บ้านเช่า A
ย่านสลัม...... ขวัญเอย กมลวรรณ… พรึบ “บ้านหลังนี้แหละหนู…” “ในย่านนี้ก็เหลือแค่หลังนี้หลังเดียว…”เสียงทุ้มต่ำของคุณป้าวัยห้าสิบต้นๆเอ่ยขึ้น ฉันก็ละสายตาจากบ้านไม้สองชั้นที่ด้านบนเป็นไม้ด้านล่างเป็นปูนกลับมามองหน้าป้าเจ้าของบ้านเช่าหลังนี้และอีกหลายๆหลังที่อยู่ในซอยนี้ “สองห้องนอน…หนึ่งห้องน้ำ…หนึ่งห้องครัว…” “หนึ่งห้องนั่งเล่น….”ป้าเจ้าของบ้านเช่าเอ่ยต่อ “เดือนละสองพันห้า…น้ำไฟต่างหาก…” “สองพันห้าเหรอคะ?”ฉันเอ่ยทวนคำพูดของป้าเจ้าของบ้านเช่าไปด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแววตาเป็นประกาย เพราะมันถูกมากสองพันห้าน้ำไฟตั้งหากเนี่ย ได้บ้านทั้งหลังเลยนะ มันถือว่าถูกแสนถูกมาก หาถูกกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วจ้ะ “ใช่จ้า…จ่ายล่วงหน้าสองเดือนเข้าอยู่ได้ทันที…” “ถ้าเธอไม่เอา…แถวนี้ก็คงจะไม่ให้เช่าแล้วล่ะ…เหลือแต่หอ…” “แต่ค่าเช่าก็น่าจะแพงเพิ่มจากของฉันเป็นอีกเท่าตัว…” “งั้นตกลงค่ะ…หนูตกลง^_^”ฉันรีบตอบทันที ป้าเจ้าของบ้านก็ฉีกยิ้มกว้างให้ฉัน “งั้นไปที่บ้านฉันไปเซ็นสัญญากัน…” “อ้อได้ค่ะ^_^”ฉันพยักหน้ารับคำป้าเจ้าของบ้านพร้อมกับเดินตามหลังป้าเขาไปต้อยๆและทอดสายตามองไปรอบๆบ้านหลังที่ฉันตกลงเช่ามีรั้วรอบขอบชิดด้านในอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ฉันรู้สึกชอบและถูกชะตา คนที่เงินน้อยอย่างฉันไม่มีสิทธิ์เรื่องมากหรอกนะ ออกจากบ้านมาโดยมีเงินติดตัวแค่หนึ่งหมื่นบาท ไม่รู้ว่าฉันจะบริหารเงินน้อยๆแบบนี้ได้ยังไง เพราะเมื่อก่อนเงินหนึ่งหมื่นคือต่อวันที่ฉันใช้ แต่นี่ฉันกลับต้องใช้เงินหมื่นประทังชีวิตไปจนไม่รู้ถึงเมื่อไหร่ 19:00น. บ้านเช่าA พรึบ “น้องเอยแน่ใจนะคะ…ว่าอยู่ได้?”เสียงทุ่มละมุนเอ่ยออกมาอย่างสุภาพและเต็มไปด้วยความเป็นห่วงจากผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งที่ใส่สูทเต็มยศหน้าตาหล่อเหลาอย่างคุณแฟนสุดหล่อของฉันที่มีดีกรีเป็นถึงท่านประธานบริษัทส่งออกจิวเวลรี่ชื่อดังของเมืองไทยเลยนะ “แน่ใจสิคะ…แค่นี้สบายๆค่ะ^_^”ฉันหันไปมองหน้าพี่คีรีที่เขาทำหน้าเหยเกและมองไปรอบๆตัวบ้านหลังน้อยหลังนี้ ที่มีเฟอร์นิเจอร์ครบครันตัวบ้านก็ยังมองไม่เก่ามากนักนะเหมือนได้รับการดูแลอย่างดีเลยล่ะ ถึงมันจะเล็กกว่าห้องนอนฉันมากก็เถอะ “พี่ว่า…น้องเอยไปอยู่คอนโดดีกว่าไหมคะ…” “เดี๋ยวพี่จะดูแลน้องเอยเองทั้งค่าเทอมค่าขนม…รวมถึงค่า” พรึบ “พี่คีรีคะ…”ฉันเดินไปจับมือพี่คีรีและเอ่ยเรียกเขา เขาก็หยุดพูดและจ้องมองหน้าฉัน “เอยไม่อยากรบกวนพี่คีรี…และอีกอย่าง…เอยไม่อยากให้คุณแม่รู้ด้วยค่ะ…ว่าเอยอยู่ที่ไหน…” “แต่น้องเอยคะ…”พี่คีรีจะเอ่ยแย้งฉัน แต่ฉันกลับชิงพูดซะก่อน “ถ้าพี่คีรีอยากช่วยเอยจริงๆเนี่ย…พี่คีรีช่วยเก็บเรื่องที่พักของเอยเป็นความลับด้วยนะคะ…” “อย่าให้คุณแม่รู้เด็ดขาดว่าเอยอยู่ที่ไหน…” “พี่คีรี…รับปากเอยได้ไหมคะ?”ฉันทำสีหน้าและแววตาที่ดูจริงจังจ้องมองเข้าไปในตาของพี่คีรี เขาก็ทำสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมรับปากฉัน “ครับ…ก็ได้ครับ…พี่จะไม่บอกเรื่องที่พักกับคุณน้า…” “ขอบคุณมากค่ะ^_^”ฉันเอ่ยขอบคุณพี่คีรีไป เขาก็ยิ้มอ่อนให้ฉัน ฉันก็ยิ้มให้เขาก่อนจะปล่อยมือเขาให้เป็นอิสระและหันมาหยิบกระเป๋าและของของฉันที่เอามาจากบ้านของฉันขึ้นมาถือไว้เพื่อจะเตรียมขนย้ายขึ้นห้องนอนของฉันที่อยู่ชั้นบน พรึบ “พี่ยกขึ้นไปข้างบนเลยนะคะ?”