“ไง เจ้าตัวเล็กของแม่ ขอโทษนะที่แม่ทำให้หนูตกใจอีกแล้ว แต่คราวหน้าแม่สัญญาว่าจะระวังให้มากกว่านี้นะคะคนดี” มือบางลูบไปที่หน้าท้องที่เริ่มมีความนูนให้เห็นเพียงไม่นานคีรินก็เดินกลับมาพร้อมกับถุงยาในมือ เขายื่นมือมาช่วยประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้นอย่างอ่อนโยน จนเธอแอบเกรงใจ“คิดไว้หรือยังครับว่าจะพาผมไปดินเนอร์ที่ไหนดี”“ผู้จัดการ...”“อะแฮ่ม! ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ที่บริษัท เรียกใหม่ครับ”มิรันดามองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มที่เธอเพิ่งรู้จักแค่เพียงวันเดียวอย่างครุ่นคิดจีบเปล่าวะเนี่ยฮื้อ...ไม่หรอกมั้ง เขาออกจะหล่อ โพรไฟล์ก็เริ่ด จะมาสนใจอะไรกับคนท้องอย่างเธอ ถึงจะท้องแบบไร้พันธะแล้วก็เถอะ ไปหาสาวโสดสวยๆ คนอื่นไม่ดีกว่าหรือ พอคิดได้ดังนั้นก็สบายใจขึ้น“คุณคิม”“ว่าไงครับผม”“คุณนี่...” หญิงสาวรีบหลบลูกตาวาวๆ ที่มองมา เหาตัวใหม่นี่ดูท่าจะหว่านเสน่ห์เก่งเหลือเกิน“ผมทำไมเหรอ”“คิดจะไปกินข้าวกับมี่ ไม่กลัวคนที่บ้านว่าเหรอคะ”“ใครจะมาว่าคนโสดอย่างผม”“โสดเนี่ยนะ” มิรันดาแกล้งทำตาโตใส่ “ใครจะไปเชื่อ”“ใครไม่เชื่อก็ช่าง แค่คุณเชื่อคนเดียวก็พอ”คำนั้นทำเอาคนฟังเหวอ มองสบตาคนพูดค้างนอกจากมีโชคเรื่องห
คีรินรับรู้ถึงแรงสั่นสะท้านจากคนข้างกายเพราะคำถามนั้น เขาจึงตัดสินใจดึงมือนุ่มเย็นเฉียบมากุมไว้ราวกับส่งกำลังใจให้ มิรันดาเงยหน้ามองสบตาเจ้าของมืออบอุ่นอย่างซึ้งใจ รับรู้ได้ถึงสิ่งที่เขาส่งมาให้ราวกับเป็นหลักให้เธอยึดเกาะในยามยาก ทั้งที่เขาควรไม่พอใจที่โดนเธอยืมมือมาประชดอดีตคนเคยรักด้วยซ้ำดิฐกรตาวาวโรจน์เมื่อเห็นภาพอันบาดใจนั่น ต่อหน้าผัวยังมาสบตาผู้ชายคนอื่นแบบนี้ มิรันดาเห็นเขาอยู่ในสายตาบ้างไหม“ว่าไงล่ะ ก่อนหรือหลัง”“เรื่องนั้นสำคัญด้วยเหรอครับ” เป็นคีรินที่ตอบแทน“สำคัญสิ ถ้าคบกันก่อนเลิก ก็คือการคบชู้นอกใจ แต่ถ้าหลังเลิก คุณก็คงไม่ปกติ”“ไม่ปกติ...ยังไงเหรอครับ”“ก็ไม่ปกติตรงที่...ชอบกินของเก่าที่คนอื่นคายทิ้งแล้วน่ะสิ”“ของเก่างั้นเหรอ?”มิรันดาฟังแล้วของขึ้น นึกอยากจะข่วนหน้าคนพูดให้แหกยับเยินคามือ แต่ยังไม่ทันได้ทำอย่างที่คิด มืออุ่นๆ ก็กระชับมือเธอไว้แน่นขึ้นเหมือนช่วยดึงสติให้กลับคืนมา“คุณพูดเหมือนเสียดายเลยนะครับ”ดิฐกรสะอึกอึ้ง หน้าเปลี่ยนสี เมื่อถูกแทงใจดำจังๆ“เหอะ เสียดายทำไม ผมก็แค่เห็นใจคุณต่างหาก”“เห็นใจตัวเองดีกว่าครับ”“หมายความว่าไง”“ของที่คุณทิ้งขว้างเพราะ
