“คุณแม่ยังไม่ตื่นเหรอคะ?”
“เปล่าหรอกค่ะ…แต่คุณผู้หญิงยังไม่ได้กลับบ้านเลยตั้งแต่เมื่อวานค่ะ…”ป้าแพรก้มหน้าต่ำลงไม่มองสบตาฉันพร้อมกับเอ่ยตอบคำถามที่ฉันถามเธอไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “ยังไม่กลับเหรอคะ?” “คุณแม่ไปไหน?”ฉันเอ่ยออกมาอย่างสงสัยใบหน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาหางคิ้วข้างขวากระตุกบ่งบอกถึงสิ่งที่ฉันกลัว ตึกๆๆๆ “คุณผู้หญิงกลับมาแล้วจ๊ะป้าแพร!”เสียงฝีเท้าที่วิ่งมาจากทางหน้าบ้านและเสียงตื่นเต้นและร้อนรนใจของผินเด็กรับใช้หลานสาวของป้าแพรเอ่ยตะโกนลั่นมาแต่ไกลทำให้ป้าแพรหันไปจ้องมองหน้าผินด้วยแววตาดุๆ พรึบ “ขอโทษค่ะ..คุณหนู”ผินที่โดนป้าแพรดุทางสายตาก็หันมามองหน้าฉันที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหารถึงกับหน้าเสียเอามือกุมกันไว้ด้านหน้าหน้าตาซีดเชียวอย่างเห็นได้ชัด “ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ…คุณแม่กลับมาแล้วเหรอ?”ฉันเอ่ยบอกผินไปและเอ่ยถามถึงคุณแมา “ค่ะ…คุณผู้หญิงกลับมาแล้วค่ะ…” “ป้าแพร!…นังผิน!”เสียงที่คุ้นหูของฉันเอ่ยดังมาจากหน้าประตูทางเข้าห้องอาหารพร้อมกับร่างสูงสวยสง่าของคุณผู้หญิงของบ้านนี้กำลังเดินตรงดิ่งเข้ามาในห้องอาหารแห่งนี้ “ขาาาคุณผู้หญิง”ผินเด็กสาวสิบเจ็ดเอ่ยขานรับคุณแม่ของฉัน เธอยังคงอยู่ในชุดนักเรียนของมหาวิทยาลัยเทคนิคสายอาชีพที่อยู่ติดกับมหาลัยของฉัน “ยัยเอย?” “คุณแม่^_^”ฉันเอ่ยเรียกคุณแม่ไปด้วยสีหน้าและนำ้เสียงดีใจที่สายตาของเราทั้งคู่สบกัน คุณแม่ของฉันยิ้มให้ฉันก่อนจะเดินตรงดิ่งมาหาฉันที่โต๊ะอาหารใหญ่ ท่านนั่งลงตรงหัวโต๊ะด้านข้างของฉัน ฉันก็มองหน้าท่านและยิ้มให้ท่าน “เอากาแฟให้ฉันแก้วหนึ่ง”คุณแม่ละสายตาจากฉันและหันไปสั่งผิน “ค่ะ…คุณผู้หญิง^_^”ผินก้มศีรษะลงเล็กน้อยพร้อมตอบรับคำสั่งของคุณแม่ฉันและเดินออกไปจากห้องอาหารแห่งนี้ และคุณแม่ก็หันกลับมามองหน้าฉันเหมือนเดิม “ลูกยังไม่ไปเรียนอีกเหรอจ๊ะ?” “รอพี่คีรีมารับนะคะ^_^”ฉันตอบคุณแม่ไปและยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำส้มคั้นของฉันมาดื่ม “แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับหนูนะจ๊ะ” “เรื่องอะไรเหรอคะ?”ฉันวางแก้วน้ำส้มลงและหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาซับไปที่ริมฝีปากของฉันแทน คุณแม่มีสีหน้าที่ดูเป็นกังวลอยู่นิดหน่อย ทำให้ฉันอยากจะรู้เรื่องที่คุณแม่จะบอกฉันซะเหลือเกิน พรึบพรึบคุณแม่หันไปเปิดกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นดังและหยิบซองสีชมพูออกมาจากกระเป๋าและยื่นมันมาให้ฉัน ฉันก็ยิ้มบางๆให้คุณแม่ของฉันสลับกับมองซองจดหมายสีชมพูนี้ด้วยแววตาสงสัย“อะไรคะ?”“เดี๋ยวนี้จะให้เงินเดือนหนูเป็นซองสีชมพูแบบนี้เลยเหรอคะ?”ฉันพูดเชิงเล่นเชิงจริงใส่คุณแม่ไป แต่สีหน้าของท่านก็ไม่ได้เล่นขำไปกับคำพูดของฉันเลยสักนิด พรึบฉันที่เห็นคุณแม่ทำสีหน้าเคร่งเครียดจึงยื่นมือไปรับซองจดหมายสีชมพูมาจากมือของท่านแทน ฉันมองหน้าคุณแม่ของฉันอีกครั้งก่อนจะเปิดซองจดหมายดูเนื้อหาข้างในพรึบทันทีที่ฉันเปิดซองจดหมายออกก็พบกับกระดาษสีชมพูที่ถูกตกแต่งให้เป็นรูปหัวใจเต็มดวง เนื้อหาในจดหมายเชื้อเชิญให้ไปร่วมงานมงคลสมรสของ“งานมงคลสมรสระหว่างนางขณิฐา ลิ้มเกียรติและนายมงคล ณรงค์เดช”ฉันอ่านออกเสียงดังน้ำเสียงสั่นเครือแววตาสั่นไหวริมฝีปากสั่นระริก หัวใจเจ็บจี๊ดใบหน้าชาไปทั้งหน้า ฉันค่อยๆละสายตาจากกระดาษรูปหัวใจในมือขึ้นไปมองหน้าผู้เป็นแม่ของฉัน“นี่มันอะไรกันคะ?”ฉันพยายามทำน้ำเสียงให้แผ่วเบาที่สุดอย่างคนที่กำลังพยายามระงับอารมณ์กรุ่นโกรธของตัวเองไม่ให้มันระเบิดออกมา“หนูถามว่ามันอะไรกันคะ!!!”ฉันตะโกนเสียงดัง
