“ของกูโว้ย!!”
“ระดับดาววิทยาลัยเลยนะเว้ย!”ผมก็ส่ายศีรษะพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ลอยขึ้นเหนือหัวของผมก่อนจะแสยะยิ้มเมื่อนึกถึงเรือนร่างของน้องน้ำใสที่เพื่อนๆผมพูดถึงกัน หึๆเธอต้องเป็นของผมตั้งหากล่ะครับ ตึกๆๆๆ “พี่เคนโซคะ^_^”เสียงหวานใสดังขึ้นทำให้เสียงของเพื่อนๆผมที่มันเถียงกันอยู่ต้องหยุดชะงักลงและหันไปมองต้นเสียงของเจ้าของเสียงหวานและเจ้าของตัวเล็กน่ารักผมยาวสยายที่ยืนยิ้มหวานให้ผมอยู่ “น้องมีนา^_^”ผมยิ้มละมุนก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อของเจ้าของใบหน้าหวานสวยไปก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินตรงดิ่งไปหาเธออย่างรวดเร็ว “ไอ้สัสเคน…พอแฟนมาทิ้งพวกกูทันที!” “น้องมีนาครับบบบบ”เสียงของเพื่อนๆผมเอ่ยแซวผมและมีนาแฟนของผมที่เธอเพิ่งจะอยู่ ปวช.ปีสามผมเดินไปหาเธอและพร้อมกับยื่นมือไปจับปลายผมด้านหน้าของเธอให้ไปทัดหูเธอเพื่อผมจะได้มองโครงหน้าสวยหวานของเธอได้อย่างชัดเจนขึ้น “พี่เคนโซทานข้าวหรือยังคะ?” “ยังเลยครับ….หิวมากเลย^_^” “แล้วน้องมีนาล่ะครับ…ทานอะไรมารึยัง?” “ยังเลยค่ะ…พอดีอาจารย์เพิ่งจะปล่อยให้พัก^_^” “งั้นดีเลยครับ…เราไปหาอะไรอร่อยๆทานกันไหมครับ^_^”ผมเอ่ยเชื้อชวนมีนา เธอก็ยิ้มหวานให้ผมอย่างเขินอายแต่ก็ยอมพยักหน้ารับคำผม ผมก็ยิ้มให้เธอ “เดี๋ยวกูมานะ…พามีนาไปกินข้าวก่อน..”ผมหันไปตะโกนบอกเพื่อนๆผม พวกมันก็ทำหน้าพะอืดพะอมล้อเลียนผม ผมก็ยกนิ้วกลางให้มันไปก่อนจะหันมาโอบเอวมีนาและเดินออกไปจากตรงนี้ สถานที่ผมกับมีนาจะไปนั้นคือร้านคาเฟ่หรูหน้าวิทยาลัยของเราน่ะครับ หนึ่งชั่วโมงต่อมา… คาเฟ่W หน้าวิทยาลัย E พรึบ “อิ่มหรือยังครับ?”ผมเอ่ยถามมีนาไปในขณะที่มองไปยังจานเค้กของเธอที่ตอนนี้หมดเกลี้ยงไปแล้วด้วยฝีมือของผมเองแหละ “อะอิ่มแล้วค่ะ…”เธอตอบผมมาด้วยน้ำเสียงกระตุกๆสีหน้าของเธอไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอคงจะรับไม่ได้กับนิสัยที่ผมทำสินะ ผมก็แค่ทำเหมือนไม่เคยได้กินของพวกนี้โดยการกินเค้กในจานของผมอย่างรวดเร็วและไปแย่งของเธอกินต่อน่ะสิครับ “งั้นคิดเงินเลยเนอะ” “ค่ะ…ได้ค่ะ”มีนารับคำผมและยิ้มบางๆให้ผม ผมก็ยิ้มให้เธอและหันไปมองยังเคาน์เตอร์ที่มีพนักงานยืนประจำที่อยู่ “น้องครับ…” “คะ?” “คิดเงินด้วยครับ”ผมเอ่ยออกไปอย่างสุภาพน้องพนักงานผู้หญิงก็ยิ้มรับคำผมก่อนจะเดินออกจากเคาน์เตอร์มุ่งตรงมายังโต๊ะของผม ร้านนี้เป็นร้านคาเฟ่ที่ถูกตกแต่งไว้ด้วยสีธรรมชาติน่านั่งและมีสถานที่วิวให้นักศึกษาและนักเรียนจากวิทยาลัยมาถ่ายรูปกันเลยทำให้ร้านนี้มีคนค่อนข้างเยอะน่ะ “เค้กสองก้อน…น้ำสองแก้ว..รวมเป็นเงินทั้งหมด” “สองร้อยบาทค่ะ^_^”พนักงานคิดคำนวณและเอ่ยบอกผม ผมก็ยิ้มให้เธอและหันกลับมามองหน้ามีนา ที่เธอเองยังคงไม่รู้ชะตากรรมสินะ ว่าค่าเค้กมื้อนี้ เธอจะต้องเป็นคนจ่ายน่ะ “คะ?”มีนามองหน้าผมที่เอาแต่จ้องหน้าเธอ เธอก็กระพริบตาปริบๆมองหน้าผมสลับกับมองหน้าพนักงานคิดเงิน “ทะเท่าไหร่นะคะ…?” “สองร้อยบาทค่ะ…^_^” “อ้อค่ะ…” พรึบ “นี่ค่ะ…”มีนาหยิบธนบัตรสองร้อยบาทออกมาจากกระเป๋าตังค์ของเธอและวางมันลงไปบนถาดใส่เงินที่พนักงานร้านยื่นมาให้เธอ “ขอบคุณนะคะ…โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ^_^” “ค่ะ…”มีนาเอ่ยรับคำเชื้อเชิญจากพนักงาน “ครับเค้กอร่อยมากเลยครับ^_^”ผมก็ยิ้มหวานให้พนักงานก่อนจะเอ่ยชมความอร่อยของเค้กไป เธอก็ยิ้มแหยๆให้ผมก่อนจะก้มหัวและเดินออกไปจากตรงนี้ ผมจึงหันกลับมามองหน้ามีนาต่อ “ไปหรือยังคะ?”