เขาอยากไปยืนตรงนั้นแทนที่คีรินเหลือเกิน แต่ยิ่งทำอย่างที่ใจต้องการ ทุกอย่างก็กลับพังไม่เป็นท่า ยิ่งใกล้ก็เหมือนเธอจะยิ่งไกลห่างออกไปทุกที
ดูจากที่ร้านไอศกรีมวันนี้ ขนาดนั่งใกล้กันมิรันดายังแทบไม่มองหน้า ไม่สนใจเขาด้วยซ้ำ เธอทำราวกับเขาเป็นเพียงอากาศไร้ตัวตน แล้วจู่ๆ คำพูดของพิรามก็ดังขึ้นในหู
‘มูปออนง่ายกว่ามั้งเพื่อน’
หรือเขาควรทำเช่นนั้น แต่จะให้ตัดใจจากเธอและลูกยังไง มือหนาหยิบสร้อยรูปจี้หัวใจขึ้นมาดูอย่างปวดใจ
“ต้องทำยังไง มี่ถึงจะให้อภัยพี่เสียที พี่ต้องทำยังไง...”
เย็นวันต่อมา คีรินก็มาถึงบ้านของหญิงสาวตรงตามเวลานัดเป๊ะ
“ลุงคิมมาแล้ว โห...วันนี้หล่อจัง” เด็กหญิงของขวัญทำตาโตมอง ปกติเวลามาหาสองแม่ลูก เขามักจะสวมเสื้อเชิ้ตแบบไม่สวมสูทเพื่อเป็นกันเอง แต่วันนี้เขาใส่ทักซิโด้หล่อเต็มยศ
“ไงครับคนสวยของลุง ไหนลองหมุนตัวให้ดูหน่อยได้ไหม”
“ตาคิมเขาพาแฟนมาอวดน่ะสิคุณดา คนนั้นไง” คำนั้นทำให้คุณดารณีหันไปมองที่หญิงสาวข้างกายคีรินทันที “เอ๊ะ! เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าจ๊ะหนู” มิรันดาเองก็จำได้ตั้งแต่เห็นหน้าอีกฝ่ายเช่นกัน“ใช่ค่ะ เจอกันที่โรงพยาบาล” “จริงด้วย ป้าจำได้แล้ว นี่ไงคะแม่หนูที่ฉันเล่าให้คุณฟังว่าช่วยฉันตอนโดนชนจนล้มข้อเท้าพลิกที่โรงพยาบาลไง ตายจริงโลกกลมเหลือเกิน ตาดลลูกก็จำน้องได้ใช่ไหม”“จำได้ครับแม่” ดลธวัชส่งยิ้มให้หญิงสาวผู้มีพระคุณของแม่“แล้วเจ้าแก้มยุ้ยคนนี้ใครจ๊ะ หน้าตาน่าเอ็นดูจริงเชียว” คนอยากมีหลานสาวรู้สึกถูกชะตากับเด็กน้อยตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก “แต่เอ...แม่เคยเห็นหน้าแบบนี้ที่ไหนนะ คุ้นๆ แต่นึกไม่ออก” คุณดารณีครุ่นคิด หากแล้วสายตาก็หันไปเห็นใครบางคนเดินตรงเข้ามาพอดีจึงคิดออก“นึกออกแล้ว หน้าเหมือนตาดิวตอนเด็
“ทำไมหนูถึงว่าคุณลุงคนนั้นใจร้ายล่ะคะลูก” “ก็เขาเคยมาที่บ้านน้องมิว แล้วก็รังแกแม่มี่ของหนูจนร้องไห้เลย น้องมิวไม่ชอบเขา เขานิสัยไม่ดี” คุณดารณีได้ฟังก็งุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกจนต้อง หันไปมองหน้าลูกชายคนกลางอย่างคาดคั้น“นี่มันเรื่องอะไรกันตาดิว ลูกทำแบบที่น้องมิวว่าจริงเหรอ ทำไปทำไม” “ผม...เอ่อ...แม่ครับ ผมมีเรื่องจะสารภาพ” คำนั้นทำให้ทุกคนนิ่งไป “มี่คือเมียผม แล้วก็น้องมิวก็เป็นลูกของผมแล้วก็เป็นหลานสาวแท้ๆ ของคุณแม่ครับ” “หา! ว่าไงนะตาดิว” คุณดารณีเบิกตาค้างอย่างตื่นตะลึง โชคดีที่แขกเหรื่อเข้างานกันหมดแล้วเหลือแต่พวกเขาเป็นกลุ่มสุดท้าย “นี่มันเรื่องอะไรกันลูก” คีรินกุมมือหญิงสาวไว้แน่น มืออีกข้างก็เอื้อมไปจูงมือเด็กหญิงตัวน้อยไว้ “มี่คือคนที่ผมเคยบอกแม่ เธอเป็นเมียผม แต่เราเลิกกันไปเพราะเข
ดิฐกรถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินในเวลาต่อมา มิรันดาและคีรินที่พาเขามาส่งโรงพยาบาลนั่งรอหน้าห้อง ชุดเดรสแสนสวยตอนนี้มีคราบเลือดคราบเลอะติดเป็นหย่อมๆ หากเจ้าตัวกลับไม่ได้สนใจ ในสมองยังคงคิดถึงภาพตอนที่คนเจ็บนอนแน่นิ่งจมกองเลือดอย่างน่าตกใจเมื่อครู่ตอนแรกเธอคิดว่าอีกฝ่ายตายไปแล้ว ทว่าโชคดีที่โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ คีรินจึงช่วยเรียกรถพยาบาลมารับได้ไว ชายหนุ่มไม่กล้าเคลื่อนย้ายเอง เพราะเกรงว่าจะทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหนักกว่าเดิม“แม่คะ คุณลุงคนนั้นจะตายไหมคะ” คำถามของลูกน้อย ทำให้ความกลัวแล่นเข้าจับหัวใจของมิรันดาจนสั่นสะท้านไปทั้งร่างเธอเกลียดในสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับเธอจนไม่อยากให้อภัยก็จริง แต่ไม่ได้อยากให้อีกฝ่ายตายจริงอย่างที่ลั่นปากไป“ไม่หรอกลูก คุณลุงต้องไม่เป็นอะไรนะครับ” คีรินปลอบขวัญ“คุณลุงคนนั้นเขาเป็นพ่อน้องมิว จริงๆ เหรอคะแม่มี่”คำถามนั้นเสียดลึกเข้าไปในอก กับความจริงที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้ แม้จะเลิกกันแล้ว แม้เขาจะเคยไม่ต้องการมีลูกกับเธอ แต่เด็กหญิงของขวัญก็คือลูกสาวของดิฐกร ไม่ม
ฝ่ายคีรินที่พาสองแม่ลูกกลับมาส่งถึงบ้าน เขาก็ช่วยอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยเข้าไปส่งถึงห้องนอน โดยมีมิรันดาเดินตามมาด้านหลัง“ขอบคุณพี่คิมมากนะคะ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่วันนี้มี่ทำให้พี่ต้องพลอยวุ่นวายไปด้วย”“พี่ยินดีวุ่นวาย หากเป็นเรื่องของมี่กับลูก แล้วมี่ล่ะ...”“มี่ทำไมเหรอคะ”“มี่จะยอมให้พี่ผ่านโปรของเราได้หรือยังครับ” คำถามนั้นทำเอาหญิงสาวถึงกับสะดุดลมหายใจตัวเอง“พี่รอได้ แต่ไม่อยากรอแล้ว เรื่องวันนี้ทำให้พี่อยากได้สิทธิ์ในการปกป้องดูแลมี่กับน้องมิว ไม่ให้ใครมาทำให้เสียใจได้อีก พี่รักมี่ แต่งงานกับพี่นะครับ”มิรันดาถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินคำนั้น คำที่เธอเคยอยากให้ดิฐกรพูดกับเธอมาตลอด แต่แล้วกลับเป็นผู้ชายตรงหน้าที่พูดมันออกมา เขาขอเธอแต่งงาน และบอกรัก ถึงจะไม่โรแมนติก แต่เมื่อมองสบตากันเธอก็รับรู้ได้ถึงความจริงในที่เขามีให้“มี่รังเกียจพี่หรือเปล่า หรือว่า...ยังรักเขาอยู่”“ไม่ค่ะ มี่ไม่ได้รักพี่ดิวแล้ว ไม่ได้รักนานแล้ว” คราวนี้หญิงสาวตอบอย่างมั่นใ
