เป็นปกติของเวลานี้ที่ประตูห้องจะถูกเปิดออก พร้อมกับชายร่างสูงในชุดคลุมอาบน้ำแหวกโชว์แผงอกที่เดินอาด ๆ เข้ามา ไอรินส่งยิ้มให้อีกฝ่ายระหว่างลงครีมบนใบหน้าและทั่วตัวพลชเดินไปนั่งที่ปลายเตียง มองไอรินที่ยุ่งวุ่นวายกับร่างกายตัวเองเงียบ ๆ ไอรินดูแลตัวเองดีแบบนี้ผิวถึงได้เนียนนุ่มหอมกรุ่นตลอดเวลา และเขาช
พลชกดศีรษะของหญิงสาวเอาไว้ ฉีดพ่นความต้องการที่อัดอั้นมาสองวันเข้าไปในลำคอของเธอ มันมากมายจนไอรินรับได้ไม่หมด เธออยากขยับออกแต่ก็ทำไม่ได้ หญิงสาวทำได้แค่เปิดลำคอรับเขา เพื่อไม่ให้ตัวเองอึดอัดมากเกินไปกว่าจะปลดปล่อยออกมาจนหมด กว่าที่พลชจะได้รู้ว่าตัวเองเผลอกดไอรินลึกเกินไป เลขาคนเก่งก็แทบขาดใจ“แค่ก
“รินบอกว่ารินจะทำเอง บอสอยู่นิ่ง ๆ สิคะ”เอาแต่ใจอยากรู้เหมือนกันว่าจะเก่งแค่ไหนพลชยอมนอนนิ่ง ๆ ให้คนเอาแต่ใจทำอย่างที่ต้องการ ไอรินตวัดขาเรียวขึ้นคร่อมร่างเจ้านาย ฉีกซองถุงยางออกแล้วสวมใส่ให้ตามที่พลชสอนทุกขั้นตอนเมื่อทุกอย่างพร้อมไอรินก็ยกตัวขึ้น มือเรียวจับโคนของท่อนเอ็นให้มันตั้งตรง จ่อส่วนปล
ไอรินมองภาพของตัวเองที่สะท้อนจากกระจกเงาบานใหญ่ คนในนั้นไม่เหมือนตัวเธอแม้แต่นิดเดียว เส้นผมที่ถูกดัดเป็นลอนคลื่นคลอเคลียไปกับไหล่บอบบาง ต่างจากปกติที่มักจะถูกรวบหรือไม่ก็ปล่อยตรงธรรมชาติ ใบหน้าถูกตบแต่งจัดจ้านกว่าที่เคย และที่แปลกตาที่สุด ก็คือชุดเดรสสีดำสนิทเข้ารูปบนร่างกาย คนที่ไม่เคยแต่งตัวเต็มท
สื่อและผู้คนมากมายต่างจับตามอง ว่าใครกันจะเป็นผู้โชคดี ได้ผู้ชายที่หาที่ติไม่เจอคนนี้ไปครองสาว ๆ ที่ติดสอยห้อยตามพ่อแม่มางานนี้ด้วย ต่างรอคอยที่จะได้เจอพลชอย่างใจจดใจจ่อ พวกเธออยากพูดคุยกับเขาสักครั้ง เผื่อว่าในอนาคตจะได้ร่วมใช้นามสกุลแม็กซ์เวล นามสกุลขุนนางเก่าแก่จากประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร
“เอ่อ..”“หรือคุณฟังผมไม่ออก ผมหมายถึงแบบนี้”เขาพยายามสาธิตให้เธอดูด้วยภาษากาย ไอรินอ้าปากจะปฏิเสธและบอกว่าเธอฟังภาษาอังกฤษออก แต่เสียงที่คุ้นเคยทำให้ไอรินลืมสิ่งที่อยากพูดไปจนหมด“ไอริน!”เฮือก!“บะ บอส”“มัวทำอะไรอยู่” พลชถามเสียงเข้ม เหลือบตามองคนที่เข้ามายุ่งกับเลขาของตัวเองแค่แวบเดียว ก่อนจะคว