เลิกกันไม่ทันไร ยัยนั่นก็ท้องกับผู้ชายคนใหม่แล้วเหรอ แต่มันเร็วไปไหม แล้วถ้าหากสองคนนั่นคบกันก่อนหน้าที่จะเลิกกับเขาล่ะ ลูกในท้องนั่นมันควรจะเป็นลูกใครกันแน่ไม่ได้การ เขาต้องได้คำตอบจากมิรันดาเดี๋ยวนี้ หาไม่คงค้างคาใจไปอีกนานเป็นแน่ไวเท่าใจคิด แทนที่เขาจะเดินไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการประหลาดอย่างที่ตั้งใจมาแต่แรก ดิฐกรกลับเบนเท้าเดินจ้ำอ้าวตามทางที่คนทั้งสองเดินจากไปแทน ทันเห็นทั้งสองขึ้นรถคันหรูแล้วขับออกไป ทำให้เขาต้องรีบโบกเรียกแท็กซี่คันหนึ่งที่แล่นผ่านเข้ามา“ตามรถคันนั้นไป”ตั้งแต่รถแล่นออกจากโรงพยาบาล มิรันดาก็เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา คีรินหันไปมองหญิงสาวข้างกายด้วยสายตาเป็นห่วงระคนเห็นใจอย่างที่ไม่เคยมีความรู้สึกนี้กับใครมาก่อนตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แย่ๆ ที่บริษัท แล้วไหนจะเรื่องที่โรงพยาบาลอีก ยิ่งเขาได้เห็นได้ยินสิ่งที่ ‘คนในอดีต’ ของเธอพูดและแสดงออกมาแบบนั้น เป็นคนอื่นคงรับมือไม่ไหว ไม่ก็ร้องไห้ฟูมฟายออกมาแล้วทว่าจนถึงเดี๋ยวนี้เขาก็ยังไม่เห็นน้ำตาของผู้หญิงข้างกายสักหยด หากนั่นกลับทำให้เขายิ่งเป็นห่วงกว่าเดิม เพียงแต่ก็ไม่อยากถามละลาบละล้วงในสิ่งที่เจ้าตัวไม่อยากเล่า แต่หาก
“ผมไม่ได้กลัวตัวเองเดือดร้อน ห่วงก็แต่คุณต่างหาก เอาอย่างนี้ไหม ผมคิดออกอยู่วิธีหนึ่ง”“อะไรคะ” มิรันดาถามพลางหันไปมองด้านหลังเป็นระยะๆ“ในเมื่อเขาอยากจับผิดนักก็ให้จับไป เขาคงไม่เชื่อว่าเรากำลังคบกันจริงๆ”เพราะมัวแต่ห่วงหน้าพะวงหลังทำให้มิรันดาไม่ทันตีความหมายของประโยคสุดท้ายที่อีกฝ่ายบอก“สิ่งที่เราต้องทำก็คือเล่นให้เนียน”“เล่นอะไรคะ”“ก็เล่นบทต่อจากเมื่อกี้ไงล่ะ”“ลำบากไปไหมคะนั่น มี่ว่าเขาแค่อยากเอาชนะไปอย่างนั้นเอง เดี๋ยวเหนื่อยแล้วก็คงเลิกไปเอง เราอย่าไปสนใจเลยดีกว่า” มิรันดาบอกอย่างรู้นิสัยอดีตคนรักเก่า ดิฐกรเป็นคนขี้เบื่อ เขาทนอะไรนานๆ ไม่ได้หรอก ดูแต่เธอสิเขายังเบื่อได้ลงคอเลย“แน่ใจนะครับ ผมว่าเขาคงไม่รามือง่ายๆ แน่ หรือคุณคิดจะกลับไปคืนดี…”“ไม่ค่ะ” มิรันดาโพล่งออกมาโดยไม่ต้องคิด “สำหรับมี่เลิกคือเลิก ตัดคือตัด ต่างคนต่างอยู่”“แล้วลูกล่ะ เด็กทุกคนต้องการทั้งพ่อและแม่นะครับ”“มี่จะเป็นทั้งพ่อทั้งแม่ที่ดีที่สุดให้ลูกเองค่ะ” หากมีพ่อเฮงซวยแบบนั้น เธอยอมให้ลูกมีเธอคนเดียวเสียยังดีกว่า“แปลว่ายังไงก็ไม่กลับไปคืนดีแน่ใช่ไหมครับ”“แน่นอนค่ะ”คำตอบนั้นทำให้คนฟังแอบชื่นชมในความใจ