ผมเอ่ยถามมีนาไปพลางก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองไปด้วย “อ้อค่ะๆๆไปค่ะ…”มีนาตอบผมเสียงกระตุกก่อนจะลุกขึ้นยืนและหยิบกระเป๋าสะพายไหล่ของเธอขึ้นมาสะพายและเดินมาหาผม ผมก็ยิ้มให้เธอก่อนจะโอบเอวเธอและเดินออกมาจากร้านคาเฟ่แห่งนี้ มุ่งหน้าตรงกลับวิทยาลัย โดยการเดินเป็นระยะทางหนึ่งกิโลเมตร เป็นแฟนผมก็ต้องลำบากแบบนี้แหละครับ เลี้ยงข้าวผมแถมต้องเดินตากแดดไม่มีรถแอร์เย็นๆหรูๆให้นั่งหรอก สวัสดีครับ ผมชื่อเคนโซ เรียกสั้นๆว่าเคนก็ได้ ผมเป็นคนจนไม่สิ แค่อยากลองเป็นคนจนน่ะ ผมหล่อแต่ผมไม่รวย สาวๆที่เข้ามาหาผม เพราะหน้าตาผมแค่นั้นแหละครับ โชคดีที่เกิดมามีเบ้าหน้าดี เมื่อก่อนผมก็ไม่ได้คบใครทีละหลายๆคนแบบนี้หรอกครับ แต่เป็นเพราะความผิดหวังทำให้ผมประชดชีวิตตัวเองด้วยการทำตัวเป็น เพลย์บอยแบบทุกวันนี้….เพิ่มเติมคือเป็นเพลย์บอยที่ไม่ได้รวยน่ะครับ^_^บ้านเช่า A ย่านสลัม...... ขวัญเอย กมลวรรณ… พรึบ “บ้านหลังนี้แหละหนู…” “ในย่านนี้ก็เหลือแค่หลังนี้หลังเดียว…”เสียงทุ้มต่ำของคุณป้าวัยห้าสิบต้นๆเอ่ยขึ้น ฉันก็ละสายตาจากบ้านไม้สองชั้นที่ด้านบนเป็นไม้ด้านล่างเป็นปูนกลับมามองหน้าป้าเจ้าของบ้านเช่าหลังนี้และอีกหลายๆหลังที่อยู่ในซอยนี้ “สองห้องนอน…หนึ่งห้องน้ำ…หนึ่งห้องครัว…” “หนึ่งห้องนั่งเล่น….”ป้าเจ้าของบ้านเช่าเอ่ยต่อ “เดือนละสองพันห้า…น้ำไฟต่างหาก…” “สองพันห้าเหรอคะ?”ฉันเอ่ยทวนคำพูดของป้าเจ้าของบ้านเช่าไปด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแววตาเป็นประกาย เพราะมันถูกมากสองพันห้าน้ำไฟตั้งหากเนี่ย ได้บ้านทั้งหลังเลยนะ มันถือว่าถูกแสนถูกมาก หาถูกกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วจ้ะ “ใช่จ้า…จ่ายล่วงหน้าสองเดือนเข้าอยู่ได้ทันที…” “ถ้าเธอไม่เอา…แถวนี้ก็คงจะไม่ให้เช่าแล้วล่ะ…เหลือแต่หอ…” “แต่ค่าเช่าก็น่าจะแพงเพิ่มจากของฉันเป็นอีกเท่าตัว…” “งั้นตกลงค่ะ…หนูตกลง^_^”ฉันรีบตอบทันที ป้าเจ้าของบ้านก็ฉีกยิ้มกว้างให้ฉัน “งั้นไปที่บ้านฉันไปเซ็นสัญญากัน…” “อ้อได้ค่ะ^_^”ฉันพยักหน้ารับคำป้าเจ้าของบ้านพร้อมกับเดินตามหลังป้าเขาไปต้อยๆและทอดสายตามองไปรอบๆบ้านหลังที่ฉันตกล
“พี่ขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ…”พี่คีรีหันมาเอ่ยบอกฉันพร้อมกับชูโทรศัพท์เครื่องหรูของเขาให้ฉันดู “ค่ะ^_^”ฉันยิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้พี่คีรี เขาก็ยิ้มให้ฉันอย่างสุภาพบุรุษและเดินออกไปจากห้องนอนบนชั้นสองของฉัน ฉันเมื่อพี่คีรีไปแล้วก็หันกลับมาจัดแจงข้าวของของฉันต่ออย่างไม่ให้เสียเวลส“ที่นอนก็ใช้ได้นะ…ถึงจะไม่นุ่มเหมือนที่บ้านเราก็เถอะ…”ฉันพึมพำออกมาพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งบนที่นอนของฉันที่เป็นขนาดเตียงนอนห้าฟุตได้ถูกปูด้วยผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตา มีหมอนสองใบหมอนข้างหนึ่งลูกและผ้านวมอีกหนึ่งผืน ฉันเอามือลูบไปบนที่นอนและนึกถึงความสุขสบายเวลาที่อยู่บ้านของฉันที่ฉันอยู่มาตั้งแต่เกิด แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อคุณแม่ของฉันท่านไม่ได้แคร์ความรู้สึกของฉันเลยสักนิดท่านไม่ถามฉันสักนิด…ว่าฉันอยากจะมีพ่อใหม่หรือเปล่าพรึบ“น้องเอยคะ!”