“พ่อฝากเจ้าจัดการแทนด้วยก็แล้วกัน พ่อจะไปทดลองใช้ของฝาก จากว่าที่ลูกสะใภ้ดูสักหน่อย” ชินอ๋องรีบฝากงานให้บุตรชายเป็นคนจัดการแทน ส่วนตัวเขารีบไปยังห้องอาบน้ำทันทีเซียวหนิงหลงจึงไม่รั้งอยู่ในกระโจมของบิดาอีก เขาออกมาด้านนอกเตรียมตัวจะเดินไปตรวจตราเหล่าทหาร แต่ตันเจียงที่เดินตามหลังมากับปาเซี่ย เอ่ยถาม
ก้งคุนได้ยินลู่ชิงพูดถึงทหารปลดประจำการ จึงคิดถึงสหายของตนที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องออกจากกองทัพ แม้จะได้รับเงินชดเชยแต่มันไม่ได้มากพอ ที่จะเลี้ยงดูคนในครอบครัวให้อยู่ดีกินดีได้“คุณหนูพูดจริงหรือขอรับ! ที่อยากจะให้ครอบครัวของทหารปลดประจำการได้ทำงานนี้ หากเป็นจริงละก็ข้าสนับสนุนท่านในเรื่องนี้อย่างเต็มท
ตั้งแต่เยี่ยเกาจงเสนาบดีกรมการโยธาล้มป่วย ครั้งที่ได้รับฟังข่าวเรื่องกองทัพภายใต้การนำของชินอ๋อง เขานอนรักษาตัวอยู่เกือบหนึ่งสัปดาห์ถึงได้กลับมาทำงานเช่นเดิม เพียงแค่การทำงานในแต่ละวัน ใต้เท้าเยี่ยมักจะอารมณ์เสีย เก็บอารมณ์ความโกรธแค้นเอาไว้ไม่ค่อยอยู่ จนผ่านไปเกือบหนึ่งเดือนถึงกลับมาเป็นเยี่ยเกาจงท
“เพล้ง!!! เพล้ง!!! ทำไมฮองเฮาถึงตั้งครรภ์ได้อีก ไหนว่านางถูกพิษไม่สามารถตั้งครรภ์ได้จนกว่าจะตายอย่างไรเล่า ยาพิษนั่นก็เป็นของพวกนอกด่านเป็นพิษที่ร้ายแรงไม่มียาถอนพิษ ตอนนี้นางควรจะเริ่มป่วยแล้วมิใช่หรือ แต่ทำไมกลับกลายเป็นตั้งครรภ์แทนได้” เยี่ยซูเฟยไม่อยากจะเชื่อว่าฮองเฮาจะตั้งครรภ์ได้อีก“พระสนมจาก
เนื่องจากเยี่ยจือเฟินเข้ามาเรียนมารยาท กับนางกำนัลอาวุโสในวังหลวงจึงใช้เวลาตามตัวไม่นานนัก เพียงสามเค่อก็ตามนางกำนัล มาถึงตำหนักของพระสนมเยี่ยซูเฟยแล้ว“ถวายบังคมพระสนมเยี่ยซูเฟยเพคะ” เยี่ยจือเฟินย่อตัวทำความเคารพตามแบบอย่างที่ได้ร่ำเรียนมา“ลุกขึ้นมานั่งเก้าอี้ข้าง ๆ ข้าเถิด”“ขอบพระทัยเพคะ”“เจ้าค
หลังจากวันที่ได้ลงความเห็นว่า จะซื้อร้านข้าง ๆ เพื่อทำเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ลู่เวินกับลู่จื้อรีบไปจัดการในเช้าของวันถัดมาทันที เจียวมิ่งได้เข้าไปจ้างนายช่างจากเมืองหย่งจิน เพื่อมาช่วยปรับปรุงร้านค้าอีกทางหนึ่งซึ่งจะเริ่มทำการปรับปรุงในอีกสองวัน ลู่ชิงเกรงว่าการรื้อถอนไม้ จะรบกวนการทานอาหารของลูกค้า จึ
“เสี่ยวชิง ๆ พวกเจ้าเป็นอย่างไรกันบ้าง ข้าได้ข่าวสงครามก็ตอนที่กำลังเดินทางกลับมาที่นี่” เถ้าแก่หงรีบเดินจากร้านของตน มาหาลู่ชิงที่ร้านจนลืมเหนื่อย“อ้าว เถ้าแก่หงไม่ได้เจอกันนานเลยเจ้าค่ะ พวกข้าไม่เป็นอะไรทุกคนปลอดภัยไร้บาดแผล เชิญเถ้าแก่ไปนั่งตรงศาลาใต้ต้นไม้ดีกว่าจะได้ดื่มน้ำให้หายเหนื่อย ประเดี๋
เมื่อลู่ชิงได้พิจารณาคนที่เจียวมิ่งพามา จึงตัดสินใจให้คนที่พิการแขนขาดไปหนึ่งข้าง ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของร้าน คนที่พิการขาขาดให้ทำหน้าที่ล้างจานชาม และคนที่บาดเจ็บจนกระดูกขาผิดรูป คอยทำหน้าที่ลวกเส้นและปรุงก๋วยเตี๋ยวส่วนคนถือชามก๋วยเตี๋ยวไปส่งลูกค้า ลู่ชิงได้จ้างคนรู้จักของผู้ช่วยจงที่ร้านขายสม
“เมื่อครู่พวกเจ้ายังไม่มีท่าทีจะยอมสักนิด ต้องให้เจ็บตัวเสียก่อนถึงจะยอมเปิดปากงั้นรึ หากทำตามที่บอกตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องบาดเจ็บเช่นนี้” หลี่เมิ่งยังไม่ยอมหยุดบ่นใส่พวกสีว์เปียว ที่ดื้อด้านในตอนแรกแต่พอเจ็บตัวก็เปลี่ยนท่าทีทันใด“พวกข้าผิดเองที่ทะนงตนคิดว่าคงจะสู้พวกเจ้าได้ อยากให้ข้าตอบคำถามอันใดถ้าต