“คุณยิ้มแล้วน่ารักดีนะ น่าจะยิ้มแบบนี้บ่อยๆ”คำนั้นทำเอาคนถูกชมหน้าร้อนผ่าว นี่เธอเผลอแสดงออกมากไปไหม ถึงยังไงอีกฝ่ายก็เป็นเจ้านาย ไม่สิ ตอนนี้เธอตัดสินใจลาออกแล้ว คนตรงหน้าก็เท่ากับไม่ใช่เจ้านายอีกต่อไป แล้วเธอควรวางอีกฝ่ายในฐานะอะไรเล่า คนรู้จัก หรือเพื่อนก็ไม่น่าจะได้“มาครับ เดี๋ยวผมสั่งอาหารให้คุณเองดีกว่า ไหนดูซิ กินอะไรดีนะ”มิรันดาลอบถอนหายใจ เธออาจจะคิดมากไปเอง เขาก็แค่ใจดีเพราะเห็นเธอกำลังท้องและเพิ่งเจอเรื่องแย่ๆ มาทั้งวัน คงไม่มีอะไรมากกว่านี้ พอคิดถึงเรื่องแย่ๆ ตาก็เผลอมองไปทางคนที่นั่งกอดอกจ้องเขม็งมาที่ตนนี่ก็จะมองอะไรนักหนา ทีตอนอยากให้มองแทบตาย เขากลับเมิน มาตอนนี้ทำมาเป็นหวงก้างเฮ้อ...หวงให้ดิ้นตายไปเลยก็ดีพออาหารที่สั่งเริ่มทยอยมาเสิร์ฟ มิรันดาก็พลันลืมคนหวงก้างไปทันที อาหารที่คีรินสั่งมา หลายจานเป็นเมนูโปรดของเธอ แต่เขาจะรู้ได้ยังไงว่าเธอชอบกินอะไร ขนาดดิฐกรที่อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปียังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าเธอชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไร มีแต่เธอที่จดจำของชอบเขาได้คิดแล้วก็น่าโมโหที่เพิ่งมาสังเกตเอาป่านนี้ว่าความรักความใส่ใจของเรามันไม่เคยเท่ากัน“พอกินได้ไหมครับ ผม
“คุณคิมออกไปรอข้างนอกก่อนนะคะ เดี๋ยวมี่ตามไป”พอคล้อยหลังคีริน มิรันดาก็เรียกพนักงานเสิร์ฟชายคนหนึ่งที่เดินผ่านมาพร้อมกับพูดอะไรบางอย่างด้วยสองสามคำ แล้วจึงเดินตามออกไปหาคีรินที่ยืนรอเธออยู่ที่หน้าร้าน“งั้นก็ไปกันเถอะค่ะ”มิรันดาปรายตาไปมองพนักงานคนนั้นที่เดินไปทางห้องน้ำชายของร้าน นี่คือสิ่งสุดท้ายที่เธอจะทำให้เขาในฐานะคนเคยรักกัน หวังว่าต่อจากนี้ไปเธอและเขาคงไม่ได้พบกันอีก อยู่ให้ห่างกันให้ไกลสมกับที่เขาต้องการจากนี้ไปเธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สวยและรวยมาก เป็นซิงเกิลมัมสุดเริ่ดของลูกสุดน่ารักให้คนบางคนเสียดายเล่นลาก่อนนะ...คุณผัวเก่าแสนเฮงซวย ลาขาด!เวลาต่อมา…ดิฐกรเดินสะโหลสะเหลออกมาจากห้องน้ำ หลังจากอาเจียนจนหมดไส้หมดพุงไปหลายยก ยังดีที่ได้พนักงานของทางร้านเข้าไปช่วยเหลือ หาไม่เขาคงนอนสลบคาที่อยู่ในนั้น ลึกๆ ก็แอบผิดหวังที่คนมาช่วยไม่ใช่มิรันดาอย่างที่คิดแต่แรกทั้งที่แน่ใจว่าอีกฝ่ายต้องเห็นแน่ และเธอคงไม่อาจอยู่เฉยเมื่อเห็นอาการผิดปกติแบบนั้น เหมือนทุกครั้งเวลาที่เขาป่วยไข้ มิรันดาจะอดหลับอดนอนคอยอยู่ดูแลจนกว่าเขาจะหายดี ก็เคยมาแล้วยิ่งคิดก็ยิ่งใจวิบหวิว ดวงตาอิดโรยรีบหันมองไ
