เมื่อแผนตอนเช้าพังไม่เป็นท่า ดิฐกรจึงให้เลขาสาวไปหาซื้อของเล่นและตุ๊กตาราคาแพงที่ห้าง แถมด้วยหุ่นยนต์อีกตัวเพื่อให้ลูกชายของพิรามเป็นการติดสินบนให้ช่วยพาลูกสาวออกมาหาเขา
แล้วพอใกล้ถึงเวลาเลิกเรียนช่วงบ่าย เขาก็รีบเผ่นออกจากที่ทำงานแจ้นไปดักรอที่หน้าโรงเรียน เมื่อวานไอ้หน้าปลวกนั่นมันซื้อของมาให้ลูกสาวเขามากมาย เขาก็ซื้อได้เหมือนกัน แถมเยอะกว่าด้วย
ให้มันรู้ไปสิว่า ของเล่นกับตุ๊กตาน่ารักๆ นี่จะตกลูกสาวเขาได้
“ไม่เอาค่ะ แม่บอกว่าไม่ให้น้องมิวรับของจากคนแปลกหน้า”
“แต่พ่อไม่ใช่คนแปลกหน้านี่ครับลูก”
เด็กหญิงของขวัญเอียงหน้ามอง ก่อนส่ายหัวดุ๊กดิ๊กปฏิเสธอีกรอบ
“ลุงดิวเป็นเพื่อนพ่อน้องธานไง ไม่ใช่คนแปลกหน้าสักหน่อย น้องมิวรับของไปเถอะนะ น้องธานยังรับเลย นี่ไงหุ่นยนต์เท่ห์ไหม” ดิฐกรหันไปพยักหน้าให้ลูกเพื่อนอย่างพอใจ
ให้มันได้อย่างนี้สิหลานรัก ไม่เสียแรงที่เขาติดสินบนเด็กชายด้วยหุ่
ในร้านไอศกรีมใจกลางห้างสรรพสินค้ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการกันหนาตา โชคดีที่คีรินและสองแม่ลูกมาถึงก็มีลูกค้าคนหนึ่งลุกขึ้นพอดี พวกเขาจึงได้ที่นั่งไม่ต้องยืนรอนาน แต่ทว่า...“แม่คะ นั่นลุงใจร้ายเขาตามเรามา” มิรันดาหันไปมองตามมือลูกสาวที่ชี้ไปตรงหน้าร้าน ก็ได้เห็นดิฐกรที่เดินหน้ามุ่ยเข้ามาในร้าน แต่เธอก็ไม่ได้ตกใจแต่อย่างใด “ช่างเขาเถอะลูก มาทานไอติมกันดีกว่า นั่นไงมาแล้ว”พอเห็นไอศกรีมมาเสิร์ฟ หนูน้อยก็ลืมทุกอย่างจนสิ้น คีรินตักลูกเชอร์รี่ในถ้วยของตัวเองใส่ถ้วยให้คนตัวเล็กเหมือนเช่นทุกครั้ง “นี่ครับ ลูกเชอร์รี่ที่น้องมิวชอบไงลูก”คำนั้นทำให้คนที่เพิ่งมาใหม่หูผึ่งและรีบจดบันทึกของโปรดลูกไว้ในสมองทันที แต่ตาคมกลับมองลูกสาวที่ส่งยิ้มให้คีรินก็นึกอิจฉาขึ้นมา แทนที่เขาจะเดินไปนั่งที่อื่น เท้าจึงเบนเข็มตรงไปนั่งที่โต๊ะเดียวกับคนทั้งสามหน้าตาเฉย“ขอพี่นั่งด้วยคนนะมี่” มิ
เขาอยากไปยืนตรงนั้นแทนที่คีรินเหลือเกิน แต่ยิ่งทำอย่างที่ใจต้องการ ทุกอย่างก็กลับพังไม่เป็นท่า ยิ่งใกล้ก็เหมือนเธอจะยิ่งไกลห่างออกไปทุกที ดูจากที่ร้านไอศกรีมวันนี้ ขนาดนั่งใกล้กันมิรันดายังแทบไม่มองหน้า ไม่สนใจเขาด้วยซ้ำ เธอทำราวกับเขาเป็นเพียงอากาศไร้ตัวตน แล้วจู่ๆ คำพูดของพิรามก็ดังขึ้นในหู‘มูปออนง่ายกว่ามั้งเพื่อน’หรือเขาควรทำเช่นนั้น แต่จะให้ตัดใจจากเธอและลูกยังไง มือหนาหยิบสร้อยรูปจี้หัวใจขึ้นมาดูอย่างปวดใจ“ต้องทำยังไง มี่ถึงจะให้อภัยพี่เสียที พี่ต้องทำยังไง...” เย็นวันต่อมา คีรินก็มาถึงบ้านของหญิงสาวตรงตามเวลานัดเป๊ะ“ลุงคิมมาแล้ว โห...วันนี้หล่อจัง” เด็กหญิงของขวัญทำตาโตมอง ปกติเวลามาหาสองแม่ลูก เขามักจะสวมเสื้อเชิ้ตแบบไม่สวมสูทเพื่อเป็นกันเอง แต่วันนี้เขาใส่ทักซิโด้หล่อเต็มยศ“ไงครับคนสวยของลุง ไหนลองหมุนตัวให้ดูหน่อยได้ไหม”