“คะ?”ฉันรีบหันไปมองหน้าพี่คีรีที่เขาวิ่งกระหืดกระหอบมาตรงหน้าของฉันด้วยท่าทางรีบร้อนหน้าตาของเขาดูเคร่งเครียดนะ“พี่คีรีมีอะไรหรือเปล่าคะ?”“คือว่าพี่…มีธุระด่วนนะคะ…”พี่คีรีตอบฉันมาด้วยสีหน้าวิตกกังวล“อ้อค่ะ…งั้นพี่คีรีไปทำธุระเถอะค่ะ..ที่เหลือเดี๋ยวเอยจัดการต่อเองค่ะ…”
เช้าวันต่อมาบ้านเช่า Aห้องนอน ขวัญเอย…ขวัญเอย กมลวรรณ….08:30น.พรึบตุ๊บ!!!“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!”“เฮือก!”ฉันสะดุ้งตื่นสุดตัวลุกขึ้นนั่งจากที่นอนหลับอย่างสบายด้วยความตกใจกับเสียงกรี๊ดของผู้หญิงที่ดังสนั่นอยู่ในบ้านของฉัน ใช่มันต้องดังอยู่ในบ้านของฉันแน่ๆ“ใครเข้ามากรี๊ดในบ้านฉันเนี่ย!”ฉันโวยขึ้นและลุกออกมาจากที่นอนด้วยท่าทางฉุนเฉียวเมื่อคืนฉันก็ล็อคประตูบ้านแล้ว แล้วใครเข้ามาในบ้านของฉัน จะว่าเป็นเสียงจากข้างบ้านก็ไม่ใช่ เพราะบ้านข้างๆทั้งซ้ายและขวาอยู่ห่างจากบ้านฉันตั้งห้าร้อยเมตรน่ะ ไม่มีทางที่เสียงมันจะดังใกล้ขนาดนี้ได้พรึบ“หึย!หงุดหงิดโว้ย!!”ฉันสบถขึ้นอย่างหัวเสียพร้อมกับเดินตรงดิ่งไปยังประตูห้องนอนของฉันและหมุนลูกบิดพร้อมกับเปิดประตูออกไปดูเหตุการณ์ข้างนอกด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด จะไม่ให้โมโหได้ยังไงคนกำลังนอนกลับสบายแต่กลับมีทั้งเสียงกรี๊ดกร๊าดและเสียงเขวี้ยงปาข้าวของพรึบ“นี่!…ไอ้พี่เคน…”“แกจะหลอกเอาฉันฟรีเหรอห๊ะ!”เสียงผู้หญิงแหลมสูงปี๊ดเอ่ยขึ้นทำให้ฉันขมวดคิ้วงุนงงเพราะต้นตอของเสียงนั้นดังมาจากห้องนอนฝั่งตรงข้ามกับห้องของฉัน ซึ่งห้องนั้นมีคนอยู่ด้วยเหรอ? ทำไมฉันไม่รู้?
“เอ่อ…เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่สินะครับ…”เสียงทุ้มละมุนเอ่ยขึ้นทำให้ฉันเผลอสะดุ้งตกใจและรู้สึกตัวว่าเผลอจ้องเรือนร่างของผู้ชายตรงหน้านี้นานเกินไปแล้วพรึบทันทีที่ฉันเงยหน้าขึ้นไปหมายจะก่นด่าเขาแต่แล้วฉันก็ต้องเข้าสู่โหมดตกตะลึงเป็นรอบที่สอง กับใบหน้าหล่อเหลาจมูกโด่งเป็นสันดวงตาสองชั้นกลมโตริมฝีปากหยักสีชมพูอวบอิ่มปลายคางเรียวใบหน้าเรียวยาวราวกับเป็นใบหน้าที่ฟ้าประทาน รวมไปถึงเรือนผมของผู้ชายคนนี้ที่ออกสีน้ำตาลเข้มๆจัดว่าเขาคนนี้เป็นผู้ชายที่หล่อมากจริงๆ ถึงที่มุมปากของเขาจะมีรอยฟกช้ำอยู่แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อของผู้ชายคนนี้ลดน้อยลงเลย“เอ่อออ….”ฉันอ้ำๆอึ้งๆพูดอะไรไม่ออก “นี่…แกจะยืนอยู่อีกนานไหม…ฉันมีธุระจะเคลียร์กับผู้ชายคนนี้!”เสียงแหลมเฟี้ยวของผู้หญิงดังเรียกสติฉันให้กลับมา ฉันก็ละสายตาจากหนุ่มหน้าหล่อสไตล์เกาหลีไปมองหน้าคู่อริของเขาแทน ก็พบกับผู้หญิงร่างเล็กที่มีผ้าขนหนูผืนจิ๋วพันเรือนร่างของเธอทำให้ฉันรู้ได้ทันที ว่าสองคนนี้เพิ่งผ่านอะไรกันมา“ฉันแค่จะบอกว่า..บ้านฉันไม่ใช่โรมแรมม่านรูด…”ฉันเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบตรึงทำให้ผู้ชายหน้าหล่อถึงกับขมวดคิ้วงุนงงและสงสัยพร้อมกับมองเรือนร่
