“เดินไหวไหมคะ” คนถูกถามส่ายหน้าน้ำตาคลอเบ้าด้วยความเจ็บ “ข้อเท้าน่าจะพลิก เดี๋ยวหนูเรียกรถเข็นให้ดีกว่านะคะ ให้คุณหมอดูอาการสักนิด”
ว่าแล้วมิรันดาก็จัดการเป็นธุระให้และอยู่เป็นเพื่อนรอ จนหญิงผู้นั้นได้พบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการเบื้องต้น
“โชคดีกระดูกไม่หัก แต่ข้อเท้าพลิกนิดหน่อยครับ เดี๋ยวประคบเย็นให้หลอดเลือดรอบๆ ข้อเท้าหดตัว อาการบวมก็จะลดลง และให้พันผ้ายืดไว้ที่ข้อเท้า อาการก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเองครับภายในไม่กี่วัน แต่ระหว่างนี้คนไข้อย่าเพิ่งเดินมากนะครับ ถ้ามีอาการอะไรผิดปกติก็ให้ลูกคุณป้าพามาพบหมอที่โรงพยาบาลทันที”
“เอ่อ...ฉันไม่ใช่ลูกของคุณป้าหรอกค่ะ” มิรันดารีบออกตัว
“งั้นคุณก็ช่วยบอกลูกของคุณป้าตามนี้แล้วกันครับ เดี๋ยวหมอจะจัดพวกยานวดกับผ้ายืดพันข้อเท้าให้ คุณไปรอรับที่ห้องยาได้เลย”
“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”
หลังจากออกจากห้องตรวจ มิรันดาก็จัดการไปรอรับยาให้จนเสร็จเรียบร้อย คนป่วยมองหญิงสาวหน้าหวานที่ช่วยตนไว้อย่างซาบซึ้งใจ
“นี่ค่ะยาของคุณป้า หนูต้องกลับแล้ว
“ลูกผมครับแม่”“แน่เหรอ แกเลิกกับเขาไปกี่ปีแล้วล่ะ ระหว่างที่เลิกกันเขาอาจมีผัวใหม่แล้วก็ได้นี่”“ลูกผมแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ผมตรวจดีเอ็นเอลูกเรียบร้อยแล้ว”คนที่เพิ่งรู้ตัวว่ามีหลานเพิ่มถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก ถามว่าอยากได้หลานไหม ก็ตอบว่าอยากได้ แต่ความกังขาเรื่องแม่ของหลานนี่สิ“งั้นก็โทรตามเมียแกมา คุยกันให้รู้เรื่องว่าจะเอายังไง เขาอยากได้เท่าไหร่แลกกับการโอนสิทธิ์การดูแลมาให้เรา”“แม่ครับ!” สองหนุ่มประสานเสียงขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจ“ก็ถ้าเป็นหลานแม่จริง แม่ก็ไม่อยากให้ไปลำบากนี่ ว่าแต่หลานสาวหรือหลานชายล่ะลูกแกน่ะ”“หลานสาวครับ ลูกผมน่ารักน่าเอ็นดูเป็นที่สุด” ตอนที่เอ่ยถึงลูก ทำให้หัวใจของดิฐกรชุ่นชื่นขึ้นทันตา สีหน้าก็พลอยละมุนขึ้นมาทันที ส่วนคนที่อยากได้หลานสาวมาตลอดถึงกับตาโต“แม่จะเอามาเลี้ยงเอง ถามเมียแกว่าอยากได้เท่าไหร่”“แม่ครับ...”ดลธวัชถึงกับส่ายหน้ากับความเอาแต่ใจของแม่ ไอ้ที่เขากับภรรยาต้