“ข้าจะคอยดูแลร้านระหว่างท่านไม่อยู่เอง หากมีปัญหาอะไรข้าย่อมไม่ปล่อยไว้หรอก” หลี่เมิ่งอยากจะเจอกับพวกที่มาก่อเรื่องนานแล้ว คนแบบนี้จะพูดดีไปทำไมกันเมื่อเยวี๋ยนจิ้งห้าวแยกตัวกลับบ้านไปแล้ว พวกหลี่เฉียงกำลังจะกลับที่พักเช่นกันแต่กลับมีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นเสียก่อน ทั้งสามคน จึงหยุดฟังว่ามันคือเสียงอะไร
หลังจากพาตัวอู๋เจียงสงออกไปส่งด้านนอก ชินอ๋องและคนอื่นจึงออกมาจากด้านหลังฉากกั้น การสนทนาเมื่อครู่นั้นล้วนได้ยินกันทั่วหน้า แต่ไม่มีใครอยากพูดถึงมันอีกในเมื่อมันจบไปแล้ว จากนี้คือการเริ่มต้นใหม่อย่างแท้จริงบ้านตระกูลสวีจึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อปัญหาที่ค้างคาใจนั้นได้คลี่คลายแต่ที่แดนเหนือต
ให้ดี และประโยคสุดท้ายหันไปพูดกับเซียวหนิงหลง“มะ มะ ไม่จริง ปะ ปะ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ซื่อจื่อจะมาอยู่กับครอบครัวพวกเจ้าได้อย่างไรกัน ไหนผู้คนที่เมืองหลวงบอกว่าซื่อจื่อติดตามท่านอ๋อง เพื่อไปตรวจความเป็นอยู่ของชาวบ้านตามรับสั่งของฮ่องเต้” ตอนนี้อู๋เจียงสงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกแล้วเขาพูดพึมพำก
“ถึงพวกข้าจะยังไม่เป็นผู้ใหญ่มากนัก แต่อย่างน้อยก็พอจะรู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว ครอบครัวพวกเราอยู่ที่นี่มีความสุขกันดี จะกลับไปตระกูลที่เห็นแก่ตัวของท่านทำไมกัน อาหารการกินก็แค่เศษของเหลือจากเรือนของท่าน เสื้อผ้าก็ไม่เคยได้ผ้าไหมอย่างดีเหมือนหลานคนอื่น ๆแม้แต่เรือนแยกพวกเรายังไม่มีให้อยู่ ท่านคิดว่านี่ม
“นายท่านขอรับพวกเราเดินตามไปเงียบ ๆ จะดีกว่า ดูท่าทางสองคนนี้จะพูดจริงทำจริงนะขอรับ ดูดาบที่อยู่ตรงเอวพวกเขาสิน่าจะคมมากทีเดียว ข้าว่าอย่าไปท้าทายตามที่พวกเขาเตือนไว้ดีกว่าขอรับ” พ่อบ้านอู๋ที่ขี้ขลาดพอตัวสังเกตเห็นดาบที่เอวของก้งคุน ก็ขนลุกขนชันเกรงว่ามันจะมาพาดอยู่ที่คอของเขาแทน“ขี้ขลาดไม่เข้าเรื่
การฉลองงานหมั้นหมายของสองครอบครัวเป็นไปอย่างชื่นมื่น ทุกคนลิ้มลองสุราหมักท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ซึ่งย้ายสถานที่นั่งดื่มสุราขึ้นมายังชั้นสอง ที่ลู่ชิงทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นชมทิวทัศน์เอาไว้ โดยมีเพียงกลุ่มของเจียวมิ่งที่ขึ้นมาคอยดูแลส่วนเต๋อหลินต้องคอยดูแลกลุ่มที่ติดตามชินอ๋อง แต่รสชาติของสุราหมักทำ
“ถึงเจ้าไม่พูดข้าก็คิดจะลงมืออยู่แล้ว เมื่ออู๋เจียงสงกลับไปถึงเมืองหลวง อาจตายเพราะความตกใจจนเกินเหตุ หรือไม่ก็คงตรอมใจจนตายก็เป็นได้ เจ้าอย่าห่วงเลยข้าจะจัดการให้เมืองหลวงไม่มีชื่อตระกูลอู๋อีกต่อไป” เซียวหนิงหลงพูดคำไหนคำนั้นและเขาไม่เคยทำไม่สำเร็จ“ขอบคุณมากขอรับ รอให้ข้าฝึกวรยุทธ์ได้เก่งมากกว่านี
“ชิงเอ๋อร์เจ้ายื่นมือมาพี่จะช่วยสวมให้เจ้าเอง เมื่อใส่กำไลหยกชิ้นนี้แล้วก็ถือว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของพี่ เป็นว่าที่สะใภ้ของราชวงศ์เซียวแห่งแคว้นฉู่ หากมีใครคิดปองร้ายเจ้าโทษของคนเหล่านั้น ย่อมร้ายแรงมากกว่าปกติหลายเท่าการลงโทษย่อมมีหนักเบา หวังว่าเจ้าจะเข้าใจกฎเกณฑ์พวกนี้ บางครั้งเราไม่อาจใจดีกับคนที่