แต่จะต้องทำยังไงดีล่ะถึงจะได้เธอกลับคืนมา ตอนนี้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอไปอยู่ที่ไหน หรือหากรู้ก็ไม่แน่ว่าคนใหม่ของมิรันดาจะยอมปล่อยเธอให้กลับมาหาเขาไหม“โว้ย!” ชายหนุ่มระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างสุดกลั้นเขาจะทำยังไงให้เธอยอมกลับมาคืนดีอีกครั้ง ต้องทำยังไงถึงมิรันดาถึงจะยอมให้อภัย ในเมื่อโดนเขาผิดสัญญาแล้วยังทำร้ายจิตใจไปขนาดนั้นอยากจะบ้าตาย...หรือกูต้องโทรไปปรึกษาพี่อ้อยพี่ฉอดดีวะ ทำยังไงจะได้เมียคืน!โดยดิฐกรหารู้ไม่ว่าตอนนี้เมียที่เขาอยากได้คืนนั้น ชีวิตกลับสวนทางกับเขาโดยสิ้นเชิงหลังจากเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกับวันวิสาในวันนั้น มิรันดาก็ตัดสินใจลาออกจากงานและถือโอกาสพักผ่อนให้สบายใจสักระยะพอผ่านเหตุการณ์เพียงวันเดียว ซีเอ็นเอ็นประจำแผนกอย่างดาวก็รีบโทรมารายงานข่าวด่วน หลังคลิปที่ถ่ายเหตุการณ์ขณะมีเรื่องกัน กลายเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้วันวิสาถูกเรียกเข้าห้องเย็นทันทีคนในแผนกที่เห็นเหตุการณ์ถูกเรียกไปเป็นพยานก็พูดในทิศทางเดียวกันที่ว่าวันวิสาเป็นคนหาเรื่องก่อน เพราะไม่พอใจที่มิรันดาหักหน้าตนกลางที่ประชุม แถมยังมีบางคนที่รายงานเพิ่มเติมเกี่ยวเรื่องการทำงานของหัวหน้าแผนกที่ไม่เป็นโล้เป็นพ
“อ้าว ไอ้ราม เข้ามาได้ไงวะ”คนถูกถามถอนหายใจ เป็นเอามากแฮะ“ก็ให้เขางัดห้องเข้ามาน่ะสิ ถามได้ กูก็นึกว่ามึงตายขึ้นอืดเสียแล้วไหมล่ะ”“อืม กูมันน่าตายจริงๆ”พิรามใจหายเมื่อได้ฟังน้ำเสียงอ่อนล้านั่น ดิฐกรที่เขารู้จักไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน คนหล่อเหลาที่มั่นใจตัวเองสูงมากจนถึงขั้นหลงตัวเองก็ว่าได้ มาวันนี้กลับหมดสภาพ ทั้งที่ควรจะลัลล้าที่ได้เป็นอิสระจากเมียมันจะเพราะอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่“เฮ้อ...เรื่องน้องมี่เหรอ”“อืม...”“ก็มึงอยากเลิกกับเขาเอง อยากมีอิสระไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ก็ได้อย่างที่มึงต้องการแล้วนี่หว่า น้องเขาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรด้วย นอกจากเงินฝากที่เป็นส่วนของเขา แล้วมึงยังเอาอะไรอีก”“กูอยากได้มี่คืน กูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา กูไม่อยากเสียเขาไปแบบนี้” ดิฐกรระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมาเป็นชุดหลายวันที่ผ่านมา เขาได้คิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็พบว่าทุกอย่างมันผิดพลาดไปหมด ต้นเหตุก็เพราะเขาคนเดียวที่มันโง่เองที่มองไม่เห็นความดีของมิรันดา มีของดีในมือยังเบื่อจะไปหาของใหม่ แล้วไงพอเกิดเรื่องเขาก็โดนทิ้งเหมือนหมาขี้เรื้อน คิดว่าผู้หญิงคนใหม่อย่างเจนิสาจะมาแทนมิรันดาได้‘เบื่อมากไหม’‘มากสิ.