เคนโซ คิณภพ….พรึบตุ๊บ “ไอ้สัส…ถุย!”ผมสบถคำด่าพร้อมกับถุยน้ำลายลงไปบนร่างของเด็กช่างกลต่างสถาบันกับผมที่มันสวมใส่ช็อปสีน้ำเงินเข้มส่วนผมสวมใส่ชุดช็อปสีแดงออกเลือดหมูนิดๆตุ๊บ“อึก!”เสียงสะอึกสุดท้ายก่อนที่ร่างของมันจะนอนแน่นิ่งหมดสติไป ผมก็กระตุกรอยยิ้มที่มุมปากและหันหลังเดินออกมาจากซอกตึกร้างเก่าๆที่อยู่ในตัวของตลาดนัดที่ใกล้วิทยาลัยของผม ผมเอามือปัดเสื้อช็อปและเดินผิวปากกลับไปคร่อมรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์500ccคันใหญ่สีดำสลับสีน้ำเงินของผมพร้อมกับสตาร์ทรถและบิดออกมาจากที่แห่งนั้นมุ่งหน้าไปยังวิทยาลัยของผมเพื่อจะเข้าเรียนพรึบผมจอดรถของผมในที่จอดรถประจำก็พบกับเพื่อนๆในแก๊งของผมที่มันกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะประจำของพวกเรา“เห้ย…ไอ้เคน”เสียงตะโกนทักทายผมดังมาจากเพื่อนๆของผมทันทีที่พวกมันเห็นผม ผมก็ยักคิ้วและยกมือทักทายพวกมันกลับไปก่อนจะเดินตรงดิ่งไปหาพวกมัน“ได้ข่าวว่าไอ้ครามยกพวกไปตีมึงเหรอวะ..”“ที่ไปยุ่งยามกับเด็กมัน?”ไอ้ธารเพื่อนหนึ่งในห้าของผมเอ่ยขึ้น ไอ้ครามที่พวกมันถามถึงก็คือคนที่ผมเพิ่งจะกระทืบมันเสร็จก่อนที่จะมาวิทยาลัยนี่แหละครับ“อืม…”ผมตอบมันสั้นๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งและหยิบบุหรี
“ของกูโว้ย!!” “ระดับดาววิทยาลัยเลยนะเว้ย!”ผมก็ส่ายศีรษะพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ลอยขึ้นเหนือหัวของผมก่อนจะแสยะยิ้มเมื่อนึกถึงเรือนร่างของน้องน้ำใสที่เพื่อนๆผมพูดถึงกัน หึๆเธอต้องเป็นของผมตั้งหากล่ะครับ ตึกๆๆๆ “พี่เคนโซคะ^_^”เสียงหวานใสดังขึ้นทำให้เสียงของเพื่อนๆผมที่มันเถียงกันอยู่ต้องหยุดชะงักลงและหันไปมองต้นเสียงของเจ้าของเสียงหวานและเจ้าของตัวเล็กน่ารักผมยาวสยายที่ยืนยิ้มหวานให้ผมอยู่ “น้องมีนา^_^”ผมยิ้มละมุนก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อของเจ้าของใบหน้าหวานสวยไปก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินตรงดิ่งไปหาเธออย่างรวดเร็ว “ไอ้สัสเคน…พอแฟนมาทิ้งพวกกูทันที!” “น้องมีนาครับบบบบ”เสียงของเพื่อนๆผมเอ่ยแซวผมและมีนาแฟนของผมที่เธอเพิ่งจะอยู่ ปวช.ปีสามผมเดินไปหาเธอและพร้อมกับยื่นมือไปจับปลายผมด้านหน้าของเธอให้ไปทัดหูเธอเพื่อผมจะได้มองโครงหน้าสวยหวานของเธอได้อย่างชัดเจนขึ้น “พี่เคนโซทานข้าวหรือยังคะ?” “ยังเลยครับ….หิวมากเลย^_^” “แล้วน้องมีนาล่ะครับ…ทานอะไรมารึยัง?” “ยังเลยค่ะ…พอดีอาจารย์เพิ่งจะปล่อยให้พัก^_^” “งั้นดีเลยครับ…เราไปหาอะไรอร่อยๆทานกันไหมครับ^_^”ผมเอ่ยเชื้อชวนมีนา เธอก็ยิ้มหวานให้ผมอย่างเขินอ
