แชร์

ตอนที่9

ผู้เขียน: ฉู่เฉียว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-08 11:14:24

หลี่เจินนางจ้องมองเจ้าตัวเล็กที่ถูกนางจับอาบน้ำขัดถูขี้ไคลจนสะอาดสะอ้านด้วยตาเป็นประกาย เส้นผมหนานุ่มที่ปกคลุมศีรษะทุยเล็กถูกนางสระจนหอมกรุ่น ผิวของเขานุ่มนิ่มขาวนวลราวกับเต้าหู้ คิ้วตาจมูกปากล้วนได้รูปน่ามอง หากโตขึ้นเขาคงเป็นบุรุษที่รูปงามมาก

"เปาเป่าของแม่รูปงามยิ่งนัก"

เปาเป่าน้อยที่ตอนนี้ตัวหอมกรุ่น แก้มขาวๆ ของเขานั้นแดงเรื่อ ใบหูเล็กแดงก่ำอย่างน่าเอ็นดู เขารู้สึกเขินอายกับคำชมของมารดาเป็นอย่างมาก ท่าทางน่าเอ็นดูนั้นทำให้หลี่เจินไม่อาจอดใจไหวต้องดึงเจ้าตัวเล็กนั้นมากอดมาหอมเสียหลายฟอด นั่นยิ่งทำให้เปาเป่าหัวใจพองโต มารดาหอมแก้มเขานั่นหมายถึงมารดารักเขามาก ต่อไปเขาจะอาบน้ำทุกวัน

หลังจากขัดถูสิ่งสกปรกให้บุตรชายจนเกลี้ยงเกลา นางก็ปล่อยให้เขาได้เล่นน้ำสักครู่ ส่วนนางก็หันมาแกะเม็ดบัวออกจากฝัก 

ก่อนจะเดินมาถึงลำธาร เปาเป่านั้นบอกว่าจะพานางไปดูดอกเหลียนฮวาที่กำลังบานสะพรั่ง มันงดงามมาก เขาอยากให้นางได้เห็น ถัดไปจากลำธารเดินลงใต้ไปไม่ไกลมากนักเป็นบึงบัวขนาดใหญ่ที่ความยาวนั้นไกลสุดสายตา ดอกบัวกำลังพากันเบ่งบานเต็มบึงหลากหลายสี เหล่าผีเสื้อและแมลงบินวนโฉบไปโฉบมา บางตัวก็กำลังดอมดมดอกเหลียนฮวาที่เบ่งบาน ซึ่งมันก็งดงามมากจริงๆ นางไม่เคยเห็นบึงบัวที่ใหญ่เช่นนี้มาก่อน อีกฟากหนึ่งที่เห็นอยู่ไกลๆ มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังเก็บฝักบัวกันอยู่ บริเวณที่นางอยู่ริมบึงก็มีฝักบัวมากมาย นางจึงได้เก็บมันกลับมาด้วย ใบบัวนั้นก็มีขนาดใหญ่มากใหญ่กว่าใบหน้านางถึงสองเท่า หากสถานที่แห่งนี้อยู่ในภพที่นางจากมา คงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังมาก

หลังจากที่ใช้เวลาในการอาบน้ำไปกว่าครึ่งชั่วยาม ทั้งสองจึงพากันเดินกลับเรือน สองมือของหลี่เจินหอบใบบัวที่ด้านในนั้นเต็มไปด้วยเม็ดบัวที่ถูกแกะเรียบร้อยแล้ว ส่วนเปาเป่าน้อยก็ถือดอกบัวกลับมาด้วย สองมือเล็กๆ ของเขาถือดอกบัวได้เพียงสี่ห้าดอกเท่านั้น ซึ่งก็เพียงพอแล้วสำหรับทั้งสอง เม็ดบัวและดอกบัวเหล่านี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในมื้อเย็นของพวกเขา

เมื่อกลับมาถึงเรือน นางก็นำเม็ดบัวที่แกะได้มาผ่าครึ่ง นำเอา ดีบัว ที่อยู่ด้านในออกมาแยกใส่ถ้วยเอาไว้ ดีบัว คือต้นอ่อนที่อยู่ในเม็ดบัวถึงแม้จะมีรสขม แต่คุณสมบัตินั้นดีเลิศ ทั้งช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มแรงบีบตัวของหัวใจ ช่วยขยายหลอดเลือด แก้กระหาย อาเจียนเป็นเลือด และอื่นๆ อีกมากมาย นางจะนำมาตากแห้งไว้ชงดื่มต่างน้ำชา

"ท่านแม่"

"หืม ว่าอย่างไรจ๊ะเปาเป่า"

หลี่เจินนางขานรับเจ้าตัวเล็ก แต่มิได้ละสายตาจากงานตรงหน้า

"ข้าอยากช่วยขอรับ"

เปาเป่ามานั่งลงใกล้ๆ จ้องนางตาแป๋ว 

หลี่เจินเงยหน้าขึ้นมองเจ้าตัวน้อยก่อนจะส่งยิ้มให้เขา

"เช่นนั้นเปาเป่าช่วยแม่เอาดีบัวออกจากเม็ดบัวดีหรือไม่"

"ดีขอรับ"

เปาเป่าน้อยดูกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก จนนางต้องวางมือจากงานตรงหน้าแล้วลูบผมนุ่มนั้นอย่างเอ็นดู

"เด็กดี"

จากนั้นจึงหาไม้ขนาดเล็กมาเหลาตรงปลายให้แหลม ให้เขาใช้มันเขี่ยดีบัวออกจากเม็ดบัวที่นางผ่าครึ่งเอาไว้ ซึ่งเด็กน้อยก็ทำมันได้ดี

"เปาเป่าของแม่เก่งมาก"

เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้นาง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาตั้งใจกับสิ่งตรงหน้า นางจึงได้ลุกขึ้นจุดเตา นำเม็ดบัวที่เอาดีบัวออกแล้วบางส่วนไปล้างทำความสะอาด ยังมีถั่วเหลืองและถั่วแดงอีกด้วย นางจะทำข้าวหุงธัญพืชสำหรับมื้อเที่ยงและมื้อเย็นของทั้งสอง แม้จะมีส่วนผสมไม่ครบ ใช้เพียงของที่มีอยู่แต่ก็ถือว่าดีมากแล้ว นางมองข้าวของที่บิดาของเด็กน้อยเตรียมเอาไว้ให้มันคงเพียงพอสำหรับอีกหนึ่งถึงสองเดือนหากกินอยู่อย่างประหยัด ต่อไปนางคงต้องเป็นผู้ที่หามาเติม นางคงต้องคิดอีกทีว่าจะทำเช่นไรต่อไป การใช้ชีวิตอยู่ในที่ที่แตกต่างช่างไม่ง่ายเลย 

หลี่เจินระบายลมหายใจออกมาอย่างคิดไม่ตก ก่อนจะวางความกังวลทั้งหมดลง แล้วนำเม็ดบัว ถั่วเหลืองและถั่วแดงไปนึ่งเพราะนางไม่ได้แช่น้ำเอาไว้ หากไม่นึ่งเสียก่อนมันจะสุกยากหากนำมาหุงกับข้าว ถั่วนั้นปกติจะต้องใช้เวลาต้องแช่น้ำเอาไว้อย่างน้อยหนึ่งคืน

"วันนี้แม่จะทำข้าวหุงธัญพืชกับกลีบดอกเหลียนฮวาชุบแป้งทอดให้เปาเป่ากินดีหรือไม่"

เม็ดบัวนั้นให้คุณค่าทางอาหารสูงและยังมีสรรพคุณทางยา แล้วยังอร่อยอีกด้วย นางจะนำมาหุงกับข้าวพร้อมกับถั่วเหลืองและถั่วแดง

"ดีที่สุดขอรับท่านแม่"

ไม่ว่าท่านแม่จะทำสิ่งใดเขาล้วนอยากกินทั้งนั้น แล้วข้าวต้มของท่านแม่ที่ได้กินไปก็รสชาติดีกว่าที่ท่านพ่อเคยทำให้กินเสียอีก

หลี่เจินนางมองเด็กน้อยอย่างพอใจ เขาช่างเป็นเด็กเลี้ยงง่ายเสียจริง ถึงแม้ว่านางจะไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน แต่ก็รู้ว่าการเลี้ยงเด็กหนึ่งคนนั้นเป็นเรื่องยาก สำหรับเปาเป่านั้นเขาช่างรู้ความ ช่างเป็นวาสนาของนางจริงๆ

เม็ดบัวอีกส่วนหนึ่งหลี่เจินนางนำมาต้มร่วมกับลำไยแห้งเพิ่มความหวานด้วยน้ำตาลกรวด เป็นของหวานที่เหมาะสำหรับอากาศในหน้าร้อนเช่นนี้ หากมีน้ำแข็งเย็นๆ คงจะดีไม่น้อย เม็ดบัวนั้นหากนำมาต้มกับลำไยแห้งก็จะยิ่งทำให้สรรพคุณทางยาของเม็ดบัวเพิ่มมากขึ้น

หลี่เจินนางลงมือปรุงอาหารอย่างรวดเร็ว กลิ่นหอมนั้นตลบอบอวลหอมฟุ้งไปทั้งเรือนหลังเล็กสร้างความแปลกใจให้กับชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้ๆ ว่าภรรยาขี้เมาของชายเก็บฟืนวันนี้มีเรื่องน่ายินดีอันใดกันถึงได้ลุกขึ้นมาเข้าครัวทำอาหาร ช่างเป็นเรื่องที่น่าประหลาดโดยแท้ 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่10

    วันนี้ตลอดทั้งวันสองแม่ลูกต่างช่วยกันทำความสะอาดเรือนครั้งใหญ่ ในที่สุดเรือนหลังน้อยก็มีสภาพที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ดูสะอาดสะอ้านสบายตา แต่ก็ยังมีอีกหลายจุดที่ต้องซ่อมแซม รอให้อะไรหลายๆ อย่างลงตัวมากกว่านี้ ค่อยมาว่ากันอีกที เมื่อดวงตะวันลาลับขอบฟ้า ความมืดมิดมาเยือน หลี่เจินนางจุดตะเกียงและเชิงเทียนทั้งหมดที่มีอยู่ แต่แสงสว่างของมันช่างน้อยนิด นางไม่คุ้นชินกับแสงสลัวเช่นนี้เลยเด็กน้อยเปาเป่าที่ดูจะง่วงงุนเต็มที คว้าเอาผ้าห่มและหมอนตรงไปยังมุมหนึ่งของห้องโถง สายตาของเด็กน้อยมองหาฟูกนอนของเขาที่นางได้เก็บออกไป นางมองการกระทำนั้นแล้วขมวดคิ้วมุ่น"เปาเป่านั่นลูกจะทำอะไรหรือ"เปาเป่าหันมามองมารดา ดวงตาที่หรี่ปรือนั้นฝืนขึ้นตอบผู้เป็นมารดา"ข้าจะเข้านอนขอรับท่านแม่"หลี่เจินเดินเข้ามาหาบุตรชายคว้าเอาหมอนและผ้าห่มในมือเด็กน้อยมาถือเอาไว้"แล้วเหตุใดจึงจะมานอนตรงนี้เล่า"คำถามของมารดาทำให้เปาเป่าน้อยมึนงง ว่าเหตุใดมารดาจึงถามเช่นนั้นก็ในเมื่อที่ตรงนี้เป็นที่ที่เขานอนในทุกคืน"ไป ไปนอนกับแม่"คำพูดของมารดาทำให้อาการง่วงงุนของเขาหายเป็นปลิดทิ้ง แต่มิได้ทันตั้งตัว หรือคิดทบทวนคำพูดนั้นซ้ำ ร่างเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08
  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่11

