลู่ชิงรีบแหวกทางเดินเข้าไป ยกมือชี้หน้าตัวปลอมโดยไม่เกรงกลัว“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!! พวกหลอกลวงกล้าดียังไงมาแอบอ้างเป็นเจ้าของร้านผลไม้นี้ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย”“แล้วเจ้าเป็นใ
“ขะ ขะ ข้าไม่อยู่แล้วพวกเจ้าหาทางหนีเองเถิด” ชางหยิงคิดจะเอาตัวรอดจึงไม่สนใจคำเตือนของลู่ชิง แค่เพียงเขาก้าวเท้าคิดจะวิ่งขาข้างนั้นก็ขาดออกจากกันทันที“ฉัวะ อ๊ากกกกกก ขาของข้า ๆ เจ้าตัดขาของข้าทำไม อ๊ากกกกก” ชางหยิงล้มลงไปนอนทันทีเมื่อถูกก้งเยว่ตัดขาจนขาดในดาบเดียว“กรี๊ดดดดดดดด! ว้ากกกกก!”ลู่เสียน
“เถ้าแก่น้อยอย่าได้กังวลไปเลย ถึงอย่างไรพวกข้าก็จะเป็นลูกค้าประจำเช่นเดิม”“ขอบคุณทุกท่านมากขอรับ ท่านน้าเมื่อครู่ท่านกับลูกคงตกใจไม่น้อย วันนี้ไม่ต้องเสียเงินซื้อนะขอรับ เก็บเงินไว้ซื้อของที่จำเป็น เดี๋ยวข้าจะนำเฉ่าเหมยมาให้ ท่านนำกลับไปให้คนในครอบครัวและเด็ก ๆ ได้ทานด้วยกันนะขอรับ”“ขอบคุณเถ้าแก่น
“กระหม่อมเข้าใจชิงเอ๋อร์เป็นอย่างดี และไม่มีวันที่จะทำให้ชิงเอ๋อร์ต้องเสียใจ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตามชิงเอ๋อร์อยากทำสิ่งใดกระหม่อมย่อมสนับสนุน คอยปกป้องนางให้พ้นภัยจากคนชั่ว รัชทายาทอย่าได้ทรงกังวลเรื่องนี้ หากเมื่อไหร่ชิงเอ๋อร์ต้องการไปเยือนตงเฉียน กระหม่อมจะเป็นคนพาไปด้วยตนเองพ่ะย่ะค่ะ” “ก็ดี เปิ่นไท่
“แล้วเสี่ยวชิงเป็นอย่างไรบ้าง ทำสัญญาการค้ากับสี่แคว้น แค่วันเดียวก็ได้รับเงินแสนตำลึงแล้ว ยังไม่นับเงินส่วนต่างที่จะได้รับหลังกิจการในแต่ละแคว้นเปิดทำการอีก ต่อไปนี้ใคร ๆ ก็คงจะคิดหนักหากคิดจะจัดการตระกูลสวี” “ตอนนี้ชิงเอ๋อร์กำลังทำคู่มือสำหรับการเปิดกิจการสาขา และพ่อครัวที่ต้องเดินทางไปสอนการทำอา
เมื่อคนกลุ่มใหญ่จากสามแคว้นออกจากท้องพระโรงแล้ว ได้เสด็จตรงไปยังประตูวังหลวง เพื่อรอให้ข้ารับใช้ไปเก็บสัมภาระ ยังตำหนักรับรองที่ได้พำนักก่อนหน้านี้ รวมถึงรัชทายาทและพระชายาที่ต้องตามเสด็จกลับแคว้น แม้ภายในใจจะรู้สึกโกรธเคือง และไม่เห็นด้วยกับพระบิดาเพียงใดก็ไม่อาจแสดงออกได้มากนัก ยามนี้ยังอยู่ต่างแ