บ้านเช่า A ย่านสลัม...... ขวัญเอย กมลวรรณ… พรึบ “บ้านหลังนี้แหละหนู…” “ในย่านนี้ก็เหลือแค่หลังนี้หลังเดียว…”เสียงทุ้มต่ำของคุณป้าวัยห้าสิบต้นๆเอ่ยขึ้น ฉันก็ละสายตาจากบ้านไม้สองชั้นที่ด้านบนเป็นไม้ด้านล่างเป็นปูนกลับมามองหน้าป้าเจ้าของบ้านเช่าหลังนี้และอีกหลายๆหลังที่อยู่ในซอยนี้ “สองห้องนอน…หนึ่งห้องน้ำ…หนึ่งห้องครัว…” “หนึ่งห้องนั่งเล่น….”ป้าเจ้าของบ้านเช่าเอ่ยต่อ “เดือนละสองพันห้า…น้ำไฟต่างหาก…” “สองพันห้าเหรอคะ?”ฉันเอ่ยทวนคำพูดของป้าเจ้าของบ้านเช่าไปด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแววตาเป็นประกาย เพราะมันถูกมากสองพันห้าน้ำไฟตั้งหากเนี่ย ได้บ้านทั้งหลังเลยนะ มันถือว่าถูกแสนถูกมาก หาถูกกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วจ้ะ “ใช่จ้า…จ่ายล่วงหน้าสองเดือนเข้าอยู่ได้ทันที…” “ถ้าเธอไม่เอา…แถวนี้ก็คงจะไม่ให้เช่าแล้วล่ะ…เหลือแต่หอ…” “แต่ค่าเช่าก็น่าจะแพงเพิ่มจากของฉันเป็นอีกเท่าตัว…” “งั้นตกลงค่ะ…หนูตกลง^_^”ฉันรีบตอบทันที ป้าเจ้าของบ้านก็ฉีกยิ้มกว้างให้ฉัน “งั้นไปที่บ้านฉันไปเซ็นสัญญากัน…” “อ้อได้ค่ะ^_^”ฉันพยักหน้ารับคำป้าเจ้าของบ้านพร้อมกับเดินตามหลังป้าเขาไปต้อยๆและทอดสายตามองไปรอบๆบ้านหลังที่ฉันตกล
“พี่ขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ…”พี่คีรีหันมาเอ่ยบอกฉันพร้อมกับชูโทรศัพท์เครื่องหรูของเขาให้ฉันดู “ค่ะ^_^”ฉันยิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้พี่คีรี เขาก็ยิ้มให้ฉันอย่างสุภาพบุรุษและเดินออกไปจากห้องนอนบนชั้นสองของฉัน ฉันเมื่อพี่คีรีไปแล้วก็หันกลับมาจัดแจงข้าวของของฉันต่ออย่างไม่ให้เสียเวลส“ที่นอนก็ใช้ได้นะ…ถึงจะไม่นุ่มเหมือนที่บ้านเราก็เถอะ…”ฉันพึมพำออกมาพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งบนที่นอนของฉันที่เป็นขนาดเตียงนอนห้าฟุตได้ถูกปูด้วยผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตา มีหมอนสองใบหมอนข้างหนึ่งลูกและผ้านวมอีกหนึ่งผืน ฉันเอามือลูบไปบนที่นอนและนึกถึงความสุขสบายเวลาที่อยู่บ้านของฉันที่ฉันอยู่มาตั้งแต่เกิด แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อคุณแม่ของฉันท่านไม่ได้แคร์ความรู้สึกของฉันเลยสักนิดท่านไม่ถามฉันสักนิด…ว่าฉันอยากจะมีพ่อใหม่หรือเปล่าพรึบ“น้องเอยคะ!”“คะ?”ฉันรีบหันไปมองหน้าพี่คีรีที่เขาวิ่งกระหืดกระหอบมาตรงหน้าของฉันด้วยท่าทางรีบร้อนหน้าตาของเขาดูเคร่งเครียดนะ“พี่คีรีมีอะไรหรือเปล่าคะ?”“คือว่าพี่…มีธุระด่วนนะคะ…”พี่คีรีตอบฉันมาด้วยสีหน้าวิตกกังวล“อ้อค่ะ…งั้นพี่คีรีไปทำธุระเถอะค่ะ..ที่เหลือเดี๋ยวเอยจัดการต่อเองค่ะ…”
เช้าวันต่อมาบ้านเช่า Aห้องนอน ขวัญเอย…ขวัญเอย กมลวรรณ….08:30น.พรึบตุ๊บ!!!“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!”“เฮือก!”ฉันสะดุ้งตื่นสุดตัวลุกขึ้นนั่งจากที่นอนหลับอย่างสบายด้วยความตกใจกับเสียงกรี๊ดของผู้หญิงที่ดังสนั่นอยู่ในบ้านของฉัน ใช่มันต้องดังอยู่ในบ้านของฉันแน่ๆ“ใครเข้ามากรี๊ดในบ้านฉันเนี่ย!”ฉันโวยขึ้นและลุกออกมาจากที่นอนด้วยท่าทางฉุนเฉียวเมื่อคืนฉันก็ล็อคประตูบ้านแล้ว แล้วใครเข้ามาในบ้านของฉัน จะว่าเป็นเสียงจากข้างบ้านก็ไม่ใช่ เพราะบ้านข้างๆทั้งซ้ายและขวาอยู่ห่างจากบ้านฉันตั้งห้าร้อยเมตรน่ะ ไม่มีทางที่เสียงมันจะดังใกล้ขนาดนี้ได้พรึบ“หึย!หงุดหงิดโว้ย!!”ฉันสบถขึ้นอย่างหัวเสียพร้อมกับเดินตรงดิ่งไปยังประตูห้องนอนของฉันและหมุนลูกบิดพร้อมกับเปิดประตูออกไปดูเหตุการณ์ข้างนอกด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด จะไม่ให้โมโหได้ยังไงคนกำลังนอนกลับสบายแต่กลับมีทั้งเสียงกรี๊ดกร๊าดและเสียงเขวี้ยงปาข้าวของพรึบ“นี่!…ไอ้พี่เคน…”“แกจะหลอกเอาฉันฟรีเหรอห๊ะ!”เสียงผู้หญิงแหลมสูงปี๊ดเอ่ยขึ้นทำให้ฉันขมวดคิ้วงุนงงเพราะต้นตอของเสียงนั้นดังมาจากห้องนอนฝั่งตรงข้ามกับห้องของฉัน ซึ่งห้องนั้นมีคนอยู่ด้วยเหรอ? ทำไมฉันไม่รู้?