พี่คีรีเอ่ยบอกในขณะที่สองมือของเขาถือกระเป๋าเดินทางของฉันทั้งสองข้าง ฉันก็ยิ้มและพยักหน้าเป็นคำตอบให้เขา “ห้องทางด้านซ้ายที่เปิดประตูไว้นะคะ^_^”ฉันเอ่ยบอกพี่คีรีไปแบบที่คุณป้าเจ้าของบ้านเช่าบอกฉันมา ซึ่งฉันเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมฉันห้ามเลือกห้องนอนด้วย ทั้งๆที่บ้านนี้ก็มีฉันอยู่แค่คนเดียว? “อ้อ…โอเคครับ^_^”พี่คีรียิ้มรับคำฉันก่อนจะยกกระเป๋าเต็มสองมือของเขาและเดินขึ้นบันไดไป ฉันก็หันมาหยิบของของที่จะเอาขึ้นไปบนห้องมาถือไว้และเดิมตามหลังพี่คีรีขึ้นบันไดไป พรึบ ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆ “พี่ขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ…”“พี่ขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ…”พี่คีรีหันมาเอ่ยบอกฉันพร้อมกับชูโทรศัพท์เครื่องหรูของเขาให้ฉันดู “ค่ะ^_^”ฉันยิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้พี่คีรี เขาก็ยิ้มให้ฉันอย่างสุภาพบุรุษและเดินออกไปจากห้องนอนบนชั้นสองของฉัน ฉันเมื่อพี่คีรีไปแล้วก็หันกลับมาจัดแจงข้าวของของฉันต่ออย่างไม่ให้เสียเวลส“ที่นอนก็ใช้ได้นะ…ถึงจะไม่นุ่มเหมือนที่บ้านเราก็เถอะ…”ฉันพึมพำออกมาพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งบนที่นอนของฉันที่เป็นขนาดเตียงนอนห้าฟุตได้ถูกปูด้วยผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตา มีหมอนสองใบหมอนข้างหนึ่งลูกและผ้านวมอีกหนึ่งผืน ฉันเอามือลูบไปบนที่นอนและนึกถึงความสุขสบายเวลาที่อยู่บ้านของฉันที่ฉันอยู่มาตั้งแต่เกิด แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อคุณแม่ของฉันท่านไม่ได้แคร์ความรู้สึกของฉันเลยสักนิดท่านไม่ถามฉันสักนิด…ว่าฉันอยากจะมีพ่อใหม่หรือเปล่าพรึบ“น้องเอยคะ!”“คะ?”ฉันรีบหันไปมองหน้าพี่คีรีที่เขาวิ่งกระหืดกระหอบมาตรงหน้าของฉันด้วยท่าทางรีบร้อนหน้าตาของเขาดูเคร่งเครียดนะ“พี่คีรีมีอะไรหรือเปล่าคะ?”“คือว่าพี่…มีธุระด่วนนะคะ…”พี่คีรีตอบฉันมาด้วยสีหน้าวิตกกังวล“อ้อค่ะ…งั้นพี่คีรีไปทำธุระเถอะค่ะ..ที่เหลือเดี๋ยวเอยจัดการต่อเองค่ะ…”
เช้าวันต่อมาบ้านเช่า Aห้องนอน ขวัญเอย…ขวัญเอย กมลวรรณ….08:30น.พรึบตุ๊บ!!!“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!”“เฮือก!”ฉันสะดุ้งตื่นสุดตัวลุกขึ้นนั่งจากที่นอนหลับอย่างสบายด้วยความตกใจกับเสียงกรี๊ดของผู้หญิงที่ดังสนั่นอยู่ในบ้านของฉัน ใช่มันต้องดังอยู่ในบ้านของฉันแน่ๆ“ใครเข้ามากรี๊ดในบ้านฉันเนี่ย!”ฉันโวยขึ้นและลุกออกมาจากที่นอนด้วยท่าทางฉุนเฉียวเมื่อคืนฉันก็ล็อคประตูบ้านแล้ว แล้วใครเข้ามาในบ้านของฉัน จะว่าเป็นเสียงจากข้างบ้านก็ไม่ใช่ เพราะบ้านข้างๆทั้งซ้ายและขวาอยู่ห่างจากบ้านฉันตั้งห้าร้อยเมตรน่ะ ไม่มีทางที่เสียงมันจะดังใกล้ขนาดนี้ได้พรึบ“หึย!หงุดหงิดโว้ย!!”ฉันสบถขึ้นอย่างหัวเสียพร้อมกับเดินตรงดิ่งไปยังประตูห้องนอนของฉันและหมุนลูกบิดพร้อมกับเปิดประตูออกไปดูเหตุการณ์ข้างนอกด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด จะไม่ให้โมโหได้ยังไงคนกำลังนอนกลับสบายแต่กลับมีทั้งเสียงกรี๊ดกร๊าดและเสียงเขวี้ยงปาข้าวของพรึบ“นี่!…ไอ้พี่เคน…”“แกจะหลอกเอาฉันฟรีเหรอห๊ะ!”เสียงผู้หญิงแหลมสูงปี๊ดเอ่ยขึ้นทำให้ฉันขมวดคิ้วงุนงงเพราะต้นตอของเสียงนั้นดังมาจากห้องนอนฝั่งตรงข้ามกับห้องของฉัน ซึ่งห้องนั้นมีคนอยู่ด้วยเหรอ? ทำไมฉันไม่รู้?