“ตาคิมเขาพาแฟนมาอวดน่ะสิคุณดา คนนั้นไง” คำนั้นทำให้คุณดารณีหันไปมองที่หญิงสาวข้างกายคีรินทันที “เอ๊ะ! เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าจ๊ะหนู” มิรันดาเองก็จำได้ตั้งแต่เห็นหน้าอีกฝ่ายเช่นกัน“ใช่ค่ะ เจอกันที่โรงพยาบาล” “จริงด้วย ป้าจำได้แล้ว นี่ไงคะแม่หนูที่ฉันเล่าให้คุณฟังว่าช่วยฉันตอนโดนชนจนล้มข้อเท้าพลิกที่โรงพยาบาลไง ตายจริงโลกกลมเหลือเกิน ตาดลลูกก็จำน้องได้ใช่ไหม”“จำได้ครับแม่” ดลธวัชส่งยิ้มให้หญิงสาวผู้มีพระคุณของแม่“แล้วเจ้าแก้มยุ้ยคนนี้ใครจ๊ะ หน้าตาน่าเอ็นดูจริงเชียว” คนอยากมีหลานสาวรู้สึกถูกชะตากับเด็กน้อยตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก “แต่เอ...แม่เคยเห็นหน้าแบบนี้ที่ไหนนะ คุ้นๆ แต่นึกไม่ออก” คุณดารณีครุ่นคิด หากแล้วสายตาก็หันไปเห็นใครบางคนเดินตรงเข้ามาพอดีจึงคิดออก“นึกออกแล้ว หน้าเหมือนตาดิวตอนเด็
“ทำไมหนูถึงว่าคุณลุงคนนั้นใจร้ายล่ะคะลูก” “ก็เขาเคยมาที่บ้านน้องมิว แล้วก็รังแกแม่มี่ของหนูจนร้องไห้เลย น้องมิวไม่ชอบเขา เขานิสัยไม่ดี” คุณดารณีได้ฟังก็งุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกจนต้อง หันไปมองหน้าลูกชายคนกลางอย่างคาดคั้น“นี่มันเรื่องอะไรกันตาดิว ลูกทำแบบที่น้องมิวว่าจริงเหรอ ทำไปทำไม” “ผม...เอ่อ...แม่ครับ ผมมีเรื่องจะสารภาพ” คำนั้นทำให้ทุกคนนิ่งไป “มี่คือเมียผม แล้วก็น้องมิวก็เป็นลูกของผมแล้วก็เป็นหลานสาวแท้ๆ ของคุณแม่ครับ” “หา! ว่าไงนะตาดิว” คุณดารณีเบิกตาค้างอย่างตื่นตะลึง โชคดีที่แขกเหรื่อเข้างานกันหมดแล้วเหลือแต่พวกเขาเป็นกลุ่มสุดท้าย “นี่มันเรื่องอะไรกันลูก” คีรินกุมมือหญิงสาวไว้แน่น มืออีกข้างก็เอื้อมไปจูงมือเด็กหญิงตัวน้อยไว้ “มี่คือคนที่ผมเคยบอกแม่ เธอเป็นเมียผม แต่เราเลิกกันไปเพราะเข
ดิฐกรถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินในเวลาต่อมา มิรันดาและคีรินที่พาเขามาส่งโรงพยาบาลนั่งรอหน้าห้อง ชุดเดรสแสนสวยตอนนี้มีคราบเลือดคราบเลอะติดเป็นหย่อมๆ หากเจ้าตัวกลับไม่ได้สนใจ ในสมองยังคงคิดถึงภาพตอนที่คนเจ็บนอนแน่นิ่งจมกองเลือดอย่างน่าตกใจเมื่อครู่ตอนแรกเธอคิดว่าอีกฝ่ายตายไปแล้ว ทว่าโชคดีที่โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ คีรินจึงช่วยเรียกรถพยาบาลมารับได้ไว ชายหนุ่มไม่กล้าเคลื่อนย้ายเอง เพราะเกรงว่าจะทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหนักกว่าเดิม“แม่คะ คุณลุงคนนั้นจะตายไหมคะ” คำถามของลูกน้อย