“เอ่อ…เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่สินะครับ…”เสียงทุ้มละมุนเอ่ยขึ้นทำให้ฉันเผลอสะดุ้งตกใจและรู้สึกตัวว่าเผลอจ้องเรือนร่างของผู้ชายตรงหน้านี้นานเกินไปแล้วพรึบทันทีที่ฉันเงยหน้าขึ้นไปหมายจะก่นด่าเขาแต่แล้วฉันก็ต้องเข้าสู่โหมดตกตะลึงเป็นรอบที่สอง กับใบหน้าหล่อเหลาจมูกโด่งเป็นสันดวงตาสองชั้นกลมโตริมฝีปากหยักสีชมพูอวบอิ่มปลายคางเรียวใบหน้าเรียวยาวราวกับเป็นใบหน้าที่ฟ้าประทาน รวมไปถึงเรือนผมของผู้ชายคนนี้ที่ออกสีน้ำตาลเข้มๆจัดว่าเขาคนนี้เป็นผู้ชายที่หล่อมากจริงๆ ถึงที่มุมปากของเขาจะมีรอยฟกช้ำอยู่แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อของผู้ชายคนนี้ลดน้อยลงเลย“เอ่อออ….”ฉันอ้ำๆอึ้งๆพูดอะไรไม่ออก “นี่…แกจะยืนอยู่อีกนานไหม…ฉันมีธุระจะเคลียร์กับผู้ชายคนนี้!”เสียงแหลมเฟี้ยวของผู้หญิงดังเรียกสติฉันให้กลับมา ฉันก็ละสายตาจากหนุ่มหน้าหล่อสไตล์เกาหลีไปมองหน้าคู่อริของเขาแทน ก็พบกับผู้หญิงร่างเล็กที่มีผ้าขนหนูผืนจิ๋วพันเรือนร่างของเธอทำให้ฉันรู้ได้ทันที ว่าสองคนนี้เพิ่งผ่านอะไรกันมา“ฉันแค่จะบอกว่า..บ้านฉันไม่ใช่โรมแรมม่านรูด…”ฉันเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบตรึงทำให้ผู้ชายหน้าหล่อถึงกับขมวดคิ้วงุนงงและสงสัยพร้อมกับมองเรือนร่
วันเดียวกัน12:30น.บ้านของคุณป้าเจ้าของบ้านเช่าขวัญเอย กมลวรรณ….พรึบ“ทำไมคุณป้าไม่บอกหนูล่ะค่ะว่าหนูมีรูมเมท?”ฉันเอ่ยถามคุณป้าเจ้าของบ้านไปอย่างเอาเรื่อง ที่เธอไม่ยอมบอกฉันในตอนที่ฉันไปดูบ้านและตกลงเซ็นสัญญาเช่าบ้านกับเธอ“ถ้าป้าบอก…หนูก็ไม่เอาน่ะสิ”คุณป้าเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าแหยๆ เพราะเธอคงจะเห็นสีหน้าที่ไม่พอใจของฉันน่ะ “ถือว่าช่วยๆกันนะ…หนูก็มีห้องนอนส่วนตัวหนิ…พ่อหนุ่มเขาไม่ยุ่งหรอกนะ…”“เขาเป็นเด็กดี^_^”“เด็กดีอะไรคะ…ไม่มีตังค์มาจ่ายค่าเช่าคุณป้าน่ะ?”“ก็เพราะเรื่องนี้ไงจ๊ะ…ป้าถึงต้องหาทางออกให้กับตัวป้าเองและพ่อหนุ่มคนนั้น…”คุณป้าว่าเสียงอ่อนพร้อมกับทำสีหน้าเศร้าลงให้ฉันรู้สึกเห็นใจเธอ ซึ่งมันก็ได้ผล ฉันเห็นใจเธอจริงๆ“แม่หนูเองก็เดือดร้อนไม่ใช่เหรอจ๊ะ….และแม่หนูก็จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าให้ป้าแล้วด้วย…”“อดทนอยู่ต่อเถอะนะจ๊ะ…”“ค่ะ…ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละค่ะ…”ฉันเอ่ยเสียงแผ่วเบาบอกคุณป้าไป เพราะยังไงๆฉันก็ไม่มีเงินมากพอที่จะไปเช่าบ้านเดี่ยวหรือคอนโดอยู่อยู่แล้วล่ะ ฉันต้องจำใจอยู่ในบ้านเช่าหลังน้อยที่มีรูมเมทเป็นผู้ชายนี้ต่อไป เขาคงจะไม่ทำอะไรฉันหรอกมั้ง น่าตาเขาก็ไม่ได้ดูเลวร้าย