วันเดียวกัน12:30น.บ้านของคุณป้าเจ้าของบ้านเช่าขวัญเอย กมลวรรณ….พรึบ“ทำไมคุณป้าไม่บอกหนูล่ะค่ะว่าหนูมีรูมเมท?”ฉันเอ่ยถามคุณป้าเจ้าของบ้านไปอย่างเอาเรื่อง ที่เธอไม่ยอมบอกฉันในตอนที่ฉันไปดูบ้านและตกลงเซ็นสัญญาเช่าบ้านกับเธอ“ถ้าป้าบอก…หนูก็ไม่เอาน่ะสิ”คุณป้าเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าแหยๆ เพราะเธอคงจะเห็นสีหน้าที่ไม่พอใจของฉันน่ะ “ถือว่าช่วยๆกันนะ…หนูก็มีห้องนอนส่วนตัวหนิ…พ่อหนุ่มเขาไม่ยุ่งหรอกนะ…”“เขาเป็นเด็กดี^_^”“เด็กดีอะไรคะ…ไม่มีตังค์มาจ่ายค่าเช่าคุณป้าน่ะ?”“ก็เพราะเรื่องนี้ไงจ๊ะ…ป้าถึงต้องหาทางออกให้กับตัวป้าเองและพ่อหนุ่มคนนั้น…”คุณป้าว่าเสียงอ่อนพร้อมกับทำสีหน้าเศร้าลงให้ฉันรู้สึกเห็นใจเธอ ซึ่งมันก็ได้ผล ฉันเห็นใจเธอจริงๆ“แม่หนูเองก็เดือดร้อนไม่ใช่เหรอจ๊ะ….และแม่หนูก็จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าให้ป้าแล้วด้วย…”“อดทนอยู่ต่อเถอะนะจ๊ะ…”“ค่ะ…ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละค่ะ…”ฉันเอ่ยเสียงแผ่วเบาบอกคุณป้าไป เพราะยังไงๆฉันก็ไม่มีเงินมากพอที่จะไปเช่าบ้านเดี่ยวหรือคอนโดอยู่อยู่แล้วล่ะ ฉันต้องจำใจอยู่ในบ้านเช่าหลังน้อยที่มีรูมเมทเป็นผู้ชายนี้ต่อไป เขาคงจะไม่ทำอะไรฉันหรอกมั้ง น่าตาเขาก็ไม่ได้ดูเลวร้าย
ฉันพิมพ์ข้อความตอบกลับพี่คีรีไป ถึงแม้ฉันจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ในใจของฉันมันก็แอบเสียใจอยู่นะ ที่เขามีเวลาให้ฉันน้อยลงตั้งแต่พี่คีรีเข้าไปบริหารงานแทนคุณอาเกริกพลคุณพ่อของเขาน่ะปื้นๆๆๆๆๆ(เสียงของเครื่องมอเตอร์ไซค์)พรึบ“ให้ผมไปส่งไหมครับ…น้องสาวคนสวย^_^”เสียงทุ้มละมุนเอ่ยออกมาจากผู้ชายหน้าหล่อที่ขี่รถบิ๊กไบค์คันใหญ่มาจอดเทียบด้านข้างของฉันพร้อมกับดับเครื่องยนต์ที่เสียงดังกระหึ่มของเขาลง“ใครเป็นน้องนายไม่ทราบ?”ฉันหันไปมองหนุ่มหน้าหล่อรูมเมทของฉันด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตร แต่นายหน้าหล่อนั้นกลับทำสายตาหวานเชื่อมให้ฉันอย่างหว่านเสน่ห์ เชอะฉันไม่หลงกลนายหรอกย่ะ ไอ้คาสโนว่าเอ้ย! ประเด็นเมื่อเช้าที่นายหน้าหล่อนี้หลอกฟันผู้หญิงฟรียังไม่เคลียร์เลยมั้ง แต่ฉันไม่อยากยุ่งเรื่องของคนอื่นเลยไม่ได้สนใจน่ะ“งั้น…พี่สาวคนสวยก็ได้ครับ^_^”“แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าฉันอายุมากกว่านาย?”“ก็ดูจากที่พี่สาวคนสวย…ใส่ชุดนักศึกษาที่ทำให้หัวใจของผมเต้นรัวเร็ว….เลือดในร่างกายสูบฉีด”เขาไม่พูดเปล่ายังมองมาที่เรือนร่างของฉันที่สวมใส่ชุดนักศึกษาตัวเล็กรัดติ้วอวดทรวงทรงองเอวของฉัน เนื้อเป็นเนื้อ นมเป็นนม ตูดเป็นตูดแถมกระ
เย็นวันเดียวกันคอนโด คีรี…20:00น.ขวัญเอย กมลวรรณ…พรึบ“เห้อ…เสร็จสักทีนะ^_^”ฉันพึมพำออกมาพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองโต๊ะอาหารที่ฉันเป็นคนจัดเองในค่ำคืนนี้เพื่อรอดินเนอร์กับพี่คีรี ตอนนี้ฉันอยู่ที่คอนโดของพี่คีรี ฉันไม่ได้โทรบอกเขาก่อนคิดว่าจะเซอร์ไพรส์เขาน่ะ และฉันก็จะนอนค้างกับพี่คีรีที่นี้สักคืน ซึ่งฉันมานอนค้างกับพี่คีรีที่คอนโดนี้บ่อยมากนะ แต่เราสองคนยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งอะไรเลยนะนอกจากแค่นอนจับมือมองตากันแค่นั้นเองพรึบ“พี่คีรีต้องชอบมากแน่ๆ^_^”ฉันเอ่ยออกมาที่มองไปที่โต๊ะอาหารเบื้องหน้าและเทียนแท่งเล็กๆที่ถูกวางจุดและวางไปรอบๆห้องแห่งนี้ที่ถูกฉันตกแต่งเป็นรูปหัวใจโดยมีโต๊ะอาหารสำหรับสองคนตั้งอยู่ตรงกลาง มันดูโรแมนติกดีนะ^_^พรึบฉันถอดผ้ากันเปื้อนออกจากชุดนักศึกษาของฉันแล้วนำมันไปเก็บไว้ที่เก็บผ้าและกลับมาหยิบโทรศัพท์ของฉันเพื่่อจะส่งข้อความหาพี่คีรีพรึบฉันหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องนั่งเล่นและกดส่งข้อความหาพี่คีรีทันทีขวัญเอย:พี่คีรีคะฉันพิมพ์ข้อความในแอปพลิเคชันไลน์ของพี่คีรีรอสักพักพี่คีรีก็อ่านข้อความของฉัน ฉันก็อมยิ้มเล็กน้อยเพื่อรอข้อความตอบกลับ