เสียงประตูเปิดเข้ามาในห้องพักฟื้นผู้ป่วยทำให้ดิฐกรสะดุ้งหันขวับ หัวใจพองฟูอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็ถอนหายใจอย่างผิดหวัง“คุณพ่อให้แคทมาเยี่ยมพี่ดิวค่ะ วันนี้เป็นยังไงบ้างคะ” ดิฐกรมองน้องสาวของศัตรูหัวใจที่มาเยี่ยมเขาเกือบทุกวัน พลางแอบบ่นในใจคนที่อยากให้มาก็ดันไม่มา ส่วนคนที่ไม่อยากเจอกลับขยันมาเสียจริงๆ ทำไมเขาจะไม่รู้แผนของบิดาสุดที่รักกับเพื่อนสนิทของท่านที่ต้องการจับคู่ให้เขากับผู้หญิงสุดเปรี้ยวเข็ดฟันตรงหน้าก็ถ้าหัวใจมันมูปออนกันได้ง่ายๆ เขาคงหาเมียใหม่ได้ไปนานแล้ว ไม่ต้องมานั่งรอเมียเก่าใจอ่อนให้อภัยมาจนถึงวันนี้รอเหมือนโดนสาป ขนาดเจอแล้วก็ยังต้องรอเหมือนเดิม“ผมดีขึ้นมากแล้ว พรุ่งนี้หมอก็ให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วล่ะ คุณแคทไม่ต้องลำบากมาเยี่ยมก็ได้นะครับ”แคทรียาถอนใจอย่างลำไย เธอเองก็ใช่ว่าอยากมา แต่เพราะโดนพ่อกับแม่บังคับให้มาหรอก จะขัดก็ไม่ได้เดี๋ยวระเบิดลง แล้วเธอก็จะโดนตัดออกจากกองมรดกเสียก่อนแถมเรื่องราวของดิฐกรในงานวันเกิดของคุณเมธาก็ดังกระฉ่อนเข้าหูเธอขนาดนั้น ทำให้รู้ว่าที่แท
“คุณ!” มิรันดาแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นเพื่อนบ้านผู้ลึกลับตัวจริง ไม่ใช่คุณป้าที่เธอเคยพบแต่กลับเป็น...อดีตผัวเก่า!“ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย” คนถูกจับได้เลิ่กลั่ก ทำตัวไม่ถูก“เปล่านะ พี่ไม่ได้ทำอะไร ก็แค่เอาอาหารเช้ามาให้มี่กับลูก” คนฟังได้แต่กลอกตาไปมา เชื่อเขาเลย “ทำไมเป็นคุณได้ล่ะ แล้วบ้านหลังนั้นของใครกันแน่”เมื่อถึงคราวจนมุม จำเลยจึงต้องยอมรับสารภาพ“ของพี่เอง” “ว่าไงนะ แล้ววันนั้นคุณป้าที่ออกมารับขนมหน้าบ้านล่ะใครกัน”“นั่นแม่บ้านที่พี่จ้างมาทำความสะอาดน่ะ” เขาสารภาพเสียงอ่อย หน้าจ๋อยสนิทมิรันดาได้ฟังก็สูดหายใจเข้าลึกสุดปอด “ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” “ก็ไม่นานนะ ยังไม่ถึงปี แค่เกือบๆ เอง” คนฟังเริ่มกำหมัด กัดฟันกรอด“มี่ใจเย็นๆ ก่อนนะ พี่ไม่ได้มีเจตนาร้ายกับมี่และลูกของเราเลยนะ” “แล้วทำไปทำไม”“พี่ก็แค่อยากชดเชยความผิดที่ผ่านมาให้มี่กับลูกบ้าง แต่ถ้ามี่ไม่ต้องการพี่ก็จะไม่ทำอีกก็ได้นะ” มิรันดามองคนพูดที่ตอนนี้อ่อนเป็นงูกลัวเชือกกล้วย “มี่จ๋า...พี่สำนึกผิดแล้ว เมื่อไหร่มี่จะยอมให้อภัยพี่สักที อย่างน้อยก็ให้พี่ได้ทำหน้าที่พ่อบ้าง น้องมิวเป็นลูกพี่ ขนาดพ่อแม่พี่น้องของพี่ มี่ก
แม้ชีวิตของเธอกับลูกจะมีสีสันมากขึ้น ทว่ากลับมีบางสิ่งที่หายไปแทน แม้กระทั่งคนรอบข้างเองก็ยังรู้สึก“แม่มี่ขา...” เจ้าของขวัญวิ่งตุ๊บตั๊บเข้ามากอดเอวอ้อนแม่ หลังจากที่เพิ่งส่งคุณปู่คุณย่าและลุงดลกลับไปเมื่อครู่“ขา...คนเก่ง”“เมื่อไหร่ลุงคิมจะมาบ้านเราอีกคะ น้องมิวคิดถึงม้ากมาก ทำไมคราวนี้ลุงคิมไปเมืองนอกนานจังคะ” คำถามนั้นทำให้เธอสะอึกอึ้งไป เพราะรู้เหตุผลที่อีกฝ่ายหายไปดีกว่าใคร“นั่นสิแก นี่มันก็นานแล้วนะ คุณคิมเขาไม่บอกแกเหรอว่าจะกลับเมื่อไหร่ ถามยายดาวก็บอกไม่รู้” “เปล่า ไม่ได้บอก” หลังจากวันที่เขาบอกรักและจูบเธอวันนั้น คีรินก็หายหน้าไป หรือเขาจะถอดใจเสียแล้วนะ หรือเธอเล่นตัวมากไป“ยัยนิ ฉันถามหน่อยสิ”“อะไร ถามอะไร ทำหน้าเครียดแบบนี้ เรื่องใหญ่ล่ะสิ” “คือ...จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องฉันหรอก แต่เป็นเรื่องคนอื่นอีกที คือเขามีผู้ชายมาสารภาพรัก แล้วก็ขอแต่งงานน่ะ แต่เขายังเข็ดกับความรักที่โดนแฟนเก่าทิ้งจนกลัวจะมีรักใหม่เลยปฏิเสธผู้ชายคนนั้นไป”“นั่นไง ฉันว่าแล้วเชียว คุณคิมหายไปเพราะโดนแกปฏิเสธนี่เอง”“เฮ้ย! ไม่ใช่ฉัน”“แหม แต่สตอรี่ตรงเชียวนะยะ เฮ้อ...” นิลุบลค้อนเพื่อน “แล้วไง เขาหาย
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู...” เสียงเพลงวันเกิดดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงโปร่งของดิฐกรและลูกสาวเดินถือเค้กน่ารักออกมาทำให้เจ้าของวันเกิดสาวถึงกับยกมือปิดปากน้ำตารื้นคิดถึงวันเกิดครั้งแรกที่เขาเคยจัดให้“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทู...ยู” พอเพลงจบชายหนุ่มก็ยื่นเค้กวันเกิดมาตรงหน้าของมิรันดา“อธิษฐานสิมี่”มิรันดาหันไปมองคนรอบข้างทั้งเพื่อนเธอแล้วยังมีครอบครัวของดิฐกรพร้อมหน้า ทำให้เธออดคิดถึงวันเกิดของดิฐกรในปีนั้นที่เธอต้องนั่งรอเขาคนเดียว ก่อนเลิกกัน มาวันนี้เขากลับเป็นคนถือเค้กออกมาให้เธออีกครั้งพร้อมกับลูกสาวสุดที่รักชีวิตเธอควรจะมีความสุขสมบูรณ์เมื่อมีทุกอย่างที่ผู้หญิงคนหนึ่งควรมีแล้ว แต่ทว่ายังมีใครอีกคนที่เธอกำลังรอคอยอยู่ และอดลุ้นไม่ได้ว่าเขาคนนั้นจะยอมมาร่วมฉลองวันเกิดกับเธอไหมมิรันดาหลับตาอธิษฐานในใจ ก่อนจะเป่าเค้กวันเกิดจนดับ ท่ามกลางเสียงปรบมือของทุกคน“สุขสันต์วันเกิดครับมี่” ดิฐกรอวยพร พร้อมกับยื่นกล่องของขวัญเล็กๆ ใบหนึ่งให้“อะไรคะ”“ลองเปิดดูสิครับ”มิรันดาทำตามที่เขาบอกและพบว่าของในกล่องคือ...สร้อยแทนใจเส้นนั้น“นี่มัน!”“ของขวัญชิ้นแรกที่พี่ให้มี่ไง” คำนั้นทำใ
“ยิ้มปลื้มเมีย”“หา...”“เมียพี่น่ารักที่สุดเลย” เขาโอบเอวเธอเข้ามาใกล้พร้อมกับกดจูบที่หน้าผากมนเบาๆ“ขอบคุณแทนน้องมิวด้วยนะครับ”ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นทันใด“ขอบคุณเรื่องอะไรคะ น้องมิวก็ลูกแคทเหมือนกันนี่นา”นี่ก็อีก หลังจากที่เขาจดทะเบียนสมรสกับเธอ แคทรียาก็กลายเป็นแม่แคทของหนูน้อยของขวัญไปอีกคน แถมยังเข้ากับมิรันดาเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียด้วย ซึ่งทำให้เขาสบายใจไปได้อีกเปราะไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดปัญหาเรื่องแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงตามมาในภายหลังภาพความหวานชื่นระหว่างสองสามีภรรยาทำให้ใครต่อใครที่เห็นแอบชื่นชมในความเหมาะสม ยกเว้นก็เพียงแต่...