    หลี่เจินนางนอนกระสับกระส่าย รู้สึกหนาวเย็นจนนอนไม่หลับ จึงได้ลืมตาตื่นขึ้น ภาพเบื้องหน้าที่เห็นทำให้รู้ได้ว่านางหลับไปแล้ว แต่กำลังอยู่ในห้วงแห่งความฝัน ในฝันนั้นนางกำลังยืนอยู่ท่ามกลางหิมะที่กำลังโปรยปราย ถึงว่าเหตุใดนางจึงรู้สึกหนาวจับใจ นางกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นว่ามีผู้เฒ่าชราผมขาวราวกับไข่มุกเปล่งประกายยาวละพื้นกำลังมองนางอยู่ นางรู้ได้ในทันทีว่าท่านเป็นเทพเซียนที่นำพานางมายังสถานที่แห่งนี้ นางจึงได้ก้าวเข้าไปคารวะอีกฝ่ายแล้วนั่งลงตรงหน้า"ท่านผู้เฒ่า""ได้พบกันเสียทีนะนังหนู"เสียงแหบแห้งของท่านผู้เฒ่าเอ่ยกับนางอย่างมีเมตตา"ท่านต้องการพบข้า เพราะอยากจะให้พรข้าหรือเจ้าคะ"หลี่เจินนางส่งยิ้มหวานให้ผู้เฒ่าชราผู้นั้น ในหนังในละครก็เป็นเช่นนี้ แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าให้นางน้อยๆ"เจ้านั้นมีกรรมที่ผูกพันกับคนที่นี่ จึงได้ต้องกลับมาชดใช้ ในภพชาติก่อนเจ้ายังกระทำกรรมกับชีวิตตนเอง หากข้ามอบพรวิเศษแก่เจ้า แล้วจักเรียกว่าชดใช้กรรมได้อย่างไร"หลี่เจินนั้นหุบยิ้มลงในทันใด สีหน้านั้นแสดงออกถึงความผิดหวัง ก่อนจะมองผู้อาวุโสตาปริบๆ"ข้อเดียวก็ไม่ได้หรือเจ้าค่ะ"เฒ่าชราระบายลมหายใจออกมาแล้วหลั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08
  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่12

    แสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาตามช่องหน้าต่างของเรือนทำให้หลี่เจินรู้สึกตัวตื่น วันนี้นางตื่นสายมากคงเป็นเพราะนางได้หลับไปช่วงรุ่งสาง แต่เปาเป่าบุตรชายของนางก็ยังไม่ตื่นเช่นกัน และสิ่งที่น่าตกใจคือตัวของเด็กชายนั้นร้อนมาก เขากำลังไม่สบายหลี่เจินนางรีบลุกพรวดจากที่นอนด้วยหัวใจที่สั่นระรัว กุลีกุจอเอาน้ำใส่อ่างเล็กและเช็ดตัวให้บุตรชาย เด็กน้อยตัวร้อนราวกับไฟ ริมฝีปากเล็กๆ นั้นแดงก่ำ นางสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขาที่ร้อนผ่าวและรัวเร็ว นางไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน มันทำให้นางรู้สึกกลัว มือนางสั่นน้อยๆ ในขณะเช็ดตัวให้บุตรชาย เพราะนี่คือครั้งแรกที่ต้องดูแลเด็กเล็กที่ป่วย เห็นเด็กน้อยผวาทุกครั้งที่นางใช้ผ้าเช็ดไปตามเนื้อตัวของเขา ดวงตาเด็กน้อยหรี่ขึ้นมองนาง นัยน์ตานั้นแดงเรื่อมีหยาดน้ำเอ่อคลอ เพียงเห็นใบหน้านางเขาก็คลี่ยิ้มออกมา ไม่งอแงแม้แต่น้อย ยอมให้นางเช็ดตัวโดยง่าย นางรู้สึกสงสารจับใจ หัวใจของนางราวกับจะอ่อนแอไปด้วย นี่คงเป็นความรู้สึกของคนเป็นแม่ นี่หรือคือกรรมที่นางต้องชดใช้ เหตุใดความทุกข์ทรมานจึงไม่เกิดแก่นางเพียงผู้เดียวกันเล่าที่นี่ไม่มีโรงพยาบาลมีเพียงหมอชาวบ้านและการใช้ยาต้ม ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08
  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่13

    เมื่อค้นพบจุดหมายของตัวเองอีกครั้งหลี่เจินนางจึงลงมือทำอาหารด้วยรอยยิ้ม จิตใจนั้นโปร่งโล่งขึ้น นางจะเดินตามความฝันที่ครั้งหนึ่งมันเคยพังทลายลง แต่ในครั้งนี้มันจะต้องดีกว่าเดิมเพราะนางมีอีกคนอยู่เคียงข้าง นางยังมีอนาคตของบุตรชายที่รอคอยให้นางผลักดันเขาให้มีอนาคตที่สดใส บุตรชายของนางจะต้องไม่มีมารดาเป็นเพียงสตรีขี้เมาไร้ประโยชน์ เขาจะต้องภูมิใจที่มีนางเป็นมารดาหลี่เจินนางลงมือสับหมูด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มวันนี้นางจะทำขนมจีบกุ้งให้บุตรชายได้กิน เมื่อสับหมูเสร็จก็ต่อด้วยการสับกุ้ง จัดการกับของสดเสร็จเรียบร้อยก็หันมาเตรียมเครื่องผสมต่างๆ โดยโขลกรากผักชี กระเทียมและพริกไทยเข้าด้วยกัน นำมาผสมกับกุ้งสับ หมูสับ และต้นหอมซอย เติมเครื่องปรุงเล็กน้อยแล้วนวดทุกอย่างด้วยมือพักเอาไว้ จากนั้นจึงหันมาเตรียมส่วนผสมที่จะทำแผ่นเกี๊ยว หลี่เจินนางมองหาภาชนะสำหรับผสมแป้งจนได้อ่างไม้ขนาดพอเหมาะมาใบหนึ่ง จากนั้นจึงนำแป้งสาลีมาใส่ในอ่างไม้ แล้วทำหลุมตรงกลาง ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป ใส่เกลือเล็กน้อยตามด้วยน้ำมัน แล้วค่อยๆ ตะล่อมๆ ผสมแป้ง เติมน้ำเปล่าลงไปทีละนิดๆ แล้วค่อยๆ นวดให้ส่วนผสมเข้ากันดีจากนั้นก็นำผ้าขาวสะอาดมาคล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08
  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่14