“เอ่อ…เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่สินะครับ…”เสียงทุ้มละมุนเอ่ยขึ้นทำให้ฉันเผลอสะดุ้งตกใจและรู้สึกตัวว่าเผลอจ้องเรือนร่างของผู้ชายตรงหน้านี้นานเกินไปแล้วพรึบทันทีที่ฉันเงยหน้าขึ้นไปหมายจะก่นด่าเขาแต่แล้วฉันก็ต้องเข้าสู่โหมดตกตะลึงเป็นรอบที่สอง กับใบหน้าหล่อเหลาจมูกโด่งเป็นสันดวงตาสองชั้นกลมโตริมฝีปากหยักสีชมพูอวบอิ่มปลายคางเรียวใบหน้าเรียวยาวราวกับเป็นใบหน้าที่ฟ้าประทาน รวมไปถึงเรือนผมของผู้ชายคนนี้ที่ออกสีน้ำตาลเข้มๆจัดว่าเขาคนนี้เป็นผู้ชายที่หล่อมากจริงๆ ถึงที่มุมปากของเขาจะมีรอยฟกช้ำอยู่แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อของผู้ชายคนนี้ลดน้อยลงเลย“เอ่อออ….”ฉันอ้ำๆอึ้งๆพูดอะไรไม่ออก “นี่…แกจะยืนอยู่อีกนานไหม…ฉันมีธุระจะเคลียร์กับผู้ชายคนนี้!”เสียงแหลมเฟี้ยวของผู้หญิงดังเรียกสติฉันให้กลับมา ฉันก็ละสายตาจากหนุ่มหน้าหล่อสไตล์เกาหลีไปมองหน้าคู่อริของเขาแทน ก็พบกับผู้หญิงร่างเล็กที่มีผ้าขนหนูผืนจิ๋วพันเรือนร่างของเธอทำให้ฉันรู้ได้ทันที ว่าสองคนนี้เพิ่งผ่านอะไรกันมา“ฉันแค่จะบอกว่า..บ้านฉันไม่ใช่โรมแรมม่านรูด…”ฉันเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบตรึงทำให้ผู้ชายหน้าหล่อถึงกับขมวดคิ้วงุนงงและสงสัยพร้อมกับมองเรือนร่
วันเดียวกัน12:30น.บ้านของคุณป้าเจ้าของบ้านเช่าขวัญเอย กมลวรรณ….พรึบ“ทำไมคุณป้าไม่บอกหนูล่ะค่ะว่าหนูมีรูมเมท?”ฉันเอ่ยถามคุณป้าเจ้าของบ้านไปอย่างเอาเรื่อง ที่เธอไม่ยอมบอกฉันในตอนที่ฉันไปดูบ้านและตกลงเซ็นสัญญาเช่าบ้านกับเธอ“ถ้าป้าบอก…หนูก็ไม่เอาน่ะสิ”คุณป้าเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าแหยๆ เพราะเธอคงจะเห็นสีหน้าที่ไม่พอใจของฉันน่ะ “ถือว่าช่วยๆกันนะ…หนูก็มีห้องนอนส่วนตัวหนิ…พ่อหนุ่มเขาไม่ยุ่งหรอกนะ…”“เขาเป็นเด็กดี^_^”“เด็กดีอะไรคะ…ไม่มีตังค์มาจ่ายค่าเช่าคุณป้าน่ะ?”“ก็เพราะเรื่องนี้ไงจ๊ะ…ป้าถึงต้องหาทางออกให้กับตัวป้าเองและพ่อหนุ่มคนนั้น…”คุณป้าว่าเสียงอ่อนพร้อมกับทำสีหน้าเศร้าลงให้ฉันรู้สึกเห็นใจเธอ ซึ่งมันก็ได้ผล ฉันเห็นใจเธอจริงๆ“แม่หนูเองก็เดือดร้อนไม่ใช่เหรอจ๊ะ….และแม่หนูก็จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าให้ป้าแล้วด้วย…”“อดทนอยู่ต่อเถอะนะจ๊ะ…”“ค่ะ…ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละค่ะ…”ฉันเอ่ยเสียงแผ่วเบาบอกคุณป้าไป เพราะยังไงๆฉันก็ไม่มีเงินมากพอที่จะไปเช่าบ้านเดี่ยวหรือคอนโดอยู่อยู่แล้วล่ะ ฉันต้องจำใจอยู่ในบ้านเช่าหลังน้อยที่มีรูมเมทเป็นผู้ชายนี้ต่อไป เขาคงจะไม่ทำอะไรฉันหรอกมั้ง น่าตาเขาก็ไม่ได้ดูเลวร้าย
ฉันพิมพ์ข้อความตอบกลับพี่คีรีไป ถึงแม้ฉันจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ในใจของฉันมันก็แอบเสียใจอยู่นะ ที่เขามีเวลาให้ฉันน้อยลงตั้งแต่พี่คีรีเข้าไปบริหารงานแทนคุณอาเกริกพลคุณพ่อของเขาน่ะปื้นๆๆๆๆๆ(เสียงของเครื่องมอเตอร์ไซค์)พรึบ“ให้ผมไปส่งไหมครับ…น้องสาวคนสวย^_^”เสียงทุ้มละมุนเอ่ยออกมาจากผู้ชายหน้าหล่อที่ขี่รถบิ๊กไบค์คันใหญ่มาจอดเทียบด้านข้างของฉันพร้อมกับดับเครื่องยนต์ที่เสียงดังกระหึ่มของเขาลง“ใครเป็นน้องนายไม่ทราบ?”