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู...” เสียงเพลงวันเกิดดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงโปร่งของดิฐกรและลูกสาวเดินถือเค้กน่ารักออกมาทำให้เจ้าของวันเกิดสาวถึงกับยกมือปิดปากน้ำตารื้นคิดถึงวันเกิดครั้งแรกที่เขาเคยจัดให้“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทู...ยู” พอเพลงจบชายหนุ่มก็ยื่นเค้กวันเกิดมาตรงหน้าของมิรันดา“อธิษฐานสิมี่”มิรันดาหันไปมองคนรอบข้างทั้งเพื่อนเธอแล้วยังมีครอบครัวของดิฐกรพร้อมหน้า ทำให้เธออดคิดถึงวันเกิดของดิฐกรในปีนั้นที่เธอต้องนั่งรอเขาคนเดียว ก่อนเลิกกัน มาวันนี้เขากลับเป็นคนถือเค้กออกมาให้เธออีกครั้งพร้อมกับลูกสาวสุดที่รักชีวิตเธอควรจะมีความสุขสมบูรณ์เมื่อมีทุกอย่างที่ผู้หญิงคนหนึ่งควรมีแล้ว แต่ทว่ายังมีใครอีกคนที่เธอกำลังรอคอยอยู่ และอดลุ้นไม่ได้ว่าเขาคนนั้นจะยอมมาร่วมฉลองวันเกิดกับเธอไหมมิรันดาหลับตาอธิษฐานในใจ ก่อนจะเป่าเค้กวันเกิดจนดับ ท่ามกลางเสียงปรบมือของทุกคน“สุขสันต์วันเกิดครับมี่” ดิฐกรอวยพร พร้อมกับยื่นกล่องของขวัญเล็กๆ ใบหนึ่งให้“อะไรคะ”“ลองเปิดดูสิครับ”มิรันดาทำตามที่เขาบอกและพบว่าของในกล่องคือ...สร้อยแทนใจเส้นนั้น“นี่มัน!”“ของขวัญชิ้นแรกที่พี่ให้มี่ไง” คำนั้นทำใ
แม้ชีวิตของเธอกับลูกจะมีสีสันมากขึ้น ทว่ากลับมีบางสิ่งที่หายไปแทน แม้กระทั่งคนรอบข้างเองก็ยังรู้สึก“แม่มี่ขา...” เจ้าของขวัญวิ่งตุ๊บตั๊บเข้ามากอดเอวอ้อนแม่ หลังจากที่เพิ่งส่งคุณปู่คุณย่าและลุงดลกลับไปเมื่อครู่“ขา...คนเก่ง”“เมื่อไหร่ลุงคิมจะมาบ้านเราอีกคะ น้องมิวคิดถึงม้ากมาก ทำไมคราวนี้ลุงคิมไปเมืองนอกนานจังคะ” คำถามนั้นทำให้เธอสะอึกอึ้งไป เพราะรู้เหตุผลที่อีกฝ่ายหายไปดีกว่าใคร“นั่นสิแก นี่มันก็นานแล้วนะ คุณคิมเขาไม่บอกแกเหรอว่าจะกลับเมื่อไหร่ ถามยายดาวก็บอกไม่รู้” “เปล่า ไม่ได้บอก” หลังจากวันที่เขาบอกรักและจูบเธอวันนั้น คีรินก็หายหน้าไป หรือเขาจะถอดใจเสียแล้วนะ หรือเธอเล่นตัวมากไป“ยัยนิ ฉันถามหน่อยสิ”“อะไร ถามอะไร ทำหน้าเครียดแบบนี้ เรื่องใหญ่ล่ะสิ” “คือ...จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องฉันหรอก แต่เป็นเรื่องคนอื่นอีกที คือเขามีผู้ชายมาสารภาพรัก แล้วก็ขอแต่งงานน่ะ แต่เขายังเข็ดกับความรักที่โดนแฟนเก่าทิ้งจนกลัวจะมีรักใหม่เลยปฏิเสธผู้ชายคนนั้นไป”“นั่นไง ฉันว่าแล้วเชียว คุณคิมหายไปเพราะโดนแกปฏิเสธนี่เอง”“เฮ้ย! ไม่ใช่ฉัน”“แหม แต่สตอรี่ตรงเชียวนะยะ เฮ้อ...” นิลุบลค้อนเพื่อน “แล้วไง เขาหาย