“เออ จริงสิแก อีบ้านข้างๆ แกนี่เขาขายได้แล้วเหรอ เมื่อกี้ตอนเข้ามา ฉันเห็นมีรถขนของขนเฟอร์นิเจอร์เข้ามาเต็มเลย”“คงงั้นมั้ง ฉันมัวแต่ยุ่งเลยไม่ได้สนใจ” มิรันดาตอบพลางหันไปคว้าผลไม้มาปอก“อยากรู้จังว่าเพื่อนบ้านใหม่แกเป็นใคร ไม่ใช่ว่าคนแถวนี้เป็นห่วงแกมากจนแอบมาซื้อบ้านข้างๆ อยู่เฝ้าแกกับลูกหรอกนะ” นิลุบลขยิบตาล้อ“เว่อร์น่า คุณคิมเขาจะทำแบบนั้นทำไม”“จะไปแน่อะไร ผู้ชายเวลารักเรา เขาก็ทำได้ทุกอย่างแหละ ที่จริงนะ ถ้าแกอยากตัดปัญหาเรื่องอีพี่ดิวตามรังควาน ก็แต่งงานใหม่กับคุณคิมเสียเลยก็สิ้นเรื่อง เขาก็ตามจีบแกมาตั้งหลายปีแล้ว ลูกแกเขาก็รักอย่างกับอะไรดี แต่งๆ สักทีเถอะ จะได้จบๆ”“อืม...”“อืมอะไรยะ”“อืม ถ้าแต่งเมื่อไหร่จะบอกแกคนแรกแล้วกัน”“เดี๋ยวๆ นี่ฉันกับยัยดาวพลาดอะไรไปเนี่ย แกจะข้ามขั้นไปแต่งเลยเหรอ”“ใครว่าข้ามขั้น ตอนนี้ฉันก็ทำตามขั้นตอนอยู่ต่างหาก”นิลุบลทำตาโตกับข่าวใหม่“ทำตา
“ซื้ออะไรมาเยอะแยะอีกแล้วคะพี่คิม” มิรันดาถามอย่างอ่อนใจ เธอรู้สึกเกรงใจเขา ไม่อยากให้เสียเงินสิ้นเปลือง แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมฟัง“ของเจ้าตัวเล็ก พวกขนมนมเนย เสื้อผ้าเด็กน่ารักๆ รองเท้าสวยๆ ผมเห็นก็อยากซื้อมาให้น้องมิว ของมี่ก็มีนะ พวกเครื่องสำอาง น้ำหอม นี่ไง”“เหมามาหมดร้านแล้วไหมคะเนี่ย สายเปย์จริงๆ พี่คิมนี่”“ก็เปย์ให้แค่คนที่พี่ชอบเท่านั้นล่ะ”“งั้นก็แปลว่าลุงคิมชอบน้องมิวม้ากมากใช่ไหมคะ” เจ้าตัวน้อยอยากมีส่วนร่วมบ้าง“ใช่สิคะ ลุงคิมชอบน้องมิวกับแม่มี่มากที่สุดในโลกเลย” ปากพูดกับลูก แต่ตาคมพราวกลับมองมาที่แม่บทจะหยอดก็หยอด แล้วจะให้เธอทำหน้ายังไงล่ะ“พี่คิมทานอะไรมาหรือยังคะ วันนี้มีทำไข่ตุ๋นทรงเครื่องกับกุ้งราดซอสมะขามของโปรดพี่ด้วยนะคะ”“แหม มี่นี่รู้ใจพี่จริงๆ กำลังอยากกินพอดี ไปเมืองนอกหลายวันคิดถึงฝีมือเชฟมี่ชะมัด”“นอกเมืองคือไรคะ แล้วลุงคิมไปนอกเมืองทำไม”ผู้ใหญ
“แต่ถ้ามี่ไม่อยากไป...”“ไปสิคะ แต่ว่าคงต้องถามยัยนิก่อนว่าจะฝากน้องมิวไว้สักพักได้ไหม”“ไม่ต้องฝากหรอก พาลูกไปด้วยกันนี่แหละ” มิรันดาชะงักกึก หันไปมองสบตาคนพูด“พี่อยากให้ทุกคนเห็นว่ามี่กับน้องมิวน่ารักแค่ไหน และเราก็เหมาะสมกันมาก”หญิงสาวฟังแล้วก็อึ้งไป สิ่งนี้มิใช่หรือที่เธอเคยต้องการจากดิฐกร อยากให้เขาพาไปทำความรู้จักกับครอบครัวของเขา แต่อีกฝ่ายก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอม มาวันนี้กลับมีผู้ชายอีกคนที่อยากพาเธอและลูกสาวไปเปิดตัวกับครอบครัวว่าเธอคือคนที่เหมาะสมกับเขามากแค่ไหน“งั้นก็ได้ค่ะ มี่จะไป”“อันที่จริง มันเป็นงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนสนิทของพ่อพี่ พูดตรงๆ คือเขาอยากจะบังคับจับคู่พี่กับลูกสาวคนเล็กของบ้านนั้น เพื่อสานสัมพันธ์ทางธุรกิจของสองครอบครัว เขาก็เห็นพี่เป็นแค่เครื่องมือทางธุรกิจชิ้นหนึ่งเท่านั้น แต่พี่ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น พี่ชอบมี่ คนที่พี่อยากแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยก็คือมี่ ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น ที่พี่ต้องบอกก่อนเพราะกลัวมี่ไม่เข้าใจ”มิรันดาได้ฟังก็นิ่งไป