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ มิสราลิโอ”“เรียกแพทเฉย ๆ ก็พอค่ะ มิสเตอร์แม็กซ์เวล”“ถ้าจะให้ผมเรียกคุณว่าแพท คุณก็ต้องเรียกผมว่าดีนนะครับ” พลชจงใจบอกชื่อเล่นออกไป เพื่อให้หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ แล้วก็ได้ผล แก้มทั้งสองข้างของเธอซับสีเลือดขึ้นมาทันที“ค่ะ คุณดีน”ท่านทูตที่เฝ้ามองท่าทีของหนุ่มสาว
“คุณไอรินได้ทานอะไรหรือยังครับ สลัดผลไม้กุ้งทอดอร่อยมาก”เสียงของมาร์ตินทำให้ไอรินชะงัก เธอเผลอคิดถึงบอสทำไม“พอคุณมาร์ตินพูดฉันก็เริ่มหิวแล้วค่ะ” มือบางลูบหน้าท้องเบา ๆ พยายามไม่นึกถึงใครอีกคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้“งั้นไปด้วยกันไหมครับ”เขาไม่ได้รวบรัด แต่ตั้งคำถามเพื่อให้เธอได้มีสิทธิ์เลือกว่าจะตกลง
“ปะป๊าหล่อที่สุด” จู่ ๆ พาดาก็พูดขึ้น อินทัชรู้ทัน เขาหลุบตามองถ้วยไอศกรีมที่หมดเกลี้ยงแล้วส่ายหน้า“ไม่ต้องเลยครับ ปะป๊าไม่ให้เพิ่มนะครับ”“บู้ว! ปะป๊ารู้ทันอีกแล้ววว”..ช่วงเย็น คุณหมอได้รับสายจากอลิษาว่างานยังไม่เสร็จ และอาจจะกลับบ้านดึก ให้อินทัชพาลูกเข้านอนก่อนได้เลย คนเป็นสามีได้ยินแบบนั้นก็
อินทัชขับรถไปที่โรงเรียน เขารีบรับขุนเขาพาดาขึ้นมาเพราะไม่อยากให้ลูกรอนาน และก็เป็นไปตามคาด ทันทีที่ขึ้นมาบนรถพาดาก็ทวงไอศกรีมจากปะป๊าทันที“ไอติม ไอติม”“ค่ะ เดี๋ยวปะป๊าพาไป แต่ตอนนี้พาดาต้องเบาเสียงหน่อยนะคะ น้องนอนอยู่”“พาดาขอโทษค่ะ โอ๋ ๆ นะสายหมอก หลับน้า”“คาดเข็มขัดกันด้วยครับ ไม่อย่างนั้นอดไ
(น้องหมอกต้องทานนมตอนเที่ยงนะคะ พี่อินเอาออกมาอุ่นก่อน อย่าลืมเหยาะหลังมือเทสอุณหภูมิด้วยนะคะ)“ครับ” อินทัชหนีบมือถือด้วยไหล่ มือทั้งสองข้างหยิบนมที่ภรรยาปั๊มเอาไว้ออกมาจากตู้แช่เพื่อเตรียมอุ่น “ลิษาไม่ต้องห่วง ประชุมต่อเถอะครับ”(พี่อินไม่เคยต้องอยู่กับลูกตามลำพัง ลิษากลัวว่าพี่จะเหนื่อยเกินไป)“ไ
“เตเต้ว่าพาดาอ้วน บอกว่าของขวัญว่าขี้โรค”“เตเต้คะ” ได้ฟังแบบนั้นคุณครูจึงกดเสียงต่ำ เด็กชายตัวกลมเริ่มเกรงกลัวเพราะครูตัวสูงกว่ามาก“กะ ก็จริงนี่คับ”“เตเต้คะ” คุณครูย่อตัวลงให้เท่ากับส่วนสูงของเด็กชาย “พูดถึงรูปร่างคนอื่นแบบนั้นไม่ดีเลยนะคะ จะอ้วน จะผอม เราก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าเขา ขอโทษเพื่อนนะคะ”“ไ