    หลี่เจินเมื่อเดินออกมาก็เห็นเป็นเด็กผู้ชายตัวอวบอ้วนผู้หนึ่ง ที่ดูจากรูปร่างแล้วก็คงจะอายุมากกว่าเปาเป่าของนางอยู่หลายปี แต่เสียงของบุตรชายนางและเจ้าเด็กอ้วนนามต้าสุ่ยผู้นั้นที่คุยกันทำให้นางต้องชะงักฝีเท้าลง"พี่ต้าสุ่ยท่านมาหาข้ามีสิ่งใดหรือขอรับ"เด็กน้อยเอ่ยถามพร้อมกับเปิดประตูรั้วไม้เตี้ยๆ ให้อีกฝ่าย ต้าสุ่ยเมื่อเดินเข้ามายังลานด้านหน้าเรือนให้รู้สึกแปลกประหลาดเมื่อตอนนี้รอบๆ เรือนนั้นดูสะอาดสะอ้านแปลกตา จางต้าสุ่ย บุตรชายของบ้านตระกูลจางที่อยู่ไม่ไกลจากเรือนของหลี่เจินมากเท่าใดนัก ปีนี้เขามีอายุได้เก้าหนาวแล้ว ครอบครัวของพวกเขานั้นทำนาและเก็บของป่า ต้าสุ่ยนั้นเป็นเพื่อนเล่นเพียงคนเดียวที่เปาเป่าให้ความสนิทสนมด้วยและเป็นคนเดียวที่คอยปกป้องเขาไม่ให้เด็กในหมู่บ้านนั้นกลั่นแกล้งรังแก ครอบครัวจางนั้นก็น่าสงสารอยู่ไม่น้อย บิดาของต้าสุ่ยเองก็ต้องเข้าร่วมกับกองทัพเช่นกันทั้งๆ ที่มารดาของเขาพึ่งจะคลอดน้องสาวได้เพียงห้าเดือน นั่นทำให้พวกเขานั้นลำบากมาก แต่ก็ยังมีใจแบ่งอาหารให้เปาเป่าอยู่บ่อยครั้งต้าสุ่ยกวาดสายตาไปด้านหลังของเด็กน้อย เขากำลังมองหาใครบางคน ซึ่งใครคนนั้นก็คือมารดาของเด็กน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-09
  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่15

    หลี่เจินเมื่อออกมาจากร้านแลกเงิน นางก็เดินไปตามท้องถนน สองข้างทางนั้นเต็มไปด้วยร้านรวง ร้านค้าต่างๆ มีข้าวของและสินค้ามากมายให้เลือกสรร ร้านเล็กใหญ่ปะปนกันไป ตลอดสองข้างทางนั้นยังมีการตั้งแผงขายของ เครื่องประดับและของกินมากมาย แม้จะอยู่ในช่วงของศึกสงครามแต่ผู้คนก็ยังหนาตาแม้จะไม่คึกคักเช่นก่อนหน้าก็ตามเหลาอาหารที่มีอยู่หลายแห่งยังหนาแน่นไปด้วยผู้คน มีเพียงโรงเตี๊ยมที่ตอนนี้คล้ายจะดูซบเซาเพราะไม่มีผู้คนและพ่อค้าต่างถิ่นมาเข้าพัก แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาเมื่อเกิดภัยสงครามขึ้นทุกอย่างย่อมต้องหยุดชะงักลง เมืองซีโจวนั้นเป็นเมืองหน้าด่านเป็นศูนย์รวมของการค้า เมื่อมีสงครามก็จำเป็นที่จะต้องปิดเมือง ผลกระทบจึงเกิดไปทั่วเมือง ผู้คนที่เคยหลั่งไหลเข้ามาทำการค้าต่างก็หวาดกลัวภัยสงคราม การค้าที่เคยคึกคักก็หยุดชะงักลง เหล่าชาวบ้านชาวเมืองต่างก็ภาวนาให้ศึกครั้งนี้จบลงโดยเร็ว และฝ่ายตนเป็นผู้กุมชัย บ้านเมืองจะได้ขับเคลื่อนต่อไปเสียที บุตรชายและสามีที่ไปร่วมรบจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้า แต่ถึงแม้ว่าผู้คนจะไม่คึกคักดังเก่า แต่ในอำเภอแห่งนี้ก็ยังมีผู้คนอยู่มากมาย ทางการนั้นเพียงระบุให้แต่ละครอบครัว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่16