พรึบ“ค่ะ…เอยเองค่ะ^_^”ฉันปล่อยมือจากเอวสอบของพี่คีรีและเขาก็หันมามองหน้าฉันพร้อมกับทำสีหน้าเอ็นดูใส่ฉันพร้อมกับยื่นมือมาจับมือฉันไปกุมไว้ สีหน้าของพี่คีรีดูแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นฉันมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาแบบนี้“นี่หลอกพี่หรือคะ?”พี่คีรีกดเสียงต่ำพลางทำสีหน้าง้องอนใส่ฉัน ฉันก็อมยิ้มให้เขาก่อนจะเบียดร่างอวบอิ่มของฉันแนบชิดไปกับแผงอกแกร่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวของพี่คีรี“อย่าโกรธเอยได้ไหมล่ะค่ะ^^”“ได้สิครับ…แฟนสวยน่ารักขนาดนี้…ใครจะไปโกรธลง^_^”“ก็ดีแล้วค่ะ…พี่คีรีทานข้าวมาหรือยังคะ…เอยทำอาหารที่พี่คีรีชอบเตรียมไว้ดินเนอร์กับพี่นะคะ^_^”“ยังเลยครับ…พี่ยังไม่ได้ทานอะไรเลย^_^”“งั้นเราไปทานอาหารกันดีกว่าค่ะ^_^”“ครับ^_^”พี่คีรีตอบรับคำฉันพร้อมกับยิ้มหวานให้ฉันและจูงมือฉันเดินไปตามทางที่มีแสงสีส้มให้ความสว่างจากเทียนเล็กๆที่ฉันเป็นคนทำไปเรื่อยๆจนไปถึงใจกลางของรูปหัวใจที่มีโต๊ะอาหารอยู่ พี่คีรีเลื่อนเก้าอี้ให้ฉันอย่างสุภาพบุรุษและเขาก็ไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับฉัน“อร่อยไหมคะ?”“อร่อยที่สุดค่ะ…สเต็กหมูฝีมือน้องเอยเนี่ย^_^”พี่คีรีเอ่ยชมฉันหลังจากที่ฉันหันเนื้อสเต็กและยื่นป้อนพี่คีรี
“แต่เขาก็ไม่สนใจกูสักนิด…”ไอ้กราฟว่าพร้อมกับทำหน้าเศร้าสลดลง ดวงตาสั่นไหว ผมก็มองหน้ามันอย่างสงสัย “มึงหมายความว่าไง..มึงรู้จักพี่ขวัญเอยด้วยเหรอวะ?”“รู้จักสิว่ะ…รู้จักมาก่อนมึงอีก..รู้จักดีด้วย…”มันว่าต่อและมองหน้าผมด้วยแววตาน้อยใจ อะไรของมันเนี่ย “พี่ขวัญเอยเป็นรุ่นพี่คนสวยที่คณะกู…กูอยู่มหาลัยเดียวกับเธอและสาขาเดียวกัน…กูชอบพี่เอยตั้งแต่วันแรกของการรับน้อง…”“กูตามจีบเธอ….แต่เธอก็ปฏิเสธกูเพราะเธอมีแฟนแล้ว..”“แฟนเธอคือเจ้าของร้านจิวเวลรี่ชื่อดังของเมืองไทย…”“เจ้าของร้านจิวเวลรี่ชื่อดัง?”ผมทวนคำพูดของไอ้กราฟขึ้น มันก็มองหน้าผมและพยักหน้าเป็นคำตอบให้ผม เจ้าของร้านเพชร แสดงว่าไอ้พี่คีรีอะไรของพี่เอยโคตรจะรวย“แต่กูเพิ่งจะรู้จากข่าววงในของมหาลัยว่าพี่เอยกับแฟนของเธอ…เลิกกัน…”ไอ้กราฟเล่าต่อ ผมก็ตั้งใจฟังมันเล่าเพราะผมอยากรู้เรื่องของเธอคนนี้ ซึ่งเธอไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับตัวของเธอให้ผมฟังเลยสักนิด“แต่ที่กูไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ทั้งสวยและรวยมากอย่างพี่เอย…ถึงมาที่นี่เพื่อทำงานอย่างที่มึงบอกวะ?”ไอ้กราฟถามผมกลับด้วยสีหน้าสงสัย“สวยและรวยมาก?”ผมก็ทวนคำพูดของมันต่ออีก“ก็เอ่อดิว่ะ…คุณพ่อ
