นานเกือบนาทีกว่าที่ทุกอย่างจะสงบลง“ถึงคราวของผมแล้วไอริน”พลชถอนนิ้วออกอย่างรวดเร็วจนคนถูกบุกรุกใจหาย ร่างกายมันวูบโหวงอย่างแปลกประหลาด เหมือนมีบางอย่างที่ขาดหายไปน้ำรักที่เลขาคนสวยปล่อยออกมาเลอะไปทั้งฝ่ามือ เขาหยิบทิชชู่มาเช็ด ก่อนจะรั้งให้ร่างอ่อนระทวยลุกขึ้นนั่ง พลชลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทำให้ใบ
ไอรินแก้มร้อนวูบ รีบหลบสายตาคู่นั้นเพราะก้อนเนื้อที่อกซ้ายมันเต้นแรงขึ้น บอสของเธอไม่ค่อยยิ้มจนเหมือนมีแค่หน้าเดียว ใครจะไปคิดว่าตอนยิ้มจะเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบนี้ เขาทั้งดูเจ้าเล่ห์ และหล่อเหลาในเวลาเดียวกัน“ผมขยับได้หรือยัง”ไอรินพยักหน้ารับเบา ๆ ร่างกายเธอคุ้นชิ้นกับเขาแล้ว ไม่มีความเจ็บปวด มีแต่คว
นอกจากหน้าที่เลขาทั้งหน้าห้องและบนเตียงแล้ว สิ่งหนึ่งที่ไอรินทำเป็นประจำจนกลายเป็นกิจวัตรก็คือทำอาหารให้พลช กว่าหนึ่งเดือนที่อยู่ด้วยกันมา พลชกินข้าวที่ร้านอาหารหรือโรงแรมน้อยมาก เพราะตื่นเช้ามาก็มีอาหารเช้ากับกาแฟดำหนึ่งแก้ว เย็นมาก็มีอาหารไทยรสชาติถูกปากคอยท่า แถมรสชาติก็ไม่ได้ทิ้งกันกับร้านอาหารห
“แฮ่ก!”เสียงครวญครางสิ้นสุดลง พร้อมกับร่างหนาที่ทิ้งตัวทับร่างบอบบางชื้นเหงื่อ เสียงหอบหายใจของคนทั้งสองดังก้องห้องนอนที่เงียบสงัด พลชนิ่งค้างไว้แบบนั้นไม่นานก็ขยับออก รูดถุงยางที่เต็มไปด้วยน้ำกามออกแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำไอรินมองตามแผ่นหลังกว้างที่หายลับไป สักพักชายหนุ่มก็กลับมาพร้อมกับผ้าขนหนูที
“รินครับ หินอ่อนสเปกนี้น่าจะต้องเพิ่มงบอีกพอสมควรเลยครับ ผมพยายามหาแบรนด์ที่ถูกและดีแล้ว แต่หินอ่อนเกรด A+++ และต้องนำเข้าแบบนี้ราคาจะสูงกว่าปกติ ถ้ายอมลดเกรดลงมาหน่อย อาจจะได้ราคาที่ถูกกว่านี้เกือบครึ่งเลยครับ”พลชเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร หัวคิ้วขมวดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัวไอรินไปสนิทกับอินทีเรียคนนี้ตั้
