“อ่อ ที่แท้พวกเจ้าก็เป็นสหายกับพวกเจียวมิ่งนี่เอง พวกเจ้าจะอิจฉาสหายเพียงแค่เรื่องอาหารไม่ได้นะ เพราะข้าแอบเห็นอาวุธประจำกายที่เจียวมิ่งกับคนอื่นใช้อยู่ มันเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งและยังงดงามอีกด้วย ที่สำคัญความคมของดาบพวกนั้นแค่ตวัดเบา ๆ ใบไม้ยังแยกออกจากกันทันที ข้าขอยืมจากเจียวมิ่งมาดูด้วยลวดลายมันแ
เมื่อกลับมาถึงบ้านของเยวี๋ยนจิ้งห้าวก่อนดวงอาทิตย์จะตกดิน หลี่เฉียงกับสหายจึงอาสาจัดการทำความสะอาดหมูป่า โดยให้อาฉงเป็นคนก่อไฟและตักน้ำใส่ถังไว้รอ เยวี๋ยนจิ้งห้าวเห็นทุกคนแบ่งงานกันทำไปหมดแล้ว จึงยอมเดินเข้าบ้านเพื่อเขียนจดหมายส่งถึงลู่ชิงเรื่องต้นเฉ่าเหมยส่วนที่ดินติดเชิงเขาอย่างที่เซียวหนิงหลงต้อ
เรื่องคนงานพวกเขามีความเห็นว่าให้เป็นคนในครอบครัว และเพื่อนทหารที่มีฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี แต่มีความซื่อสัตย์เข้ามาทำงานที่ร้านแห่งนี้ ซึ่งการปรับปรุงห้องครัวและตกแต่งร้านใหม่คงใช้เวลาไม่เกินสองสัปดาห์ จากนั้นร้านอาหารตระกูลสวีก็สามารถเปิดขายอาหารได้ด้านลู่จื้อที่นำขบวนสินค้ารอบที่สองไปส่งยังเมืองหลว
“ปะ ปะ เป็นไปไม่ได้ จะมีคนแอบซ่อนอยู่แถวนี้ก่อนพวกเราได้อย่างไร ถ้ามีคนพวกนี้อยู่แล้วทำไมข้าถึงจับสัมผัสพลังของพวกเขาไม่ได้ แย่แล้วพวกมันต้องมีฝีมือที่สูงส่งหลายขั้นทีเดียว”ก้งคุนรีบออกคำสั่งกับหน่วยลับทั้งสามสิบคน “เอาล่ะสหายข้าทุกคนช่วยจัดการพวกชุดดำที่ยืนขวางทางหน่อยเถิด พวกข้าสองคนกับคุณชายใหญ่
หลังจากนำสินค้าทั้งหมดเข้าไปเก็บที่ห้องเก็บของในร้านค้าแล้ว เซียวหนิงหลงพาลู่จื้อกลับไปพักผ่อนที่จวนของตนเช่นเคย แต่ครั้งนี้คงต้องมีการพูดคุยถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ด้วยชินอ๋องต้องการรู้ว่าลู่จื้ออยากจัดการคนพวกนั้นแบบไหนลู่จื้อไม่รู้หรอกว่ากลุ่มคนที่มาขวางทางเขาไว้เป็นใคร มีความแค้นอันใดกับจวนชิ
“เช่นนั้นพวกข้าทั้งห้าคนขอตัวไปจัดการตามที่ซื่อจื่อสั่งขอรับ”“อืม อย่าลืมกำชับทุกคนให้ดีอย่าให้รู้ว่ามีใครแหกกฎ ถ้ารู้ทีหลังต้องโดนลงโทษเป็นสามเท่าเข้าใจหรือไม่” เพราะกฎที่ชินอ๋องตั้งขึ้นนั้นหนักหนาสาหัส คนที่เคยผ่านการลงโทษมาก่อนย่อมไม่อยากถูกลงโทษอีก“เข้าใจขอรับ!!”เซียวหนิงหลงหารือกับทุกคนเสร็จ
“ขอรับ พรุ่งนี้ยามเว่ยพวกเราจะลงมือทันที หลังจากท่านหญิงออกมาจากสำนักศึกษา คนของเราที่ไปเฝ้าสังเกตเวลาในการเลิกเรียนอยู่สักพักแล้วขอรับนายท่าน” ลูกน้องของไป่ซั่วฉวนเป็นคนไปคอยสังเกตเวลาเลิกเรียน รวมถึงสถานที่ที่ท่านหญิงกับสหายมักจะไปด้วยกันบ่อย ๆ“ดีมากอาฉวน บอกลูกน้องของเจ้าทุกคนหากทำงานสำเร็จ ข้าจ
กลางยามห้ายก้งคุนกับตันเจียงแยกกันไปทำภารกิจที่ตนรับผิดชอบ ตันเจียงไปจัดการที่จวนหลังใหญ่ของกวนซีเฉิง ส่วนก้งคุนเข้าวังไปยังตำหนักขององค์ชายรอง จะจัดการองค์ชายรองคนเดียวก็คงไม่ได้ ก้งคุนคิดว่าควรจัดการองครักษ์คนสนิทด้วยอีกคนการเข้ามายังตำหนักในวังหลวง หากเป็นองครักษ์ทั่วไปคงไม่มีทางผ่านเข้ามาได้ง
“ถึงเจ้าไม่พูดข้าก็คิดจะลงมืออยู่แล้ว เมื่ออู๋เจียงสงกลับไปถึงเมืองหลวง อาจตายเพราะความตกใจจนเกินเหตุ หรือไม่ก็คงตรอมใจจนตายก็เป็นได้ เจ้าอย่าห่วงเลยข้าจะจัดการให้เมืองหลวงไม่มีชื่อตระกูลอู๋อีกต่อไป” เซียวหนิงหลงพูดคำไหนคำนั้นและเขาไม่เคยทำไม่สำเร็จ“ขอบคุณมากขอรับ รอให้ข้าฝึกวรยุทธ์ได้เก่งมากกว่านี