“ยังเลยครับ….”“ถึงว่าหน้าตายังเด็กอยู่เลย…แต่คงอยากรู้อยากลองสินะ…”“ที่นี่สาวๆสวยๆอึ๋มๆๆเอ็กซ์ๆทั้งนั้น…ซู๊ดดด”ชายคนนี้ว่าพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบสีข้างของริมฝีปากอย่างหน้าตาหื่นกาม ทำให้ผมยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีกว่าไอ้สถานที่นี้ มันคือสถานที่อะไรกันแน่“ใช่ครับ…บังเอิญว่าผมกำลังมีแฟน…แต่ทำเรื่องอย่างว่าไม่เป็นสักเท่าไหร่”ผมว่าพร้อมกับก้มหน้าลงอย่างให้ดูตัวเองเขินอายเล่นละครให้สมจริงที่สุดพรึบ“ไม่เป็นไรไอ้น้องชาย…”ชายคนตรงหน้าผมว่าพร้อมกับยื่นมือมาตบไหล่ผม ผมก็เงยหน้าขึ้นไปยิ้มแหยๆให้เขา“ตามพี่มา…วันนี้พี่จะพาน้องเที่ยวเองหึๆๆ^_^”“จริงเหรอครับพี่ชาย…ขอบคุณจริงๆครับ^_^”ผมว่าอย่างดีใจและยกมือไหว้ขอบคุณผู้ชายคนนี้“ไม่เป็นไรๆๆมาๆตามพี่มา^_^”“ครับ…แต่ผมขอพาเพื่อนไปด้วยคนได้ไหมครับ?”“อ้อ…ชอบแบบแซนด์วิชสินะ^_^”ชายคนนี้ว่าพร้อมกับหันไปมองหน้าไอ้กราฟที่มันยืนทำหน้าโง่อยู่ ผมก็หันมายิ้มแหยๆให้ชายคนนี้ “ก็คงอย่างงั้นครับ^\\^”ผมว่าพร้อมกับยื่นมือไปลูบท้ายทอยอย่างเขินอาย“งั้น…ตามพี่มา^_^”“ครับ^_^”ผมก้มศีรษะให้เขาและเดินตามหลังเขาไปจนไปถึงไอ้กราฟ ผมก็จับมือมันลากให้เดินตามผมมา“สวัสดีครับ…ป
วันต่อมาในเวลาเดียวกัน…ด้านเคนโซโมเดลลิ่งQเคนโซ คิณภพ….พรึบ“ไอ้ทรงพลมันนัดพี่เอยมาทำอะไรที่นี่?”ผมเอ่ยพึมพำขึ้นมาอย่างสงสัยเมื่อรถตู้คันสีดำที่ผมจำทะเบียนรถได้แม่นหยุดลงด้านหน้าของตึกสูงห้าชั้นที่อยู่ในตัวเมือง“heaven queen?”ผมพึมพำป้ายชื่อสีชมพูสลับกับสีม่วงที่อยู่ด้านหน้าของตึกแห่งนี้ ป้ายไฟสว่างมาก“แล้วกูจะไปรู้ไหมครับ…กูก็ขับตามรถที่มึงบอกให้กูขับตามมาเนี่ย”ไอ้กราฟบ่นอุบ ผมก็หันหน้าไปทำหน้าหงุดหงิดใส่มัน ที่มันพูดจากวนบาทาผมมากผมเป็นคนวางแผนเตรียมให้ไอ้กราฟไปจอดรอที่ด้านข้างของบ้านเช่าผม พอพี่เอยขึ้นรถตู้ของไอ้ทรงพลไปปุบผมเองก็ขึ้นรถของไอ้กราฟมาปับเช่นกันเพื่อจะตามเธอไปอยู่ห่างๆด้วยความเป็นห่วง“มึงเอารถไปจอด…เดี๋ยวกูจะตามเข้าไปดูพี่เอยก่อน…”ผมหันไปสั่งไอ้กราฟ มันก็ทำหน้าเบะใส่ผมแต่ก็ยอมทำตามที่ผมบอกนะ“เสร็จแล้วเดี๋ยวกูจะตามเข้าไป…เผื่อมึงอยากมีอะไรให้กูช่วย…”“เอ่อๆๆอย่าพูดมากสัส…”ผมบอกไอ้กราฟไปและรีบเปิดประตูลงจากรถของไอ้กราฟทันทีเพราะเห็นร่างระหงของพี่ขวัญเอยเดินเข้าไปในด้านในของตัวตึกแล้วพรึบตุ๊บๆๆๆๆผมรีบปิดประตูรถสปอร์ตคันสีดำของไอ้กราฟและวิ่งตามพี่เอยไปอย่างห่าง
“ฉันอยากมีแฟนที่คบกันจนสร้างอนาคตไปด้วยกัน…”ฉันพูดต่อด้วยแววตาเพ้อฝัน แต่จริงๆนะฉันอยากคบกับใครสักคน ไปนานๆจนแก่เฒ่าเลยล่ะ^_^ปี้น(เสียงแตรรถ)“ฉันไปทำงานล่ะ…รถของคุณทรงพลมาแล้ว…”ฉันว่าพร้อมกับหันไปมองยังหน้าบ้านที่มีรถตู้คันสีดำที่คุ้นตาฉันจอดอยู่หน้าบ้าน จึงทำให้บทสนทนาของฉันกับเคนโซต้องจบลงพรึบฉันลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและหันมามองหน้าเคนโซที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม“ดูแลตัวเองดีๆนะครับ…ผมเป็นห่วง…”เคนโซว่าเสียงออดอ้อนพร้อมกับจับมือรั้งไว้ไม่ให้ฉันไป“อืม…นายก็อย่าลืมปิดบ้านปิดช่องให้เรียบร้อย”“ครับ…แม่^_^”เพลี๊ะ“โอ้ย!…พี่เอยผมเจ็บนะ”เคนโซร้องเสียงหลงที่โดยฉันตบลงไปที่หัวไหล่ของเขา ที่มาล้อเลียนฉัน“ฉันไปแหละ!”ฉันพูดเสร็จก็สะบัดมือของเคนโซที่จับฉันอยู่ให้ออกไปและฉันก็รีบเดินไปขึ้นรถตู้ของคุณทรงพลทันทีอย่างเร่งรีบเพื่อไม่ให้เขารอนาน คุณทรงพลเขาไม่ได้มารับฉันด้วย เขาส่งเพียงแต่คนขับรถประจำตัวของเขามาแทน ฉันก็นั่งเงียบมาตลอดทางโดยหันหน้าออกไปมองนอกกระจกก็พบกับเส้นทางที่ฉันไม่คุ้นเคยเลยสักนิด1ชั่วโมงต่อมา…โมเดลลิ่งQพรึบ“ขอบคุณครับ^_^”คุณทรงพลเอ่ยขอบคุณฉันที่ยื่นแก้วเหล้าที่ชงเสร็จส