“คุณ!” มิรันดาแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นเพื่อนบ้านผู้ลึกลับตัวจริง ไม่ใช่คุณป้าที่เธอเคยพบแต่กลับเป็น...อดีตผัวเก่า!“ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย” คนถูกจับได้เลิ่กลั่ก ทำตัวไม่ถูก“เปล่านะ พี่ไม่ได้ทำอะไร ก็แค่เอาอาหารเช้ามาให้มี่กับลูก” คนฟังได้แต่กลอกตาไปมา เชื่อเขาเลย “ทำไมเป็นคุณได้ล่ะ แล้วบ้านหลังนั้นของใครกันแน่”เมื่อถึงคราวจนมุม จำเลยจึงต้องยอมรับสารภาพ“ของพี่เอง” “ว่าไงนะ แล้ววันนั้นคุณป้าที่ออกมารับขนมหน้าบ้านล่ะใครกัน”“นั่นแม่บ้านที่พี่จ้างมาทำความสะอาดน่ะ” เขาสารภาพเสียงอ่อย หน้าจ๋อยสนิทมิรันดาได้ฟังก็สูดหายใจเข้าลึกสุดปอด “ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” “ก็ไม่นานนะ ยังไม่ถึงปี แค่เกือบๆ เอง” คนฟังเริ่มกำหมัด กัดฟันกรอด“มี่ใจเย็นๆ ก่อนนะ พี่ไม่ได้มีเจตนาร้ายกับมี่และลูกของเราเลยนะ” “แล้วทำไปทำไม”“พี่ก็แค่อยากชดเชยความผิดที่ผ่านมาให้มี่กับลูกบ้าง แต่ถ้ามี่ไม่ต้องการพี่ก็จะไม่ทำอีกก็ได้นะ” มิรันดามองคนพูดที่ตอนนี้อ่อนเป็นงูกลัวเชือกกล้วย “มี่จ๋า...พี่สำนึกผิดแล้ว เมื่อไหร่มี่จะยอมให้อภัยพี่สักที อย่างน้อยก็ให้พี่ได้ทำหน้าที่พ่อบ้าง น้องมิวเป็นลูกพี่ ขนาดพ่อแม่พี่น้องของพี่ มี่ก
เสียงประตูเปิดเข้ามาในห้องพักฟื้นผู้ป่วยทำให้ดิฐกรสะดุ้งหันขวับ หัวใจพองฟูอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็ถอนหายใจอย่างผิดหวัง“คุณพ่อให้แคทมาเยี่ยมพี่ดิวค่ะ วันนี้เป็นยังไงบ้างคะ” ดิฐกรมองน้องสาวของศัตรูหัวใจที่มาเยี่ยมเขาเกือบทุกวัน พลางแอบบ่นในใจคนที่อยากให้มาก็ดันไม่มา ส่วนคนที่ไม่อยากเจอกลับขยันมาเสียจริงๆ ทำไมเขาจะไม่รู้แผนของบิดาสุดที่รักกับเพื่อนสนิทของท่านที่ต้องการจับคู่ให้เขากับผู้หญิงสุดเปรี้ยวเข็ดฟันตรงหน้าก็ถ้าหัวใจมันมูปออนกันได้ง่ายๆ เขาคงหาเมียใหม่ได้ไปนานแล้ว ไม่ต้องมานั่งรอเมียเก่าใจอ่อนให้อภัยมาจนถึงวันนี้รอเหมือนโดนสาป ขนาดเจอแล้วก็ยังต้องรอเหมือนเดิม“ผมดีขึ้นมากแล้ว พรุ่งนี้หมอก็ให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วล่ะ คุณแคทไม่ต้องลำบากมาเยี่ยมก็ได้นะครับ”แคทรียาถอนใจอย่างลำไย เธอเองก็ใช่ว่าอยากมา แต่เพราะโดนพ่อกับแม่บังคับให้มาหรอก จะขัดก็ไม่ได้เดี๋ยวระเบิดลง แล้วเธอก็จะโดนตัดออกจากกองมรดกเสียก่อนแถมเรื่องราวของดิฐกรในงานวันเกิดของคุณเมธาก็ดังกระฉ่อนเข้าหูเธอขนาดนั้น ทำให้รู้ว่าที่แท