“ใช่แล้วค่ะ วันนี้มีข้าวผัดเบคอนของโปรดของหนู พี่ขุนหม่ำได้เลยครับ ส่วนพาดาเอาผ้ามาคลุมก่อนนะ เดี๋ยวจะเลอะเสื้อนักเรียน”พาดาทำตามที่หม่าม้าบอกอย่างแข็งขัน มือป้อม ๆ หยิบจับทุกอย่างอย่างคล่องตัวเพราะถูกฝึกให้ทำตั้งแต่เริ่มเข้าโรงเรียน มื้อเช้าเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับเสียงพูดคุยของพาดาจนจบมื้ออาหาร คุณปู
เสียงนกร้องจิ๊บ ๆ ดังปลุกตอนหกโมงครึ่ง ตรงเวลาไม่ขาดไม่เกิน ร่างอวบอ้วนที่ตื่นเต็มตานอนตากลมแป๋วบนเตียงนุ่ม ซุกตัวในผ้านวมผืนหนาที่หอมและอบอุ่น ไม่มีทีท่าว่าจะลุก แต่ก็ไม่ได้หลับต่อสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เริ่มต้นกิจกรรมตามปกติ แต่ใครบางคนกลับนอนนิ่ง ราวกับไม่ต้องการลุกไปทำอะไรทั้งนั้นไม่ใช่เพราะขี้เกีย
“ปล่อยเขาเถอะลิษา ให้เขาได้เรียนรู้ ได้เลอะ ได้ลองเจ็บด้วยตัวเอง”“เฮ้อ คนนี้ซนได้ใครก็ไม่รู้”พาดาที่ว่าแสบแล้ว เจอสายหมอกเข้าไปกลายเป็นเด็กเรียบร้อยเลยทีเดียว เด็กชายสายหมอกในวัยสามขวบทั้งซนทั้งขี้อ้อน ทั้งปู่ย่า ยาย พ่อแม่และพี่ ๆ ต่างรุมเอาใจเพราะแพ้ลูกอ้อน อลิษาอยากบ่นคนอื่นแต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่
“แม่เกือบมาไม่ทัน ติดสอนค่ะ”“พ่อก็ติดประชุม ปลีกตัวไม่ได้เลย”“ไม่เป็นไรค่ะ ลิษาคงยังไม่คลอดเร็ว ๆ นี้”“ปากมดลูกเปิดเท่าไหร่แล้วคะ”“พี่อินบอกว่าแค่สองเซนเองค่ะ”“โธ่ ทนไหวไหมลูก ถ้าไม่ไหวก็ผ่าเถอะนะคะ” คุณหมออิงอรอดรู้สึกเจ็บแทนลูกสะใภ้ไม่ได้ มาโรงพยาบาลก็หลายชั่วโมงแล้ว แต่ปากมดลูกยังเปิดได้ไม่เ
“อึก! พี่อิน พี่อินอยู่ไหน”“คุณหมอกำลังมานะคะ”ไม่ทันขาดคำ ประตูห้องพักก็ถูกเปิดออกกว้าง อินทัชรีบพุ่งตัวเข้ามาหาภรรยา คว้ามือเย็นเฉียบมาบีบไว้เพื่อถ่ายทอดกำลังใจไปให้คนที่กำลังเจ็บปวด“ให้พี่ดูก่อนนะครับว่าปากมดลูกเปิดเท่าไหร่แล้ว”อลิษาพยักหน้ารับ ใบหน้าสวยซีดเซียวและบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ตลอด