บ้านเช่าA19:30น.ขวัญเอย กมลวรรณ….พรึบ“พี่เอยจะไปที่ไหนเหรอครับ?”เคนโซเอ่ยถามฉันทันทีที่ฉันเดินลงบันไดมาถึงขั้นสุดท้าย ฉันก็หันไปมองเขาที่ตอนนี้นั่งอยู่บนโซฟาโดยที่เขาเปิดโทรทัศน์ดูอยู่ ฉันก็เดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาวตัวเดียวกับเขาเพื่อจะสวมใส่รองเท้าบูทมินิมอลสีดำเต็มส้นมีซิปด้านข้างที่มีความหุ้มแค่ตาตุ่มฉัน“ทำไมพี่เอยแต่งตัวโป๊อีกแล้วครับ…ไหนว่าเข็ดแล้วไง?”เคนโซว่าอย่างสงสัยแต่สายตาเขาจับจ้องมาที่ฉันมันเป็นไปด้วยความไม่พอใจ วันนี้ฉันใส่เสื้อครอปคล้องคอสายเดี่ยวเปิดหลังแต่เสื้อมันตกแต่งผูกเชือกที่ด้านหลังอวดโชว์แผ่นหลังที่ขาวเนียนของฉัน และฉันยังใส่กระโปรงหนังพีซีผูกเชือกด้านข้างที่อวดเรียวขาอ่อนขาวๆของฉันอีกด้วยและฉันปล่อยผมของฉันให้สยายเต็มแผ่นหลังดูรวมๆแล้วก็เข้าขั้นโป๊นั้นแหละ เพราะกระโปรงฉันมันสั้นมากถ้าเผลอนั่งไม่ดีเห็นอะไรต่ออะไรของฉันแน่“เคนโซ….ฉันไปทำงาน…เพื่อนที่ทำงานก็แต่งตัวแบบนี้กันทั้งนั้น…”“ฉันไปทำงานแลกกับเงินหลักหมื่นนะ…”ฉันบอกเคนโซเสียงเข้มและแววตาจริงจัง“งั้นพี่เอยบอกผมได้ไหมครับ…ว่าพี่เอยจะไปที่ไหน?”“ผมจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงพี่….”เคนโซว่าเสียงอ่อนพร้อมกับทำ
“ทำไมคุยกับมันต้องยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วย?!”เสียงไม่พอใจอย่างห้วนๆของผู้ชายที่นั่งมองหน้าฉันอย่างไม่พอใจเอ่ยขึ้นทันทีที่ฉันวางสายคุณทรงพลไปแล้ว และเขาก็จ้องฉันตลอดเวลาที่ฉันคุยโทรศัพท์กับคุณจอมพลโดยที่เขาไม่ละสายตาและไม่กระพริบตาเลยด้วย“เขาเป็นนายจ้างฉัน…เขาแค่โทรมาเพื่อให้ฉันไปทำงานให้เขา…ฉันก็ต้องพูดดีๆกับเขาสิไม่งั้นเขาจะจ้างฉันเหรอ?”ฉันว่าเสียงเข้มพร้อมกับใบหน้าจริงจังใส่เคนโซไป เขาก็ถอนหายใจออกมาใบหน้าหล่อหงุดหงิดดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด“หึงฉันหรือไง?”ฉันเอ่ยถามเคนโซไปอย่างสงสัย เพราะไอ้อาการที่เขากำลังแสดงออกมันคืออาการหึงหวงชัดๆเพราะฉันก็มักจะทำแบบนี้บ่อยๆเวลาที่หึงพี่คีรีกับเลขาสาวสวยของเขา“ผมก็แค่เป็นห่วง…”เคนโซว่าเสียงอ้อมแอ้มพลางหันหน้าเสมองไปทางอื่น ใบหูของเขาเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ เด็กน้อยโกหกไม่เนียนเลยนะจ๊ะ^_^พรึบ“อาหารที่สั่งมาแล้วค่ะ^_^”เสียงหวานใสของพนักงานเอ่ยขึ้น ฉันก็หันไปมองยังอาหารที่เธอค่อยๆวางลงบนโต๊ะตรงหน้าฉันด้วยแววตาแพรวพราว“ขอบคุณค่ะ^_^”ฉันเอ่ยขอบคุณพนักงานไป เธอก็ก้มศีรษะให้ฉันอย่างสุภาพและเดินออกไปจากโต๊ะของฉันที่เธอวางอาหารครบทุกอย่างแล้ว“ฟืดดด…อันนี้แ
