“จับตัวมันขึ้นมานั่งตอบคำถามของข้าดี ๆ”“พะ พะ พวกเจ้าเป็นใครกันแน่ เหตุใดถึงมีวรยุทธ์ขั้นสูงทุกคน”เซียวหนิงหลงมิได้ใส่ใจคำถามของเลี่ยงซู “ข้าไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของเจ้า แต่เจ้าจำเป็นต้องตอบคำถามของข้าเท่านั้น ตันเจียงไปเชิญท่านน้าลู่เวินออกมาที่นี่ด้วย”ขณะที่รอลู่เวินออกมาจากห้อง เซียวหนิงหลงทำเ
“หวังสบายจากความคิดของคนอื่นสินะ ครอบครัวท่านน้าช่างโชคดีจริง ๆ ที่ออกมาจากตระกูลนี้ได้ มีบิดาเห็นแก่ตัวเช่นนั้น นอกจากท่านน้าลู่เวินแล้วคนอื่น ๆ คงมีนิสัยเช่นเดียวกันหมดจวนกระมัง บ้านเช่านั่นอยู่ที่ไหนบอกทางให้กับคนของข้าเดี๋ยวนี้” เห็นแก่ตัวตั้งแต่หัวหงอกจนหัวดำ“นายท่านสามเช่าบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่ด
อู๋เสียนจงถูกเซียวหนิงหลงลงโทษจนหมดสภาพ เขากลายเป็นคนพิการยิ่งกว่าหลานชายของตน แต่เซียวหนิงหลงไม่ได้ใจดำจนเกินไปนัก ยังอนุญาตให้เจียวมิ่งไปเชิญท่านหมอเกา มาช่วยรักษาแผลของอู๋เสียนจง ก่อนจะจ่ายเงินจ้างสำนักคุ้มภัย นำตัวไปส่งถึงหน้าประตูจวนพร้อมกับจดหมายไม่มีชื่อผู้เขียน ระหว่างการเดินทางอู๋เสียนจงได
“ข้าขอไม่ปิดบังท่านพ่อบ้าน เมื่อสัปดาห์ก่อนที่เมืองหย่งจินกับตำบลหย่งฝู ได้ต่อสู้กับทหารแคว้นตงหนานพวกมันบุกเข้ามาทางภูเขาจำนวนหลักหมื่น แต่ยังถือว่าโชคดีที่มีทหารจากเมืองหลวงไปช่วยไว้ได้ทัน ไม่เช่นนั้นป่านนี้คงเสียเมืองหย่งจินให้แคว้นตงหนานแล้วขอรับและตอนนี้ที่ชายแดนกำลังตึงเครียดเป็นอย่างมาก เพรา
“ฮือ ๆ ๆ จงเอ๋อร์ทำไมเจ้าถึงได้คิดทำเรื่องเช่นนั้นเล่า แม่แค่อยากให้พวกเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ใดเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว” อนุเจินที่ได้อ่านจดหมาย บอกเล่าเรื่องราวชั่วร้ายของอู๋เสียนจงก็ได้แต่ตัดพ้อออกไปอู๋เสียนจงที่พูดไม่ได้มีเพียงเสียงอือ ๆ ออกมาพร้อมเสียงสะอื้นไห้ เพรา
เช้าวันถัดมาบรรยากาศในท้องพระโรง มีแต่ความเคร่งเครียด เนื่องจากข่าวลือเรื่องสงครามที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ทำให้วันนี้ขุนนางทุกคนต่างอยากรู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ขอเพียงให้ฮ่องเต้ตรัสออกมาด้วยพระองค์เองพวกเขาถึงจะเชื่อแต่วันนี้กลับขาดเสนาบดีกรมการโยธาเยี่ยเกาจง ผู้นำกลุ่มขุนนางที่สนับสนุนองค์ชายสาม ในก
เพราะมีขุนนางของแคว้นที่มีความคิดอยากเป็นกบฏ คนพวกนี้มักคิดว่าตนเองฉลาดกว่าผู้อื่น อย่าให้เจิ้นมีหลักฐานอยู่ในมือของเจิ้นเชียว กบฏแผ่นดินพวกนี้จะต้องรับโทษสูงสุด คือการประหารชีวิตเก้าชั่วโคตร แผ่นดินแคว้นฉู่จะไม่มีตระกูลของคนทรยศเหลือรอดแม้แต่คนเดียว” นี่คือการเตือนจากข้าและจะเป็นการเตือนเพียงครั้งเ
ซึ่งมันก็มีเหตุผลจึงคิดไปทางเดียวกัน คือทำการค้าให้ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่านี้ แต่คงต้องรอหลังสงครามจบลงเสียก่อน ค่อยคิดเรื่องขยายร้านอาหารไปที่เมืองอื่น และยังต้องคิดก่อนว่าจะเปิดกิจการที่เมืองใดบ้าง ทุกอย่างต้องวางแผนให้รัดกุมในทุกขั้นตอนเมื่อหมดเรื่องกังวลใจแล้ว จึงหารือเรื่องการเพาะปลูกผักและทำหมูแดดเด
“ถึงเจ้าไม่พูดข้าก็คิดจะลงมืออยู่แล้ว เมื่ออู๋เจียงสงกลับไปถึงเมืองหลวง อาจตายเพราะความตกใจจนเกินเหตุ หรือไม่ก็คงตรอมใจจนตายก็เป็นได้ เจ้าอย่าห่วงเลยข้าจะจัดการให้เมืองหลวงไม่มีชื่อตระกูลอู๋อีกต่อไป” เซียวหนิงหลงพูดคำไหนคำนั้นและเขาไม่เคยทำไม่สำเร็จ“ขอบคุณมากขอรับ รอให้ข้าฝึกวรยุทธ์ได้เก่งมากกว่านี