เลขาของเขารักสุขภาพมาก เธอไม่เคยทานอาหารผิดเวลา พออยู่กับไอรินบ่อย ๆ พลชก็ต้องทานข้าวให้ตรงเวลาไปด้วย ชายหนุ่มเดินไปนั่งบนโซฟา หยิบช้อนมาถือไว้เตรียมจัดการอาหารตรงหน้า“คุณไอรินไม่ได้รอผมหรอกครับบอส”“หมายความว่ายังไง” มือที่กำลังจะตักอาหารชะงักงัน พลชเงยหน้าขึ้นมองคนสนิทนิ่ง ๆ “วิลล์?”“คุณไอรินเธอ
เป็นปกติของเวลานี้ที่ประตูห้องจะถูกเปิดออก พร้อมกับชายร่างสูงในชุดคลุมอาบน้ำแหวกโชว์แผงอกที่เดินอาด ๆ เข้ามา ไอรินส่งยิ้มให้อีกฝ่ายระหว่างลงครีมบนใบหน้าและทั่วตัวพลชเดินไปนั่งที่ปลายเตียง มองไอรินที่ยุ่งวุ่นวายกับร่างกายตัวเองเงียบ ๆ ไอรินดูแลตัวเองดีแบบนี้ผิวถึงได้เนียนนุ่มหอมกรุ่นตลอดเวลา และเขาช
พลชกดศีรษะของหญิงสาวเอาไว้ ฉีดพ่นความต้องการที่อัดอั้นมาสองวันเข้าไปในลำคอของเธอ มันมากมายจนไอรินรับได้ไม่หมด เธออยากขยับออกแต่ก็ทำไม่ได้ หญิงสาวทำได้แค่เปิดลำคอรับเขา เพื่อไม่ให้ตัวเองอึดอัดมากเกินไปกว่าจะปลดปล่อยออกมาจนหมด กว่าที่พลชจะได้รู้ว่าตัวเองเผลอกดไอรินลึกเกินไป เลขาคนเก่งก็แทบขาดใจ“แค่ก
“ปะป๊าหล่อที่สุด” จู่ ๆ พาดาก็พูดขึ้น อินทัชรู้ทัน เขาหลุบตามองถ้วยไอศกรีมที่หมดเกลี้ยงแล้วส่ายหน้า“ไม่ต้องเลยครับ ปะป๊าไม่ให้เพิ่มนะครับ”“บู้ว! ปะป๊ารู้ทันอีกแล้ววว”..ช่วงเย็น คุณหมอได้รับสายจากอลิษาว่างานยังไม่เสร็จ และอาจจะกลับบ้านดึก ให้อินทัชพาลูกเข้านอนก่อนได้เลย คนเป็นสามีได้ยินแบบนั้นก็
อินทัชขับรถไปที่โรงเรียน เขารีบรับขุนเขาพาดาขึ้นมาเพราะไม่อยากให้ลูกรอนาน และก็เป็นไปตามคาด ทันทีที่ขึ้นมาบนรถพาดาก็ทวงไอศกรีมจากปะป๊าทันที“ไอติม ไอติม”“ค่ะ เดี๋ยวปะป๊าพาไป แต่ตอนนี้พาดาต้องเบาเสียงหน่อยนะคะ น้องนอนอยู่”“พาดาขอโทษค่ะ โอ๋ ๆ นะสายหมอก หลับน้า”“คาดเข็มขัดกันด้วยครับ ไม่อย่างนั้นอดไ
(น้องหมอกต้องทานนมตอนเที่ยงนะคะ พี่อินเอาออกมาอุ่นก่อน อย่าลืมเหยาะหลังมือเทสอุณหภูมิด้วยนะคะ)“ครับ” อินทัชหนีบมือถือด้วยไหล่ มือทั้งสองข้างหยิบนมที่ภรรยาปั๊มเอาไว้ออกมาจากตู้แช่เพื่อเตรียมอุ่น “ลิษาไม่ต้องห่วง ประชุมต่อเถอะครับ”(พี่อินไม่เคยต้องอยู่กับลูกตามลำพัง ลิษากลัวว่าพี่จะเหนื่อยเกินไป)“ไ