เมื่อแผนตอนเช้าพังไม่เป็นท่า ดิฐกรจึงให้เลขาสาวไปหาซื้อของเล่นและตุ๊กตาราคาแพงที่ห้าง แถมด้วยหุ่นยนต์อีกตัวเพื่อให้ลูกชายของพิรามเป็นการติดสินบนให้ช่วยพาลูกสาวออกมาหาเขา แล้วพอใกล้ถึงเวลาเลิกเรียนช่วงบ่าย เขาก็รีบเผ่นออกจากที่ทำงานแจ้นไปดักรอที่หน้าโรงเรียน เมื่อวานไอ้หน้าปลวกนั่นมันซื้อของมาให้ลูกสาวเขามากมาย เขาก็ซื้อได้เหมือนกัน แถมเยอะกว่าด้วย ให้มันรู้ไปสิว่า ของเล่นกับตุ๊กตาน่ารักๆ นี่จะตกลูกสาวเขาได้“ไม่เอาค่ะ แม่บอกว่าไม่ให้น้องมิวรับของจากคนแปลกหน้า”“แต่พ่อไม่ใช่คนแปลกหน้านี่ครับลูก”เด็กหญิงของขวัญเอียงหน้ามอง ก่อนส่ายหัวดุ๊กดิ๊กปฏิเสธอีกรอบ “ลุงดิวเป็นเพื่อนพ่อน้องธานไง ไม่ใช่คนแปลกหน้าสักหน่อย น้องมิวรับของไปเถอะนะ น้องธานยังรับเลย นี่ไงหุ่นยนต์เท่ห์ไหม” ดิฐกรหันไปพยักหน้าให้ลูกเพื่อนอย่างพอใจให้มันได้อย่างนี้สิหลานรัก ไม่เสียแรงที่เขาติดสินบนเด็กชายด้วยหุ่
ในร้านไอศกรีมใจกลางห้างสรรพสินค้ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการกันหนาตา โชคดีที่คีรินและสองแม่ลูกมาถึงก็มีลูกค้าคนหนึ่งลุกขึ้นพอดี พวกเขาจึงได้ที่นั่งไม่ต้องยืนรอนาน แต่ทว่า...“แม่คะ นั่นลุงใจร้ายเขาตามเรามา” มิรันดาหันไปมองตามมือลูกสาวที่ชี้ไปตรงหน้าร้าน ก็ได้เห็นดิฐกรที่เดินหน้ามุ่ยเข้ามาในร้าน แต่เธอก็ไม่ได้ตกใจแต่อย่างใด “ช่างเขาเถอะลูก มาทานไอติมกันดีกว่า นั่นไงมาแล้ว”พอเห็นไอศกรีมมาเสิร์ฟ หนูน้อยก็ลืมทุกอย่างจนสิ้น คีรินตักลูกเชอร์รี่ในถ้วยของตัวเองใส่ถ้วยให้คนตัวเล็กเหมือนเช่นทุกครั้ง “นี่ครับ ลูกเชอร์รี่ที่น้องมิวชอบไงลูก”คำนั้นทำให้คนที่เพิ่งมาใหม่หูผึ่งและรีบจดบันทึกของโปรดลูกไว้ในสมองทันที แต่ตาคมกลับมองลูกสาวที่ส่งยิ้มให้คีรินก็นึกอิจฉาขึ้นมา แทนที่เขาจะเดินไปนั่งที่อื่น เท้าจึงเบนเข็มตรงไปนั่งที่โต๊ะเดียวกับคนทั้งสามหน้าตาเฉย“ขอพี่นั่งด้วยคนนะมี่” มิ
เขาอยากไปยืนตรงนั้นแทนที่คีรินเหลือเกิน แต่ยิ่งทำอย่างที่ใจต้องการ ทุกอย่างก็กลับพังไม่เป็นท่า ยิ่งใกล้ก็เหมือนเธอจะยิ่งไกลห่างออกไปทุกที ดูจากที่ร้านไอศกรีมวันนี้ ขนาดนั่งใกล้กันมิรันดายังแทบไม่มองหน้า ไม่สนใจเขาด้วยซ้ำ เธอทำราวกับเขาเป็นเพียงอากาศไร้ตัวตน แล้วจู่ๆ คำพูดของพิรามก็ดังขึ้นในหู‘มูปออนง่ายกว่ามั้งเพื่อน’หรือเขาควรทำเช่นนั้น แต่จะให้ตัดใจจากเธอและลูกยังไง มือหนาหยิบสร้อยรูปจี้หัวใจขึ้นมาดูอย่างปวดใจ“ต้องทำยังไง มี่ถึงจะให้อภัยพี่เสียที พี่ต้องทำยังไง...” เย็นวันต่อมา คีรินก็มาถึงบ้านของหญิงสาวตรงตามเวลานัดเป๊ะ“ลุงคิมมาแล้ว โห...