ฉันหันไปมองหนุ่มหน้าหล่อรูมเมทของฉันด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตร แต่นายหน้าหล่อนั้นกลับทำสายตาหวานเชื่อมให้ฉันอย่างหว่านเสน่ห์ เชอะฉันไม่หลงกลนายหรอกย่ะ ไอ้คาสโนว่าเอ้ย! ประเด็นเมื่อเช้าที่นายหน้าหล่อนี้หลอกฟันผู้หญิงฟรียังไม่เคลียร์เลยมั้ง แต่ฉันไม่อยากยุ่งเรื่องของคนอื่นเลยไม่ได้สนใจน่ะ“งั้น…พี่สาวคนสวยก็ได้ครับ^_^”“แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าฉันอายุมากกว่านาย?”“ก็ดูจากที่พี่สาวคนสวย…ใส่ชุดนักศึกษาที่ทำให้หัวใจของผมเต้นรัวเร็ว….เลือดในร่างกายสูบฉีด”เขาไม่พูดเปล่ายังมองมาที่เรือนร่างของฉันที่สวมใส่ชุดนักศึกษาตัวเล็กรัดติ้วอวดทรวงทรงองเอวของฉัน เนื้อเป็นเนื้อ นมเป็นนม ตูดเป็นตูดแถมกระ
เย็นวันเดียวกันคอนโด คีรี…20:00น.ขวัญเอย กมลวรรณ…พรึบ“เห้อ…เสร็จสักทีนะ^_^”ฉันพึมพำออกมาพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองโต๊ะอาหารที่ฉันเป็นคนจัดเองในค่ำคืนนี้เพื่อรอดินเนอร์กับพี่คีรี ตอนนี้ฉันอยู่ที่คอนโดของพี่คีรี ฉันไม่ได้โทรบอกเขาก่อนคิดว่าจะเซอร์ไพรส์เขาน่ะ และฉันก็จะนอนค้างกับพี่คีรีที่นี้สักคืน ซึ่งฉันมานอนค้างกับพี่คีรีที่คอนโดนี้บ่อยมากนะ แต่เราสองคนยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งอะไรเลยนะนอกจากแค่นอนจับมือมองตากันแค่นั้นเองพรึบ“พี่คีรีต้องชอบมากแน่ๆ^_^”ฉันเอ่ยออกมาที่มองไปที่โต๊ะอาหารเบื้องหน้าและเทียนแท่งเล็กๆที่ถูกวางจุดและวางไปรอบๆห้องแห่งนี้ที่ถูกฉันตกแต่งเป็นรูปหัวใจโดยมีโต๊ะอาหารสำหรับสองคนตั้งอยู่ตรงกลาง มันดูโรแมนติกดีนะ^_^พรึบฉันถอดผ้ากันเปื้อนออกจากชุดนักศึกษาของฉันแล้วนำมันไปเก็บไว้ที่เก็บผ้าและกลับมาหยิบโทรศัพท์ของฉันเพื่่อจะส่งข้อความหาพี่คีรีพรึบฉันหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องนั่งเล่นและกดส่งข้อความหาพี่คีรีทันทีขวัญเอย:พี่คีรีคะฉันพิมพ์ข้อความในแอปพลิเคชันไลน์ของพี่คีรีรอสักพักพี่คีรีก็อ่านข้อความของฉัน ฉันก็อมยิ้มเล็กน้อยเพื่อรอข้อความตอบกลับ
พรึบ“ค่ะ…เอยเองค่ะ^_^”ฉันปล่อยมือจากเอวสอบของพี่คีรีและเขาก็หันมามองหน้าฉันพร้อมกับทำสีหน้าเอ็นดูใส่ฉันพร้อมกับยื่นมือมาจับมือฉันไปกุมไว้ สีหน้าของพี่คีรีดูแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นฉันมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาแบบนี้“นี่หลอกพี่หรือคะ?”พี่คีรีกดเสียงต่ำพลางทำสีหน้าง้องอนใส่ฉัน ฉันก็อมยิ้มให้เขาก่อนจะเบียดร่างอวบอิ่มของฉันแนบชิดไปกับแผงอกแกร่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวของพี่คีรี“อย่าโกรธเอยได้ไหมล่ะค่ะ^^”“ได้สิครับ…แฟนสวยน่ารักขนาดนี้…ใครจะไปโกรธลง^_^”“ก็ดีแล้วค่ะ…พี่คีรีทานข้าวมาหรือยังคะ…เอยทำอาหารที่พี่คีรีชอบเตรียมไว้ดินเนอร์กับพี่นะคะ^_^”“ยังเลยครับ…พี่ยังไม่ได้ทานอะไรเลย^_^”“งั้นเราไปทานอาหารกันดีกว่าค่ะ^_^”“ครับ^_^”พี่คีรีตอบรับคำฉันพร้อมกับยิ้มหวานให้ฉันและจูงมือฉันเดินไปตามทางที่มีแสงสีส้มให้ความสว่างจากเทียนเล็กๆที่ฉันเป็นคนทำไปเรื่อยๆจนไปถึงใจกลางของรูปหัวใจที่มีโต๊ะอาหารอยู่ พี่คีรีเลื่อนเก้าอี้ให้ฉันอย่างสุภาพบุรุษและเขาก็ไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับฉัน“อร่อยไหมคะ?”“อร่อยที่สุดค่ะ…สเต็กหมูฝีมือน้องเอยเนี่ย^_^”พี่คีรีเอ่ยชมฉันหลังจากที่ฉันหันเนื้อสเต็กและยื่นป้อนพี่คีรี