    เพราะความอยากรู้อยากเห็นแท้ๆ จึงทำให้นางพาตัวเองมาในสถานที่ที่ไม่น่ามอง แม้จะรู้ว่าการค้ามนุษย์ย่อมไม่น่าดูชม แต่ก็ไม่นึกว่ามันจะแย่กว่าที่คิดเอามากๆ สิ่งที่นางเคยคาดเดาและจินตนาการเอาไว้ทำให้ได้รู้ว่า นางโลกสวยเกินไป ภาพของคนที่ถูกขังอยู่ในกรงเยี่ยงสัตว์ทำให้นางรู้สึกหดหู่ในใจยิ่งนัก ในอกนั้นสั่นไหว สองขาที่ก้าวเดินไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ มันต้องทำกันถึงเพียงนี้เชียวหรือ บางคนนั้นดูอ่อนแรงเอนซบเกาะลูกกรง สายตาหมดสิ้นความหวังดูเลื่อนลอย บางคนนั้นถึงกับต้องถูกล่ามกันเลยทีเดียว พวกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นทาสแรงงาน สถานที่แห่งนี้นั้นมีทาสถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับ แต่คนพวกนี้ล้วนไม่มีผู้ใดที่อยากจะเป็นทาส สตรีที่เป็นทาสบำเรอเหล่านั้น ภายใต้ใบหน้างดงามที่มีรอยยิ้มประดับแต่ดวงตากลับขมขื่น พวกเขาเหล่านี้หากเจอนายที่ดีก็ถือว่าเป็นวาสนา แต่หากเจอนายที่ไม่ดีก็ต้องยอมรับชะตาแม้ใจนั้นอยากจะซื้อทาสเหล่านี้ แต่ตอนนี้กิจการของนางยังไม่ต้องการคนงาน นางจึงตัดสินใจหันหลังกลับ ขืนเดินต่อไปคาดว่าเงินที่มีติดกายอยู่เพียงน้อยนิดคงได้หมดไปกับความใจอ่อนและจิตใจที่ดีเกินควรของนาง ลำพังตอนนี้ชีวิตของนางเองยังไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่17

    หลังจากนั้นชีวิตของหลี่เจินดูเหมือนจะลงตัวขึ้น อาสุ่ยเป็นผู้ช่วยของนางได้ดีมากเลยทีเดียว นางเป็นเด็กสาวที่รู้ความ ทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี ขยันขันแข็ง ไม่ยุ่งวุ่นวายสอดรู้สอดเห็น หัวไวและนางดูจะเข้ากับเปาเป่าได้ดีมาก จนหลี่เจินหายเหนื่อยและหายห่วงตลอดสองวันมานี้สองนายบ่าวต่างวุ่นวายกับการบรรจุผงแป้งลงในตลับ ตลับทุกใบนางทำการฆ่าเชื้อโดยผ่านความร้อน ด้วยการนึ่งแล้วนำมาผึ่งแดดจนแห้ง จากนั้นจึงช่วยกันบรรจุผงแป้งลงในตลับ โดยนำผงแป้งใส่ในตลับแล้วอัดจนแน่น ดูไปดูมาก็เหมือนแป้งตลับในยุคปัจจุบันอยู่ไม่น้อยเพียงแค่ตลับที่บรรจุเป็นกระเบื้องเท่านั้น แต่ก็ดูเก๋ดูแพงจนนางแอบคำนวณเงินที่จะได้ด้วยความอิ่มเอมใจ เมื่อเห็นว่าอาสุ่ยทำได้อย่างคล่องมือจึงปล่อยให้อาสุ่ยเป็นผู้บรรจุแป้งโดยมีผู้ช่วยตัวน้อยคอยนั่งเป็นกำลังใจให้พี่อาสุ่ย ส่วนนางก็เข้าไปในเรือนเป็นผู้ผลิตด้วยวิธีพิเศษของนาง จนตอนนี้นางมีผงแป้งเพิ่มขึ้นมาอีกโถ ลิปสติกสีแดงและสีชมพูที่นางต้องใช้ไม้พายทำให้มันกลายเป็นเนื้อเดียวกันอีกอย่างละหนึ่งโถ ความจริงนางอยากจะให้ได้มากกว่านี้ แต่กว่าจะได้ทั้งสามโถนี้มามือของนางแทบจะยกไม่ขึ้นในที่สุด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10

บทล่าสุด

  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   บทส่งท้าย

    เสียงเปิดปิดประตูดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ก่อนร่างสูงของบุรุษเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้มีหนวดเคราบางเบาส่งให้เขายิ่งดูหล่อคมมีเสน่ห์น่าหลงใหลซานตงก้าวเดินเข้ามาอย่างแผ่วเบาแล้วหยุดอยู่ตรงด้านหน้าเตียงนอนหลังใหญ่ที่มีร่างอวบอิ่มของภรรยาที่กำลังนอนตะแคงด้านข้างขดกายอย่างน่าเอ็นดู ตอนนี้อายุครรภ์ของนางย่างเข้าเดือนที่เจ็ดแล้วอีกเพียงไม่นานบุตรของเขาก็จะออกมาลืมตาดูโลกเขาจ้องมองใบหน้างดงามของภรรยาที่หลับตาพริ้ม ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อยดูมีความสุขราวกับตอนนี้นางกำลังหลับฝันดี แม้นางจะกำลังตั้งครรภ์แต่ก็ยังงดงามเย้ายวนอย่างที่สุด จนคนแอบมองใจกระตุกสั่นไหว เขาอยากจะทักทายเจ้าก้อนแป้งอีกแล้วมือหนาจึงค่อยๆ ปลดอาภรณ์ออกจากเรือนกายแข็งแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามจนเหลือเพียงกางเกงตัวในบางเบา เคลื่อนกายหนาเข้าไปนอนซ้อนแผ่นหลังเล็กแผ่วเบาหลี่เจินที่รับรู้ถึงสัมผัสแผ่วเบาของมือใหญ่ที่ลูบไล้ไปตามเนื้อตัวของนาง ศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมดกดำเงางามกับกลิ่นหอมอันคุ้นเคยกำลังซุกไซ้ดอมดมไปทั่วซอกคอและลาดไหล่ขาวนวลที่ไม่รู้ว่าเปล่าเปลือยไปตั้งแต่เมื่อไหร่"ท่านพี่ อ่า"มือเล็กที่ตั้งใจจะยกขึ้นดันศ