“ชิงเอ๋อร์เจ้ายื่นมือมาพี่จะช่วยสวมให้เจ้าเอง เมื่อใส่กำไลหยกชิ้นนี้แล้วก็ถือว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของพี่ เป็นว่าที่สะใภ้ของราชวงศ์เซียวแห่งแคว้นฉู่ หากมีใครคิดปองร้ายเจ้าโทษของคนเหล่านั้น ย่อมร้ายแรงมากกว่าปกติหลายเท่าการลงโทษย่อมมีหนักเบา หวังว่าเจ้าจะเข้าใจกฎเกณฑ์พวกนี้ บางครั้งเราไม่อาจใจดีกับคนที่
“เรื่องบิดาของท่านพวกข้าจะไม่เข้าไปยุ่ง หากท่านไม่ร้องขอความช่วยเหลือ แต่คนที่ลอบติดตามมาเพื่อจัดการท่านกับครอบครัว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกข้าก็แล้วกัน เพราะเรื่องนี้คนของข้าย่อมถนัดมากกว่าการพูดคุย นายท่านสวีจะได้จัดการเรื่องสำคัญได้อย่างสบายใจ” ชินอ๋องจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของลู่เวิ
ทุกคนที่อยู่ร่วมทานอาหารยังไม่มีใครพูดอะไร เพราะกลัวว่าการทานอาหารมื้อเย็นนี้จะเสียอรรถรสจึงรอไปก่อน ระหว่างนั้นมีการพูดคุยกันเพียงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ส่วนตันเจียงที่ทานอาหารกับกลุ่มเจียวมิ่งด้านนอก เขาได้พูดถึงเรื่องนี้กับสหายไปบางส่วน เนื่องจากว่าทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมเ
การมาพักผ่อนที่บ้านของตระกูลสวีผ่านมาสองวัน มีเรื่องให้ชินอ๋องและพระชายาได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ มากขึ้น ไหนจะขึ้นเขาล่าสัตว์มาทำอาหารหรือการจับปลาในแม่น้ำ ที่ไหลผ่านหลังหมู่บ้าน แม้แต่ตามไปที่ร้านอาหารเพื่อทดลองเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็ยังต้องการจะลองทำดูให้ครบหมดทุกอย่างทำเอาชินอ๋องผู้แข็งแกร่งถึงกับอ่อนระโ
“เป็นข้าวต้มก็ดีเหมือนกัน แต่ชิงเอ๋อร์คงทำหม้อใหญ่กว่าเดิมใช่หรือไม่ เพราะมีคนมาเพิ่มอีกหลายคนทีเดียวเจ้าอาจจะเหนื่อยมากเกินไปก็ได้นะ” เพราะคนที่มาครั้งนี้มีมากกว่าห้าสิบคน ที่พักจึงต้องตั้งกระโจมยังพื้นที่ว่างตรงข้างบ้าน“พี่ชายเซียวท่านไม่รู้อะไรซะแล้ว ตอนนี้พวกพี่เจียวมิ่งน่ะทำอาหารเป็นตั้งหลายอย
“คือว่าพี่กับตันเจียงไปตระกูลเหลียนเพิ่งกลับมา เพราะคนพวกนั้นกล่าววาจาล่วงเกินท่านน้าลู่เวิน และพูดจาไม่ดีกับเจ้าด้วย ที่สำคัญคิดหาผลประโยชน์จากกิจการร้านค้าของตระกูลสวีอีก พี่จะยอมให้คนพวกนั้นทำสำเร็จได้อย่างไร ตราบใดที่พี่ยังอยู่จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายชิงเอ๋อร์ได้ รวมถึงทุกคนในครอบครัวของชิง
กลางดึกในหมู่บ้านอันฮุยจวนของเศรษฐีประจำหมู่บ้าน ลุกโชนด้วยความร้อนแรงของแสงไฟ ร่างที่ถูกยาสลบของต่งซวินหลายสิบคน นอนเรียงรายไม่รู้สึกตัว จากความร้อนของเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ เรือนทุกหลังถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเรือนหลังสุดท้ายที่เป็นของเหลียนตั๋วลู่ ก็ถูกจุดไฟจากฝีมือของก้งคุนที่ถือคบไฟรออยู่ เ
“จะเรียกพวกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่ท่านเหลียนจะเรียกเถิด และใช่ท่านทำอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่พอใจมาก เพราะท่านเหลียนกำลังคิดจะจัดการตระกูลสวี ข้าพูดถูกใช่หรือไม่” เซียวหนิงหลงเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลางห้องและพูดถึงเรื่องตระกูลสวี“จะ จะ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังคิดจะทำอะไรกับตระกูลสวี” เหลียนตั๋วลู่เร