“พี่ขอโทษนะคะ…”พี่คีรีเอ่ยขอโทษฉันด้วยสีหน้าและน้ำเสียงรู้สึกผิด เขายื่นมือมาติดกระดุมเสื้อนักศึกษาของฉันให้เสร็จสรรพครบทุกเม็ดที่โดนฉันปลดออกไป“มันยังไม่ถึงเวลา….”พี่คีรีมองหน้าฉันด้วยแววตาสั่นไหว ฉันก็มองหน้าเขาและคลี่ยิ้มบางๆออกมา “ค่ะ…เอยเข้าใจ…”“พี่คีรี…คงจะมองเอยเป็นผู้หญิงใจง่ายใช่ไหมคะ?”ฉันเอ่ยถามพี่คีรีไปอย่างใจคิด การที่ฉันทำแบบนี้ก็เท่ากับฉันเสนอตัวให้เขาแต่เขากลับปฏิเสธฉัน ฉันไม่ดึงดูดเขาหรือเขาเป็นสุภาพบุรุษมากเกินไป…“ไม่ค่ะ…พี่เข้าใจที่น้องเอยทำ…”“พี่ก็อยากจะทำเรื่องแบบนั้นกับน้องเอย…”“แต่….”“แต่อะไรคะ?”ฉันเอ่ยถามพี่คีรีไปอย่างสงสัยที่เขาพูดและทำสีหน้าดูเคร่งเครียดและจริงจัง“เปล่าค่ะ…ให้พี่ไปส่งน้องเอยดีกว่านะคะ…”“ค่ะ…”ฉันตอบตกลงที่จะให้พี่คีรีไปส่ง เพราะมันดึกแบบนี้ คงไม่มีแท็กซี่วิ่งแล้วล่ะ….ถึงจะมีฉันก็คงจะไม่กล้านั่ง23:30น.บ้านเช่าAขวัญเอย กมลวรรณ….ตั่บๆๆๆๆๆๆๆพั่บๆๆๆๆๆ“อ๊ะๆๆๆๆๆพี่เคนคะ…”“มีนาเสียววววอ๊าาาาาา”“ไม่ไหวแล้วค่ะ!!”“อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เสียงร้องที่ทรมานอย่างสุขสมของผู้หญิงดังเข้ามาในหูทั้งสองข้างของฉัน ทำให้ฉันที่กำลังจะก้าวเท้าเดินเข้าห้องนอนของ
“ค่ะ…ขอบคุณนะคะ^_^”มีนายิ้มกว้างให้ผม ผมก็ยิ้มให้เธอ แววตาของเธอดูดีใจ ทำให้ผมโล่งอกไปที่เธอไม่ได้รักผมจริงๆแบบที่พี่เอยบอก ทีนี้ผมก็ลงมือจีบพี่ขวัญเอยคนสวยของผมได้อย่างเต็มที่แล้วสินะ พี่ขวัญเอยคนสวย ขวัญใจของผม^_^“งั้นมีนาขอตัวกลับก่อนนะคะ^_^”“ครับ…กลับบ้านดีๆนะ^_^”“ค่ะ…บ๊ายบายค่ะ^_^”“บ๊ายบายครับ^_^”เมื่อมีนากลับไป ผมก็ยังคงเดินกระวนกระวายดูเวลาจากหน้าจอโทรศัพท์ด้วยความร้อนรุ่มเพราะเป็นห่วงพี่เอยอยู่แบบนั้ร นี่ก็จะเที่ยงคืนอยู่แล้ว แต่เธอยังไม่ถึงบ้านเลย เกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือเปล่า….พรึบผมไม่รอช้ารีบไปคว้าเสื้อแจ็คเก็ตและกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ของผมเพื่อจะออกไปตามหาพี่เอยเอี๊ยดดดดเมื่อผมเข็นรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ของผมออกมาถึงหน้าบ้าน ก็มีรถตู้คันสีดำมาจอดเทียบด้านหน้าขวางประตูทางออกบ้านของผมพรึบ“พี่เอย!!”ผมร้องเสียงหลงออกมาด้วยความตกใจที่เห็นเสื้อผ้าที่พี่เอยสวมใส่และผมเผ้ายุ่งเหยิงของเธอผมตั้งขาตั้งรถและรีบวิ่งเข้าไปหาร่างของพี่เอยที่มีผู้ชายที่ชื่อทรงพลประคองอยู่ด้วยความเป็นห่วง“คุณทำอะไรพี่เอย?!”ผมถามไอ้ทรงพลเสียงเข้ม พร้อมกับยื่นมือไปปัดมือมันที่โอบไหล่ของพี่เอยอยู่ให้ออ
เพราะเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นกับผมมาแล้ว มันทำให้ผมรู้สึกถึงความเจ็บปวดและความเสียใจ และมันทำให้ผมรู้ว่า ผมเป็นไอ้โง่ในสายตาของคนอื่น และทำให้ผมเสียใจที่สุดเมื่อถูกคนที่ตัวเองรักมองว่าเราเป็นไอ้โง่ที่ยอมให้เธอสวมเขาอยู่ได้แต่กลับกันเพราะคราวนี้ ผมไม่เจ็บและไม่รู้สึกเสียดายไม่รู้สึกเสียใจเหมือนครั้งนั้น เพราะหัวใจของผมมันด้านชาไปแล้ว “มีนาคงจะเจอคนที่ดีกว่าพี่แล้วสินะ^_^”ผมเดินไปหยุดตรงด้านข้างของมีนาและเอ่ยถามเธอไปด้วยน้ำเสียงปกติ พรึบ“พะพี่เคนโซ!”