  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่41

    แล้วในที่สุดวันมงคลของคุณหนูฉีหลานเฟิ่งและท่านแม่ทัพต้วนฝูชิงก็มาถึง เจ้าสาวในวันนี้นั้นงดงามเป็นอย่างมาก จนผู้ที่มีส่วนในความสำเร็จครั้งนี้นั้นยิ้มแก้มปริ หลี่เจินรู้สึกยินดีกับเด็กสาวผู้นั้นเป็นอย่างมากที่นางจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเสียที เรื่องราวของคุณหนูฉีหลานเฟิ่งและคนรัก ดูเหมือนว่าจะลงเอยกันได้ด้วยดี ดูได้จากสีหน้าของเจ้าบ่าวที่อิ่มเอิบแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข แต่ได้ยินมาว่ากว่าจะปรับความเข้าใจกันได้แม่ทัพต้วนฝูชิงผู้ยิ่งใหญ่แทบจะหลั่งน้ำตากันเลยทีเดียว ต่อจากนี้ไปนางได้แต่อวยพรให้ชีวิตคู่ของทั้งสองมีแต่ความสุข ครองรักกันไปจนแก่เฒ่าวันเวลาผันผ่าน ผู้คนต่างใช้ชีวิตดำเนินไปตามวิถีทางของตัวเอง มีเรื่องราวผ่านมามากมาย รวมไปถึงข่าวคราวจากชายแดนที่ร่ำลือกันอย่างหนาหู ผู้คนที่แวะเวียนเข้ามาใช้บริการในหอเหม่ยฮวาต่างก็กล่าวถึงเรื่องนี้ ข่าวที่ได้รับฟังมานั้นทำให้หลี่เจินตกตะลึงอยู่ไม่น้อย ว่ากันว่าในค่ายทหารรักษาชายแดนมีหญิงงามผู้เป็นนางคณิกาที่ลือเลื่องถึงความร้อนแรง สามารถสร้างความเกษมสำราญให้บรรดาเหล่าทหารกลัดมันจนเลี่ยงชื่อไปทั้งค่าย ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ปีนป่ายเป็นนางคณ

  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่40

    เช้าวันรุ่งขึ้นผู้คนต่างโจษจันเกี่ยวกับเรื่องราวในตระกูลเฉินที่ในตอนนี้จวนนายอำเภอถูกปิดเงียบ ไร้เงาของคนภายในจวนไม่เว้นแม้แต่บ่าวไพร่ เฉินอวี่จูถูกสามีหย่าขาดในข้อหาคบชู้สู่ชาย สร้างความอับอายให้แก่ตระกูลเป็นอย่างมาก เดิมทีโทษของนางคือห้าม้าแยกร่าง แต่ด้วยความเมตตาของท่านเจ้าเมืองและเห็นแก่หน้าบิดาของลูกสะใภ้ จึงเพียงเนรเทศนางออกจากเมืองซีโจวไปยังชายแดนทุรกันดาร หลังจากเฉินอวี่จูถูกเนรเทศออกไป ต่อมาก็มีข่าวการแต่งเข้าไปเป็นอนุภรรยาจวนตระกูลฮวนของเฉินอี้ซินผู้เป็นน้องสาวต่างมารดาของเฉินอวี่จู และนั่นก็เป็นที่กล่าวถึงของผู้คนอีกครั้งจนไม่มีผู้ใดที่ไม่รู้เกี่ยวกับถึงเรื่องนี้แม้แต่แม่ทัพตระกูลต้วน ต้วนฝูชิง บุรุษที่ผู้คนต่างรับรู้ว่าเขาคือคนรักของเฉินอี้ซิน ที่มีข่าวคราวรักสามเส้าออกมาให้ได้ยินอยู่บ่อยครั้ง คนผู้นั้นคงโศกเศร้าอยู่เป็นแน่แต่เปล่าเลย ตอนนี้ผู้ที่ทุกคนต่างคิดว่าเขาคงกำลังเศร้าโศกเสียใจที่สตรีคนรักกลายเป็นภรรยาของผู้อื่นกลับกำลังนั่งดื่มด่ำกับสุรารสเลิศบนชั้นสามของโรงเตี๊ยมอันดับหนึ่งอย่างสบายอกสบายใจ ข่าวนี้ช่างเป็นข่าวที่น่ายินดีที่สุดในรอบปี เขารู้สึกโล่งใจและยินดีเป็น

  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่39

    จบสิ้นกันเสียทีหลี่เจินมองบ่าวไพร่ที่ลากเอาคนทั้งสองไปคุมขังเอาไว้ก่อนตามคำสั่งของเจ้าของจวนเพื่อรอคำตัดสินในวันรุ่งขึ้น กลิ่นอายและคราบความใคร่ที่ทั้งสองทิ้งเอาไว้ทำให้หลี่เจินรู้สึกพะอืดพะอมใบหน้าของนางประเดี๋ยวซีดขาวประเดี๋ยวแดงก่ำ จนต้องรีบหันกายเร่งฝีเท้าตามทุกคนออกไประหว่างที่ทุกคนกำลังพากันออกไปยังห้องโถงกลางเพื่อหารือเรื่องการตัดสินโทษของเฉินอวี่จูที่ได้กระทำการทุกอย่าง หยางซานตงที่เห็นว่าใบหน้างามของภรรยานั้นแดงก่ำจึงคิดขึ้นได้ว่านางนั้นก็อาจจะโดนพิษยาปลุกกำหนัดด้วยเช่นกัน จึงโน้มใบหน้าลงมากระซิบชิดใบหูเล็ก"เจินเอ๋อ ให้พี่ขับพิษกำหนัดให้ก่อนดีหรือไม่ ยังพอจะมีเวลานะ"คำของผู้เป็นสามีทำให้หลี่เจินตัวแข็ง มองอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อ สายตาพราวระยับที่สื่อความนัยนั้นทำให้นางสะบัดร้อนสะบัดหนาว สถานการณ์เช่นนี้เขายังมีอารมณ์คิดเรื่องอย่างว่า"นี่ท่าน...ข้ามิได้ถูกพิษกำหนัดเสียหน่อย"หลี่เจินฟาดฝ่ามือลงบนบ่าแกร่งของบุรุษบ้าตัณหาเต็มแรง ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินตามทุกคนไปยังห้องโถงไม่อาจที่จะทนมองหน้าอีกฝ่ายที่หื่นไม่ดูเวล่ำเวลาหยางซานตงยิ้มให้กับท่าทางเขินอายของภรรยาตัวน้อย ก่อนคิ้