วันนี้หล่อจัง” เด็กหญิงของขวัญทำตาโตมอง ปกติเวลามาหาสองแม่ลูก เขามักจะสวมเสื้อเชิ้ตแบบไม่สวมสูทเพื่อเป็นกันเอง แต่วันนี้เขาใส่ทักซิโด้หล่อเต็มยศ“ไงครับคนสวยของลุง ไหนลองหมุนตัวให้ดูหน่อยได้ไหม”
“ตาคิมเขาพาแฟนมาอวดน่ะสิคุณดา คนนั้นไง” คำนั้นทำให้คุณดารณีหันไปมองที่หญิงสาวข้างกายคีรินทันที “เอ๊ะ! เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าจ๊ะหนู” มิรันดาเองก็จำได้ตั้งแต่เห็นหน้าอีกฝ่ายเช่นกัน“ใช่ค่ะ เจอกันที่โรงพยาบาล” “จริงด้วย ป้าจำได้แล้ว นี่ไงคะแม่หนูที่ฉันเล่าให้คุณฟังว่าช่วยฉันตอนโดนชนจนล้มข้อเท้าพลิกที่โรงพยาบาลไง ตายจริงโลกกลมเหลือเกิน ตาดลลูกก็จำน้องได้ใช่ไหม”“จำได้ครับแม่” ดลธวัชส่งยิ้มให้หญิงสาวผู้มีพระคุณของแม่“แล้วเจ้าแก้มยุ้ยคนนี้ใครจ๊ะ หน้าตาน่าเอ็นดูจริงเชียว” คนอยากมีหลานสาวรู้สึกถูกชะตากับเด็กน้อยตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก “แต่เอ...แม่เคยเห็นหน้าแบบนี้ที่ไหนนะ คุ้นๆ แต่นึกไม่ออก” คุณดารณีครุ่นคิด หากแล้วสายตาก็หันไปเห็นใครบางคนเดินตรงเข้ามาพอดีจึงคิดออก“นึกออกแล้ว หน้าเหมือนตาดิวตอนเด็
“พ่อคะ จริงๆ เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยนะคะ แคทอธิบายได้”“แล้วที่ลูกกับตาดิวมีอะไรกันแล้ว เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า” มาคำถามแรกก็ยิงเข้าประเด็นทันที สมแล้วที่เป็นพ่อเธอ หญิงสาวกลืนน้ำลายฝืดคอ“เอ่อคือ...” สาวมั่นเริ่มอึกอัก รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เมื่อมองไปรอบห้องที่ตอนนี้พุ่งเป้ามาที่เธอ นี่มันยิ่งกว่าโดนตำรวจสอบปากคำเมื่อกี้นี้เสียอีก“คิดให้ดีก่อนตอบ เพราะถ้าพ่อจับได้ทีหลังว่าโกหก ลูกก็รู้ว่าจะเป็นยังไง” เสียงเรียบนิ่ง ดุในที ทำให้คนเป็นลูกนึกขยาดเธออาจจะมั่นหน้ากับใครทั้งโลกก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่กับบิดาของตัวเอง ความมั่นใจในตัวไม่เคยมีผล ทุกครั้งที่เธอคิดจะโกหก ต่อให้เนียนแค่ไหน เนียนชนิดคนทั้งโลกไม่มีทางจับไต๋ได้ แต่สุดท้ายก็โดนพ่อจับโป๊ะได้ทุกที เรียกว่าแพ้ทางก็ว่าได้หญิงสาวหันไปสบตาผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างหนักใจ เห็นไหม เธอก็เตือนแต่แรกแล้วว่าอย่ามาๆ เขาก็ยังดื้อแพ่งจะมา แล้วไงล่ะเนี่ย หัวจะปวด“ว่าไงตาดิว เธอเป็นลูกผู้ชายคงไม่คิดโกหกผู้ใหญ่หรอกใช่ไหม” คุณราเมศร์เบนเข็มไปทางชายหนุ่มด้วยสีหน้าจริงจังปฏิเสธไปสิ อย่ายอมรับง่ายๆ นะลูกพี่ อย่า...“ใช่ครับ เราสองคนมีอะไรกันแล้ว”“เห็นไหมคะพ่อ เรื่อ