ผิดกับมีนาที่เธอมีสีหน้าที่ตื่นตกใจเธอหันมาและลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับผม ผมก็คลี่ยิ้มบางๆให้เธอ“พี่ดีใจนะ…ที่มีนาเจอคนที่ดีกว่าพี่…”“แต่พี่เคนโซคะ?”“มีนาไม่ต้องสนใจพี่หรอกค่ะ….เพราะคนที่ดีกว่าพี่มีเยอะแยะไป^_^”“คนที่สวยน่ารัก…นิสัยดีแบบน้องมีนา…ต้องมีคนที่รักน้องมีนาจริงๆค่ะ…”ผมว่าพร้อมกับยื่นมือไปจับมือเธอทั้งสองข้างมากุมไว้และมองตาเธอด้วยแววตาสดใส เพราะผมไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยสักนิด และไม่รู้สึกโกรธมีนาด้วยที่เธอทำแบบนี้กับผมเพราะผมเองก็อยากจะเลิกกับเธออยู่แล้ว แต่มันติดตรงที่ผมกลัวว่า มีนาจะรักผมจริงๆขึ้นมา แต่ตอนนี้มันทำให้ผมรู้
บ้านเช่าAห้องนั่งเล่นเคนโซ คิณภพ….22:30น.พรึบ“พี่เคน…เป็นอะไรหรือเปล่าคะ…มองพี่ดูกระสับกระส่ายเดินไปเดินมาอย่างคนที่มีเรื่องร้อนรุ่มกลุ้มใจอยู่อย่างงั้นแหละ…?”เสียงสงสัยของมีนาที่เธอนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องนั่งเล่นเอ่ยถามผมผมที่เดินวนไปวนมาอยู่หน้าประตูของบ้านตั้งแต่สองทุ่มจนตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้วด้วยความเป็นห่วงพี่ขวัญเอยทำให้ผมนั่งไม่ติดและทำใจสบายๆไม่ได้“อ้อ…เปล่านะคะ..”ผมหันไปตอบมีนาอย่างโกหกหน้าตาย มีนาก็ทำหน้าสงสัยนะแต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะเธอกำลังนั่งดูซีรี่ย์อยู่ ผมเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้สนใจผมแล้ว ผมก็หยิบโทรศัพท์ของผมออกมาจากกระเป๋ากางเกงเพื่อจะโทรหาพี่ขวัญเอย“น้องมีนาครับ?”“คะ?”มีนาละสายตาจากโทรทัศน์จอแบนมามองหน้าผมที่ผมเอ่ยเรียกเธอ“เดี๋ยวพี่ไปคุยโทรศัพท์กับเพื่อนแปปหนึ่งนะคะ”ผมว่าพร้อมกับชูโทรศัพท์ของผมให้เธอดู เธอก็ยิ้มและพยักหน้าเป็นคำตอบ“ค่ะ^_^”ผมก็ยิ้มหวานให้เธอและรีบเดินออกมาจากตัวบ้านไปหยุดที่หน้าบ้านพอห่างไกลพอที่มีนาจะไม่ได้ยินผมคุยโทรศัพท์แล้วพรึบผมก็รีบกดโทรหาพี่ขวัญเอยทันที เพราะเมื่อวานผมหลอกเอาเบอร์เธอมาโดยอ้างว่าขอยืมโทรศัพท์เธอโทรหามีนา แต่ท
“ฉันก็อยากพักนะ…แต่วันนี้ไหนๆฉันก็หยุดเรียนแล้วอ่ะ…ก็เลยตั้งใจว่าจะทำรายงานให้เสร็จ..”“และตอนห้าโมงเย็นฉันก็ต้องไปทำงานต่ออีกด้วยอ่ะ…”ฉันว่าเสียงเข้มอย่างจริงจัง เคนโซก็ยิ้มอ่อนให้ฉัน ฉันก็ยิ้มให้เขาก่อนจะหันไปให้ความสนใจงานของฉันต่อ“เดี๋ยวผมมานะครับ…พี่เอยอย่าลืมทานมาม่าล่ะ..”“ผมเตรียมมาม่า…น้ำเปล่า…และยาแก้อักเสบไว้ให้แล้วครับ…”“อืม…ขอบใจนะ^_^”ฉันหันกลับมายิ้มร่าให้เคนโซที่เขาอุตส่าห์เสนอตัวไปต้มมาม่ามาให้ฉันกิน“ด้วยความเต็มใจครับ”เคนโซยิ้มละมุนให้ฉันก่อนจะลุกออกไปจากเตียงนอนของฉัน เมื่อเคนโซลุกไปแล้ว ฉันก็กลับมาพิมพ์งานต่อด้วยความสบายๆเพราะฉันมันเก่งอยู่แล้ว ฉันพูดได้ตั้งห้าภาษาแหนะ งานแค่นี้จิ๊บๆสำหรับฉัน^_^ คุณหนูที่อดีตเคยรวยและสวย…แต่ตอนนี้ฉันก็ยังสวยอยู่นะ แต่แค่ไม่รวยแล้วแค่นั้นเอง-_-….16:00น.ห้องนอนขวัญเอย….พรึบ“ผมไม่อยากให้พี่เอยไปทำงานแบบนั้นเลย…”เคนโซว่าเสียงเศร้า นัยน์ตาของเขาจับจ้องมองมาที่ฉัน ที่ตอนนี้กำลังนั่งเอาแป้งตลับที่ผสมรองพื้นทาปกปิดรอยรักที่เคนโซทำไว้เมื่อคืนอยู่อย่างประนีประนอมเพราะถ้ามีใครเห็นรอยพวกนี้ละก็ มีหวังฉันอับอายไม่มีที่อยู่แน่“งานถึงเนื้