“พี่กำลังทำให้ผมคลั่ง!”เคนโซเอ่ยเสียงกระเส่าออกมาเมื่อฉันอ้าปากดูดกลืนท่อนเอ็นยักษ์ของเคนโซและใช้มือรูดขึ้นรูดลงเพื่อสร้างความเสียวซ่านให้เคนโซ ร่างของเคนโซสั่นสะท้านไปด้วยความเสียว มือหนาเริ่มปรนเปรอความสุขให้ฉันโดยการใช้ปลายนิ้วเรียวของเขาสอดใส่เข้าไปในร่องสวาทของฉัน“อื้อออ”ฉันบิดเอวไปมาอย่างเสียวซ่านและอ้าขาให้กว้างขึ้นเพื่อยอมรับความเสียวซ่านที่เคนโซมอบให้พรึบ“ผมไม่ไหวแล้วครับ…พี่เอย…”“อยากกระแทกพี่เต็มทนแล้ว…”เคนโซจับศีรษะของฉันที่ผงกขึ้นลงไปกับท่อนเอ็นของเขาออกมาและเอ่ยบอกฉัน ใบหน้าหล่อเหยเก ฉันก็พยักหน้ารับรู้ เพราะฉันเองก็ไม่ไหวแล้วกับการเล้าโลมที่เคนโซมอบให้ฉันพรึบ“อื้ออเคน…เคนขา…”ฉันครางกระเส่าเรียกเคนโซเสียงหวานอย่างอารมณ์พาไป เคนโซก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจและเขาก็จัดการจับร่างของฉันให้ลุกขึ้นมานั่งยองๆคร่อมร่างของเขาโดยที่ฉันหันหน้าเข้าหาเขาเคนโซเป็นคนจัดท่าทางทุกท่า อย่างเชี่ยวชาญและชำ่ชองเพราะฉันไม่เคยทำและไม่รู้จะทำยังไงด้วย“อื้อออ”ฉันครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่านเมื่อเคนโซจับลำกายใหญ่ของเขาถูเสียดสีไปกับร่องสวาทของฉันและจัดการดันท่อนเอ็นร้อนระอุของเขาเข้ามาในร่องส
จี๋ๆๆๆๆ“พี่เอยนี่…เซ็กส์จัดจริงๆนะครับ..”“โคตรขี้หงี่เลย…”“ใครได้พี่ไปเป็นเมียเนี่ย…คงจะน้ำหมดตัวแน่..”เคนโซกระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างหูฉัน “พูดมาก!”ฉันก็หันไปมองหน้าเคนโซอย่างเอาเรื่อง เคนโซก็ยิ้มกริ่มให้ฉันก่อนจะโน้มหน้ามากดปลายจมูกโด่งของเขาแนบลงมาบนแก้มนวลของฉัน“ฟอดดดด”“อื้ออเคน…”ฉันครางกระเส่าถี่รัวเมื่อเคนโซยื่นมือมาดึงเสื้อสายเดี่ยวของฉันลงมาให้พ้นเต้าอวบอิ่มของฉันและเขาก็ใช้ปลายนิ้วเขี่ยวนไปรอบๆปานยอดปทุมถันและยอดปทุมถันสีชมพูสดของฉัน“หัวนมสีชมพู…ใหญ่จัง…”“พี่เอยเซ็กซี่และหุ่นเย้ายวนขนาดนี้…แฟนพี่ปล่อยพี่หลุดมือมาได้ไง…?”เคนโซเอ่ยออกมาอย่างสงสัย เขาเงยใบหน้าหล่อใสของเขามองหน้าฉัน ฉันก็เม้มริมฝีปากแน่น“ถ้าจะเอาฉัน…เลิกพูดถึงแฟนเก่าฉันซะ”ฉันกดเสียงต่ำแววตาจริงจังใส่เคนโซไป เขาก็ไหวไหล่เล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงไปหายอดปทุมถันของฉันและจัดการยื่นปลายลิ้นสากของเขาเลียไปรอบๆปานสีชมพูสดของฉันจนมันเปียกชุ่มพรึบ“อ๊ะ!”ฉันร้องออกมาเมื่อเคนโซถอดกางเกงขาสั้นของฉันออกไปจากท่อนล่างของฉัน และจัดการจับขาของฉันให้ขึ้นมายันเป็นรูปตัวเอ็มบนเก้าอี้ที่มีพนักพิงที่ฉันนั่งอยู่ แผ่นหลังของฉันแนบ