เวลาต่อมา สองหนุ่มสาวก็มาถึงถ้ำเสือ แคทรียาหันไปมองเพื่อนร่วมชะตากรรมที่นั่งทำหน้าเหมือนคนท้องผูกมาตลอดทาง“ถ้าอยากเปลี่ยนใจ จะกลับตอนนี้ก็ยังทันนะคะ”ดวงตาคมเข้มตวัดมองสบตาหญิงสาว“เธอรู้ได้ยังไงว่าพี่อยากเปลี่ยนใจ”“อ้าว! ก็แคทไม่ได้โง่นี่นา เห็นพี่นั่งทำหน้าเป็นตูดมาตลอดทางก็รู้แล้วว่าไม่เต็มใจ”“รู้ดีจริงนะ”“เฮ้อ...ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นว่าพี่น่ะหวงความโสดจะตาย พี่ไม่อยากแต่งงานกับแคท เลยหนีการดูตัวทุกครั้ง แล้วแคทเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับคนที่ไม่รักกันแบบพี่ด้วย แต่ถ้าขืนเราเข้าไปเจอพ่อตอนนี้แล้วโดนพ่อแคทมัดมือชกบังคับให้เราสองคนแต่งงานกันล่ะ พี่ดิวจะว่ายังไง” หญิงสาวแกล้งขู่ทีเล่นทีจริง“พี่ก็รู้นี่ว่าพ่อแคทเป็นพวกหัวโบราณสุดๆ ขืนรู้ว่าที่ผ่านมาพวกเราแอบแซ่บกันแล้วตั้งหลายครั้ง มีหวัง...ชึ้บ!” หญิงสาวทำท่าเอานิ้วชี้ปาดคอตัวเองด้วยสีหน้าสยองขั้นสุด“ในเมื่อเธอก็โสดแล้ว พี่เองก็ไม่มีใคร ถ้าต้องแต่งกันจริงๆ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่”“อย่ามาล้อเล่น หน้าสิ่วหน้าขวานนะคะ นี่แคทซีเรียส นะ พวกเราก็แค่แกล้งๆ คบกันตบตาชาวบ้าน เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกพ่อแม่จับคลุมถุงชน ถ้าขืนแต่งงานกันก็ผิดวัตถุประสง
“ก็ถ้ารู้ว่าต้องเสียค่าปรับแบบนี้ แคทน่าจะแถมให้อีตาบ้านั่นอีกสักหมัดสองหมัด เจ็บใจนัก”หญิงสาวบ่นอุบ จนคนฟังถึงกับส่ายหน้า ขืนไม่รีบสลบเหมือดคาที่สิ มีหวังเจ้าวรพลนั่นคงเดี้ยง ไม่ก็คงได้จองเมรุไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นเจ้าหมอนั่นก็คงเข็ดขยาดไปไม่น้อย เมื่อเจอตอสุดแสบอย่างแคทรียาคนนี้ เห็นตัวผอมๆ เพรียวๆ ใครจะคิดว่าเจ้าหล่อนจะแรงเยอะเอาเรื่องใช่ย่อย เล่นเอาผู้ชายตัวโตกว่าสลบคาที่ไม่พอ แม่ตัวดียังขอแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายมารังควานเธออีกแต่กระนั้นเขาก็ยังไม่วางใจเมื่อเห็นแววตาอาฆาตจากอีกฝ่ายก่อนที่จะยอมแยกย้ายกลับไปแบบมือเปล่า“คิดอะไรอยู่เหรอคะพี่ดิว”“เมื่อกี้เธอเห็นสายตาของไอ้หมอนั่นไหม พี่ว่าท่าทางมันไม่น่าไว้ใจนะ ระหว่างนี้เธออย่ากลับไปพักที่คอนโดนั่นจะดีกว่านะ เพื่อความปลอดภัย”“พี่เป็นห่วงแคทด้วยเหรอคะ”“น้อยๆ หน่อย อย่าหลงตัวเอง...” แคทรียาเบ้ปากใส่“ไม่ให้พักที่คอนโดตัวเองแล้วจะให้ไปนอนที่ไหน ช่วงนี้แคทไม่อยากกลับไปนอนที่บ้านนี่นา”“งั้นก็ไปพักที่คอนโดพี่ก่อนแล้วกัน” หญิงสาวหันไปทำตาโตใส่คนใจป้ำ“ไปนอนคอนโดพี่เนี่ยนะ นี่ไม่ได้คิดมิดีมิร้ายหรือมีจุดประสงค์แ