“เฮอะ มีฮ่องเต้คนใดบ้างที่ไม่มีสนม อย่างน้อยพวกนางก็ช่วยให้เรามีความสุขชั่วครั้งชั่วคราวก็ยังดี ขุนนางจะดีจะชั่วใช่ว่า จะมองออกได้ง่าย ๆ ท่านคงคิดว่าตนเองเก่งมาก ที่สามารถมองคนออกว่าคนไหนดีคนไหนไม่ดีเชียวรึ” ฮ่องเต้จากซีหนานตรัสประชดประชันอย่างน่าหมั่นไส้ “ฮ่องเต้ซีหนานท่านไม่อยากเป็นฮ่องเต้ ที่เ
“จริงรึ! นี่คงเป็นลิขิตสวรรค์ ที่ได้ส่งเด็กสาวคนนี้มาเกิดบนแผ่นดินแคว้นฉู่ แม้แต่วิธีแก้ปัญหาเล็ก ๆ แต่กลับช่วยผู้คนได้มากมายนัก ไว้แนะนำให้เจิ้นได้รู้จักนางบ้าง เผื่อจะได้แลกเปลี่ยนความรู้กันสักครั้ง” “เสด็จพ่อทรงพักผ่อนสักนิดเถิด เย็นนี้จะได้ชิมอาหารสูตรของคุณหนูสวี แล้วจะทรงเข้าพระทัยว่าเหตุใด ล
เพราะเดินทางก่อนทำให้ฮ่องเต้ตงเพ่ยจวิน เสด็จมาถึงเมืองหลวงแคว้นฉู่เป็นพระองค์แรก โดยมีรัชทายาทมารอรับเสด็จพระบิดาที่หน้าประตูวังหลวง พร้อมด้วยฮ่องเต้เซียวถิงเฟิง ชินอ๋องและขุนนางอีกหลายคนที่มารอต้อนรับด้วยเช่นกัน “ถวายพระพรเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ” “รัชทายาทเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง อยู่ที่นี่มีปัญหาอันใดหรือไ
“จือเค่อเจ้าไปสังหารฮ่องเต้ส่วนข้ากับลี่จ้งจะหาของมีค่า เผื่อฝ่าบาทจะนำมาด้วยระหว่างทางหลบหนี ยังต้องใช้เงินอีกมาก”“อืม ทำเงียบ ๆ เล่าอย่าได้ส่งเสียงดังเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นพวกเราสามคนคงหนีไม่พ้นเข้าใจไหม”“เชื่อมือพวกข้าสองคนเถิดน่างานนี้ไม่มีพลาดแน่นอน เจ้ารอส่วนแบ่งก็พอแล้วรีบลงมือกันเถิด”จือเค่อ
ส่วนองครักษ์เหยียนกลับคิดถึงเรื่องยาพิษมากกว่า “อย่าว่าแต่เรื่องพลังยุทธ์เลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนึกถึงยาพิษที่ฮองเฮาได้รับแล้วยังขนลุกได้ทุกครั้ง ยาพิษอันใดกันทำให้เจ็บปวดทรมานอยากตายก็ตายไม่ได้ แต่อยู่โดยมีพิษนี้อยู่ในร่างกายต้องทุกข์ทรมานยามตะวับลับขอบฟ้า น่ากลัวมากจริง ๆ นะพ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องนี้รัชท
ตลอดระยะเวลาที่ตัวประกันที่เป็นเชื้อพระวงศ์ และต้องพำนักอยู่ที่แคว้นฉู่มาพักใหญ่ แม้จะถูกจำกัดบริเวณที่ไปได้ แต่มิได้ทำให้ทุกคนซึมเซาหรือเคร่งเครียดแต่อย่างใด เพราะกิจการของตระกูลสวีดึงดูดความสนใจของทุกคน ยิ่งร้านน้ำหอมที่ได้เข้าไปเลือกชมด้วยตนเอง จนต้องเสียตำลึงเงินไปพอสมควร จะซื้อขวดเล็ก ๆ ได้อย่า