ทำให้ความกลัวแล่นเข้าจับหัวใจของมิรันดาจนสั่นสะท้านไปทั้งร่างเธอเกลียดในสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับเธอจนไม่อยากให้อภัยก็จริง แต่ไม่ได้อยากให้อีกฝ่ายตายจริงอย่างที่ลั่นปากไป“ไม่หรอกลูก คุณลุงต้องไม่เป็นอะไรนะครับ” คีรินปลอบขวัญ“คุณลุงคนนั้นเขาเป็นพ่อน้องมิว จริงๆ เหรอคะแม่มี่”คำถามนั้นเสียดลึกเข้าไปในอก กับความจริงที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้ แม้จะเลิกกันแล้ว แม้เขาจะเคยไม่ต้องการมีลูกกับเธอ แต่เด็กหญิงของขวัญก็คือลูกสาวของดิฐกร ไม่ม
ฝ่ายคีรินที่พาสองแม่ลูกกลับมาส่งถึงบ้าน เขาก็ช่วยอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยเข้าไปส่งถึงห้องนอน โดยมีมิรันดาเดินตามมาด้านหลัง“ขอบคุณพี่คิมมากนะคะ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่วันนี้มี่ทำให้พี่ต้องพลอยวุ่นวายไปด้วย”“พี่ยินดีวุ่นวาย หากเป็นเรื่องของมี่กับลูก แล้วมี่ล่ะ...”“มี่ทำไมเหรอคะ”“มี่จะยอมให้พี่ผ่านโปรของเราได้หรือยังครับ” คำถามนั้นทำเอาหญิงสาวถึงกับสะดุดลมหายใจตัวเอง“พี่รอได้ แต่ไม่อยากรอแล้ว เรื่องวันนี้ทำให้พี่อยากได้สิทธิ์ในการปกป้องดูแลมี่กับน้องมิว ไม่ให้ใครมาทำให้เสียใจได้อีก พี่รักมี่ แต่งงานกับพี่นะครับ”มิรันดาถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินคำนั้น คำที่เธอเคยอยากให้ดิฐกรพูดกับเธอมาตลอด แต่แล้วกลับเป็นผู้ชายตรงหน้าที่พูดมันออกมา เขาขอเธอแต่งงาน และบอกรัก ถึงจะไม่โรแมนติก แต่เมื่อมองสบตากันเธอก็รับรู้ได้ถึงความจริงในที่เขามีให้“มี่รังเกียจพี่หรือเปล่า หรือว่า...ยังรักเขาอยู่”“ไม่ค่ะ มี่ไม่ได้รักพี่ดิวแล้ว ไม่ได้รักนานแล้ว” คราวนี้หญิงสาวตอบอย่างมั่นใ
เสียงประตูเปิดเข้ามาในห้องพักฟื้นผู้ป่วยทำให้ดิฐกรสะดุ้งหันขวับ หัวใจพองฟูอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็ถอนหายใจอย่างผิดหวัง“คุณพ่อให้แคทมาเยี่ยมพี่ดิวค่ะ วันนี้เป็นยังไงบ้างคะ” ดิฐกรมองน้องสาวของศัตรูหัวใจที่มาเยี่ยมเขาเกือบทุกวัน พลางแอบบ่นในใจคนที่อยากให้มาก็ดันไม่มา ส่วนคนที่ไม่อยากเจอกลับขยันมาเสียจริงๆ ทำไมเขาจะไม่รู้แผนของบิดาสุดที่รักกับเพื่อนสนิทของท่านที่ต้องการจับคู่ให้เขากับผู้หญิงสุดเปรี้ยวเข็ดฟันตรงหน้าก็ถ้าหัวใจมันมูปออนกันได้ง่ายๆ เขาคงหาเมียใหม่ได้ไปนานแล้ว ไม่ต้องมานั่งรอเมียเก่าใจอ่อนให้อภัยมาจนถึงวันนี้รอเหมือนโดนสาป ขนาดเจอแล้วก็ยังต้องรอเหมือนเดิม“ผมดีขึ้นมากแล้ว พรุ่งนี้หมอก็ให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วล่ะ คุณแคทไม่ต้องลำบากมาเยี่ยมก็ได้นะครับ”แคทรียาถอนใจอย่างลำไย เธอเองก็ใช่ว่าอยากมา แต่เพราะโดนพ่อกับแม่บังคับให้มาหรอก จะขัดก็ไม่ได้เดี๋ยวระเบิดลง แล้วเธอก็จะโดนตัดออกจากกองมรดกเสียก่อนแถมเรื่องราวของดิฐกรในงานวันเกิดของคุณเมธาก็ดังกระฉ่อนเข้าหูเธอขนาดนั้น ทำให้รู้ว่าที่แท