13:50น.ร้านส้มตำรสเลิศ….ขวัญเอย กมลวรรณ….พรึบ“เชิญครับ^_^”“ขอบใจย่ะ!”ฉันเอ่ยบอกเคนโซไปพลางเบะปากให้เขาอย่างหมั้นไส้ที่เขาขยับเก้าอี้ให้ฉันนั่งอย่างเป็นสุภาพบุรุษ “ด้วยความเต็มใจครับ^_^”เคนโซยิ้มละมุนให้ฉันพร้อมทำหน้าทะเล้นใส่ฉันก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับฉัน ฉันก็ส่ายศีรษะไปมาและหันมองไปรอบๆร้านอาหารข้างทางแห่งนี้ โต๊ะที่เคนโซกับฉันเลือกเป็นโต๊ะด้านในสุด ซึ่งตรงนี้บรรยากาศดีมากซึ่งก็มีผู้คนนั่งกินอยู่ตามโต๊ะของทางร้าน ผู้คนก็ไม่ได้มากนักแต่สีหน้าของแต่ละคนดูมีความสุขกับรสชาติของอาหารที่นี้นะพรึบ“สวัสดีค่ะ…คุณลูกค้าต้องการรับอะไรดีคะ?”“นี่เมนูค่ะ^_^”พนักงานสาวเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสพร้อมกับยื่นเมนูอาหารมาให้ฉันกับเคนโซคนละใบ ฉันก็ยื่นมือไปหยิบใบเมนูอาหารของร้านมาดู เคนโซเองก็หยิบใบเมนูอีกอันหนึ่งไปดูเช่นกัน“ผมเอาเป็นส้มตำปูหอยหนึ่งครกครับ…”“น้ำตกหมูหนึ่ง….ลาบเลือดหมูหนึ่ง…และก็ข้าวเหนียวหนึ่งกระติ๊บครับ…”“อ้อแล้วก็ไก่อย่างห้าไม้ครับ^_^”เคนโซดูเมนูแค่ไม่ถึงหนึ่งนาทีเขาก็เงยหน้าขึ้นไปรัวสั่งเมนูกับพนักงานของร้านจนเธอจดรายการอาหารมือเป็นระวิง“แล้วพี่เอยรั
“เข้าใจไหม…เด็กน้อย?”“เข้าใจครับเมีย^_^”เคนโซว่าพร้อมกับยิ้มกว้างให้ฉันจนตาปิด “เมียอะไร!”ฉันว่าเสียงดัง แต่ทำไมฉันรู้สึกเขินและชอบคำนี้ที่เคนโซเรียกฉันนะ“ก็ผมเรียกพี่เอยว่าพี่สาวไม่ถนัด…ก็เลยจะขอเรียกเมียแทนได้ไหมครับ^_^”“บ้า!…ไปเลยเดี๋ยวฉันไปมหาลัยสาย!!”ฉันว่าเสียงดังอย่างกลบเกลื่อนอาการเขินอายของตัวเอง ฉันรีบเดินออกมาจากบ้านไปรอเคนโซที่หน้าบ้าน“เร็วๆ!”ฉันตะโกนเร่งเคนโซ ที่เขาเอาแต่อมยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่คนเดียว ไอ้เด็กบ้า!ชอบทำให้ใจฉันเต้นผิดปกติ!“ครับๆๆๆ^_^”เคนโซตอบรับคำฉันเสียงใสก่อนจะรีบใส่รองเท้า และล็อคประตูไม้บ้านเช่าและรีบเข็นรถเครื่องคันใหญ่ของเขาออกมาจากโรงจอดรถที่อยู่ด้านข้างของบ้านเคนโซเข็นรถมอเตอร์ไซค์มาหยุดตรงหน้าฉันแล้วเขาก็ขึ้นนั่งคร่อมรถมอเตอร์ไซค์พรึบ“สวมใส่หมวกกันน็อคด้วยครับคนสวย^_^”“ย่ะ!”ฉันยื่นมือไปรับหมวกกันน็อคมาจากเคนโซและรีบสวมใส่มันทันทีก่อนจะกระโดดขึ้นนั่งข้างรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่ของเขาเพราะคนนั่งซ้อนมันอยู่สูงกว่าคนนั่งขับ ฉันจึงต้องโน้มตัวไปหาเคนโซพรึบ“กอดผมแน่นๆนะครับ…พี่เอยคนสวยของผม^_^”เคนโซว่าพร้อมกับเอื้อมมือมาจับมือฉันให้ไปกอดเอว
สองวันต่อมา…. ขวัญเอย กมลวรรณ..... 08:30น. พรึบ “ให้ผมไปส่งพี่เอยนะครับ….”เสียงอ่อนโยนของเคนโซดังตามหลังฉันมา ฉันก็หันไปมองหน้าเขาที่สวมใส่ยูนิฟอร์มเด็กวิทยาลัยเต็มยศ ฉันก็เดินมุ่งตรงไปยังโซฟาเพื่อจะสวมใส่รองเท้าส้นสูงของตัวเองเพื่อจะไปมหาลัย พรึบ “พี่ยังไม่หายดีเลย….”เคนโซว่าพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟากลางบ้านข้างๆฉัน ฉันก็หันไปยิ้มให้เขา “อืม…ได้สิ^_^”ฉันตอบตกลงเคนโซไป เขาก็ยิ้มร่าอย่างดีใจ ตลอดสองวันที่ฉันนอนซมเพราะเจ็บหน้าที่โดนตบและเจ็บท้องน้อยที่โดนต่อยไปหลายที ก็ได้เคนโซนี้แหละที่ดูแลฉันเป็นอย่างดี เขาน่ารักและอ่อนโยนมากเลยนะ^_^ “ต่อไปนี้ผมจะไปคอยรับคอยส่งพี่เอยเองนะครับ…” “ผมจะไม่ปล่อยให้พี่เอยไปเจอเหตุการณ์เลวทรามแบบนั้นอีกแล้ว…”เคนโซว่าเสียงอ่อนแต่แววตาของเขาดุดันจนน่ากลัว “อืม…ฉันก็คงเข็ดไปอีกนานเลยล่ะ…ฉันจะไม่แต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อยแบบนั้นอีกแล้ว…”ฉันว่าเสียงเศร้า อย่างคนที่เข็ดแล้วจริงๆ การจะโดนข่มขืนนี่มันเป็นอะไรที่โคตรสะเทือนใจและทำให้ฉันหวาดกลัวกับการไปไหนมาไหนคนเดียวไปเลยล่ะ “และกระโปรงของพี่เนี่ย…มีแต่แบบนี้เหรอครับ?”เคนโซว่าพลางเอื้อมมือหนามาลูบไล้ขาอ่