เมื่อขาเรียวสวยเสยเข้าที่ปลายคางของอีกฝ่ายอย่างจังจนสลบเหมือดกลางอากาศ ท่ามกลางสายตาไทยมุงทุกคนมองภาพนั้นตาค้าง ดิฐกรถึงกับอึ้ง เสียวทั้งเป้ากางเกงและปลายคางวาบ ชักรู้สึกเห็นใจไอ้หมอนั่นขึ้นมาหน่อยๆ แต่มันก็สมควรโดนแล้ว“อูย...” แคทรียาแอบครางเบาๆ ความโมโหทำให้เธอลืมตัวไปว่าเธอยังไม่หายระบมจากศึกหนักบนเตียงเมื่อคืน“เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม” ดิฐกรรีบเข้าไปประคองหญิงสาวไว้ด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไรค่ะ สะใจชะมัด เสียดายไม่น่ารีบใจเสาะสลบเหมือดแบบนี้เลย ไม่งั้นแคทจะได้จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบให้อีกสักยกเอาให้เข็ดหลาบ ปากดีนัก”“พอเถอะ แค่นี้ก็ไม่รู้จะฟื้นตอนไหนแล้ว เธอไปเรียนต่อยมวยมาจากไหนนี่”“ไม่ใช่แค่ต่อยมวยนะคะ เทควันโด้ ยูโด คาราเต้ ฟันดาบ หรือว่ายิงปืนแคทก็ได้เหรียญทองมาแล้วทั้งนั้น”ดิฐกรฟังแม่ตัวยุ่งบรรยายสรรพคุณตัวเองอย่างอึ้งทึ่งเสียว ดวงตาคมกริบเหลือบมองวรพลที่นอนนิ่งหายใจรวยรินอย่างเห็นใจระคนสมเพชเวทนา หมอนี่มันจะรู้ไหมว่ามาแหยมผิดคน“แคทล้อเล่นค่ะ อย่าบอกนะว่าพี่เชื่อด้วย” หญิงสาวหัวเราะออกมาอย่างสดใส พลางคลี่ยิ้มหวานใส่ตาของเขา จนทำเอาดิฐกรถึงกับตาพร่าไปชั่วขณะ ความคิดหน
วรพลมองภาพหน้าจอตาค้าง เหงื่อกาฬผุดเต็มหน้าเมื่อเห็นหลักฐานที่มัดตัวเขาแน่นทั้งคลิปทั้งรูปถ่ายจนดิ้นไม่หลุด แก้ตัวไม่ออก แต่เขาก็ฝืนดังทุรัง“ก็แค่คนหน้าเหมือนหรือเปล่า ถ่ายไกลขนาดนั้น คุณอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ สิ”“หน้าเหมือนหรือหน้าด้านยะ คลิปกับรูปนั่นฉันเห็นเองกับตา ถ่ายเองกับมือ เดินตามดูจนแน่ใจว่าไม่ผิดตัว ไม่ได้ตัดต่อด้วย อ้อ! แล้วฉันก็ยังโทรเช็กเองด้วย จำได้ว่าคุณบอกติดประชุมที่บริษัท แต่กลับมาจู๋จี๋กับกิ๊กที่ร้านอาหารญี่ปุ่น จะเอาหลักฐานอะไรอีกไหม ไงล่ะ ถึงกับอึ้งไปเลยเหรอ”วรพลถึงกับหน้าซีดเมื่อถูกจับโป๊ะจนไปไม่เป็น“มะ...มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ แคทที่รักฟังผมก่อน ผมอธิบายได้นะดาร์ลิง”“จะอธิบายว่าไงล่ะ อธิบายว่าทำไมถึงนอกใจฉันไปมีกิ๊กงี้เหรอ ไงล่ะ พอโดนสวมเขา เห็นแฟนตัวเองนอกใจมีกิ๊กบ้างถึงกับรับไม่ได้เลยหรือไง”“แคท ไม่ใช่อย่างนั้นนะ”“แล้วมันยังไงล่ะ ที่ผ่านมายังตอแหลไม่พออีกหรือไง จะเลิกตอแหลกี่โมงเนี่ย ฉันขี้เกียจฟังคำแก้ตัวแล้ว เสียเวลาชีวิต นายไม่ได้มีค่ามากพอขนาดนั้นหรอกนะ รู้ไว้ด้วย ที่ผ่านมาฉันก็แค่เวทนาเก็บงูเห่ามาเลี้ยง แต่ดันเลี้ยงไม่เชื่อง จากนี้ไปก็ทางใครทางมันแ