“เตเต้ว่าพาดาอ้วน บอกว่าของขวัญว่าขี้โรค”“เตเต้คะ” ได้ฟังแบบนั้นคุณครูจึงกดเสียงต่ำ เด็กชายตัวกลมเริ่มเกรงกลัวเพราะครูตัวสูงกว่ามาก“กะ ก็จริงนี่คับ”“เตเต้คะ” คุณครูย่อตัวลงให้เท่ากับส่วนสูงของเด็กชาย “พูดถึงรูปร่างคนอื่นแบบนั้นไม่ดีเลยนะคะ จะอ้วน จะผอม เราก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าเขา ขอโทษเพื่อนนะคะ”“ไ
“ใช่แล้วค่ะ วันนี้มีข้าวผัดเบคอนของโปรดของหนู พี่ขุนหม่ำได้เลยครับ ส่วนพาดาเอาผ้ามาคลุมก่อนนะ เดี๋ยวจะเลอะเสื้อนักเรียน”พาดาทำตามที่หม่าม้าบอกอย่างแข็งขัน มือป้อม ๆ หยิบจับทุกอย่างอย่างคล่องตัวเพราะถูกฝึกให้ทำตั้งแต่เริ่มเข้าโรงเรียน มื้อเช้าเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับเสียงพูดคุยของพาดาจนจบมื้ออาหาร คุณปู
เสียงนกร้องจิ๊บ ๆ ดังปลุกตอนหกโมงครึ่ง ตรงเวลาไม่ขาดไม่เกิน ร่างอวบอ้วนที่ตื่นเต็มตานอนตากลมแป๋วบนเตียงนุ่ม ซุกตัวในผ้านวมผืนหนาที่หอมและอบอุ่น ไม่มีทีท่าว่าจะลุก แต่ก็ไม่ได้หลับต่อสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เริ่มต้นกิจกรรมตามปกติ แต่ใครบางคนกลับนอนนิ่ง ราวกับไม่ต้องการลุกไปทำอะไรทั้งนั้นไม่ใช่เพราะขี้เกีย
“ปล่อยเขาเถอะลิษา ให้เขาได้เรียนรู้ ได้เลอะ ได้ลองเจ็บด้วยตัวเอง”“เฮ้อ คนนี้ซนได้ใครก็ไม่รู้”พาดาที่ว่าแสบแล้ว เจอสายหมอกเข้าไปกลายเป็นเด็กเรียบร้อยเลยทีเดียว เด็กชายสายหมอกในวัยสามขวบทั้งซนทั้งขี้อ้อน ทั้งปู่ย่า ยาย พ่อแม่และพี่ ๆ ต่างรุมเอาใจเพราะแพ้ลูกอ้อน อลิษาอยากบ่นคนอื่นแต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่
“แม่เกือบมาไม่ทัน ติดสอนค่ะ”“พ่อก็ติดประชุม ปลีกตัวไม่ได้เลย”“ไม่เป็นไรค่ะ ลิษาคงยังไม่คลอดเร็ว ๆ นี้”“ปากมดลูกเปิดเท่าไหร่แล้วคะ”“พี่อินบอกว่าแค่สองเซนเองค่ะ”“โธ่ ทนไหวไหมลูก ถ้าไม่ไหวก็ผ่าเถอะนะคะ” คุณหมออิงอรอดรู้สึกเจ็บแทนลูกสะใภ้ไม่ได้ มาโรงพยาบาลก็หลายชั่วโมงแล้ว แต่ปากมดลูกยังเปิดได้ไม่เ
“อึก! พี่อิน พี่อินอยู่ไหน”“คุณหมอกำลังมานะคะ”ไม่ทันขาดคำ ประตูห้องพักก็ถูกเปิดออกกว้าง อินทัชรีบพุ่งตัวเข้ามาหาภรรยา คว้ามือเย็นเฉียบมาบีบไว้เพื่อถ่ายทอดกำลังใจไปให้คนที่กำลังเจ็บปวด“ให้พี่ดูก่อนนะครับว่าปากมดลูกเปิดเท่าไหร่แล้ว”อลิษาพยักหน้ารับ ใบหน้าสวยซีดเซียวและบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ตลอด