เจนิสาชะงักไปนิดๆ เมื่อมองเห็นภาพสวีตของทั้งสองที่เดินเคียงคู่กันผ่านไป โดยไม่ทันเห็นเธอที่นั่งหัวโด่ตรงนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจตัวเอง ดิฐกรในวันนี้ทั้งภูมิฐานและดูมีฐานะดีเธอมันตาต่ำสิ้นดี!หากในวันนั้นเธอไม่คิดสั้นทิ้งดิฐกรมา วันนี้คนที่เดินควงแขนเขาก็คงเป็นเจนิสาคนนี้ เธอคงสุขสบายมีสามีรวย ไม่ต้องอยู่อย่างลำบากน่าสมเพชต้องคอยรองมือรองเท้าให้ไอ้ผู้ชายสารเลวอย่างวรพลนั่นหญิงสาวกุมใบหน้าที่ถูกปกปิดด้วยแมสก์และแว่นสีดำไว้ เพราะไม่อยากให้ใครเห็นร่องรอยฟกช้ำท
หลังจากได้พยาบาลดีคอยดูแลอาการบาดเจ็บของดิฐกรก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็วจนได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลในที่สุด สิ่งแรกที่เขาทำก็คือขอร้องให้คุณเมธาและคุณดารณีไปเจรจาสู่ขอแคทรียาถึงบ้าน“แน่ใจแล้วหรือว่าอยากจะแต่งงานกับลูกสาวอาจริงๆ” คุณราเมศร์ถามด้วยน้ำเสียงเข้มจนคนรอบข้างแอบลุ้นปนหวาดผวาแทนคนถูกถาม“แน่ใจครับ”“ไม่ใช่แค่อยากรับผิดชอบ”“ไม่ใช่ครับ”“ไม่ได้รักแบบน้องสาว”“ผมรักแคทแบบคนรักครับ ไม่ใช่น้องสาว” แคทรียาหันไปสบตากับคนพูดด้วยหัวใจที่พองโตคับอกคุณเมธาหันไปสบตากับภรรยาที่ยิ้มจนแก้มปริ เมื่อได้ยินลูกชายตัวดีสารภาพรักสาวแบบเต็มปากเต็มคำ เห็นทีว่างานนี้เธอจะได้ลูกสะใภ้สมใจแม่สุดๆ“แล้วลูกล่ะยัยแคท อยากแต่งหรือเปล่า” คุณราเมศร์หันมาทางลูกสาว“แต่งค่ะ” หญิงสาวตอบโพล่งโดยไม่ต้องคิด ทำเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่ได้แต่ค้อน“ไม่คิดอีกสักหน่อยเหรอ ถึงยังไงเราก็เป็นฝ่ายหญิงนะ” คุณราเมศร์อ่อนอกอ่อนใจกับความมั่นของลูกสาวคนเล็ก“ก็แคทคิดมาแล้ว ในเมื่อเราสองคนรักกัน แล้วยังต้องรออะไรล่ะคะ อีกอย่างถ้าแคทคิดมาก เดี๋ยวท้องโตกว่านี้ ก็แต่งชุดเจ้าสาวไม่สวยกันพอดี”“ท้องโต!” คุณราเมศร์อุทานลั่น ในขณ
“อย่าหนีพี่ไปอีกเลยนะ”ดิฐกรมองสบตาเธอนิ่ง มวลความรู้สึกมากมายอัดแน่นในอกของเขาจนแทบจะล้นทะลักออกมา เกรงว่าหากเขาไม่พูดตอนนี้ จะไม่มีโอกาสได้พูดมันอีก“พี่ไม่ใช่คนดี เป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวคนหนึ่ง แล้วก็เป็นคนโง่งี่เง่ามากๆ ด้วย”แคทรียาเลิกคิ้วมองคนพูดอย่างไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่“ครั้งหนึ่งพี่เคยทำพลาดเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวและกลัวการผูกมัด กลัวที่จะต้องแต่งงาน กลัวเสียอิสรภาพบ้าๆ บอๆ จนกระทั่งเสียคนที่พี่รักให้คนอื่นไปคนหนึ่งแล้ว แต่คราวนี้พี่จะไม่ยอมเสียคนที่พี่รักไปอีก...”ราวกับเวลาหยุดหมุนในชั่ววินาทีนั้น คำว่า ‘คนที่พี่รัก’ ของเขากระแทกใจเธออย่างจัง นั่นเขาหมายถึงใครกันคงไม่ใช่เธอหรอกมั้ง“พี่รักแคท เราแต่งงานกันนะ”สาวมั่นถึงกับตะลึงงัน เมื่อเจอคำบอกรักแบบสายฟ้าแลบ“แล้วพี่มี่ล่ะ พี่ดิวลืมพี่มี่ได้แล้วเหรอ”“หึงเหรอ” คนเจ็บแกล้งตีหน้านิ่งถาม“หึงอะไร อย่ามาหลงตัวเองนะ”“งั้นพี่หลงเมียแทนได้ไหม”แคทรียาอ้าปากค้าง“ไม่ต้องหึงแล้วตัวแสบ ระหว่างพี่กับมี่ เราเหลือแค่สถานะพ่อแม่ของน้องมิวเท่านั้น”เมื่อได้ฟังคำยืนยันจากปากเขา ซึ่งเป็นคำเดียวกับที่เคยได้ยินจากปากมิรัน