“น้อยๆ หน่อย ค่าตัวพี่แรงนะ เธอจะจ่ายไหวเหรอ ไอ้ประเภทจ่ายพันสองพันแล้วคิดจะใช้งานกันเกินคุ้มน่ะ เลิกคิดเลิกฝันได้” เขาเหน็บแนมคนที่เคยควักจ่ายค่าตัวเขาสองพันแล้วชิ่งหนี“แรงน่ะเท่าไหร่คะ แคทมีปัญญาจ่ายแล้วกัน หรือจะให้สแกนคิวอาร์โค้ดตอนนี้เลยก็ได้”“ปากดีแบบนี้ ระวังต้องจ่ายจนหมดตัว”แคทรียาย่นจมูก มองคนขี้อวดอย่างหมั่นไส้“อย่าเวอร์ค่ะ พี่ก็แค่ของมือสองใช้มาจนเยินแล้วด้วย จะมาโก่งค่าตัวทำไม แถมตอนนี้ก็มีตำหนิเต็มตัวด้วย ใครจะไปอยากได้ ขายเซียงกงจะรับไหมก็ไม่รู้เลย ฮึ”ดิฐกรฟังแล้วอยากดีดปากแม่ตัวดีให้บวมเจ่อ โทษฐานที่บังอาจมาดิสเครดิตว่าเขาเป็นของมือสองใช้แล้วแถมมีตำหนิอีก อย่างนี้ต้องเจอดีเสียแล้ว “ว้าย! พี่ดิวจะทำอะไร เดี๋ยวน้องตก”แคทรียาเอะอะ เมื่อจู่ๆ ก็ถูกช้อนอุ้มขึ้นจากเตียงกะทันหัน จนเธอต้องรีบโอบรอบคอเขาไว้กันตก“เดี๋ยวก็รู้!”ว่าแล้วเขาก็อุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำ แล้ววางลงในอ่างจากุซซี่เพื่อเริ่มต้นทำการทดสอบคุณภาพสินค้ากันอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม จนหญิงสาวแทบสำลักความสุขส่งเสียงครวญครางออกมาไม่ขาดปาก กว่าที่การทดสอบสินค้าจะสิ้นสุดก็กินเวลาจนเกือบเที่ยง ดิฐกรถึงอุ้มเธอออกม
ดีเท่าไหร่เขาไม่บีบคอเธอตายคามือโทษฐานที่ย่ำยีร่างกายบุรุษจนลายพร้อยไปทั้งตัว นี่ยังไม่นับใต้ร่มผ้า ยิ่งอยากจะลืม ภาพความป่าเถื่อนต่างๆ ก็ไหลเข้ามาในสมองไม่หยุดทีนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะยัยแคทเอ๊ยกำลังคิดหาทางหนีทีไล่ จู่ๆ ดวงตาที่หลับพริ้มก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นและจ้องมองมาที่เธอจนเกือบสะดุ้ง“พะ...พี่ดิว เอ่อคือ...เรื่องเมื่อคืน แคท...” จู่ๆ สมองก็ชอร์ตขึ้นมาดื้อๆ เสียอย่างนั้น ปากมันพูดไม่ออก เลือดก็วิ่งขึ้นใบหน้าจนร้อนผ่าวๆ“เมื่อคืนแคททำไม” เขาถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่งจนอ่านไม่ออกว่าโกรธหรืออะไร ยิ่งทำให้คนมีชนักถึงกับร้อนๆ หนาวๆ“ก็...”ถ้าจะจ้องกันขนาดนี้ เอามีดมาแทงเลยดีกว่าไหม คนยิ่งเขินๆ อยู่ หญิงสาวนินทาในใจ“ก็เรื่องที่แคททำพี่เจ็บตัวเมื่อคืนไงคะ”“อ๋อ...”“อ๋ออะไรคะ จะด่าอะไรก็ด่ามาเลย อูย...” เพียงขยับก็โดนร่างกายประท้วงจนน้ำตาแทบเล็ด“เจ็บตรงนั้นล่ะสิ” เสียงนุ่มหูแกล้งกระซิบถามให้เขิน“อืม...”“ใช้งานหนักไปหน่อย งั้นก็พักสักวันเถอะ เมื่อคืนแทบไม่ได้พัก โดนเธอปล้ำทั้งคืน เพลียจะแย่”“ปะ...ปล้ำ...”คนฟังรู้สึกหน้าร้อนฉ่า เมื่อคิดถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไปตอนที่ถูกยาผีบ้านั่