ฝ่ายคีรินที่พาสองแม่ลูกกลับมาส่งถึงบ้าน เขาก็ช่วยอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยเข้าไปส่งถึงห้องนอน โดยมีมิรันดาเดินตามมาด้านหลัง“ขอบคุณพี่คิมมากนะคะ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่วันนี้มี่ทำให้พี่ต้องพลอยวุ่นวายไปด้วย”“พี่ยินดีวุ่นวาย หากเป็นเรื่องของมี่กับลูก แล้วมี่ล่ะ...”“มี่ทำไมเหรอคะ”“มี่จะยอมให้พี่ผ่านโปรของเราได้หรือยังครับ” คำถามนั้นทำเอาหญิงสาวถึงกับสะดุดลมหายใจตัวเอง“พี่รอได้ แต่ไม่อยากรอแล้ว เรื่องวันนี้ทำให้พี่อยากได้สิทธิ์ในการปกป้องดูแลมี่กับน้องมิว ไม่ให้ใครมาทำให้เสียใจได้อีก พี่รักมี่ แต่งงานกับพี่นะครับ”มิรันดาถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินคำนั้น คำที่เธอเคยอยากให้ดิฐกรพูดกับเธอมาตลอด แต่แล้วกลับเป็นผู้ชายตรงหน้าที่พูดมันออกมา เขาขอเธอแต่งงาน และบอกรัก ถึงจะไม่โรแมนติก แต่เมื่อมองสบตากันเธอก็รับรู้ได้ถึงความจริงในที่เขามีให้“มี่รังเกียจพี่หรือเปล่า หรือว่า...ยังรักเขาอยู่”“ไม่ค่ะ มี่ไม่ได้รักพี่ดิวแล้ว ไม่ได้รักนานแล้ว” คราวนี้หญิงสาวตอบอย่างมั่นใ
ดิฐกรถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินในเวลาต่อมา มิรันดาและคีรินที่พาเขามาส่งโรงพยาบาลนั่งรอหน้าห้อง ชุดเดรสแสนสวยตอนนี้มีคราบเลือดคราบเลอะติดเป็นหย่อมๆ หากเจ้าตัวกลับไม่ได้สนใจ ในสมองยังคงคิดถึงภาพตอนที่คนเจ็บนอนแน่นิ่งจมกองเลือดอย่างน่าตกใจเมื่อครู่ตอนแรกเธอคิดว่าอีกฝ่ายตายไปแล้ว ทว่าโชคดีที่โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ คีรินจึงช่วยเรียกรถพยาบาลมารับได้ไว ชายหนุ่มไม่กล้าเคลื่อนย้ายเอง เพราะเกรงว่าจะทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหนักกว่าเดิม“แม่คะ คุณลุงคนนั้นจะตายไหมคะ” คำถามของลูกน้อย ทำให้ความกลัวแล่นเข้าจับหัวใจของมิรันดาจนสั่นสะท้านไปทั้งร่างเธอเกลียดในสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับเธอจนไม่อยากให้อภัยก็จริง แต่ไม่ได้อยากให้อีกฝ่ายตายจริงอย่างที่ลั่นปากไป“ไม่หรอกลูก คุณลุงต้องไม่เป็นอะไรนะครับ” คีรินปลอบขวัญ“คุณลุงคนนั้นเขาเป็นพ่อน้องมิว จริงๆ เหรอคะแม่มี่”คำถามนั้นเสียดลึกเข้าไปในอก กับความจริงที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้ แม้จะเลิกกันแล้ว แม้เขาจะเคยไม่ต้องการมีลูกกับเธอ แต่เด็กหญิงของขวัญก็คือลูกสาวของดิฐกร ไม่ม