  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่38

    หลี่เจินเดินตามหญิงรับใช้นางนั้นมาจนถึงห้องห้องหนึ่ง เมื่อส่งนางถึงที่หมายหญิงรับใช้ผู้นั้นก็ปลีกตัวออกไปในทันที นางยืนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะผลักบานประตูเข้าไป หลังประตูบานนั้นสตรีที่นางต้องการเจอตัวกำลังนั่งด้วยท่าทางเกียจคร้านละเลียดจิบสุราในมือด้วยใบหน้ามีความสุขยิ่ง สายตาที่ใช้จ้องมองนางวาววับดูไม่น่าไว้ใจแม้แต่น้อย"เจ้าต้องการอะไร มีสิ่งใดก็พูดมา"หลี่เจินเอ่ยถามอีกฝ่าย สายตานั้นจ้องมองสตรีจิตวิปลาสตรงหน้าอย่างระมัดระวัง"ใจร้อนเหมือนเดิมเลยนะเจ้าคะ พี่สาว"เสียงอ่อนหวานของเฉินอวี่จูนั้นฟังดูช่างเยือกเย็น ริมฝีปากที่แต้มชาดสีสดนั้นแสยะยิ้มที่ทำให้คนมองนึกถึงฆาตกรโรคจิต สตรีนางนี้เกินเยียวยาแล้วจริงๆ"เจ้ามิต้องกล่าวให้มากความ ถุงหอมใบนี้ไปอยู่กับเจ้าได้เช่นไร"หลี่เจินกดข่มความหวาดผวาที่ชวนให้หนาวเยือกเอ่ยถามอีกฝ่ายราวกับกำลังควบคุมโทสะ ท่าทางของนางทำให้สตรีตรงหน้าหัวเราะขึ้นมาราวกับกำลังเจอเรื่องตลกขบขัน"เอ...ข้าเอาถุงหอมใบนี้มาได้เช่นไรนะ เจ้าอยากรู้จริงๆ น่ะหรือ พี่สาว"เฉินอวี่จูเอ่ยกับสตรีหน้าโง่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มยั่วเย้า นางรู้สึกสมเพชเวทนาอีกฝ่ายยิ่งนัก เพียงนางให้บ่า

  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่37

    แล้วงานเลี้ยงฉลองครบรอบวันเกิดของท่านนายอำเภอเฉินก็มาถึง ผู้คนในอาภรณ์งดงามหรูหราต่างหลั่งไหลเข้ามาร่วมอวยพรให้กับเจ้าของงานเลี้ยงผู้เป็นใหญ่ในอำเภอซีซาแห่งนี้ ผู้ที่มาร่วมงานต่างเป็นคนใหญ่คนโตและมีหน้ามีตาในสังคมชั้นสูงทั้งสิ้น และในครั้งนี้ดูท่าว่าจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่กว่าในทุกปี คาดว่าคงมีสิ่งพิเศษเป็นแน่เฉินอวี่จูในอาภรณ์งดงามหรูหรา ใบหน้าหวานนั้นถูกแต่งแต้มจนงามล้ำต่างได้รับคำชื่นชมและความสนใจจากผู้คนที่มาร่วมงาน นางหยัดยิ้มกว้างเคียงคู่มากับบุรุษรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อเหลาคล้ายดังบัณฑิตผู้ทรงภูมิที่เหล่าสตรียังไม่ออกเรือนต่างชม้ายชายตามอง แม้ข้างกายของเขานั้นจะมีฮูหยินเช่นนางเคียงกายอนิจจาสายตาชื่นชมระคนอิจฉาเหล่านั้นหาได้ทำให้นางรู้สึกพอใจไม่ อันว่ามนุษย์นั้นมิรู้จักพอย่อมจะเป็นคำกล่าวที่มิได้เกินจริงแม้แต่น้อย รัก โลภ โกรธ หลง หากมันจะมีอย่างพอดีก็คงมิมีอันใดผิด แต่หากทะเยอทะยาน อยากได้ อยากมีมากจนเกินไปก็สามารถสร้างหายนะให้แก่ชีวิต แต่ดูเหมือนจิตใจของนางจะมืดบอดเกินกว่าจะมองเห็นเสียแล้ว ภายในจิตใจยังครุ่นคิดถึงแต่ชายอื่น ผู้ซึ่งมีฐานะเป็นสามีของพี่สาวต่างมารดา สายตาหวานน