“ชิงเอ๋อร์เจ้ายื่นมือมาพี่จะช่วยสวมให้เจ้าเอง เมื่อใส่กำไลหยกชิ้นนี้แล้วก็ถือว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของพี่ เป็นว่าที่สะใภ้ของราชวงศ์เซียวแห่งแคว้นฉู่ หากมีใครคิดปองร้ายเจ้าโทษของคนเหล่านั้น ย่อมร้ายแรงมากกว่าปกติหลายเท่าการลงโทษย่อมมีหนักเบา หวังว่าเจ้าจะเข้าใจกฎเกณฑ์พวกนี้ บางครั้งเราไม่อาจใจดีกับคนที่
“เรื่องบิดาของท่านพวกข้าจะไม่เข้าไปยุ่ง หากท่านไม่ร้องขอความช่วยเหลือ แต่คนที่ลอบติดตามมาเพื่อจัดการท่านกับครอบครัว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกข้าก็แล้วกัน เพราะเรื่องนี้คนของข้าย่อมถนัดมากกว่าการพูดคุย นายท่านสวีจะได้จัดการเรื่องสำคัญได้อย่างสบายใจ” ชินอ๋องจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของลู่เวิ
ทุกคนที่อยู่ร่วมทานอาหารยังไม่มีใครพูดอะไร เพราะกลัวว่าการทานอาหารมื้อเย็นนี้จะเสียอรรถรสจึงรอไปก่อน ระหว่างนั้นมีการพูดคุยกันเพียงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ส่วนตันเจียงที่ทานอาหารกับกลุ่มเจียวมิ่งด้านนอก เขาได้พูดถึงเรื่องนี้กับสหายไปบางส่วน เนื่องจากว่าทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมเ
การมาพักผ่อนที่บ้านของตระกูลสวีผ่านมาสองวัน มีเรื่องให้ชินอ๋องและพระชายาได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ มากขึ้น ไหนจะขึ้นเขาล่าสัตว์มาทำอาหารหรือการจับปลาในแม่น้ำ ที่ไหลผ่านหลังหมู่บ้าน แม้แต่ตามไปที่ร้านอาหารเพื่อทดลองเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็ยังต้องการจะลองทำดูให้ครบหมดทุกอย่างทำเอาชินอ๋องผู้แข็งแกร่งถึงกับอ่อนระโ
“เป็นข้าวต้มก็ดีเหมือนกัน แต่ชิงเอ๋อร์คงทำหม้อใหญ่กว่าเดิมใช่หรือไม่ เพราะมีคนมาเพิ่มอีกหลายคนทีเดียวเจ้าอาจจะเหนื่อยมากเกินไปก็ได้นะ” เพราะคนที่มาครั้งนี้มีมากกว่าห้าสิบคน ที่พักจึงต้องตั้งกระโจมยังพื้นที่ว่างตรงข้างบ้าน“พี่ชายเซียวท่านไม่รู้อะไรซะแล้ว ตอนนี้พวกพี่เจียวมิ่งน่ะทำอาหารเป็นตั้งหลายอย
“คือว่าพี่กับตันเจียงไปตระกูลเหลียนเพิ่งกลับมา เพราะคนพวกนั้นกล่าววาจาล่วงเกินท่านน้าลู่เวิน และพูดจาไม่ดีกับเจ้าด้วย ที่สำคัญคิดหาผลประโยชน์จากกิจการร้านค้าของตระกูลสวีอีก พี่จะยอมให้คนพวกนั้นทำสำเร็จได้อย่างไร ตราบใดที่พี่ยังอยู่จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายชิงเอ๋อร์ได้ รวมถึงทุกคนในครอบครัวของชิง
กลางดึกในหมู่บ้านอันฮุยจวนของเศรษฐีประจำหมู่บ้าน ลุกโชนด้วยความร้อนแรงของแสงไฟ ร่างที่ถูกยาสลบของต่งซวินหลายสิบคน นอนเรียงรายไม่รู้สึกตัว จากความร้อนของเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ เรือนทุกหลังถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเรือนหลังสุดท้ายที่เป็นของเหลียนตั๋วลู่ ก็ถูกจุดไฟจากฝีมือของก้งคุนที่ถือคบไฟรออยู่ เ
“จะเรียกพวกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่ท่านเหลียนจะเรียกเถิด และใช่ท่านทำอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่พอใจมาก เพราะท่านเหลียนกำลังคิดจะจัดการตระกูลสวี ข้าพูดถูกใช่หรือไม่” เซียวหนิงหลงเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลางห้องและพูดถึงเรื่องตระกูลสวี“จะ จะ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังคิดจะทำอะไรกับตระกูลสวี” เหลียนตั๋วลู่เร