วันต่อมา14:30น.บ้านเช่าA…ห้องนอนขวัญเอย….พรึบ“มาม่าร้อนๆมาแล้วครับพี่เอย^_^”เสียงแจ่มใสของเคนโซดังมาแต่ไกลโดยที่ในมือของเขากำลังถือถาดเล็กๆที่มีชามมาม่าสีขาววางอยู่ฉันที่กำลังทำงานอยู่ต้องเงยหน้าจากโต๊ะพับอันเล็กที่สามารถวางอยู่บนที่นอนได้ไปมองหน้าของเคนโซ ที่ตอนนี้เขามีใบหน้าอิดโรยและซีดเซียว“วางเลย…”ฉันบอกเคนโซเสียงเรียบและชี้นิ้วให้เขาวางลงบนโต๊ะตรงหน้าฉัน เคนโซก็วางชามลงตามคำสั่งของฉันและฉันก็หันกลับมาให้ความสนใจงานที่อาจารย์ฉันสั่ง โดยมีกำหนดส่งคืออาทิตย์หน้าแต่สั่งงานเมื่อวาน เวลากลางคืนฉันก็ต้องไปทำงาน กลางวันไปเรียนแต่วันนี้ฉันไปเรียนไม่ไหวเพราะเมื่อคืนไม่ได้นอนเมื่อเช้าเลยน็อคเข้าห้วงนิทราเพิ่งตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเมื่อกี้นี้เอง ที่ไม่ได้นอนเพราะมัวแต่ทำกิจกรรมรักกับเคนโซอยู่น่ะสิพรึบ“มองหน้าตาจริงจังจังเลยครับ…พี่เอยพักมาทานมาม่าก่อนไหม?”เคนโซว่าพร้อมกับนั่งลงบนเตียงนอนข้างๆตัวฉัน ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา มือก็จัดการพิมพ์งานในแมคบุ๊คไปอย่างชำนาญ“โห้…พี่พิมพ์ไวจัง”เคนโซว่าด้วยเสียงตกตะลึง ฉันก็ละสายตาจากแมคบุ๊คมามองหน้าเคนโซด้วยสายตาเยาะเย้ย“บังเอิญว่าฉันเป็นคนตั้ง
เขาจัดการใช้ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ไปร่องสวาทของเธออย่างแผ่วเบา จนร่างของกมลวรรณสั่นสะท้านไปกับทุกการสัมผัสของคิณภพ“อ๊าาาาาาาาาาาเสียววววว”เธอร้องครวญครางเสียงออกกระเส่าเมื่อคิณภพใช้ปลายนิ้วขยี้ปุ่มกระสันสีสดของเธอ จนกมลวรรณร่อนเอวสู้นิ้วของเขา คิณภพยิ้มกริ่มที่เขาเรียกน้ำหวานจำนวนมากของเธอออกมาได้แล้ว ส่วนปลายลิ้นของเขาก็ยังคงเลียตวัดขึ้นลงกับยอดปทุมถันสร้างความเสียวซ่านให้กมลวรรณเพิ่มขึ้นไปอีกพรึบคิณภพผละใบหน้าหล่ออกมาจากเต้าอวบอิ่มของกมลวรรณและจัดการจับร่างเล็กที่เปลือยเปล่าของเธอในเอนนอนลงนาบไปบนโต๊ะไม้“อื้อออ”กมลวรรณหอบหายใจเหนื่อยถี่ ความเป็นสาวของเธอขมิบเข้าออกเพราะความเสียวซ่านที่ยังไม่คลายลงคิณภพไม่รอช้าเขาก้มหน้าลงไปหาความเป็นสาวที่อวบอูมท้าทายสายตาเขาทันที“อื้ออออ”กมลวรรณสั่นสะท้านไปด้วยความเสียวซ่านที่คิณภพใช้ปลายนิ้วมือของเขาแหวกกลีบกุหลาบงามชั้นนอกของกมลวรรณออกจากกัน“ปุ่มกระสันของพี่เอย….น่ารักจังเลยครับ”คิณภพเขาไม่พูดเปล่า เขายังใช้ปลายนิ้วเขี่ยเม็ดปุ่มกระสันสีชมพูของกมลวรรณอีกด้วยทำให้ร่างเล็กที่อวบอั๋นของเธอสั่นระริกไปด้วยความเสียวซ่าน“อื้ออออร๊ายยยย!”กมลวรรณครวญค
“เจ็บไหมครับ…ผมขอโทษนะ…”คิณภพเมื่อแก้มัดให้กมลวรรณได้แล้ว เขาก็มองหน้าเธอด้วยแววตาสั่นไหว เขาถามเธอไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพรึบ“อย่ายุ่งกับฉัน!”กมลวรรณผลักมือของคิณภพที่เขาจะยื่นมาจับข้อมือที่เป็นรอยแดงจากเข็มขัดของเธอมาดูอย่างแรง“พี่เอย!”คิณภพเรียกกมลวรรณด้วยแววตาตกใจ“ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย…”“ออกไป!”กมลวรรณเอ่ยไล่คิณภพเสียงเข้มแววตาของเธอแข็งกร้าว“พี่เอยครับ..”คิณภพเรียกกมลวรรณเสียงอ่อนพลางจะเข้าไปหาเธอ ที่ตอนนี้เธอยันตัวลุกขึ้นนั่งแล้ว“ฉันเกลียดนาย!!”