“ไม่! อย่าไปนะ อย่าทิ้งพี่...” ชายหนุ่มรีบรั้งเธอไว้ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี กลัวว่าหากปล่อยให้เธอไป เขาจะไม่ได้พบเธออีก เขาไม่อยากเป็นเหมือนผู้ชายคนนั้นที่ต้องสูญเสียคนที่ตัวเองรักไปต่อหน้า อีกทั้งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมันทำให้เขารู้แล้วว่าชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอนโชคดีแค่ไหนที่เขาไม่ได้เสียชีวิตไป โชคดีแค่ไหนที่เขายังมีโอกาสฟื้นขึ้นมาพบเธออีกครั้ง ทุกวินาทีต่อจากนี้ล้วนมีค่า และเขาไม่อยากจะเสียเวลาไปกับความกลัวอย่างงี่เง่าของตัวเองอีก แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแคทรียามองสบสายตาเขานิ่ง ก่อนหน้านี้ที่เธอตัดสินใจหายตัวไปก็คิดว่าจะตัดใจและตัดเขาออกไปได้ เธออยากจะทำใจแข็งให้มากกว่านี้ อยากจะโกรธ อยากจะงอน อยากจะเล่นตัวให้มากกว่านี้ อยากจะหนีไปให้เขาร้อนรนตามหาให้นานกว่านี้ แต่ทุกอย่างต้องพังครืน เมื่อได้รู้ข่าวจากมิรันดาว่าเขาเกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล เธอก็ลืมความขุ่นเคืองก่อนหน้าไปเสียสิ้น ยิ่งเมื่อได้เห็นสภาพของเขาที่เป็นตายเท่ากัน หัวใจก็เจ็บปวดแทบแหลกสลาย“พี่...” เสียงเขาเบาหวิวทำให้เธอต้องขยับเอียงหูเข้าไปใกล้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกอะไร“พี่ขอโทษ...” หญิงสาวชะงักเมื่อได้ยินคำเดียวกับใ
“จริงสิคะ มี่เลยรีบโทรมาบอกพี่ดิวก่อนนี่ไง พี่ดิวก็กลับไปพักผ่อนได้แล้วนะคะ กลับไปคิดดูให้ดีว่าจะทำยังไงต่อ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ”ดิฐกรอยากจะโห่ร้องดังๆ กับข่าวดีที่เพิ่งได้ยิน แคทรียากำลังจะกลับมา และในตอนนี้เขาก็มีคำตอบกับตัวเองแล้วเขารักเธอ! และจะไม่ยอมเสียเธอกับลูกไปเหมือนผู้ชายคนเมื่อกี้เด็ดขาดชายหนุ่มยิ้มทั้งน้ำตา เขาคิดถึงเธอเหลือเกินดิฐกรรีบขึ้นรถและขับกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่แตกต่างจากตอนขามาลิบลับ ตอนนี้เขามีความสุขล้นปรี่ มีความหวังเต็มเปี่ยม โลกที่มืดมนกลับสว่างไสวขึ้นเพียงคิดว่าจะได้พบแคทรียา ผู้หญิงที่เขารู้ตัวแล้วว่ารัก และไม่อยากเสียเธอไปไม่ว่าอย่างไรปรี๊น!!!ชายหนุ่มคิดเพลินจนเผลอขับรถฝ่าไฟแดงโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งมีเสียงแตรดังลั่นมาจากที่ไกลๆ เขาจึงได้สติรีบหันไปมอง ก็เห็นแสงไฟสว่างจ้ากำลังพุ่งตรงเข้ามา ดิฐกรตกใจสุดขีดจึงรีบหักพวงมาลัยหลบเข้าข้างทางและชนเข้ากับต้นไม้จนรถแน่นิ่งไป พร้อมกับสติสัมปชัญญะของเขาที่ดับวูบไปในนาทีนั้นพร้อมกับสิ่งที่ติดค้างในหัวใจอยากเจอเธออีกสักครั้งหรือเขาจะไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกแล้ว...“พี่ดิว...พี่ดิว...” ดิฐกรได้ยินเสียงหวานคุ้นหูของใ