“คุณ!” มิรันดาแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นเพื่อนบ้านผู้ลึกลับตัวจริง ไม่ใช่คุณป้าที่เธอเคยพบแต่กลับเป็น...อดีตผัวเก่า!“ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย” คนถูกจับได้เลิ่กลั่ก ทำตัวไม่ถูก“เปล่านะ พี่ไม่ได้ทำอะไร ก็แค่เอาอาหารเช้ามาให้มี่กับลูก” คนฟังได้แต่กลอกตาไปมา เชื่อเขาเลย “ทำไมเป็นคุณได้ล่ะ แล้วบ้านหลังนั้นของใครกันแน่”เมื่อถึงคราวจนมุม จำเลยจึงต้องยอมรับสารภาพ“ของพี่เอง” “ว่าไงนะ แล้ววันนั้นคุณป้าที่ออกมารับขนมหน้าบ้านล่ะใครกัน”“นั่นแม่บ้านที่พี่จ้างมาทำความสะอาดน่ะ” เขาสารภาพเสียงอ่อย หน้าจ๋อยสนิทมิรันดาได้ฟังก็สูดหายใจเข้าลึกสุดปอด “ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” “ก็ไม่นานนะ ยังไม่ถึงปี แค่เกือบๆ เอง” คนฟังเริ่มกำหมัด กัดฟันกรอด“มี่ใจเย็นๆ ก่อนนะ พี่ไม่ได้มีเจตนาร้ายกับมี่และลูกของเราเลยนะ” “แล้วทำไปทำไม”“พี่ก็แค่อยากชดเชยความผิดที่ผ่านมาให้มี่กับลูกบ้าง แต่ถ้ามี่ไม่ต้องการพี่ก็จะไม่ทำอีกก็ได้นะ” มิรันดามองคนพูดที่ตอนนี้อ่อนเป็นงูกลัวเชือกกล้วย “มี่จ๋า...พี่สำนึกผิดแล้ว เมื่อไหร่มี่จะยอมให้อภัยพี่สักที อย่างน้อยก็ให้พี่ได้ทำหน้าที่พ่อบ้าง น้องมิวเป็นลูกพี่ ขนาดพ่อแม่พี่น้องของพี่ มี่ก
“พ่อคะ จริงๆ เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยนะคะ แคทอธิบายได้”“แล้วที่ลูกกับตาดิวมีอะไรกันแล้ว เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า” มาคำถามแรกก็ยิงเข้าประเด็นทันที สมแล้วที่เป็นพ่อเธอ หญิงสาวกลืนน้ำลายฝืดคอ“เอ่อคือ...” สาวมั่นเริ่มอึกอัก รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เมื่อมองไปรอบห้องที่ตอนนี้พุ่งเป้ามาที่เธอ นี่มันยิ่งกว่าโดนตำรวจสอบปากคำเมื่อกี้นี้เสียอีก“คิดให้ดีก่อนตอบ เพราะถ้าพ่อจับได้ทีหลังว่าโกหก ลูกก็รู้ว่าจะเป็นยังไง” เสียงเรียบนิ่ง ดุในที ทำให้คนเป็นลูกนึกขยาดเธออาจจะมั่นหน้ากับใครทั้งโลกก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่กับบิดาของตัวเอง ความมั่นใจในตัวไม่เคยมีผล ทุกครั้งที่เธอคิดจะโกหก ต่อให้เนียนแค่ไหน เนียนชนิดคนทั้งโลกไม่มีทางจับไต๋ได้ แต่สุดท้ายก็โดนพ่อจับโป๊ะได้ทุกที เรียกว่าแพ้ทางก็ว่าได้หญิงสาวหันไปสบตาผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างหนักใจ เห็นไหม เธอก็เตือนแต่แรกแล้วว่าอย่ามาๆ เขาก็ยังดื้อแพ่งจะมา แล้วไงล่ะเนี่ย หัวจะปวด“ว่าไงตาดิว เธอเป็นลูกผู้ชายคงไม่คิดโกหกผู้ใหญ่หรอกใช่ไหม” คุณราเมศร์เบนเข็มไปทางชายหนุ่มด้วยสีหน้าจริงจังปฏิเสธไปสิ อย่ายอมรับง่ายๆ นะลูกพี่ อย่า...“ใช่ครับ เราสองคนมีอะไรกันแล้ว”“เห็นไหมคะพ่อ เรื่อ