เช้าวันต่อมา….บ้านเช่าA…โต๊ะอาหารของบ้าน08:30น.ขวัญเอย กมลวรรณ…พรึบ“ทำอะไรอยู่เหรอครับ…พี่ขวัญเอยขวัญใจของผม^_^”เสียงทุ้มหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับร่างสูงของเคนโซที่นั่งลงเก้าอี้ตัวข้างๆฉัน ฉันที่กำลังกินข้าวเช้าอยู่ก็หันไปมองหน้าเขาด้วยสายตาดุๆ แต่ไอ้เด็กบ้าเคนโซมันกลับยิ้มละมุนให้ฉัน“นอนอยู่….”ฉันตอบเขาเสียงเรียบอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนจะหันมาก้มหน้าก้มตากินข้าวมันไก่ในจานของฉันต่อ ฉันซื้อมาและแช่ไว้ในตู้เย็นเมื่อวันก่อน วันนี้หิวข้าวแต่เช้าเลยนำมาเวฟ“กวนผมเหรอครับ?”เคนโซชะโงกหน้ามาใกล้ฉันมากขึ้นและเอ่ยถามฉัน ที่ฉันตอบเขาอย่างกวนๆไปเพราะดูก็รู้ว่าฉันกำลังนั่งกินข้าวอยู่ยังจะถามอีกว่าฉันทำอะไร!“แล้ววันนี้ไม่ไปเรียนหรือไง?”ฉันถามเคนโซกลับพร้อมกับยื่นมือไปเลื่อนหน้าจอไอแพดตรงหน้าฉันที่ตอนนี้ฉันกำลังนั่งดูซีรีย์เกาหลีอยู่“วันนี้วันเสาร์ครับ…วิลัยปิด…”“อ้อเหรอ?”ฉันเอ่ยตอบรับเคนโซไปด้วยน้ำเสียงกวนๆ“ครับ…แล้วพี่เอยล่ะครับ…ไม่ไปเรียนเหรอ?”เคนโซเองก็ถามฉันเสียงกระแทกกลับมา“วันนี้ฉันไม่มีเรียน…และก็ขี้เกียจออกไปไหนด้วยอ่ะ..”ฉันตอบเขาไปแต่ไม่ได้หันไปมองหน้าเขา“อื้อ”ฉันหันขวับไปมองเคนโซอย่า
“อื้ออ…จุก..”เธอร้องบอกผมเมื่อผมกระแทกลำกายใหญ่ของผมเข้าไปในร่องสวาทของเธออย่างเน้นๆและลึกมาก มากจนผมรับรู้ได้ว่าส่วนหัวของลำกายใหญ่ของผมไปแตะสัมผัสกับอะไรสักอย่างที่อยู่ด้านในของเธอ“ใหญ่จัง…อ๊ะ!”เสียงพูดของพี่เอยขาดหายไปเมื่อผมดึงลำกายใหญ่ออกจนเกือบสุดลำและกระแทกกลับเข้าไปในร่องสวาทของเธอใหม่อย่างสุดลำเช่นกันและมันก็เป็นอยู่แบบนั้นหลายทีพั่บ!“อ๊ะ!”เธอร้องเสียงหลง ผมก็มองหน้าเธอก่อนจะก้มหน้าลงไปซุกไซ้ซอกคอของเธออย่างลุ่มหลงในกลิ่นกายหอมๆและนุ่มๆของเธอ“อื้ออออ”เสียงหวานครางกระเส่า ผมอดใจไม่ไหวอีกต่อไปจึงขยับลำกายใหญ่ของผมเข้าออกร่องสวาทของเธอแรงขึ้นและถี่ขึ้นพั่บๆๆๆๆๆๆๆๆ“อ๊ะๆๆๆๆๆๆ”เสียงของพี่เอยครางกระเส่าถี่รัวร่างของเธอขยับเขยื้อนไปตามแรงกระแทกของผมเต้าอวบอิ่มกระเพื่อมเด้งไปมาอย่างน่ามอง ยิ่งมองผมก็ยิ่งมีความต้องการเธอเพิ่มมากขึ้นจนกระแทกถี่รัวและเน้นอย่างเป็นจังหวะรัวเร็ว“อ๊าาาาห์ซี๊ดดด!”ผมสูดปากออกมาอย่างเสียวซ่านไปทั่วทั้งลำกายใหญ่ ด้านในของพี่เอยตอดรัดลำกายใหญ่ของผมถี่รัวพร้อมกับร่างเล็กที่ชักกระตุกของเธอ ผมจึงผ่อนสะโพกลงเมื่อรับรู้ได้ว่าเธอกำลังเสียวซ่านเป็นอย่างมากที่ผมพ
“นายเพิ่งจะมีอะไรกับแฟนนายมา…?”“ยังไม่พออีกเหรอไง?”พี่เอยมองหน้าผมพร้อมกับเอ่ยถามผม ผมก็ยิ้มให้เธอ“มีนาน่ะ…จืดชืด…สู้พี่เอยไม่ได้หรอกครับ…”ผมพูดไปตามความจริง พี่เอยน่ะ..เด็ดสุดและผมชอบสุดตั้งแต่ผมมีอะไรกับผู้หญิงมา“ผมน่ะ…ชอบผู้หญิงเซ็กส์จัดแบบพี่…”“ไอ้เด็กบ้า!”