กมลวรรณตะโกนใส่หน้าคิณภพ เขาตกใจและรู้สึกเจ็บปวดที่เธอบอกว่าเธอเกลียดเขา“แต่ผมชอบพี่นะ…”“พี่เอยผมชอบพี่!!”คิณภพตวาดเสียงดังลั่นพร้อมกับโผเข้าสวมกอดร่างเปลือยเปล่าของกมลวรรณอย่างแน่น กมลวรรณก็หัวใจเต้นโครมครามที่เห็นคิณภพบอกว่าเขาชอบเธอด้วยแววตาจริงจังแบบนั้นพรึบ“ผม…ชอบพี่จริงๆนะครับ..พี่ขวัญเอย…”คิณภพผละกอดจากกมลวรรณและเอ่ยบอกเธอไปด้วยสีหน้าจริงจัง เขายื่นมือไปจับปลายคางของขวัญเอยและค่อยๆโน้มใบหน้าหล่อลงไปหาเธอและจัดการประกบริมฝีปากจูบเธออย่างอ้อยอิ่งและอ่อนโยน กมลวรรณจึงหลับตาพริ้มและจูบตอบคิณภพไปมือหนาของคิณภพเริ่มลูบไล้ไปตา
“จ๊วฟฟฟ” “อื้อออ”ฉันร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดที่โดนเคนโซกัดริมฝีปากของฉันอย่างเน้นย้ำเขาทั้งดูดทั้งดึงอย่างไม่มีความอ่อนโยนให้ฉันคล้อยตามเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา พรึบ แกว๊กกกก “อื้ออ”เสื้อผ้าชุดเกาะอกที่ฉันสวมใส่อยู่ถูกเคนโซใช้มือกระชากมันจนขาดไปจากร่างของฉันและโยนมันทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดี พรึบ ตุ๊บ “อื้ออ…ฉันเจ็บนะ!!”ฉันแผดเสียงดังไปอย่างกรุ่นโกรธและเจ็บปวดที่เคนโซจับร่างของฉันผลักลงไปบนโต๊ะกินข้าว เขาจ้องฉันเขม่นก่อนจะถอดเสื้อผ้าของเขาออกไปจากร่างกายของตัวเองและเดินมุ่งตรงมาหาฉัน “เคนโซ!!” “นายจะทำอะไรฉัน!!” “ก็สนองให้ผู้หญิงร่านๆแบบพี่ไง!” “พี่หิวเงินไม่ใช่เหรอไง…” “อย่ามาพูดจาแบบนี้กับฉันนะ!” “ฉันไม่ชอบ!!” “หึ!….ไม่ชอบก็เรื่องของเธอดิ…”สรรพนามและแววตาของเคนโซแปรเปลี่ยนไป เขาไม่ได้เรียกฉันว่าพี่และที่สำคัญ เขาไม่เคยมองฉันด้วยแววตาดุดันและดูถูกแบบนี้ พรึบ “อึก”ฉันกลืนน้ำลายลงคอดังอึกใหญ่และพยายามถอยหลังหนีเขาแต่ก็ไม่พ้น โดนเคนโซจับขาทั้งสองข้างของฉันไว้ซะก่อน “เคนโซ!!” “ปล่อยฉัน!!” พรึบ “กรี๊ดดดดดดอุ๊บ!”เสียงของฉันขาดหายไปเนื่องจากเคนโซใช่เสื้อยืดสีดำของเขามัดปากฉ
พรึบ“ค่าน้ำมัน…และค่าเสียเวลาที่นายไปรอฉัน^_^”“ได้มาเยอะเหรอครับ….ผู้ชายคนนั้น..มองมีเงิน…”“เขาให้ฉันมาหนึ่งหมื่นน่ะ^_^”ฉันตอบเคนโซไปพร้อมกับยิ้มกว้างออกมาอีกครั้ง พรึบเคนโซยื่นมือมารับเงินไปจากมือฉันและเขาก็ลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับฉัน ความที่เขาสูงกว่าฉัน ฉันจึงต้องเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขา“หึ!…เงินแค่หนึ่งหมื่น…พี่ก็ยอมอ้าขาให้เขาเอานะครับ…”“ค่าตัวพี่มันมีค่าแค่หนึ่งหมื่นสิท่า….”“นายพูดอะไรของนาย?”ฉันทวนคำพูดของเคนโซไปอย่างงงๆและไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไร ฉันไปอ้าขาให้ใคร “พี่ยอมทิ้งผม…แล้วไปกับไอ้เศรษฐีคนนั้น…”“ไปนอนแหกให้มันเอา!!”เคนโซตะโกนใส่หน้าฉัน คำพูดที่เขาดูถูกฉันทำให้ฉันเข้าใจแล้วว่าเขาคิดว่าฉันไปทำอะไร และอ้าขานั้น มันเป็นคำพูดที่จะดูถูกเหยียดหยามฉัรมากเกินไปแล้วนะ!!! เพลี๊ยฉันยื่นมือไปตบหน้าเขาเต็มแรงอย่างไม่พอใจจนใบหน้าหล่อหันไปตามแรงตบของฉัน“หยาบคาย!!”ฉันตะโกนใส่หน้าเคนโซ ใบหน้าของฉันร้อนผ่าวหัวใจของฉันเต้นระรัวอย่างโกรธจัดและไม่พอใจเคนโซที่เขาคิดว่าฉัน ไปนอนกับคุณทรงพลเพื่อแลกกับเงินเหรอ เขาเห็นว่าฉันเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน“ผู้หญิงก็เหมือนกันหมด…เห็นเงินด