  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่36

    ร่างบอบบางของสตรีนางหนึ่งที่นอนคว่ำหน้าเปลือยแผ่นหลังและสะโพกมนอยู่บนตั่งเตียง ปล่อยให้บ่าวรับใช้ทายาลงบนร่องรอยฟกช้ำตรงสะโพกงามงอนและแผ่นหลัง ยังมีรอยขีดข่วนตรงเรียวขาขาวที่ทำให้ผิวเนื้อนวลมีตำหนิไม่น่ามอง สองมือของสตรีนางนั้นสั่นเทาดึงขย่ำระบายความเจ็บปวดลงบนผ้าปูเตียงจนยับย่น แต่ไหนเลยเจ็บปวดกายจะเท่าความเจ็บปวดที่ใจ ดวงตาหวานบัดนี้นั้นแดงก่ำเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำแห่งความคับแค้น ความเจ็บแค้นอัดแน่นภายในอก ไม่เคยมีใครทำเช่นนี้กับนางมาก่อน บุรุษผู้นั้นไม่เพียงกล้าเมินนาง แต่กลับทำร้ายนางโดยไม่กะพริบตาเฉินอวี่จูคิดอย่างคับแค้นใจ น้ำตาอุ่นร้อนหลั่งไหลอาบแก้ม เหตุใดนังเฉินหลี่เจินจึงได้ครอบครองบุรุษผู้นั้น เหตุใดชีวิตของมันถึงได้ดูมีความสุขและเพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง มันยังคงชูคออยู่เหนือนาง ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมด บุรุษที่นางมองอย่างสมเพชในกาลก่อน กลับรูปงามสมชายชาตรี แต่เขากลับไม่แม้แต่จะชายตามองนาง แต่ยิ่งไม่อาจครอบครองอีกฝ่ายดังใจ นางยิ่งรู้สึกปรารถนา เพียงแค่หลับตาใบหน้าคร้ามคมและกลิ่นกายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่งของบุรุษเพศที่ได้สัมผัสเพียงชั่วครู่นั้น ทำให้นางยิ่งเกิดควา

  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่35

    ดวงตาวาววับของภรรยาที่จ้องมองมา ทำให้ลำคอของหยางซานตงแห้งผาก มองริมฝีปากอวบอิ่มที่เม้มเข้าหากันแน่นแล้วคลายออกแต่ทว่ามันกลับเริ่มสั่นระริก ดวงตาที่เมื่อครู่นั้นดูกราดเกรี้ยว เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมเอ่ยปากเสียทีบัดนี้มันดูรวดร้าว"ไม่เป็นไรในเมื่อท่านไม่อยากเอ่ยก็ไม่เป็นไร"น้ำเสียงแหบเครือเอ่ยขึ้นก่อนร่างบอบบางจะลุกออกจากตักของเขา"เจินเอ๋อ อย่าโกรธพี่เลยนะ เป็นสตรีไร้ยางอายนางนั้นต่างหาก"หยางซานตงกอดกระชับร่างบางเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยนางออกจากอ้อมแขน เพียงเห็นดวงตาหม่นหมองนั้นดวงใจของเขาก็แทบร้าวราน เขากลืนน้ำลายลงคอแล้วเอ่ยถึงเหตุการณ์น่าโมโหนั้นจนหมดเปลือก ไม่คิดปิดบังแม้แต่น้อย สายตาคมมองใบหน้างดงามที่มืดครึ้มลงเรื่อยๆ ของภรรยาเมื่อเขานั้นเอ่ยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น มองนางด้วยสายตาละห้อย"พี่สาบานได้ ว่าไม่ได้ล่วงเกินหรือเกินเลยกับนางแม้แต่น้อย"ตบท้ายด้วยการยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่ว่าสตรีคนใดก็ไม่อาจที่จะทำให้เขาหวั่นไหวได้อีกแล้ว หัวใจและร่างกายของเขามันตอบสนองเพียงสัมผัสจากภรรยาเท่านั้นหลี่เจินหรี่ตามองผู้เป็นสามี สายตานั้นไล่มองเขาจนคนถูกมองใจไม่ดี นางไม่เชื่อเขาหรือ แล

  • ข้าคือภรรยาชายเก็บฟืน   ตอนที่34

    ภายในห้องทำงานของนายหญิงเจ้าของหอเหม่ยฮวา สตรีสองนางนั้นกำลังนั่งสบตากันอยู่ ก่อนที่ผู้เป็นเจ้าของหอจะกล่าวขึ้น"หากข้าจะบอกเจ้าว่าข้าคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลเฉินเล่า เจ้าจะว่าอย่างไร"หลี่เจินเอ่ยกับคุณหนูฉีหลานเฟิ่งอย่างตรงไปตรงมา จนใบหน้าของสตรีตรงหน้าดูตื่นตะลึงอย่างเห็นได้ชัด ฉีหลานเฟิ่งมองใบหน้างดงามด้วยดวงตาสั่นไหว เหตุเพราะบนใบหน้านางนั้นอัปลักษณ์มีตุ่มหนองจึงหมกตัวอยู่เพียงในเรือนไม่ออกไปเที่ยวเล่นเช่นดังเด็กสาวในวัยเดียวกัน จึงทำให้นางไม่มีสหายที่จะคบค้าสมาคมด้วยและไม่เคยรับรู้ความเป็นไปด้านนอกจวนมากนัก แต่นางก็ไม่เคยเห็นสตรีนางนี้มาก่อน ตระกูลเฉินนั้นเป็นตระกูลของผู้ปกครองอำเภอแห่งนี้ผู้คนต่างรับรู้ว่านายอำเภอเฉินมีบุตรีสามนางที่เลอโฉม ทั้งสามนางนั้นก็เคยพบหน้ามาก่อน หรือนางจะเป็นคุณหนูเฉินหลี่เจินที่มีเรื่องอื้อฉาวเมื่อหลายปีก่อน ในตอนนั้นใบหน้าของนางยังเป็นเพียงตุ่มเล็กๆ มิได้ช้ำเลือดช้ำหนองเช่นตอนนี้ จึงพอจะรับรู้ข่าวมาบ้าง"ท่านคือคุณหนูใหญ่เฉินหลี่เจินหรือ"น้ำเสียงของสตรีนางนั้นฟังดูแหบแห้งจนน่าสงสารอยู่ไม่น้อยเฉินอี้ซิน คือสตรีที่บุรุษที่ฉีหลานเฟิ่งรักปรารถนา นางงดงา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status