พี่เอยว่าผมเสียงเข้มหน้าตาเขินอายจนแดงก่ำ ผมก็ยิ้มให้เธออย่างน่ารักๆก่อนจะขยับใบหน้าหล่อเข้าไปหาพี่เอยใหม่อีกครั้งและจัดการซุกไซ้ซอกคอหอมๆของเธอต่อทันที“อื้อออ”เสียงหวานของพี่เอยครวญครางออกมาเมื่อผมยื่นมือไปลูบไล้เต้าอวบอิ่มของเธออย่างนุ่มนวลและนวดคลึงเบาๆเพื่อสร้างอารมณ์ให้เธอ พี่เอยก็แอ่นหน้าอกขึ้นลงสู้กับมือของผม ผมจึงยิ่งได้ใจที่รู้ว่าร่างกายของเธอกำลังตอบสนองผม ผมก็ไม่รอช้าเลื่อนริมฝีปากขึ้นไปหาริมฝีปากอวบอิ่มของพี่เอยและจัดการจูบเธอทันที“อื้ออจ๊วฟฟฟ”“จ๊วฟฟฟฟ”ผมดูดดื่มริมฝีปากของพี่เอยอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวลเธอก็คล้อยตามผม เธอจูบตอบผมมันเป็นสัญญาณว่าเธอยินดีรับข้อเสนอของผมสินะ“จ๊วฟฟฟ”ผมเริ่มจูบพี่เอยแรงขึ้นจากจูบที่อ่อนโยนก็กลายเป็นเร้าร้อนด้วยอารมณ์ที่ร้อนรุ่มของเราทั้งคู่ ผมยื่นมือลงไปหาเนินสามเหลี่ยมของเธอร่างขอ
เคนโซ คิณภพ…“เคนโซ…นายจะทำอะไรฉัน?”พี่ขวัญเอยเอ่ยถามผมพลางมองผมด้วยแววตาสั่นไหวที่บ่งบอกว่าเธอกำลังกลัวผม ผมก็กระตุกรอยยิ้มให้เธอก่อนจะมองไปที่เรือนร่างของพี่ขวัญเอยที่ตอนนี้เธอนำผ้านวมมาปกปิดร่างของเธอไว้“ก็ทำให้พี่มีความสุขไงครับ….”“พี่เอยแอบไปดูผมกับมีนาอีกแล้วนะ…”“ไม่สิ…ไม่ใช่แค่ผมกับมีนาแต่พี่เอยแอบดูผมกับผู้หญิงทุกคนที่ผมพามานอนด้วยต่างหากล่ะ…”“และพอดูเสร็จพี่ก็กลับมาช่วยตัวเอง”ผมพูดพร้อมกับมองพี่เอยด้วยแววตากรุ้มกริ่ม พี่เอยก็หลบสายตาผมใบหน้าของเธอแดงก่ำอย่างเขินอาย เธอคงคิดส่าผมไม่รู้สินะ ว่าเธอแอบดูกิจกรรมรักของผมกับผู้หญิงที่ผมพามาน่ะว่าแต่ทำไมเธอน่ารักน่าฟัดขนาดนี้ว่ะ“ถ้าพี่เอยอยากให้ผมช่วยเนี่ย….”“บอกผมตรงๆได้นะครับ..”“หรือว่าถ้าพี่เอยอยากมีอะไรกับผม…แต่ไม่อยากเป็นแฟนหรือเป็นกิ๊กผม…”“เรามามีความสัมพันธ์แบบfriend with benefit^_^”“friend with benefit?”พี่เอยทวนคำพูดของผมด้วยใบหน้างุนงงและสงสัย ผมก็กรีดยิ้มให้เธอก่อนจะเดินมุ่งตรงไปหาเธอบนที่นอนของเธอพรึบผมนั่งลงบนที่นอนนุ่มๆของพี่เอยพลางยิ้มหวานให้เธอ เธอก็มองหน้าผมด้วยแววตางุนงง“ความสัมพันธ์ที่เป็นเหมือนเพื่อนน
“อื้ออออออ!”ฉันครวญครางออกมาอย่างน่าอายแต่นาทีนี้ความเสียวซ่านไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกอับอายมันกลับทำให้ฉันรู้สึกดีเวลาร้องครวญครางออกมาแบบนั้น “อื้ออ๊ะๆๆๆ”ฉันครางถี่รัวเมื่อฉันใช้มือแหวกจีสตริงให้พ้นจากร่องสวาทของฉันและจัดการใช้ส่วนหัวของดิลโด้ถูขึ้นลงไปกับร่องสวาทของฉันอย่างแผ่วเบาทำให้ร่างของฉันชักกระตุกถี่รัวไปด้วยความเสียวซ่าน“อื้ออออ”ฉันหลับตาพริ้มซู้ดปากขึ้นลงอย่างสุขสมเมื่อส่วนหัวของดิลโด้ไปแตะโดนปุ่มกระสันของฉันยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้ฉันเพิ่มขึ้นไปอีกฉันจ่อดิลโด้ไว้กับปุ่มกระสันนานเป็นพิเศษเพราะตรงนี้คือจุดเสียวซ่านและมอบความสุขให้ฉันจนฉันเสร็จไปไม่รู้ต่อกี่น้ำและกี่น้ำแล้ว“อื้ออออ”มือเล็กของฉันลูบคลึงเต้าอวบอิ่มพร้อมกับเขี่ยยอดปทุมถันของตัวเองไปด้วยเพื่อสร้างความเสียวให้ฉันเพิ่มขึ้นไปอีกแจ๊ะๆๆๆๆๆ“อื้อออ”เสียงน้ำมากมายที่ออกมาจากร่องสวาทของฉันกระทบกับดิลโด้ที่ทำจากซิลิโคนทำให้เกิดเสียงดัง ฉันค่อยๆใช้นิ้วมือแหวกร่องสวาทที่อวบอิ่มโหนกนูนของฉันให้อ้าออกจากกันอย่างกว้างๆเพื่อจะทำการสอดใส่ดิลโด้เข้าไปในร่องสวาทของฉัน“อื้ออออ”ฉันหลับตาพริ้มครางกระเส่าออกมาด้วยความเสียวซ่านเมื่