เวลาต่อมา สองหนุ่มสาวก็มาถึงถ้ำเสือ แคทรียาหันไปมองเพื่อนร่วมชะตากรรมที่นั่งทำหน้าเหมือนคนท้องผูกมาตลอดทาง“ถ้าอยากเปลี่ยนใจ จะกลับตอนนี้ก็ยังทันนะคะ”ดวงตาคมเข้มตวัดมองสบตาหญิงสาว“เธอรู้ได้ยังไงว่าพี่อยากเปลี่ยนใจ”“อ้าว! ก็แคทไม่ได้โง่นี่นา เห็นพี่นั่งทำหน้าเป็นตูดมาตลอดทางก็รู้แล้วว่าไม่เต็มใจ”“รู้ดีจริงนะ”“เฮ้อ...ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นว่าพี่น่ะหวงความโสดจะตาย พี่ไม่อยากแต่งงานกับแคท เลยหนีการดูตัวทุกครั้ง แล้วแคทเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับคนที่ไม่รักกันแบบพี่ด้วย แต่ถ้าขืนเราเข้าไปเจอพ่อตอนนี้แล้วโดนพ่อแคทมัดมือชกบังคับให้เราสองคนแต่งงานกันล่ะ พี่ดิวจะว่ายังไง” หญิงสาวแกล้งขู่ทีเล่นทีจริง“พี่ก็รู้นี่ว่าพ่อแคทเป็นพวกหัวโบราณสุดๆ ขืนรู้ว่าที่ผ่านมาพวกเราแอบแซ่บกันแล้วตั้งหลายครั้ง มีหวัง...ชึ้บ!” หญิงสาวทำท่าเอานิ้วชี้ปาดคอตัวเองด้วยสีหน้าสยองขั้นสุด“ในเมื่อเธอก็โสดแล้ว พี่เองก็ไม่มีใคร ถ้าต้องแต่งกันจริงๆ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่”“อย่ามาล้อเล่น หน้าสิ่วหน้าขวานนะคะ นี่แคทซีเรียส นะ พวกเราก็แค่แกล้งๆ คบกันตบตาชาวบ้าน เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกพ่อแม่จับคลุมถุงชน ถ้าขืนแต่งงานกันก็ผิดวัตถุประสง
“ก็ถ้ารู้ว่าต้องเสียค่าปรับแบบนี้ แคทน่าจะแถมให้อีตาบ้านั่นอีกสักหมัดสองหมัด เจ็บใจนัก”หญิงสาวบ่นอุบ จนคนฟังถึงกับส่ายหน้า ขืนไม่รีบสลบเหมือดคาที่สิ มีหวังเจ้าวรพลนั่นคงเดี้ยง ไม่ก็คงได้จองเมรุไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นเจ้าหมอนั่นก็คงเข็ดขยาดไปไม่น้อย เมื่อเจอตอสุดแสบอย่างแคทรียาคนนี้ เห็นตัวผอมๆ เพรียวๆ ใครจะคิดว่าเจ้าหล่อนจะแรงเยอะเอาเรื่องใช่ย่อย เล่นเอาผู้ชายตัวโตกว่าสลบคาที่ไม่พอ แม่ตัวดียังขอแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายมารังควานเธออีกแต่กระนั้นเขาก็ยังไม่วางใจเมื่อเห็นแววตาอาฆาตจากอีกฝ่ายก่อนที่จะยอมแยกย้ายกลับไปแบบมือเปล่า“คิดอะไรอยู่เหรอคะพี่ดิว”“เมื่อกี้เธอเห็นสายตาของไอ้หมอนั่นไหม พี่ว่าท่าทางมันไม่น่าไว้ใจนะ ระหว่างนี้เธออย่ากลับไปพักที่คอนโดนั่นจะดีกว่านะ เพื่อความปลอดภัย”“พี่เป็นห่วงแคทด้วยเหรอคะ”“น้อยๆ หน่อย อย่าหลงตัวเอง...” แคทรียาเบ้ปากใส่“ไม่ให้พักที่คอนโดตัวเองแล้วจะให้ไปนอนที่ไหน ช่วงนี้แคทไม่อยากกลับไปนอนที่บ้านนี่นา”“งั้นก็ไปพักที่คอนโดพี่ก่อนแล้วกัน” หญิงสาวหันไปทำตาโตใส่คนใจป้ำ“ไปนอนคอนโดพี่เนี่ยนะ นี่ไม่ได้คิดมิดีมิร้ายหรือมีจุดประสงค์แ