“ทำไมหนูถึงว่าคุณลุงคนนั้นใจร้ายล่ะคะลูก” “ก็เขาเคยมาที่บ้านน้องมิว แล้วก็รังแกแม่มี่ของหนูจนร้องไห้เลย น้องมิวไม่ชอบเขา เขานิสัยไม่ดี” คุณดารณีได้ฟังก็งุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกจนต้อง หันไปมองหน้าลูกชายคนกลางอย่างคาดคั้น“นี่มันเรื่องอะไรกันตาดิว ลูกทำแบบที่น้องมิวว่าจริงเหรอ ทำไปทำไม” “ผม...เอ่อ...แม่ครับ ผมมีเรื่องจะสารภาพ” คำนั้นทำให้ทุกคนนิ่งไป “มี่คือเมียผม แล้วก็น้องมิวก็เป็นลูกของผมแล้วก็เป็นหลานสาวแท้ๆ ของคุณแม่ครับ” “หา! ว่าไงนะตาดิว” คุณดารณีเบิกตาค้างอย่างตื่นตะลึง โชคดีที่แขกเหรื่อเข้างานกันหมดแล้วเหลือแต่พวกเขาเป็นกลุ่มสุดท้าย “นี่มันเรื่องอะไรกันลูก” คีรินกุมมือหญิงสาวไว้แน่น มืออีกข้างก็เอื้อมไปจูงมือเด็กหญิงตัวน้อยไว้ “มี่คือคนที่ผมเคยบอกแม่ เธอเป็นเมียผม แต่เราเลิกกันไปเพราะเข
“ตาคิมเขาพาแฟนมาอวดน่ะสิคุณดา คนนั้นไง” คำนั้นทำให้คุณดารณีหันไปมองที่หญิงสาวข้างกายคีรินทันที “เอ๊ะ! เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าจ๊ะหนู” มิรันดาเองก็จำได้ตั้งแต่เห็นหน้าอีกฝ่ายเช่นกัน“ใช่ค่ะ เจอกันที่โรงพยาบาล” “จริงด้วย ป้าจำได้แล้ว นี่ไงคะแม่หนูที่ฉันเล่าให้คุณฟังว่าช่วยฉันตอนโดนชนจนล้มข้อเท้าพลิกที่โรงพยาบาลไง ตายจริงโลกกลมเหลือเกิน ตาดลลูกก็จำน้องได้ใช่ไหม”“จำได้ครับแม่” ดลธวัชส่งยิ้มให้หญิงสาวผู้มีพระคุณของแม่“แล้วเจ้าแก้มยุ้ยคนนี้ใครจ๊ะ หน้าตาน่าเอ็นดูจริงเชียว” คนอยากมีหลานสาวรู้สึกถูกชะตากับเด็กน้อยตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก “แต่เอ...แม่เคยเห็นหน้าแบบนี้ที่ไหนนะ คุ้นๆ แต่นึกไม่ออก” คุณดารณีครุ่นคิด หากแล้วสายตาก็หันไปเห็นใครบางคนเดินตรงเข้ามาพอดีจึงคิดออก“นึกออกแล้ว หน้าเหมือนตาดิวตอนเด็
เขาอยากไปยืนตรงนั้นแทนที่คีรินเหลือเกิน แต่ยิ่งทำอย่างที่ใจต้องการ ทุกอย่างก็กลับพังไม่เป็นท่า ยิ่งใกล้ก็เหมือนเธอจะยิ่งไกลห่างออกไปทุกที ดูจากที่ร้านไอศกรีมวันนี้ ขนาดนั่งใกล้กันมิรันดายังแทบไม่มองหน้า ไม่สนใจเขาด้วยซ้ำ เธอทำราวกับเขาเป็นเพียงอากาศไร้ตัวตน แล้วจู่ๆ คำพูดของพิรามก็ดังขึ้นในหู‘มูปออนง่ายกว่ามั้งเพื่อน’หรือเขาควรทำเช่นนั้น แต่จะให้ตัดใจจากเธอและลูกยังไง มือหนาหยิบสร้อยรูปจี้หัวใจขึ้นมาดูอย่างปวดใจ“ต้องทำยังไง มี่ถึงจะให้อภัยพี่เสียที พี่ต้องทำยังไง...” เย็นวันต่อมา คีรินก็มาถึงบ้านของหญิงสาวตรงตามเวลานัดเป๊ะ“ลุงคิมมาแล้ว โห...วันนี้หล่อจัง” เด็กหญิงของขวัญทำตาโตมอง ปกติเวลามาหาสองแม่ลูก เขามักจะสวมเสื้อเชิ้ตแบบไม่สวมสูทเพื่อเป็นกันเอง แต่วันนี้เขาใส่ทักซิโด้หล่อเต็มยศ“ไงครับคนสวยของลุง ไหนลองหมุนตัวให้ดูหน่อยได้ไหม”