“อื้อ!ไม่นะ..เราจะให้กิเลสมาครอบงำแบบนี้ไม่ได้…”ฉันพูดเตือนสติตัวเองและหยุดการกระทำทุกอย่างของตัวลงและหันหลังเดินกลับออกมาจากหน้าห้องนั้นกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“เลิกคิด….”ฉันหลับตาพร้อมกับส่ายศีรษะไปมาให้ฉันเลิกคิดถึงการร่วมรักของสองคนนั้นได้แล้วพรึบฉันทิ้งตัวลงนอนไปกับที่นอนและข่มใจข่มตาให้หลับและมันก็ได้ผล…ฉันหลับจริงๆ คงจะเป็นเพราะฉันอ่อนเพลียและเหนื่อยล้ากับการร้องไห้มาอย่างหนักก็ได้วันนี้ฉันก็ขาดเรียนไม่ได้ไปมหาลัย….เพิ่งรู้นะว่าการอกหักมันทำให้เราไม่มีจิตใจจะทำอะไรเลย มันห่อเหี่ยวหัวใจยังไงแปลกๆ มันเคยมีเขาแต่อตนนี้ไม่มีแล้ว.....30นาทีต่อมา…ห้องนอนขวัญเอย…..พรึบฉันลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะฉันหลับจริงแต่ในสมองของฉันยังคงเห็นแต่ฉากเลิฟซีนสุดเร้าร้อนของเคนโซและแฟนของเขา จนทำให้จิตใจของฉันไม่สงบสุข กิเลสก่อเกิดขึ้นภายในใจของฉันจนฉันต้องตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่ร้อนรุ่มไปทั้งตัวและตรงจุดเสียวของฉันเต็มไปด้วยความชุ่มแฉะ“อื้ออ”ทำให้ฉันอดใจไม่ไหวที่จะตอบสนองตัวเองด้วยการสัมผัส ฉันยื่นมือทั้งสองข้างไปลูบไล้เต้าอวบอิ่มของฉันผ่านชุดนอนซีทรูสายเดี่ยวผ้าเนื้อบางสีครีมที่ผ้าสามารถมองเห
ผมจะบอกเธอได้ไงล่ะ ว่าผมน่ะใช้ถุงยางหมดแพ็คภายในอาทิตย์เดียว แถมในแพ็คมีหนึ่งโหลนะครับผมจะบอกให้ ผมใช้กับเธอไปแค่สองกล่องนอกนั้นกับคนอื่นทั้งหมด พรึบ “มีไหมครับ?”ผมนี่ถามมีนาทันทีที่เธอเดินออกมาจากร้านขายยาหลังจากที่เธอเข้าไปเกือบราวๆห้านาทีด้วยสีหน้าลุ้นๆกับคำตอบเขาเธอ เพราะขนาดถุงยางของผมที่ใช้เป็นขนาดใหญ่พิเศษซึ่งหาซื้อยากตามท้องตลาดทั่วไป เพราะขนาดเจ้าโลกของผมมีขนาดใหญ่เกินมาตรฐานของชายไทยน่ะครับ ผมโคตรจะภูมิใจในตัวเองตรงนี้มากๆถึงผมจะเรียนโง่เรื่องอื่นห่วยแตก แต่ขอน้องชายใหญ่ไว้ก่อนก็ภูมิใจล่ะ “มีค่ะ^\\^”มีนาเดินเข้ามาใกล้ผมและเอ่ยบอกผมด้วยใบหน้าเขินอาย พรึบ ผมคว้าเอวมีนามาใกล้ชิดร่างผมที่คร่อมมอเตอร์ไซค์อยู่ เธอก็มีสีหน้าที่ตกใจอยู่เล็กน้อยเพราะกลัวคนอื่นจะเห็น แต่ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดรถสัญจรไปมาก็ไม่ค่อยจะมี ผู้คนตรงนี้ก็ไม่มีเลย “งั้นไปกันดีกว่าครับ…” “พี่อยากฟัดมีนาใจจะขาดแล้ว^_^”ผมเอ่ยบอกเธอเสียงกระเส่าพลางมองต่ำไปที่เรือนร่างของมีนา เธอก็ทำหน้างอใส่ผมอย่างเขินอาย “พี่เคนอ่ะ..”ผมปล่อยเอวของมีนา เธอก็เดินไปขึ้นรถของผมโดยท่านั่งข้าง ผมก็สวมใส่หมวกกันน็อคและรีบสตาร์ทรถออก