เมื่อขาเรียวสวยเสยเข้าที่ปลายคางของอีกฝ่ายอย่างจังจนสลบเหมือดกลางอากาศ ท่ามกลางสายตาไทยมุงทุกคนมองภาพนั้นตาค้าง ดิฐกรถึงกับอึ้ง เสียวทั้งเป้ากางเกงและปลายคางวาบ ชักรู้สึกเห็นใจไอ้หมอนั่นขึ้นมาหน่อยๆ แต่มันก็สมควรโดนแล้ว“อูย...” แคทรียาแอบครางเบาๆ ความโมโหทำให้เธอลืมตัวไปว่าเธอยังไม่หายระบมจากศึกหนักบนเตียงเมื่อคืน“เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม” ดิฐกรรีบเข้าไปประคองหญิงสาวไว้ด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไรค่ะ สะใจชะมัด เสียดายไม่น่ารีบใจเสาะสลบเหมือดแบบนี้เลย ไม่งั้นแคทจะได้จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบให้อีกสักยกเอาให้เข็ดหลาบ ปากดีนัก”“พอเถอะ แค่นี้ก็ไม่รู้จะฟื้นตอนไหนแล้ว เธอไปเรียนต่อยมวยมาจากไหนนี่”“ไม่ใช่แค่ต่อยมวยนะคะ เทควันโด้ ยูโด คาราเต้ ฟันดาบ หรือว่ายิงปืนแคทก็ได้เหรียญทองมาแล้วทั้งนั้น”ดิฐกรฟังแม่ตัวยุ่งบรรยายสรรพคุณตัวเองอย่างอึ้งทึ่งเสียว ดวงตาคมกริบเหลือบมองวรพลที่นอนนิ่งหายใจรวยรินอย่างเห็นใจระคนสมเพชเวทนา หมอนี่มันจะรู้ไหมว่ามาแหยมผิดคน“แคทล้อเล่นค่ะ อย่าบอกนะว่าพี่เชื่อด้วย” หญิงสาวหัวเราะออกมาอย่างสดใส พลางคลี่ยิ้มหวานใส่ตาของเขา จนทำเอาดิฐกรถึงกับตาพร่าไปชั่วขณะ ความคิดหน
วรพลมองภาพหน้าจอตาค้าง เหงื่อกาฬผุดเต็มหน้าเมื่อเห็นหลักฐานที่มัดตัวเขาแน่นทั้งคลิปทั้งรูปถ่ายจนดิ้นไม่หลุด แก้ตัวไม่ออก แต่เขาก็ฝืนดังทุรัง“ก็แค่คนหน้าเหมือนหรือเปล่า ถ่ายไกลขนาดนั้น คุณอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ สิ”“หน้าเหมือนหรือหน้าด้านยะ คลิปกับรูปนั่นฉันเห็นเองกับตา ถ่ายเองกับมือ เดินตามดูจนแน่ใจว่าไม่ผิดตัว ไม่ได้ตัดต่อด้วย อ้อ! แล้วฉันก็ยังโทรเช็กเองด้วย จำได้ว่าคุณบอกติดประชุมที่บริษัท แต่กลับมาจู๋จี๋กับกิ๊กที่ร้านอาหารญี่ปุ่น จะเอาหลักฐานอะไรอีกไหม ไงล่ะ ถึงกับอึ้งไปเลยเหรอ”วรพลถึงกับหน้าซีดเมื่อถูกจับโป๊ะจนไปไม่เป็น“มะ...มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ แคทที่รักฟังผมก่อน ผมอธิบายได้นะดาร์ลิง”“จะอธิบายว่าไงล่ะ อธิบายว่าทำไมถึงนอกใจฉันไปมีกิ๊กงี้เหรอ ไงล่ะ พอโดนสวมเขา เห็นแฟนตัวเองนอกใจมีกิ๊กบ้างถึงกับรับไม่ได้เลยหรือไง”“แคท ไม่ใช่อย่างนั้นนะ”“แล้วมันยังไงล่ะ ที่ผ่านมายังตอแหลไม่พออีกหรือไง จะเลิกตอแหลกี่โมงเนี่ย ฉันขี้เกียจฟังคำแก้ตัวแล้ว เสียเวลาชีวิต นายไม่ได้มีค่ามากพอขนาดนั้นหรอกนะ รู้ไว้ด้วย ที่ผ่านมาฉันก็แค่เวทนาเก็บงูเห่ามาเลี้ยง แต่ดันเลี้ยงไม่เชื่อง จากนี้ไปก็ทางใครทางมันแ