แคทรียากลับยอมให้หมอนั่นกอด แถมยังกอดตอบ และยื่นมือไปดึงใบหน้าชายคนนั้นเข้ามาจูบอย่างดูดดื่มโดยไม่สนสายตาใครราวกับถูกฟ้าผ่าเปรี้ยงที่กลางหัว ภาพบาดตาตรงหน้าทำให้วรพลถึงกับช็อกตาตั้ง ตัวแข็งทื่อ หน้าชาเหมือนโดนชกแรงๆ ซ้ำๆ นี่เองใช่ไหมเหตุผลที่เธอทำตัวแปลกไป ทั้งเย็นชาเหินห่างกับเขา ไหนจะเสียงผู้ชายที่รับโทรศัพท์ในตอนนั้นที่แท้เธอก็นอกใจเขานี่เอง!วรพลบดสันกรามแน่นด้วยความโมโหจนหน้ามืด ขาดสติ เขารีบจ้ำอ้าวจะตรงเข้าไปเอาเรื่องสองหนุ่มสาวที่ยืนกอดจูบเย้ยฟ้า แต่ทว่ากลับถูกขวางไว้“หลีกไปนะ นั่นแฟนผม ผมจะไปหาแฟน หลีกไปสิ!”“คุณเข้าไม่ได้ครับ” เจ้าหน้าที่รปภ.หันไปเรียกเพื่อนอีกสองคนเข้ามาขวางไว้ไม่ยอมให้ผ่านเข้าไปง่ายๆ เกิดการยื้อยุดกัน จนสุดท้ายวรพลก็ถูกผลักจนกระเด็นหงายหลังก้นจ้ำเบ้าอย่างหมดท่า“แคท!”เมื่อสู้แรงไม่ไหววรพลจึงได้ตะโกนเรียกแฟนสาวเสียงดังลั่นอย่างสิ้นหวัง แต่ทว่าสองหนุ่มสาวก็เดินเข้าไปในตึกคอนโดเสียแล้วเลยไม่ได้ยินเสียงเรียกของเขาชายหนุ่มกัดฟันกรอด กำมือแน่น ในใจร้อนรุ่มประหนึ่งมีกองไฟนรกแผดเผา ยัยบ้านั่นทำแบบนี้กับเขาได้อย่างไร ทีกับเขาเป็นแฟนกัน ทำได้แค่จับมือ จะจูบทีก็ห
“เดี๋ยวสิ พี่ดิว...” คำพูดนั้นถูกกลืนลงคอไปในทันใด เมื่ออีกฝ่ายจัดการปิดปากสวยๆ ของเธอด้วยริมฝีปากอุ่นร้อน ท่ามกลางสายตาของทุกคนในผับ บางคนถึงกับคว้าโทรศัพท์มาแอบถ่ายคลิปบอสและพรรคพวกที่มาด้วยกันมองภาพนั้นตาค้างเติ่งเมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก แคทรียาก็เกือบเข่าอ่อน จูบดูดวิญญาณของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงกระหน่ำแทบทะลุอก จู่ๆ ร่างกายก็พลันร้อนวูบวาบขึ้นมา เลือดสูบฉีดขึ้นไปที่ใบหน้าสวยเก๋จนแดงซ่าน“หึ!” ดิฐกรกดยิ้มมุมปาก นึกอยากจะรังแกแม่สาวซ่าขึ้นมาอีกสักรอบ “ทีนี้จะกลับได้หรือยัง”“...”ไม่รอให้หญิงสาวตอบ เขาก็จัดการช้อนอุ้มร่างอรชรขึ้นแล้วพาเดินฝ่าวงล้อมไทยมุงออกไปโดยไม่สนใครหน้าไหนจะว่ายังไงทั้งนั้นดิฐกรอุ้มหญิงสาวออกมาถึงด้านหน้าผับเพื่อเรียกแท็กซี่ คืนนี้เขาดื่มไปไม่น้อยเหมือนกัน เลยไม่อยากขับรถกลับเองและอีกเหตุผลคือ...“พี่ดิว...อื้อ...แคทร้อนจัง เวียนหัวจะอ้วกด้วย ปล่อยก่อน...”ชายหนุ่มก้มมองใบหน้าสวยเก๋ที่ตอนนี้ซีดเผือดมีเหงื่อซึมผุดพรายเต็มหน้า ดูเหมือนยานั่นเริ่มจะออกฤทธิ์เสียแล้ว“ทนหน่อย เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว”“ไม่เอา แคทไม่กลับบ้าน เดี๋ยวพ่อด่า”“ทีอย่างนี้ล่ะกลัวพ่อด