‘ชีวิตคนเรามันสั้นนะคะ ถ้าพี่ดิวมัวแต่คิดมาก กลัวนั่นกลัวนี่แล้วเมื่อไหร่จะได้มีความสุขกับเขาเสียที หรือต้องรอให้สูญเสียก่อนอีกครั้ง พี่ถึงจะคิดได้ว่าอะไรที่มีค่ากับชีวิต...’เท้าของเขาค่อยๆ ก้าวฝ่าทุกคนไปจนถึงร่างอันไร้วิญญาณที่นอนนิ่งคลุมผ้าขาวตรงหน้า“เข้าไม่ได้นะครับ คุณเป็นอะไรกับผู้เสียชีวิตครับ”คำว่าผู้เสียชีวิตทำให้เขารู้สึกเข่าอ่อนขึ้นมาทันใด ก่อนที่น้ำใสๆ จะรื้นขึ้นมากลบนัยน์ตาจนทุกอย่างรอบกายพร่าเลือน หัวใจถูกบีบรัดอย่างแรงกับภาพที่เห็นตรงหน้าเขามันโง่! โง่ที่สุดในที่สุดความโง่งี่เง่านั่นก็พาให้เขาต้องพบกับจุดจบที่ต้องสูญเสียอีกครั้ง ครั้งแรกเป็นการจากเป็นที่ว่าเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสแล้ว แต่ครั้งนี้รุนแรงยิ่งกว่า เพราะเขาจะไม่ได้พบเธออีกต่อไปแล้ว เพียงคิดน้ำตาก็รื้นขึ้นมากลบนัยน์ตาจนพร่าไปหมด‘แล้วถ้าแคทบอกว่าต้องการความรักจากพี่ ต้องการให้พี่แต่งงานกับแคท ต้องการให้พี่เป็นทั้งสามีและพ่อของลูกแคท พี่ดิวทำได้ไหมล่ะ’คำถามนั่นย้อนกลับเข้ามาเล่นงานเขาในวันที่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว“ผม...ผมเป็นสามีของเธอครับ” ริมฝีปากแห้งผากบอกออกไปด้วยหัวใจที่แหลกสลาย น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอาบ
ไม่มีข่าวคราว ไม่กลับบ้าน ไม่ไปที่ร้าน โทรไปก็ปิดเครื่อง กระทั่งข้อความที่เขาส่งไปหานับร้อยนับพันก็ไม่ยอมเปิดอ่านตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกันนะ เป็นตายร้ายดีอย่างไร “แล้วลูกล่ะ”“เข้านอนไปแล้วค่ะ พี่คิมเล่านิทานกล่อมก็พลอยหลับไปด้วย”“งั้นเหรอ” น้ำเสียงอ่อนล้าจนน่าใจหาย ทำให้มิรันดามองอดีตคนรักอย่างเห็นใจ“พี่ดิวก็กินข้าวกินปลาแล้วนอนพักเสียบ้างเถอะค่ะ”“อืม พี่ไม่หิว นอนไม่หลับด้วย เป็นห่วง...”“ห่วงตัวเองก่อนดีไหมคะ ดูหน้าเข้าซูบตอบเหมือนซอมบี้แล้วเนี่ย”คนหน้าเหมือนซอมบี้ลูบหน้าตัวเอง“ไม่เป็นไร พี่ยังไหว”มิรันดาได้แต่ส่ายหน้ากับความดื้อรั้นของคนตรงหน้า“มี่ถามจริงๆ เถอะค่ะ ที่พี่ดิวกำลังทำอยู่ตอนนี้ เพราะอะไรกันแน่ แล้วถ้าพี่ดิวหาตัวน้องแคทเจอแล้วจะทำยังไงต่อคะ”“พี่...”คนถูกถามนิ่งไปเมื่อเจอคำถามแทงใจดำจนพูดไม่ออก“จริงๆ แล้วพี่แค่ห่วงลูกในท้องน้องแคทเท่านั้นใช่ไหมคะ แล้วถ้าน้องแคทไม่ได้ท้องกับพี่ล่ะ พี่ดิวจะยังตามหาน้องแบบนี้หรือเปล่า ไม่ต้องตอบมี่ก็ได้ แต่พี่ตอบตัวเองแล้วกันว่าต้องการอะไรกันแน่”“มี่...”“ชีวิตคนเรามันสั้นนะคะ ถ้าพี่ดิวมัวแต่คิดมาก กลัวนั่นกลัวนี่แล้วเมื่อไหร่จะไ