“น้อยๆ หน่อย ค่าตัวพี่แรงนะ เธอจะจ่ายไหวเหรอ ไอ้ประเภทจ่ายพันสองพันแล้วคิดจะใช้งานกันเกินคุ้มน่ะ เลิกคิดเลิกฝันได้” เขาเหน็บแนมคนที่เคยควักจ่ายค่าตัวเขาสองพันแล้วชิ่งหนี“แรงน่ะเท่าไหร่คะ แคทมีปัญญาจ่ายแล้วกัน หรือจะให้สแกนคิวอาร์โค้ดตอนนี้เลยก็ได้”“ปากดีแบบนี้ ระวังต้องจ่ายจนหมดตัว”แคทรียาย่นจมูก มองคนขี้อวดอย่างหมั่นไส้“อย่าเวอร์ค่ะ พี่ก็แค่ของมือสองใช้มาจนเยินแล้วด้วย จะมาโก่งค่าตัวทำไม แถมตอนนี้ก็มีตำหนิเต็มตัวด้วย ใครจะไปอยากได้ ขายเซียงกงจะรับไหมก็ไม่รู้เลย ฮึ”ดิฐกรฟังแล้วอยากดีดปากแม่ตัวดีให้บวมเจ่อ โทษฐานที่บังอาจมาดิสเครดิตว่าเขาเป็นของมือสองใช้แล้วแถมมีตำหนิอีก อย่างนี้ต้องเจอดีเสียแล้ว “ว้าย! พี่ดิวจะทำอะไร เดี๋ยวน้องตก”แคทรียาเอะอะ เมื่อจู่ๆ ก็ถูกช้อนอุ้มขึ้นจากเตียงกะทันหัน จนเธอต้องรีบโอบรอบคอเขาไว้กันตก“เดี๋ยวก็รู้!”ว่าแล้วเขาก็อุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำ แล้ววางลงในอ่างจากุซซี่เพื่อเริ่มต้นทำการทดสอบคุณภาพสินค้ากันอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม จนหญิงสาวแทบสำลักความสุขส่งเสียงครวญครางออกมาไม่ขาดปาก กว่าที่การทดสอบสินค้าจะสิ้นสุดก็กินเวลาจนเกือบเที่ยง ดิฐกรถึงอุ้มเธอออกม
ดีเท่าไหร่เขาไม่บีบคอเธอตายคามือโทษฐานที่ย่ำยีร่างกายบุรุษจนลายพร้อยไปทั้งตัว นี่ยังไม่นับใต้ร่มผ้า ยิ่งอยากจะลืม ภาพความป่าเถื่อนต่างๆ ก็ไหลเข้ามาในสมองไม่หยุดทีนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะยัยแคทเอ๊ยกำลังคิดหาทางหนีทีไล่ จู่ๆ ดวงตาที่หลับพริ้มก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นและจ้องมองมาที่เธอจนเกือบสะดุ้ง“พะ...พี่ดิว เอ่อคือ...เรื่องเมื่อคืน แคท...” จู่ๆ สมองก็ชอร์ตขึ้นมาดื้อๆ เสียอย่างนั้น ปากมันพูดไม่ออก เลือดก็วิ่งขึ้นใบหน้าจนร้อนผ่าวๆ“เมื่อคืนแคททำไม” เขาถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่งจนอ่านไม่ออกว่าโกรธหรืออะไร ยิ่งทำให้คนมีชนักถึงกับร้อนๆ หนาวๆ“ก็...”ถ้าจะจ้องกันขนาดนี้ เอามีดมาแทงเลยดีกว่าไหม คนยิ่งเขินๆ อยู่ หญิงสาวนินทาในใจ“ก็เรื่องที่แคททำพี่เจ็บตัวเมื่อคืนไงคะ”“อ๋อ...”“อ๋ออะไรคะ จะด่าอะไรก็ด่ามาเลย อูย...” เพียงขยับก็โดนร่างกายประท้วงจนน้ำตาแทบเล็ด“เจ็บตรงนั้นล่ะสิ” เสียงนุ่มหูแกล้งกระซิบถามให้เขิน“อืม...”“ใช้งานหนักไปหน่อย งั้นก็พักสักวันเถอะ เมื่อคืนแทบไม่ได้พัก โดนเธอปล้ำทั้งคืน เพลียจะแย่”“ปะ...ปล้ำ...”คนฟังรู้สึกหน้าร้อนฉ่า เมื่อคิดถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไปตอนที่ถูกยาผีบ้านั่
แคทรียากลับยอมให้หมอนั่นกอด แถมยังกอดตอบ และยื่นมือไปดึงใบหน้าชายคนนั้นเข้ามาจูบอย่างดูดดื่มโดยไม่สนสายตาใครราวกับถูกฟ้าผ่าเปรี้ยงที่กลางหัว ภาพบาดตาตรงหน้าทำให้วรพลถึงกับช็อกตาตั้ง ตัวแข็งทื่อ หน้าชาเหมือนโดนชกแรงๆ ซ้ำๆ นี่เองใช่ไหมเหตุผลที่เธอทำตัวแปลกไป ทั้งเย็นชาเหินห่างกับเขา ไหนจะเสียงผู้ชายที่รับโทรศัพท์ในตอนนั้นที่แท้เธอก็นอกใจเขานี่เอง!วรพลบดสันกรามแน่นด้วยความโมโหจนหน้ามืด ขาดสติ เขารีบจ้ำอ้าวจะตรงเข้าไปเอาเรื่องสองหนุ่มสาวที่ยืนกอดจูบเย้ยฟ้า แต่ทว่ากลับถูกขวางไว้“หลีกไปนะ นั่นแฟนผม ผมจะไปหาแฟน หลีกไปสิ!”“คุณเข้าไม่ได้ครับ” เจ้าหน้าที่รปภ.หันไปเรียกเพื่อนอีกสองคนเข้ามาขวางไว้ไม่ยอมให้ผ่านเข้าไปง่ายๆ เกิดการยื้อยุดกัน จนสุดท้ายวรพลก็ถูกผลักจนกระเด็นหงายหลังก้นจ้ำเบ้าอย่างหมดท่า“แคท!”เมื่อสู้แรงไม่ไหววรพลจึงได้ตะโกนเรียกแฟนสาวเสียงดังลั่นอย่างสิ้นหวัง แต่ทว่าสองหนุ่มสาวก็เดินเข้าไปในตึกคอนโดเสียแล้วเลยไม่ได้ยินเสียงเรียกของเขาชายหนุ่มกัดฟันกรอด กำมือแน่น ในใจร้อนรุ่มประหนึ่งมีกองไฟนรกแผดเผา ยัยบ้านั่นทำแบบนี้กับเขาได้อย่างไร ทีกับเขาเป็นแฟนกัน ทำได้แค่จับมือ จะจูบทีก็ห
“เดี๋ยวสิ พี่ดิว...” คำพูดนั้นถูกกลืนลงคอไปในทันใด เมื่ออีกฝ่ายจัดการปิดปากสวยๆ ของเธอด้วยริมฝีปากอุ่นร้อน ท่ามกลางสายตาของทุกคนในผับ บางคนถึงกับคว้าโทรศัพท์มาแอบถ่ายคลิปบอสและพรรคพวกที่มาด้วยกันมองภาพนั้นตาค้างเติ่งเมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก แคทรียาก็เกือบเข่าอ่อน จูบดูดวิญญาณของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงกระหน่ำแทบทะลุอก จู่ๆ ร่างกายก็พลันร้อนวูบวาบขึ้นมา เลือดสูบฉีดขึ้นไปที่ใบหน้าสวยเก๋จนแดงซ่าน“หึ!” ดิฐกรกดยิ้มมุมปาก นึกอยากจะรังแกแม่สาวซ่าขึ้นมาอีกสักรอบ “ทีนี้จะกลับได้หรือยัง”“...”ไม่รอให้หญิงสาวตอบ เขาก็จัดการช้อนอุ้มร่างอรชรขึ้นแล้วพาเดินฝ่าวงล้อมไทยมุงออกไปโดยไม่สนใครหน้าไหนจะว่ายังไงทั้งนั้นดิฐกรอุ้มหญิงสาวออกมาถึงด้านหน้าผับเพื่อเรียกแท็กซี่ คืนนี้เขาดื่มไปไม่น้อยเหมือนกัน เลยไม่อยากขับรถกลับเองและอีกเหตุผลคือ...“พี่ดิว...อื้อ...แคทร้อนจัง เวียนหัวจะอ้วกด้วย ปล่อยก่อน...”ชายหนุ่มก้มมองใบหน้าสวยเก๋ที่ตอนนี้ซีดเผือดมีเหงื่อซึมผุดพรายเต็มหน้า ดูเหมือนยานั่นเริ่มจะออกฤทธิ์เสียแล้ว“ทนหน่อย เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว”“ไม่เอา แคทไม่กลับบ้าน เดี๋ยวพ่อด่า”“ทีอย่างนี้ล่ะกลัวพ่อด