ดิฐกรรีบไปที่บ้านมิรันดาตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งที่เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอนเพราะมัวแต่คิดฟุ้งซ่านเรื่องของเขากับแคทรียาจนนอนไม่หลับ ยังไงวันนี้เขาก็ต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่อง ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องอกแตกตายแน่แต่ทว่า...“น้องแคทไปแล้วค่ะ”ดิฐกรหัวใจกระตุกวูบอย่างแรง“ไป...ไปไหน”“มี่ก็ไม่รู้ค่ะ พอตื่นมาน้องก็ไม่อยู่แล้ว นี่พี่คิมก็โทรไปถามที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ก็บอกว่าไม่ได้กลับไป ทางนั้นเองก็กำลังร้อนใจเหมือนกัน” มิรันดาตอบด้วยสีหน้าหนักใจ“แล้วที่ร้านเขาล่ะ” ชายหนุ่มหมายถึงร้านเวดดิ้งสตูดิโอ เธออาจจะมีงานด่วนต้องรีบไปที่ร้านแต่เช้าก็ได้“มี่โทรเช็กแล้วค่ะ น้องก็ไม่ได้ไปเหมือนกันค่ะเห็นพนักงานบอกว่าน้องแคทเขาพักร้อน อ้าว นั่นพี่คิมมาพอดี” ดิฐกรหันขวับไปมองคนเพิ่งลงจากรถด้วยสีหน้าตึงเครียดผิดจากที่เคย“เป็นไงบ้างคะพี่คิม หาน้องแคทเจอไหม”“ไม่เจอเลย พี่ลองถามรปภ.ที่หน้าหมู่บ้าน เห็นว่ามีรถแท็กซี่เข้ามาตอนตีสี่ แล้วตอนออกไปก็มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งด้านหลัง พี่คิดว่าน่าจะเป็นน้องแคท ก็เลยจดทะเบียนรถแท็กซี่นั่นให้ตำรวจช่วยตามหาตัวคนขับอยู่”“แล้วบ้านเพื่อนล่ะ เขาอาจจะนั่งแท็กซี่ไปหาเพื่อนสักคนก็ได้”“
“งั้นน้องมิวจะช่วยอาแคทซ่อนไม่ให้พ่อดิวหาเจอ ไม่สิ น้องมิวไปซ่อนในห้องกับอาแคทด้วยดีกว่า” ว่าแล้วเด็กน้อยก็วิ่งตื๋อเข้าไปในห้องอีกคนจนทำให้คนเป็นแม่ถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่หันไปสบตาสามีเป็นเชิงปรึกษา“เอาไงดีคะพี่คิม”“เดี๋ยวพี่ไปเปิดประตูเอง มี่ดูแลทางนี้แล้วกัน”คีรินบอกพลางเดินตรงไปเปิดประตูบ้านให้แขกไม่ได้รับเชิญ“คุณคิม แคทล่ะ แคทอยู่ที่นี่ใช่ไหม”แทนที่จะถามถึงลูกสาวหรือมิรันดาก่อนเหมือนเช่นทุกครั้ง อีกฝ่ายกลับถามหาน้องสาวของเขาแทนเสียนี่“ทำไมเหรอครับ คุณมีธุระอะไรกับน้องสาวผมงั้นหรือ” ดิฐกรสะอึกอึ้งไปเมื่อเจอคำถามจากอีกฝ่าย“แคทอยู่ด้านในใช่ไหม”“ครับ” คีรินพยักหน้ารับ“งั้นผมขอเข้าไปคุยกับเขาหน่อย”“ผมว่าวันนี้คุณกลับไปก่อนดีกว่านะ”ดิฐกรรับรู้ได้ถึงความตึงในน้ำเสียงที่ผิดไปของชายหนุ่มผู้เป็นศัตรูหัวใจ หรือว่าแคทรียาจะบอกอะไรกับพี่ชายตัวเองไปแล้ว“แคทบอกพวกคุณแล้วใช่ไหม”“บอกเรื่องอะไรเหรอครับ” คีรินย้อนถามหน้าตาย“ก็เรื่อง...”“ท้อง...” ดิฐกรชะงักกึก“คุณรู้แล้วเหรอ”“ครับ ผมกับมี่รู้แล้ว แล้วน้องแคทบอกคุณหรือเปล่าล่ะว่าใครเป็นพ่อของเด็ก หรือว่าจะเป็นเจ้าแฟนเก่าที่เลิกไปนั่น”